Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Spada_Valess ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2025, 09:10:29
-
Nissan e-POWER vs BYD DM-i ตัวไหนน่าใช้กว่าข้อดีข้อเสียเป็นยังไงครับ
-
e-power คือ hybrid แบบเดียว honda แต่เครื่องยนต์ไม่ลงล้อเน๊อะ
dm-i คือ phev น่าจะเหมือน outlander ในประเทศไทยใช่มั้ย
ถ้ามองง่ายๆก็คือ dm-i สามารถจอดรถแล้วชาร์จไฟจากไฟบ้านได้เลย ซึ่งค่าเชื้อเพลิงถูกกว่า ถ้าเราใช้รถแบบคาดคะเนได้ว่าจะใช้รถกี่วัน แต่เราก็ไม่รู้หรอกว่าเครื่องยนต์ของ byd มันผลิตพลังงานได้มีประสิทธิภาพเท่าเครื่องยนต์ของค่ายญี่ปุ่นมั้ยนะ มันอาจจะใช้ไปใช้มา ค่าเท่ากันก็ได้นะ เพราะbyd ไม่เคยพิสูจน์ว่าทำเครื่องยนต์ผลิตพลังงานได้ดีกว่าญี่ปุ่น
ส่วน e-power ก็เน้นขับรถแบบเร่งแรงๆ ช่วงล่างดีๆตามสไตล์นิสสันแหล่ะ แต่ค่าเชื้อเพลิงคงแพงกว่าเนื่องจากใช้น้ำมันเท่านั้น
คิดว่าใช่นะ
ถ้าเป็นแบบนี้ ผมเลือก e-power แหล่ะ ไม่ต้องดูไรเยอะแยะ คิดว่า แค่นี้ก็ซับซ้อนละ
แบรนด์จีนมันไม่ค่อยเสถียร แค่ไฟฟ้าอย่างเดียวยังเละเทะเลย นี่ดูแลสองรระบบพร้อมๆกัน โดยระบบเครื่องยนต์ยังไม่เคยขายในไทยด้วย คงขอบายก่อน
-
เหตุผลที่ผมจะเลือก BYD DM-i
1.ติดตั้ง Wall Charger ที่บ้านได้
2.ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เพียงพอต่อการขับเป็นประจำ (เช่นขับไปทำงาน รับส่งลูกไปโรงเรียน)
ถ้าไม่มี 2 เงื่อนไขนี้ ผมเลือก Nissan e-Power
ปล1. เท่าที่ดูรีวิว ถ้าขับแบบ Hybrid รถจีนยังทำการประหยัดไม่ดี หรือบางทีแพ้รถ Eco Car บางคัน
ปล2. เหมือนว่า MG 3 Hybrid+ เป็นรถจีน Hybrid ในไทยรุ่นเดียวที่ทำการประหยัดได้ดีจริงๆ
ปล3. ถ้าเป็น RE-EV (เหมือน e-Power แต่มีแบตชาร์จไฟบ้านได้) เหมือนจะดีกว่า DM-i แต่ก็ต้องรอพิสูจน์ของจริงจะดีกว่าครับ
-
ถ้าเลือกว่าอันไหนดีกว่าผมก็ว่า DM-I นะ
อย่างที่เพื่อนๆด้านบนบอก มันชาร์จได้ มันจะประหยัดได้มากเลยนะ ถ้าเรามีที่ชาร์จที่บ้าน หรือชาร์จตามจุดชาร์จถ้ามีเวลาแวะ
-
DM-I มันประหยัดจริงนะ ถ้าชาร์ตที่บ้านได้
ส่วน e power ดูในกลุ่ม อัตราสิ้นเปลืองพอๆกับน้ำมันหรือไฮบริดเลย
-
BYD DM-i ทันสมัยกว่า Nissan e-POWER 🔥🔋
เหตุผลที่ BYD DM-i ทันสมัยกว่า:
✅ เทคโนโลยี Plug-in Hybrid (PHEV) → รองรับทั้งน้ำมันและไฟฟ้า วิ่ง EV ได้จริง ไม่เหมือน e-POWER ที่ต้องพึ่งเครื่องยนต์ปั่นไฟตลอด
✅ แบตเตอรี่ใหญ่กว่า ใช้ LFP (Lithium Iron Phosphate) จาก BYD → ทนทาน ปลอดภัย ไม่เสื่อมง่าย
✅ ประสิทธิภาพสูงกว่า → อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีกว่า e-POWER เพราะวิ่งไฟฟ้าล้วนได้
✅ รองรับระบบ V2L (จ่ายไฟจากรถไปอุปกรณ์อื่นได้) → ใช้รถเป็นแบตสำรองสำหรับบ้านหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
Nissan e-POWER ยังดูเก่าเพราะ:
❌ ไม่ใช่ EV จริง → ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟตลอด ไม่เสียบชาร์จเองได้
❌ แบตเตอรี่เล็กกว่า → วิ่ง EV Mode ได้จำกัดมาก
❌ ประหยัดไฟฟ้าไม่เท่าจริงๆ → เพราะต้องเผาน้ำมันเพื่อปั่นไฟ
🔥 สรุป:
BYD DM-i = ล้ำสมัยกว่า เพราะเป็น PHEV ที่ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะวิ่งไฟฟ้าหรือใช้น้ำมัน ต่างจาก e-POWER ที่ยังต้องพึ่งเครื่องยนต์ตลอด 🚀
BYD DM-i vs Nissan e-POWER: เทียบความแรง 🚗💨
1️⃣ Nissan e-POWER (Series Hybrid)
เครื่องยนต์ 1.2L (Note) / 1.5L Turbo (X-Trail)
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 136 - 204 แรงม้า (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
แรงบิดมอเตอร์ 280 - 330 Nm
อัตราเร่ง 0-100 km/h ≈ 7.0 - 10.0 วินาที
✅ ข้อดี: อัตราเร่งไวเพราะมอเตอร์ขับ 100% ตลอด
❌ ข้อเสีย: เครื่องยนต์มีไว้ปั่นไฟ ไม่มีแรงม้าช่วยเสริม
2️⃣ BYD DM-i (Plug-in Hybrid, PHEV)
เครื่องยนต์ 1.5L / 1.5L Turbo
กำลังรวม (เครื่องยนต์ + มอเตอร์) 180 - 326 แรงม้า
แรงบิดรวม 325 - 550 Nm
อัตราเร่ง 0-100 km/h ≈ 7.3 - 4.3 วินาที (รุ่นแรงสุดเร็วกว่า 5 วินาที)
✅ ข้อดี: แรงม้าเยอะกว่า วิ่งไฟฟ้าได้จริง อัตราเร่งเร็วกว่า
❌ ข้อเสีย: น้ำหนักรถมากกว่าจากแบตเตอรี่ที่ใหญ่
🔥 สรุป: ใครแรงกว่ากัน?
🏆 BYD DM-i ชนะขาด!
✔ แรงม้าสูงกว่า
✔ แรงบิดเยอะกว่า
✔ อัตราเร่งเร็วกว่า (บางรุ่นเร็วเท่า Tesla Model 3)
✔ มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ช่วยกันขับเคลื่อน
Nissan e-POWER ออกตัวดีเพราะใช้มอเตอร์ล้วน แต่พอเทียบกับ BYD DM-i ที่แรงม้าสูงกว่าและมี PHEV Mode ก็สู้ไม่ได้ 🚀🔥
-
ผมช้ คิ๊กส์ ตั้งแต่เปิดตัว ม้ามันน้อย ขับงั้น ๆ แต่พวงมาลัยคมเฟิร์มดี ช่วงล่างดี ประหยัดพอประมาณ หน้าร้อน20 กม./ลิตร ห่น้าหนาวปิดแอร์วิ่ง 25 กม./ลิตร เอาว่ากลาง ๆ ทุกอย่าง
ส่วนอีกตัว ก็ตามที่ข้างบนบอก มีทางเลือกเพิ่ม แบตฯใหญ่กว่า เทคนิคใหม่กว่า
ก็น่าจะเลือกแบบล่างดีกว่าครับ
-
ถ้ามี ให้เลือก แค่2 แบบ
เลือก DM-i
มันชาร์จไฟฟรีจาก Solarcell ที่บ้านได้น่ะครับ
-
ผมช้ คิ๊กส์ ตั้งแต่เปิดตัว ม้ามันน้อย ขับงั้น ๆ แต่พวงมาลัยคมเฟิร์มดี ช่วงล่างดี ประหยัดพอประมาณ หน้าร้อน50 กม./ลิตร ห่น้าหนาวปิดแอร์วิ่ง 25 กม./ลิตร เอาว่ากลาง ๆ ทุกอย่าง
ส่วนอีกตัว ก็ตามที่ข้างบนบอก มีทางเลือกเพิ่ม แบตฯใหญ่กว่า เทคนิคใหม่กว่า
ก็น่าจะเลือกแบบล่างดีกว่าครับ
50km/l เลยเหรอครับ :o
-
ส่วนตัวมองว่า ถ้าเรื่องระบบ epower อาจจะเทียบ dmi ลำบาก
แต่ถ้าถัวเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเดินทาง กี่บาท ต่อกม. ผมว่า ราคาอาจจะสูสี หรือ epower แพงกว่าหลัก 1-1.5 บาท
ทว่า บริการหลังการขายผมยังคิดว่า ช่าง/บริษัท แม่Nissan ยังมีความรู้ ความเข้าใจ ความตั้งใจในการแก้ปัญหา มากกว่า BYD หนะครับ
-
ถ้ามี ให้เลือก แค่2 แบบ
เลือก DM-i
มันชาร์จไฟฟรีจาก Solarcell ที่บ้านได้น่ะครับ
ขอโทษ แก้แล้ว นิ้วมันสูงไป 20 ครับ...
-
รู้สึกแปลกๆกับกระทู้นี้
จขกท. ตั้งมาถามว่าอะไรดีกว่า
เสร็จแล้วลงมา 6คห. จขกท มาตอบเองว่า BYD ดีกว่า...
อิหยังหวาาาาาาา
-
BYD DM-i ทันสมัยกว่า Nissan e-POWER 🔥🔋
เหตุผลที่ BYD DM-i ทันสมัยกว่า:
✅ เทคโนโลยี Plug-in Hybrid (PHEV) → รองรับทั้งน้ำมันและไฟฟ้า วิ่ง EV ได้จริง ไม่เหมือน e-POWER ที่ต้องพึ่งเครื่องยนต์ปั่นไฟตลอด
✅ แบตเตอรี่ใหญ่กว่า ใช้ LFP (Lithium Iron Phosphate) จาก BYD → ทนทาน ปลอดภัย ไม่เสื่อมง่าย
✅ ประสิทธิภาพสูงกว่า → อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีกว่า e-POWER เพราะวิ่งไฟฟ้าล้วนได้
✅ รองรับระบบ V2L (จ่ายไฟจากรถไปอุปกรณ์อื่นได้) → ใช้รถเป็นแบตสำรองสำหรับบ้านหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
Nissan e-POWER ยังดูเก่าเพราะ:
❌ ไม่ใช่ EV จริง → ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟตลอด ไม่เสียบชาร์จเองได้
❌ แบตเตอรี่เล็กกว่า → วิ่ง EV Mode ได้จำกัดมาก
❌ ประหยัดไฟฟ้าไม่เท่าจริงๆ → เพราะต้องเผาน้ำมันเพื่อปั่นไฟ
🔥 สรุป:
BYD DM-i = ล้ำสมัยกว่า เพราะเป็น PHEV ที่ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะวิ่งไฟฟ้าหรือใช้น้ำมัน ต่างจาก e-POWER ที่ยังต้องพึ่งเครื่องยนต์ตลอด 🚀
BYD DM-i vs Nissan e-POWER: เทียบความแรง 🚗💨
1️⃣ Nissan e-POWER (Series Hybrid)
เครื่องยนต์ 1.2L (Note) / 1.5L Turbo (X-Trail)
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 136 - 204 แรงม้า (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
แรงบิดมอเตอร์ 280 - 330 Nm
อัตราเร่ง 0-100 km/h ≈ 7.0 - 10.0 วินาที
✅ ข้อดี: อัตราเร่งไวเพราะมอเตอร์ขับ 100% ตลอด
❌ ข้อเสีย: เครื่องยนต์มีไว้ปั่นไฟ ไม่มีแรงม้าช่วยเสริม
2️⃣ BYD DM-i (Plug-in Hybrid, PHEV)
เครื่องยนต์ 1.5L / 1.5L Turbo
กำลังรวม (เครื่องยนต์ + มอเตอร์) 180 - 326 แรงม้า
แรงบิดรวม 325 - 550 Nm
อัตราเร่ง 0-100 km/h ≈ 7.3 - 4.3 วินาที (รุ่นแรงสุดเร็วกว่า 5 วินาที)
✅ ข้อดี: แรงม้าเยอะกว่า วิ่งไฟฟ้าได้จริง อัตราเร่งเร็วกว่า
❌ ข้อเสีย: น้ำหนักรถมากกว่าจากแบตเตอรี่ที่ใหญ่
🔥 สรุป: ใครแรงกว่ากัน?
🏆 BYD DM-i ชนะขาด!
✔ แรงม้าสูงกว่า
✔ แรงบิดเยอะกว่า
✔ อัตราเร่งเร็วกว่า (บางรุ่นเร็วเท่า Tesla Model 3)
✔ มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ช่วยกันขับเคลื่อน
Nissan e-POWER ออกตัวดีเพราะใช้มอเตอร์ล้วน แต่พอเทียบกับ BYD DM-i ที่แรงม้าสูงกว่าและมี PHEV Mode ก็สู้ไม่ได้ 🚀🔥
ตั้งกระทู้ถามเอง ตอบเอง ลืมสลับaccountป่ะคับ 55555
-
DM-i ดูดีกว่าเยอะครับ e-power มันไม่ดีตรงชาร์จจากภายนอกไม่ได้ แต่..ถ้าแบตมันไม่ได้จุไฟได้เยอะเท่าไหร่ ดูมันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเสียบปลั๊ก
-
ผมช้ คิ๊กส์ ตั้งแต่เปิดตัว ม้ามันน้อย ขับงั้น ๆ แต่พวงมาลัยคมเฟิร์มดี ช่วงล่างดี ประหยัดพอประมาณ หน้าร้อน50 กม./ลิตร ห่น้าหนาวปิดแอร์วิ่ง 25 กม./ลิตร เอาว่ากลาง ๆ ทุกอย่าง
ส่วนอีกตัว ก็ตามที่ข้างบนบอก มีทางเลือกเพิ่ม แบตฯใหญ่กว่า เทคนิคใหม่กว่า
ก็น่าจะเลือกแบบล่างดีกว่าครับ
50km/l เลยเหรอครับ :o
ผิดครับ แก้แล้ว 20 กม./ลิตรครับ จะอ้างถึง ไปอ้างผิดอีก ครับ
-
เทียบไปก็เท่านั้น สุดท้ายตอนจะใช้รถ ขนาดพื้นที่จะเป็นตัวกำหนด ปัจจุบันมันมีให้ซื้อแค่ ค่ายละรุ่น :P
-
BYD DM-i ทันสมัยกว่า Nissan e-POWER 🔥🔋
เหตุผลที่ BYD DM-i ทันสมัยกว่า:
✅ เทคโนโลยี Plug-in Hybrid (PHEV) → รองรับทั้งน้ำมันและไฟฟ้า วิ่ง EV ได้จริง ไม่เหมือน e-POWER ที่ต้องพึ่งเครื่องยนต์ปั่นไฟตลอด
✅ แบตเตอรี่ใหญ่กว่า ใช้ LFP (Lithium Iron Phosphate) จาก BYD → ทนทาน ปลอดภัย ไม่เสื่อมง่าย
✅ ประสิทธิภาพสูงกว่า → อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีกว่า e-POWER เพราะวิ่งไฟฟ้าล้วนได้
✅ รองรับระบบ V2L (จ่ายไฟจากรถไปอุปกรณ์อื่นได้) → ใช้รถเป็นแบตสำรองสำหรับบ้านหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
Nissan e-POWER ยังดูเก่าเพราะ:
❌ ไม่ใช่ EV จริง → ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟตลอด ไม่เสียบชาร์จเองได้
❌ แบตเตอรี่เล็กกว่า → วิ่ง EV Mode ได้จำกัดมาก
❌ ประหยัดไฟฟ้าไม่เท่าจริงๆ → เพราะต้องเผาน้ำมันเพื่อปั่นไฟ
🔥 สรุป:
BYD DM-i = ล้ำสมัยกว่า เพราะเป็น PHEV ที่ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะวิ่งไฟฟ้าหรือใช้น้ำมัน ต่างจาก e-POWER ที่ยังต้องพึ่งเครื่องยนต์ตลอด 🚀
BYD DM-i vs Nissan e-POWER: เทียบความแรง 🚗💨
1️⃣ Nissan e-POWER (Series Hybrid)
เครื่องยนต์ 1.2L (Note) / 1.5L Turbo (X-Trail)
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 136 - 204 แรงม้า (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
แรงบิดมอเตอร์ 280 - 330 Nm
อัตราเร่ง 0-100 km/h ≈ 7.0 - 10.0 วินาที
✅ ข้อดี: อัตราเร่งไวเพราะมอเตอร์ขับ 100% ตลอด
❌ ข้อเสีย: เครื่องยนต์มีไว้ปั่นไฟ ไม่มีแรงม้าช่วยเสริม
2️⃣ BYD DM-i (Plug-in Hybrid, PHEV)
เครื่องยนต์ 1.5L / 1.5L Turbo
กำลังรวม (เครื่องยนต์ + มอเตอร์) 180 - 326 แรงม้า
แรงบิดรวม 325 - 550 Nm
อัตราเร่ง 0-100 km/h ≈ 7.3 - 4.3 วินาที (รุ่นแรงสุดเร็วกว่า 5 วินาที)
✅ ข้อดี: แรงม้าเยอะกว่า วิ่งไฟฟ้าได้จริง อัตราเร่งเร็วกว่า
❌ ข้อเสีย: น้ำหนักรถมากกว่าจากแบตเตอรี่ที่ใหญ่
🔥 สรุป: ใครแรงกว่ากัน?
🏆 BYD DM-i ชนะขาด!
✔ แรงม้าสูงกว่า
✔ แรงบิดเยอะกว่า
✔ อัตราเร่งเร็วกว่า (บางรุ่นเร็วเท่า Tesla Model 3)
✔ มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ช่วยกันขับเคลื่อน
Nissan e-POWER ออกตัวดีเพราะใช้มอเตอร์ล้วน แต่พอเทียบกับ BYD DM-i ที่แรงม้าสูงกว่าและมี PHEV Mode ก็สู้ไม่ได้ 🚀🔥
ตั้งกระทู้ถามเอง ตอบเอง ลืมสลับaccountป่ะคับ 55555
กระทู้ถาม❌
กระทู้บอก✅