Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: albacore ที่ มีนาคม 16, 2025, 10:25:25
-
คลิปนี้เหมือนเจ้าของบริษัทLidar sensorจะแค้นยังไงไม่รู้
https://www.reddit.com/r/SelfDrivingCars/comments/1jc32ns/can_you_fool_a_self_driving_car/
-
เค้าทดสอบ ระบบเรด้า เทียบกับ กล้องหรือเปล่าครับ
ซึ่งแน่นอนครับ ระบบเรด้า แม่นยำ หลอกไม่ได้เลย แต่กล้อง แค่ควันบังหน้า ก็มองไม่เห็น ชนหุ่นกระจาย ...
รถใครความปลอดภัยใช้กล้อง ต้องระวังกันเองด้วยนะ
-
ผมแปลกใจที่คลิปแบบนี้น่าจะออกมาตั้งแต่ยกเลกLidarแรกๆ
แต่มาออกเอาช่วงที่กระแสลบของเจ้าของบริษัทกำลังเริ่มรุนแรง
เจ้าของเองก็มีความผูกติดกับตัวสินค้าค่อนข้างแน่น
มองเป็นแนวการเมืองก็ได้เหมือนกันนะ
-
การสำรวจ และ ประเมิน ระบบ Tesla เกิดขึ้น ส่วนหนึ่ง จากสื่อหลักของสหรัฐ มานานแล้วครับ ไม่ได้เกิดตั้งแต่การเมืองสหรัฐเปลี่ยนขั้ว
ผมเป็น Vendor ข่าว NHK และถูกสอนให้ดูข่าวเป็นระยะ ผมพบว่า ไม่มีเจ้าไหนที่รถมี ADAS เจ้าปัญหาเท่า Tesla เลย แม้รถยอดขายหลังปล่อย ADAS Level 2 เหมือนกัน เจ้านึง คนขับและผู้ร่วมทางปลอดภัยมาก ซึ่ง ตรงข้ามกับ Tesla เลย; ยอดขายหลังปล่อย ADAS Level 2 เท่ากัน จนหมดโควิด
มันมีผลต่อจิตใจผมมากขนาดผมชื่นชมและอยากถอย Model X ในช่วงภรรยาไม่สามารถหารถทดแทน Leaf ได้ แต่เนื่องจากผมดันไปดูข่าวสหรัฐ โดยเฉพาช่วงปลายปี 2022 ผมไม่รอ Tesla เปิดตัวใด ๆ ทั้งสิ้น รีบพาภรรยาเข้าศูนย์ Merc เลย (และหวังว่าภรรยาจะไม่ซื้อ PHEV เบนซ์ ซึ่งโมเดลล่าสุดก็ยังมีปัญหาตอนหน้าร้อนอยู่) สรุปก็คือ ซื้อ Merc ICE ลดลูกสูบครึ่งนึงตอนความเร็วไม่เร่ง และ ภรรยาชื่นชมมาก (เป็นการตัดสินใจ ถูกต้อง ร่วม ทั้งครอบครัว)
คือสิ่งที่ผมไม่บอกภรรยา คือ สื่อหลัก เขารายงานการชนของ Tesla และตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมมันชน/ตาย เป็นระยะ? ตั้งแต่ช่วงเริ่มโควิด
IIHS ทำการสำรวจปี 2021-2022 11 เดือน เป็นตัวเลข ชัดเจนครับ ว่า Tesla ไม่ปกติ และสรุปในปี 2024 ที่ผ่านมา ว่า Tesla มีความแตกต่างด้านความปลอดภัยต่างจากเจ้าอื่นอย่างมาก
ด้าน Euro NCAP ทำการทดสอบ และ จัดอันดับ (ซึ่งต่างจากในลิงค์จขกท.บอกประมาณมากว่า แน่จริง ทดสอบ Full Self-Driving สิ) คนที่คอมเมนต์ในลิงค์ข้างต้น ไม่ได้รู้เลยว่า ไม่ว่า Autopilot หรือ Full Self-Driving ได้คะแนน Euro NCAP ต่ำสุด จาก 14 ระบบ Level 2 ADAS
ไม่ต้องพูดถึง Level 3 ADAS ที่กำลังจะออกกันเป็นล่ำเป็นสันเลย พวกนี้ ทดสอบที่ California แล้ว ทำให้ถนนปลอดภัยกว่ายี่ห้อนึง Level 2 อย่างมาก (ผมระบุชื่อยี่ห้อมาตลอด พารากราฟสุดท้ายนี่ผมละชื่อให้)
ผมไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนที่ขับ Tesla แต่อย่างใด คนนึงรบกวนผมไปเป็นพรีเซนเตอร์ และ ชวนให้ลองรถเขา (ผมบอกเขาไปกลาย ๆ ว่า ไม่ลองครับ) แต่ ผมในฐานะ
1. คนควบคุมการเขียนระบบปรับเทียบกล้อง กับ LiDAR ประสานงานหลายองค์กร
2. คนรีวิวงาน ADAS ทั้งเครื่องบิน รถทหาร รถเอกชน จีน (โดยไม่มีผลประโยชน์ร่วมต่ออย่างใด) บางงานอ้างงานรถเจ้าดังด้านสหรัฐด้วย
3. คนอ้างอิงงานที่ Tesla อ้างอิง Neuro Random Field
และอื่นๆ ผมพบว่า บริษัทชื่อ Tesla นี้ ต้องลดทิฏฐิ และ ประเมินผลประโยชน์ผู้ขับ ให้เหนือกว่านโยบายของ CEO จะเป็นการช่วยชีวิตคน
(IIHS สำรวจการชน ประมาณ 1000 กรณี ซึ่ง 1/10 ของการเสียชีวิต เกิดเพราะ ADAS Tesla ครับ นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ปรากฏในรถที่ผมเลือกขับเป็นคันหลัก 'เลย' ต่างกันอย่างมากมายมหาศาล; แล้วผมก็ยังดันเชื่อ Paper Tesla ทั้งที่ทีมผมไม่เห็นด้วย ปรากฏสุดท้ายคือ สิ่งที่ Tesla บอกว่า 'ดี จะเอาไปใช้ในอนาคต' เป็น สิ่งที่ ธรรมดา มาก ๆ เลย แทบจะไร้ความสำคัญ)
สรุปสั้น ๆ นะครับ ADAS ต้องการ Radar/LiDAR เป็นสิ่งที่ผมรู้ตั้งแต่ปี 2022 แล้ว --> ผมเลยไม่เลือกซื้อ Tesla ทั้งที่มันถูกกว่า
ซื้อ Merc ADAS Level 1 ครอบครัวผมยังอุ่นใจกว่า
(คหสต. ประกอบสถิติ ครับ)
-
ผมไม่แปลกใจกับผลที่ออกมาเลย อย่างน้อยถ้ามี Radar ก็น่าจะดีกว่านี้
แต่พีคกว่านั้นคือ พึ่งรู้ว่าระบบเบรคอัตโนมัติของ Tesla จะไม่ทำงาน ถ้าคนขับเหยียบคันเร่งเองอยู่
ต้องเปิดระบบ auto pilot ก่อน คือ WTF มากๆ
-
ส่วนตัวผมคิดว่าที่ tesla เกิดอุบัติเหตุมากกว่าส่วนนึงคือคนขับขับแบบประมาทมากกว่าด้วยหรือเปล่าครับ
เพราะ elon พูดเกินจริงหลายครั้ง ถ้าขับแบบเชื่อelonมากเกินไป โดยไม่ได้โดยไม่ได้ศึกษาข้อจำกัดดีๆ หรือจะด้วยอยากทดลองระบบ หรือทำตามคลิปห่ามๆในยูทูป ไม่มียี่ห้อไหนบอกให้ไว้ใจระบบของรถมากขนาดนี้ ทำให้อยู่ในตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าที่ควรจะเป็น ผลเลยออกมาแบบนี้
-
ผมนี่อยากเห็นฝา่ย Tesla Fanboy เอา scenario ที่เป็น Weakness ของ Lidar มาบลัฟกลับเลยนะเนี่ย
แต่ก็นะ มีทั้ง Lidar + Camera มันก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว
-
ประเด็นคือเราจะพึ่งพาระบบที่ไม่ต่างกับตาเราไปทำไมในเมื่อเรามีระบบที่ดีกว่าคนเราอยู่...จนกระทั่งคนบ้าคนนึงไปตัดออกเพราะลดต้นทุน แถมติดอีโก้จัดไม่ยอมเอากลับมา...
"I bought this care before Elon went crazy (or Nazi) ;D"
-
ผมไม่แปลกใจกับผลที่ออกมาเลย อย่างน้อยถ้ามี Radar ก็น่าจะดีกว่านี้
แต่พีคกว่านั้นคือ พึ่งรู้ว่าระบบเบรคอัตโนมัติของ Tesla จะไม่ทำงาน ถ้าคนขับเหยียบคันเร่งเองอยู่
ต้องเปิดระบบ auto pilot ก่อน คือ WTF มากๆ
อันนี้ตอนแรกที่รู้ก็ประหลาดใจเหมือนกันครับ เพราะเป็นข้อเสียสำหรับมือใหม่หัดขับรถแน่ๆ :-X
จากที่อ่านเจอมาเพราะอีลอนกลัว AI เอามากๆ เลยยก priority คนขับมาเหนือระบบ
หนังเรื่องนึงที่คิดตามแล้วน่ากลัวอยู่ก็เรื่อง I,Robot ที่พอระบบควบคุมโดนยึดแล้วคนทำอะไรไม่ได้เลย
เคยคุยกับน้องคนจีน ถ้าเป็นที่จีนลองคุณมีปัญหาอะไรระหว่างขับรถรุ่นใหม่ๆ
คุณมีโอกาสโดนขังในรถพร้อมรถขับพาคุณไปส่งถึงคุกได้เลย แนวทางนี้คือเป็นเอกฉันท์มาก ฮา
-
ประเด็นคือเราจะพึ่งพาระบบที่ไม่ต่างกับตาเราไปทำไมในเมื่อเรามีระบบที่ดีกว่าคนเราอยู่...จนกระทั่งคนบ้าคนนึงไปตัดออกเพราะลดต้นทุน แถมติดอีโก้จัดไม่ยอมเอากลับมา...
"I bought this care before Elon went crazy (or Nazi) ;D"
ใช่ครับ มีของดี แต่ตัดออก
-
มั่วไปหมดเลยครับ จะให้อธิบายเชิงลึกในนี้คงยาวมาก
แต่เอาเป็นว่ามีข้อจำกัดผิดหลายๆอย่างๆ
1. รถที่นำมาทดสอบเป็น hw 3.0 เก่าแล้ว ดันมาเทียบกับ LiDar ที่อยู่ในช่วง dev (LiDar กับ RaDar คนละตัวกันนะครับ ทำงานด้วย Light และ Radio Wave)
2. ข้อจำกัดเรื่องที่รถจะหยุดเองแต่ต้องเปิด autopilot หรือ fsd -> อันนี้ autopilot เป็น L2 การเหยียบซ้ำหลังจากมีการเตือนหรือชะลอแล้ว ไปทุกกรณีครับ แต่โดยคนปกติเวลารถเบรค ก็น้อยคนที่จะกดซ้ำ แบบที่เทสในคลิป ส่วน FSD เป็น L3 จะหยุดหรือหลบเลี่ยงเท่านั้น ซึ่งผมยังไม่เคยลองเหมือนกัน เพิ่งได้รถมาที่จีนเดี๋ยวจะไปลองแล้วว่ากันอีกที แต่โดยปกติแล้วถ้ากล้องเห็นรถจะเตือนละเบรคให้อยู่ระดับนึงแล้วครับ
3. condition การทดสอบ เหมือนจงใจเอา impossible situation มาเพื่อ fools กล้องโดยเฉพาะเพื่อให้ LiDar สอบผ่าน แต่ดันไม่รู้จัก tech ที่นำมาเทียบด้วยคือ tesla vision เลย ย้อนไปข้อ 2 การทดสอบให้เบรคหรือตัดสินใจอัตโนมัติ ต้องเปิดระบบ แต่เวลาเราหักพวงมาลัย tesla จะยกเลิกระบบทันที ซึ่งในคลิปก็ชัดเจนว่ายกเลิก เพราะถ้าเปิด autopilot หรือ fsd รถจะไม่สามารถขับคล่อมเลนได้แบบในคลิป พี่ mark แกเลยหักพวงมาลัยให้หยุดทำงานละมากดตอนจะชน ซึ่งถ้าสังเกตบนหน้าจอดีๆ รถเตือนครับ แต่เบรคไม่ทัน หรือพี่แกเร่งเพิ่มก็ไม่รู้
ท้ายที่สุด มันเป็นคลิปโปรโมทของ Luminar ที่ผลิต LiDar ครับ เรียกว่า advertorial น่ะแหละ ก้ต้องอวยเป็นปกติ ยิ่งช่วงนี้กระแสถาโถมอีลอนจะปล่อยไปได้ยังไงช้ะ
ปล. มีคนเอา engine มารันกล้องเทียบแล้ว vision ของ tesla เห็นฉากนะครับและถ้าเปิด fsd มันก็จะหยุด แต่เค้าเลือกจะเปิด 2 วิสุดท้ายก่อนชนละเหยียบไปเลยเพราะตั้งใจโปรโมทนั่นแหละครับ
แต่สรุปๆ ผมก็ไม่ได้บอกว่า tesla vision มันจะ perfect อะไรขนาดนั้นถ้าเทียบความแม่นยำเป้ะๆ ยังไงก็แพ้ LiDar ครับ เทียบแล้ว logic ของอุปกรณ์มันแตกต่างกัน vision มันประมวลผลด้วย AI คิดว่าควร react ยังไงกับสิ่งทีเ่ห็นเหมือนตาคน ส่วน LiDar มันยิงแสงสะท้อนเพื่อให้รู้ระยะที่แม่นยำกว่า Radiowave
ตัวอย่างที่ได้เปรียบเสียเปรียบกันง่ายๆ
ถ้ากล้องเห็นวัตถุเป็นถุงกระดาษปลิว vision ตัดสินใจได้ว่ามันเป็นแค่ถุง ผ่านไปไวๆ เหยียบสู้ไปได้เลย แต่กลับกันถ้าเป็น LiDar มันจะมองเห็นเป็นวัตถุที่มีโอกาสชนได้ รถก็จะเบรคหัวทิ่มครับ
แต่กลับกัน ถ้ากล้องมองเห็นวัตถุที่ไม่รู้จักและมีทรงแปลกหรือบางมาก อย่างพวกรั้วเส้นเหล็ก บางมุมที่แสงตกกระทบอาจจะทำให้มองไม่เห็นแล้วชน ซึ่ง LiDar จะยิงแสงสะท้อนจนเห็นเป็นตะข่ายและหยุดได้แม่นยำกว่าทั้งกล้องแกละคลื่นวิทยุครับ
นิแค่แย้งเบื้องต้นนะ ใครสนใจริงๆไปหาอ่านใน twitter ได้ครับ เพราะ youtube พี่แกลบคอมเม้นที่มาแย้งหมด (ก็อย่างว่า advertorial อ่ะครับ)
ส่วนตัวผมว่ามันควรมีทั้งสอง แต่ tesla ที่เป็นผู้นำด้านนี้ก็ชัดเจนว่าจะลดต้นทุน จึงลืมไปได้เลยว่า LiDar จะมา ส่วนรถจีนเองกล้องก็ยังสู้ tesla ไม่ได้ แต่ในอนาคตผมเชื่อว่า software huawei จะทำได้นะครับ ใช้ Lidar คู่กับกล้อง เพราะ ณปัจจุบันผมใช้ avatr12 ลองในหลายๆ scenario แล้วแม่นยำไม่แพ้ tesla ครับ แต่ตัว software เองยัง learning ห่างชั้นกับ AI tesla มาก รวมถึงการตัดสินใจผมเดาว่า ให้ LiDar เป็น 1st priority เลยทำให้มี phantom brake อยู่บ่อยครับ
ส่วนในไทยไม่ต้องห่วงครับ Changan Avatr ไม่ได้ใช้ harmonyOS กล้องเป็นรุ่น 5 ตัวมองรอบ ไม่ได้เศษเสี้ยวที่รันในจีนเดี๋ยวจะบอกว่าทำไม avatr ไทยลองใช้แล้วไม่ดีเลย ก็เอาของรถ segment 3-5แสนในจีนมาใส่ตัว 2ล้านขายไทยอ่าค้าบ
-
อีกสักพักน่าจะมีช่องที่ไม่เห็นด้วยกับผลลัพธ์นี้ ออกมาทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมานะครับ
-
อีกสักพักน่าจะมีช่องที่ไม่เห็นด้วยกับผลลัพธ์นี้ ออกมาทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมานะครับ
ขอบคุณครับ ผมดูคลิปตอนแรก็รู้สึกแปลกๆละ เหมือนมีการควบคุมตัวแปรไม่เท่ากัน
-
ใน facebook อย่างฮา มีคลิปอุบัติเหตุ x9 mpv ที่มี lidar สถานการณ์ชัดโปร่งโล่งแจ้งแต่กลับหลบอุบัติเหตุไม่ทันมาให้ดู
ของ tesla ชอบยืนอยู่บนจุดประสงค์ที่ว่า ถ้าทัศนวิสัยที่คนไม่สามารถขับได้ระบบก็จะดีดออกไม่ยอมช่วยขับ ข้อนี้เถียงลำบาก เพราะจะมีข้ออ้างได้ว่าเราฝืนเอง :-X
ส่วน lidar ข้อด้อยหลักๆเลยคืออัตราการ sampling ตัวอย่างต่อวินาทีที่ต่ำ
ทำให้การขับที่ความเร็วสูงเกินระดับหนึ่งการตอบสนองจะช้าเกินไป ผลทำให้หลบอุบัติเหตุไม่พ้น
สุดท้ายใครใคร่ชอบคันไหนก็ซื้อคันนั้นอย่าไปสนใจครับ :-[
ขอแค่ขับขี่ด้วยความไม่ประมาท รูลิมิตรถเราก็พอ
ปอลอ รถ toyota ที่มีแค่ เรดาร์ mmwave พึ่งช่วยให้คนที่บ้านไม่ต้องชนกับคันหน้าได้ครับ ::)
-
https://www.youtube.com/watch?v=9KyIWpAevNs
มีอีกช่องนึงลองทดสอบซ้ำแบบเดียวกัน โดยใช้ Model Y
ปรากฏว่าผลก็ออกมาแบบเดียวกันคือ รถมองไม่เห็นกำแพง
แต่.....
พอลองทดสอบกับ Cybertruck แล้วปรากฏว่ามันมองเห็น และหยุดรถได้ครับ
อันนี้เห็นคนในคอมเมนท์ก็สันนิฐานว่า อาจจะเพราะสภาพแสงตอนที่ทดสอบกับ Cybertruck มันต่างกับตอนทดสอบกับ Model Y
ทำให้ภาพที่วาดไว้มันไม่ตรงกับสภาพแสง ณ ขณะนั้น รถเลยแยกออก