Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: LAWMAN ที่ เมษายน 13, 2025, 17:54:01
-
อยากให้เพื่อนสมาชิกช่วยวิเคราะห์ระหว่าง BMW 320d M sport lci2 กับ Honda Accord G11 RS
ในมุมของรถเก๋งด้วยกัน
1. พวงมาลัย ความคมเมื่อใช้ความเร็วสูง ความสบายในความเร็วต่ำ
2. การเกาะถนน ความเร็วเดินทางไม่เกิน 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
3. การเก็บเสียง
4. อัตราเร่ง
5. ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่คันไหนมีมากกว่ากัน เช่น ระบบช่วยเบรค , Adaptive Cruise Control
6.1 ค่าบำรุงรักษาในจุดที่ควรระวัง กรณี G20 มี BSI 5 ปี / warranty 6 ปี
6.2 ระบบ hybrid ของ Honda เมื่อหมดระยะประกัน 5 ปี
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
-
ระบบ Hybrid ของ Toyota / Honda ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวครับ มีความเชื่อถือได้สูง ระดับ 10 ปี สบายๆครับ
ส่วน BMW ต่อให้เป็น ดีเซล มันก็จะมีจุด ที่จะต้องดูแล บำรุงรักษาอยู่พอสมควร ถ้าได้ดู youtube ที่เค้าชอบจับรถพวกนี้มาซ่อม เค้าจะให้ตีค่าดูแลไว้ กม.ละ 1 บาท สักแสนกม.เศษ ก็จะได้จ่าย สำหรับซ่อมอู่นอกนะ
-
ผมใช้G11 rsและ มี x3 เครื่องเดียวกันs3 เงินเหลือก็BMไปเลย ใช้จนเกือบหมด warranty ก็ให้รีบขายหายเยอะหน่อย ถ้ารับได้เพราะคนที่เขาซื้อต่อไปใช้เขาก็รู้ว่าต้องไปซ่อมแพงดังนั้นจะซื้อแพงทำไหม ขับBM ก็ดีกว่าเกือบทุกด้าน ยังไงก็ดีกว่า ตามราคาแต่ผมว่าที่ว่าดีกว่านั้นราคาที่ต้องจ่ายมันก็ไม่น่าจะแพงกว่าขนาดนั้น G11 ไม่ได้แย่ ถ้าคุณไม่ใช่วัยรุ่น (จริงๆก็เทียบยาก S3 น่าจะวัยรุ่นชอบสนุกมากกว่า g11 รถผู้ใหญ่แต่ก็ซิ่งได้). g11 ขับสบายกว่าแยอะ ทั้งการขับ และกระเป๋า จะเทียบ g11 ต้อง S5 แล้วมาคิดว่าจ่ายแพงกว่าแล้วได้อะไร
-
ระบบ Hybrid ของ Toyota / Honda ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวครับ มีความเชื่อถือได้สูง ระดับ 10 ปี สบายๆครับ
ส่วน BMW ต่อให้เป็น ดีเซล มันก็จะมีจุด ที่จะต้องดูแล บำรุงรักษาอยู่พอสมควร ถ้าได้ดู youtube ที่เค้าชอบจับรถพวกนี้มาซ่อม เค้าจะให้ตีค่าดูแลไว้ กม.ละ 1 บาท สักแสนกม.เศษ ก็จะได้จ่าย สำหรับซ่อมอู่นอกนะ
ขอบคุณครับ
ระบบ hybrid ของฮอนด้าอุปกรณ์ชิ้นไหนที่ถ้าหากเสีย จะราคาแพงสุดครับ นอกจากแบตเตอรี่
เช่น อินเวอร์เตอร์ มีอายุการใช้งานประมาณเท่าไรครับ
-
ซีรีส์ 3 เป็นรถเล็ก อาจจะคับแคบสำหรับคนมีครอบครัว แอคคอร์ด รถใหญ่ คนมีครอบครัวจะชอบมากกว่า อันนี้คงต้องแล้วแต่จุดประสงค์ของ จขกท ว่าต้องแบบไหนครับ
ถ้าคนใช้ยาวๆแบบสิบปียังไม่เปลี่ยนรถ หรือใช้แบบยันลูกยันหลาน จะซื้อรถป้ายแดงทั้งที ผมว่าเลือก บีเอ็ม ไว้ดีกว่าครับ
-
ครับลองดูครับ กระจังหน้าของ 320D ผมว่าสวยดีด้วยครับ ของ alpina เขาก็เหมือนว่าใช้สไตล์กระจังนี้อยู่เหมือนกันครับ
เอามายุเพิ่มครับ ^^
(http://forum.e46thailand.com/upload/668/202504142213-2023-Alpina-B3-sedan-9-850x567.jpeg)
-
ขอตอบในมุมมอง
สำหรับบ้านที่ มี Fortuner 2012 / benz c classs w205 / audi tt mk3 และ 330e F30 และ 520 F10 ของ พ่อตานะครับ
นะครับ
1.benz กับ bmw series 3 ผมเกลียดมากเลย แฟนผมใช้ไปทำงานทุกวัน ผมแค่ขยับรถให้แทบไม่ขับเลยด้วยซ้ำ
เหตุผลคือ รถมันเล็ก เบาะก็นั่งไม่สบาย เบาะหลังยิ่งซ้ำร้ายหนักโคตรแคบ ซึ่งแฟนผมถนัดใช้คันนี้ แต่ผมไม่ชอบเลย
ถ้าเทียบกับ bmw series 3 เครื่องยอมรับว่าแรงจริง แรงมาก ขับสนุก แต่ก็กลับมาเป็นเหมือน benz คือมันเล็ก รถมันแคบ เบาะหลังห่วยพอๆกัน หาความสบายไม่ได้
สุดท้ายจอดทิ้งไว้ 3 เดือนยังไม่ได้ขับอีกเลย
2. (อันนี้น่าจะตอบตรงประเด็นหน่อย) เดิมคุณแม่ผมใช้ camry hybrid 2013 อยู่ ซึ่งผม happy คันนี้มากๆ เพราะมีคนขับรถให้ นั่งแต่เบาะหลัง มันกว้างมันสบายกว่า ข้อ 1 ที่ผมแจ้งไปทุกตัว
เครื่อง 200 ม้านิดๆ ที่ประหยัดน้ำมันโคตรๆ เติมน้ำมัน 1300 ขับจากกรุงเทพ ไปแพร่ น้ำมันยังเหลือ 2 ขีด
เช็คระยะ ผมแทบไม่เคยเข้าศูนย์เลย ไป บีควิก หมดไม่เกิน 1200 บาท กรองแอร์+กรองอากาศเครื่องซื้อมาเปลี่ยนเอง เต็มที่ 1000 บาท ทุก 2 ปีเปลี่ยนน้ำมันเบรค ไม่เกิน 500 จบ
ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องจองคิว ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น
ล่าสุดเดือนมกราคม คุณแม่ก็อยากเปลี่ยนรถโดยตั้งจบไว้ที่ 2 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่า ผมไปจบที่ Accord e-hev EL ไปครับ 1,669,000 ได้ส่วนลด อีก 150,000 + ประกัน + ฟิลม์
เท่ากับราคารถ 1,500,000 เท่านั้น แพงกว่า civic rs นิดหน่อย แต่ผมว่าเรื่องการ เซอร์วิสในอนาคต ผมคงทำตามเหมือนใน camry คันเดิมครับ ง่ายๆไม่วุ่นวาย
3.มาเรื่อง Audi ข้อดีคือ เซอร์วิส ไม่ต้องรอคิวเลยครับ ขับเข้า 0 Audi คิวว่างตลอด ราคาพอประมาณ แต่ถูกกว่า 0 benz มีบริการมารับส่งรถถึงบ้าน ไม่มีค่าใช้จ่าย
/// ผิดจาก bmw ที่มี bsi จริง แต่ไม่สามารถเข้าได้ทันทีนะครับ จองโทรจองคิว และ บางศูนย์ต้องจองรถทิ้งไว้หลายวันมากๆ ซึ่งไม่ใช่แนวของผมเลย น่าจะอารมณ์เดียวกับ porsche ที่มี ศูนย์ถึงกำหนดแต่เช็คระยะไม่ได้ //
ส่วน benz ผมเจอมาห่วยแตกไม่ต่างกันมาก ไปถึง 9 โมง บอกมาเช็ค service A พนง.แจ้งคุณผู้ชาย รับเครื่องดื่ม อาหารอะไรทานก่อนไหมครับ บลาๆ รอจนถึงเที่ยงวัน เจ้าหน้าที่พึ่งเดินมาหา พร้อม list รายการเซอร์วิส ผมก็บอกว่าโอเคตามนั้น ทำเลยครับ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า วันนี้ไม่สามารถทำได้ครับ ต้องลงนัดไว้ แล้วอีก 3 วันค่อยเข้ามา สรุปให้ผม รอ 3 ชม.เพื่อ??? ผมเลยขอ list รายการที่ต้องทำมา ขับรถมาอู่นอก ที่รับเฉพาะ benz แจ้งเค้าให้ทำทุกอย่างตามใบเสนอราคาของ benz 1 ชม. ราคาถูกกว่ากันครึ่งนึ่ง :-X :-X :-X :-X
-
ผมไม่เคยใช้ทั้งสองรุ่นนะครับ แต่ที่บ้านเคยใช้ Camry ACV50, S80
ฺ3-series ผมเคยสนใจมาก ๆ อยู่ช่วงนึง ไปลองขับ 3 ครั้ง
แต่รู้สึกว่าถ้าเอา 3-series เข้าบ้าน น่าจะโดนให้เอารถชับประจำผมออก
เพราะไม่มีใครยอมนั่งหลัง ขนาดขับยังไม่มีครับ
รถที่ใช้ประจำตอนนี้ Mazda 2, Ford Focus, Volvo V40
ตั้งแต่ขับรถมา การบังคับเลี้ยว ผมให้ 3-series อยู่อันดับตัน ๆ ในความคม ความไว แต่ feedback มันไม่ได้มีมากนัก
ความเร็วต่ำในเมืองคล่องตัวดีครับ แต่ความเร็วสูงอาจเหนื่่อยหน่อย เทียบกับ Camry ผมว่ามันคือคู่ครงข้ามเลย
ความเกาะถนน Camry มันค่อนข้างเบา ลอย ไม่มั่นใจ ผมขับประมาณ 100 ก็เริ่มกลัว ๆ แล้วครับ
ส่วน 3-series ผมเอามาลองขับเส้นประจำเข้าที่ 120 สบาย ๆ พอ ๆ กับ Focus, V40; Mazda 2 ก็เข้าได้พอ ๆ กัน แต่รถมันเบา ไม่ค่อยมั่นใจ
การเก็บเสียงผมว่าไม่ได้รูัสึกว่า 3-series มันโดดเด่นอะไรครับ
อัตราเร่ง ผมว่าถ้าเอาความสนุก 320d ผมไม่ค่อยอินกับดีเซลเท่าไหร่ ถ้า 330e ผมว่ามัน smooth กว่ามาก
ส่วน Camry ผมเฉย ๆ เพราะผมไม่ชอบ CVT
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ผมไม่มีความเห็นครับ
แต่พอเทียบของ Honda ได้
ผมลองขับ CRV EHEV เทียบกับ Volvo XC60 ผมคิดว่าระบบของ Volvo smooth กว่าครับ
ผมไม่ได้ลองของ 3-series
แต่เอาจริง ๆ ผมเองแทบไม่ได้ใช้ Auto pilot เลยครับ
ปัญหาของ 320d ในกลุ่มผมไม่ค่อยเห็นครับ แต่ 330e มีเป็นระยะ สัดส่วนไม่ได้เยอะมาก
แต่ถ้ามีมักเป็นเรื่องใหญ่ ใช้เวลานาน เข้าศูนย์หลายรอบ และอาจไม่จบ
ส่วน Honda ไม่แน่ใจครับ
ถ้าให้ผมซื้อทั้งสองคันนี้ ผมขอไป 320d แม้จะไม่ชอบเครื่องยนต์ diesel
แตผมชอบการขับขี่ของ 3-series มากกว่า D-segment ครับ
ล่าสุดเพิ่งไปลอง 530e m-sport มา ผมเองวันมันใหญ๋ไป ไม่คล่องตัว
ผมคิดว่าต้องกลับไปมองโจทย์ว่า มีคนนั่งหลังบ่อยไหมครับ หรืออนาคตจำเป็นต้องมีคนนั่งหลังไหม
ถ้ามีผมคิดว่าไป Accord น่าจะเป็นคำตอบได้ดีกว่า แต่ถ้าไม่มียังไง 3-series ก็ขับสนุกกว่าครับ
ใจจริงผมอยากแนะนำให้ไปหา 320Li ครับ
เห็นมีราคาเคลียร์ stock แต่คิดวาอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อรถ
Honda ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงคือเรื่องงานประกอบ วัสดุ ความปราณีต ผมเคยใช้ FK
มันไม่ได้จริง ๆ ครับ เทียบกับ Focus หรือ V40 ผมยังว่าสู้ไม่ได้
ถ้ายอมรับจุดนี้ได้ Accord น่าจะเป็นตัวเลือก ที่คุ้มค่าครับเพราะค่าบำรุงรักษา และประกันภัย ราคาเป็นมิตรมาก
-
จากประสบการณ์ ใช้งานรถ BMW 2 คันทั้ง X3 และ X7 ถ้าเทียบกับ Honda Accord RS กับ BMW 320d M-Sport
BMW Series 3 ขับสนุกกว่า Honda Accord และความนิ่งในความเร็วไม่เกิน 160 km/h Series 3 เหนื่อกว่าครับ แต่ Series 3 จะมีแค่กล้องมองหลังแต่ Accord RS มีกล้องรอบคันครับ และจุดอ่อนของศูนย์ BMW คือบางศูนย์คิวเต็มเร็วและไม่สามารถ walk-in ได้ในเสาร์ อาทิตย์ ครับ
-
ข้อแรกต้องเลือกก่อนเลยครับว่ามีคนนั่งหลังบ่อยหรือไม่ เพราะถ้ามีคนนั่งหลังบ่อยจากตัวเลือกนี้ผมจะเชียร์ Accord G11 เพราะยังไง C segment ก็เล็กกว่า D segment อยู่แล้ว
ข้อเปรียบเทียบ (ที่บ้านมีทั้ง BMW, Benz, Honda, Toyota) แต่จะเปรียบแค่ BMW กับ Honda ตามที่ จขทก ถาม
BMW
ขับสนุก มั่นใจกว่าแน่นอน แต่ความเร็วเกิน 170 จะเริ่มหวิวหน่อยๆ แต่ก็ยังมั่นใจอยู่ เบาะนั่งขับทางไกลมีเมื่อยบ้าง ต้องพักคน (ไม่ใช่พักรถ) กับเบาะหลังที่นั่งไม่สบายเท่าไหร่ แต่ยังดีที่มีแอร์ zone 3 ช่วยให้พอสบายขึ้นมาบ้าง ช่วง BSI ใช้อย่างเดียว service ฟรีหมดทุกอย่าง ยกเว้นพวกอะไหล่ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขอาจจะต้องเสียเงินส่วนต่างเอง ถ้าเลือก diesel ในเมืองจะไม่ประหยัดเท่าไหร่ แต่นอกเมืองประหยัดแน่ๆ ในกรณีใช้ในเมืองเป็นหลักดู 330e lci 2 ไหม แบตวิ่งได้ 100 โลต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่กลับกันวิ่งต่างจังหวัดไม่ประหยัดเท่า diesel **ผมขอเปรียบว่า series 3 เป็นรถที่เน้นขับสนุก วัยรุ่น ไม่เน้นสบาย ถ้าเน้นสบายไป series 5 ดีกว่า**
Honda
ขับสนุกประมาณนึง ผมว่าสนุกกว่า Camry เยอะ แต่ความเร็วก็ไม่ควรเกิน 150 ผู้โดยสาร คนขับ นั่งสบาย ชิวๆ เรื่อยๆ ศูนย์บริการเยอะ ไม่ต้องรอคิวนาน ถ้าฉุกเฉิน walk in เข้าไปได้เลย
-
ขับคันไหนแล้วเอนจอยกว่า ก็คันนั้นแหละครับ รถมันคนละฟิลเลยอะ
ผมเคยคิดว่าชอบขับรถที่บู๊ ๆ หน่อย ตอนได้ 320d ผมก็ชอบนะ
แต่พอได้อีกคันมา เอ้อ มันก็สบายดีแหะ หลัง ๆ ผมไม่ขับ 320d อีกเลย 55
-
ผมมี 320d lci1 ให้ข้อมูลแบบนี้ละกันครับ
- อัตราเร่ง ดีตามแบบของเค้า เหลือๆสำหรับการใช้งานทั่วไป ย้ำ!! ว่าทั่วไป ถ้าเอาไปซิ่ง ต้องไปทำเพิ่ม
- การกินน้ำมัน วิ่งแบบไม่ปั้นตัวเลข ย่านชาญเมือง มีนบุรี รามอินทรา ไม่วิ่งเวลาเร่งด่วน ได้ 16-17 โลลิตร
- ช่วงล่าง ถ้ามาจาก d segment มันคนละโลกเลย แม้ว่าได้ช่วงล่างแบบ M Adaptive ปรับไฟฟ้า แต่มันก็แข็งและหาความสบายไม่เจอ
- เก็บเสียง เรื่องเสียงลมไม่ค่อยมี มาหลัง 150+ แต่เสียงล้อ เสียงถนน ไม่ได้ต่างจาก G11 เลย เผลอๆ G11 เก็บเสียงล้อได้ดีกว่าเสียอีก อย่าคาดหวังเยอะ
-
อยากให้คิดเรื่องขนาดตัวรถด้วยนะครับ ถ้าใช้คนเดียว ไม่ต้องสนใคร 3-series ก็ไม่ได้แย่ ถ้างบถึงก็ไปได้ แต่ถ้ามีครอบครัว ผมว่าเล็กไปนะ คนนั่งหลังไม่ค่อยสบาย