Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: boost ที่ เมษายน 22, 2025, 12:31:35
-
อิจฉาที่ว่าคืออัตราเร่งครับ ผมลองมาแล้วทั้ง seal, 3performance. และล่าสุดพี่ชายซื้อ sealion7 ตัว4.5วิ
ผมรักรถ ICE ครับ และรถไฟฟ้าก็ดูจะตกรุ่นเร็วมากสำหรับผมมันดูขาดเสน่ห์ที่จะครอบครอง
คำถามคือถ้าจะหารถ ICE.ที่ราคาพอๆกับรถไฟฟ้า แต่ให้อัตราเร่งใกล้เคียงกับ EV เหล่านั้นเลือกรุ่นไหนดีครับ มือสองก็พอครับ เอามาขับให้มีความสุขเวลาคนรอบๆตัวถอย EV มาอวดครับผม
-
ซิร็อคโค่ครับ ถนนย่น
-
ต่างจากผมนะ ผมไม่อิจฉาอัตราเร่งพวกนี้ ผมเบื่อรถไฟฟ้าฮะ ออกตัวสี่แยกที กลัวแต่ถ่านจิหมด วู้ ::)
เจอแทบทุกคัน ออกตัวยังกับกลัวถ่านจิหมด
-
ผมไม่เคยอิจฉา หรือ อะไรพวกนี้เลย
ผมไม่ได้มีส่วนได้เสีย หรือ เป็นพวกที่ว่า รถถูกกว่า รถจีน อัตรเร่งดีกว่า รถแพงกว่า รถยุโรป รถซุปเปอร์ ไม่ได้เลยเชียว
ผมมองว่า มันคือ "รถ" และ มันคือ "พาหนะ" เท่านั้นครับ
ซึ่งรถที่ผมชอบ ก็มี ไม่ใช่ไม่มี แต่การชอบรถของผม มันไม่ได้ว่า ใครแรงกว่า หรือ ถูกกว่าแต่แรงกว่า ก็ไม่ใช่ เพราะทุกคัน มันมีสเน่ห์ของมันครับ
ส่วนมันจะแรง (กว่า) รถที่แพงกว่า หรือ รถ ICE ก็ช่างมัน ดีซะอีก จะได้ไม่ต้องเอาไปทำเพิ่ม โมเพิ่ม แรงเพิ่ม ทีหลัง
ผมขับรถที่ 200 กว่าม้า(คันหลัก) มาเกือบ 10 ปี ละ
--> ถ้าจะหารถ ICE เดิมๆ อัตราเร่ง 0-100 ต่ำกว่า 5 วิ แถมราคาไม่แพงด้วยเนี่ยะ ผมว่าเลิกคิดเถอะ ว้าวุ่นป่าวๆ ครับ
--> ถ้าจะหารถ ICE อัตราเร่ง 0-100 ต่ำกว่า 5 วิ แถมราคาไม่แพง เป็นรถทำ รถโมดิฟาย มาแล้วเนี่ยะ ก็อยู่ว่าสภาพไหน ยังไง ใช้งานจริงได้ไหม เดินทางไกลได้ไหม การดูแลรักษาเป็นยังไง
โจทย์นี้ผมว่าตอนอยากได้ ก็อยากได้ แต่พอได้ไหมแล้ว ก็อาจจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นะครับ
ผมเสนอ Golf GTi จุน Stage3/4 ราคาไม่ได้แรงมาก แล้ว 0-100 ต่ำ 5 วิ แน่นอน แล้ว top speed 250++ ด้วย เรียกว่า ขับตาม supercar กรุงเทพ-ชลบุรี ถึงพร้อมๆ กันเลยครับ
-
ถ้าจะหารถ ICE ที่อัตราเร่ง 0-100 ใกล้เคียง seal, 3performance ถ้ามือ 2 ก็ต้องมี 5 ล้าน++อะครับ อย่าง GTR อะไรพวกนี้
ทีนี้ อิจฉารถไฟฟ้าเนี่ย ถ้าอิจฉาเรื่องอัตราเร่งอะโคเค แปลว่าคุณสนุกแค่ 3-4 วิ บนถนนแค่นั้น แต่รถยนต์บางทีเค้าดูกันยาวกว่านั้น
น้องๆใน office ผมออก EV มาแล้วมาขิงใหญ่โต เจอมา2ปีและ ประหยัดบ้างแรงบ้าง รู้งี้ซื้อใช้นานแล้วบราๆ
ฝนฟังแล้วหมันใส้ ท้าแข้ง กรุงเทพ-พัทยา-กรุงเทพ ถึงทีหลังเลี้ยงชาบูเอาไหม ... เห็นเงียบกันทุกราย
สำหรับผม 3 วิ ไม่ได้ชวนให้รู้สึกว่าเค้าชนะหรือดีกว่าเลย วิ่งยาวไหวไหม กดสัก 140 แช่ๆไล่ๆกันไปเนี่ยใครต้องยกก่อน ผมการันตีเลยไฟฟ้ายกก่อน ถ้าไม่ยก มันจะผิดแผนไม่ถึงตู้ชาร์จ ลำบากรถสไลท์อีก
3 วิ คนที่เค้าใช้จริงๆเค้าไม่ออกตัวไฟแดงแรงๆกันทุกครั้งหรอก รถ ICE 160ม้าบ้านๆเนี่ย อัตราเร่งไม่เท่า แต่ถ้าแข่งกันจริงๆ ผมแช่ 130-140ได้ EV คันไหนทำได้บ้าง ลองวิ่งแช่ 140+เผลอๆพัทยาก็ไม่ถึงสำหรับบางรุ่น
ลองชวนวิ่งออกทริปสักทริปสิครับ แล้วดูว่าใครต้องอิจฉาใคร
ทางสั้นอะยกให้ ทางยาวอะชนได้ทุกคัน
เคยได้ยินวลีนี้ไหมครับ "ยังต่อแถวชาร์จไฟอยู่อีกหรอ น้ำมันถึงบ้านนานแล้วนะ" ..
-
ไม่เคยอิจฉารถไฟฟ้าเลย มันแค่อัตราเร่งดูวูบวาบเฉยๆ
เช่ารถ ev ขับ ผมว่าแปปๆก็เบื่อละ
-
เร่งดีมันน่าจะต้องมาพร้อมฟิลลิ่งเบรคที่มั่นใจด้วยนะครับ ไหนจะพวงมาลัยอีก แล้วเอาจริงๆ พอได้สมรรถนะแบบนั้นแล้วมันก็ควรจะไปลงสนามให้เป็นที่เป็นทาง คนที่ผมอิจฉาจริงๆแล้วคือคนที่มีเวลาขี่รถเที่ยวไปในที่ที่อยากไปได้บ่อยเท่าที่ตัวเองต้องการมากกว่า
-
ผมนี่รีบกดเข้ามาอ่านเลย เห็นชื่อกระทู้รถไฟฟ้า
ต้องมีคนมาตอบเยอะแน่นอน (ถึงจะไม่ค่อยตอบตรงคำถามก็เถอะ)
-
ผมเฉยๆ ตอนนี้อิจฉาคนมีทองมากกว่า ใครอยากแรงแซงไปเลย
-
อิจฉาทำไมครับ อัตราเร่งเท่าไหร่แต่ถ้าขับในเมืองมันก็ไปได้แค่สั้นๆอยู่ดี แถมอันตรายกว่าเดิมอีก ;D
-
แก้ความอยากด้วยการซื้อคับ
ถ้าด้วย assumption ว่า
1. ไม่มีงบไปซื้อรถ ICE ที่ 0-100 ต่ำกว่า 4 วิ quarter mile 12 วิได้แน่ ๆ
2. เวลาแว้น มันจะแค่จากไฟแดง หรือช่วงสั้น ๆ ไม่กี่โลแค่นั้นเอง
3. ไม่ได้จะวิ่งเกิน 200 อยุ่แล้ว
4. ติด wall charge ที่บ้านได้
ด้วย requirement ตามนี้ ทุกอย่าง จัดรถ EV คับ เอาให้หายคัน แค่นั้นพอ 55
-
อยากได้ 0-100 ต่ำกว่า 4 วิ
ก็คงต้องพึ่งระบบขับ 4
เท่าที่นึกออกคือ Audi TT
เอามาจูนหน่อยเปลี่ยนโบใหม่ก็ต่ำกว่า 4 วิได้สบายๆ แถมเสียงเปลี่ยนเกียร์พรึบพรับ
งบสองล้านนิดๆน่าจะจบ
รถ ev มันก็ได้แค่ 0-100 หล่ะ
ลองดู 100-200 สิ ผมว่าช้าเป็นเต่า
-
ตอนเห็นข่าวจอดอยู่ดีๆ BYD ไฟไหม้
ตอนที่รออะไหล่กัน 3-6 เดือน
ตอนที่ปืนฟุตบาทแล้วคืนทุน แต่ไม่พอค่าตัวรถ ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก
อิจฉาเค้าไหมครับ ?
แต่ละอย่างมีทั้งข้อดีข้อเสีย
คิดดูดีๆ เหรียญมี2ด้าน
-
ผมเฉยๆนะสำหรับอัตราเร่งที่เคลมไว้เพราะในชีวิตจริงตัวอย่างรถผม 750eที่เคลมไว้0-100 4.4วิ ก็แทบไม่ได้ใช้เลย แต่จะมีข้อดีตรงที่มอเตอร์ไฟฟ้าไม่ต้องรอรอบเหมือนพวกเครื่องยนต์เท่านั้น อัตราเร่งแซงน่าจะสำคัญกว่าในความเห็นผมครับ
-
ไม่ต้องอิจฉาหรอกครับ ถ้าชอบก็ซื้อเลย ไม่ต้องแบ่งว่ามันคือ EV หรือ ICE
ถ้าใจอยากได้ และ life style เหมาะสม ได้ใช้แล้วก็น่าจะ happy ครับ
หรือไม่ก็ลองดูครึ่งทาง แบบ plug in hybrid พวก Volvo S60 ก็เร่งดีเหลือๆแล้วครับ
-
เลือกระหว่าง countryman r60 4wd, vw scirocco กับ byd sealion7
เลือกยากน่าดูเลยนะครับ
ส่วนตัวเคยใช้ r60 ค่าซ่อมมีแสนสองแสน ไม่ต่างกับใช้แล้วทิ้งเลย
Sealion7 ก็แพงไปนิดๆ ผมเลยไปออก geely ex5 มาใช้
คือแบบทำใจไว้แล้วว่าต้องใช้แล้วทิ้งแน่ๆ
ไม่คิดมากก็มีความสุขแล้ว
-
ถ้าอยากได้ pure ice feels ก็ไปดูพวก merc/audi ที่เป็น mild hybrid สิครับ เดี๋ยวนี้ merc ตัว 43 53 ก็แรงจิ๊ดแล้ว สู้ฝั่งจีนได้แทบทั้งหมดนะครับ แค่อาจจะแพ้ tesla 2 motors
หรือถ้าทนๆกับไฟฟ้าได้แบบ ไม่ถึงขนาดยี้ bev ต้อง ice ถึงเป็นรถแบบหลายๆท่านก็เลือกพวก phev ก็ได้ครับ อย่างพวก bmw รหัส m จิ๋วๆ phev ก็ไม่น้อยหน้าครับ ไม่ได้จะทำ 0-100 แข่งกับใครก็หัวติดเบาะเหมือนกัน
งงชาวท่าแซะ ออกตัวแรงกลัวแบตหมด แล้วถ้า ice ออกตัวแรง ยืมน้ำมันรถคันข้างๆมาใช้หรอครับ ตรรกะมันเหมือนกันอ่ะ กดคันเร่งเยอะ = กินพลังงานเยอะ ครับ common sense ที่ไม่รู้จะแซะทำไม งง
-
คำถามคือถ้าจะหารถ ICE.ที่ราคาพอๆกับรถไฟฟ้า แต่ให้อัตราเร่งใกล้เคียงกับ EV เหล่านั้นเลือกรุ่นไหนดีครับ มือสองก็พอครับ
ดูจากลายเซ็นต์รถที่มี a31 , supra a60 / เครื่อง jz rb , คิดว่าน่าจะชื่นชอบและสนุกกับการทำรถ
ผมเสนอ subaru impreza gc8 เอาไปทำเครื่อง หรือ mitsubishi evo รถทำ เอาไปโมเครื่องเช่นกัน
น่าจะตอบโจทย์
ออกตัวดี เพราะ น้ำหนักรถไม่เยอะ+เครื่องแรง+ระบบขับสี่
เกียร์ธรรมดา+เสียงเครื่องเสียงท่อ น่าจะได้ฟีลลิ่งที่ต้องการครับ
ผมเองก็เล็งๆ gc8 กับ evo บางรุ่นอยู่เช่นกันครับ
-
ฺฺจากโจทย์คุณ BM เป็นต้น (MB ตอนนี้ยังแพงอยู่ กลางปีนี้ไม่แน่) ครับ
ก็รู้กันอยู่ Dynamic รถไฟฟ้าไม่ดี คือ ไม่ดีมาก ๆ เลยถ้าเทียบรถ ICE (ไม่งั้นคันโคตรแรงไม่ได้แค่ปลายแถวสนาม Nubergring หรอก)
หรือคุณเห็นต่าง?
-
ถ้าเอาขับสบายเหมือนรถบ้านด้วย ไม่รู้e55kom พอไหวมั้ย 0-100คงยังสู้ขับ4ลำบาก แต่ยังพอทำได้อีกนิด
แต่ก็กินน้ำมันชนิดอยากซื้อรถไฟฟ้าแทนเลยทีเดียว555
-
เชินไป CBR1000/ZX10/GSXR1000 มือสองเลยครับ งบ 300,000 คุณได้อัตราเร่งพอๆกับ supercar
อันนี้ไม่ได้ด่านะแต่ผมเดาว่า จขกท.อายุไม่เกิน 26 เพราะตอนผมอายุน้อยกว่านี้หน่อยผมก็เป็นคล้ายๆกันครับ บ้าพลัง อยากได้แต่รถแรงม้าเยอะ จะจัด Dmax 3.0 แล้วจูนกล่อง ติดโบใหญ่
พอผมอายุแตะ 30 แล้วได้ขับรถหลายๆรุ่นนี่ทำให้รู้ตัวว่า แรงม้าไม่ใช่ทุกอย่างจริงๆ คือถ้าพูดถึงรถรุ่นเดียวกัน ต่างกันแค่แรงม้า แน่นอนว่าตัวที่แรงกว่ามักจะรู้สึกดีกว่า แต่ว่าถ้าพูดถึงรถคนละรุ่นมันไม่ได้ตอบง่ายแบบนั้น
เช่น
2021 Lexus ES300h กับ 2008 Camry 3.5Q
แน่นอนไอ 3.5Q แรงกว่าทุกมิติ แล้วถ้าถามผมตอนอายุ 20 ว่าอยากได้รถคันไหนมากกว่า ผมก็จะตอบว่า 3.5Q แน่นอน เพราะไอ ES300h อะใครจะบ้าซื้อรถขับหน้าอัตราเร่งเท่า Camry 2.5 ราคาเกือบ 4 ล้านวะ??
แต่ถ้าคุณได้ขับรถที่มี quality เทียบเท่า Lexus ES เสียงรบกวนที่หายไป ช่วงล่างที่ต่างกันฟ้ากับเหว อัตราเร่งที่เพียงพอในความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปัญหาแรงม้าไม่ถึง 300 มันหายไปเลยในสายตา
ผมเป็นคนนึงเลยที่จะไม่ยอมซื้อ EV เด็ดขาดเพราะผมได้ลองเช่า Model 3 และ Taycan กับบริษัทนึงประมาณ 14 วันเพื่อดูว่ามันดีจริงหรือเปล่า หลังจากที่มีแต่คนอวยทั้งในไทยและต่างประเทศ
บทสรุปที่ผมเรียนรู้คือ ตอนนี้ EV มันเป็นรถที่น่ารำคาญมาก จะชาร์จก็ต้องหาที่ชาร์จ แล้วถ้ามันเป็นที่ชาร์จที่ใช้กันบ่อย ก็ต้องจองคิว ไปถึงที่เสร็จ ต้องควักโทรศัพท์ออกมาอีกที บางทีสายชาร์จก็พังบ้าง ใช้ไม่ได้บ้าง ถ้าชาร์จได้ก็ต้องรออีก อย่างน้อย 30 นาที
แล้วใน 15 ปีข้างหน้า จะทำอะไรกับแบต? จะใส่แบตใหม่มันไม่ได้ราคาถูกๆนะ แค่รถ hybrid สมัยนี้เปลี่ยนแบตลูกละ 30,000 - 100,000 ยังบ่นกันแทบตาย ผมดูราคามือสอง benz 300e 350e ทั้งหลายแหลก็พอรู้อนาคตตลาดมือสอง EV แล้ว
สรุปแล้วมีอะไรให้อิจฉา ผมแค่อิจฉาคนรวยที่สามารถซื้อรถแบบนี้แล้วทิ้งขว้างให้คนทั่วไปซื้อต่อแล้วปวดหัวแทนนะสิ เพราะตอนนี้คุณซื้อรถน้ำมันมือสอง 20 กว่าปีมันไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยนอกจากค่าซ่อมทั่วไปตามสภาพ
-
ไฟฟ้ามอเตอร์คู่ที่จะมาต่อๆไป ICE หมดทางสู้ครับ im6 เริ่มละปลายปลดไปได้ 300 สบาย
-
รถ ICE ที่จะวิ่งได้ "ต่ำ 5 วิ" ที่ราคาพอๆ กับรถไฟฟ้า เช่น SL7
ก็มีแต่มือสอง และก็ "ทำเวลาจริง" 0-100 จะได้เท่าไฟฟ้าด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่รถไฟฟ้า ทำยังไงก็ได้ "ตามคุย" 4.5S ไม่ยากเลย
วิธีแก้ง่ายๆ คือ ซื้อรถไฟฟ้า
ไม่ต้องพยายามไปหา รถICE ที่ทำมา
เดี๋ยวจะยาก ตอนขายอีก..
หรืออยากประหยัด ก็หาเช่ารถไฟฟ้า มา "จี๊ด" สักวัน
ก็คงพอ "แก้คัน" ไปในระดับหนึ่ง
แต่มีอีกวิธีที่ง่ายกว่า!!! คือ "ทำใจ สบายๆ และปล่อยวาง"
ไม่เสียทั้งตังค์และความรู้สึก!!
-
Flat torqe นี่มันดีจริงๆแหล่ะ มุดสนุก ออกตัวล้อฟรี เอี้ยดอ๊าด แต่น่าเบื่อตรงแช่ยาวๆไม่ได้ ถ้าไฟกิน 20kw ขึ้น ระยะทางจะลดฮวบฮาบ ลองใช้แล้วจะรู้ ยกเว้นต่อไป fast charge แบบ 0-100% ภายใน 15 นาที + ระยะทางแบบ 400 km(เผื่อชาจตอนเหลือ 10 % วิ่งได้สัก 300 ก็ยังดี) ก็ไปได้ทั่วไทยแระ อันนั้นค่อยน่าใช้หน่อย
-
เช่าขับให้หายคันครับ ตอบโจทย์สุด ปีสองปีมานี้ผมเช่าจนเบื่อ แล้วก็จะเลิกสนใจ EV ไป พอรู้สึกคันใหม่ก็เช่าใหม่ครับ เสียตังค์หลักหมื่นแต่ประหยัดตังค์ค่าซื้อรถใหม่ไปเป็นล้านครับ 555
-
พวกอัตราเร่ง ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่คนขับรถเร็วแบบนั้น ถ้าจะอยากได้รถไฟฟ้า น่าจะเป็นเรื่อง tech ภายในห้องโดยสารมากกว่า