Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: love street ที่ พฤษภาคม 28, 2025, 11:56:37
-
ถ้าเกิดอีก 5-6 ปีข้างหน้า รัฐบาลทำ คิดว่าจะมีผู้ผลิตรถยนต์ แบรนด์ไทยถึง 3 แบรนด์ไหม ส่วนตัวผมอยากจะทำโดยขอทุนกู้ยืมจากรัฐบาล ไปทำสัญญากับบริษัทญี่ปุ่นสักแห่ง แล้วทำรถยนต์ hypercar ซักคัน เครื่อง v6 3.0l twin turbo 600 hp วางกลาง แชสซีส์คาร์บอนโมโนค็อก ขับสี่ เกียร์ dual clutch 8 speed น้ำหนักรถ 1200 กิโลกรัมหรือน้อยกว่า ผลิตในไทย 80% ขึ้นไป
ราคารวมภาษี 150% ของไทย ราคา 8 ล้าน
เพื่อให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูแพง และจะส่งรถรุ่นนี้ไปลงแข่งรายการ fia gt1 , lmp1 , pike peak ด้วย
แล้วหลังจากนั้นค่อยเปิดตัวรถในคลาสไล่ระดับราคาลงมา supercar , gt , super sport , sport , coupe , roadster
คาดภายใน 10 ปี จะเปิดตัว รถรุ่นเริ่มต้น coupe ราคา 1 เริ่มล้านนิดๆ ถึงสุดที่ สองล้านนิดๆ เครื่อง 2.0l n/a , turbo , hybrid ท้าชน 4 series , cle , a5
แล้วพี่ๆคิดว่าจะมีคนคิดเหมือนผมมากน้อยแค่ไหนครับ
-
เรื่องรถแบรนด์ไทย น่ะ เค้ามีคนคิดกันมาตลอดแหละ ... แต่ที่มันยังไม่เกิดหรือไม่ทำกัน เพราะเค้าคิดมากกว่าที่น้องคิดเยอะ
ทำมาขายใคร
ทำแล้วใครจะซื้อ
ใช้เงินเท่าไร
และสุดท้ายลองถามตัวเองดู ถ้ามีคนทำขายขึ้นมาจริงๆ เราจะซื้อไหม
มันมีอีกมากมายที่น้องยังคิดไม่ถึงอีกเยอะมากกกกกกกกกก ไม่ใช่แค่ สร้างแบรนด์โดยการเอาไปแข่งแล้วคนจะยอมรับ
ทำไมคนไทยต้องซื้อ hypercar แบรนด์ไทย แทนที่จะไปซื้อ ferrari หรือรถแบรนด์ดังจากเยอร์มัน
แค่ยางรถยนต์ Deestone ล้อแม็ก Lanso คนไทยยอมรับกันแค่ไหน ตอนนี้รถน้องที่บ้านใช้ 2 ยี่ห้อนี้อยู่ไหม ถ้าตัวเองยังไม้ใช้ อย่ามาร้องหารถยนต์แบรนด์ไทยเลย
-
ถ้าคนเก่งๆระดับจขกท.ยังไม่สามรถพัฒนาความคิดให้ตามโลกความจริงให้ทันได้ ก็ยากจะหวังว่าจะมีไฮเปอร์คาร์เกิดในเมืองไทยได้นะครับ
-
ตั้งกระทู้มาให้เชือดแท้ๆ แย้เลยแบบนี้ เลือดสาดแน่
อาจจะต้องหาห้องถามใหม่ครับ แบบห้องคนรุ่นใหม่ สนใจสตาทอัพ แนวคิดสุดโต่งแบบพี่อีลอน
ถามในนี้ ก็...นะ
-
ประเทศไทยมีแบรนด์ Tera แล้วนะครับ
Hyper Car เหมือนที่คุณคิดไว้เลย
-
ขาย อเมริกา 16 ล้าน เท่าๆ ferrari 296 speciale
ขายยุโรปใต้ เช่น อิตาลี 11 ล้าน เท่าๆกับ ferrari f8 tributo
ขายญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ 10 ล้าน พอๆกับยุโรป
ขาย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ 10 ล้าน เหมือนกัน
ขายไทย 8 ล้าน พอๆกับ gtr
-
ก็ไม่เข้าใจ คอมเม้นบนๆ จขกท แค่โพสถาม แสดงความคิดของเขาเฉยๆ โดยไม่ได้ไปพาดพิงหรือต่อว่าใคร ทำไมต้องว่าเหมือนเขาไปทำอะไรผิดมา
ผมตอบสั้นๆ แบบนี้ละกัน
ทุกอย่างทำได้หมดแหละ ถ้ามีเงินทุน วิธีการที่คิดมา มันก็ไม่ผิดและถ้าคิดจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้บนๆ มันก็น่าจะเวิร์ค แต่...อาจจะใช้ไม่ได้กับปัจจุบันนี้ ต้องถอยไปสัก 30 ปีที่แล้ว ที่ยังไม่มีแบรนด์รถยนมากมายขนาดนี้อยู่ในตลาด
-
ถ้าตามอ่านกระทู้เก่าๆของเค้าครบน่าจะเข้าใจมากกว่านี้
เค้าทำลายกำลังใจแฟนพันธุ์แท้หลายๆคนที่คอยเพียรตอบคำถามอย่างละเอียด
แล้วเค้าก็มาเริ่มคำถามใหม่แบบไม่ได้มีพัฒนาการทางความคิดเลย ทุกคำถามมุ่งแต่ตอบสนองจินตนาการส่วนตัว
ไม่นับที่ตั้งกระทู้แล้วแทบไม่เคยกลับมาเพิ่มเติมข้อมูลหรือตอบคำถามใดๆเพิ่มเติม เข้าใจว่าคงรู้สึกดีที่มีคนมาแลกเปลี่ยนให้ความรู้กันเยอะแยะแล้วอิ่มเอมจนไม่อยากทำอะไรต่อ555
ต้องขออภัยที่ทำให้บรรยากาศในชุมชนไม่ดี พอดีรู้สึกว่าอยากให้จขกทได้แสดงถึงการพัฒนาจนทำความฝันได้จริง อย่ามัวแต่ฝันอยู่หน้าจอ ออกไปทำอะไรซักอย่าง
เข้าใจว่าteraเองก็ไม่เคยมานั่งถามย้ำๆจนกระทั่งทุกอย่างประสบความสำเร็จ เค้าคงทำงานหนักกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
-
ต้องขอโทษที่ถามหลายรอบนะครับ ตอนนี้ผมกำลังจะสร้างกลุ่มและหาคนสนใจแบบเดียวกับผม เริ่มจากม.เกษตร ศรีปทุม ไทยญี่ปุ่น เนื่องจากช่วงนี้น่าจะมีคนว่างงานหรือกำลังเรียนและสนใจไอเดียนี้ บ้านผมก็อยู่ใกล้ ม.เกษตรด้วย นั่งกะป๊อต่อเดียวไปถึง
ขออภัยอีกครั้งครับ แล้วก็หาคนสนใจในนี้ด้วยครับ เดี๋ยวผมจะสร้างกลุ่มใน facebook นะครับ
-
https://www.facebook.com/groups/2470217459983282/?ref=share&mibextid=NSMWBT
-
ถ้าผมมองผิดหรือล่วงเกินเจ้าของกระทู้ ก็ขออภัยด้วยครับแค่อยากให้ท่านได้ทำความฝัน จะสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง แค่ได้ทำผมมองว่ามันจะให้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าแก่ท่านครับ
-
ไม่แน่ใจว่าทำงบประมาณในการผลิตวิจัยมันจะสูงแค่ไหนนะครับ แต่พอโครงการอยู่ในมือของรัฐ ผมคิดว่าความน่าเชื่อถือขององกรณ์ยังน้อยกว่าสนับสนุนโดนบริษัทมหาชน เสียอีกครับ
ถ้าจะเอางบที่ได้จาก รายได้ของรัฐหรืออีกมุมนึงภาษี เพื่อไปพัฒนา Hyper Car จะมีคนไทยกี่คนที่จะซื้อ แล้วมันจะได้กำไรจริงหรือ
มองว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมครับ เหมือนกรณี ปฏิทิน ของประกันสังคมนั้นแหละ
เอาเงินไปพัฒนาสาธารนูปโภคที่ให้คนหมู่มากเข้าถีงน่าจะดีกว่าครับ
แล้วทำไม บริษัทญี่ปุ่นที่มีองค์ความรู้ต้องมาร่วมมือกับเรา?? ในเมื่อเขาเองน่าจะมีศักยภาพที่จะทำได้เองอยู๋แล้ว และมีตัว Brand ที่แข็งแรง...
อย่าง Lexus-LFA toyota ยังประกาศว่าเปนโปรเจคที่ขาดทุน
ราคา
เราไม่สามารถที่จะตั้งราคาแต่ละภูมิภาคให้ต่างกันได้ครับ อาจคิดเป็นค่าขนส่งอะไรเข้าไปกับภาษีที่ต้องเสียที่ปลายทาง ซึ่งปรกติ us น่าจะเก็บส่วนนี้น้อยมาก ทำให้รถแพงๆ ราคาไม่สูงมากใน usa
ถึงแม้จะผลิตในไทยก็ตาม ผมยังคิดว่า รวมค่าขนส่งภาษีต่างๆแล้ว รุ่นเดียวกัน ผลิตส่งไปขายใน us จะถูกกว่าไทยครับ (ยกเว้น ทรัปม์จะมาเล่นภาษีส่วนนี้นะ)
ถ้าอ้างอิงจากราคาขายไทย 8 ล้าน น่าจะประมาณ bmw m4 ซึ่งราคาใน us ขายอยู่ที่ $80,000 ประมาณ สามล้านเท่านั้นครับ
เอาง่ายคือราคาไทยจะ 3 เท่าของราคา us
รถระดับ 16 ล้านบาท ที่ usa คือกลุ่ม 296/Cullinan/720s ในไทยก็ว่ากันที่ 30-40 ล้านครับ มั่นใจแค่ไหนว่าเรามีศักยภาพ ที่จะแข่งกับเขาได้ครับ
หรือถ้าทำได้ดีเท่าเขา ทำไมคนต้องมาซื้อของเรา...
รถไทยทำ ที่ไม่รุจะมี aftersale นานแค่ไหน 8 ล้าน ได้ 6 สูบ 600ม้า ผมไป m-car/amg ดีกว่าครับ
แรงม้าอาจไม่สูงเท่า แต่หลายๆอย่างน่าไว้ใจกว่า
-
https://www.youtube.com/watch?v=aNLf6ilVoEc
แปะลิ้งค์มาให้ชมครับ คลิปนี้ เล่าได้ละเอียด สาเหตุทำไมรถยนต์แบรนด์ไทยถึงไม่เกิด และรถยนต์แบรนด์ไทย เค้าเคยมีแล้ว แต่คนไทยไม่ซื้อ ลองเสียเวลาชมให้จบแล้วน้องลองไปคิดต่อนะว่า ทำยังไงให้คนไทยยอมรับสินค้าไทยให้ได้ก่อน นั่นคือโจทย์หลักสำคัญของสินค้าไทยทุกชนิดเลย
-
ขอบคุณมากครับพี่ๆ ผมพึ่งเคยเห็นเหมือนกัน ผมเกิดปี 98 อาจจะจำความไม่ได้ว่ามี แต่เคยได้ยินคนพูดในนี้อยู่ vmc
ส่วนตัวคิดว่ารถกระบะ ต้องเน้นใช้ถึกๆ ทนๆ ศูนย์บริการเยอะๆ อะไหล่หาง่าย ราคาถูก เพราะคนซื้อไปใช้งานหนัก และคนที่ซื้อก็มีกำลังซื้อไม่มาก
ส่วนรถของผม ผลิตน้อย ราคาสูง เป็นรถสะสม ขับไปมิตติ้ง ซิ่งได้แบบรถ supercar ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่บ่อย ศูนย์บริการไม่ต้องเยอะ ไม่ได้ใช้งานหนัก คนที่ซื้อมีกำลังซื้อสูง ซื้อเพราะชอบ ดีไซน์ สไตล์ ไอเดีย แล้วเก็บสะสม ผลิตต่อรุ่นน่าจะไม่ถึง 1000 คัน รุ่นใหม่ก็ยังสามารถเปลี่ยนแบบ major change ได้ โดยใช้วิศวกรรมเดิม ปรับปรุงเฉพาะ เครื่องให้ดีขึ้นตามยุค
-
น้องๆ สมาชิก มาแสดงความเห็น
คอมเมนต์บนๆ เกรี๊ยวกราด เหมือนโกรธอะไรมา ;D ;D ;D
-
เอาแค่นี้ก่อนนะครับ
ที่ว่าจะขอกู้ยืมเงินรัฐบาลมาทำรถ
จะยืมเท่าไหร่ดีครับ ลองบอกพวกเราในนี้หน่อยสิครับว่าจะยืมเท่าไหร่ กี่บาท
-
ถ้าเกิดอีก 5-6 ปีข้างหน้า รัฐบาลทำ คิดว่าจะมีผู้ผลิตรถยนต์ แบรนด์ไทยถึง 3 แบรนด์ไหม ส่วนตัวผมอยากจะทำโดยขอทุนกู้ยืมจากรัฐบาล ไปทำสัญญากับบริษัทญี่ปุ่นสักแห่ง แล้วทำรถยนต์ hypercar ซักคัน เครื่อง v6 3.0l twin turbo 600 hp วางกลาง แชสซีส์คาร์บอนโมโนค็อก ขับสี่ เกียร์ dual clutch 8 speed น้ำหนักรถ 1200 กิโลกรัมหรือน้อยกว่า ผลิตในไทย 80% ขึ้นไป
ราคารวมภาษี 150% ของไทย ราคา 8 ล้าน
เพื่อให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูแพง และจะส่งรถรุ่นนี้ไปลงแข่งรายการ fia gt1 , lmp1 , pike peak ด้วย
แล้วหลังจากนั้นค่อยเปิดตัวรถในคลาสไล่ระดับราคาลงมา supercar , gt , super sport , sport , coupe , roadster
คาดภายใน 10 ปี จะเปิดตัว รถรุ่นเริ่มต้น coupe ราคา 1 เริ่มล้านนิดๆ ถึงสุดที่ สองล้านนิดๆ เครื่อง 2.0l n/a , turbo , hybrid ท้าชน 4 series , cle , a5
แล้วพี่ๆคิดว่าจะมีคนคิดเหมือนผมมากน้อยแค่ไหนครับ
รูปรถเนี่ยครับ อยากทำรถแบบนี้ใช่มั้ย เห็นวาดด้วยดินสอบนกระดาษ มันแบน ๆ มองไม่ออกหรอกครับว่าสวย น่าขับมั้ย
เบื้องต้นลอง level up หน่อยมั้ยครับ ลองวาดเป็น 3D บน CAD software จะได้หมุนดูได้รอบ ๆ
ลองทำตรงนี้ก่อนสิครับ ไปหาคอร์สเรียนเขียน 3D CAD ก่อนก็ได้ แล้วค่อยมาวาดรถสวย ๆ ที่อยากทำ
ลงทุนซื้อคอมพ์ใหม่ที่ Run CAD ไหว ตัว Software ถ้าให้ดีต้องซื้อแบบมี License industrial นะครับ
อย่าใช้ของเถื่อน เพราะจะทำรถขาย มาโดนจับได้ตอนหลัง จะทำให้เสียความน่าเชื่อถือ ขายรถไม่ได้ ลูกค้าต่างชาติซีเรียสเรื่องนี้ครับ
-
ก่อนจะหางบ ลองหาลูกค้าก่อนครับ 8 ล้านกับ รถ ยี่ห้ออะไรก็ไม่รุ้ ผลิตจำนวนกำจัดมากๆ
ผลิตน้อย ราคาสูง เป็นรถสะสม ขับไปมิตติ้ง
- ของสะสม คือรถที่มันมีที่มา มี story ครับ ไม่ใช่เพียงแค่ว่า spec มันคุ้มแล้วคนจะซื้อ
ซิ่งได้แบบรถ supercar ทั่วไป
- อยากให้ลองขับรถที่ดีๆ ก่อนครับ แล้วคิดว่า ทำเครื่องยนต์ช่วงล่างให้ดีแบบเขาได้ไหม ทำไมกระบะซิ่งต้องยกเวลาเจอโค้ง ทั้งๆที่ช่างไทยเก่งเยอะแยะ
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่บ่อย ศูนย์บริการไม่ต้องเยอะ ไม่ได้ใช้งานหนัก
- แล้วถ้าต้องการอะไหล่ หาได้หรอครับ??
คนที่ซื้อมีกำลังซื้อสูง ซื้อเพราะชอบ ดีไซน์ สไตล์ ไอเดีย แล้วเก็บสะสม
- คนรวย ที่ใช้เงินฟุ่มเฟื่อย ไมไ่ด้มีเยอะครับ ของแบรนเนม นาฬิกา รถหรู มันยังมีมูลค่าของมัน แล้วในงบเท่าๆกันมีตัวเลือกอื่นที่ ใช้แล้วเท่ห์กว่า ขายต่อก็ยังมีราคา ทำไมถึงต้องเลือกอะไรก็ไม่รุ้ครับ??
ผลิตต่อรุ่นน่าจะไม่ถึง 1000 คัน
- คิดว่าพอได้กำไรหรอครับ???? ในปีที่แล้ว suzuki ในไทยขายได้ 5000 คัน จากรถหลายรุ่น ที่ลากขายมานานแล้วไม่ต้องวิจัยใหม่ ยังยุบไลน์ผลิตในไทยนะ เลยนะครับ ขายในไทย 8 ล้าน หักภาษีออกไปแล้ว ต้นทุนเท่าไหร่ กำไรต่อคันเท่าไหร่???
-
ในการทำ product อะไรสักอย่างสิ่งที่ทำมันคือการสอบไฟนอลทำโปรเจคจบ
ผมบอกได้เลยว่าถ้าทำเล็กๆแล้วคิดว่าราคาเท่ากับที่เขาทำมาได้
คุณภาพของสินค้าจะแตกต่างกันอย่างมากกับคู่แข่งระดับเดียวกันแบบชัดเจนมากๆ
อย่างราคา 16 ล้านต่อคันเริ่มต้นใหม่สั่งทำทีละชิ้นอาจจะได้แค่ vios สักคันหรือดีไม่ดียังไม่ได้สักคันเลยด้วยซ้ำ
ยังไม่ต้องหวังไกลขนาดซุปเปอร์คาร์
นี่คือความต่างของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำสั่งสมประสบการณ์ใช้เวลาในการเฟ้นหาของหาเทคโนโลยีมารวมกัน
ตัวรถแน่นอนว่าสู้ไม่ได้แน่ส่วนตัวแบรนด์ถ้าจับพลัดจับผลูติดตลาดได้หน่อยก็จะมีโอกาสตามรอยแบรนด์ neta สูง
ตอนนี้ในจีนมีแบรนด์รถยนต์ประมาณ 90 กว่า แต่ละคนแต่ละแบรนด์ถามว่าเก่งไหมตอบได้เลยว่าเก่งกันทุกคน
แต่คนเรามันไม่ได้เก่งกันทุกด้าน ถ้าเราเก่งเครื่องยนต์เราอาจไม่เก่งการออกแบบ ถ้าเราเก่งออกแบบเราอาจจะไม่เก่ง material เราเก่งแมททีเรียลเราอาจไม่เก่งการตลาด ฯลฯ
เบื้องต้นดูจากอายุคิดว่าอย่าเพิ่งรีบเป็นหัวหมาเลย เอาความทุ่มเทไปเป็นหางพยัคฆ์หรือหางมังกรให้ได้ก่อน
ไปสั่งสมประสบการณ์ในบริษัทรถยนต์ใหญ่ๆให้ได้ มองภาพรวมให้ออก
ปลเอาภาพวาดของน้องไปให้ AI วาดเล่นดูครับ
-
ถ้าจะกู้ จะกู้เท่าไหร่ และอะไรคือหลักทรัพย์ค้ำประกันครับ Knowhow / Technology / ิother asset ? มีพร้อมหรือยังครับ แล้วทำไมต้องมุ่งไปสร้าง Hypercar เลยครับ รถระดับนั้น Technology สูงกว่ารถทั่วไปเยอะครับ ที่เอยถึง VMC รายนี้มีทั้ง Knowhow จากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนมาก่อนให้กับรถยนต์หลายยี่ห้อ มีประสบการณืกว่า 30 ปี มีเงินทุน Back Up ระดับหลายร้อยถึงพันล้าน มีโรงงานเป๋็็น Asset ของตัวเอง ยังสู้ได้ราวๆ 2-3 ปี อาจจะโชคไม่ดีส่วนหนึ่งเพราะเริ่มช่วงก่อนต้มยำกุ้งนิดหน่อย หรือรถ sport ก่อน Terra ก็มีมาแล้วอย่าง Attum ทำมาถึง 3 version และขายจริง จดทะเบียนจริงไปบางส่วนด้วยในไทยและหยุดไปช่วงต้มยำกุ้ง หรืออย่าง Iccarus ที่รถต้นแบบเสร็จวิ่งได้ในก็กลุ่มทุนระดับหลายร้อยล้านที่ทำไปแล้ว ก่อนจะขอให้รัฐบาลปล่อยกู้ไปศึกษา โครงสร้างทั้งหมดทั้ง Technology+ financial +Business plan ทั้งหมด ก่อนและทำจริงๆเป็น Proposal ไปไม่ใช่รูปวาด + คำบรรยาย 4 บรรทัดพร้อมตัวเลขที่ไม่มี Back Up / Research support เลย แบบนี้ไม่ต้องขอกู้ครับแค่ Project จบนักศึกษาถ้าไม่มีมาก็ไม่ผ่านแล้วครับ
-
เพิ่มครับเรื่องทีมแข่งลองไปดู Case Mazda ใน Leman ก็ได้ครับว่าใช้เงินเท่าไหร่และกี่ปีถึงจะสำเร็จครับ และจะทำทีมแข่งนี้ต้องขอกู้รัฐบาลหรือไม่ครับ
ปล2 ถ้า Proposal ชัดเจนมีต้นแบบจริง ลองไป sharktank thailand ก่อนก็ได้ครับนั้นระดับมหาเศรษฐี / นายทุนที่พร้อม Funding นะครับ ไม่ต้องรอรัฐบาลให้กู้ครับ
-
การลงแข่งขันแต่ละรายการ ใช้เงินเยอะมากๆๆ
เหมือนละลายเงินทิ้งเลย
ไทยก็เคยเป็นเจ้าของ ระดับ supercar
ยี่ห้อ venturi สัญชาติฝรั่งเศส นะ
ขนาดระดับมหาเศรษฐีไทย ที่ไม่ได้ปั้น brand ใหม่
ยังไปต่อไม่รอดเลย
-
เหมือนตั้งโครงการมาเผื่อผันงบออกมาใช้ ทำได้ไม่ได้ ไม่สำเร็จก็เท่านั้น เอาเงินตรงนี้ไปสนับสนุนการศึกษาให้เด็กไทยมีความรู้ ดีกว่าครับ
-
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับพี่ๆ เดี๋ยวผมจะลองฝึกใช้ cad 3d ครับ
เรื่องต่นทุนถ้าไม่รวมค่าวิจัยและพัฒนา รวมทั้งค่าเครื่องจักรผลิต น่าจะคันละ 3 ล้านครับ
ขายสมมุติ 800 คัน รุ่นปกติ 600 คัน รุ่นพิเศษอีก 200 คัน ราคาไทยแพงกว่ารุ่นปกติ 1 ล้าน จะได้
(5,000,000×600)+(5,500,000×200)=3000+1100=4100 ล้านครับ หักลบกับที่ขอกู้รัฐบาลมา 6000 ล้าน ขาดทุน 1900 ล้านครับ
แต่เครื่องยนต์ แชสซีส์ เครื่องจักรผลิต โรงงาน เทคโนโลยีอื่นๆสามารถใช้ได้อีกครับ (เหมือน koenigsegg ที่มี cc8s ccr ccx agera ครับ)
งบนี้ไม่รวมค่าทำรถลงแข่งนะครับ แต่อาจจะไปหาดูก่อนว่ามันใช้งบเกินที่คิดไปมากน้อยแค่ไหน
-
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับพี่ๆ เดี๋ยวผมจะลองฝึกใช้ cad 3d ครับ
เรื่องต่นทุนถ้าไม่รวมค่าวิจัยและพัฒนา รวมทั้งค่าเครื่องจักรผลิต น่าจะคันละ 3 ล้านครับ
ขายสมมุติ 800 คัน รุ่นปกติ 600 คัน รุ่นพิเศษอีก 200 คัน ราคาไทยแพงกว่ารุ่นปกติ 1 ล้าน จะได้
(5,000,000×600)+(5,500,000×200)=3000+1100=4100 ล้านครับ หักลบกับที่ขอกู้รัฐบาลมา 6000 ล้าน ขาดทุน 1900 ล้านครับ
แต่เครื่องยนต์ แชสซีส์ เครื่องจักรผลิต โรงงาน เทคโนโลยีอื่นๆสามารถใช้ได้อีกครับ (เหมือน koenigsegg ที่มี cc8s ccr ccx agera ครับ)
งบนี้ไม่รวมค่าทำรถลงแข่งนะครับ แต่อาจจะไปหาดูก่อนว่ามันใช้งบเกินที่คิดไปมากน้อยแค่ไหน
พอบอกได้ไหมครับคร่าวๆก็ได้ว่าต้นทุนคันละ 3,000,000 บาทมาจากอะไรบ้าง Fix cost มีอะไรบ้างประมาณเท่าไหร่ต่อปีต่อเดือน VC มีอะไรบ้าง Unit ละเท่าไหร่ ต้นทุนทางการเงิน WACC มาจากไหนเป็นอย่างไร depreciation คิดแบบใด (Streight Line / double decline ect ) ถึงได้ต้นทุนคันละ 3m มาครับ
-
ผมว่ารถแบรนด์ไทยถ้าจะเกิดได้ต้องมีความแตกต่างจากรถที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด อย่างมิตซูโอกะที่เอารถแบรนด์อื่นมาทำใหม่ให้แตกต่าง มันทำให้มีจุดเด่น จุดขาย แล้วมันก็ขายความต่างนี่แหละครับ สมัยก่อนไทยรุ่งก็ทำแบบนี้ เอารถโตโยต้ามาทำต่อ ก็ขายได้ ทีนี้พอแบรนด์รถกระโดดเข้ามาทำเองก็เลยทำให้ไทยรุ่งต้นทุนสูงกว่าก็เลยสู้ไม่ได้ แนวคิดนี้อาจเป็นการนำรถที่มีอยู่แล้วอย่าง civic มาเปลี่ยนกระดองใหม่ให้เป็นรถสปอร์ตแล้วจูนปรับปรุงเครื่องยนต์ช่วงล่างให้แรงขึ้นขับสนุกขึ้น หรืออัลติสมาทำให้เป็นรถแนวเรโทร(แบบมิตซูโอกะ) ผมเชื่อว่าขายได้แน่นอนในราคาไม่แพงด้วย ผมว่าตลาดนี้ยังเปิดกว้างอยู่ แล้วพอมีชื่อเสียง + มีทุน และสามารถระดมทุนได้ก็ค่อยผลิตรถแบรนด์ของตัวเองออกมา รถไฟฟ้าเดี๋ยวนี้ทำง่ายจะตายไป ปัญหาเดียวคือจะขายได้มั้ย
-
แม่พิมพ์ฝากระโปรงรถญี่ปุ่นบ้านๆเนี่ย ตัวละเกือบล้านแล้วครับ ยังไม่รวม ประตู ฝาท้าย ไหนจะแม่พิมพ์ชิ้นงานพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบอื่นๆอีก
นี่ยังไม่รวมเครื่องฉีดพลาสติก เครื่องปั๊มอลูมิเมียม ราคาร่วม10ล้าน
และที่สำคัญ กู้รัฐ 6พันล้าน มีทรัพย์ไปค้ำให้เค้าหรอครับ กู้รัฐฯกู้ธนาคาร เราต้องมีทรัพย์สินค้ำประกันครับ เดินไปแบมือขอเค้า หรือบอกผมมีที่ดินอยู่ 3 ไร่จะขอกู้ 6พันล้าน มันไม่ได้นะ บริษัทฯระดับมหาชนจะข้อกู้สัก 1 พันล้านยังยากเลย เอาหุ้นไปค้ำเอาตึกไปค้ำเค้ายังไม่ให้เลย
-
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับพี่ๆ เดี๋ยวผมจะลองฝึกใช้ cad 3d ครับ
เรื่องต่นทุนถ้าไม่รวมค่าวิจัยและพัฒนา รวมทั้งค่าเครื่องจักรผลิต น่าจะคันละ 3 ล้านครับ
ขายสมมุติ 800 คัน รุ่นปกติ 600 คัน รุ่นพิเศษอีก 200 คัน ราคาไทยแพงกว่ารุ่นปกติ 1 ล้าน จะได้
(5,000,000×600)+(5,500,000×200)=3000+1100=4100 ล้านครับ หักลบกับที่ขอกู้รัฐบาลมา 6000 ล้าน ขาดทุน 1900 ล้านครับ
แต่เครื่องยนต์ แชสซีส์ เครื่องจักรผลิต โรงงาน เทคโนโลยีอื่นๆสามารถใช้ได้อีกครับ (เหมือน koenigsegg ที่มี cc8s ccr ccx agera ครับ)
งบนี้ไม่รวมค่าทำรถลงแข่งนะครับ แต่อาจจะไปหาดูก่อนว่ามันใช้งบเกินที่คิดไปมากน้อยแค่ไหน
เบิกเครื่อง gm lt4 + 6at จาก corvette z06 มาใส่ ก้อ เฉียดล้านแล้วครับ ตาม spec ได้ 640 ม้า
ช่วงล่าง ถ้าใส่ kw v3 โช๊คอย่างเดียวก็ แสนกลางๆแล้ว ยังไม่รวมชุดแพหน้า หลัง
ชุดล้อและยาง รวมๆกัน ยังไงน่าจะถึง 5 แสน
ระบบไฟ ส่องสว่าง แปลงรุ่นอื่นมาใส่ อีกสัก 1 แสน
คิดว่างบที่เหลืออีก 1.5 ล้าน เพียงพอกับการ ทำโครสร้าง carbon fiber และการตบแต่งภายใน ไหมครับ??
และต้องเปนโครงที่มีการวิเคราะการกระจายน้ำหนัก ไม่ใช้งานแบบฝาคาบอนที่วางตาม mold นะครับ
3 ล้าน หารถมือสอง ยุคใหม่ๆ ที่มี 600 ม้าจากโรงงาน ยังไม่ง่ายเลยครับ
-
ยังอยู่ในฝันเหมือนกระทู้เก่าๆ ยังไม่มีlogic อะไรที่ชัดเจนเหมือนเดิม วิธีการออกแบบ การคำนวนต้นทุนต่างๆ ลองไปเรียนหรือหาความรู้การทำ busisiness plan คร่าวๆก่อน แล้วค่อยเอาหลักการตามที่เรียนรู้มาคุยจะได้ประโยชน์กว่า
-
ผมว่าจอดตั้งแต่เรื่อง Patent แล้ว ระบบช่วงล่าง เครื่อยนต์ ส่งกำลังพวกนี้มันมีคนถือ Patent ไว้เกือบหมด คุณจะดีไซน์ของใหม่ที่ยังไม่เคยใช้เลยผมว่ายาก ครั้นจะจ่ายค่า Patent พวกนี้เค้าก็เก็บแพงจนไม่คุ้ม
-
3 ล้านคือตัวรุดิบๆ ไม่รวมอะไรเลยครับ คิดแค่วันดุกับค่าเสื่อมเครื่องจักร ค่าของสั่งเข้ามาประกอบ หรือ ค่าของผลิต ดิบๆเลยครับ อย่างคนที่นำแชสซีส์ crown มาทำรถสปอร์ตก็ 1 ล้าน แต่ใช้ handmade ผมเลยคิดว่าถ้ามีค่าเสื่อมเครื่องจักร+ใช้วัสดุเกรดดี+ค่าสั่งของที่ผลิตเองไม่ได้มาลงรถรวมไปแล้ว 3 ล้านครับ
ค่านำเข้าเครื่องจักรผลิตจากญี่ปุ่น ค่าวิจัยและพัฒนา ค่าจ้างคนงาน ไม่รวม ครับ
-
3 ล้านคือตัวรุดิบๆ ไม่รวมอะไรเลยครับ คิดแค่วันดุกับค่าเสื่อมเครื่องจักร ค่าของสั่งเข้ามาประกอบ หรือ ค่าของผลิต ดิบๆเลยครับ อย่างคนที่นำแชสซีส์ crown มาทำรถสปอร์ตก็ 1 ล้าน แต่ใช้ handmade ผมเลยคิดว่าถ้ามีค่าเสื่อมเครื่องจักร+ใช้วัสดุเกรดดี+ค่าสั่งของที่ผลิตเองไม่ได้มาลงรถรวมไปแล้ว 3 ล้านครับ
ค่านำเข้าเครื่องจักรผลิตจากญี่ปุ่น ค่าวิจัยและพัฒนา ค่าจ้างคนงาน ไม่รวม ครับ
เขาไม่เรียกต้นทุนครับคิดแค่นี้เรียกเจ๊งครับ คุณไม่รวมต้นทุน Cover ทั้งหมดมาตั้งราคาไม่ต้องทำรถคันละ 10 ล้านครับขายข้าวแกงจานละ 50 ถ้าคิแค่ค่าวัตถุดิบอย่างเดียวไม่คิดค่าที่ค่า gas เจ๊งครับ คุณใช้ Handmade ไม่คิดค่าแรงคนงานเลยหรือครับหรือคุณประกอบ 2 มือโดยคุณคนเดียวทุกคัน Handmade เนี่ย Defect เยอะนะครับเพื่อ Cost ความเสียหายจาก Defect ไว้หรือเปล่าครับ ผลิตแล้วขายเลยไม่ต้อง Stock ไม่มีต้นทุนจัดเก็บอีก อย่าว่าแต่นักลงทุนเลยครับแค่งาน Thesis นักศึกษาหรือคนในทีมผมตอบแบบนี้ผมให้หาข้อมูลมาก่อนครับแก้ก่อนครับไม่ต้องถึงขั้นกู้อย่าว่าแต่ 6พันล้านเลยครับ 60000 ก็ไม่รอดครับ
-
อีกนิดสมการบัญชีพื้นฐาน Asset = Liabilty +Owners'q equity คุณกู้ 6000 ล้าน เป็น Asset 6000 ล้านไม่มีส่วนคุณเองเลย สมการแบบนี้อุดมคติครับ ในความเป็นจริงส่ง BS มาแบบนี้ไม่มีใครรับได้กันครับ
-
ค่า r&d 2000 ล้าน
ค่าเครื่องจักรและโรงงาน 1500 ล้าน
ค่าจ้างคนงาน 1000 ล้าน
ค่าซัพพลายเชนจ์ 500 ล้าน
ค่าโฆษณา 1000 ล้าน
ในเวลาสามปีแรก
กำไร 3 ปีแรก ขายได้ราว 300 คัน
5,000,000 × 300 = 1500 ล้าน
ขาดทุนสะสม 4500 ล้าน
ปีที่ 4-6 เปิดตัวรุ่นพิเศษและลิมิเต็ดและรุ่นลงแทร็ค ขายควบไปกับรุ่นปกติ
กู้อีก 3000 ล้าน ขายได้ 300 คัน คันละเฉลี่ย 20 ล้าน ต้นทุนเฉลี่ย 5 ล้าน กำไรประมาณ
15,000,000 × 300 = 4500 ล้าน
ขาดทุนสะสม 3000 ล้าน
ปีที่ 5 เปิดตัวรุ่นที่สองขาย 3 ปี
กู้ 4500 ล้าน กำไรต่อคัน 8 ล้าน ขาย 300 คัน
ขาดทุน 4500 - 2400 = 2100 ล้าน
ขาดทุนสะสม 5100 ล้าน
ปีที่ 7 เปิดตัวรุ่นพิเศษ รุ่นเปิดประทุน รุ่นแทร็ค รุ่นลิมิเต็ด ขายได้รวมเฉพาะ ปีที่ 7 ได้ 160 คัน
กำไรเฉลี่ยคันละ 15 ล้าน ได้
กำไร 2400 ล้าน
ขาดทุนสะสม 5100 - 2400 = 2700 ล้าน
จะเห็นว่าตัวเลขขาดทุนสะสมช่วงหลังลดลง และค่าโฆษณาในปีที่ 7 จะลดลงเล็กน้อย
-
ผมว่าเริ่มต้นลงทุนจากหา AI สักเจ้าเป็นที่ปรึกษาก่อนครับ :-\
คุณจะได้ขัดเกลาแนวทางหรือคำตอบที่เป็นรูปธรรมกว่านี้ แล้วค่อยมาคุยกันอีกที
----------
การประเมินโอกาสรอดเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับธุรกิจที่มีข้อมูลทางการเงินตามที่คุณให้มานั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และต้องอาศัยสมมติฐานหลายอย่างครับ อย่างไรก็ตาม โดยพิจารณาจากข้อมูลและภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบัน โอกาสรอดค่อนข้างต่ำ
ถ้าจะให้ประเมินเป็นตัวเลข อาจจะอยู่ที่ประมาณ น้อยกว่า 5% ที่จะสามารถรอดและเติบโตเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ตามแผนที่วางไว้ โดยมีเหตุผลประกอบดังนี้:
ภาระหนี้สินและขาดทุนสะสมสูงมาก:
การขาดทุนสะสมถึง 5,100 ล้านบาทในช่วง 6-7 ปีแรก และยังคงขาดทุนอยู่ 2,700 ล้านบาทในปีที่ 7 เป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับธุรกิจที่มียอดขายเพียงหลักร้อยคัน
การพึ่งพาเงินกู้จำนวนมหาศาล (3,000 ล้านบาท + 4,500 ล้านบาท) เพื่อมาดำเนินกิจการต่อ ทำให้มีภาระดอกเบี้ยสูง และเพิ่มความเสี่ยงหากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า
ตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่มีการแข่งขันสูงและจำกัด:
รถยนต์ราคา 5-20 ล้านบาท เป็นตลาดที่เล็กมากในประเทศไทย และมีเจ้าตลาดเดิมที่แข็งแกร่ง (แบรนด์นำเข้าจากยุโรป) ซึ่งมีทั้งชื่อเสียง ประวัติศาสตร์ และเครือข่ายบริการที่เหนือกว่า
การสร้างแบรนด์ใหม่ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดนี้ต้องใช้เวลา ทรัพยากร และกลยุทธ์ที่เฉียบคมมาก
ปริมาณการผลิตและขายที่ต่ำเกินไป:
ยอดขายปีละประมาณ 100-160 คัน ไม่เพียงพอที่จะสร้าง Economies of Scale (การประหยัดจากขนาด) ในการผลิต การจัดซื้อ หรือการทำตลาด ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูง
ความไม่แน่นอนของยอดขายรุ่นพิเศษ:
แม้ว่ารุ่นพิเศษและลิมิเต็ดจะทำกำไรต่อคันสูง แต่ยอดขายก็มีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มเล็กๆ และสภาวะเศรษฐกิจ
แรงกดดันจากคู่แข่งและสภาวะตลาดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2025):
ตลาดรถยนต์มีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนที่มีราคาเข้าถึงง่ายกว่าและเทคโนโลยีใหม่ๆ
ผู้บริโภคในกลุ่มรถยนต์หรูมักจะยึดติดกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและไว้วางใจได้
สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าราคาสูง
ปัจจัยที่จะเพิ่มโอกาสรอด (แม้จะยังน้อย):
เทคโนโลยีที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์จริงๆ: หากรถยนต์มีนวัตกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้ อาจดึงดูดความสนใจได้
การสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งและยาวนานมาก: หากมีนักลงทุนที่ "สายป่านยาว" และพร้อมจะสนับสนุนต่อไปแม้จะขาดทุนเป็นเวลานาน
การสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว: ผ่านการตลาดที่ชาญฉลาด หรือการได้รับการยอมรับจากบุคคลที่มีชื่อเสียง
การหาพันธมิตรทางธุรกิจ: เช่น การร่วมทุนกับบริษัทใหญ่ หรือการขายเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตรายอื่น
ความเป็นไปได้ในการถูกซื้อกิจการ: หากมีเทคโนโลยีหรือสินทรัพย์ทางปัญญาที่น่าสนใจ บริษัทอื่นอาจเข้ามาซื้อกิจการไป ซึ่งถือว่า "รอด" ในแง่หนึ่ง แต่ไม่ใช่การเติบโตด้วยตัวเอง
ข้อควรระวัง: การประเมินนี้อยู่บนสมมติฐานว่าตัวเลขที่ให้มาสะท้อนภาพรวมทั้งหมด และไม่มีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ความแข็งแกร่งของทีมผู้บริหาร เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ หรือแหล่งเงินทุนที่มั่นคง การประเมินอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่จากข้อมูลทางการเงินเพียงอย่างเดียว ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากครับ
-
ไม่คิดจะจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เลยหรือครับกู้มา 6000 ล้าน ไม่จ่ายดอกเบี้ยเจ้าหนี้คงยอมครับ และ r&d ยกตัวอย่าง Huracan รุ่นเดียวก็ 100 ล้านยูโร aka 4000 ล้านแล้วนะครับแค่ปีเดียว รุ่นที่ 2 คุณไม่มี r &d เสกมาได้หรือครับ 2000 ล้านมาจากอะไรบ้างครับต้องแตกไม่ได้ฝันเสกมาตัวเลขนั้นนี่ อ่อ แล้วตัวเลขที่คุณฝันมาเอาเฉพาะ Fix Cost ที่คุณลงมา
R&D + เครื่องจักร + คนงาน = 4500 ล้าน ขายเฉพาะ Model แรกรวม Limited อะไร ต่อมิอะไร 600 คัน แถมอีก 3000 ล้านกู้มาลงอีก 300 คันนี้
Cost ต่อคีนไม่รวม VC OH และจิปาถะและอยู่บนตัวเลขมโนนี้ (4500/600) + (3000/300) = 7.5 + 10 = 17.5 ล้าน ต้นทุน ย้ำต้นทุน แค่ Cost fc 3รายการ ต่อให้ไม่กู้อีก 3000 4500 ล้านขาย 600 ตันคือคันละ 7.5 ล้าน ต้นทุน ตัวเลขมโนคุณไม่คิดไส้ไม่คิดต้นทุนให้ครบจริงๆ ไอ้ 2 ล้าน หรือ 3 ล้านที่คุณฝันบนเครื่องคิดเลขยังทำไม่ได้เลยครับ และไม่มีดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว คงต้องธนาคารส่วนบุคคลหรือเอามรดกมาละลายเล่นเท่านั้นแหละครับ
-
ผมลืมคิดดอกเบี้ยไปครับ
R&d ที่ไม่สูง เพราะคิดว่าจะหาบริษัทที่ทำอยู่แล้วๆเอามาปรับแต่งหน่อยคล้ายๆ ruf ครับ อย่าง koenigsegg ก็ใช้ v8 ford 5.0l ของผมถ้าสเปค v6 3.0l twin turbo 600 ม้า มีเครื่องที่ทำได้เป็นสิบโมเดลเลยครับ เราแค่ต้องไปดีลกับเขา
-
เรื่องต้นทุนต่อคัน ผมไม่ได้ใช้ต้นทุนทั้งหมด แต่ใช้ต้นทุนเพียวๆต่อคันตามที่บอกไว้ด้านบนครับ
เพราะกู้มา คนงานก็จ่ายค่าแรงไปแล้ว อะไรๆก็จ่ายไปแล้ว เลยคิด ราคาขาย - ต้นทุนเพียวๆ
-
ผมลืมคิดดอกเบี้ยไปครับ
R&d ที่ไม่สูง เพราะคิดว่าจะหาบริษัทที่ทำอยู่แล้วๆเอามาปรับแต่งหน่อยคล้ายๆ ruf ครับ อย่าง koenigsegg ก็ใช้ v8 ford 5.0l ของผมถ้าสเปค v6 3.0l twin turbo 600 ม้า มีเครื่องที่ทำได้เป็นสิบโมเดลเลยครับ เราแค่ต้องไปดีลกับเขา
ลองติดต่อไปคุยกับเขาก่อนสิครับ ลองดูว่าเค้าจะขายให้ในราคาที่เท่าไร
หาอีเมลจาก Google ก็ได้ แล้วส่งอีเมลไปถามเค้าดูครับ จะได้รู้ราคาเอามาคำนวณจะได้รู้ราคาเอามาคำนวณต้นทุนได้
-
การนำรถแบรนด์อื่นๆมา ทำต่อยอดเพิ่ม
มันกดเรื่องราคาไม่ได้อยู่แล้ว ดูอย่างไทยรุ่งเป็นตัวอย่างเลย
ถ้าบอกอ่ะงั้นลอง เพิ่มข้อได้เปรียบกับรถแบรนด์ไทยละกัน ยกเว้นภาษีสรรพสามิต แถมเพิ่มเงินอุดหนุนให้ด้วย
ก็ไปตามรอย โปรตอน เจอซัพพลายเออร์ต้นน้ำบีบราคา สมมุติเคยส่ง แชสซี+เครื่องยนต์ 1 ล้าน ผมไม่ส่งแชสซีกับเครื่องในราคาเดิมแล้วนะ ต้องเป็น 1.3 ล้าน แล้วจะยังไงยกเลิกไม่ซื้อกับแบรนด์นี้แล้ว
อ้าวแม่พิมพ์แบบ สัสดส่วน ออฟชั่น ลามไปถึง ซอร์ฟแวร์เลย
เอาแบบตัวอย่างยกให้เห็นชัดๆ
รถยนต์แห่งชาติ เป็น PPV
บอดี้ทำเอง. แต่ แชสซี+เครื่องยนต์ (isu)
ต้นทุนหน้าโรงงาน บอดี้ ค่าแรง ค่าโสหุ้ย ออฟชั่น ( 2 แสน) +แชสซี+เครื่องยนต์ (isu) (7แสน)
ยกเว้นภาษีให้ ราคาหน้าโชว์รูม ขายเอากำไรนิดนึง 1 ล้านถ้วน
จับพลัดจับพลูขายดี ยอดปีละ 7000 พันคัน
Isu mux อ้าวทำราคาไม่ได้หวะ option เท่าๆ มาร์จิ้นเรี่ยดิน ไป 1.3 ล้านแล้ว
ยอด เหลือ 1000 คันต่อปี
Isu งั้นก็ขึ้นราคา แชสซี+เครื่องยนต์ (isu) เป็น 9 แสนไปเลย
การไปยืม คนอื่นหายใจมันไม่สามารถทำราคาได้หรอกครับ มันไม่สามารถเป็นรถยนต์แห่งชาติได้
มันก็อะไรประมาณนี้ครับ
-
กรณีที่ว่ามักไม่เกิดกับ niche market ครับ
มันมีจำนวนผลิตของมันอยู่ แล้วก็ใช้ของต่างประเทศแค่เครื่องกับเกียร์ครับ แชสซีส์ว่าจะติดต่อ tera ดู
-
แบรนด์เล็ก แบรนด์เกิดใหม่ ผู้ก่อตั้งมักจะเป็นเรื่องราวทั้งหมดของบริษัท
เค้าจะรู้จักทุกองค์ประกอบและรายละเอียดของรถเค้า
และเค้าก็ไม่ได้สร้างคันที่ออกขายเป็นคันแรก ทุกคนต่างมีประวัติการสร้างรถ ออกแบบรถมาหลายสิบปี มีผลงานโดดเด่นจนคนอยากซื้อรถที่วิ่งบนถนนได้จากคนๆนี้
ถ้าไม่มีพื้นฐานพวกนี้ ใครจะอยากซื้อรถเราผมยังนึกไม่ออกเลย
เริ่มจากหัดสร้างรถก่อนดีมั้ยครับ สั่งชุดkit เฟรมของslc หรือ ultima หรือถ้าจะทำงานกับเฟรมคาร์บอน คงต้องหาi8มารื้อน่าจะถูกสุดแล้ว
ส่วนองค์ประกอบอย่างอื่นเราต้องทำเอง print3dมาใส่ จะได้โชว์ไอเดีย หาเครื่องมาลง แสดงความสามรถในการปรับแต่ง
ดูองค์ประกอบกฎหมายความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมที่บังคับว่าต้องออกแบบให้สอดคล้องกับประเทศที่ขายยังไงบ้าง จะได้รู้ว่าแต่ละชิ้นส่วนกว่าจะมาเป็นรถมันเยอะแยะซับซ้อนแค่ไหน มันเป็นองค์ความรู้ที่เราต้องรู้ด้วย
เริ่มอย่างนี้ก่อนดีมั้ย จะได้มีสิ่งที่จับต้องได้ เป็นprototype ไว้เสนอหาทุนสนับสนุน แล้วค่อยๆพัฒนาจนมันผลิตขายได้ ถึงวันนั้น น้องก็พร้อมจริงๆแล้ว
ไม่มีใครเอาเงินมาให้เราเผาเล่นฟรีๆหรอก
-
เอาแค่ หาเครื่องยนต์600ม้า ที่สามารถผ่านกฎหมายมลพิษในยุโรปหรืออเมริกาให้ได้ก่อนดีมั้ย
ถ้ามี แล้วค่ายรถระดับนั้นทำไมเค้าต้องขายให้เรา
เค้าจะไม่กลัวเหรอที่ขายให้ค่ายรถโนเนมแล้วรถอาจะไปไฟไหม้กลางทางโดยที่อาจจะเกิดจากการออกแบบตัวรถไม่ดี แล้วทำให้ภาพลักษ์แบรนด์เค้าเสียหาย เค้าจะคุ้มมั้ย
แล้วถ้าหาเครื่องยนต์ไม่ได้ เราจะไปต่อยังไง
-
มันมีดีเทลมากกว่าไม่มีเงินทุนเยอะมาก
ตอนนี้รัฐแก้ปัญหาหนี้สาธารณะให้ได้ก่อน แล้วค่อยไล่มาเรื่อง คมนาคมพื้นฐาน
การพัฒนารถยนต์ ถ้าถามแบบขวานผ่าซาก นอกจากมีรถยนต์แบรนด์ไทยที่จะขายได้ไม่ได้ก็ไม่รู้ เพราะคนในส่วนใหญ่ติดเรื่องแบรนด์อยู่แล้ว ขนาดแบรนด์จีนขายปีนึงหลายแสนคันยังโดนบูลลี่กันฉ่ำ ถ้าหวังกำไรหรือเพิ่ม gdp ประเทศคงยากแน่ กับอีกอย่างคือการอยากมีรถยนต์แห่งชาติ ก็ย้อนกลับไปดู ถ้าคุณมีเงินเยอะจะจิ้มรถยนต์แบรนด์ไทยก่อนมั้ย
ตอนนี้การคมนาคมพื้นฐานของประเทศถ้าเป็นคะแนนก็แทบจะไม่ถึงครึ่งอยู่แล้ว เอางบ r&d ไปเน้นเรื่องที่สร้าง gdp ก่อนแล้วค่อยไล่ เรื่องหนี้สาธารณะ + พื้นฐาน ecosystem ในประเทศ เสร็จค่อยไปสนับสนุนเรื่อง future development ครับ
จุดเด่นประเทศไทยด้านนี้คือการทำ OEM มานาน แต่เรามีแร่อะไรที่เค้าใช้เยอะรึเปล่าถึงอยากจะผลักดัน ในขณะที่ตอนนี้ nev ล้นตลาด สงครามราคากับฉ่ำทั้งโลก เรามีอะไรให้ชนะ brand จีนที่กำลังเจ๊งรึเปล่าอะครับ ต้นทุนก็ต้องสั่งจีน know how ก็น้อย เงินทุนก็ต่ำ ไม่เห็นอนาคตเลยครับ
ในขณะที่ทุกวันนี้ sme แทบไม่ได้รับการสนับสนุนจนล้มตายกันไปเยอะ โดยเฉพาะด้าน local อาหารที่เป็นจุดเด่นของวัตถุดิบ ภูมิประเทศเรา หรือแท้กระทั่งข้าวที่โดนเวียดนาม disrupt ไปแล้ว
เราจะเอาเงินไปจมกับกองทุนรถที่ไม่เห็นอนาคตจริงดิ?
-
เข้ามาศึกษา ::)
-
กลุ่มรัฐวิสาหกิจไทย ถ้าไม่ใช่ทำกับเรื่องที่สาธารณูปโภค ที่ผูกขาดแบบ น้ำปะปา ไฟฟ้า อะไรพวกนี้แล้วละก้อ
ตัวอย่าง แบบการบินไทย ไงครับ (ที่มีคู่แข่ง) สุดท้ายเจ๊ง
พัฒนาบ้านเมืองก่อนเถอะ อย่าทำไว้เป็นภาระลูกหลานเลย