Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PapaRo@ch~* ที่ สิงหาคม 08, 2025, 13:36:55
-
CHR Hybrid HI
CHR 1.8 เบนซิน
CX-3 Top
CX-30 Top
Kicks VL
มือสองทั้งหมด งบ 5-7 แสน
ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ขับวันละ 20-30โล ออกต่างจังหวัด กทม-เชียงใหม่ ปีละ 2-3 หน
เน้นขับคนเดียว ใช้ยาว 10ปี
เป็นคุณจะเลือกคันไหนเพราะอะไรครับ :)
ขอบคุณครับ
-
ใช้ในเมืองเป็นหลักผมมอง เรื่องประหยัดน้ำมันก่อนเลย คงเลือก CHR Hybrid กับ Kick VL ครับ ทั้งสองออกต่างจังหวัดได้
-
CHR 1.8 เบนซิน
ใช้รถไม่มาก หรืออนาคตขับเยอะ ไป lpg ก็ใด้
แต่ถ้าไม่เคยมีรถ hybrid ก็คงไป hybrid ลองใด้ไม่น่ากังวล ดู prius วิ่งกันเยอะเลยตอนนี้
-
ผมเลือก Kicks กับ C-HR Hybrid ครับ
ยิ่งในเมืองเยอะด้วย ขับคนเดียวด้วย
-
ถ้าผมขับคนเดียว เน้นการขับขี่จะเลือก CX-30 ไปทางไกลน่าจะขับมั่นใจ ถ้าเน้นประหยัดด้วยจะเลือก CH-R Hybrid ครับ ขับในเมืองน่าจะดี
-
ความประสงค์แรกคือ เป็นรถมือ 2 และต้องการใช้งานอีก 10 ปี
รถมือ 2 ผมตีต่ำๆเลยราคานี้เราจะได้รถอายุประมาณ ปี 2020-2021 ไม่เกิน ทั้ง chr และ CX30
ตีกลมๆ รถมีอายุใช้งานมาแล้ว 4 ปี และเราจะใช้ต่ออีก 10 ปี
คำถาม อะไรจะทนกว่ากัน ถ้าเราจะใช้ยาว
CX30 ก็คงได้เปรียบตรงที่มันเป็นระบบเดียว ซ่อมแซมตามอาการได้ อะไหล่ถูกแพงตามแต่ละชนิด อู่ซ่อมมีทั่วไปทั้งเฉพาะทางและอู่รวม
ส่วน CHR HV การใช้งานในเมืองประหยัดกว่า แต่เนื่องจากเป็น 2 ระบบ ซึ่งหลายคนเจอปัญหา หลายคนไม่เจอ แต่ถ้าเจอ ก็หนักเลย เงินไม่พร้อมก็ทำเอาแย่ได้เหมือนกัน
แต่ถ้าเอาเซฟ แบบไม่อวยฝั่งไหน เน้นใช้งานยาว แบบสบายใจ ผมว่า CHR 1.8 ยืนระยะได้ ทั้งในเรื่องค่าบำรุงรักษาและอื่นๆ หรือถ้าต้องการประหยัดแบบไม่สนอีโก้ ก็เอาไปลงแก็สได้ ไม่ติดขัดและใช้งานได้ดีเลย ...
ดังนั้น ฟันธง แฟนมาสด้าอย่างผม ถ้าตามโจทย์นี้ ผมก็คงเลือก CHR 1.8 เบนซิน ลองใช้ไปก่อน เทสว่าเรารับค่าน้ำมันกับการใช้ในเมืองไหวไหม ถ้าไหวก็วิ่งน้ำมันไป แต่ถ้าไม่ไหว เอาไปติดแก็สใช้งาน มันมีความเสี่ยงน้อยกว่าเอาตัว HV มาใช้ต่ออีก 10 ปีครับ
ปล.ในเคสที่เราใช้ HRV 1.8 แล้วรับค่าน้ำมันไม่ไหว จะบอกว่า CX30 กินกว่า ดังนั้นการเลือก CX30 อาจไม่ใช่คำตอบ
-
ผมเลือกเครื่อง ICE แฮะ จะ CX-30 หรือ CHR ก็ได้
ส่วนผมนั้นใช้ CHR OK เลย ไม่ชอบอย่างเดียวคือ พื้นที่ห้องโดยสารแล้วก็ที่เก็บของข้างหลัง อยากได้ใหญ่กว่านี้
-
ถ้ามีน้ำท่วมผมเอา Yaris Cross มือ 1
ถ้าน้ำไม่ท่วมเลยเอา Yaris Ative Hybrid ที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้ครับ
ใช้อีก 10 ปี 2 คันนี้แทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย ไปทำงานทุกวันอย่างสบายใจแน่นอน
-
ผมให้ข้อมูลเพิ่ม
Cx30 ครับ
ใช้จาก คู้บอน เข้ามาจตุจักร ตอนเช้า ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ระยะทาง 30 โล
กลับ 60-90 นาที 31 โล
ใช้ E20. กินประมาณ 11 โลลิตร
เพื่อนผมใช้ kicks. ไปกลับระยะทางพอกัน ใช้เวลาเดินทางพอกัน
เค้าได้ราว 19-20 โลลิตร
-
ในเมืองเป็นหลัก อยากเลือก CHR hybride
แต่ 10 ปี กลัวระบบ inverter & แบต เหมือนกัน
CHR 1.8 น่าจะ น่ากลัวน้อยกว่า
เลือก CHR 1.8 ครับ
-
ผมลองคำนวณค่าน้ำมันคร่าวๆ ของ C-HR เอาตัวเลขการทดสอบของ headlightmag
(ไม่แน่ใจว่าขับในเมือง 20-30 กม/วัน รถติดมากน้อยขนาดไหนนะครับ ลองเปลี่ยนตัวเลขอัตรากินน้ำมันได้ครับ)
ในการใช้จริง ผู้ใช้เกือบทั้งหมดคงจะใช้ โซฮอล ผมเลยไม่ได้ใช้ราคา เบนซิน95
แต่ใช้ราคา โซฮอล95 แทน ซึ่งปัจจุบันราคาไม่ต่างกับ โซฮอล91 เท่าไหร่
======================================
กรุงเทพ-เชียงใหม่ ปีละ 3 หน ปีนึงก็ขับทางไกล 6 วัน วันละ 700 กม รวม 4,200 กม
C-HR 1.8 16.63 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 252.56 ลิตร x 32.85 = 8,296.45 บาท
C-HR hybrid 20.21 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 207.82 ลิตร x 32.85 = 6,826.82 บาท
กรุงเทพ-เชียงใหม่ hybrid ประหยัดกว่า 1,469.63 บาท/ปี
======================================
ในเมือง วันละ 30 กม.
359 วัน x 30 กม. = ปีละ 10,770 กม.
จากการทดสอบของ headlightmag
C-HR 1.8 ถัง 50 ลิตร ขับได้ 500 กม. = 10 กม/ลิตร
C-HR hybrid ถัง 43 ลิตร ขับได้ 650 กม. = 15.12 กม/ลิตร
C-HR 1.8 10 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 1,077 ลิตร x 32.85 = 35,379.45 บาท
C-HR hybrid 15.12 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 712.30 ลิตร x 32.85 = 23,399.11 บาท
ในเมือง hybrid ประหยัดกว่า 11,980.34 บาท/ปี
======================================
รวม hybrid ประหยัดกว่า 13,449.97 บาท/ปี
ถ้าใช้ 10 ปี hybrid ประหยัดกว่า 134,499.70 บาท
======================================
คราวนี้อยู่ที่ว่า 134,499.70 จะมาครอบคลุมค่าบำรุงรักษาที่รุ่น hybrid จะมีมากกว่ารุ่น 1.8 ได้หรือไม่ ใน 10 ปี
ถ้าเข้าศูนย์ตลอด 10 ปี ผมว่าไม่น่าจะครอบคลุมได้
ถ้าเข้าอู่นอก ผมว่ามีลุ้นครับ แล้วแต่เป็นคันๆไป
ปล เป็นการคำนวณคร่าวๆ ความแตกต่างจริงจะเปลี่ยนแปลงตามราคาน้ำมันในอีกตลอด 10 ปี และ
ตามสภาพจราจร 30 กม. ในเมือง ว่าติดมากน้อยระดับไหน ฯลฯ
ตัวเลขทั้งหมด เอามาจากการทดลองขับของทาง headlightmag ตามนี้ครับ
https://www.headlightmag.com/full-reivew-2018-toyota-c-hr/
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_641522763cb60cdfd293.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_6419a939770b5cd3c853.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_642012a674bfbfdfeb79.jpeg)
-
ผมตัด cx3 ก่อนครับ คันเล็กเครื่องโต ไม่เหหมาะกันในเมืองเท่าไหร พื้นฐานรถก้อเก่ากว่า cx30
Chr-hybrid - ประหยัดมากแต่อัตราเร่งบนกระดาษไม่ดี แย่กว่าตัว 1.8 ช่วงล่างดี
Chr-1.8 - แรงกว่าตัวบนไม่ประหยัดเท่า ช่วงล่างดี
Cx-30 ใหม่สุด ทางไกลน่าจะดีสุดในเมืองน่าจะประมาณ 10-12 km/l
Kicks นีาจะประหยัดสุดในเมือง แต่ทางไกลใช้ความเร็ซซดขึ้นเยอะ
ทึ่น่าสนใจนอกจ่กนี้ในงบประมาณนี้คือ corolla cross hybrid มือสอง น่าจะเปนเครื่องเดียวกับ chr แต่ได้ตัวถึงใหญ่กว่าและใหม่กว่ร
Yaris cross ป้ายแดง
-
ผมลองคำนวณค่าน้ำมันคร่าวๆ ของ C-HR เอาตัวเลขการทดสอบของ headlightmag
(ไม่แน่ใจว่าขับในเมือง 20-30 กม/วัน รถติดมากน้อยขนาดไหนนะครับ ลองเปลี่ยนตัวเลขอัตรากินน้ำมันได้ครับ)
ในการใช้จริง ผู้ใช้เกือบทั้งหมดคงจะใช้ โซฮอล ผมเลยไม่ได้ใช้ราคา เบนซิน95
แต่ใช้ราคา โซฮอล95 แทน ซึ่งปัจจุบันราคาไม่ต่างกับ โซฮอล91 เท่าไหร่
======================================
กรุงเทพ-เชียงใหม่ ปีละ 3 หน ปีนึงก็ขับทางไกล 6 วัน วันละ 700 กม รวม 4,200 กม
C-HR 1.8 16.63 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 252.56 ลิตร x 32.85 = 8,296.45 บาท
C-HR hybrid 20.21 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 207.82 ลิตร x 32.85 = 6,826.82 บาท
กรุงเทพ-เชียงใหม่ hybrid ประหยัดกว่า 1,469.63 บาท/ปี
======================================
ในเมือง วันละ 30 กม.
359 วัน x 30 กม. = ปีละ 10,770 กม.
จากการทดสอบของ headlightmag
C-HR 1.8 ถัง 50 ลิตร ขับได้ 500 กม. = 10 กม/ลิตร
C-HR hybrid ถัง 43 ลิตร ขับได้ 650 กม. = 15.12 กม/ลิตร
C-HR 1.8 10 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 1,077 ลิตร x 32.85 = 35,379.45 บาท
C-HR hybrid 15.12 กม.ต่อลิตร ใช้น้ำมัน 712.30 ลิตร x 32.85 = 23,399.11 บาท
ในเมือง hybrid ประหยัดกว่า 11,980.34 บาท/ปี
======================================
รวม hybrid ประหยัดกว่า 13,449.97 บาท/ปี
ถ้าใช้ 10 ปี hybrid ประหยัดกว่า 134,499.70 บาท
======================================
คราวนี้อยู่ที่ว่า 134,499.70 จะมาครอบคลุมค่าบำรุงรักษาที่รุ่น hybrid จะมีมากกว่ารุ่น 1.8 ได้หรือไม่ ใน 10 ปี
ถ้าเข้าศูนย์ตลอด 10 ปี ผมว่าไม่น่าจะครอบคลุมได้
ถ้าเข้าอู่นอก ผมว่ามีลุ้นครับ แล้วแต่เป็นคันๆไป
ปล เป็นการคำนวณคร่าวๆ ความแตกต่างจริงจะเปลี่ยนแปลงตามราคาน้ำมันในอีกตลอด 10 ปี และ
ตามสภาพจราจร 30 กม. ในเมือง ว่าติดมากน้อยระดับไหน ฯลฯ
ตัวเลขทั้งหมด เอามาจากการทดลองขับของทาง headlightmag ตามนี้ครับ
https://www.headlightmag.com/full-reivew-2018-toyota-c-hr/
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_641522763cb60cdfd293.jpeg)
(https://img2.pic.in.th/pic/IMG_6419a939770b5cd3c853.jpeg)
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/IMG_642012a674bfbfdfeb79.jpeg)
ถ้าเอาตัวเลขจากการทดสอบของ HLM เป็นตัวตั้ง
การใช้งานจริงการกินน้ำมันจะต่างออกไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ได้กล่าวโทษใคร เพียงแต่มันจะต่างไปคนละฝั่ง
ถ้ารถน้ำมันล้วนให้คำนวณว่าใช้งานจริงจะกินเปลืองกว่าผลทดสอบ 10-15%
แต่ไฮบริดให้คำนวณว่าใช้งานจริงจะประหยัดกว่าผลทดสอบ 10-15% ครับ
ทั้งหมดมาจากการใช้งานจริงที่มีเร่งมีผ่อนมีเบรค
รถน้ำมันล้วนจะกินมากขึ้น แต่รถไฮบริดจะมีโอกาสเจ็นไฟกลับและเอามาช่วยตอนเร่งขึ้นไปใหม่ มันจึงประหยัดขึ้นครับ
-
ไม่เลือกเลยได้ไหม....
เพราะ 7แสน มันได้ CX3 ตัวล่างรถใหม่ราคาเต็ม หรือ Kicks ตัวล่างถ้าหาส่วนลดได้อาจจะพออยู่ในงบ
เพราะโจทย์คุณคือ ใช้มันไปอีก 10ปี ถ้ามาดูในตัวเลือก
CHR น่าจะได้รถอายุ 5ปีขึ้นไป หมดประกันแล้ว และน่าจะมีแตะๆ 1แสนโล เพราะตัวนี้ราคาแข็งครับ ตามยี่ห้อและคนหามือสองเยอะเหมือนกัน
ตัวอื่นๆ อาจจะได้รถ 4ปี 8หมื่นโล....ก็เลือกตัวท็อป option เยอะ ราคาก็สูงตาม
แปลว่าปีท้ายๆ คุณจะใช้รถอายุ 14-15ปี ไมล์ราวๆ 2.5-2.8แสนโล .... ต่อให้รถน้ำมันล้วนก็ดูแลหนัก ไฮบริดก็ต้องวัดใจว่าระบบจะอยู่ดีไหม ซ่อมหนักรึเปล่า
แต่ถ้ายอมทิ้ง option เอารุ่นล่าง น่าจะมั่นใจได้เรื่องใช้ไปอีก 10ปี
ผมคงตั้งโจทย์ใหม่ Yaris cross / Cx3 / Kicks รถใหม่ตัวล่างสุดดีกว่า
ทีนี้ ปัจจัยคือการวิ่งในเมือง ถ้าในเมืองเยอะ เจอรถติดหนักๆ ผมจะไปไฮบริด
แต่ถ้าในเมืองแต่ไม่ได้ติดหนักมาก ผมเอา Cx3 ... ผมไม่รู้ว่าในเมืองคุณสาหัสขนาดไหนนี่ละครับ
-
ผมใช้kick ออกรถ ตอนเปิดตัว ส.ค. 63 ถึงปัจจุบัน ใช้ไปห้าหมื่นกว่าโล ผมใช้น้อย เพราะต้องใช้อีกคันด้วย สลับไปมา...แต่ใช้ kick วิ่งในเมืองเป็นหลัก รถติดไหล ๆ ประหยัด ถ้าวิ่งนอกเมืองเกิน110 เปลือง
ค่าดูแล -ปีละสองครั้ง ครั้งละ2700 +-
- เปลี่ยนยางเมื่อเดือนที่แล้ว
- แบตฯเดิม (ติดรถ 75 แอมป์ -(ครอสใช้ 40 แอมป์) ครบห้าปีสัปดาห์หน้า cca ยังเกิน 200 ยังไม่ได้เปลี่ยน
- จานเบรค-ผ้าเบรค ไม่เคยทำความสะอาด (คำสั่งผมเอง) เนื่องจากแทบไม่ได้ใช้งาน ผมรีเจนท์ตลอด คิดว่าไลฟ์ไทม์
- ยังไม่เคยมีปัญหาอะไร
ให้ไว้เป็นข้อมูลครับ
-
ส่วนตัวเลือก kick ครับ
เหตุผลง่ายๆเพราะคันที่เหลือ อืดเกินไป ขับแล้วไม่สบาย
เรื่องในด้านอื่นๆไม่ค่อยมีผลกับผมเท่าไหร่
แต่จะตัด cx-3 ออกเพราะจอเล็กไปหน่อย
-
แคร์ค่าน้ำมันไหมครับ ถ้าไม่แคร์หรือมีสวัสดิการ ผมจะเลือกcx30 เกียร์6at กับช่วงล่างพวงมาลัยก็พอจะสร้างความสนุกได้บ้าง แถมความสุนทรีลำโพงbose sunroof ฝาท้ายไฟฟ้า และการเก็บเสียงที่เงียบกว่าตัวเลือกทุกตัว
ถ้าแคร์ค่าน้ำมัน
Chr hev/kick คิกส์จะปราดเปรียวคล่องกว่าchrมากๆ ขับมันส์กว่าเยอะแต่เบาะทำมาเหมือนให้เด็กหรือผญ.นั่ง เบาะนั่งไม่สบายทุกตำแหน่ง chrก็จะได้ความสมูทไม่ปรู้ดป้าด แต่ได้ความนุ่มหนึบซับแรงดี เบาะคู่หน้าดีมาก
เป็นผมนะCx30, kick=chr
-
ผมเลือก CH-R hybrid ครับ
เพราะดูแล้วขับเป็นเมืองเป็นหลัก ข้อดีคือตอนจอดติดไฟแดง ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้รำคาญ (ถ้าไม่ได้ติดนาน ๆ)
คนเดียวขับผมว่าไม่เป็นปัญหา เรื่องความทึบของห้องโดยสารตอนหลัง อีกทั้งยังมีแนวโน้มใช้รถนาน Toyota น่าเชื่อถือ
ส่วนแบตเตอรี hybrid ผมไม่ทราบข้อมูลระยะยาวจริง ๆ
ตัวเลือกที่ 2 ผมขอ CX30 ผมว่า OK ทุกอย่างเลย แต่ติดที่ศูนย์มีน้อย ค่าดูแลสูง
-
ซื้อรถมือสองเกาะเจ้าตลาดไว้ก่อนครับ หากเจออะไรเสียหรือเจอจุดซ่อมโอกาสจบเยอะกว่า ค่าซ่อมก็เป็นมิตรกว่าครับ
รถบางยี่ห้อ ศูนย์ไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เจ้าของเดิมจะขยันเปลี่ยนเองหรือเปล่าก็ไม่รู้
รถบางยี่ห้อระบบไฟก็จะหวั่นๆ ช่างไม่แน่ว่าประสบการณ์เยอะ
รถบางยี่ห้อคนคิดกันว่าพรีเมี่ยมกว่า แต่เอาเข้าจริงมันก็รถจ่ายตลาด
รถบางยี่ห้อ คุยว่าแรงกว่าเพื่อน แต่ใครจะเอามาวิ่งแข่งกันบนถนนหลวงทุกๆวัน
เจ้าตลาดที่เป็นได้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย
ยกเว้นว่าใจมันรักไปแล้ว ก็เลือกที่รักครับ รถตามตัวเลือกก็ไม่ได้ห่วยแบบรถบางประเทศ
-
ผมใช้ CHR-Hybrid และ ญาติใช้ CX30 เลยมีโอกาสได้ใช้จริงทั้งสองคัน
CHR Hybrid
ข้อดี
- ประหยัดน้ำมัน ขับยังไงก็ 20 km/l
- ช่วงล่าง TNGA เทพสุดแล้วในบรรดาโตโยต้าที่ขายในไทย นุ่มได้ และ สนุกได้ กลมกล่อมมาก มีความคล้าย Lexus ผสม Subaru
- ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และ ระบบ Hybrid ไว้ใจได้ ไม่จุกจิก
- ศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
ข้อเสีย
- แถวสองแคบ ไม่เหมาะกับการโดยสารทางไกลนานๆ
- พื้นที่เก็บของท้ายสุดค่อยข้างแคบ
- วัสดุภายในไม่หรูหราเท่า CX30
- อัตราเร่งอาจจะไม่เร็วดั่งใจ แต่ก็เพียงพอในการเร่งแซง
CX30
ข้อดี
- วัสดุภายในหรูหราสุด ได้ลำโพง BOSE และ ซันรูฟ
- ขับดี ช่วงล่างใกล้เคียงรถยุโรปที่สุดแล้ว
- เกียร์เป็น 6 speeds ไม่ใช่ CVT ได้อรรถรส และความสนุกในการขับ
ข้อเสีย
- ช่วงล่างออกจะตึงตังไปหน่อย เพราะหลังเป็นคานแข็ง tortion beam ไม่ใช่แบบ double wishbone แบบ CHR
บางวันที่เราเมื่อยล้า หรือ นอนไม่พอ แล้วเราต้องโดยสารรถ ผมว่ามันแข็งไปสำหรับผม
- กินน้ำมัน ทางไกลเต็มที่ 16 km/l ในเมืองมีต่ำ 10 km/l
- ค่าบำรุงรักษาแพงกว่า Toyota 20-30%
- อาการประจำรุ่นมีมากกว่า CHR อาจจะไม่ได้เจอทุกอาการ แต่ในกลุ่มเจอตามนี้ครับ
กันชนหน้าแตกไม่มีสาเหตุ
ปั๊มนำ้เสีย
วาล์วแอร์เสีย
เสียงกึ้กๆที่ล้อหน้า
หูหระจกไม่พับ
พวงมาลัยมีเสียงแก้กเวลาเปิดไฟเลี้ยว
โช้ครั่ว
ปั๊มติ๊ก
ถ้าเลือกด้วยอารมณ์ ผมเลือก CX30
ถ้าเลือกด้วยเหตุผล ผมเลือก CHR Hybrid
Kicks ให้ดียังไง ผมไม่เลือก เพราะรถสองระบบ E-Power แบบนี้ ไม่รู้ระยะยาวสิบปีไปแล้ว จะเป็นยังไง
เติมน้ำมัน แล้วเอาน้ำมันมาปั่นไฟ แล้ววิ่งด้วยไฟฟ้า ผมว่ามันซับซ้อนเกินไป
และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่หายไปอย่างมากในช่วงหลัง
และ เบาะนั่ง ผมไปลองแล้ว ไม่สบายเอาซะเลย
CX-3 ผมว่ามันไม่สุดสักทาง ไป CX30 เลยสุดกว่า
-
ขอเข้ามาร่วมแชร์มุมมองหน่อยนะครับ เนื่องจากในตัวเลือกได้มีประสบการณ์ใช้งานมาอยู่บ้าง
Background : รถยนต์ส่วนตัวที่ใช้งานประจำคือ Honda Jazz GK (Jazz ตัวสุดท้ายในไทย) ตอนหลังแฟนซื้อ CX-30 มา ตอนนี้รถหลักที่ใช้งานจึงเป็น CX-30
ส่วน C-HR เคยได้สัมผัสตอนที่ TMT ให้เอามายืมขับหลายๆวันแต่เป็นตัว Hybrid
จากตัวเลือกทั้งหมดขอแบ่งเป็น 2 Scenario แล้วกันนะครับ
1st Scenario ไม่ Concern เรื่องค่าน้ำมัน จะเป็น C-HR vs CX-30
2nd Scenario Concern เรื่องค่าน้ำมัน จะเป็น C-HR Hybrid vs Kicks
(ขอตัด CX-3 เพราะเก่าเกินและแคบ)
>> CX-30 ที่สัมผัสมาคือรถค่อนข้างที่จะ solid กว่า C-HR พอสมควรครับ Feeling การขับขี่ดี แต่จะว่าถ้าจะนิยามว่าแข็งก็ไม่ผิด เนื่องจากช่วงล่างหลังเป็นคานบิด
จะตึงตังพอสมควรเวลาวิ่งผ่าลูกระนาดเร็วๆ แล้วก็ขับในเมืองกินน้ำมันน่าดูเลยล่ะครับ ในเมืองทุกถังผมต้องมาลุ้นให้ถึง 500 กม/ถัง แต่ล่าสุดไปเขาใหญ่มาก็ประหยัดนะครับ
ไปได้ถึง 680 กม/ถัง
*สรุปแบบไม่อวยเลยก็คือ รถขับดีค่อนไปทางแข็ง เครื่องเสียงดี (BOSE) กินน้ำมัน และแคบ ที่เก็บสัมภาระไม่ได้เยอะมาก มีแอร์หลัง เบรคคือแย่ เหมือนเบรครถ Hybrid Feeling แปลกๆ
>> C-HR เป็นรถที่ประทับใจในช่วงล่างมากๆคันนึงของ Toyota เปรียบเป็นรสชาติอาหารก็คือกลมกล่อมทางด้านการขับขี่ครับ แต่เนื่องจากใน List นี้เป็นคันที่มาก่อนกาล
พอสมควรหลายๆอย่าง ถ้าอยากได้ option แบบที่ไม่อาย yaris cross ก็จะต้องเล่น hybird premium เท่านั้นที่จะสู้ได้ Hybrid ประหยัดจริง // ส่วนเบนซิลจะได้เป็น เกียร์ CVT และ Option ไม่ได้แพรวพราวอย่างใครเขา มีให้เท่าที่จำเป็น ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับ CVT แต่คนที่ชอบขับรถน่าจะเกลียดเพราะ ขาด Feeling กับ เรื่องการซ่อมบำรุงที่ดูจะพังง่ายไปเสียหน่อย
*สรุปรถดี กลมกล่อม แต่ๆๆๆ แอร์หลังไม่มี กับเบาะหลังที่ทึบแบบโคตรๆ แล้วก็ไม่สามารถแขวนเสื้อข้างหลังได้ เพราะไม่มีที่ให้มือจับ
>> Kicks อันนี้ไม่เคยขับแต่ติดตามอยู่ใกล้ๆ คิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ แรงแบบไม่ต้องพยายาม นี่คือนิยามสำหรับผม ช่วงล่างคานบิดก็พอจะนึกออกว่าจะเป็นประมาณไหน ไม่มีแอร์หลังเหมือน C-HR จากใน List คันนี้จะได้ปีที่ใหม่สุดเลยถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ
*สรุปคือเป็นตัวเลือกที่น่าเข้าตาสำหรับอยากได้รถที่อัตราเร่งดีๆ และประหยัดน้ำมันอยู่
ปล. ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ขอกล่าวถึงศูนย์บริการและเรื่องของ บ.ผู้ผลิต พูดถึงเรื่อง Product ล้วนๆ ขอให้ Happy กับสิ่งที่เลือกครับ ;)
-
เลือก CHR เพราะหน้าตา
แล้วก็เลือก Hybrid เพราะขับในเมืองมันประหยัดกว่าชัดเจน เครื่อง 1.8 โตต้า ถ้ารถติด ๆ กินโหดพอตัวคับ Mazda ใช้ยาวผมคงไม่เลือก
-
ผมเลือก Kicks กับ C-HR Hybrid ครับ
ยิ่งในเมืองเยอะด้วย ขับคนเดียวด้วย
+1