Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: solo ที่ สิงหาคม 20, 2025, 09:04:50
-
อันนี้ลอกมาจาก Facebook ของคุณพงศ์พรหม ยามะรัตน์
ขอเตือนมนุษย์เงินเดือนครับ
หากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนสมัยก่อน
พอเริ่มไต่เต้าได้ คุณจะเริ่มอยากมีรถยุโรปคันแรก
สมัยก่อนมันเป็นเรื่องปกติ
ไม่ว่าคุณจะผ่อน หรือ คุณจะเอาเงินเก็บมาออกรถ คุณย่อมคำนวณว่าคุณจะยังมีเงินเดือนราวๆนี้ หรือ เพิ่มขึ้นปีละ 5-8.5% ต่อไปอีก 5 ปี โดยมีโบนัส 3-8 เดือน
นั่นคืออดีต
จากนี้ไป พนักงานธนาคาร หมอ การเงินขนาดใหญ่ ปิโตรเคม น้ำมันยักษ์ บริษัทโฆษณาระดับโลก โรงแรม บริษัทชิปปิ้ง บริษัทอสังหา นายหน้าอสังหา
จะเสี่ยงตกงานกันเป็นจำนวนมาก
คุณจึงใช้ชีวิตแบบรุ่นพี่ รุ่นนายคุณไม่ได้อีกแล้ว
จำไว้ครับ หากต้องใช้รถ
ผ่อนเบนซ์ GLA, A-class หรือแม้แต่ C-class ไหว
ให้ออกแค่ Corolla Altis หรือ Civic พอ รถดีมาก ดีพอ ทนทาน ค่าใช้จ่ายถูก
ผมพี่งให้คำปรึกษาคนรู้จักคนนึง เงินสด ทรัพย์สินหลายร้อยล้าน ตอนแรกจะออกรถรุ่นนึง ราคาราวๆ 3.5 ล้าน ผมบอกว่า เศรษฐกิจแบบนี้อย่า spend เงินกับรถ
ผมแนะนำให้ไปออก BMW X1 ที่ขนาดใหญ่พอ ขับดีมาก ทนทาน ซ่อมง่าย ได้ราคามาดีคือ 2.0x ล้านบาท
ประหยัดทันที 1.5 ล้าน
นี่คือ 4 คันที่ผมแนะนำ สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เงินเดือนไม่เกิน 150,000-180,000 บาท ไม่มีหนี้สิน ภาระเดิม
เอาตรงๆ ถึงเงินเดือน 300,000 วันนี้แบบไร้ภาระอื่น อย่างดีผมก็จะซื้อ Mazda CX-5 หรือ Tesla Y
และ และ และ และ และ และ และ
และสิ่งที่ดีสุดคือนั่ง BTS/MRT/Grab อย่ามีภาระ
เลวสุดก็เช่าใช้ หมดสัญญาก็คืนรถไป อย่าผูกพัน
จำไว้ว่า
1. เงินเก็บต้องพอสำหรับการตกงาน 24-36 เดือนเป็นอย่างต่ำ
2. บวก เงินคงคลังเผื่อป่วยอีก 1-3 ล้านบาท
3. นี่ไม่รวมค่าเรียน ค่าสันทนาการลูกหลานนะครับ
-
ผมว่ามันแล้่วแต่บุคคลครับ ว่าจะให้น้ำหนักชีวิตตัวเอง ด้านไหน
ทำไมคนถึงซื้อ camry / benz bmw ทั้งๆที่ vios / yaris ก็พาคุณไปได้
ทำไมไม่ขึ้นรถเมล ทั้งๆที่มีสายการเดินทางมากกว่า ราคารถเมล์ถูกกว่าเยอะด้วย
ชอบอะไร ถ้าดูแล้วจ่ายไหว ไม่ได้ทำให้ชิวิตตัวเองลำบาก ผมไม่คิดว่ามันเปนเรื่องไม่ดีครับ
-
อ่านแล้ว และพยายามอ่านซ้ำ ... ผมเห็นต่างนะ 5555
คือรถยนต์หรู หรือรถแพงเนี่ย มันอยู่ที่ความพอใจล้วนๆเลย จะไปบอกว่า มีรายได้เท่านี้ ควรใช้เท่านี้ ไปกำหนดแบบนั้นไม่ได้ เพราะแต่ละคนภาระเบื่องหลังมันต่างกัน
คนเงินเดือน 8หมื่น ขับรถญี่ปุ่นคันละ 1.8ล้าน ผ่อนเดือนละ 2 หมื่น
คนเงินเดือน 6 หมื่น ขับยุโรปคันละ 2.5 ล้าน ผ่อนเดือนละ 3 หมื่น
คำถามคนเงินเดือน 6หมื่นฟุ้มเฟือยหรอ ป่าวเลย คนแรกอาจจะมีครอบครัวมีลูกเมียต้องดูแลเลยเซฟเงินซื้อเท่าที่จำเป็น ส่วนอีกคน โสด อยู่บ้านพ่อแม่ ภาระไม่มี ก็เลยซื้อสิ่งที่ชอบ
สุดท้ายแล้วแบบไหนผิดล่ะ ไม่มีหรอก มันอยู่ที่ความพอใจล้วนๆ
คนมีเงิน 100ล้าน ถามว่าเค้าไปซื้อรถญี่ปุ่นใช้ทำไม ก็เพราะเค้าเคยใช้ยุโรปมาจบเบื่อแล้ว และพอแก่ตัวก็เลยซื้อใช้เท่าที่จำเป็น คนพวกนี้เห็นได้มากมาย ไม่ใช่ไม่เคยใช้
ชายอายุ 35ปี เงินเดือน 3แสน จะไปขับ CX5 หรอครับ เป็นไปได้หรอ ถ้าเงินเดือน 3แสนตอนอายุ 50 อะเชื่อขับ CX5 ได้ (แต่จะขับกันไหมล่ะ)
เงินเดือนเยอะ กลัวตกงาน หาอาชีพเสริมครับ ไม่มีใครกำหนดว่าคุณต้องทำงานเพียงที่เดียวอย่างเดียวแม้จะเป็นพนักงานบริษัทก็ตาม
จะให้หมอเงินเดือนหลักแสน ขับซีวิค จะให้ผู้จัดการธนาคารขับ อัลตีส หรือ ผู้บริหารบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ขับแคมรี่หรอ ...มันได้หรอ ...
-
มาเข้าฟังครับ เงินเดือนยังไม่ถึงแสน ก็ฟังคนรวยคุยกัน สนุกดีครับ
อยากมีบ้าง 55
-
ผมไม่รู้ข้อความนี้ มาจากใครบ้างนะ
เคยด้ยินบางช่อง พวกไลฟ์โค้ช หรือ อินฟู มีบางคนพูดแบบนี้
แต่.....อย่าลืมว่า พวกนี้เขาพูดได้ เพราะเขามีหมดแล้ว ไอ้ที่พูดๆ มานั้นละ เขามีหมดแล้ว(ย้ำว่า เขามีหมดแล้ว)
จนบางคนมี จนเป็นภาระ เพราะมีมากเกินใช้ (มีรถหลายคัน แทบไม่ได้ใช้)
บางคนบอกว่า เดินทางรถเมล์ หรือ รถไฟฟ้าเอาก็ได้
- โดยบอกว่า อาจจะใช้เวลาเยอะกว่า ขับรถไปเองนิดหน่อย แต่เวลานิดหน่อยนั้นที่ต่างกันนั้น แลกกับความเหนื่อย หรือ เอาเวลาส่วนต่างนั้นอยู่กับคนที่รักเพิ่มขึ้น 30 นาที มันตีเป็นเงินยากนะ
บางคนบอกว่า เวลาคนเราเท่ากัน
- อันนี้ไม่จริง เพราะ 1 ชั่วโมง ของคนมีรถ มีงานหน้าเดียว กับ 1 ชั่วโมงคนที่ตื่นมาเตรียมของให้ลูกไปโรงเรียน เตรียมของขาย หรือเดินทางไปทำงานโดยรถขนส่งสาธารณะ ก็ต่างกันแล้ว
บางคนบอกว่า เริ่มต้นจากศูนย์ หลังเรียนจบ
- แต่ไปเรียนและเลี้ยงชีพอยู่ โดยเงินของพ่อแม่ ก่อนแล้ว(เริ่มต้นจากศูนย์ยังไงก่อน) แต่สำหรับบางคน แค่เกิดมาก็เป็นหนี้จากพ่อแม้ และ ต้องหาเงินใช้เองตั้งแต่เด็ก ไม่มีคนมาช่วยเปย์ ก็เยอะแยะนะ
สำหรับผม รถมันก็คือรถ รถมันคือยานพาหนะ มีไว้เพื่อใช้งาน ส่วนที่ซื้อแบบแพง แบบถูก จีน ญี่ปุ่น ยุโรป เมกา อันนี้ มันเป็นเรื่องของความชอบแล้ว ส่วนผ่อนไหวหรือไม่ไหว ก็รับสภาพตัวเองไป
-
ผมอายุ 50 หลังจากเจอข้อ 1-2-3 มาครบ ก็ยังเหลือเงินเป็นร้อย
วันนี้ผมอยากขับอะไรก็ขับครับ มีรถไว้ใช้งานจริงๆ 1 คันพอแล้ว รถหรูที่ต้องซ่อมขายหมดแล้ว เหลือรถหรูอีก 1 คันที่ยังไม่ต้องซ่อมไว้ขับเล่น
กะว่าถ้าวันเป็นอะไรไป ก็สั่งเสียภรรยาและก็เตือนแบบในเนื้อความนี่แหละ ต่อให้มีเงินเหลือเป็นร้อย แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆอย่างในบทความ
รถที่ดีที่สุดคือรถที่เสถียรที่สุด ทั้งตัวรถและการบริการ นาทีนี้ Toyota คือสิ่งที่ไว้ใจได้ที่สุดแล้ว รถในประเทศ จัดๆไปเถอะ อะไรก็ได้
แต่ล่าสุด อยากขับน้องง่วง ก็จัดครับ อยากขับรถถ่านมอเตอร์แรงๆ ก็จัด สองคันรวมกันล้านนิดๆ ได้ขับ ได้ใช้งานจริง ได้รู้ว่า รถจีนห่วยกว่าที่คิด พอแล้ว 🤣😂🤣😂
และรู้ว่าพวกอวยรถจีน(บางรุ่น) นี่ รสนิยมต่ำน่าดู
และสามารถบอกได้เลยว่า ที่พวก io จีนบอกว่า Toyota เป็น Kodak
......
รถจีนเจนปัจจุบันที่พวก io อวยๆกันเกี่ยวกับระบบช่วยขับ
ยังตามห่างกับ Toyota Innova Zenix ที่ออกมาก่อนหน้านี้เลยครับ
Toyota จะเป็น Kodak กี่โมงก่อนดีกว่า
-
คุณทำแบบนั้นถ้าคุณเอาชนะ"กิเลส"ของตัวเองได้ครับ
ซึ่งไม่ผิดที่คนทั่วไปจะทำแบบนั้นไม่ได้ และก็มีอีกหลายคนที่ทำแบบนั้นได้
เพราะรถไม่ใช่จุดมุ่งหมายในชีวิต คนรวย 100 ล้าน 2 คน คนนึงชอบรถ ซื้อ GTR ขับ อีกคนไม่ได้ชอบรถตอนนี้ขับวอลโว่แต่ชอบนาฬิกา มีเรือนละเป็นล้านๆหลายเรือนเลย
เราจะบอกว่าคนรวยคนแรกทำไม่ถูกหรอ ก็ไม่ หรือคนที่สองที่สะสมแต่นาฬิกาจะถูกต้องที่สุดหรอ ก็ไม่
-
ซื้อรถเงินสดครับ จบเลย ไม่ต้องห่วงผ่อน แค่เปลี่ยนความคิดนิดเดียว แทนที่จะผ่อน เอาเงินที่ผ่อนนั่นแหละหยอดกระปุกไว้ทุกเดือน อดใจไม่ซื้อหนเดียว มีเงินในกระปุกครบเมื่อไหร่ ถ้าอยากได้รถใหม่ ทุบกระปุกซื้อ แล้วหยอดใหม่ ประหยัดดอกเบี้ยด้วย ฝึกระเบียบวินัยการเก็บเงินใช้เงิน แถมเป็นการวัดใจตัวเองว่าอยากได้จริงหรือเปล่าถ้าจะต้องแลกกับเงินสดเป็นก้อน อดใจคันเดียว แล้วคันต่อไปก็จะแนวนี้ แล้วคุณจะไม่ต้องมาปวดหัวกับซื้อมาแล้วจะผ่อนไหวไม๊ มีเงินมากเงินน้อยซื้อรถจีนรถญี่ปุ่นรถยุโรปได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ซื้อมาแล้วแทงสูญไม่ต้องนับมูลค่า ไปนับอีกทีตอนจะซื้อใหม่ขายคันเก่าได้เท่าไหร่ หรือมีเก็บพอแล้วจะเก็บไว้ก็ได้ ไม่ใช่ปัญหา
-
มีทรัพย์สิน แสนล้าน คุณก้ควรอยู่ห้องเช่าเล็กๆ แล้วไม่ต้องซื้อรถไม่ต้องออกไปไหน กินร้านอาหารหน้าตึกแถวที่เช่าอยู่ครับ
คุณจะรวยสุดๆ รถก็ไม่ต้องซ่อม ออกไปก็เรียก grab ไม่ต้องขับเอง / บ้านใหญ่ก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องมีแม่บ้าน อยู่ห้องเช่า ใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวเดียว
โคตรรวยเลยครับไลฟ์โค้ช เก็บตังใส่ hd wallet อมไปตอนตาย ฟินถึงสวรรค์เลย
-
บ้งมาก
ทำไมคนพวกนี้ชอบไปจุ้นจ้านชีวิตคนอื่น
ใช้ตัวเองเป็นไม้บรรทัดตัดสินสังคม
เค้าจะใช้อะไรมันก็เรื่องของเขา ตราบใดที่ไม่ไปทำคนอื่นเดือดร้อนก็พอ
ตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้แล้ว
-
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
ผมเข้าใจสิ่งที่ต้องการจะสื่อนะครับ
ผมและน้องเคยตกงานตอนน้ำท่วม ตอนนั้นก็แคว้งเหมือนกัน
โอเคแหละมีเงินเก็บ มีเงินที่ได้จากการจ้างออก แต่งานใหม่ละจะได้เมื่อไหร่ ?
มีเงินไว้มันอุ่นใจกว่าจริงๆ
หลายคนตอนนี้เริ่มตกงานแล้ว และงานใหม่หายากขึ้นนะ บางคนหางานมาแล้ว 2-3ปีไม่ได้งาน คู่แข่งเยอะมาก
บางที่รับ 1 คน สัมภาษณ์ 50 คน โอกาศได้งาน 2% เอง คนก็ยังแย่งไปสัมภาษณ์
ยิ่งไปเดินตลาดจะยิ่งตกใจ มีแต่คนขายทั้งนั้น คนซื้อหายไปกลายเป็นแม่ค้าซะเอง
ส่วนใครจะใช้เงินซื้ออะไรผมไม่ห้าม
เรื่องการวางแผนทางการเงิน บ้านเรายังไม่ให้ความสำคัญตรงนี้ แต่ใครคิดได้ก่อนก็ดีไป
แต่ส่วนตัวผมเน้นเก็บมากกว่า อยากให้ครบตามเป้าที่ตั้งไว้เร็วๆ แก่ไปจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องทำงาน มีกินแน่ๆจนวันสุดท้ายของชีวิต
-
มนุษย์เงินเดือนถ้ามีความสามารถหาเงิน 100 ล้านได้นะครับ
มนุษย์เงินเดือนมีหนทางทำให้มันงอกได้ครับ
ไม่ใช่สามล้อถูกหวย
ผมไม่มานั่งคิดหรอก ว่าจะซื้อรถคันเท่าไหร่ แค่ฝากเข้าหุ้นเอาตัวที่ปันผล 3-4% (ซี่งหาได้ไม่ยกเลยในตลาด บรรดาแบงก์ได้เกือบหมด) ได้ละปีละ 4 ล้าน เอา Xc60 มาขับยังได้เลย
รถนะครับ เลือกให้มันทันฐานะ มันคือความปลอดภัยพื้นฐาน เหนียมมากไปก็ไม่ดี จ่ายจนกระเป๋าทะลุก็ไม่ใช่
-
ท่านศาสดา ผู้หลุดพ้น
แบบนี้ ภัตตาคารทั้งหลายควรปิดกิจการครับ
มนุษย์เราขับเคลื่อนด้วยกิเลส
ท่านจะหลุดพ้น นั่นก็เรื่องของท่านมหา
บางคนเขาตอบว่า
ก็ฉันพอใจ
-
คนนี้ผมตามอยู่ ผมชอบอ่านวิธีคิดในเรื่องการเลี้ยงลูก การมองโลก (เค้าค่อนข้างอัปเดต) แต่อย่างอื่นก็ไม่ค่อยชอบครับ เรื่องตัดสินคนจากการใช้ชีวิตแกพูดบ่อยพอๆกับการเมือง 555
สตอรี่ตามกระทู้แกก็พูดไม่ได้ผิด แต่ถูกครึ่งเดียว ลืมคิดไปว่าคนเรามันจะอายุยืนกันถึงกี่ปี ปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงมีตั้งมากมาย เช่น pm2.5 ถ้ามาหนักกว่านี้? โรคระบาดที่โหดกว่าโควิด? คนบางคนโชคดีก็อาจได้ใช้เงินปันผลช่วงเกษียณจนถึงอายุ 70-80 แต่บางคนก็ไม่ใช่นะ ตายก่อนได้ใช้เงินผมว่าแม่งโคดน่าเสียดาย ที่ถูกคือยึดทางสายกลางครับ เหมือนท่านข้างบนบอก เลือกให้มันทันฐานะ แต่ไม่ใช่จนกระเป๋าฉีก
ผมกินเงินเดือน แค่ระดับ c-level แต่ผมก็อยากให้พ่อแม่ได้นั่งเบนซ์ นั่งอัลพาร์ดบ้างนะ อ่านที่เขาบอกแล้วก็พาลให้คิด ผมผิดอะไรเหรอ ก็ไม่ได้ไปกู้ยืมใคร ซื้อสดมือสอง เงินก็เหลือไปลงทุนทำอย่างอื่นเหมือนกัน ;D
-
ซื้อรถเงินสดครับ จบเลย ไม่ต้องห่วงผ่อน แค่เปลี่ยนความคิดนิดเดียว แทนที่จะผ่อน เอาเงินที่ผ่อนนั่นแหละหยอดกระปุกไว้ทุกเดือน อดใจไม่ซื้อหนเดียว มีเงินในกระปุกครบเมื่อไหร่ ถ้าอยากได้รถใหม่ ทุบกระปุกซื้อ แล้วหยอดใหม่ ประหยัดดอกเบี้ยด้วย ฝึกระเบียบวินัยการเก็บเงินใช้เงิน แถมเป็นการวัดใจตัวเองว่าอยากได้จริงหรือเปล่าถ้าจะต้องแลกกับเงินสดเป็นก้อน อดใจคันเดียว แล้วคันต่อไปก็จะแนวนี้ แล้วคุณจะไม่ต้องมาปวดหัวกับซื้อมาแล้วจะผ่อนไหวไม๊ มีเงินมากเงินน้อยซื้อรถจีนรถญี่ปุ่นรถยุโรปได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ซื้อมาแล้วแทงสูญไม่ต้องนับมูลค่า ไปนับอีกทีตอนจะซื้อใหม่ขายคันเก่าได้เท่าไหร่ หรือมีเก็บพอแล้วจะเก็บไว้ก็ได้ ไม่ใช่ปัญหา
ประหยัดดอกเบี้ย ได้ก็จริงครับ
ถ้าบ้านอยู่ในโซนที่ใช้รถสาธารณะสะดวก และค่าโดยสารไม่แพง
แต่...บางคน บ้านไม่ได้อยู่ในโซนนั้น ค่ารถโดยสารแพงกว่า ค่าดอกเบี้ยผ่อนรถ+ค่าเชื้อเพลิงรถส่วนตัว+ค่าดูแล
สรุป มันไม่มีสูตรตายตัว ว่าซื้อสดหรือผ่อน แบบไหนคุ้มกว่า
-
มานุดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนครับ แล้วสอนว่า... อย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำ เหนือกำหนด เอ้ย.. ::)
คือตาม motto ที่ผมใส่ในลายเซ็นต์เลย คุณเจออะไรมา เรียนรู้อะไรมา
มันก็จะแตกต่างกันในลายละเอียดหลายอย่างด้วยครับ
ถ้าคุณอ่านบทความที่ว่ามีร้อยล้านแล้วควรเก็บเงินไม่ควรใข้เกินไป
ถ้าคุณซื้อเนื้อหา คุณก็ทำ --> คุณก็สบายใจ **หลักการมันอยู่ตรงนี้
และความสบายใจทำให้เราใช้ชีวิตได้
---------
แต่ในชีวิตจริง ถ้าคุณไม่รู้จักตัวตนคุณเอง แล้วคุณไปทำตามอย่างนั้นอย่างนี้ที่ได้ยินได้เห็นมา
คุณก็จะกังวล ระแวดระวัง ซึ่งอาการแบบนี้ส่งผลเสียต่อชีวิตมากกว่าอะไรทั้งสิ้น
ในชีวิตจริงจะเห็น คนที่ระวังการกินนั่นนี่โน่น ห้ามกินเนื้อติดมัน ห้ามดื่มน้ำเย็น ห้ามกินผลไม้หลังข้าว ฯลฯ
สุดท้ายมีไม่น้อยที่เป็นโรครุมเร้าสารพัด ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ทำมันถูกหรือผิด แต่ถ้าคุณทำไปโดยกังวลอะไรก็แล้วแต่
มันทำร้ายสุขภาพร่างกายเรามากกว่าที่คิด อย่างโรคมะ นี่มักจะเกิดกับคนที่เครียดบ่อยๆ เครียดประจำ พอปล่อยวางได้ก็หายมีอยู่ให้เห็น
รถยนต์ก็เหมือนกัน ถ้าเรารู้จักตัวเอง วางแผนระดับนึง บางทีมันให้พลังในการใช้ชีวิตให้กับเจ้าของรถได้ ถ้าคุณเป็นพวกชอบรถยนต์เข้าเส้น
อย่างนิทานตลกร้ายที่ fwdกัน ที่ว่าสุดท้ายเศรษฐีทำงานแทบตาย ประหยัดสารพัด เพื่อให้คนขับรถได้ใช้นี่เอง .. ใครเคยอ่านน่าจะร้องบ้างหละครับ ฮา
เอาเป็นว่าคุณค้นหาตัวเองให้เจอ ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองจะภูมิใจที่ไม่เบียดเบียนใคร ก็คือทางสายกลาง บาลานซ์ หรือพอเพียงเท่านี้ก็เยี่ยมแล้วครับ
-
ลองศึกษาดูครับ ::)
-
มี100ล้าน ดอกเบี้ยปีเดียวก็ซื้อรถ3.5ล้านได้แล้วครับ
และถ้าbmw เหมือนกัน ถ้าซื้อx1ค่าซ่อมบำรุงกับรุ่นราคา3.5ล้านก็ใกล้เคียงกันครับ
บางคนประหยัดค่าซื้อรถแต่หมดไปกับค่าอย่างอื่นมากกว่าก็มีครับ อยู่ที่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าหาเงินมาได้ขนาดนั้นจะใช้ซื้อความสุขบ้างก็ใบ้ไปครับ ถ้าใช้ชีวิตไม่ประมาทนีาตายก่อนเงินหมดอยู่แล้วครับ เอาง่ายๆแค่ฝากกินดอกเบี้ยก็มีเวินใข้เดือนละเกือบสามแสนแล้ว คนปกติเงินเดือนห้าหมื่นเค้ายังมีชีวิตอยู่ได้เลย
-
ชีวิต แต่ละคน ไม่เหมือนกัน ถึงจะรายได้เท่ากัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องเหมือนกัน
รายได้พอจะจ่ายให้รถแพง ถ้าเค้าพอใจจะซื้อ ก็สุดแท้แต่เค้า วันนึง รถแพงๆคันนั้น มัน safe ชีวิตเค้าได้ จากอุบัติเหตุ ผมว่า มันเกินคุ้มไปนานแล้ว เพราะ ถ้าใช้รถเล็ก รถทนๆ อาจจะไม่ได้รอดออกมาก็ได้
-
ชีวิต แต่ละคน ไม่เหมือนกัน ถึงจะรายได้เท่ากัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องเหมือนกัน
รายได้พอจะจ่ายให้รถแพง ถ้าเค้าพอใจจะซื้อ ก็สุดแท้แต่เค้า วันนึง รถแพงๆคันนั้น มัน safe ชีวิตเค้าได้ จากอุบัติเหตุ ผมว่า มันเกินคุ้มไปนานแล้ว เพราะ ถ้าใช้รถเล็ก รถทนๆ อาจจะไม่ได้รอดออกมาก็ได้
เห็นด้วยครับ ตามกำลังและการจัดลำดับความสำคัญ ขับเองเอาตัวรอดเองก็อีกอย่าง ซื้อให้ครอบครัวใช้ให้อุ่นใจว่าปลอดภัยมันก็อีกตัวเลือกหนึ่ง
-
ทรัพย์สินหลายร้อยล้าน กว้างเกิ้น
คำถามคือมีเงินเย็นอ่ะเท่าไหร่ครับ
ก็เงินเย็นนั่นแหล่ะหักค่าเกษียณ หักค่าสำรองรักษาพยาบาล ค่อยเอาไปซื้อรถ ก็จบนะครับ
-
หลายร้อยล้าน passive income ปีนึงก็
มากกว่า 5-6 ล้านแล้ว
คนละเรื่องกับเงินเดือน 3 แสนเลยครับ
-
เกิดมามีความสามารถที่จะมีเงินตั้ง 100 ล้าน .. จะขอให้เขียมๆ ใช้ชีวิตประหยัด แล้วตายไป สาธุ เถอะครับ
รุ่นลูกเค้าเห็นพ่อแม่ ใช้ชีวิตไม่คุ้มค่า เอาเงิน 100 ล้านไปใช้ให้หมดแทน จบ ๆ
-
เกิดเป็นมนุษย์นะครับ มันซับซ้อนจริงๆ เราจะกลัวทุกสิ่งทุกอย่างที่ควบคุมไม่ได้
แต่อย่าลืมครับว่าในขณะเราอยู่ในโลกนี้ มันคือเรื่องปกติที่ทุกอย่างเราไม่สามารถควบคุมมันได้จริงๆ :)
-
ผมซื้อนะครับ เหตุผลเรื่องความปลอดภัยมาก่อน ถ้าเคยโดนอุบัติเหตุจะรู้เลยว่ารถที่แข็งแรงและเทคโนโลยีความปลอดภัยสูงช่วยเชฟชีวิตและร่างกายได้จริงๆ
-
ถ้าคุณไม่ใช่คนรักรถ แค่เพื่อการเดินทางโดยสาร ซื้อรถอะไรก็ได้ที่คุ้มค่า ไม่จุกจิก ตามงบ ตามฐานะ
แต่ถ้ารักรถ บ้ารถ มีความฝันก็ทำเถอะครับ ผมก็มนุษย์เงินเดือนคนนึง แต่ไม่มีลูก ฝันอยากชับปอร์เช่ แลมโบ ผมก็ซื้อครับ เอาไปออกทิทริป ออกงาน พบปะผู้คนเจอสังคมใหม่ๆ
ในขณะที่วันธรรมดาผมก็ชับแคมรี่ก็ได้ สะดวกแบบนี้