Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ สิงหาคม 30, 2025, 19:45:28
-
ผมสังเกตดู ทั้งตระกูล Yaris และ Corolla ได้แต่เครื่อง NR และ ZR ที่มีอายุเกือบๆ 20 ปีแล้ว
โดยเฉพาะเครื่อง NR นี่เป็นตระกูล low cost ฝาสูบเป็น composit และยังไม่ใช่ฉีดตรงทั้งคู่ (หัวฉีดคู่ต่อสูบ) แต่เป็น atkinson cycle แล้วในตัว Hybrid และ 1.2
ผมเห็นในเมืองนอก Yaris TNGA ประหยัด เกิน 30 โลลิตรไปแล้วครับ ส่วนของเรา ได้อยู่ที่ 29 โลลิตร คือ เต็มที่แล้ว
ทุกท่านคิดว่าเพราะอะไรนะครับ หรือว่าเครื่อง M15 M20 ยังมีปัญหาและต้นทุนสูงนะครับ
-
ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหลักๆ น่าจะต้นทุนเลยครับ
ฝั่ง M15A มีเครื่อง Hybrid พร้อมอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงปี 2020 ก็ยังอุส่าไปเอา 2NR มาลงทุนปรับใหม่ให้เป็นเครื่อง Hybrid ทั้งที่ไม่เคยมีตัว Hybrid มาก่อน ส่วน M15A-FXE พร้อมใช้ไม่เอามา
คิดว่าต้นทุน Dynamic Force คงอาจจะยังสูงไป ยิ่ง ativ บ้านเราเน้นกดราคาอัดออฟชั่นด้วย
-
ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหลักๆ น่าจะต้นทุนเลยครับ
ฝั่ง M15A มีเครื่อง Hybrid พร้อมอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงปี 2020 ก็ยังอุส่าไปเอา 2NR มาลงทุนปรับใหม่ให้เป็นเครื่อง Hybrid ทั้งที่ไม่เคยมีตัว Hybrid มาก่อน ส่วน M15A-FXE พร้อมใช้ไม่เอามา
คิดว่าต้นทุน Dynamic Force คงอาจจะยังสูงไป ยิ่ง ativ บ้านเราเน้นกดราคาอัดออฟชั่นด้วย
ครับ น่าเสียดายนะครับ เมืองนอกเครื่องตัวนี้ดีมากๆ ประหยัดแบบ 30++ เลย ส่วนตัวผมมองว่าเครื่อง 3 สูบเหมาะมากสำหรับระบบ hybrid ครับ เครื่อง WA-VEX ก็ไม่เอามาทำ เป็นเครื่องใหม่ ของ Daihatsu ครับ (คล้าย 1KR)
-
โมยังไม่แตกก็ลากใช้ต่อไป 😆
ปกติโตต้าบ้านเราเน้นเพลเซฟเป็นหลัก ทำให้มีข้อได้เปรียบตรงของเก๊าเก่าที่เอามาใช้นั้นมันได้ถูกปรับปรุงจนสมบูรณ์ ไม่ค่อยจุกจิก มันเลยทนกว่าค่ายอื่น แม้เทคโนโลยีจะตามหลังค่ายอื่นมาตลอด
ประมาณนั้น...
-
นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดของรถยนต์ toyota ยุคนี้เลยครับ
-
น่าจะเรื่องต้นทุนละครับ รถจีนมากดราคากันอย่างนี้ ก็มีหลายคนหวั่นไหว
ผมว่า Ativ กับ Yaris Cross ก็เป็นตัวที่ทำเงินให้พี่โตได้โขเลยครับ ยอดขายดี กำไรก็น่าจะไปได้ดีด้วย
-
ปัญหาคือ ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่เอาครับ
กรณีศึกษาคือ เครื่อง 1.0โบ ของทั้ง city และ almera ยอดขายแพ้เครื่องโบราณของ yaris นี่ละ อัลเมร่านี่หนักเลย แพ้แม้กระทั้งมาสด้า 2 กับ แอทราส
คนส่วนมากวางสมดุลย์ การใช้งาน ความทนทาน ราคาค่าซ่อม การดูแล ความแรงไว้พอๆกันครับ กลายเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่ปรับปรุงจนจบ จนไม่งอแงแล้วถูกใจคนส่วนใหญ่มากกว่า
และตลาดประเทศไทย ไม่ได้ใหญ่พอที่จะ R&D หรือปรับปรุงเครื่องใหม่ออกมาง่ายๆ ขนาดตลาดที่ใหญ่กว่าอย่างกระบะ ยังลากเครื่องตัวนึงเกือบ 20ปีเหมือนกัน
เอาเงินไปปรับปรุงในส่วนที่ลูกค้าเห็นชัด อย่างตัวรถ option ดีกว่า
...การมาของรถจีนทำให้... แบบนี้ละครับ ค่ายญี่ปุ่นก็เลยมาทำตาม อะไรที่เคยใส่แล้วไม่ค่อยเห็นก็ไม่ทำดีกว่า ยัด option คนซื้อเห็นชัดกว่า
สุดท้ายคุณได้รถที่ไม่จุกจิกเพราะเทครุ่นเก่าๆ แล้วเงินเหลือมายัดของใส่ตามเทรนจีนใหม่ๆ
ตอบโจทย์การตลาด ยอดขายก็ดี พี่เขาจะเปลื่ยนทำไมละครับ
หรือ corolla เองต่อให้ใส่เครื่องใหม่ ลูกค้าจะซื้อเพิ่มไหม น่าจะน้อยมากครับ เพราะจะโดนคำพูดว่า หน้าตาลุง civicซิ่งกว่า ฮอนด้าทำต่อของเยอะกว่า ฯลฯ ...ก็ขายไม่ออกอยุ่ดีครับ
-
แล้วทำไมใน Toyota Camry ที่ยอดขายก็ไม่ได้เยอะมาก ถึงเอามาใส่ได้ครับ?
-
น่าจะต้นทุนสูงขึ้นเยอะกับโอกาสปัญหาทางเทคนิคที่แก้ยากอาจจะโผล่
ไม่สัมพันธ์กับยอดขายที่อาจขยับนิดเดียวหละครับ
เหมือนที่เคยอ่านมา ยี่ห้อที่น้ำดันเพราะปัญหาตอนฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้มีปัญหาอนุภาคเขม่าย้อนออกมาทางเข้าอากาศ
ตัว DF แก้ปัญหาโดยเพิ่มหัวฉีดอีกชุดนึงตรงทางเข้าอากาศด้วยเลย เพื่อล้างเขม่าย้อนหรือยังไงนี่หละครับ
ต้นทุนหัวฉีดเพิ่มอีกเท่าตัว ปัญหาพิศดารก็อาจจะเพิ่มด้วย
อันนี้อ่านมานานแล้วอาจะจำพลาดหรือสับสน ก็แชร์เท่าที่พอนึกได้มาเล่าสู่กันฟังครับ
-
แล้วทำไมใน Toyota Camry ที่ยอดขายก็ไม่ได้เยอะมาก ถึงเอามาใส่ได้ครับ?
ย้อนไปกระทู้ล่างๆ ที่ถามกันว่าทำไม D seg ราคาถึงกระโดดจาก C seg แบบที่ซื้อ B seg ได้คันนึงนี่ละครับอาจจะเป็นคำตอบ
D seg คนซื้อไม่ใช่กลุ่ม price sensitive มากนัก ถ้าใส่ของดีกว่า เพิ่มราคาได้ ค่าซ่อมก็ไม่ได้เป็นปัจจัยมากนักสำหรับคนซื้อรถกลุ่มนี้มือ 1ครับ เพราะส่วนมากขายก่อนเก่ากันแทบจะทั้งนั้น
และ Camry ตัวนี้ 1 เครื่องใช้ทุกเกรด ตัวเครื่องมีผลกับยอดขายพอประมาณ เพราะรถเกรดนี้ใส่ option มาเต็มจนไม่รู้จะใส่อะไรแล้ว การตลาดจะมาวัดกันที่ option เหมือน B C ก็ไม่น่าใช่ครับ
อีกอย่างคือ คู่แข่ง Honda ไม่ฆ่าตัวตายเหมือน city เท่าไหร่ เลยสู้กันได้สูสี ถ้า city โบไม่มีปัญหา หรือไฮบริดขายถูกกว่านี้ โดโยต้าอาจจะต้องงัดเครื่องดีๆมาสู้ก็เป็นไปได้ครับ
-
ในอดีตที่ผ่านมา
ดูเหมือนจะมีเครื่องว้าวๆ ผ่านมาแค่ 4AGE
เท่านั้นเอง ที่ขายทั่วไป
-
ทำมาแค่ไหนคนไทยก็ยังแห่ซื้อแล้วจะเพิ่มต้นทุนไปทำไม ขนาดถุงลมรอบคันในรถเล็กเพิ่งจัดมาให้ไม่กี่ปีมานี่เอง ก็ยังมีคนไทยหลายๆคนบอกว่ามีเยอะก้ไม่ได้ใช้ ;D ;D
-
ลากเครื่องเดิมมาขนาดนี้ยังทำราคาสู้รถจีนลำบากเลยครับ
เอาเครื่องใหม่มาราคาโดดไปอีกยิ่งเหนื่อย
-
ลดต้นทุน เครื่องเก่าเก็บแต่ก็ยังขายได้ในไตลาน ลุกค้าไม่ได้สนใจว่าเก่าหรือไม่ สนใจแค่ว่าใช้ได้ ทนทาน และประหยัด สมกับโตโยต้า
แต่เมืองนอกเค้าไม่ได้มองแค่นั้นไง เทคใหม่ต้องมา ไม่งั้นเค้าก็ไม่เอา
-
ที่น่าแปลกคือ กลุ่มผู้ใช้รถโดยส่วนใหญ่แทบไม่พูดถึงเลยว่า "เครื่องโบราณ" กลับยินดีและพูดในแง่บวกว่า มันทน มันไว้ใจได้ (แม้แต่สื่อยานยนต์)
แต่พอเป็นมาสด้า2 ที่มีเทคโนโลยีเครื่องสูงกว่า และมีอายุเครืองน้อยกว่า กลับถูกพูดกันมากว่า "เครื่องเก่าโบราณ"
ก็เป็นเพราะมันคือโตโยต้า ที่ชาวเน็ทหลายคนเคยพูดว่า แค่เอาโลโก้ไปแปะรถอะไรก็ได้ ลูกค้าชาวไทยยินดีซื้อโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
-
คิดว่าเรื่องต้นทุนครับ
เพราะถ้าเครื่องใหม่ ต้นทุนก็จะมากขึ้น ไหนจะค่า R&D อีก
ส่วนลูกค้ามีแต่อยากให้ราคาถูกลงๆ
ฉนั้นจึงมาลงเอยที่ พัฒนาเครื่องเก่าให้ประหยัดมากกว่าเดิม
และทำราคาใหม่ให้ถูกลงกว่าเดิมครับ
เหมือนกับผมสมัยก่อนก็ชอบเครื่องใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่นะ
แต่ตอนนี้ ขอให้ไม่จุกจิกก็พอ ใช้แล้วสบายใจกว่า
-
ขอถามกลับนะครับ
นอกจากพวกเราที่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกแล้ว
ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ซื้อรถพวกนี้เขารู้กับพวกเราหรือเปล่า
เคยเสวนาในกลุ่มที่ใช้ innova zenix ด้วยกัน
มีแค่ 3ใน10 ที่รู้ว่าเราได้ใช้เครื่องเทพแค่ไหน
7ใน10 ซื้อเพราะมันนั่ง 7ที่นั่งสบายๆ
ยังมีบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นรถอิโดนีเซีย และที่ซื้อเพราะเป็นรถ 7ที่นั่งจากโตโยต้า
ที่สำคัญ จะมีใครรู้มั๊ยว่า TSS ใน Innova Zenix ทำงานได้ดีกว่ารถไฟฟ้าจีน Gen ปัจจุบันหลายรุ่นมากๆ เบรคตามคันหน้าของ zenix ทำงานได้เลิศกว่ารถไฟฟ้าจีนที่ออกปี 2024-2025 แบบโดรนของจริงกับโดรนของเล่นที่ขายใน mega plaza เลย ทั้งๆที่หน้าตา ui ของ toyota ห่วยแตกสุดๆ
-
พัฒนาออฟชั่น และ หน้าตา เหอะครับ
คนไม่กี่คนหรอก ที่รู้ว่า ใต้ฝากระโปรง มีอะไรอยู่
มันไม่ได้มีผลกับคนซื้อขนาดนั้นหรอกครับ ในรถกลุ่มนี้
ขนาดทุกวันนี้ คู่แข่งอย่าง Civic เขาไป 1.5 Turbo กันแล้ว Altis เอง ยังใช้ 1.6 1.8 อยู่เลย
เพราะจุดขายเขาคือ เหนียว ทน เซอร์วิสง่าย ซ่อมง่าย อะไรหาง่าย ราคาไม่แพง มันชัดเจนอยู่แล้ว
-
รอยอดตก ไม่ก็ model change ถึงใส่เครื่อง dynamic force ได้มั้ง
ถ้าใส่เครื่อง 2.0 คนอาจจะคิดว่ากินน้ำมัน ต้องใช้งบทำโฆษณาอธิบายกันอีก
-
กั๊กครับ กลัวกำไรน้อยแค่นั้นเลย
-
กลุ่ม b-car ยังพอเข้าใจได้ แต่ 2ZR นี่ ผมว่าใจร้ายไปหน่อย
แต่พอดูภาพรวม ถ้าเอาเรื่องความ balance ของ ต้นทุน ถึกทน ไม่ซับซ้อน
มันก็จบที่ ZR เหมือนเป็นขั้นสุดของการพัฒนาในเงื่อนไขนี้แล้ว ก็เข้าใจได้อีกนั่นแหละ ;D
สมมติ corolla cross เปิดมายอดไม่เดิน เพราะเครื่องเก่า คงเปลี่ยนไปนานละ แต่นี้ชิว ๆ เลย
แต่ประเด็นเครื่อง อืด เทคฯ เก่า แทบจะไม่ส่งผลต่อยอดขายเลย
สงสัยต้องรอเครื่องเทคฯ ใหม่ที่ toyota ทำอยู่ หรือเผลอ ๆ เราจะได้ข้ามไปใช้เครื่องนั้นเลย :-\