Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ ตุลาคม 13, 2025, 20:30:17
-
ผมสังเกตดู หลายๆ คนจะบ่นรถสมัยนี้ ว่ามันเกาะถนนมากขึ้น แต่กระเทือนมากขึ้น โดยเฉพาะรถ Benz รุ่นใหม่ๆ
แต่คนจะรู้สึกย้อนยุคย้อนวัยไปกับช่วงล่างของ Benz ยุค 80-2000
นึกภาพไม่ออกเลย จริงๆ ครับ ว่าช่วงล่างมันเป็นไปในทรงไหน เห็นรีวิว พี่จิมมี่บอกว่า Geely EX5 ก็มีฟิวการตกแต่งช่วงล่างที่คล้ายๆ กัน
อยากให้รีวิวกันหน่อยครับ ว่า ทำไมคนถึงหลงไหลช่วงล่างแบบ German Engineering ในยุคนั้นกันมาก
และมีรถรุ่นไหน ที่ราคา ไม่เกิน 1 ล้าน หรือ 2 ล้าน ที่ช่วงล่างไปในแนวนี้บ้างครับ
https://www.youtube.com/watch?v=gOWoOyQE6l8 (https://www.youtube.com/watch?v=gOWoOyQE6l8)
https://www.youtube.com/watch?v=jsRkLme2vT4 (https://www.youtube.com/watch?v=jsRkLme2vT4)
ไม่แน่ใจว่า euro ride แบบ leapmotor นี่ พอใกล้เคียงไหมครับ เสียดายตรงตัวแทน คือ พระนครยนตร์ คนเลยไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ครับ
-
เคยนั่ง benz รุ่นเก่า แต่ยังไม่เคยนั่งรุ่นใหม่
รุ่นเก่า นิ่มสุด
-
ช่วงล่างอาจจะต่างประมาณนึงนะ
แต่ที่ทำให้รู้สึกต่างเยอะสุดน่าจะเป็นขนาดล้อครับ
ยุคนั้นยางติดรถซีรี่ส์ประมาณ60-65กันเลยนะครับ ไม่นิ่มจะทนไหวเหรอ
ลองรถเบนซ์90ใส่ล้อamg19นิ้ว ก็กระด้างครับ
ในทางกลับกันถ้ารุ่นใหม่ที่ใส่ล้อ19แล้วเบรคเล็กพอที่จะใส่แมก16นิ้วได้ ก็นุ่มแน่ๆ แก้มยางหนาขนาดนั้น
-
ช่วงล่างอาจจะต่างประมาณนึงนะ
แต่ที่ทำให้รู้สึกต่างเยอะสุดน่าจะเป็นขนาดล้อครับ
ยุคนั้นยางติดรถซีรี่ส์ประมาณ60-65กันเลยนะครับ ไม่นิ่มจะทนไหวเหรอ
ลองรถเบนซ์90ใส่ล้อamg19นิ้ว ก็กระด้างครับ
ในทางกลับกันถ้ารุ่นใหม่ที่ใส่ล้อ19แล้วเบรคเล็กพอที่จะใส่แมก16นิ้วได้ ก็นุ่มแน่ๆ แก้มยางหนาขนาดนั้น
เห็นด้วยกับท่านเลยครับ
ช่วงล่าง โช๊ค สปริงช่วยเรื่องการเกาะถนน ส่วนยางก็ช่วยเรื่องความนุ่มและซับแรงสะเทือน ยิ่งยางหนานุ่มยิ่งได้เปรียบ
แต่พอเอาความสวยงามและความแรงมาด้วย เบรคก็ต้องใหญ่ขึ้น แม็กก็ต้องใหญ่ขึ้น ยางก็เลยบางลง จะแข็งกระด้างก็ไม่แปลก
อยากนุ่ม นิ่ง นั่งสบาย ก็ต้องยอม ลดความแรงและความสวยงามลง
อยากสวยงาม โหลดเตี้ย แม็กใหญ่ ยางบาง ก็ต้องยอมกระด้าง กระเทือนกันไป
(ผมคนนึงที่ไม่เคยเชื่อว่าจะทำรถโหลดแป๊ก ยางบาง แม็กโต แล้วจะนั่งนุ่มสบายไปด้วยได้ครับ)
-
ขับแล้วสุนทรีย์ ครับ (เคยทั้งเป็น คนขับ และ เป็นคนนั่ง)
ช่วงล่างสไตล์ นุ่ม+แน่น ขับทางไกล ความเร็วสูง นิ่ง เนียน เลย .. (ถ้าไม่เล่นกับโค้งหนักๆ นะ)
เบาะหลัง นั่งสบาย ฟีลโซฟาในบ้าน (โดยเฉพาะ E Class / S Class ขึ้นไป)
เป็นยุคของการ Over Engineer ช่วงล่าง ตัวถัง ความแข็งแรงจัดเต็ม ถึกทนสุดๆ อะไหล่บางชิ้นใช้จนขายต่อ ก็ยังไม่ต้องเปลี่ยน
... เครื่องยนต์+เกียร์ ถึกมาก การบำรุงรักษายังไม่ซับซ้อน เหมือนรถยุคหลัง ปี 2000
... Service หรือ อะไหล่ ราคาไม่สูงอย่างที่คิด (บางชิ้น ราคาสูง แต่กว่าจะเสียคือ ใช้เยอะจนคุ้มแล้ว)
... ระบบส่วนใหญ่ เป็น Mechanical ที่ออกแบบมาดี ทำได้ได้เสถียร ทนทาน (Electronic ยังน้อย)
-
ไม่ใช่ผมละ 1
รถ MB สมัยก่อน ใช่ครับ มันนุ่ม เรียกว่า เซ็ตมาให้นุ่มเป็นหลัก แต่การยึดเกาะถนนนี่ ไม่ได้เลย ความเร็วสูงโคลง เด้ง มาก
สมัยนั้นการขับขี่เลยเทมาจาก BMW มากกว่า จนเป็นที่รู้กันว่า ถ้าอยากมาทางสปอร์ต ขับดี ต้องมาทาง BMW แต่ถ้านุ่ม นั่งสบาย ต้องไปทาง MB
แต่ตอนนี้ ใน segment เดียวกัน ทาง MB ก็พยายามทำรถที่ขับดี เพื่อขยี้คู่แข่งอย่าง BMW ซึ่งในหลายๆ ตัวก็ดีขึ้นนะ ไม่ใช่ เน้นนุ่มไปซะหมด
อันนี้ไม่นับว่า รุ่นที่ได้โช้คถุงลมนะ
มันก็คือ การตลาดในยุดนั้นๆ แหละครับ ปัจจุบัน MB ที่ยังคงช่วงล่างนุ่มสบาย ก็เยอะแยะนะครับ แต่มันจะไปอยู่ในกลุ่ม กลางถึงสูง หรือ สูง ไปเลย
-
เท่าที่ผมทราบนะครับ
รถรุ่นเก่าๆช่วงล่างนุ่มครับ พวกยุค 80 เนี้ยนุ่มสุดๆ
เพราะสมัยนั้นขับรถกันไม่เร็วมาก มันเลยลงตัว
ตัดภาพมาที่ตอนนี้ ขับ 120 นิ่งๆ ยังมีคนแซงแบบฉีกไปเลย หายวับไปกับตา ขับเร็วกันเป็นนิสัย
ส่วนรถสมัย80 เอามาขับความเร็วมาตรฐานเดินทางไกลของตอนนี้จะย้วยมากๆครับ ถ้าเข้าโค้งเนี้ยโยนจนคิดว่าจะหลุดถนน
-
ช่วงล่างนุ่ม รถปี 90 ทั้งจุดยึด การเลือกใช้ขนาดบูชยางมันต่างกันมาก อีกทั้งรูปแบบของช่วงล่าง ยางเบ้าหัวโช้คด้วย
มันไม่บอบบางเหมือนรถยุคปัจจุบันที่เน้นต้นทุนครับ แต่ไดนามิค หรือ ฟิลลิ่งการเข้าโค้งนี่มันไม่ได้เลยนะครับ ก็ใช่นะมันไม่หลุดถนนง่ายเหมือนกระบะยุคใหม่ๆแน่ๆ แต่ก็ไม่สนุก เข้าโค้งทีมันเอียงมาก
เป็นรถวิ่งทางยาวๆ ครูซไปเรื่อยๆ มีความสุขครับ
เคยนั่ง 940 บูชช่วงล่างเป็นยูรีเทน โช้คBill ก็ขับสนุกขึ้นครับ แต่ก็เสียคาแรคเตอร์รถนั่งดีๆไป
960 Exclusive เครื่อง 3.0 ช่วงล่างสมบรูณ์นะ กรุงเทพ-ปัตตานีก็ไม่เหนื่อย :D :D :D แต่กรุงเทพ-แม่สอดเวียนหัว ;D ;D ;D
ของงี้ต้องลองนั่ง ลองขับซักครั้งครับ รับรองหายสงสัย
ช่วงล่างอาจจะต่างประมาณนึงนะ
แต่ที่ทำให้รู้สึกต่างเยอะสุดน่าจะเป็นขนาดล้อครับ
ยุคนั้นยางติดรถซีรี่ส์ประมาณ60-65กันเลยนะครับ ไม่นิ่มจะทนไหวเหรอ
ลองรถเบนซ์90ใส่ล้อamg19นิ้ว ก็กระด้างครับ
ในทางกลับกันถ้ารุ่นใหม่ที่ใส่ล้อ19แล้วเบรคเล็กพอที่จะใส่แมก16นิ้วได้ ก็นุ่มแน่ๆ แก้มยางหนาขนาดนั้น
มันก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ อย่าง W124 ล้อ16 นี่ 215/55 R16 เองน่ะ เทียบกับยุคใหม่อย่าง Altis หน้่าแบนก็ได้ 205/55R16 ใช้ผมเลือกเป็นคนนั่งเน้นนั่นสบายนะ ผมเลือก W124 เลยล่ะ
-
ช่วงล่างนุ่ม รถปี 90 ทั้งจุดยึด การเลือกใช้ขนาดบูชยางมันต่างกันมาก อีกทั้งรูปแบบของช่วงล่าง ยางเบ้าหัวโช้คด้วย
มันไม่บอบบางเหมือนรถยุคปัจจุบันที่เน้นต้นทุนครับ แต่ไดนามิค หรือ ฟิลลิ่งการเข้าโค้งนี่มันไม่ได้เลยนะครับ ก็ใช่นะมันไม่หลุดถนนง่ายเหมือนกระบะยุคใหม่ๆแน่ๆ แต่ก็ไม่สนุก เข้าโค้งทีมันเอียงมาก
เป็นรถวิ่งทางยาวๆ ครูซไปเรื่อยๆ มีความสุขครับ
เคยนั่ง 940 บูชช่วงล่างเป็นยูรีเทน โช้คBill ก็ขับสนุกขึ้นครับ แต่ก็เสียคาแรคเตอร์รถนั่งดีๆไป
960 Exclusive เครื่อง 3.0 ช่วงล่างสมบรูณ์นะ กรุงเทพ-ปัตตานีก็ไม่เหนื่อย :D :D :D แต่กรุงเทพ-แม่สอดเวียนหัว ;D ;D ;D
ของงี้ต้องลองนั่ง ลองขับซักครั้งครับ รับรองหายสงสัย
ช่วงล่างอาจจะต่างประมาณนึงนะ
แต่ที่ทำให้รู้สึกต่างเยอะสุดน่าจะเป็นขนาดล้อครับ
ยุคนั้นยางติดรถซีรี่ส์ประมาณ60-65กันเลยนะครับ ไม่นิ่มจะทนไหวเหรอ
ลองรถเบนซ์90ใส่ล้อamg19นิ้ว ก็กระด้างครับ
ในทางกลับกันถ้ารุ่นใหม่ที่ใส่ล้อ19แล้วเบรคเล็กพอที่จะใส่แมก16นิ้วได้ ก็นุ่มแน่ๆ แก้มยางหนาขนาดนั้น
มันก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ อย่าง W124 ล้อ16 นี่ 215/55 R16 เองน่ะ เทียบกับยุคใหม่อย่าง Altis หน้่าแบนก็ได้ 205/55R16 ใช้ผมเลือกเป็นคนนั่งเน้นนั่นสบายนะ ผมเลือก W124 เลยล่ะ
อันน่าจะเกี่ยวกับน้ำหนักรถกับระบบช่วงล่างไม่เหมือนกันด้วยครับ น่าจะเปรียบเทียบกันยาก ถ้าเบนซ์เก่ากับเบนซ์ใหม่ น่าจะตรงกันมากกว่า
อ้ออีกอย่าง w124นี่ใต้เบาะหน้าเหมือนเป็นสปริงนะครับ มันเลยยิ่งซับแรงสเทือนอีกชั้น ยิ่งนุ่มไปใหญ่
แต่ผมเคยนั่งแล้วมันหยุ่นๆไปหน่อย ตัวคนขับไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรถเท่าไหร่
-
ได้ฟังคลิปที่คุณ J!MMY และคุณ Mark รีวิว GEELY EX5 ละครับ
ผมไม่ค่อยรู้ข้อมูลของรถรุ่นนี้ เลยขอยกตัวอย่างบางช่วงมาจากในคลิปนะครับ
1:08:00 คุณ J!MMY พูดเรื่องช่วงล่างว่า ความดีงามของรถคันนี้คือ comfort drive เป็นรถที่นุ่มสบาย
(ถ้าฟังจนจบ คือ นุ่มสบายในความเร็วต่ำ ฟีลลิ่งเหมือน benz ยุคเก่า
ส่วนความเร็วสูง GEELY ยวบยาบ)
1:14:20 คุณ J!MMY เล่าว่า จากที่ลูกค้าเป้าหมาย คือ ครอบครัวยุคใหม่ ชายหญิงอายุประมาณ 35 มีลูกแล้ว
กลายเป็นว่าคนที่โดนตกเยอะที่สุด คือ บรรดา สว
เพราะเป็นรถที่มีคาแรคเตอร์ของ e class รุ่นเก่าๆ พวก w123 w124 , volvo 740 760 940 960
(คาแรคเตอร์บางอย่างของรถ ฟีลลิ่งของเบาะ และช่วงล่าง)
คุณ Mark เสริมว่า interior เหมือน s class w221
คุณ J!MMY บอกว่านี่คือสิ่งที่อยากเห็น benz ทำมานานแล้ว คือ รถที่ราคาไม่แพง เช่น c class แต่ set นุ่มๆเอาใจ สว
เช่น w205 c180 elegance
คุณ Mark list เพิ่มรุ่นให้ มี
w202 classic
w202 esprit
w205 (c180 exclusive , c200 elegance , c200 avantgarde)
คุณ J!MMY และ คุณ Mark บอกว่าพวกนี้เป็น benz สายนุ่มราคาไม่แพง
แต่ถ้าปัจจุบัน จะเอา benz นุ่มๆ ก็ต้องไปถึง e class E350e amg dynamic 4 ล้านกว่า
===================================
มีเคสคนรู้จัก เค้าเคยนั่ง w202 w203 ของคนอื่น หลายปีถัดมา พอมีเงินเก็บซื้อ benz entry level ได้
เลยซื้อ CLA250 บอดี้แรก เพราะคิดว่ารถ(รวมทั้งช่วงล่าง)จะให้ฟีลลิ่งเหมือนที่เคยสัมผัสมา
ทนใช้อยู่ได้ปีกว่าๆ ขาย บอกว่าช่วงล่างแข็งมาก ไม่เหมือนที่เคยนั่ง benz มา
(วัยรุ่นอาจจะชอบเฟิร์มๆก็ได้ แต่ สว บอกไม่ไหว)
ที่ถวิลหากัน ก็คงเป็นอย่างที่ คุณ J!MMY และ คุณ Mark บอกครับ คือ
ความนุ่มของช่วงล่าง ที่อยากหาซื้อได้ในรถกลุ่ม entry level ของ benz
โดยที่ไม่ต้องกระโดดไปถึงขั้น E350e amg dynamic 4 ล้านกว่า
เรื่องขนาดยาง
ปัจจุบันผมมี benz อายุ 23 ปี อยู่คันนึง ล้อเดิมโรงงานให้มาขอบ 16
ตอนได้รถมา(มือสอง) เคยคิดจะเปลี่ยนล้อให้ใหญ่ขึ้น แต่พอลองขับซักพัก ปรากฎว่าชอบมาก นุ่มมาก
ผมเลยไม่เปลี่ยนละ แล้วใส่ยางแนว comfort yokohama ตระกูล เดซิเบล มาตลอด เอาให้นุ่มสุดๆกันไปเลย
ปัญหาที่เจอปัจจุบัน คือ หายาง comfort size นี้ไม่ได้แล้วครับ 555 (225/50 R16)
เพราะเดี๋ยวนี้รถไปใช้ยางขอบใหญ่ๆกันมากขึ้น , ยางขอบ 16 ก็ผลิตจำนวน size น้อยลง
ตอน 15 ปีที่แล้ว และหลายปีถัดมา bridgestone michelin yokohama ต่างมียาง comfort size นี้
ปัจจุบัน ทั้ง 3 ยี่ห้อ ไม่ผลิตยาง comfort size นี้แล้ว
search ในเว็บร้านยางย่านติวานนท์ เจอแค่ 3 รุ่น , 2 รุ่นเป็นยาง sport , อีก 1 รุ่นผมไม่รู้จัก :'(
-
ส่วนตัวผมมองว่าถ้าต้องการอารมณ์แบบเบนซ์90 รถที่ถ่ายทอดลักษณะการขับกับความไม่จุกจิกจากยุคนั่นน่าจะเป็นlexusตระกูลes หรือrxแทน
แต่ถ้าจะหาจากตราดาวรุ่นเล็กอาจจะยากเพราะกลุ่มเป้าหมายน่าจะเปลี่ยนจากเจ้าของกิจการวัยกลางคนแบบรถยุค90เป็นรถสำหรับลูกค้าอายุน้อยที่กำลังซื้อสูงไปแล้ว
-
ส่วนตัวผมชอบสมัยใหม่มากกว่าครับ
เบ๊นซ์สมัยก่อนผมนึงได้แค่ว่ามันนุ่ม นั่งสบาย
แต่ความเฟิร์ม การยึดเกาะที่ความเร็วสูง
ผมว่าผมชอบสมัยใหม่ครับ
-
ผมชอบ ช่วงล่างรถยุค 90 นะครับ เหมือนจะเน้นนุ่มเป็นหลัก
เคยใช้ volvo 740 940 ถ้าขับตรงๆ ขับไม่เกิน 120 มันสบาย แบบที่รถปัจจุบันหาเทียบได้ยากมาก นอกจากรถแพงไปเลย แต่ถ้าเจอโค้ง ก็โยนย้วยไปเลย
ในมุมของคนที่ไม่ได้ขับเร็ว หรือมุดโยกซัด มันสบายมากๆครับ ซึ่งรถหลังๆ ก็ปรับให้ช่วงล่างมันกระชับขึ้น ใส่ล้อใหญ่ยางบาง เน้นการขับขี่มากขึ้น
w124 เท่าที่เคยนั้ง ไม่แน่ใจสภาพ คือช่วงล่างตะ firm กว่า แต่เข้าใจว่า ความเร็วหลัง 120 น่าจะนิ่งกว่า เยอะ
-
ผมคนหนึ่งครับที่ได้ขับ mb ตั้งแต่ 123 124 เป็น e class ไล่มาเรื่อยจนถึงเจนปัจจุบันครับ
เหตุเพราะพ่อแม่ผมชอบ e class มากๆ เลยเปลี่ยนทุกเจน ผมก็ได้ขับรถของพวกท่านมาตลอดครับ แต่ไม่เคยขับแบบเป็นเจ้าของครับ ผมอยู่คนละบ้านกับพวกท่าน
จริงๆผมคงตอบเจ้าของกระทู้ไม่ได้แน่ๆ หากผมไม่ได้เป็นเจ้าของ Geely EX5
Geely EX5 ใช้ขอบ 18" ไม่มีความตึงตังเหมือนเบ๊นซ์รุ่นใหม่ๆแม้แต่น้อยครับ
ปัจจุบันผมมีทั้ง EX5 และ GLA w247 ในโรงรถครับ ซึ่งฟิลลิ่งต่างกันเลย
ผมคอนเฟิร์มตามพี่จิมมี่ครับว่าช่วงล่างของ Geely EX5 เหมือเบ๊นซ์รุ่นเก่าๆจริงๆครับ นุ่มนวลและเนียนมากๆ
ปล.เมื่อหลายปีก่อน ตอน MG HS ออกตัวมาใหม่ๆ ผมเคยไปเม้นท์ในเว็ปต้องห้ามว่านั่งเบาะหลังแล้วเนียนเหมือน MB รุ่นเก่าๆ ประมาณ 124 ดีกว่า 210 ใสแม็ก และ นุ่มนวลนั่งสบายกว่า 212 พอตัว
ผมโดนคนเกลียด mg ถล่มยับเลย 555
บางคนถึงขั้นจะให้ผมถ่ายไอดีกับรถที่ผมไปเจ้าของลงเน็ตก็มี
-
ผมว่าแชสซีก็มีส่วนครับ รถรุ่นใหม่ๆแชสซีแข็งแรงกว่าเยอะเน้นลดแรงบิดตัว ตัวถังเลยซับน้อยลง เลยต่างกับรถรุ่นเก่าๆ ที่ตัวถังให้ตัวมากกว่า ถ้ายิ่งเป็นพวกรถไฟฟ้าจีน ตัวถังยิ่งแข็งเลย เท่าที่ลองมาหลายคัน ตัวรถกระด้างมากแม้จะเซตให้ช่วงล่างนิ่ม
-
ได้ใช้ 126 อยู่พักนึง มันดีนะ นุ่มนวล เอาอยู่ (ส่วนนึงเบาะมันช่วยเรื่องซับแรงได้ส่วนนึงนะผมว่า) แต่ไม่ชอบครับ ไม่ใช่ทาง ;D
-
W124 230E Code A ล้อ AMG ยาง 225/45-17 RE71
- ยางดังสนั่น ช่วงล่าง แน่น เฟิร์ม แต่รูดผ่านทางขรุขระได้ แบบรู้สึกได้น้อย .. จุดเด่นจริงๆคือ มันนิ่ง ขับ 120 เหมือน วิ่งอยู่ 80 .. แต่ เบนซ์ยุคนั้น พวงมาลัยยังไม่ใช้แร็คแอนด์พิเนียน ความแม่นยำ การตอบสนอง ก็ต้องทำใจหน่อย
940 GL ล้อเดิม ยาง FALKEN FK-06U Japan
- นุ่มกว่า ย้วยกว่า W124 ชัดเจน ขับไม่เกิน 100 อารมณ์แบบนั่งเรือ โยกเบาๆ กำลังเพลิน เร็วกว่านั้นไม่นิ่งเท่า W124 ยิ่งทางโค้ง ยิ่งเลิกคุย
960 2.4 ตาตี่ ใส่ล้อ 17 (ยางจำไม่ได้)
- นุ่มกว่า W124 คันข้างบนนะ และไม่ย้วยแบบ 940 ด้วย คือ นั่งนุ่ม นั่งสบาย ไม่เคยนั่งทางไกล แต่พ่อบอกว่า "ยังห่างจากเบนซ์อีกเยอะ"
.............
สมัยนี้เหรอ ? ผมว่า ญี่ปุ่นดีๆ มันก็ไม่ได้แย่
- ล้อ 19 ยาง มิชลิน ติดรถ CR-V G6 มันก็รูดผ่านฝาท่อ รอยต่อถนน ไปแบบนุ่มๆ สบายๆ ขับทางไกล 120 มันก็นิ่งใช้ได้ คงเทียบยุโรปสมัยนี้ไม่ได้ แต่ถ้าเทียบรถยุคนั้น ผมว่า ไม่แย่
-
ถ้ายางซีรี่ส์55ขึ้นไป ไม่น่าจะมีปัญหาความกระด้างแล้วครับ(crvน่าจะ235/55/19)
ถ้าล้อ19ในaccord หรือcivic น่าคนละอาการกันเลย
-
ยางก็น่าจะมีส่วนเยอะเลยคับ สมัยก่อน standard นีคือ series 70 แก้มอ้วน ๆ เท่าที่เคยขับ W124 ที่บ้าน มันก็หนัก ๆ นุ่ม ๆ แต่ด้วยความขับไปเรื่อยๆ มันก็คงชิลดีละมั้งคับ เพราะไม่ได้เอาไปซิ่ง หรือมุดอะไร ส่วน A4 B5 อีกคัน ผมว่ามันคนละฟิลเลย มันกระฉับกระเฉงกว่า ไม่ได้รุ้สึกเป็นก้อน ๆ หนัก ๆ แบบ W124
-
W124 รถเดิมๆมันก็เน้นสบายกับเดินทางไกลความเร็วสูงแบบสายเอเชียได้มั่นคงดี
แต่สมัยก่อนก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบช่วงล่างเดิมที่ค่อนข้างโคลง ใครมุดหรือชอบยัดโค้ง ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ต้องทำช่วงล่างเหมือนกันครับ
โชคดีที่มันเครื่องหลายขนาดมากและโรงงานก็ทำโช้คกับสปิงมาให้เหมาะกับน้ำหนักและความแรงที่เพิ่มขึ้น
ทำให้สามารถยืมของรุ่นอื่นมาใช้ได้ง่ายๆ และมีของเยอะพอสมควร
กันโคลงหน้าหลังมีอย่างละ3-4เบอร์ ทั้ง4สูบ 6สูบ 8สูบ ลิมูซีน
4สูบก็ยืมกันโคลง6สูบมา
6สูบก็ยืมกันโคลง 8สูบมาใส่
โช้คก็b8 ตรงรุ่นหรือโช้คหลังยังแข็งไม่พอก็ยืมของr129มาใส่ได้อีก
สปริงก็เช่นกัน มีผลิตทั้งสูงและต่ำตามสภาพถนนประเทศที่ขาย หรือยืมรุ่นใหญ่หรือรุ่นถัดมาอย่างตากลมใส่ได้ หรือeibachก็แค่ชุดละประมาณหมื่นเดียว
กลุ่มที่เล่นกันก็จะประมาณนี้ ถ้าเห็น124เบรคใหญ่ใส่ล้อforgedส่วนใหญ่โช้คสปริงจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหญ่เกือบทุกคัน
แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่แนวนิ่มนวลแต่หนักแน่นแบบเดิมแล้ว ถ้าคันใหนใส่ล้อใหญ่ ก็กระด้างพอๆกับรุ่นใหม่ๆนั่นแหละครับ
-
เมื่อก่อนขับ W124 เหมือนกัน มันสนุกดีนะครับ
หาของอัพเกรดยอดฮิตแบบนี้สนุกดี หาข้ามรุ่น ตัวนอก ตัวใหญ่กว่ามาใส่กัน
เบรค กันโคลง โช้ค หม้อลมเบรค อะไรแบบที่คุณว่าเลย คิดถึงเลย
W124 รถเดิมๆมันก็เน้นสบายกับเดินทางไกลความเร็วสูงแบบสายเอเชียได้มั่นคงดี
แต่สมัยก่อนก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบช่วงล่างเดิมที่ค่อนข้างโคลง ใครมุดหรือชอบยัดโค้ง ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็ต้องทำช่วงล่างเหมือนกันครับ
โชคดีที่มันเครื่องหลายขนาดมากและโรงงานก็ทำโช้คกับสปิงมาให้เหมาะกับน้ำหนักและความแรงที่เพิ่มขึ้น
ทำให้สามารถยืมของรุ่นอื่นมาใช้ได้ง่ายๆ และมีของเยอะพอสมควร
กันโคลงหน้าหลังมีอย่างละ3-4เบอร์ ทั้ง4สูบ 6สูบ 8สูบ ลิมูซีน
4สูบก็ยืมกันโคลง6สูบมา
6สูบก็ยืมกันโคลง 8สูบมาใส่
โช้คก็b8 ตรงรุ่นหรือโช้คหลังยังแข็งไม่พอก็ยืมของr129มาใส่ได้อีก
สปริงก็เช่นกัน มีผลิตทั้งสูงและต่ำตามสภาพถนนประเทศที่ขาย หรือยืมรุ่นใหญ่หรือรุ่นถัดมาอย่างตากลมใส่ได้ หรือeibachก็แค่ชุดละประมาณหมื่นเดียว
กลุ่มที่เล่นกันก็จะประมาณนี้ ถ้าเห็น124เบรคใหญ่ใส่ล้อforgedส่วนใหญ่โช้คสปริงจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหญ่เกือบทุกคัน
แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่แนวนิ่มนวลแต่หนักแน่นแบบเดิมแล้ว ถ้าคันใหนใส่ล้อใหญ่ ก็กระด้างพอๆกับรุ่นใหม่ๆนั่นแหละครับ
-
เทรนการขับขี่ของสมัยนั้นที่ยังไม่นิยมทดสอบแบบ moose test รึเปล่าครับ?