Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Drizzle ที่ พฤศจิกายน 20, 2025, 13:39:01
-
วันนี้นั่งลง wax GLA ให้คุณภรรยาที่บ้าน แล้วพบว่าห้องเครื่องฝุ่นหนามาก
ซึ่ง MB ตอนเอารถ service ล้างห้องเครื่องไม่ฟรีครับ ผมเลยไม่เคยให้เค้าล้างเลย เพราะแพงครับ 555 (บางครั้งช่างเช็ดฝุ่นให้บ้าง)
จะฉีดล้างเองก็กลัวพวกสายไฟ หาข้อมูลในเน็ตดูเห็นมีพวกสเปรย์ล้างห้องเครื่อง แต่ข้างกระป๋องมันก็ยังเขียนว่าระวังสายไฟอยู่ดี
เลยอยากถามท่านๆที่เคยล้างห้องเครื่องเอง ใช้อะไรล้าง หรือต้องระวังตรงไหนบ้างไหมครับ
เท่าที่หาข้อมูลเห็นบอกว่าต้องหาถุงคลุมๆพวกไดชาร์จ สายไฟอะไรพวกนี้ใช่ไหมครับ
-
เคยล้าง(ให้ร้านทำให้) ใช้งานปกติครับ 2-3 รอบแล้วด้วย
แล้ว จริงๆ เคยหาข้อมูล เขาบอกว่า ชิ้นส่วนภายในห้องเครื่องโดนน้ำได้หมด (น้ำยา น่าจะเป็นฟองๆ น่าจะไม่เหลวเท่าน้ำด้วยซ้ำ)
ส่วนถ้าจะต้องระวังที่สุด คือ กล่องฟิวส์ แต่โดยปกติ กล่องฟิวส์มันจะอยู่ในกล่อง น้ำไม่เข้าอยู่แล้ว
เช็คก่อนก็ได้ว่ามันปิดสนิทไหม มีรอยแตก หรือ น้ำเข้าได้ไหม ที่เหลือ ก็ฉีดล้างได้หมดครับ
-
ถุงพลาสติกคลุมไดชาร์จ
แล้วก็ฉีดไม่แรงมาก ไม่นานมากครับ
เป่าแห้งด้วยลมอีกครั้ง ถ้ามีหัวฉีดลม ก็เป่าไล่ตามซอกด้วยครับ
-
สิ่งนึงที่เราไม่รู้ว่า ทำไมร้านคาร์แคร์เค้าล้างห้องเครื่อง ฉีดน้ำโครมๆลงไปเลยไม่เห็นเป็นไร ...
เคล็ดลัพท์จริงๆของเค้าถือ ที่เป่าลมครับ
ถ้าเราล้าง อัดน้ำลงไป น้ำจะขังตามร่องตามขอบแอ่งต่างๆ ตรงข้อต่อปลั๊คไฟ ตรงนี้ถ้าไม่เป่าให้แห้ง น้ำมันก็จะซึมลงกล่องหรือไหล้เข้าไปถึงขั้วไฟครับ
คาร์แคร์ที่ผมเห็นเค้าล้าง คือเค้าอัดเลย แต่ไม่ฉีดแรง เอาเบียกๆ และก็เอาฟองน้ำลูบจุดต่างๆ ลูบเสร็จ ฉีดน้ำล้าง และเป่าลมเลย ซึ่งการเป่าลมเค้าจะไล่ไปตรงจุดสำคัญเลยเช่น ปลั๊คหัวฉีด ปลั๊คหัวเทียน ไดร์ชาร์จ หรือจุดรวมไฟต่างๆ เค้าเป่าจนแห้งครับ แล้วค่อยสต๊าท มันก็เลยไม่มีปัญหาอะไร
รถผมมาสด้า โชว์รูมล้างห้องเครื่องให้ฟรีทุกหมื่นโล มี 3 คันล้างมาตลอดไม่เคยมีปัญหาครับ คันนึง ล้างไป 10 ครั้ง (แสนโล) อันคัน 7 ครั้ง (7หมื่นโล) ใช้งานปกติไม่เคยมีปัญหาเลย
ดังนั้นถ้าเราล้างเองไม่มีเครื่องเป่าลมแรงดันสูง แนะนำร้านเถอะครับ
-
รุ่นใหม่ๆ กันน้ำ ทุกอย่างเห็นเค้า ล้างกันได้หมดครับ
แค่ ก่อนสตาร์ทเครื่อง พยายามเป่าให้แห้งก่อนครับ
-
ผมไม่เสี่ยง เอาผ้าเช็ดๆ ช่วงบนๆ เท่าที่มองเห็น ก็งามแล้วครับ
-
ใจผมแนะนำไป carcare ครับ อาจราคาสูงหน่อย แต่อย่างน้อยเกิดอะไรขึ้นยังมีคนรับผิดชอบแทนเรา
-
ซื้อโบลเวอร์มาสักอันครับ เอาแบบไร้สายใช้แบตนะครับจะได้ไม่รำคาญสายพันไปมา ไม่ต้องมาเก็บม้วนสายทุกครั้งเวลาใช้งาน
เดี๋ยวนี้ของจีนชุดนึงพร้อมแบตรางๆพันต้นๆเองครับ
แล้วก็คลุมไดชาร์จ กล่องฟิวส์ กล่อง ecu นอกนั้นล้างแล้วเป่าให้แห้งเลยครับ
-
สำคัญคือ ต้องมีที่เป่าลมครับ
ผมล้างแบบเอาน้ำฉีดเข้าห้องเครื่องโดยตรงมานานแล้ว
ทำทุกคันกับรถตัวเอง มาเป็น 10-20 ปีแล้วครับ
แต่เรื่องแบบนี้มันก็เคยมีคนดราม่ามาเป็นสิบปีแล้วเช่นกัน
ใครไม่กลัว ก็ล้าง ใครกลัวก็ ไม่ต้องล้าง
เพราะมีปัญหามา ก็ซ่อมใครซ่อมมันอยู่แล้ว
เรื่องระวังสำหรับรถเก่า
พวกยางหรือพลาสติกเก่า อาจเสื่อมสภาพ อาจจะไม่กันน้ำครับ
-
ถ้าล้างเองลองตามนี้ครับ ผมใช้พวกสเปรย์ ล้างห้องเครื่อง ของโตโยต้าอะ มีป๋องเขียว กับ สีม่วง มีทำความสะอาด และ เคลือบ
ฉีดพ่นไปทั่วๆ เอาแปรงสีฟัน ลงขัดๆๆๆ จะละเอียดหรือ หยาบๆ แล้วแต่เลย แล้วก็ ปล่อยมันแบบนั้นสักพัก หาผ้ามาเช็ด แล้ว พ่นตัวเคลือบอีกที ผลิตภัณตัวนี้ ของ Toyota ขายเองเลย งานดี คุ้มราคาอยู่ครับ
จะเป่าซ้ำอีกทีก้ได้ หาซื้อตัวเป่าลมไร้สาย แบบใช้แบตก็ได้ครับ ผมได้ของ Osuka มา แรงมาก พันกว่าบาทเอง ใช้งานคุ้มมาก เป่ารถ เป่าไล่ใบไม้ ไล่ฝุ่น ไล้น้ำหลังล้างห้องน้ำ ถูกใจแม่บ้านด้วย
-
ขอบคุณทุกคนครับ สรุปใจไม่แข็งพอยังไม่กล้า ใช้น้ำฉีด
เดี๋ยวว่าจะลองเอาสเปรย์พ่นๆ แล้วเป่าแห้งเอาก่อนแล้วกันครับ
-
เริ่มยังแต่น้ำยาล้างครับ ถ้าคราบฝุ่น ยังไม่เท่าไหร่ แชมพูยังพอช่วยได้ แต่ถ้ามีน้ำมัน ต้องพวกสลายคราบ หรือ อะไรที่ล้างน้ำมันได้ ทีนี้พวกนี้แหละจะทำเรื่อง เพราะจุดต่างๆที่มีลูกปืน หรือจาระบีหล่อลื่น มันก็จะมีปัญหา เลี่ยงไม่ให้น้ำยาโดนก็จะดีกว่า หาอะไรคลุมให้ดีครับ
ของผมก็ใช้น้ำยาล้างคราบน้ำมันนั่นแหละ หาอะไรคลุมลูกปืนต่างๆ (บางครั้งก็ขี้เกียจ) แล้วใช้แปรงถูช่วย ถ้าคราบฝังแน่น ใช้น้ำจากก๊อกที่ไม่ผ่านปั้มน้ำ (ในบ้าน) ล้าง เป่าให้แล้วแล้วขับรถวอร์มให้มันแห้งนิดหน่อยครับ
ปล. หัวฉีดตรง ระวังด้วย ถ้าน้ำขังในเบ้า สนิมรับประทาน จะงานงอกตอนรื้อครับ
-
ยืนดู ศูนย์ล้างห้องเครื่อง CR-V ehev
เค้าใช้ลม + น้ำจากแกลอน ฉีดไล่ ลงไป แล้ว ลมอย่างเดียว เป่าแห้ง ไม่ได้ปิด ไม่ได้คลุมอะไรเลย
-
ที่บ้านมีปั๊มลม 50 ลิตร ผมใช้วิธีเป่าลมเอา กับเช็ดๆตรงจุดที่พอทำได้ครับ ไม่สะอาดแบบรถใหม่..แต่ก็ไม่สกปรกจนรับไม่ได้