Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 15, 2010, 10:49:58

หัวข้อ: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 15, 2010, 10:49:58
มีกระทู้ข้างล่างน้องคนหนึ่งพูดถึงภาพลักษณ์ของรถ กับงาน

ทำให้นึกอะไรที่เป็นประโยชน์กับผม เกิดขึ้นมาแล้ว เกี่ยวกับเรื่องรถ

สิบปีก่อน ผมได้งานทำกับบริษัทแห่งหนึ่ง ในแคลิฟอร์เนีย อมเริกา เป็นบริษัท เกี่ยวกับงานที่ปรึกษาด้านก่อสร้าง  รับงานประมูลทั่วไปของรัฐและของเทศบาล

ผมเองเพิ่งได้  registered Principle Engineering(คล้าย กว. ของเมืองไทย) ตอนทำงานกับที่นี่เหมือนกัน ประสพการณ์ก็น้อยที่สุดคือไม่ถึง 10 ปี คนอื่นแก่ ๆ ทั้ง นั้น

และสายตรงเองผมก็ไม่ได้จบ CIVIL มา แต่ ผมได้ทั้ง Electrical Civil และ Industrial เพราะประสพการณ์การทำงานก่อนสอบ FE กับ PE ผม มันครอบคลุมสามสาขา ผมเลยยื่นมันสามอันเลย

เวลายื่นซองประมูลงาน งานแรกที่ผมได้เป็น Project Manager คือ งานที่ผมไปยื่นซองของ harbor ตอนนั้น คู่แข่งมีแ่ค่ 2 ราย แต่เป็นบริษัทเก่าแก่ ทุกคนประสพการณ์์เกิน 20 ปีทั้งนั้น  แต่ก็เป็น SBE DBE MBE  กันทั้งนั้น ไม่ใช่บริษัทใหญ่อะไร เพราะscope งานนี้สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนนี้  

คนที่ไปยื่นซอง หลังพรีเซนต์งาน สองคน ขับรถ Honda กับ Toyota คนหนึ่งเป็นแขกอินเดีย อีกคนเป็น พวกเสปน ผมเดาประเทศไม่ออก

ผมขับ ฟอร์ดมัสแตง ไปยื่นซอง  เป็นรุ่นปี 1994 เปิดประทุน

รถจอดหน้า Office พอผมเปิดประตูไป ผมไปหลังสุด เห็นไอ้สองคันนั้นจอดอยู่แล้ว ที่แรกก็ไม่รู้ ดันไปจอดเรียงกัน สามคัน

ผมรอ พนักงานรับซองมา เซนเอกสาร และนั่งคุย รอกรรมการตรวจ
มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตู เข้ามา เดินมาหาเจ้าหน้าที่อีกคน ถามว่า มัสแตงสีแดงนั่นของใคร เจ้าหน้าที่บอกว่า ของในสามคนนั้น ให้ถามดู

ตอนแรกผมนึกว่า ซวยแล้วครับ ไปจอดทับอะไรของเขาแน่ ๆ แต่ผมก็ดูละเอียดแล้วนะว่า VISITOR  

ผู้ชายคนนั้นเดินไปหาหนุ่มสเปน ถามว่านั่นรถคุณรึเปล่า ไอ้หนุ่มสเปน(จริง ๆ ก็ไม่หนุ่มครับผมว่า่น่าจะสามสิบกว่าสมัยนั้น) รีบผายมือมาทางผมเลยว่ารถผม ผมก็ไม่ทันตั้งตัวมัวแต่คิด ๆ กลัว ๆ อยู่

เขาเดินมาหาผม ทักผมว่า So, you re Mustang guy

ผมก็บอกว่าใช่ แกก็ถามผมว่า มาทำอะไร ล่ะ ผมบอกว่ามายื่นซองน่ะ แกเลยเงียบ ๆ ไป แล้วก็เดินหายไปในห้องประชุม

เอกสารตรวจเรียบร้อย ผมกำลังจะกลับ ผู้ชายที่counter เรียกผมไว้ ผมก็เลยหยุดหันไปมอง

เขาบอกว่าหัวหน้าอยากคุยด้วย

ผมเดินไปOffice หัวหน้า ซึ่งก็คือผู้ชายคนนั้น ที่มาทักผมว่า Mustang Guy แกชื่อ Joe ครับ
ตาJoe บอกว่า แกก็ใช้รุ่นนี้เหมือนกัน และมีกลุ่มคนรัก Pony อยู่ นัดคุยกัน สนใจแวะไปคุยกันได้

กลายเป็นว่าผมรู้จักหัวหน้า Port ไปไ่ด้

คราวนี้ เวลามีJOB มา แกโทรหาผมก่อนเลย ยังไม่ต้องเข้าเว็บไปหาเลย

และส่วนใหญ่งานที่ผ่านผมก็ Award ด้วย ไป Present งานก็เหมือนไปนั่งคุยกัน ถ้าอีตานี่อยู่แกก็จะบอกว่า  Known guy, don't waste your time.

สรุปว่า ถ้าผมไปซื้อรถยี่้ห้ออื่น ผมคงไม่รุ่งแน่ ๆ  Mustang ถึงจะกินน้ำมันเก่ง เครื่องเสียงดัง ไฟฟ้าพังบ่อย ผมก็รักมันเหมือนเพื่่อนเลยล่ะ

ภาพลักษณ์อาจจะไม่สำคัญ แต่ ถ้ามันมีประโยชน์ทางการเงินการงาน ก็ต้องหาไว้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: joufo ที่ ธันวาคม 15, 2010, 11:21:19
ถ้ากรณีคล้ายๆ กันแบบนี้ในเมืองไทย คงเป็นรถยี่ห้อ ซูบารุ มั้งครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: udis ที่ ธันวาคม 15, 2010, 11:41:06
ถ้ากรณีคล้ายๆ กันแบบนี้ในเมืองไทย คงเป็นรถยี่ห้อ ซูบารุ มั้งครับ
งานประเภทไหนครับ
 ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: WTF ที่ ธันวาคม 15, 2010, 12:44:27
อันนั้นมันเข้าข่ายประเภท "คนคอเดียวกัน" มากกว่า "ภาพลักษณ์" นะครับผมว่า เกิดขึ้นกับวงการอื่นๆนอกจากรถยนต์ก็เยอะครับ เช่น สะสมพระเหมือนกัน(สายเดียวกัน) เล่นปืนเหมือนกัน เป็นต้น

เรื่องภาพลักษณ์ดีแล้วแป้กก็มีนะครับ ขับรถ BMW รุ่นใหม่ไปทำงาน ทั้งที่เงินเดือนแค่2หมื่น หัวหน้าหมั่นไส้เพราะขับรุ่นเดียวกัน ก็แป้กได้เหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ธันวาคม 15, 2010, 16:28:58
ผมคิดว่าสังคมมะกันกับไทยไม่เหมือนกันครับ ที่โน่นมีแค่ว่าโอ้ไอ้นี่ใช้รถเหมือนกันเลยหรือไม่ก็อ้อขับเจ้านี่มาเองเหรอขอแค่อย่าไปจอดซ้อนคันหรือจอดในที่คนพิการก็จะไม่โดนเขม่นอันใด แต่ในประเทศไทยมีเหตุผลหลายหลากเกี่ยวกับรถและการทำงานซึ่งค่อนข้างจะเป็นไปในทางงี่เง่ามากๆ ไอ้นี่ใช้รถแพงกว่าหัวหน้าโดนเขม่น(ก็หัวหน้ามันแต่งงานมีลูกเลี้ยงอีหนูอีก ข้ายังไม่แก่เลยจะใช้เงินตามอยากไม่ได้เหรอฟะ) ไอ้นี่ใช้รถสปอร์ตหัวหน้าเพ่งเล็ง(สมาชิกซูบารุเค้าบ่นมา เค้าไปเร่งรอบข้างๆหูท่านหัวหน้าไหมค้าบบบบ?) ไปติดต่องานต้องเอารถภูมิฐานไม่งั้นอายเค้า(ภูมิฐานแต่ทำงานไม่ได้เรื่องหรือโกงเงินบริษัทไปซื้อของภูมิฐานมาจะเอาไหมวะ?) โหววแม่มใช้รถเก่าๆหรืออีคาร์คันเล็กๆว่ะได้โอกาสขอข่มมันอวดสาวหน่อยเหอะ(ไอ้บร้า!!! "Warren Buffet เทพเจ้าการลงทุนโคตรรวยระดับโลกยังอยู่ในบ้านเก่าๆรถแก่ๆของเค้าไม่ละเมอเพ้อวัตถุนิยมเลย) ไอ้นี่ใช้รถไม่ตลาดแตกต่างจากเพื่อนร่วมงานมันต้องโดนแซวบ่อยๆและหาว่าโง่ไม่ใช่รถตลาด(เงินของกรูแล้วมายุ่งอะไรด้วยเห็นเวลาเปิดหนังสือรถทำลิ้นห้อยทำอยากได้อยากลองกันแต่พอคนใกล้ตัวซื้อมาใช้หาว่าโง่เพราะราคาขายต่อตก ตกลงกรูรวยไม่สนราคาขายต่อแล้วผิดใช่ไหม?) 



สรุปแล้วหาช่องทางออกมาทำธุรกิจของตัวเองดีที่สุด จะได้ไม่ต้องสนค่านิยมงี่เง่าของคนไทย :P
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: NineKlao ที่ ธันวาคม 15, 2010, 17:50:23
ไม่ใช้ภาพลักษณะ ครับ

คอเดียวกันน่าจะพูดง่ายกว่าครับ 

รถมีเอกลักษณ์แสดงถึงตัวตนของคุณเอง ซึ่งพอดีมันประกับคนอีกคนนึงพอดี

ซึ่งสังเกตุได้พวกนี้ จะมีความคิดและแนวคิดไม่ค่อยเหมือนใครแต่มีสิ่งที่เหมือนกันครับ

ซื้อรถคันที่เราชอบครับ 

 ;D
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ธันวาคม 15, 2010, 20:06:05
อันนั้นมันเข้าข่ายประเภท "คนคอเดียวกัน" มากกว่า "ภาพลักษณ์" นะครับผมว่า เกิดขึ้นกับวงการอื่นๆนอกจากรถยนต์ก็เยอะครับ เช่น สะสมพระเหมือนกัน(สายเดียวกัน) เล่นปืนเหมือนกัน เป็นต้น
เห็นด้วยครับ มี common interest ก็คุยกัน ตีซี้กันได้มากขึ้น
แต่จริงๆมัสแตงก็ประหยัดน้ำมันนะครับ เจอในเว็บนี้แหละที่มีข่าวมาว่าทำได้ถึง 20km/l

แล้วในเว็บรถเช่า Budget ก็รู้สึกว่ามันได้ กรีนๆอะไรสักอย่าง ของ EPA ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ ธันวาคม 15, 2010, 20:51:33
อยากมีภาพลักษณืแบบนี้มั่งจัง

ที่ชลบุรีคนขับ Camry เกลื่อนมาก เจอบ่อยพอๆ กับมอไซด์ ขับไปชักรู้สึกว่ามันถูกหรือไงฟระ

E-class ใหม่ก็เกลื่อน เห็นแล้ว ก็เฮ้ยๆ รถที่อยากได้ มัน....

สงสัยคันหน้าต้องออกรถที่ช่วบ้านไม่ค่อยขับกัน จะได้เป็นเอกลักษณ์ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ ธันวาคม 15, 2010, 23:25:51
ไดเร็กเตอร์ที่ทำงานผม
เป็นฝรั่ง
เงินเดือน4แสนกว่า
ขับ Altis CNG ครับ

หัวหน้าผม ขับวีออส

รถอะไรไม่สำคัญครับ
คนเรา ดูที่ผลงาน มากกว่าดูคนที่รถครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: joufo ที่ ธันวาคม 16, 2010, 00:55:16
ถ้ากรณีคล้ายๆ กันแบบนี้ในเมืองไทย คงเป็นรถยี่ห้อ ซูบารุ มั้งครับ
งานประเภทไหนครับ
 ;D ;D ;D

มันก็ประมาณว่าคนคอเดียวกันมาเจอกัน ชอบซูบารุเหมือนกัน
พอถามเรื่องส่วนตัวว่าทำอะไร บางคนก็เป็นเจ้าของโรงงาน อาจจะเจอลูกค้าที่ขับซูบารุเหมือนกัน เลยคุยกันง่ายหน่อย
อะไรอย่างนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: อืม...นะ ที่ ธันวาคม 16, 2010, 09:14:46
อันนั้นมันเข้าข่ายประเภท "คนคอเดียวกัน" มากกว่า "ภาพลักษณ์" นะครับผมว่า เกิดขึ้นกับวงการอื่นๆนอกจากรถยนต์ก็เยอะครับ เช่น สะสมพระเหมือนกัน(สายเดียวกัน) เล่นปืนเหมือนกัน เป็นต้น

เรื่องภาพลักษณ์ดีแล้วแป้กก็มีนะครับ ขับรถ BMW รุ่นใหม่ไปทำงาน ทั้งที่เงินเดือนแค่2หมื่น หัวหน้าหมั่นไส้เพราะขับรุ่นเดียวกัน ก็แป้กได้เหมือนกันครับ

ความเห็นนี้ตรงใจผมมากเลย เจอเหตุการณ์ประมาณนี้มาหลายครั้งแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: DF-SLB ที่ ธันวาคม 16, 2010, 09:46:06
สนับสนุนครับว่านั้นคอเดียวกัน  ถ้าไปเจอคนรับซอง ที่ไม่ชอบหรือเกลียดเจ้าเสียงดังนี้เข้า เรื่องอาจจะออกมาเป็นอีกอย่างเลยก็ได้


ผมว่านอกจากมัสแตงที่ทำให้ได้งานแล้ว  ลักษณะบุคคลิกส่วนตัวของคุณรวมถึงการเจรจา รายละเอียดในซองประมูล น่าจะมีส่วนสำคัญไม่น้อยเหมือนกัน

หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ ธันวาคม 16, 2010, 10:32:26
ถ้าเป็นฝรั่ง คอเดียวกันก็ดูได้จากรถ .... ละมั้งครับ ..

แต่ถ้าเป็นคนไทย (ผมเคยทำงานยื่นซองประมุลงานกับหน่วยงานราชการไทยมา 4 ปี ) สิ่งแรกที่ถามเลยคือ "ท่านเล่นกอล์ฟไหมครับ ...."  ถ้าเล่น  นั่นล่ะ คอเดียวกันเลย ออกรอบด้วยกันสัก 3-4 รอบ พาไปเล่นที่สนามกอล์ฟหรูๆ สปาดีๆ  แค่นี้.... งานไหลก็ลื่น ล๊อกเสป็กกันสนุกเลย ... ทีเดียว

แต่ถ้าไม่เล่นกอล์ฟ ก็คงเป็นชวนไปทานข้าว ลงอ่าง ตามประสาล่ะครับ พยายาม หาความชอบของเค้าให้ได้ ... ถ้าจับจุดจนเรียกว่าคอเดียวกันได้ .. ก็รวยอย่างเดียวล่ะครับ

ฝรั่ง อาจจะคอเดียวกันคุยกันได้โดยไ่ม่มีสินบน .... ขอแค่ถูกใจกันก็พอ

แต่ไทย คอเดียวกันแล้ว  เป็นเพื่อนกันแล้ว ถูกใจกันแล้ว ก็ต้องจบด้วยสินบนอยู่ดีครับ (ลองไม่จ่ายมัน มันก็ไปเอาคนอื่น)

จริงๆ ....
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: a-bog ที่ ธันวาคม 16, 2010, 15:43:20
^^ แต่ไทย คอเดียวกันแล้ว  เป็นเพื่อนกันแล้ว ถูกใจกันแล้ว ก็ต้องจบด้วยสินบนอยู่ดีครับ (ลองไม่จ่ายมัน มันก็ไปเอาคนอื่น)

^^ถูกใจประโยคข้างบนนี้ จริง ๆ
หัวข้อ: Re: ขอเล่าหน่อย เรื่อง รถ กับ งาน
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ ธันวาคม 16, 2010, 17:55:07
ซูบารุก็ไม่ได้เป็นรถที่เด่นดีอะไรในแง่ของ ภาพลักษณ์นะครับ แค่เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เท่านั้นเอง

ส่วนการทำงาน นอกจากผลงานดี วลีเด่น เป็นที่รัก รู้จักผู้ใหญ่ ใส่ซองหนา พาลงอ่าง งานจะมาเอง....
คนไทยโดยเฉพาะหน่วยราชการ มันเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ชอบนะ แต่บางครั้งก็มีแรงกดดันให้ทำก็มีนะครับ