Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fly to dream ที่ ธันวาคม 19, 2010, 05:32:04
-
เมื่อ http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000116945 (http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000116945)
นับตั้งแต่สปอตโฆษณาเครื่องดื่มตรากระทิงตัวใหม่ล่าสุดที่ชูแนวคิดที่ว่า "ทีมแข่งของคนไทย จะพุ่งสู่เส้นชัยระดับโลก!" ออกอากาศไปทั่วประเทศ มีหลายเสียงตั้งคำถามว่าทีมแข่งเรดบูลล์ เรซซิง แห่งศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกเป็นทีมของคนไทยจริงหรือไม่ ทีมข่าว MGR SPORT มีโอกาสได้พูดคุยกับ สราวุฒิ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการบริษัท กระทิงแดง จำกัด แบบหมดเปลือก ถึงความเป็นเจ้าของทีมแข่งระดับโลกที่ผงาดขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าแห่งศึกเอ ฟวันได้ในฤดูกาลนี้
ก่อนหน้านี้คอความเร็วทั่วโลกรู้จักทีมเรดบูลล์ เรซซิง ในฐานะทีมแข่งจากออสเตรีย ที่มีดีทริช มาเตสชิตซ์ มหาเศรษฐีออสเตรียนเป็นเจ้าของทีม หลังจากค่ายเครื่องดื่มชูกำลังยักษ์ใหญ่ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการทีมจากัวร์ส เรซซิงเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ดีทายาทตระกูลอยู่วิทยา ซึ่งเป็นต้นตำหรับของเรดบูลล์ทั่วโลกยืนยันว่าข้อความที่อ้างว่าทีมแข่งตรา กระทิงแดงเป็นทีมของคนไทยนั้นไม่ใช่เรื่องที่มีการบิดเบือนเพื่อขายสื่อ โฆษณาแต่อย่างใด
"ทุกอย่างเป็นความจริงแน่นอน เพราะในส่วนของบริษัทเรดบูลล์ ครอบครัวอยู่วิทยาถือหุ้นถึง 51 เปอร์เซนต์ ไม่ได้ขายไปทั้งหมดอย่างที่หลายคนเข้าใจ ขณะที่หุ้นส่วนที่เหลือเป็นของดีทริช มาเตสชิตซ์ ที่ซื้อสูตรไปทำตลาดในยุโรปและอเมริกา แต่ในตัวทีมแข่งเอฟวันนั้นเป็นทีมที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำทีมแข่งโดยเฉพาะ เหมือนกับการทำทีมฟุตบอล ที่ต้องขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมว่านัดนี้จะเอาใครลงสนาม เจ้าของทีมไม่ควรไปก้าวก่าย แต่หากถามว่าเราเป็นเจ้าของหรือไม่ คนไทยมีส่วนแน่นอนเพราะเราถือหุ้นใหญ่เรดบูลล์ "สราวุฒิ" ทายาทรุ่นใหม่ของเผยกับทีมงาน
พร้อมกันนี้บอสใหญ่ค่ายกระทิงแดงยังยืนยันถึงการที่ครอบครัวมีส่วน ร่วมในการตัดสินในเทคโอเวอร์เพื่อทำทีมแข่งเอฟวันในปี 2005 ว่า "ดีทริซ(มาเตสชิตซ์)บินมาเจรจาเรื่องการซื้อทีมเอฟวันกับเราถึงบริษัทที่ กรุงเทพฯ ซึ่งเราจำเป็นต้องรับรู้เพราะมันเป็นเรื่องของธุรกิจที่มีการลงทุนสูงมาก ฉะนั้นการตัดสินใจซื้อทีมเอฟวัน เรามีส่วนในการตัดสินใจแน่นอนในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งในตอนนั้นมีการพูดคุยกันถึงข้อดีข้อเสีย จนเราตัดสินใจไฟเขียวเพราะกีฬารถแข่งกับแบรนด์สามารถไปด้วยกันได้ ซึ่ง ณ วันนี้ผลที่ออกมาถือว่าเป็นไปอย่างน่าพอใจ"
โดยเสี่ยสราวุฒิ มองย้อนกลับไปถึงผลงานของทีมน้องใหม่ประจำวงการที่ก่อร่างสร้างตัวตั้งแต่ ฤดูกาล 2005 เป็นต้นมาว่า "ตอนที่ซื้อทีมใหม่ๆ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะเราเป็นทีมใหม่ ต้องปรับจูนเรื่องรถกันอยู่หลายปี โดยเฉพาะการพัฒนารถ ซึ่งถือว่าโชคดีที่ทีมได้ตัววิศวกรชั้นนำของวงการ(อาเดรียน นิวอี)เข้ามาพัฒนารถ ซึ่งเราก็สามารถยกระดับผลงานขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนมาถึงปีนี้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เกินคาดเหมือนกันที่สามารถขึ้นมาอยู่แถวหน้าเหนือที มอย่างเฟอร์รารี และแม็คลาเรนได้"
อย่างไรก็ดีเมื่อถูกถามว่าอยากให้คนในครอบครัวอยู่วิทยาเข้าไปนั่ง แท่นเป็นผู้บริหารทีมแข่งในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่หรือไม่นั้น สราวุฒิตอบว่า "ผมมองว่าตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น เพราะอย่างไรเสียเราก็เป็นผู้ถือหุ้นหลักอยู่แล้ว ประเด็นอยู่ที่จะทำอย่างไรให้ทีมเป็นแชมป์โลกมากกว่า แต่ที่ผมพอใจมากอีกเรื่องหนึ่งคือเรามีแฟนเพิ่มขึ้นมากพอสมควร สังเกตในร้านขายของที่ระลึกทีมในแต่ละสนาม ที่มีคนอุดหนุนสินค้า ทั้งเสื้อ,หมวก ไม่เป็นรองทีมอย่างเฟอร์รารีอีกต่อไป"
ขณะเดียวกันเมื่อถูกถามว่าแคมเปญเรดบูลล์ เอฟวัน เสมือนเป็นการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของกระทิงแดงในประเทศไทยหรือไม่ ทายาทตระกูลอยู่วิทยายอมรับว่า "จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิดนัก เพราะเป็นความพยายามของเราที่มองว่าจะทำอย่างไรให้เข้าใกล้กลุ่มลูกค้ามาก ขึ้น ไม่เฉพาะกลุ่มคนที่ใช้แรงงานอย่างที่ผ่านๆมา เพราะจริงๆแล้ว คนทำงานหรือว่านักศึกษาก็ดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ อย่างสมัยเรียนผมก็ดื่ม ฉะนั้นเราพยายามที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มชูกำลังยกระดับขึ้นมา"
ท้ายที่สุด สราวุฒิ อยู่วิทยา ในฐานะผู้บริหารกระทิงแดง เผยถึงเป้าหมายในการสานต่ออาณาจักรเอฟวันของคนไทย ด้วยการเนรมิตรสังเวียนแข่งฟอร์มูลา วันว่า "เราอยากจะเห็นรถเอฟวันแข่งในเมืองไทย ผมเชื่อว่าหากทางการยื่นมือเข้ามาสนับสนุนเหมือนกับรัฐบาลของ 7 ชาติเอเชียที่ทำสำเร็จไปก่อนหน้านี้ เราก็พร้อมให้ความร่วมมือที่จะผลักดันให้ไทยเป็นชาติที่ 8 หรือ 9 ที่จะจัดมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอย่างแน่นอน"
ซึ่งไม่ว่าจบฤดูกาลนี้ "เรดบูลล์ เรซซิง" จะก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกได้หรือไม่ ทว่าจากผลงานอันโดดเด่นที่ผงาดเป็นทีมหัวแถวได้ในปีนี้ นับเป็นการประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ถึงศักยภาพของทีมแข่งที่มีจุดกำเนิดจาก สินค้าของประเทศไทยได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------
ผมเห็นด้วยคร้าบ บัตรราคา เกิน 5000 ก็ช่าง เพราะยังไง F1 เค้าต้องตั้ง ปฏิทินไว้ล่วงหน้า เราก็เก็บเงินไปดูได้อยู่ดี
-
สร้างเลย จะได้ดู F1 ซะที ไม่ต้องไปมาเล แล้ว ;D
-
ต้องไปอ่านทีอ.ศิริบูรณ์ เนาวถิ่นสุข แกเคยเขียนไว้ใน TD เป็นปีแล้วล่ะเรื่องสนาม F1 ในไทยเนี่ย สรุปว่าอย่ามีเลยไม่คุ้มเงิน ลงทุนหลายพันล้าน ผมก็ว่างั้นนะ ปีนึงใช้แค่ครั้งเดียว นอกนั้นวิ่งหารายได้กันเอง ค่าเช่าสนามก็แพงหาคนเช่ายากอีก ค่าบำรุงรักษาก็แพงบรรลัย อีกอย่างมาเลมันก็มีอยู่แล้ว จะสร้างมาตัดราคากันรึไง
-
ผมว่าสร้างมาอาจจะได้ไม่คุ้มเสียน่ะสิครับ
-
มันขึ้นกับว่าเราจะยอม "ขาดทุน เพื่อเกียรติยศ หรือไม่"
อันนี้มาเลย์เขายอมครับ
-
ผมว่าผมเห็นด้วยนะครับถ้าจะสร้างสนามขึ้นมา บ้านเราเป็นเมืองท่องเที่ยวครับ
เราอาจจะได้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการก็มีรายได้มากขึ้น
ถนนหนทางอาจจะพัฒนาให้มันดีขึ้น (จริงตอนนี้มันก็ทำได้แหล่ะถ้าไม่มีพวกเชี่ยยัด- ่ากันครับ)
แต่จะว่าผ็ต้องดูทาง FIA ด้วยอีกเนอะ เรื่องการเมืองไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ เกิดเหตุห้ามทีมเฟอร์ร่ารี่ลแข่งข้อหาใส่สีแดงล่ะก็นะ -*-
เห่อๆๆ ไปนู้นเลยกรู เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ
-
ผมว่ายังไงก็ต้องสร้าง การที่กระทิงแดงเอา F1 มาโชว์
ก็เหมือนกับการชิมรางดูก่อน ว่าได้รับความสนใจจากประชาชนแค่ไหน
ทุกคนก็คงรู้แล้ว ว่าได้รับผลตอบรับมากแค่ไหน
และเป้าหมายประเทศไทยก็ทำตัวศูนย์ให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถ ในฝั่งตะวันออกด้วยแล้ว
มันก็น่าที่จะสร้างนะ เวลาไม่มีการแข่นขันรถสูตร 1 ก็เปิดให้ประชาชนนำรถเข้าไปแข่นกันเหมือนสนามอื่นๆ ก็ได้
อันนี้รัฐบาลควรสนับสนุน และเก็บรายได้เข้ารัฐได้ด้วยนะ
สิงค์โป มาเลเชีย เขามีกันหมดแล้ว
เสนอให้ไม่ต้องทำที่เมืองท่องเที่ยวก็ได้ เพราะถ้าทำราคาต้นทุนที่ดินมันจะแพงเกินไป
ให้ไปหาจังหวัดที่ ที่ดินถูกๆ แล้วทำให้จังหวัดที่เลือกนั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวใหม่ขึ้นมาดีกว่า
ถือเป็นการกระจายรายได้ด้วย ส่วนหนึ่ง
-
ผมว่ายังไงก็ต้องสร้าง การที่กระทิงแดงเอา F1 มาโชว์
ก็เหมือนกับการชิมรางดูก่อน ว่าได้รับความสนใจจากประชาชนแค่ไหน
ทุกคนก็คงรู้แล้ว ว่าได้รับผลตอบรับมากแค่ไหน
และเป้าหมายประเทศไทยก็ทำตัวศูนย์ให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถ ในฝั่งตะวันออกด้วยแล้ว
มันก็น่าที่จะสร้างนะ เวลาไม่มีการแข่นขันรถสูตร 1 ก็เปิดให้ประชาชนนำรถเข้าไปแข่นกันเหมือนสนามอื่นๆ ก็ได้
อันนี้รัฐบาลควรสนับสนุน และเก็บรายได้เข้ารัฐได้ด้วยนะ
สิงค์โป มาเลเชีย เขามีกันหมดแล้ว
เสนอให้ไม่ต้องทำที่เมืองท่องเที่ยวก็ได้ เพราะถ้าทำราคาต้นทุนที่ดินมันจะแพงเกินไป
ให้ไปหาจังหวัดที่ ที่ดินถูกๆ แล้วทำให้จังหวัดที่เลือกนั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวใหม่ขึ้นมาดีกว่า
ถือเป็นการกระจายรายได้ด้วย ส่วนหนึ่ง
ผมเห็นด้วยครับ
-
เห็นด้วยครับ รายได้อาจจะดีด้วยนะครับ เมืองนอกมาแข่งๆ กัน
พวก ต่างชาติที่เค้ารักจริงๆ เค้าตระเวนดูอยู๋แล้วบินมาดูไรแบบนี่อะรับรายได้อาจจะดีด้วยๆ
-
ปิดสุพรรณแข่งกันเลย เหอๆ
-
ผมขอคิดต่างแล้วกัน
ผมไม่เห็นด้วยกับการสร้างสนาม นะครับ เพราะว่างบสร้างเกือบ 2 พันล้าน สร้างเสร็จแล้วค่าดูแลรักษาเท่าไหร่ ? ถ้าสร้างจริง ต้องจัดทุกรายการครับ พวก moto gp etc ต้องดึงมาให้หมด จัด f1 อย่างเดียว ขาดทุนใสๆ
ถ้าอยากจัดจริง ลองแบบปิดเมืองแข่ง แบบสิงคโปร์ โมนาโก ออสเตรเลีย ก่อนก็ได้ครับ ลองดูก่อนก็ได้ ถ้ามันบูมจริงค่อยสร้างทีหลังไม่เสียหาย
-
ต้องไปอ่านทีอ.ศิริบูรณ์ เนาวถิ่นสุข แกเคยเขียนไว้ใน TD เป็นปีแล้วล่ะเรื่องสนาม F1 ในไทยเนี่ย สรุปว่าอย่ามีเลยไม่คุ้มเงิน ลงทุนหลายพันล้าน ผมก็ว่างั้นนะ ปีนึงใช้แค่ครั้งเดียว นอกนั้นวิ่งหารายได้กันเอง ค่าเช่าสนามก็แพงหาคนเช่ายากอีก ค่าบำรุงรักษาก็แพงบรรลัย อีกอย่างมาเลมันก็มีอยู่แล้ว จะสร้างมาตัดราคากันรึไง
ผมเห็นด้วยในมุมนั้นครับ การสร้างสนามหนึ่งสนามใช้เงินก็ไม่น้อยแล้ว ไหนจะค่าบำรุงรักษาอีก อย่าลืมนะครับว่าผู้จัดในประเทศนั้นๆจะได้เงินจากค่าบัตรเข้าชมในสนามและโฆษณาข้างสนามเท่านั้น ส่วนรายได้อย่างอื่น FIA เอาไปทั้งหมด แน่นอนละครับว่าการใช้สนามมันไม่ใช่ครั้งเดียวต่อปีแน่ๆ แต่มันอยู่ที่การทำตลาดของทางสนามละครับ ว่าจะสู้มาเลเซียได้หรือเปล่า?
อย่าลืมนะครับทางมาเลเซียทุกวันนี้ที่จัดกันก็ขาดทุนกันทุกปีนะครับ แต่ที่ยังอยู่เพราะรัฐบาลช่วยอยู่เล็กๆนะครับ เงินที่สร้างสนามก็เอาเงิน+ที่ที่เหลือจากการสร้างสนามบินแห่งใหม่ของเค้ามาใช้ได้เลย ไม่ต้องไปเวนคืนซ้ำซ้อน แต่กับเมืองไทยละ? ผมเชื่อว่าต้องมีคนตั้งคำถามอีกมากมายครับ แถมจะมีคนมาปลุกระดมต่อต้านแน่ๆ
สู้เอาเงินตรงนี้ไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางภาคใต้ เพื่อยั่วคนที่มาดู F1 ที่สิงคโปร มาเลเซีย ข้ามมาเที่ยวต่อดีกว่า
-
ขอคิดต่างด้วยคนนะครับ
..ผมว่า F1 คนที่จะเข้าไปดูเป็นเฉพาะกลุ่มมากกว่า ถ้ามามองในเรื่อง ค่าสร้างสนาม ค่าบำรุง ค่าอะไรต่อมิอะไร...
..แล้วสมมติ ค่า เข้าสนาม 5000 /คน ยิ่งจำกัด คน เข้าไปใหญ่ ..
..ถึง ถ้า คิดว่าจะยอมขาดทุน รายปีไป ยังไงก้อไม่คุ้ม เอาเงินมาสร้างทีมก่อนดีกว่า..
..ในความคิดผมว่า ยังไม่ใช่เวลาในตอนนี้ แต่อีก 5-10 ปีข้างหน้าไม่แน่..
-
ต้องไปอ่านทีอ.ศิริบูรณ์ เนาวถิ่นสุข แกเคยเขียนไว้ใน TD เป็นปีแล้วล่ะเรื่องสนาม F1 ในไทยเนี่ย สรุปว่าอย่ามีเลยไม่คุ้มเงิน ลงทุนหลายพันล้าน ผมก็ว่างั้นนะ ปีนึงใช้แค่ครั้งเดียว นอกนั้นวิ่งหารายได้กันเอง ค่าเช่าสนามก็แพงหาคนเช่ายากอีก ค่าบำรุงรักษาก็แพงบรรลัย อีกอย่างมาเลมันก็มีอยู่แล้ว จะสร้างมาตัดราคากันรึไง
ได้อ่านเหมือนกันครับ จำไม่ได้ว่าเล่มไหน แต่อ.ท่านพูดเอาไว้ได้กระจ่างดี
-
ถ้าเอาสนามเก่าที่มีอยู่มาปรับปรุงให้ได้มาตรฐานFIAผมเห็นด้วยครับ
แต่ถ้าถึงขั้นสร้างใหม่เลย อันนี้ค่อนข้างไม่เห็นด้วยครับ
แต่ยังไงถ้าRedbullเค้าเงินเหลือ สร้างเป็นของเค้าเองไม่เกี่ยวกับเงินรัฐก็จัดเต็มไปเลยครับ
เพราะมันเป็นการลงทุนของเค้า เค้าสร้างก็น่ายินดีแทน แต่ถ้าเกิดมันเจ๊งก็ไม่เกี่ยวกับเรากันอยู่แล้ว
แต่ถ้าหากเอาเงินรัฐฯมาเกี่ยวข้องด้วยผมคงไม่ยอมครับ เสียดายภาษี
:D :D
-
คิดแต่ว่าสร้างแล้วจะไม่คุ้ม ก็ไม่ต้องทำอะไรกันเลยครับ
นี่เป็นวิธีคิดของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศ จะทำอะไร ต้องได้ทุนคืน
ต้องคุ้มเงิน ถ้าจะสร้างสนาม ก็ต้องสร้างจากผลกำไรที่ได้จากกิจการอย่างอื่น
ไม่ใช่หวังว่า สร้างสนาม แล้วสนามจะต้องทำให้ได้กำไร การสร้างอะไรบางอย่าง
มันไม่จำเป็นต้องคืนทุน มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน คนที่ลงทุนในไทยส่วนใหญ่ คิดถึงแต่
เงิน หน้าเงิน เลยไม่สามารถทำอะไรให้ประเทศอย่างเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาซักที
-
คิดแต่ว่าสร้างแล้วจะไม่คุ้ม ก็ไม่ต้องทำอะไรกันเลยครับ
นี่เป็นวิธีคิดของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศ จะทำอะไร ต้องได้ทุนคืน
ต้องคุ้มเงิน ถ้าจะสร้างสนาม ก็ต้องสร้างจากผลกำไรที่ได้จากกิจการอย่างอื่น
ไม่ใช่หวังว่า สร้างสนาม แล้วสนามจะต้องทำให้ได้กำไร การสร้างอะไรบางอย่าง
มันไม่จำเป็นต้องคืนทุน มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน คนที่ลงทุนในไทยส่วนใหญ่ คิดถึงแต่
เงิน หน้าเงิน เลยไม่สามารถทำอะไรให้ประเทศอย่างเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาซักที
+1 ครับๆ
-
คิดแต่ว่าสร้างแล้วจะไม่คุ้ม ก็ไม่ต้องทำอะไรกันเลยครับ
นี่เป็นวิธีคิดของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศ จะทำอะไร ต้องได้ทุนคืน
ต้องคุ้มเงิน ถ้าจะสร้างสนาม ก็ต้องสร้างจากผลกำไรที่ได้จากกิจการอย่างอื่น
ไม่ใช่หวังว่า สร้างสนาม แล้วสนามจะต้องทำให้ได้กำไร การสร้างอะไรบางอย่าง
มันไม่จำเป็นต้องคืนทุน มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน คนที่ลงทุนในไทยส่วนใหญ่ คิดถึงแต่
เงิน หน้าเงิน เลยไม่สามารถทำอะไรให้ประเทศอย่างเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาซักที
ผมเข้าใจคุณ Ned นะครับว่ามันก็จริงละ จริงๆถ้ากระทิงแดงลงทุนเองผมสนับสนุนนะ แต่ถ้ามีรายการเอาภาษีประชาชนมามีเอี่ยวด้วย งานนี้ผมไม่เอาด้วยจริงๆ
ไม่ใช่เสียดายเงินนะ แต่กลัวเงินจะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์....
ปล.ถ้ามองในอีกมุม ทำไมเราไม่เอาสนามที่มีอยู่แล้วหรือที่กำลังจะมีมาทำเป็นสนามทดสอบ F1 และเอามาจัดแข่งรายการรองๆลงไปดีกว่านะ เพราะถ้าทำมุมนี้รับรองว่าโอกาสรุ่งยังมีอยู่นะครับ
เพราะ 1 ทีมงานทดสอบของ F1 แต่ละทีมคนก็ไม่น้อยละ ถ้าทุกๆทีมมาทดสอบรถที่เมืองไทยกันทีมละ 2-3 อาทิตย์ เงินน่าจะสะพัดไม่น้อยนะผมว่า
-
คิดแต่ว่าสร้างแล้วจะไม่คุ้ม ก็ไม่ต้องทำอะไรกันเลยครับ
นี่เป็นวิธีคิดของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศ จะทำอะไร ต้องได้ทุนคืน
ต้องคุ้มเงิน ถ้าจะสร้างสนาม ก็ต้องสร้างจากผลกำไรที่ได้จากกิจการอย่างอื่น
ไม่ใช่หวังว่า สร้างสนาม แล้วสนามจะต้องทำให้ได้กำไร การสร้างอะไรบางอย่าง
มันไม่จำเป็นต้องคืนทุน มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน คนที่ลงทุนในไทยส่วนใหญ่ คิดถึงแต่
เงิน หน้าเงิน เลยไม่สามารถทำอะไรให้ประเทศอย่างเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาซักที
ผมเข้าใจคุณ Ned นะครับว่ามันก็จริงละ จริงๆถ้ากระทิงแดงลงทุนเองผมสนับสนุนนะ แต่ถ้ามีรายการเอาภาษีประชาชนมามีเอี่ยวด้วย งานนี้ผมไม่เอาด้วยจริงๆ
ไม่ใช่เสียดายเงินนะ แต่กลัวเงินจะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์....
ปล.ถ้ามองในอีกมุม ทำไมเราไม่เอาสนามที่มีอยู่แล้วหรือที่กำลังจะมีมาทำเป็นสนามทดสอบ F1 และเอามาจัดแข่งรายการรองๆลงไปดีกว่านะ เพราะถ้าทำมุมนี้รับรองว่าโอกาสรุ่งยังมีอยู่นะครับ
เพราะ 1 ทีมงานทดสอบของ F1 แต่ละทีมคนก็ไม่น้อยละ ถ้าทุกๆทีมมาทดสอบรถที่เมืองไทยกันทีมละ 2-3 อาทิตย์ เงินน่าจะสะพัดไม่น้อยนะผมว่า
ผมกลับสนับสนุนให้เป็นของรัฐ มากกว่าของเอกชนนะ
นักการเมืองปีๆ นึง กินกันเป็นแสนล้าน เงินแค่ 2 พันล้านบาท ประเทศไทยจ่ายได้สบายๆ ครับ
ถ้ารัฐเปิดประมูลให้เอกชนก่อสร้าง ให้เอกชนแข่งกันเสนอราคา ก็น่าจะได้ราคาที่ถูกกว่านี้อีก
ที่ดินของรัฐก็มีสิทธิ์เวียนคืนได้อยู่แล้ว แต่ติดนิดนึงตรงที่ รธน. 50 กำหนดให้ต้องให้ราคาที่พอใจแก่ประชาชน อาจจะได้จ่ายแพงนิดนึง
ถ้าผมเป็นรัฐ ผมจะไม่ทำตามมาตราฐาน FIA หรอก แต่ผมจะทำให้สูงกว่า
เพราะมันจะเป็นที่น่าสนใจขึ้นมาทันที
การเก็บเงินเข้าชมก็ไม่จำเป็นต้องราคาเดียว คนไทยราคานึง ต่างชาติราคานึง ก็ไม่ผิด
แล้วถ้าเป็นของรัฐ สมมุติขาดทุนจากสนามแข่งจริง อันนี้ก็ต้องยอมรับ
แต่อย่าลืมว่า ต่างชาติเข้ามามากขึ้น ชื่อเสียงมากขึ้น มันก็กระตุนเศรษฐกิจทั้งระบบนะครับ
เราอาจจะได้เห็นอัตราการเจริญเติบโตที่สูงก็เป็นได้
-
การพัฒนาใประเทศไทยนั้นสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่เรื่องของวัตถุแต่เป็นเรื่องของจิตใจคนครับ จำที่เคยว่าไว้กันในเรื่องของดรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ไหม? ตราบใดที่คนไทยยังมีนิสัยมักง่าย ขี้เกียจ ทำงานแบบขอไปที โกงกินทุกงบประมาณ ตราบนั้นชาติไทยทำอะไรก็มีแต่รอวันเจ๊ง ผมพูดจริงๆ แค่เงินบริจาคช่วยเหลือกับองบริจาคที่ได้มาฟรีมันยังกล้าโกงกันเลย นับประสาอะไรกับโครงการพันๆล้านและค่าบำรุงรักษาปีละนับนร้อยล้านอย่างสนาม F 1? ตั้งโครงการปรับปรุงจิตสำนึกคนไทย เอาแค่ไม่ให้แทรกตัวตามคอสะพานก่อนดีกว่าครับ พัฒนาด้านจิตใจคนในประเทศให้ได้ก่อนจากนั้นจะทำอะไรมันรุดหน้ารวดเร็วทั้งนั้นแหละ
-
ผมก็อยากให้มีนะ
แต่อยากได้แบบปิดเมืองแข่งมากกว่า
คิดว่าน่าจะถูกกว่าสร้างสนามใหม่เพียวๆ(สร้างใหม่ผมว่าอาจจะเกิน 2 พันล้าน)
หาจุดวิวสวยๆ แบบโค้ง แกรนด์โฮเตลที่โมนาโก ได้ละแจ่มเลย
อืม แต่ถ้าสร้างใหม่พวกมอไซค์ทางเรียบก็มีลุ้นมาแข่งได้เหมือนกันนะเนี่ย
-
ถามว่าอยากมีหรือไม่
อยากให้มีครับ
แต่มันจะมีหรือไม่ คือคิดว่า มันน่าจะไม่น่าเกิดได้นะครับ
-งบประมาณสูง
-คนไทยจะดูแค่ตอนแรกๆ หรือไม่ก็แค่ช่วงที่ RedBull ประสบความสำเร็จ
-ค่าบัตรก็แพงเอาเรื่องนะ
-ปีนึงมีหนเดียว (หลังจากนั้นก็ใช้อย่างอื่น ก็พอ ok)
อย่าลืมนะครับ ที่รอบนี้มีคนดูเยอะ เพราะมีเหตุการณ์เกื้อหนุนอยู่ อย่างเรื่องเป็นการนำมาเพื่อเฉลิมฉลองเพื่อถวายในหลวง ผมเกรงว่ากระแสแบบนี้จะไม่ได้มีได้ตลอด
ส่วนข้อดีที่มอง เห็นว่าจะสร้างที่พัทยา
-ฝรั่งเยอะอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง น่าจะมีกำลังซื้อ
-ตลาดรถยนต์้บ้านเราน่าจะคึกคัก
-
สนามขนาดใหญ่ระดับนี้ต้องมีสปอนเซอร์มารองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลพอสมควรครับ ถ้าข้อมูลผมไม่ผิดสนาม Sepang Ciruit Malaysia ก็จะมีรัฐบาล , Marlboro , Petronas ช่วยทางด้านนี้อยู่
เคยมีผู้ใหญ่บอกว่า Mr.Bernie ได้เข้ามาเจรจากับทางประเทศไทยก่อนที่จะไปคุยกับทางมาเลเซียว่าอยากให้มีการสร้างสนามมารองรับ F1 ก่อนหน้ามาเลเซียซะอีก สมัยนั้นเป็นสมัย รัฐบาลท่านนายกชวน หลีกภัย ประจวบเหมาะกับประสบวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในช่วงนั้นพอดี BOI เราจึงต้องปฏิเสธโปรเจคนี้ไปโดยทันที
แต่ทว่าไม่รู็จริงเท็จอย่างไร BOI บอกเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มเสีย เพียงแต่มองค่าด้านเดียวว่าจะกำไรจาก motorsport นั้นไม่คุ้ม แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่มองถึงทางอ้อมที่ได้จากรายได้การท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เนื่องจากมีการจัดการแข่งขันหลายรายการตลอดทั้งปี
-
ควรสร้างมากๆ จะได้ไปดู F1 ซะที
-
การพัฒนาใประเทศไทยนั้นสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่เรื่องของวัตถุแต่เป็นเรื่องของจิตใจคนครับ จำที่เคยว่าไว้กันในเรื่องของดรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ไหม? ตราบใดที่คนไทยยังมีนิสัยมักง่าย ขี้เกียจ ทำงานแบบขอไปที โกงกินทุกงบประมาณ ตราบนั้นชาติไทยทำอะไรก็มีแต่รอวันเจ๊ง ผมพูดจริงๆ แค่เงินบริจาคช่วยเหลือกับองบริจาคที่ได้มาฟรีมันยังกล้าโกงกันเลย นับประสาอะไรกับโครงการพันๆล้านและค่าบำรุงรักษาปีละนับนร้อยล้านอย่างสนาม F 1? ตั้งโครงการปรับปรุงจิตสำนึกคนไทย เอาแค่ไม่ให้แทรกตัวตามคอสะพานก่อนดีกว่าครับ พัฒนาด้านจิตใจคนในประเทศให้ได้ก่อนจากนั้นจะทำอะไรมันรุดหน้ารวดเร็วทั้งนั้นแหละ
เห็นด้วยมากๆครับ
-
ถามว่าอยากมีหรือไม่
อยากให้มีครับ
แต่มันจะมีหรือไม่ คือคิดว่า มันน่าจะไม่น่าเกิดได้นะครับ
-งบประมาณสูง
-คนไทยจะดูแค่ตอนแรกๆ หรือไม่ก็แค่ช่วงที่ RedBull ประสบความสำเร็จ
-ค่าบัตรก็แพงเอาเรื่องนะ
-ปีนึงมีหนเดียว (หลังจากนั้นก็ใช้อย่างอื่น ก็พอ ok)
อย่าลืมนะครับ ที่รอบนี้มีคนดูเยอะ เพราะมีเหตุการณ์เกื้อหนุนอยู่ อย่างเรื่องเป็นการนำมาเพื่อเฉลิมฉลองเพื่อถวายในหลวง ผมเกรงว่ากระแสแบบนี้จะไม่ได้มีได้ตลอด
ส่วนข้อดีที่มอง เห็นว่าจะสร้างที่พัทยา
-ฝรั่งเยอะอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง น่าจะมีกำลังซื้อ
-ตลาดรถยนต์้บ้านเราน่าจะคึกคัก
เห็นด้วยตามนี้เลยครับ ;D
-
คนไ่ทยส่วนใหญ่ยากจนอยู่ ( ถึงแม้จะมีรถกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสตา่งค์มากมาย เห็นเงินเดือน 20 k ก็มีรถกันแล้ว )
คนที่จะเข้าไปดูได้ก็ต้องมีเงินสักหน่อย
ที่มาดูก็มีคนทุกระดับ เด็กแถวๆนั้น คนแถวๆนั้น ก็มีดูเยอะ
รวมชาวต่างชาติอะไรแล้ว ก็ยังไม่น่าเยอะ
ถ้าเป็นสร้างสนามบอลจะดีกว่าครับ ( เกี่ยวรึเปล่าไม่รู้บอลไทยกำลังฮิตครับ ;D )
บอลเตะทุกอาทิตย์ ดูได้เพลินๆ ไม่มีเสียง ( ยกเว้นเสียงเชียร์ )
ดีกว่า F1 เยอะะะะ
-
ทำมา สนามห่วยๆ วิ่งไปสนามพัง รถเขาคว่ำ ประเทศไทยจะหน้าแหกเอาเปล่าๆครับ เอิ๊ก ดูจากสนามบินเป็นตัวอย่าง *-*
-
ประเทศไทยไม่เหมาะครับ ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะสร้างสนาม f1 บ้านเราเหมาะสมที่จะสร้างสนาม off road มากกว่า
ขนาดในกรุงเทพตับไต ใส้ พุงผมแถบจะมากองอยู่ที่เบาะอยู่แล้ว
แล้วถ้าสร้างสนาม f1 มันจะทนได้กี่น้ำละครับ ต่อให้มี std ก็เถอะ
-
สร้างเลยจะได้มีนักแข่งF1เป็นคนไทยกะเค้าบ้าง
-
มันขึ้นกับว่าเราจะยอม "ขาดทุน เพื่อเกียรติยศ หรือไม่"
อันนี้มาเลย์เขายอมครับ
No sacrifice, no victory - Archibald Witwicky.
-
ผมขอคิดต่างแล้วกัน
ผมไม่เห็นด้วยกับการสร้างสนาม นะครับ เพราะว่างบสร้างเกือบ 2 พันล้าน สร้างเสร็จแล้วค่าดูแลรักษาเท่าไหร่ ? ถ้าสร้างจริง ต้องจัดทุกรายการครับ พวก moto gp etc ต้องดึงมาให้หมด จัด f1 อย่างเดียว ขาดทุนใสๆ
ถ้าอยากจัดจริง ลองแบบปิดเมืองแข่ง แบบสิงคโปร์ โมนาโก ออสเตรเลีย ก่อนก็ได้ครับ ลองดูก่อนก็ได้ ถ้ามันบูมจริงค่อยสร้างทีหลังไม่เสียหาย
อย่าถึงขนาดปิดเมืองเพื่อแข่งรถเลยจ้า แค่วันนั้นมันปิดถนนเพื่อมาวน3รอบ รถก็ติด chip ไม่อยู่ แล้ว คนเขาไม่ได้ชอบรถกันทั้งประเทศนะครับ เอาเงินไปสร้างรถไฟฟ้าเยอะๆเถอะ
-
เห็นด้วยว่าน่าจะสร้างครับ
เรื่องเงิน เรื่องขาดทุนก็เห็นด้วย แต่...
นอกจาก F1 ที่จัดปีละครั้งแล้ว เราก็เอาไปจัดรายการอื่นด้วยก็ได้
ให้เอกชนเช่ากิจกรรมมั่ง เช่น ทำเป็นสนาม Test Drive
จัดแข่งรถรายการเล็กๆ จัด Concert ทำสนาม Golf (ไม่รู้จะผิดกฏรึเปล่า)
อย่างน้อยๆ ก็เป็นการโฆษณาให้คนต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้น
บัตรก็ไปเน้นขายต่างชาติละกัน ดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะๆ
-
ถ้าบัตรเช้าชมซัก 5000 บาท นี่ก็น่าสนนะ
ให้คนมีกะตังค์เค้าเข้าไปดู ส่วนผมจะไปนั่งฟังเสียงอยู่ข้างนอกสนามแทน
-
แรงดี อย่างขับบ้านจัง ;D
-
ถ้าสร้างจริงนะครับ ขอเลย ขอให้เอาใจใส่ ลงทุนกับพวกของ premium หน่อย อาทิ พวก เสื้อ ของเล่น กระเป๋า นาฬิกาพวงกุญแจอะไรก็แล้วแต่ ช่วยจ้างทีมงานที่มีหัวทางdesign มาพัฒนาสินค้าพวกนี้หน่อย ของพวกนี้แหล่ะที่จะทำกำไรให้อย่างมหาศาล คนพร้อมจะจ่ายน่ะมีครับ ถ้าdesign และคุณภาพมันได้