Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 24, 2010, 09:27:30
-
ในคู่มือรถบางคันเขียนว่า อย่าวอร์มเครื่องด้วย การจอดรถเฉยๆ หลังสตาร์ท ให้ออกตัวแล้วขับด้วยความเร็วปรกติ
ในบางเล่มเขียนไว้ว่า 10วินาทีหลังสตาร์ท ถึงออกตัว
ไม่มีเล่มไหนให้วอร์มเป็นนาทีเลย
แต่แม้กระทั่งพ่อผมเองก็ยังทำอย่างนั้นอยู่
การวอร์มเครื่องแบบรถไม่วิ่งไปไหน มีผลเสียมากกว่าผลดีนะครับ
1. ทำให้เกิดอาการจุดระเบิดไม่ติดทุกครั้ง หัวเทียนบอดได้
2. การสะสมของผงคาร์บอน ภายใน และภายนอกห้องสันดาป
3. การอุดตันของCatalytic convert และทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะ Catalytic ทำงานได้ดีตอนที่มันร้อน
4. ความเสียหายต่อ Oxygen Sensor
5. เครื่องหลวมในที่สุด
อ่านคู่มือในรถของท่านซักนิดครับ รถสมัยใหม่มีการฉีดน้ำมันหล่อลื่นลงบนผนังสูบเป็นฝอยๆ เลย ไม่จำเป็นต้องวอร์มเครื่องกันแล้วครับ แค่ขับไปไม่เร็วก็ใช้ได้แล้ว
-
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
แต่ของผมไม่เคยสตาร์ทเสร็จก็ออกรถเลย แต่ช่วงแรกๆ จะไม่อัดก่อนครับ ขับไปเรื่อยๆ นิ่มๆ รอจนกว่าเข็มความร้อนจะกระดิ่งขึ้นจึงค่อยทำความเร็วครับ
-
ปัญหาที่อยากได้คำตอบคือว่า ถ้าเราสตาร์ทรถในตอนเช้าครั้งแรก รอบเครื่องจะขึ้นไปที่1500รอบต่อนาที แล้วเราลากมาที่เกียร์ R ลงไปD อะไรก็แล้วแต่นี่แหละ เกียร์มันจะเป็นอะไรมั๊ยครับ
ค่าของมันจะเท่ากับว่า ในการเดินเบา800รอบ ปกติ แล้วเราเหยียบคันเร่งไว้ที่ 1500รอบ แล้วเข้าเกียร์
สองอันนี้ค่าเท่ากันมั๊ย ในด้านการศึกหรอกของเกียร์ครับ
ส่วนเรื่องเครื่องผมไม่ค่อยห่วงใช้น้ำมันเครื่องที่ใสในขณะเครื่องเย็นก็ถือว่าทำดีแล้วครับ อีกอย่างคอยสตาร์ทปั๊บกาน้ำมันเครื่องแทบจะดับทันทีอยู่แล้ว
ตอนนี้ผมเลยเลือกสายกลาง คืออุ่นเครื่องให้รอบตรงนี้ตกลงมาก่อน ประมาณ1100-1200 รอบ แค่นี้ก็อุ่นกันเป็นนาทีแล้ว มันกล้ายเป็นปัญหาที่ว่า ไม่ได้ safeเครื่อง แต่ safe เกียร์
ใครรู้บ้าง ตอบผมหน่อยว่าตรงนี้ต่างกันมั๊ย
-
ของผมก็จะสตาร์ทรถ แล้วก็ทำการล๊อครถ รัดเข็มขัด เปิดเพลงอะไรให้เรียบร้อย ก็น่าจะ 30 วิอะครับ แล้วก็เข้าเกียร์ปล่อยไหลไปช้าๆ พอรอบตกค่อยอัดปกติ
-
ปัญหาที่อยากได้คำตอบคือว่า ถ้าเราสตาร์ทรถในตอนเช้าครั้งแรก รอบเครื่องจะขึ้นไปที่1500รอบต่อนาที แล้วเราลากมาที่เกียร์ R ลงไปD อะไรก็แล้วแต่นี่แหละ
ค่าของมันจะเท่ากับว่า ในการเดินเบา800รอบ ปกติ แล้วเราเหยียบคันเร่งไว้ที่ 1500รอบ แล้วเข้าเกียร์
สองอันนี้ค่าเท่ากันมั๊ย
ตอนนี้ผมเลยเลือกสายกลาง คืออุ่นเครื่องให้รอบตรงนี้ตกลงมาก่อน ประมาณ1100-1200 รอบ แค่นี้ก็อุ่นกันเป็นนาทีแล้ว มันกล้ายเป็นปัญหาที่ว่า ไม่ได้ safeเครื่อง แต่ safe เกียร์
ใครรู้บ้าง ตอบผมหน่อยว่าตรงนี้ต่างกันมั๊ย
อย่างไรก็ตาม อ่านคู่มือครับ รถบางคัน มี WARM UP light เตือนด้วย คือ ถ้าไฟยังขึ้น ก็อย่าขับเร็ว (บางคันจะเรียกว่าcool light อย่าง vios ) หมดยุคแล้วครับ รถที่ไม่มีระบบส่งน้ำมันเครื่องไปยังส่วนสำคัญ เรียกว่า สตาร์ทปุ๊ป น้ำมันก็ฉีดไปถึงแล้ว
-
ปัญหาที่อยากได้คำตอบคือว่า ถ้าเราสตาร์ทรถในตอนเช้าครั้งแรก รอบเครื่องจะขึ้นไปที่1500รอบต่อนาที แล้วเราลากมาที่เกียร์ R ลงไปD อะไรก็แล้วแต่นี่แหละ
ค่าของมันจะเท่ากับว่า ในการเดินเบา800รอบ ปกติ แล้วเราเหยียบคันเร่งไว้ที่ 1500รอบ แล้วเข้าเกียร์
สองอันนี้ค่าเท่ากันมั๊ย
ตอนนี้ผมเลยเลือกสายกลาง คืออุ่นเครื่องให้รอบตรงนี้ตกลงมาก่อน ประมาณ1100-1200 รอบ แค่นี้ก็อุ่นกันเป็นนาทีแล้ว มันกล้ายเป็นปัญหาที่ว่า ไม่ได้ safeเครื่อง แต่ safe เกียร์
ใครรู้บ้าง ตอบผมหน่อยว่าตรงนี้ต่างกันมั๊ย
อย่างไรก็ตาม อ่านคู่มือครับ รถบางคัน มี WARM UP light เตือนด้วย คือ ถ้าไฟยังขึ้น ก็อย่าขับเร็ว (บางคันจะเรียกว่าcool light อย่าง vios ) หมดยุคแล้วครับ รถที่ไม่มีระบบส่งน้ำมันเครื่องไปยังส่วนสำคัญ เรียกว่า สตาร์ทปุ๊ป น้ำมันก็ฉีดไปถึงแล้ว
ขอโทษด้วยครับ พอดีว่าผมเขียนไม่ละเอียดเอง เรื่องเครื่องไม่ค่อยห่วงครับ ห่วงเกียร์ที่ถูกเข้าในขณะที่รอบเครื่องยังสูงน่ะครับ
-
ปัญหาที่อยากได้คำตอบคือว่า ถ้าเราสตาร์ทรถในตอนเช้าครั้งแรก รอบเครื่องจะขึ้นไปที่1500รอบต่อนาที แล้วเราลากมาที่เกียร์ R ลงไปD อะไรก็แล้วแต่นี่แหละ
ค่าของมันจะเท่ากับว่า ในการเดินเบา800รอบ ปกติ แล้วเราเหยียบคันเร่งไว้ที่ 1500รอบ แล้วเข้าเกียร์
สองอันนี้ค่าเท่ากันมั๊ย
ตอนนี้ผมเลยเลือกสายกลาง คืออุ่นเครื่องให้รอบตรงนี้ตกลงมาก่อน ประมาณ1100-1200 รอบ แค่นี้ก็อุ่นกันเป็นนาทีแล้ว มันกล้ายเป็นปัญหาที่ว่า ไม่ได้ safeเครื่อง แต่ safe เกียร์
ใครรู้บ้าง ตอบผมหน่อยว่าตรงนี้ต่างกันมั๊ย
อย่างไรก็ตาม อ่านคู่มือครับ รถบางคัน มี WARM UP light เตือนด้วย คือ ถ้าไฟยังขึ้น ก็อย่าขับเร็ว (บางคันจะเรียกว่าcool light อย่าง vios ) หมดยุคแล้วครับ รถที่ไม่มีระบบส่งน้ำมันเครื่องไปยังส่วนสำคัญ เรียกว่า สตาร์ทปุ๊ป น้ำมันก็ฉีดไปถึงแล้ว
ขอโทษด้วยครับ พอดีว่าผมเขียนไม่ละเอียดเอง เรื่องเครื่องไม่ค่อยห่วงครับ ห่วงเกียร์ที่ถูกเข้าในขณะที่รอบเครื่องยังสูงน่ะครับ
รถเกียร์ออโต้ ที่มีการเร่งเครื่องเอง เวลาเข้าเกียร์รอบจะตกไปเองอยู่แล้วครับ ถ้าไม่ตกต้องเชคด่วน มีอะไรเสียแบ้ว
-
ความรู้ ขอบคุณครับ
-
รอบมันตกแหละครับ แต่ตอนติดเครื่องใหม่ๆไม่มีการอุ่นเครื่องในตอนเช้าถ้าจาก 1500รอบ แล้วดึงมาdเนี่ยลงไป1200 อย่างนี้ จะถามว่ามันสึกหรอ ขนาดไหนเมื่อเทียบกับ รถเราพร้อมใช้งานแล้ว คือผ่านการอุ่นมาแล้ว แล้วเราติดเครื่องรอบจะถูกเดินเบาที่ 800 รอบ แล้วเราจำลองโดยการ เหยียบคันเร่งให้รอบขึ้นไป1500(ทำให้เหมือนติดเครื่องโดยไม่อุ่นเครื่อง) แล้วดึงมา d
คำถามคืออันไหนเกียร์สึกหรอกกว่ากัน แล้ว2อันเหมือนกันมั๊ย
กรณีที่ไม่อุ่นเครื่องแล้วดึงมา d มีระบบอะไรป้องกันไม่ให้เสียหาย เหมือนตอนที่เราเหยียบคันเร่งขึ้นไป1500เองด้วยเท้าแล้วดึงเกียร์มาD
งงรึเปล่าครับ
-
ส่วนใหญ่ผมจะวอร์มด้วยการขับช้าๆไปเรื่อยสัก 1 กม.
แล้วก็ขับตามปกติเลยครับ
-
ขอบคุณครับ ก็บิดติดเครื่อง ไม่เกินหนึ่งนาทีก็ควรออกได้แล้วเนอะ
-
รอบมันตกแหละครับ แต่ตอนติดเครื่องใหม่ๆไม่มีการอุ่นเครื่องในตอนเช้าถ้าจาก 1500รอบ แล้วดึงมาdเนี่ยลงไป1200 อย่างนี้ จะถามว่ามันสึกหรอ ขนาดไหนเมื่อเทียบกับ รถเราพร้อมใช้งานแล้ว คือผ่านการอุ่นมาแล้ว แล้วเราติดเครื่องรอบจะถูกเดินเบาที่ 800 รอบ แล้วเราจำลองโดยการ เหยียบคันเร่งให้รอบขึ้นไป1500(ทำให้เหมือนติดเครื่องโดยไม่อุ่นเครื่อง) แล้วดึงมา d
คำถามคืออันไหนเกียร์สึกหรอกกว่ากัน แล้ว2อันเหมือนกันมั๊ย
กรณีที่ไม่อุ่นเครื่องแล้วดึงมา d มีระบบอะไรป้องกันไม่ให้เสียหาย เหมือนตอนที่เราเหยียบคันเร่งขึ้นไป1500เองด้วยเท้าแล้วดึงเกียร์มาD
งงรึเปล่าครับ
รถ HONDA อายุเกิน 5 ปี ? ถ้าใช่ก็ ไปเข้าอู่ครับ เช็คตัวควบคุมรอบเดินเบา กับ เซนเซอร์อุณหภูมิ
ตอนซื้อรถใหม่ ๆอาการเป็นแบบนี้ด้วยเหรอครับ ?
-
ของผม start เครื่องแล้วก็คาดเข็มขัด เปิดวิทยุ แล้วค่อยออกตัวครับ
ชิวๆ
-
ผมก็ไม่เคยวอร์มเครื่องเลยครับ ติดเครื่องรัดเข็มขัดแล้วก็ไปเลยทุกเช้า ความเชื่อผิดๆๆครับ
-
ผมเองก็ไม่ได้อ่านคู่มือทุกยี่ห้อนะครับ
ถ้ามีซักยี่ห้อที่ไม่ตรงตามที่ผมว่า ก็คงไม่แปลก ดูคู่มือครับ บริษัทรถยนต์คงทดลองมาจนได้ข้อมูลที่แม่นยำแล้ว ถึงเขียนอย่างนั้นครับ
-
โฟกัสเบนซิน ผมแค่ติดเครื่องแล้วออกเลยเหมือนกัน
แต่จะไม่อัดรถเลยทันที
แม้ว่ารถจะมีระบบ วอร์มให้ก็ตาม รอใหความร้อนปกติก่อนค่อยขับแบบอัด
ส่วนดีเซลเทอร์โบ ยิ่งถนอมกว่า เพราะต้องรอ น้ำมันเครื่องไปเลี้ยงแกนเทอร์โบอีก
วิ่งซัก ๓ กิโลเมตรครับ ถึงวางใจ
-
Nissan March เกียร์ออโต้ ของ (แฟน) ผม ในคู่มือบอกว่า
"ให้อุ่นเครื่อง 30 วิ แล้วค่อย ๆ ไปประมาณ 1 โล จึงขับปกติได้" และสังเกตมีการเร่งเครื่องเอง ไปประมาณ 1000 กว่ารอบ
แต่พอเข้าเกียร์แล้ว รอบลงมาประมาณ 800" ครับ
ผมว่าแล้วแต่ยี่ห้อและรุ่นที่ใช้ ดูคู่มือเอาครับ
-
Opel ผมต้องวอร์มก่อน สัก 30 วิ ครับ ถ้า สตาร์ทแล้วขับไปเลย เครื่องจะกระตุก > หนักจน เครื่องดับ
หลัง 30 วิ แล้วไม่มีปัญหาครับ
แต่ คันอื่นไม่เป็น
-
โดยสรุปก็คือ อย่าคิดเองเออเอง อย่าไปคิดว่ารถมันเหมือนกันหมด ทำตามคู่มือสินะครับ
-
โดยสรุปก็คือ อย่าคิดเองเออเอง อย่าไปคิดว่ารถมันเหมือนกันหมด ทำตามคู่มือสินะครับ
ถูกต้องที่สุด
แต่....ไม่ถูกทั้งหมด
ผมมองว่าุรถทุกคันที่บอกว่าทำไมเวลาสตาร์ทรอบเครื่องจะสูงกว่าปกติเล็กน้อยและค่อยๆตกลงจนเป็นปกติ
เพราะรถยนต์เองเขาก็รู้จักวอร์มอัพตัวเองก่อนจะขับเคลื่อนนั่นคือระบบ ไอเดิลเดินเบาของรถจะสูงกว่าปกติเพื่อช่วย
คนขับในการวอร์มเครื่องยนต์ ให้อุณหภูมิของชิ้นส่วนอะไหล่ ระยะเคลียร์แลนท์ต่างๆของรถมันเข้าสู่โหมดวิ่งหลังจากนอนพักมาทั้งคืนนั่นเอง
การวอร์มอัพรถรุ่นใหม่ๆ จริงๆแทบจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ในอีกบริบทหนึ่งก็เท่ากับเตรียมความพร้อมของผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน
เช่นการเข้าไปนั่งรถในรถ อาจจะมีการเช็คอุปกรณ์ต่างๆในระหว่างที่สตาร์ทเครื่อง กระจกส่องหลังเอย กระจกมองข้าง ตำแหน่งเบาะ ฯลฯ
ว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับการออกรถหรือไม่ จุดนี้ก็สำคัญไม่ได้แพ้การวอร์มรถนะครับ เพราะถ้ารถพร้อม สถานะคนขับหรือตำแหน่งเบาะไม่พร้อม
พวกนี้ก็มีส่วนให้การขับขี่มันไม่ได้ดี 100% นะครับ ท่านั่งสำคัญที่สุดเลย ตอนเรียนคอร์สการขับขี่ชั้นสูงก็สอนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะไป
เชนเกียร์...เบรกหนัก...แล้วหักเลี้ยวอ่ะนะครับ
แต่ตัวผมเองหลังจากสตาร์ทรถไว้ปุ๊บก็ไปเปิดประตูบ้าน ค่อยๆถอยรถ กินเวลาก็ราวๆเกือบนาที หลังจากปิดประตูบ้านก็ 7000 รอบเปลี่ยนเกียร์
ขับมาหมื่นกว่าโลแล้ว รถก็ยังเครื่องฟิต สตาร์ทติดง่ายนะครับ
-
รถผมเครื่อง 2jz ถ้าเครื่องยังเย็น แล้วขับออกไปทันที
เกียร์จะไม่เปลี่ยนไป 4 (auto)
จะยกคันเร่งหรือปล่อยไหลยังไงก็ไม่เปลี่ยน จะอื้อๆ อยู่ 3 ซักแป๊บนึง (น่าจะเป็นกิโล)
แต่ถ้าเครื่องเย็น และจอดอยู่เฉยๆ จะวอร์มที่ 1200rpm อยู่ราวๆ 1-2 นาที
ค่อยลดมาที่รอบปกติ (6-700rpm)
-
ยังไงผมก็วอร์มให้มันตัดเข้าแก๊สก่อนอ่ะ .. ไม่งั้น เปลือง 55+
-
รถผมสตาร์ทเสร็จ กว่าจะขับผ่านลูกระนาดมาถึงปากซอยหมู่บ้านก็ 3-5 นาทีอยู่แล้ว
water temp 60 กว่าๆ เกจ์ความร้อนของรถขึ้นถึงจุดปกติ แต่ oil temp ยังไม่ถึง 50 เลยครับ
ปกติถ้าจะซัดผมจะรอให้ oil temp ซัก 80-90 ด้วยความเชื่อส่วนตัวว่าน้ำมันเครื่องมันคงมีความหนืดกำลังดี
ถ้าซัดเร็วไปกลัวน้ำมันเครื่องมันยังหนืดอยู่ ไปเลี้ยงส่วนต่างๆไม่ทัน เดี๋ยวจะงานเข้า
-
แต่ผมอุ่นมันก่อน ละ ขอสักประมาณ 1 นาที แล้วคลานไปปาก ซอย ก็ ประมาณ 3 นาที
ที่ทำ เพราะไปติด ออลย์เกียร์เสริมมา (ไม่ติดแยก) รู้เลยว่า อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ มันไม่ได้ วิ่งอืดๆหน่อย :'(
แต่พอเข้าที่ แล้วลื่นดีจัง ;D