Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: AauN ที่ มกราคม 18, 2011, 23:25:06
-
ไม่รู้มีคนโพสรึยัง ถ้าซ้ำก็ขออภัยนะครับ เสียดายรถมาก เห็นแล้วน้ำตาจะไหล
Cougar Ace: 4,703 Mazdas Lost at Sea - Car and Driver (http://www.youtube.com/watch?v=JcpiF51gJRE#)
http://www.clipmass.com/upload/news/12255_full.jpg (http://www.clipmass.com/upload/news/12255_full.jpg)
http://www.thaifwd.com/attachments/month_1009/1009181205154a7f13cada6e2e.jpg (http://www.thaifwd.com/attachments/month_1009/1009181205154a7f13cada6e2e.jpg)
-
ทำไมถึงต้องทำลายทิ้งครับ ? เหตุผล ?
-
น่าจะเป็นเพราะสัญญาประกันภัยการขนส่งระหว่างประเทศล่ะมั้งครับ
คือ Mazda ได้เงินค่าประกันแล้ว ทางประกันเขาก็ต้องให้ทำลายรถเพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้นำรถไปขายอีก
ป้องกัน Mazda ได้เงิน 2 ต่อน่ะครับ (ได้เงินค่าประกัน+ค่าขายรถยนต์)
ปล.อันนี้เดาเอานะครับ ;D
-
เห็นแล้วก่อนเอาไปทิ้งขอสักคันก้อยังดี อิอิ :D แต่เสียดายมากครับ :'(
-
Will it blend, That's the question. ;D
(http://scrapetv.com/News/News%20Pages/Business/images/will-it-blend.jpg)
-
5555 ;D
-
เรื่องนี้นานมากแล้วครับ
เป็นเรือที่ใช้ขนส่งรถมาสด้าข้ามมหาสมุทรเพื่อไปขายยังประเทศอื่นอื่น
ผมไม่แน่ใจสาเหตุ แต่เรือเกิดอุบัติเหตุขณะอยู่กลางมหาสมุทร ทำให้ตะแคงจนเกือบจม
รถในนั้นไหลไปกระแทกกัน บางคันก็กระแทกผนังเรือบ้าง ชนเสาในเรือบ้าง เสียหายกันไปไม่มากก็น้อยในแต่ละคัน
แต่เพื่อความปลอดภัยและมาตรฐานของคุณภาพสินค้า
มาสด้าเลยทำลายรถทั้ง Lot ทิ้ง เพื่อไม่ให้มาสร้างปัญหาได้ในภายหลัง
ตัวเองก็รับเงินประกันอุบัติเหตุไป
-
ออๆ กระจ่างชัดแจ่ง เลยครับ พี่เนย
-
กำลังสงสัยอยู่สองข้อ
- มาสด้าเป็นผู้จัดการให้ทำลายรถพวกนี้ ไม่ใช่บริษัทประกัน?
- ค่าใช้จ่ายในการทำลายรถพวกนี้ จะสูงขนาดไหน
-
อยากบอกว่า Volvo ก็เคยโดนครับรู้สึกว่าเรือจะจมด้วย เรือTricolorครับลองหาในgoogleอะครับ แต่ละภาพอนาถๆทั้งงั้น
-
เสียดายรถมากเลยครับ
-
แล้วพลาสติกภายใน เครื่องเสียง เบาะ พวงมาลัยภายใน แผงหน้าปัด พรมรองเท้า หัวเกียร์ กับเบาะนี่ ที่มันไม่เสียก็มีนี่ครับ บางคันยังดี ๆ อยู่เลย ?
การขึ้นรูปใหม่สูญเสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ การหลอมเหล็กใหม่เสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ ?
มันมีส่วนที่ใช้้ได้ตังเยอะแยะนะครับ ส่วนที่ไม่จำเป็นต้องทิ้ง ทำไมถึงต้องทิ้งมันไปด้วยล่ะ ?
มีคำแถลงไหมครับ อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องทำ ?
หลาย ๆ อย่างนำมาใช้ได้ตั้งเยอะแยะ เอามาตรวจสอบคุณภาสพก่อนก็ได้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทำได้ตั้งมากมาย
ถ้าจะบอกว่าต้องขนกลับ มันไปขึ้นที่ไหนก็ขายที่นั่นสิครับ ขายมือสองก็ได้ ของที่มันไม่เสียก็ไม่ควรทำลายให้มันเสียอรรถประโยชน์ไปอย่างไร้เหตุผลสิครับ
ยกตัวอย่างเช่น ตัวล้ออัลลอยเองก็แค่มีรอยขีดข่วน เอามาขายมือสองก็ได้ ใช้ทรัพยากรเปลืองมาก มีใช้ก็ใช้กันเข้าไป ลูกหลานของเราก็ไม่ได้ใช้กันพอดี
คิดว่ายังไงกันบ้างครับ ผมคิดแบบนี้อะ
-
แล้วพลาสติกภายใน เครื่องเสียง เบาะ พวงมาลัยภายใน แผงหน้าปัด พรมรองเท้า หัวเกียร์ กับเบาะนี่ ที่มันไม่เสียก็มีนี่ครับ บางคันยังดี ๆ อยู่เลย ?
การขึ้นรูปใหม่สูญเสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ การหลอมเหล็กใหม่เสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ ?
มันมีส่วนที่ใช้้ได้ตังเยอะแยะนะครับ ส่วนที่ไม่จำเป็นต้องทิ้ง ทำไมถึงต้องทิ้งมันไปด้วยล่ะ ?
มีคำแถลงไหมครับ อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องทำ ?
หลาย ๆ อย่างนำมาใช้ได้ตั้งเยอะแยะ เอามาตรวจสอบคุณภาสพก่อนก็ได้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทำได้ตั้งมากมาย
ถ้าจะบอกว่าต้องขนกลับ มันไปขึ้นที่ไหนก็ขายที่นั่นสิครับ ขายมือสองก็ได้ ของที่มันไม่เสียก็ไม่ควรทำลายให้มันเสียอรรถประโยชน์ไปอย่างไร้เหตุผลสิครับ
ยกตัวอย่างเช่น ตัวล้ออัลลอยเองก็แค่มีรอยขีดข่วน เอามาขายมือสองก็ได้ ใช้ทรัพยากรเปลืองมาก มีใช้ก็ใช้กันเข้าไป ลูกหลานของเราก็ไม่ได้ใช้กันพอดี
คิดว่ายังไงกันบ้างครับ ผมคิดแบบนี้อะ
จริงๆ ผมก็คิดแบบนี้นะครับ เสียดายรถมากๆ เลย ถ้าเป็นไปได้ ก่อนทำลายผมขอสักคันเถอะนะๆๆๆๆๆ
-
แล้วพลาสติกภายใน เครื่องเสียง เบาะ พวงมาลัยภายใน แผงหน้าปัด พรมรองเท้า หัวเกียร์ กับเบาะนี่ ที่มันไม่เสียก็มีนี่ครับ บางคันยังดี ๆ อยู่เลย ?
การขึ้นรูปใหม่สูญเสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ การหลอมเหล็กใหม่เสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ ?
มันมีส่วนที่ใช้้ได้ตังเยอะแยะนะครับ ส่วนที่ไม่จำเป็นต้องทิ้ง ทำไมถึงต้องทิ้งมันไปด้วยล่ะ ?
มีคำแถลงไหมครับ อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องทำ ?
หลาย ๆ อย่างนำมาใช้ได้ตั้งเยอะแยะ เอามาตรวจสอบคุณภาสพก่อนก็ได้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทำได้ตั้งมากมาย
ถ้าจะบอกว่าต้องขนกลับ มันไปขึ้นที่ไหนก็ขายที่นั่นสิครับ ขายมือสองก็ได้ ของที่มันไม่เสียก็ไม่ควรทำลายให้มันเสียอรรถประโยชน์ไปอย่างไร้เหตุผลสิครับ
ยกตัวอย่างเช่น ตัวล้ออัลลอยเองก็แค่มีรอยขีดข่วน เอามาขายมือสองก็ได้ ใช้ทรัพยากรเปลืองมาก มีใช้ก็ใช้กันเข้าไป ลูกหลานของเราก็ไม่ได้ใช้กันพอดี
คิดว่ายังไงกันบ้างครับ ผมคิดแบบนี้อะ
อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ
แต่ถ้าให้ผมเดาก็คงเป็นเรื่องสัญญาประกันภัยครับ
คือประกันภัยเขาจะจ่ายให้เต็มราคา 1 คัน ดังนั้น จึงต้องนำไปทำลายทุกชิ้นส่วน
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ได้รับประโยชน์(Mazda) นำไปขายต่ออีก
ป้องกันการได้เงิน 2 ต่อน่ะครับ (เงินค่าประกันเต็มราคา+ขายอะไหล่ที่ยังใช้ได้)
แล้วก็ต้องมีหลักฐานให้ทางประกันด้วยว่า ได้ทำลายทุกชิ้นส่วนแล้ว :)
-
แต่ดูแล้วก็สงสารรถอยู่ดีอะ :(
-
แล้วพลาสติกภายใน เครื่องเสียง เบาะ พวงมาลัยภายใน แผงหน้าปัด พรมรองเท้า หัวเกียร์ กับเบาะนี่ ที่มันไม่เสียก็มีนี่ครับ บางคันยังดี ๆ อยู่เลย ?
การขึ้นรูปใหม่สูญเสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ การหลอมเหล็กใหม่เสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ ?
มันมีส่วนที่ใช้้ได้ตังเยอะแยะนะครับ ส่วนที่ไม่จำเป็นต้องทิ้ง ทำไมถึงต้องทิ้งมันไปด้วยล่ะ ?
มีคำแถลงไหมครับ อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องทำ ?
หลาย ๆ อย่างนำมาใช้ได้ตั้งเยอะแยะ เอามาตรวจสอบคุณภาสพก่อนก็ได้ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทำได้ตั้งมากมาย
ถ้าจะบอกว่าต้องขนกลับ มันไปขึ้นที่ไหนก็ขายที่นั่นสิครับ ขายมือสองก็ได้ ของที่มันไม่เสียก็ไม่ควรทำลายให้มันเสียอรรถประโยชน์ไปอย่างไร้เหตุผลสิครับ
ยกตัวอย่างเช่น ตัวล้ออัลลอยเองก็แค่มีรอยขีดข่วน เอามาขายมือสองก็ได้ ใช้ทรัพยากรเปลืองมาก มีใช้ก็ใช้กันเข้าไป ลูกหลานของเราก็ไม่ได้ใช้กันพอดี
คิดว่ายังไงกันบ้างครับ ผมคิดแบบนี้อะ
อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ
แต่ถ้าให้ผมเดาก็คงเป็นเรื่องสัญญาประกันภัยครับ
คือประกันภัยเขาจะจ่ายให้เต็มราคา 1 คัน ดังนั้น จึงต้องนำไปทำลายทุกชิ้นส่วน
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ได้รับประโยชน์(Mazda) นำไปขายต่ออีก
ป้องกันการได้เงิน 2 ต่อน่ะครับ (เงินค่าประกันเต็มราคา+ขายอะไหล่ที่ยังใช้ได้)
แล้วก็ต้องมีหลักฐานให้ทางประกันด้วยว่า ได้ทำลายทุกชิ้นส่วนแล้ว :)
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็คงต้องหาทางเอาชิ้นส่วนพวกนั้นกลับมาอ่าครับ บังคับให้บริษัทประกันนำชิ้นส่วนที่ยังใช้ได้มาขายมือสอง อะไรประมาณนั้น
แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะว่าอย่างที่คนไทยพูดไว้ "ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา" จริง ๆ ครับ ถ้าทรัพยากรยังไม่หมดโลกหรือไม่มีท่าที คงไม่ปฏิบัติจริงจังหรอกครับ
-
เรื่องพลังงานและทรัพยากรที่สูญเสียไปมันก็น่าสนใจครับ
แต่ถามว่าถ้าเราซื้อรถยนต์คันนึง แล้วพาร์ทบางส่วนในรถเรานำมาจากรถในภาพเหล่านั้น เราจะยอมบริษัทรถยนต์เหรอครับ
เวลาเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา ความเสียหายต่อแบรนด์และความเชื่อมั่นของลูกค้าจะหายไปเท่าไหร่
นี่ไม่ต้องนับกรณีที่ของเกิดมี Defect บางอย่างที่ไม่อาจตรวจสอบได้ในตอนแรก แต่จะเกิดขึ้นในระยะยาวนะครับ
กลายเป็นบริษัทที่เอาแต่ได้ไปอีก แทนที่จะทำลายไปเพื่อรักษามาตรฐานและความปลอดภัยให้กับลูกค้า
ยิ่งบังคับให้เอามาขายเป็นมือสองยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยครับ ใครจะรับผิดชอบผลที่ตามมาถ้าของพวกนั้นก่อปัญหา
อีกทางหนึ่งคือ หากจะให้รื้อของที่ใช้ได้ในแต่ละคันออกมา ต้องใช้วิจารณญาณเยอะมากเพราะแต่ละคันเสียหายไม่เหมือนกัน
ต้องจ้างพนักงานพิเศษจำนวนเท่าไหร่เพื่อมารื้อของออกจากรถทั้งล็อตครับ แถมยังต้องผ่านการทดสอบอีกมากมายเพื่อจะให้มั่นใจ
สุดท้ายแล้ว ชิ้นส่วนที่จะมั่นใจได้ 100% น่าจะมีเพียงแค่หยิบมือเมื่อเทียบกับรถทั้งคัน ทำไปไม่คุ้มครับ
หลอมทิ้งแล้ว Recycle กลับมาผลิตใหม่ดีกว่า
กรณีแบบนี้เกิดขึ้นเยอะแยะ ตั้งแต่อยู่ในสายพานการผลิตด้วยซ้ำ
ของบางอย่างถ้าออกมาแล้วมี Defect หากคิดว่าการซ่อมแซมมีต้นทุนสูงกว่านำกลับไปผลิตใหม่
ของที่มีปัญหาเหล่านั้นก็จะกลับลงสู่เตาหลอมแล้ววิ่งผ่านกระบวนการผลิตมาใหม่ทั้งนั้นแหละครับ
เรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะยึดหลักการเพียงด้านใดด้านเดียวเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติได้ครับ
ต้องมองจากหลายหลายปัจจัยร่วมกัน ความเสี่ยงเป็นเรื่องที่บริษัทรถอยากจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เกิดกับลูกค้าโดยตรง
-
จะให้เอารถเสียหายมาขายมันคงไม่ดี เกิดปัญหาแค่เสียงเข้า เครื่องสะดุด แค่ คันสองคัน แบรนด์เสียหาย ไม่คุ้มครับ ทำลายอะถูกต้องแล้ว
-
ก็น่าเสียดายอยู่ครับที่ต้องนำไปทำลายทิ้ง
แต่ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ก็คงต้องทำแบบนั้นครับ
-
เข้าใจผิดกันหมดเลยนะครับ
สิ่งที่ผมอยากจะอยากให้ใช้ใหม่คือ พวก ที่รองแก้วน้ำ ลิ้นชัก ช่องแอร์ วงจรเครื่องเสียงที่ยังใช้ได้ พวงมาลัยที่ยังใช้ได้ เอาที่มันใช้ไดสิครับ อะไหล่ที่แย่ ๆ จะเอามาทำไมล่ะครับ ?
-
เรื่องพลังงานและทรัพยากรที่สูญเสียไปมันก็น่าสนใจครับ
แต่ถามว่าถ้าเราซื้อรถยนต์คันนึง แล้วพาร์ทบางส่วนในรถเรานำมาจากรถในภาพเหล่านั้น เราจะยอมบริษัทรถยนต์เหรอครับ
เวลาเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา ความเสียหายต่อแบรนด์และความเชื่อมั่นของลูกค้าจะหายไปเท่าไหร่
นี่ไม่ต้องนับกรณีที่ของเกิดมี Defect บางอย่างที่ไม่อาจตรวจสอบได้ในตอนแรก แต่จะเกิดขึ้นในระยะยาวนะครับ
กลายเป็นบริษัทที่เอาแต่ได้ไปอีก แทนที่จะทำลายไปเพื่อรักษามาตรฐานและความปลอดภัยให้กับลูกค้า
ยิ่งบังคับให้เอามาขายเป็นมือสองยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยครับ ใครจะรับผิดชอบผลที่ตามมาถ้าของพวกนั้นก่อปัญหา
อีกทางหนึ่งคือ หากจะให้รื้อของที่ใช้ได้ในแต่ละคันออกมา ต้องใช้วิจารณญาณเยอะมากเพราะแต่ละคันเสียหายไม่เหมือนกัน
ต้องจ้างพนักงานพิเศษจำนวนเท่าไหร่เพื่อมารื้อของออกจากรถทั้งล็อตครับ แถมยังต้องผ่านการทดสอบอีกมากมายเพื่อจะให้มั่นใจ
สุดท้ายแล้ว ชิ้นส่วนที่จะมั่นใจได้ 100% น่าจะมีเพียงแค่หยิบมือเมื่อเทียบกับรถทั้งคัน ทำไปไม่คุ้มครับ
หลอมทิ้งแล้ว Recycle กลับมาผลิตใหม่ดีกว่า
กรณีแบบนี้เกิดขึ้นเยอะแยะ ตั้งแต่อยู่ในสายพานการผลิตด้วยซ้ำ
ของบางอย่างถ้าออกมาแล้วมี Defect หากคิดว่าการซ่อมแซมมีต้นทุนสูงกว่านำกลับไปผลิตใหม่
ของที่มีปัญหาเหล่านั้นก็จะกลับลงสู่เตาหลอมแล้ววิ่งผ่านกระบวนการผลิตมาใหม่ทั้งนั้นแหละครับ
เรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะยึดหลักการเพียงด้านใดด้านเดียวเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติได้ครับ
ต้องมองจากหลายหลายปัจจัยร่วมกัน ความเสี่ยงเป็นเรื่องที่บริษัทรถอยากจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เกิดกับลูกค้าโดยตรง
ตามที่เนยว่าไว้นั่นแหละ ถูกต้องแล้ว