Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: gtoza01 ที่ มกราคม 22, 2011, 02:12:33
-
คือผมเพิ่งซื้อรถมาใหม่ BMW 320i se แล้วถ้าผมเอาหมาขึ้นรถบ่อยๆจะมีปัญหาอะไรตามมามั้งครับ
แต่ผมได้สั่งทำผ้ายางหรอหนังสงเคราะห์ มาปู ทับกันการเกิด รอยขีดข่วนจากเล็บหมาไว้ในระดับ
ประเด็นที่อยากถามคือ 1. มีผลเสียต่อรถมากน้อยเพียงใดกับ 2. ถ้ากลิ่นมากติดรถทำยังไงถึงหาย 3. ผลเสียจะเกิดขึ้นกับระบบแอร์มั้ย
-
จากประสบการณ์ที่พาหมาไปหาสัตวแพทย์บ้างเป็นครั้งคราว....
ถ้าเอาหมาไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ สิ่งที่ต้องดูแลเป็นอันดับต้นๆ คือกำจัดเห็บและหมัดไม่ให้เหลือซักตัวนะครับ มันคงไม่สนุกแน่ตอนเวลาที่คุณขับรถอยู่แล้วมีพวกมันวิ่งผ่านไปมาแถวคอนโซลหรือบนพวงมาลัยขณะขับขี่ ยังไม่นับรวมถึงคนที่แพ้พิษที่มันกัดด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องประเด็นที่ถามก็....
1. การตะกุยตัวรถ คราบน้ำลาย และขนที่จะติดตามส่วนต่างๆ ของรถได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะส่วนที่เป็นผ้านี่ล่ะตัวดีเลย ต้องมานั่งคีบออกทีละเส้น แต่ถ้าควบคุมได้ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมากครับ
2. เข้าศูนย์ทำความสะอาดรถยนต์ให้เขากำจัดกลิ่นภายในเลยครับ ก้อนถ่านช่วยไม่ได้มาก และน้ำยาดับกลิ่นต่างๆ ก็พอกลบได้บ้าง แต่ก็ยังมีกลิ่นอยู่
3. ต้องหมั่นดูแลกรองแอร์ให้มากขึ้นครับ เนื่องจากขนที่หลุดร่วงออกมานั่นเอง
ย้ำอีกครั้งว่าต้องหมั่นดูแล และทำความสะอาดหมาที่คุณจะพาไปไหนมาไหนด้วยให้ดีที่สุดก็สบายใจไปได้ครึ่งนึงแล้วครับ ที่เหลือก็ต้องฝึกพฤติกรรมไม่ให้มันซนจนเกินไป
-
ซื้อเครื่องดูดฝุ่นติดรถไว้ครับ หมาลงเสร็จ ดูดขนให้เกลี้ยง ไม่ก็ ใช้เทปกาวแปะๆออกให้หมดครับ
ลงพวกน้ำยาทำความสะอาดเช็ดใส่ผ้าไมโครไฟเบอร์ตาม กระจกก็เอาผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดคราบน้ำลาย คราบที่มันชอบเอาจมูกไปโดนครับ
จะว่าก็ไม่ได้ครับ ลูกเราเอง ถ้าให้เลือกระหว่าง รถ กับ หมา ผมเลือกหมานะ ให้มันไปด้วยดีกว่าครับ มีความสุขกว่าเยอะเลย
-
ปัญหาที่ตามมาแน่ๆ คือ กลิ่นกับรอยขีดข่วนบนแผงประตู
ซึ่งผมจนปัญญาแล้วครับโดยเฉพาะกลิ่นทำได้แค่จางลงยังไงก็ไม่หายไป
-
ทำใจเรื่องแอร์ตันไว้ได้เลยครับ ขนหมาจะถูกดูดเข้าแอร์เยอะมาก ถ้าหมาขนร่วงเยอะ ๆ นี่ พวกเส้นเล็ก ๆ จะไปติดในกรอง หรือ คอยล์เย็น และ คอยล์Heater ด้วย
เพื่อนผมเลี้ยง ลัมบาดอร์ เอารถไปล้างแอร์แกะมาถึง แทบช๊อค กรองก็เอาไม่อยู่ เหมือนกับแอร์มีขนเลยครับ
-
กรณีนี้เสื้อผ้าสุนัขช่วยได้ครับ...
โดยปกติผมไม่ค่อยสนับสนุนให้สุนัขใส่เสื้อผ้าครับ แต่กรณีนี้ ผมเห็นว่ามีประโยชน์เพราะ
1. ลดขนที่ปลิวฟุ้งได้ เพราะช่วยบังลมที่พัดขน และกักขนส่วนที่ร่วงๆได้
2. ลดกลิ่นได้นิดหน่อย เพราะช่วยบังลมที่พัดกลิ่นจากตัวออกมา และซับกลิ่นได้บางส่วน
3. เป็นผ้าฉุกเฉิน เวลามีน้ำลาย หรือน้องหมาเกิดอึกระทันหัน แล้วหาผ้า หรือทิชชู่ไม่ทัน (ถ้าทำใจค่าเสื้อได้นะครับ) รวมไปถึงน้ำลายที่หยด อาจโดนเสื้อก่อนเบาะรถครับ ;D
โดยผ้าที่เลือกใช้ไม่ควรหนาหนักเกินไป และไม่รัดเกินไป ในขณะเดียวกันต้องไม่หลวมมากด้วยครับ เพราะถ้าหลวม...จะไม่มีประโยชน์กันขนฟุ้งสักเท่าไหร่ครับ
รอยเล็บสุนัข..ก็ใช้ถุงเท้าเล็กๆช่วยได้ครับ ถ้าสุนัขไม่ต่อต้านมากนัก (แต่ส่วนมากจะกัดออกซะมากครับ ^ ^")
..........................................
จากประเด็นที่ถามข้อ 2 ครับ
ผมแนะนำให้เช็ดเบาะด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆครับ แล้วรีบเอาผ้าแห้งเช็ดตามทุกที่ เท่าที่เช็ดได้ครับ
กรณีมีคราบ แนะนำให้ใช้ผ้าหรือฟองน้ำ 2 ชิ้น ชิ้นแรกชุบน้ำอุ่นๆ 2 ถ้วยตวง (ประมาณ 500 cc) ที่ละลาย Baking soda (Sodium bicarbonate / [NaHCO3]) 1 ช้อนชา แล้วเช็ด จากนั้นให้รีบนำผ้าอีกผืนที่ชุบน้ำหมาดๆตามเช็ดทันทีครับ หากเช็ดแห้งทันทีได้จะดีมากครับ
ถ้าลงพวก Conditioner เบาะได้ก็ดีครับ เพราะทุกครั้งที่เช็ด...เบาะก็จะเสียสภาพความยืดหยุ่นไปบ้างนิดๆครับ
-
อืมได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยครับ ผมก็พามันไปหาหมออยู่บ่อยๆ จะให้มันนั่งกระบะท้ายรถไปก็กลัวมนกระโดดลง
เลยต้องเอามันมานั่งข้างหน้าแล้วมันก็จัดการกัดเบาะซะขาดเลยแต่ไม่โกรธมันซักนิสทำไมก็ไม่รู้อ่า หึหึ
ส่วนอีกรอบนึงก็ดันตดออกมาเหม็นหึ่งซะอย่างงั้นอ่า อันนี้น่าโมโหกว่ากัดเบาะขาดอีกครับเพราะมันกินอาหารที่มีโปรตีนสูง
อย่าง Royal canin เลยอึและตดเหม็นเป็นพิเศษ กว่ากลิ่นจะหายนี่เป็นเดือนเลยครับ เกิดมาเคยได้กลิ่นหมาตดครั้งแรกก็ตอนนี้แหละครับ 555++
-
ทุกครั้งที่เอาหมาขึ้นรถจับใส่รองเท้าหมาครับ คู่นึงไม่เกินสองร้อยบาทแรกๆใส่ไปหมาอาจไม่ชอบแต่ใส่ให้เค้าชินไว้ เวลาโดดไปมาบนรถจะได้ไม่ข่วนเบาะแหกหมด :)
แต่หมาผมไม่ได้ใส่แฮะเพราะโอ๋หมามากกว่ารถ ;D