Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Chariot ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 15:13:15
-
ไม่ใช่รถญี่ปุ่นหรือเกาหลีเท่านั้นก็ถูกทดสอบการชนแล้วได้ดาวเดียว-ดาวครึ่งอย่างที่เราชอบวิจารณ์กันอย่างสนุกปาก
แต่รถยุโรปก็ทดสอบแล้วได้ 1-2 ดาวก็มี แม้ว่าจะเป็นยี่ห้อดังก็ตาม
ถ้าไม่เชื่อ ลองดูผลการทดสอบจาก EuroNCAP ดูล่ะกัน
Audi A4 (B5)
(http://www2.euroncap.com//carimages/14.jpg)
ผลการทดสอบ 2 ดาวครึ่ง
http://www.youtube.com/watch?v=BZihM38d9b0&feature=related
MB c-class (W202)
(http://euroncap.com/cache/file/a819f805-a1d6-483a-9565-40572f1443df/thumb__mediaplayerpreview.jpg)
ผลการทดสอบ 2 ดาว
http://www.youtube.com/watch?v=6nXYES5MW88&feature=related
BMW 3-series (E36)
(http://www2.euroncap.com//carimages/15.jpg)
ผลการทดสอบ 1 ดาวครึ่ง :P :-\
http://www.youtube.com/watch?v=obdtYlqV7VU&NR=1
แอร์แบ็กพุ่งได้ชวนหน้าแหกมากๆ :'(
น่าสังเกตว่า รถยุโรปยุค 95-97ส่วนใหญ่ มักมีโครงสร้างที่ไม่ดีนัก ทดสอบแล้วได้ 1-2 ดวงอีกหลายรุ่น เช่น ซาบ 900, ซีตรอง ซองเทีย
มีเพียงยี่ห้อเดียวที่ดูได้เรื่องได้ราว สมกับยี่ห้อที่เน้นความปลอดภัย
Volvo S40
(http://euroncap.com/cache/file/2298b790-59c7-4cdf-a94a-4df4ba905e95/thumb__mediaplayerpreview.jpg)
ผลการทดสอบ 4 ดาว
http://www.youtube.com/watch?v=V5ybi9quH2w&feature=related
หลังจากยุคนั้น ทุกยี่ห้อก็พัฒนาโครงสร้างและระบบรอบรับ จนพลิกกัลบมาได้ 4-5 ดาวจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นหากใครจะพูดว่า รถยุโรปปลอดภัย ควรดูรุ่นปี และอุปกรณ์ติดรถด้วยนะครับ ::)
-
รถญี่ปุ่นบางรุ่น ที่ได้ 4-5 ดาว
รุ่นที่นำมาขายในบ้านเรา ถูกถอดอะไรออกไปบ้างมั้ยครับ
เมื่อเปรียบเทียบกับตัวที่ทดสอบการชน
-
ผมก็เห็นรีวิวนี้เหมือนกัน
แต่อยากจะบอกว่ารถยุโรปปี 95-97 นั้นแข็งมากๆ การทดสอบเค้าเอารถไปวิ่งชนกำแพงแล้วทดลองการซับแรงกระแทก
แต่ถ้าความเป็นจริงเอามาบวกกันกับรถด้วยกัน รถญีุ่่ปุ่นที่ได้ 5ดาว ผมคิดว่ารอดยากมากครับ
ตัวอย่างผมเก็บ W140 ไว้เพราะรถมันแข็งมาก ประตูบ้านผมหนัก เกือบ 300 โล วันนั้นช่างมาซ่อมประตูเกิดวางพิงไม่ดี มันเอนลงมาทับ ปลาวาฬ
ผลออกมาคือประตูพิงปลาวาฬเฉยเลย รถมีแค่รอยขีดข่วน แต่ไม่มีรอยบุบเลย เอา Sonax มาขัดๆก็จบ
อีกรายคือ เพื่อนใช้ A6 ปี 97 ขับไป ตจว เจอรถผ่าไฟแดงซัดเข้ากลางลำ ไม่แน่ใจว่ารถกระบะหรือรถบรรทุก รถแค่บุบกลางลำเสา C ขาด ลงจากรถมาแค่คอเคล็ดหน่อยๆ
ที่พูดมาไม่ใช่จะบอกว่ารถยุโรปดี ที่ไม่ดีก็มี แต่จะมาเหมาว่ารถไม่ปลอดภัย ผมว่ามันเกินไป หลายคนรวมทั้งตัวผมเองรอดตายด้วยความแข็งแรงของ Body มาหลายครั้งแล้ว รถรุ่นใหม่ๆออกมาทดสอบได้ 5 ดาว แต่โดนชนทีบี้หน้าบี้หน้าบี้หลัง เห็นแล้วไม่กล้าใช้ครับ
-
รถบ้านที่ขายบ้านเราที่ถอดออกไปก็ม่านนิรภัยกับคานกันกระแทกหลังไงครับ การทดสอบชนด้านหน้าพอจะอ้างอิงได้เพราะยังมีแอร์แบกคู่เหมือนที่อื่นแต่การชนด้านข้างไม่อยากจะนึกถึงประเทศอื่นเค้าได้ทดสอบการชนกันหรูหราแต่มาบ้านเรานี่แทบไม่ต่างจากโดนขอบรถตัวเองตีหัวเลย เบาะรองนุ่มๆหายไปหมด >:(
ผมเดาเอานะว่าในช่วงนั้นที่การทดสอบชนได้ดาวกันน้อยๆเป็นเพราะว่าอยู่ในช่วงยุคที่รถยุโรปสมัยนั้นยังใช้โครงสร้างไม่ซับแรงกระแทกหรือเปล่า? อย่างวีดีโอที่ใช้กันเพื่อบอกว่ารถแข็งไม่ปลอดภัยของวอลโว่รุ่นเมื่อหลายสิบปีก่อน น่าจะลองเอามาเทียบดูว่าวอลโว่รุ่นนั้นอยู่ในปีไหนและรถข้างบนพวกนี้อยู่ปีเดียวกันไหม และในช่วงที่การทดสอบชนได้ดาวดีขึ้นมาเรื่อยๆนั้นเป้นช่วงที่มีการปรับมาใช้โครงสร้างแบบซับกระจายแรงกระแทกหรือเปล่า ถ้าใช่น่าจะเป็นคำอธิบายได้ว่ารถยุโรปเริ่มมาดีขึ้นได้เพราะอะไร
-
Peugeot 505 ผมเคยชนกับ W202 กลางสี่แยก W202 ชนแก้มหน้าซ้ายรถผม
รถผมกันชนขาด (กันชนไฟเบอร์) แก้มบุบนิดนึง แต่ W202 ยุบไปถึงล้อ คือกระจังหน้าหัก ไฟแตก แล้วซุ้มล้อยุบไปติดกับล้อเลย
ก็งงๆอยู่ว่า มันเข้าไปขนาดนั้นได้ไง จำได้ว่าประกันฝ่ายนู้นมาถามพ่อผมว่า "รถอะไรแข็งดีจัง"
-
คือ จะต้องอธิบายกันสักหน่อย.......ก่อนจะเข้าใจผิดกันมากกว่านี้
มาตรฐานการทดสอบการชนโดย Euro NCAP นั้น เพิ่งมีขึ้นมา
เมื่อช่วงปี 1997 อันเป็นปีแรกที่พวกเขา เริ่มต้นทดสอบการชน
อย่างจริงจัง และเป็นทางการ
เพราะที่่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ ส่วนใหญ่ ก็ต่างมีมาตรฐานของตัวเองในการทดสอบการชน
แต่ มาตรฐานกลาง ยังไม่มีใครกำหนดอย่างเป็นขิ้นเป็นอัน
จะเอามาตรฐานของ NHTSA ก็ใช้วิธีทดสอบแบบชนเต็มหน้า
ซึ่งถ้าชนแล้ว โครงสร้างผ่านเกณฑ์ ก็คือ ผ่าน เข้าไปขายในสหรัฐอเมริกาได้
แต่จากการวิเคราะห์อุบัติเหตุกันจริงจัง พบว่า การชนส่วนมาก เกินขึ้น
ในรูปแบบ ชนเกือบครึ่งหน้า 40% ของพื้นที่ด้านหน้ารถ เสียส่วนใหญ่
ดังนั้น Euro NCAP ก็เลย เกิดขึ้น เป็นความร่วมมือกันของหลายหน่วยงาน
ก่อนหน้าที่จะมี Euro NCAP นั้น เคยมี นิตยสาร Auto Motor und Sport ร่วมกับ
VDA เยอรมัน ทำการทดสอบเอง และเล่มนั้น ถือเป็นเล่มในตำนานเล่มนึง ของนิตยสารายนี้เลยทีเดียว
ตอนนั้น เขาเอา Mercedes-Benz E-Class ก่อนปรับโฉม W124, BMW ซีรีส์ 5 E34
Nissan Maxima,Volvo 740, Honda Legend , Fiat Croma มาทดสอบการชนแบบครึ่งคันหน้าร่วมกัน
และในยุคนั้น มีเพียงแค่ MB กับ BM ที่ทำผลงานได้ดีกว่าเพื่อน แต่ก็ดีกว่ากันไม่มากนัก
Volvo กับ Nissan จะบาดเจ็บปานกลาง ที่เหลือนอกจากนั้ ไม่เหลือซากสักคันเดียว
จะบอกว่า ทั้ง 4 รุ่นที่คุณเห็นกันนี้ คือการทดสอบ "ครั้งแรกของ Euro NCAP"
และจากการกำหนดมาตรฐาน ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการ คณะกรรมาธิการ
ด้านควมปลอดภัย ของหลายประเทศในสหภาพยุโรป จึงได้เกิด Euro NCAP
ขึ้นมา
ดังนั้น ทั้ง 4 คันนี้ ถือว่าเป็นรถยนต์ ยุคแรกๆ ที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบความปลอดภัย "ขั้นโหดสุด"
ในยุคสมัยนั้น จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ถ้าผลจะออกมาได้เพียงแค่นี้ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจครับ
ดูประวัติของ Euro NCAP ได้ที่
http://www.euroncap.com/history.aspx (http://www.euroncap.com/history.aspx)
-
C class น่ากลัวมาก
-
Nissan Maxima,Volvo 740, Honda Legend , Fiat Croma มาทดสอบการชนแบบครึ่งคันหน้าร่วมกัน
และในยุคนั้น มีเพียงแค่ MB กับ BM ที่ทำผลงานได้ดีกว่าเพื่อน แต่ก็ดีกว่ากันไม่มากนัก
Volvo กับ Nissan จะบาดเจ็บปานกลาง ที่เหลือนอกจากนั้ ไม่เหลือซากสักคันเดียว
แค่ชื่อก็ไม่น่าใช้แล้ว รถอะไร Croma
-
แสดงว่าสมัยนั้น เทคโนโลยีโครงสร้างรถส่วนใหญ่ ยังพัฒนาไม่ทันกับมาตรฐานสุดโหดของ EuroNCAP ใช่มั้ยครับพี่จิมฯ
นอกจาก S40 แล้ว ก็ยังมีคนอื่นๆ ที่พอจะมีผลการชนที่ดูได้ เช่น
Nissan Primera 3 ดาว
(http://euroncap.com/cache/file/2ddba7fd-00b9-4071-9def-e0ee90082bde/thumb__mediaplayerpreview.jpg)
แต่อย่าหวังว่าพรีมีร่าบ้านเราจะปลอดภัยเท่าเขา ขนาดเบรกเอบีเอสยังโดนตัดออกเลย :P
ส่วนรุ่นใหญ่ๆ หรูๆ ซึ่งอยู่ในยุค 97-98 อย่้าง Audi A6, MB W210, BMW E39 และ Volvo S70 ได้ผล 4 ดาวเท่ากันหมดครับ
-
Nissan Maxima,Volvo 740, Honda Legend , Fiat Croma มาทดสอบการชนแบบครึ่งคันหน้าร่วมกัน
และในยุคนั้น มีเพียงแค่ MB กับ BM ที่ทำผลงานได้ดีกว่าเพื่อน แต่ก็ดีกว่ากันไม่มากนัก
Volvo กับ Nissan จะบาดเจ็บปานกลาง ที่เหลือนอกจากนั้ ไม่เหลือซากสักคันเดียว
แค่ชื่อก็ไม่น่าใช้แล้ว รถอะไร Croma
ผมได้อ่านอันนั้นเหมือนกัน เขามีตรวจแรง G และ แรงกระแทกจากหุ่นทดสอบชน รวมถึงแรงที่ใช้ในการเปิดประตูเปรียบเทียบก่อนกับหลังชน ส่วน เฟียต C(r)oma นี่สมชื่อ เพราะรถยู่ราวกับทำจากกระดาษ ประตูไม่สามารถเปิดตามปกติได้ ต้องงัด
-
ใช้ c-class รุ่นนี้อยู่นะเนี่ยๆ 55
มีใคร หา jeep cherokee 1994 เจอไหมอะคับ สมัยนั้นมีทดสอบยังอะคับ ;D ;D
-
ผมว่าการทดสอบพวกนี้ น่าจะเป็นคนละประเด็นกับพวกที่อัดก้นกันเวลาขับจี้ๆ หรือเสยหน้ากันเวลาเปลี่ยนเลน ที่ความเร็วสักต่ำๆ อะไรแบบนั้นนะครับ
การทดสอบแบบนี้มันคือชนแบบชัดหนัก ซัดเข้าอย่างจัง ๆ จริงๆ ซึ่งผมว่า ความแข็งของเหล็ก ก็คือส่วนนึง แต่ดีไซน์ของโครงสร้างตัวถัง สำคัญที่สุด
ผทเคยเห็น ว่ามันมีการทดสอบแบบความเร็วต่ำๆ ประเภทเอารถมาวิ่งช้าๆเอื่อยๆ แล้วอัดเข้ากับกันชนของรถอีกคัน หรือกำแพง อะไรแบบนั้นก็มีเหมือนกัน
ที่บอกว่ารถญี่ปุ่นได้สี่ดาวห้าดาวสมัยนี้ ไปชนอะไรก็น่ากลัว ก็จริงส่วนนึงครับ มันพังแน่ๆ บางคันคานกันชนหลังเป็นโฟม คานกันชนหน้าอันเล็กๆแบบนั้น ชนความเร็วต่ำๆ ความเสียหายมันก็ดูน่ากลัวอยู่นะ แต่ถามว่า คนที่โดนชนน่ะ เป็นอะไรมั้ยล่ะ ?? ไม่นะ เพียงแค่อาจจะซ่อมเยอะกว่ารถยุโรป ดูแล้วปลอดภัยกว่า มันยุบเข้ามาน้อยกว่า อะไรก็ว่าไป ซึ่งผมว่าอีกนัยหนึ่ง ถ้าชนแบบมิดทั้งคัน ซากออกมาผมว่าน่าจะเน่าๆเละๆน่ากลัวพอกันแหละครับ หรือซากรถยุโรปอาจดูดีกว่าหน่อยด้วยความแข็งแรงของวัสดุที่เขาใช้ แต่คนโดนชน รอดชีวิตมั้ย ผมคิดว่า วัดดวง 50% ว่าจะโดนชนแบบไหน กับอีก 50% คืออยู่กับโครงสร้างตัวถัง ที่ออกแบบมาให้ดูดซับพลังงานระหว่างการชนครับ
แต่ที่แน่ๆคือ รถใหม่ๆ ปลอดภัยกว่า รถเก่าๆ แน่นอนน 8)
-
ยุคพวกนั้น รถที่บ้านผมยังไม่มีถุงลมเลย :'(
-
ถ้าเอาจริงๆ w201 w124 w140 ที่ผมดูคลิปมาจาก ยูทูบ
มันก็ไม่เลวร้ายเลยนิครับ ถือว่าแข็งแรงพอสมควร
ส่วนเรื่อง c-class นั้นที่ผมเคยได้ใช้ เบรกหายแล้วไปชนแท๊กซี่เอาติส
เอาติส กันชนงอ ตัวถังยับประมาณ 1/3 จากพื้นที่กระโปรงท้าย
ส่วนรถผม ฝากระโปรงดุ้งเล็กน้อย กันชนก็เลื่อนมาทางล้อหน้าหน่อยนึง
แต่ที่ผมสังเกตุก็คือ ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นอาจจะหม้่อน้ำแตก แต่เบนซ์ไม่
เพราะว่ามันมีกิ๊บล๊อคบนตัวหม้อน้ำ 2 ตัวที่สามารถกระเด้งออกในกรณีชนในระดับนึง
ปล.ที่แท๊กซี่ยับมากอาจจะเป็นเพราะเคยซ่อมท้ายมาแล้วก็ได้นะครับ
-
รู้สึกว่าาBMWจะแจกตอนมอเตอร์โชว์นะครับ จำปีไม่ได้แล้ว แต่จำภาพได้ว่าvolvo 740 มีโครงสร้างแข็งแรงฝากระโปรงงอเป็นรูปตัววีคว่ำ แต่หุ่นทดสอบไดรับแรงกระแทกมากไป ส่วนbenzแข็งแบบว่าสามารถรับแรงชนได้มากกว่านี้ แต่คะแนนBMW ดีสุด
ถ้าจำผิดก็ขออภัยนะครับ
-
Myth Busted :-[
-
ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกก่อนครับ
ว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบ ไม่ว่าจะกี่ดาวเป็นคะแนนความปลอดภัยที่รถคันนั้นได้จากการชนในสถานการณ์เดียวกัน
ดังนั้น ไม่เกี่ยวว่าจะญี่ปุ่น 5 ดาว ชนกับเยอรมัน 2 ดาว แล้วญี่ปุ่นจะเสียหายหนักกว่า ไม่ถูกต้องครับ
รถที่ได้คะแนนความปลอดภัยเยอะ วัดจากความปลอดภัยของผู้โดยสาร ไม่ใช่จากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ
อุบัติเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิต อย่างที่ผมเคยเล่าไป
มันไม่ใช่เกิดจากการชนครั้งแรก แต่มันเกิดจากการชนครั้งที่สองเป็นส่วนใหญ่
คือรถชนอะไรเข้าไปแล้ว ต่อมาตัวคนในรถถูกอัดเข้ากับอุปกรณ์ต่างต่างบนรถอีกที
รถที่ได้ดาวน้อยจากการทดสอบ ก็คือพวงมาลัยดันเข้ามาอัดกับคนขับ
แป้นเหยียบต่างต่าง พุ่งขึ้นมาอัดขาคนขับจนแหลกละเอียด
เบาะนั่งหลุดออกจากตำแหน่งเดิม และพาให้คนโผล่ออกไปนอกรถ
หรือโครงสร้างที่ยับเข้ามาถึงห้องโดยสารจนเสียรูปมาก และทำให้คนบาดเจ็บ
แต่นั่นเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้น
ในทางกลับกันหากเป็นรถที่แข็งมาก แต่ไม่ได้ออกแบบไม่ดูดซับแรงกระแทก
กล่าวคือ เอาเหล็กหนาและแข็งเข้าว่า ส่งแรงกระแทกทั้งหมดมาที่ตัวผู้โดยสารเต็มเต็ม
ถึงตัวรถจะไม่ยุบ แต่ผู้โดยสารถูกอัดเข้ากับพวงมาลัย หัวกระแทกกระจก ฯลฯ
คะแนนความปลอดภัยก็ได้ต่ำไม่แพ้กันครับ
รถสมัยใหม่เน้นให้ตัวรถและโครงสร้างทางด้านหน้าและหลัง ดูดซับแรงกระแทกจากการชนให้มากที่สุด
ซึ่งก็คือการใช้พลังงานไปกับการพับเหล็กตัวถังจะย่นและงอ แต่สร้างห้องโดยสารให้แข็งแกร่งที่สุด
หรือหากเป็นรถเล็ก ก็จะส่งแรงทั้งหมดผ่านไปครึ่งคันหน้า/หลังตามแต่สถานการณ์ ด้วยคานในประตูและคานทั้งหลาย
ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความกระทบกระเทือนมาก จากการชนครั้งที่สอง นั่นเอง
ดังนั้น ไม่ใช่ว่ารถที่ได้ 5 ดาว แต่ยุบเยอะเลยไม่กล้าใช้ แต่เลือกขับรถ 2 ดาว ที่ยุบน้อยแทน
แบบนี้ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากกว่านะครับ
-
ครับ
เน้นย้ำ
ดูผลพวกนี้ อย่าดูความเสียหายของตัวถังเป็นหลัก
แต่ให้ดูผลกระทบที่เกิดกับหุ่นที่นั่งในรถเป็นหลักครับ
-
ที่ทางคุณ Jimmy บอกเอาไว้ เคยมีเป็นหนังสือหน้าปกแดงๆ ผมได้อ่านตั้งแต่มัธยม
ในนั้นบอกรายละเอียดไว้ค่อนข้างดี และเข้าใจง่าย ผลทดสอบก็ออกมาเป็นอย่างที่ Jimmy ว่าเอาไว้
ห้องโดยสารของ MB กับ BMW ยังมีการยุบให้เห็นบ้างบริเวณที่วางเท้า
แต่ของ Volvo แทบไม่มีการยุบเลย แต่คนขับได้รับแรงกระแทกมากพอสมควรจากพวงมาลัย
ส่วน Honda Legend กับ Fiat Croma ยับเป็นกล่องกระดาษกันเลยทีเดียว
ปี 1997 มันก็ตั้ง 14 ปีมาแล้ว อะไรๆ มันก็ต้องพัฒนาขึ้นตามกาลเวลา
แต่ผมก็ยังยอมรับในรถกลุ่มที่ จขกท ยกตัวอย่างมานะ
เพราะผมไม่ค่อยชอบรถสมัยนี้ ที่สะกิดอะไรนิดหน่อย ก็หลุดร่วงแล้ว
-
พี่ Nuay ตอบได้ชัดเจนมากๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยครับ^^
ทุกวันนี้ก็ยังมีคนคิดว่าเอาตัวรถแข็งๆเข้าว่าไว้ก่อนอยู่ดี ประมาณว่ารถดูดีแต่คนนั่งเยินไปแล้ว - -
-
FIAT รุ่นนั้นไม่อยากพูดถึง ครับ...เพราะเป็นรุ่นที่สร้างความอัปยศให้กับเฟียตกรุ๊ป
และเป็นรุ่นที่เริ่มเข้าสู่ยุคอัสดงของเฟียต ???
-
นอกจากความเสียหายของตัวรถแล้ว เอาแผนภาพความเสียหายของร่างกายผู้โดยสารมาฝากต่อครับ
-
ต่อครับ ดูแล้วกันว่าการยุบย่นตัวถังของรถเหล่านี้ จะช่วยผู้โดยสารให้บาดเจ็บน้อยลงหรือไม่ :'(
-
เห็นด้วยกับคุณเนยทุกประการครับ
ปล คนที่บอกว่ารถตัวเองแข็งๆ ดาวน้อยไม่สน ขับชนแแล้ว ไม่เป็นไรก็คงมีโอกาสมาเล่า
แต่คนที่ชนแล้วเท่งทึง คงไม่ได้มาเล่าแฮะ
จะเชื่อพวกวิศวกร เชื่อผลการทดลอง หรือเชื่อตัวเองดีน้อ ???
-
ดูแล้วนึกถึงคลิปนี้ของรายการ 5th Gear เลยครับ
Fifth Gear - Renault Modus v Volvo 940 Crash Test (http://www.youtube.com/watch?v=qBDyeWofcLY#)
รถยุโรปยุคนั้นสอบตกกับการชนแบบเยื้อง (overlap) กันระนาวครับ หลังจากนั้นเพียงแว้บเดียว ก็พากันผ่านเกณฑ์กันหมดครับ
ปล. แต่รถยุโรปแข็งจริงๆ นะ ถ้ามาชนกับรถญี่ปุ่นอะ
-
ไม่ขับรถเร็วเกิน110ละกันนะครับ
-
ถ้าชนผมว่ามันคงฟันธงไม่ได้
แต่ถ้าคว่ำ ผมเคยเห็นวีออสคว่ำ
วีโก้คว่ำมาก็เยอะ(พูดว่าหงายท้องน่าจะดีกว่า)
โครงสร้างตัวถัง ไม่ยุบครับ
-
ผมเคยได้ยินรถยุโรปโครงแข็งๆนี้แหละครับชนเสาไฟฟ้า รถไม่เป็นอะไรมาก ยุบนิดหน่อย แต่คนขับคอหัก
จริงหรือไม่จริงผมก็ไม่รู้นะ
-
เคยรื้อรถญี่ปุ่นออกมาดู และได้มีโอกาสรื้อรถยุโรปเช่นเดียวกัน ผมไม่เคยเชื่อผลการทดสอบครับ
จนถึงวันนี้ผมรื้อรถยุโรปยุคก่อนปี2000 กับรื้อรถญี่ปุ่นหลังปี2000 ผมก็ยังเชื่อใจรถยุโรปมากกว่าครับ
ไม่มีเหตุผลมาซัพพอตครับ เอาเป็นว่าในรถยุโรปยุคช่วงปี95-97 นี่ผมได้ลองเต็มๆหน้ามาหลายๆคัน
แล้วผมก็ยังเชื่อใจเค้าอยู่ครับ แต่ส่วนตัวผมคงคิดว่าผมบาปหนามากกว่า ยมบาลเลยยังไม่เอาตัวไปครับ
-
^
^
ความเห็นตรงใจผมเลย ผลการชนออกมาจะสวนทางกับความรู้สึกและประสบการณ์มากๆ
ยังไงถ้าให้เลือกนั่งระหว่างเบนซ์ W202 กับอัลติสใหม่ ผมยังเลือกเบนซ์มากกว่าอยู่ดี
-
^
^
ความเห็นตรงใจผมเลย ผลการชนออกมาจะสวนทางกับความรู้สึกและประสบการณ์มากๆ
ยังไงถ้าให้เลือกนั่งระหว่างเบนซ์ W202 กับอัลติสใหม่ ผมยังเลือกเบนซ์มากกว่าอยู่ดี
เคยเข้าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เขาบอกว่า อย่าได้เชื่อคำเล่า
จนกว่าจะมีผลการทดลอง(เอง)ครับ ซึ่งถ้าจะทำเอง คงต้องมั่นใจ
-
เคยเอาสามแฉกไปฟาดสามแฉกด้วยกันแล้วก็ไปฟาดลีโมอีกคัน ผมไม่มีคำตอบให้สมาชิกแล้วกัน เอาเป็นว่า
คำตอบมันอยู่ในใจผมเองว่าผม เชื่อใจรถญีปุ่นหรือยุโรปมากกว่ากัน สมัยก่อนถนนพระราม2 แถวศาลเจ้าแมงูจงอาง
ถนนเส้นนี้เขาว่ามีอาถถนพ์ แต่จริงๆแล้วผมว่า ลักษณะของถนนมากกว่าที่ทำให้ฝนตกทีไรรถลงคูประจำ
ผมเห็นก้อนสมอง กองบนถนนพระราม2ไม่ต่ำกว่า 10ครั้ง โดยเฉพาะไมตี้เอ๊กซ์ เบรคLSPV ล้อหลังชอบล๊อค
รุ่นนี้ขาประจำถนนพระราม2 ฝนตกลงข้างทาง หน้ายู่เละตลอด มีครั้งนึงรถไปชนเอากับยางล้อหลังรถเมล์
เจ้าของรถบอกรถเด้งลงคูเองเลย ฮามากๆๆอันนี้ รถใหม่ๆเลย
-
ผมคงซื้อเท่าที่ตังต์อำนวยละนะครับ
ยุบน้อย ซ่อมน้อย ถ้าชนเบา แต่ชนแรงอาจจะตายได้
มันต้องเลือกครับ ว่าจะเอารถรับแรงกระแทก หรือเอาคนรับแรงกระแทก
-
อืมคนที่มองว่าถ้ารถปลอดภัย ไงๆตัวเราก็คงปลอดภัยด้วย ก็ยังมีอยู่เยอะแฮะ
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า หลายคนที่บอกว่ารถยุโรปเก่าๆแข็ง ส่วนมากคือชนเบาๆ มันก็เลยไม่เสียหายอะไรนัก ขณะี่ที่คนขับรถยุโรปเก่าๆที่ชนแรงๆ ไม่มีชีวิตรอดมาเล่า อาจจะเหลือรถไว้ให้ดูว่ารถแข็งดี เสียหายไ่ม่มาก (แต่คนขับไปแล้ว)
ก่อนหน้านี้มีคนลง LancerEX กลิ้งลงข้างทางสิบตลบ รถเละ แต่คนแค่หัวปูด เป็นผมก็เลือกรถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ มากกว่ารถยุโรปรุ่นเก่าแน่ๆ เพราะกลัวจะไม่ได้ลงมาดูสภาพรถ *-* (แต่ก็แน่นอน รถยุโรปรุ่นใหม่ดีสุด >_<)
งงๆว่า เหมือนกลุ่มนึงจะเน้นว่ารถแข็ง(คนเป็นไงไม่รู้) กับอีกกลุ่ม รถซับแรงดี คนรอด(รถเป็นไงไ่่ม่รู้) เหมือนจะคุยกันคนละเรื่องแฮะ
-
เคยรื้อรถญี่ปุ่นออกมาดู และได้มีโอกาสรื้อรถยุโรปเช่นเดียวกัน ผมไม่เคยเชื่อผลการทดสอบครับ
จนถึงวันนี้ผมรื้อรถยุโรปยุคก่อนปี2000 กับรื้อรถญี่ปุ่นหลังปี2000 ผมก็ยังเชื่อใจรถยุโรปมากกว่าครับ
ไม่มีเหตุผลมาซัพพอตครับ เอาเป็นว่าในรถยุโรปยุคช่วงปี95-97 นี่ผมได้ลองเต็มๆหน้ามาหลายๆคัน
แล้วผมก็ยังเชื่อใจเค้าอยู่ครับ แต่ส่วนตัวผมคงคิดว่าผมบาปหนามากกว่า ยมบาลเลยยังไม่เอาตัวไปครับ
+1 เพราะชอบไปดูอู่ซ่อมประจำ รื้อกันชน รื้อชิ้นส่วน Body ออกมาก็รู้แล้วครับ ว่ารถคันไหนแข็งกว่ากัน ยิ่งรื้อยิ่งน่าตกใจ
แล้วอีกอย่างผู้ผลิตที่มีแนวคิดมุ่งแต่จะลด Cost ผมมองว่ายังไงๆก็ทำรถออกมาไม่ปลอดภัยเท่าผู้ผลิตที่คิดถึงเรื่องคุณภาพครับ
-
เพิ่งนึกได้ว่าในกลุ่มที่มีfiat croma ตอนนั้น auto moter and sport เป็นผู้ทดสอบ สมัยนั้นยังใช้ความเร็วแค่56กม/ชม
หลายคันยังแหลกได้ขนาดนั้น ถ้าเป็น64 อย่างวันนี้คงยิ่งยับกว่านี้แน่