Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: J!MMY ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2011, 14:38:36
-
Full Review เสร็จแล้วครับ
เชิญอ่านได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2359:-mitsubishi-pajero-sport-25-vg-turbo-2wd-a-4wd&catid=75:midsize-suv&Itemid=94 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2359:-mitsubishi-pajero-sport-25-vg-turbo-2wd-a-4wd&catid=75:midsize-suv&Itemid=94)
คลิป วีดีโอ โดย Commander CHENG จะตามออกมา หลังจากนี้
และขอแนะนำให้รอดู คลิปจะค่อนข้างฮาตามเคย
-
เย้ มาแล้ว ที่ 1 ;D
-
อิอิ
-
ขอบคุณครับ ไปดูก่อนเดียวมาแสดงความคิดเห็น
ส่วนตัว ที่บ้านซื้อมาใช้ได้ 5 วันแล้ว ดีกว่า ฟอจูนนะผมว่า
-
อ่านจบแล้วครับผม ขอบคุณคร๊าบ
-
อ่านจบแล้วครับผม ขอบคุณคร๊าบ
หา! อ่านจบแล้วเหรอ!!
คนเขียนนั่งเขียน ตั้งแต่วันที่ 18 ถึงวันนี้ ตอน บ่าย 3 20
คนอ่าน ใช้เวลา 10 นาที!!!
แสดงว่า รีวิวนี้ สั้นใช่ไหมๆๆๆๆๆๆ
-
มาลงชื่อก่อนครับ เดี๋ยวจะเข้าไปอ่าน
-
ดังนั้น การที่ยอดขายจะแซงขึ้นมาได้นั้น น่าจะ
มีเหตุผล 2 อย่างด้วยกัน ข้อแรกคือ Toyota อาจจะมีการผลิตและส่งมอบ Fortuner น้อยกว่าปกติ
ส่วข้อที่ 2 ก็คือ Mitsubishi เพิ่งจะเปิดตัว Pajero Sport เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 VG Turbo กันตั้งแต่
13 มีนาคม 2011 ที่ผ่านมา ปริมาณรถล็อตแรกที่ปล่อยเข้าโชว์รูมทั่วประเทศ ก็ต้องเยอะกว่าปกติ
ดังนั้นตัวเลขจึงพุ่งขึ้นมามากกว่าปกติอย่างที่เห็น
13 มีนาคม 2011 หรอครับพี่...??? มกราหรือเปล่าครับ
ผมไม่แน่ใจ แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะมกรานะครบพี่... อีกอย่าง 13 มีนามันยังมาไม่ถึงเลยง่ะ.....
-
ขอบคุณนะครับสำหรับรีวิวดีมากๆเลยครับ
แต่ขอสอบถามนิดนึงครับ แล้ว ISUZU MU7 ไม่ใช่รถประเภท PPV หรอครับ เห็นไม่มีเอามาเปรียบเทียบในรีวิวเลย ;D
-
J!MMY ลองเช็คเรื่องค่าภาษีประจำปีอีกทีนะ
คิดว่ารถคันนี้จดทะเบียนในนามนิติบุคคล (MMC) ก็เลยแพงเป็นสองเท่านะ
ถ้าซื้อและจดทะเบียนในนามบุคคลธรรมดาอย่างเราๆ น่าจะตกราวๆ สี่พันกว่าบาทน่ะ ลองเช็คข้อมูลดู
-
พี่จิมมี่ครับภาษีประจำปีเครื่อง 2,500 ประมาณสี่พันกว่าบาทครับพี่ เจ้า G8 2.4 ผมก็จ่ายราวๆนี้แหละ แต่เจ้าโคโลราโด้ 3.0 ผมเสียปีละ 6900 บาทครับ
-
ขอบคุณคับ
-
ขอบคุณครับ
-
มาลงชื่อไว้ก่อนครับ เดี๋ยวไปให้อาหารหมูก่อนแล้วกลับมาอ่าน
-
J!MMY ลองเช็คเรื่องค่าภาษีประจำปีอีกทีนะ
คิดว่ารถคันนี้จดทะเบียนในนามนิติบุคคล (MMC) ก็เลยแพงเป็นสองเท่านะ
ถ้าซื้อและจดทะเบียนในนามบุคคลธรรมดาอย่างเราๆ น่าจะตกราวๆ สี่พันกว่าบาทน่ะ ลองเช็คข้อมูลดู
จะเข้ามาพูดเรื่องนี้พอดีเลย ผมเห็นวันออกรถ เขาเขียนไว้ 6,XXX บาท นี้น่า ปีที่สองน่าจะ เหลือ 4,xxx บาท อะ
อ่านยังไม่จบ แต่เว้นลงมาอ่านด้านล่างก่อน ยาวมากๆๆ
คุณจิมมี ไม่มีคลิบหรอครับ ชอบตอนทดสอบ
-
อ่านจบละครับ ตกลงผมเอา pjs. นี่แหละ แจ่ม
แต่ในโหมดขับสองล้อ.
เกียร5speedในตัว4WD หรือ4speedใยตัว2WD ทำงานได้ดีกว่าโดยรวมอ่ะครับ
-
เอ่อ.... มันซดใช้ได้เลยน่ะนั่น!!!
ว่าแต่ ปกติ ผมใช้ triton plus เกีบร์ธรรมดา ก็ไม่เคยทำได้ถึง 13 กม/ลิตร เลยสักที - -
-
พี่จิมมีครับ Ford วิ่งได้ถึง 199 เลยหรอครับ แรงมาก ๆ
-
everest มันล็อกความเร็วที่160 ครับ ตัวเลขในตารางนั้นถ้าผมจำไม่ผิดนะ น่าจะเป็นของ honda civic 1.8 ครับ
ปล.อ่านเสร็จแล้วครับ ใช้เวลาอ่านไปกว่า 20 นาที ;D อยากให้ดีลเลอร์มิตซูมาอ่านประโยคสุดท้ายของรีวิวจังเลย จะได้ไปปรับปรุงตัวเอง และยอดขายจะได้เพิ่มขึ้นอย่างเค้าบ้างนะ ???
-
ขอบคุณครับ อ่านจบแล้ว ;D
-
อ่านจบแล้วครับ เดี๋ยวต้องเอารายละเอียดไปบอกป้าผมซะละ
เพราะยังไงคงได้ซื้อแน่ๆครับ :)
-
ขอบคุณคร้าบพี่จิมมี่ รถดีจริงๆนะเนี่ย
-
ผมนึกว่าทุกรุ่นได้ใช้เกียร์ 5 สปีดซะอีก ปรากฏว่าเฉพาะ 4WD หรอกเหรอ
แต่ยังไงก็กินน้ำมันดุน่าดูนะครับ พอๆ กับ TR Grand Adventure 3.0 เกียร์ออโต้ คันเก่าของบ้านผมเลย
-
อ่านเพลินดีครับ แต่บางช่วงเนื้อหน้าแน่นไปหน่อยครับ แอบข้ามบางช่วงครับ
อ่านแล้วเกิดคำถามในใจ มันดีอย่างนั้นจริงๆเหรอ เพราะเอาเข้าจริงเคยนั่งแต่ CRV รุ่นก่อนปัจจุบัน
ก็นั่งสบายระดับนึง รถบนพื้นฐานกระบะ เบาะแถวสองจะดีกว่ารถบนพื้นฐานรถเก๋งครับ
แต่เท่าที่ไปมุดๆดูช่วงล่างก็น่าจะเป็นไปได้ ทำมาดีจริงๆครับ
เครื่องเสียงนี่ดีที่สุดในกลุ่ม!
เห็นเอ่ยถึง Joe Hisaishi เพราะดีที่เดียวครับ แต่ไมรูปในรถ กล่องซีดีดันกลายเป็น Singular ไปได้ครับ
;D ;D ;D
เห็นแนวทางการปรับปรุงรถแล้ว ก็หวังเล็กๆว่ารถเก๋งรุ่นต่อไป จะไปแนวทาง Pajero Sport บ้างครับ
ติดเทอร์โบและมีขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ก็ได้แต่ฝันครับ
Joe Hisaishi Live - Summer ( from Kikujiro ) (http://www.youtube.com/watch?v=qEb4TG10jW8#ws)
-
ขอบคุณครับ อ่านไปได้แค่จั่วหัวเรื่อง แต่ต้องออกไปข้างนอก เดี๋ยวเย็นนี้จะกลับมาลุยให้จบครับ ;D
ทำไมหนังสือเรียนไม่ขยันเท่านี้นะ
-
อ่านแล้วอยากเปลี่ยนเจ้า fortuner ที่บ้านแล้วละซิ
โดยเฉพาะช่วงล่าง ตอนนี้ชักเริ่มไม่ไหวยิ่งถนนปูนแล้ว หัวนี้แกว่งยังกะตุ๊กตาญี่ปุ่นหน้ารถเลย
แต่ยังผ่อนไม่หมดเลยเหลืออีกปีนึง
-
พี่จิมครับ แก้ตรงที่ 13 มีนาคม 2011 ตัว 2.5 มันเปอดตัววันที่ 13 มกราคม ไม่ใช่เหรอครับ (มีนาคมยังไม่มาถึงเลย!)
สำหรับ Pajero Sport 2.5 VG Turbo นั้น ผมว่ากลุ่มลูกค้าของรถรุ่นนี้คือ"คุณพ่อเฟี๊ยวเงาะ"!!
-
ขอบคุณครับบ บบ
-
ผมว่ามีหลายจุดที่ต้องแก้เยละ ขอจัดการให้สักครู่นะครับ
ส่วนคลิป ผมก็ได้เขีนบอกไปแล้วในกระทู้นี้ หน้าแรกว่า กำลังจะตามมาครับ แต่อาจจะไม่ใช่วันนี้
น่าจะเป็นสัปดาห์หน้าขึ้นไป เพราะตอนี้ ตาแพน งานยุ่งครับ โปรดเห็นใจด้วย
-
อ่านได้นิดเดียวเอง
ไว้วันพุธกลับจากเขาชนไก่ก่อน(กำลังเตรียมของไปค่าย รด) ;D
-
ขอบคุณครับ น่าใช้ดีจัง แต่บ้านผมก็มี น้องจูนคันนึง กระเด้ง กระดอน นิดนึง เปลี่ยนยางก็ดีขึ้นบ้าง แถมช่วงล่าง อะนะ แต่โดยรวมมันก็ใช้ดีๆ ถ้ารู้ลิมิตรถ อ่านรีวิวแล้ว อยากขับ PS จัง
-
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิวยังละเอียดเหมือนเดิม ถ้ามีรุ่นที่ผมถูกใจคงต้อง Print ไปอ่าน
แน่ๆ
-
พี่จิมมี่ครับภาษีประจำปีเครื่อง 2,500 ประมาณสี่พันกว่าบาทครับพี่ เจ้า G8 2.4 ผมก็จ่ายราวๆนี้แหละ แต่เจ้าโคโลราโด้ 3.0 ผมเสียปีละ 6900 บาทครับ
มาช่วยเพิ่มเครื่องเดิม 3,200 CC ภาษี 7,700 บาทเป๊ะ
-
ขอบคุณมากครับพี่จิมมี่ อ่านจบแล้วครับเป็นรถที่น่าใช้มากเลยครับ :D
-
โอเค แก้ไขให้หมดเรียบร้อยแล้วนะครับ ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ
-
ปลดดีลเลอร์!!!!!!!!!!!!!!!!!!
-
ขอบพระคุณครับ ;D
-
น่าสนใจนะ แต่มันไม่ค่อยประหยัดเลยอ่า
-
ขอบคุณครับ แสดงว่าแรงจัดประหยัดจริง จริงๆไม่มีสิ T_T
-
คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆครับ ขอบคุณมากๆครับพี่จิมมี่
-
มาขอบคุณก่อนอ่านครับ
-
ที่ทำงาน 8 คัน(ของเจ้านาย) เครื่อง 3.2 เคยลองขับทางไกลครั้งเดียว ชอบมากๆเลยครับ ทัศนวิสัยดีมาก ได้ลองกับ MU-7 VGS ช่วงสั้นๆ อุดร-สกล(เพราะขับให้นาย) ก็ตามไล่ทันได้ตลอด ถ้ามีตังค์ก็น่าลองทีเดียวครับ ตัว 2.5 ท่าจะขับสนุกกว่าตัว 3.2 อีกแฮะ ว่าแต่น่าจะมีเทียบกับ Mu-7 ด้วยน่ะครับ
ปลายปียังไงคงลงเอยที่ Vigo BMC หล่ะครับ ;D ;D มาซะทีเถ้อะพ่อคู้น >:( >:(
-
เรื่องกินน้ำมัน กับเรื่องแรง ผมว่าไม่เกี่ยวกันมากขนาดนั้น
ถ้ารถบ้านเบนซิน เปลี่ยนแคม เปลี่ยนสปริงวาล์วแข็งๆ ความฝืดในเครื่องเพิ่ม กินน้ำมันเพิ่ม ไม่แปลก
แต่กับรถที่พื้นฐานเครื่องเหมือนเดิมเกือบทั้งหมด แต่เปลี่ยนเทอร์โบและปรับการจ่ายน้ำมัน
แท้จริงแล้วไม่ควรกินน้ำมันเพิ่มขึ้น อาจจะต่างกัน 4-5% ได้ แต่ 15-20% นั้น UNACCEPTABLE!
ก็ต้องไปดูต้นเหตุ การจ่ายน้ำมันที่รอบเครื่องและโหลดต่างๆเทียบกับรุ่นเดิม
รวมถึงอัตราการทำลมที่ความเร็วรอบต่างๆด้วย บางครั้งเวลาเทอร์โบหมุนสะดวกติดบูสท์ได้ง่ายๆ
มันใช้ไอเสียไม่ต้องมากเพื่อการปั่นใบ เวลาวิ่งที่ความเร็วเริ่มสูง เครื่องมีการติดบูสท์นิดๆอยู่ตลอด
ทำให้เปลืองน้ำมันได้เช่นกัน แต่ไม่น่าจะใช่กรณีของ 2.5VGT ที่เวลากระทืบเต็มออกตัว
บูสท์มาให้ใช้ช้าเหลือเกิน
เช่นเคย ..ผมไม่อยากให้มีใครมองว่ารถแรงม้าเยอะก็ต้องกินเยอะ ไม่เกี่ยวกันเสมอไป
แรงม้าวัดตอนกระทืบเต็ม แต่ความประหยัดวัดตอนกดคันเร่งเลียๆ เป็นคนละเรื่องกัน
อาจเกี่ยวกันบ้างในบางครั้งก็เท่านั้น
ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อมองข้ามเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ ผมว่าดีสมกับราคา
ซึ่งราคาของตัวรถนั้นก็ไม่ได้สูงอะไร ช่วงล่าง ใครบอกว่ามันเหมือนรถกระบะ แสดงว่าไม่เคยขับ
ถ้าเคยขับให้ถามว่า CR-V กับ Pajero Sport ใครนุ่มกว่า ถ้าตอบว่า CR-V ก็เดินให้ห่างมันเลย
เพราะผมนี่ล่ะใช้ CR-V อยู่ และวันที่ขับ Pajero Sport ตัวขับสอง ผมลงทุนขับมันมาเพื่อเจอะ
กับจิมมี่ แล้วย้ายตูดไปนั่ง Mitsu ในทันที เพื่อให้รับทราบความแตกต่างได้อย่างชัดเจนที่สุด
พอขับเสร็จ ก็กลับมาขับรถ Honda กลับบ้าน แล้วก็พอสรุปได้ดังนี้
1. Mitsubishi ยังไงก็นั่งนุ่มสบายกว่าเล็กน้อยสำหรับด้านหน้า แต่ด้านหลัง Honda จะดีดดิ้นกว่า
เวลาผ่านเนินคุมตัวยากกว่า
2. ความมั่นคงที่ความเร็ว 140-160 พอๆกัน แต่เวลาเข้าโค้ง Mitsubishi รักษาอาการได้ดีกว่า
3. อุปกรณ์ภายใน เดี๋ยวนี้ใกล้เคียงกันมาก แต่เครื่องเสียง Mitsubishi เสียงดี แต่ใช้ยากกว่ามาก
4. ความคล่องตัวในการขับขี่ Mitsubishi แพ้ Honda พ่อผมแบบ..ไกลมาก รถหนัก รอบูสท์ และเกียร์
ก็ยังไม่ฉลาดนัก ต่างจาก Honda ที่เวลาขับในเมือง เกียร์จะแสนรู้มาก ทำงานได้เร็วและประทับใจ
เครื่อง 2.4 เบนซิน กดตรงไหนก็พุ่ง สมแล้วที่เป็น SUV ชะนีเมืองที่ได้รับความนิยม
5. พวงมาลัยน้ำหนักดีทั้งคู่ แต่ Honda มีความไวที่ทำให้ขับสนุกกว่า ส่วน Mitsubishi จะค่อนไปทาง
ยาว ยืด เฉื่อย ต้องหมุนมากกว่าจะเลี้ยวได้ตามต้องการ
6. อัตราการสิ้นเปลือง..ให้ตายเหอะขนาดซื้อ CR-V 2.4 ตัวขับหน้า ขับเลี้ยงแทบตายก็ไม่ได้ดี
ไปกว่า Mitsubishi ตามที่จิมมี่บอกเท่าไหร่เลย
แต่มาดูราคาที่จ่ายเงินซื้อ..Honda พ่อผมจ่ายไป 1.424 ล้าน ในขณะที่ Pajero Sport ขับเคลื่อนสองล้อ
ราคา 1.142 ล้าน...ต่างกันเกือบๆ 300,000 บาทนะ คิดว่า 300,000 ตรงนั้นชดเชยเรื่องพวงมาลัย
เฉื่อยๆ อัตราเร่งออกตัวรอบต่ำๆที่ชักช้า กับศูนย์บริการซึ่งตามที่นายผมบอก เข้ามา 3 ที่ ไม่มีที่ไหน
มีมาตรฐานที่สามารถสู้ Honda ได้สักที่หรือเปล่า
ก็อาจจะ..
-
เรื่องเครื่องเสียงนี่ ถ้าใครเป็นแฟนตัวยง Alpine อยู่แล้วล่ะ สบายเลย
ใช้งานง่ายสะดวกสุดสุด แต่ถ้าไม่เคยเจอกันมาก่อน แนะนำให้นั่งอ่านคู่มือนะคร้าบ
อ่านแล้วก็กระตุ้นอารมณ์อยากได้ SUV ขึ้นมาอีกแล้ว
ปัญหาคือ ถ้าจะซื้อ Pajero Sport ต้องจ่ายเงินตั้งเกือบ 5 ล้านแน่ะ..ไม่มีตังค์
-
ยิ่งอ่านรีวิวเข้าไปยิ่งเหมือนถูกกระตุ้นต่อมอยาก ยังไงจะขอไปดู New Ranger ใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ก่อน ไม่รู้ว่าเค้าจะให้ดูภายในป่าว
ถ้า Ranger ไม่โอ อาจไม่ต้องต้องรถ New Everest แล้วแหล่ะ เพราะพวกลูกหมามันโตขึ้นทุกวันจนแทบจะเอาในรถเก๋งไปไหนไม่ได้แล้ว
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิวดีๆ
ปล. ลาบาดอร์นี่มันกินจุโตไวน่ากลัวจริงๆ
-
อ่านจบแล้ว ขอบคุณคร๊าบพี่จิม
อยากบอกว่าชอบเบาะแถวสองรุ่นนี้นะ เวลาปรับเอนแล้วมันรับสรีระมากกว่าfortunerอีก
ปล.ตอนนี้Fortuner ที่บ้านกินสาหัสมาก แต่ก่อนยัง11.1 ไปๆมาๆ ตอนนี้กลายเป็น 8.6 อ๊ากก !
-
ขอบคุณครับ ไปลองมาแล้ว สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือการได้เพดเดิ้ลชิฟในรุ่น 4WD GT ครับ ขับสนุกขึ้นมาก
-
ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกครับพี่จิมมี่ ;D
ได้ข่าวว่ารีวิวจะมาช่วงนี้ แถมพรุ่งนี้จะสอบเช้า ว่าจะสอบก่อน เย็นๆ แล้วค่อยมาอ่าน
แต่ขออภัยอดใจไม่ไหว อ่านจบแล้วครับ 5555555555555555555555+ จะตื่นไหวมั้ยเนี่ย
ตลกพี่แพนอ่ะ เข้าใจเปรียบเทียบได้ดีจัง เห็นภาพเลย
เข้าทำนองได้อย่างเสียอย่าง แต่ผมเชื่อว่าหลายคน(รึเปล่า) อาจไม่แคร์ เพราะมันก็โออ่ะน่ะ ผมว่า
วันนี้ก็พึ่งเห็นสีเดียวกะตัวที่โฆษณา ดูดีเลย
ปล. มีคำถามครับ ปุ่มกดบนพวงมาลัย ที่ไปอยู่ด้านขวา การใช้งาน โอเคไหม๊ครับ มันสะดวกหรือปล่าว แทนที่จะอยู่ซ้าย หรือผมคิดมาก?
-
ขอบคุณครับ แต่เรื่องกินน้ำมันในยุคที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นบ่อยๆนี่...คงคิดหนัก
-
อ่านจบแล้วครับอยากให้มีรีวิวไทรทันจังเลย400Nm
-
มาลงชื่ออ่านจบด้วยคนครับ
ยังมีคำผิด พิมพ์ตกหล่นอยู่หลายจุดเหมือนกันนะครับ
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆ แบบนี้ครับ
อ่านจบ เจออัตรากินน้ำมันเข้าไป ผบ.สั่งเบรคทันที บอกให้คอยดู new everest ก่อน
คอยยาวเลยทีนี้
:-\
ปล. ผบ.ผมฝากถามถึงคุณจิมมี่ครับ
มีโอกาสจะได้เห็น ปาเจโร่ เครื่องเบนซินหรือไม่ครับ
เราใช้รถเดินทางไกลกลับบ้านเยอะครับ ใช้รถปีนึง 6-7 หมื่น กม.ได้ครับ
-
เสียดายว่าไม่ได้ทดสอบเติม V Power Diesel นะครับ เพราะจากการใช้งานเทียบกันระหว่าง V Power Diesel กับ B5 ในเส้นทางเดิมๆและสันดานในการขับรถเดิมๆของผมในทุกๆวันจาก กทมไปกลับนครปฐม ผมจะพบเสมอๆว่า V power Diesel จะให้ระยะทางที่มากกว่า B5 เสมอ แต่ราคาที่แตกต่างกันถึง 3บาทกว่าๆ /ลิตร ทำให้พบว่า ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยังไม่คุ้มค่าเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดว่าความกระชับ ขับสนุก เร่งตามเท้าได้ดีกว่า เป็นความคุ้มค่าหละก้อ อันนี้เห็นด้วยครับ
-
อ่านจบแล้ว ขอบคุณคร๊าบพี่จิม
อยากบอกว่าชอบเบาะแถวสองรุ่นนี้นะ เวลาปรับเอนแล้วมันรับสรีระมากกว่าfortunerอีก
ปล.ตอนนี้Fortuner ที่บ้านกินสาหัสมาก แต่ก่อนยัง11.1 ไปๆมาๆ ตอนนี้กลายเป็น 8.6 อ๊ากก !
ยังดีกว่ารถผมครับ มาสด้า323f 1.8 กิน 7-8 โลลิตร ครับ
-
เสียดายว่าไม่ได้ทดสอบเติม V Power Diesel นะครับ เพราะจากการใช้งานเทียบกันระหว่าง V Power Diesel กับ B5 ในเส้นทางเดิมๆและสันดานในการขับรถเดิมๆของผมในทุกๆวันจาก กทมไปกลับนครปฐม ผมจะพบเสมอๆว่า V power Diesel จะให้ระยะทางที่มากกว่า B5 เสมอ แต่ราคาที่แตกต่างกันถึง 3บาทกว่าๆ /ลิตร ทำให้พบว่า ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยังไม่คุ้มค่าเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดว่าความกระชับ ขับสนุก เร่งตามเท้าได้ดีกว่า เป็นความคุ้มค่าหละก้อ อันนี้เห็นด้วยครับ
ผมเติม V-Power Diesel B5 ในรถทดสอบที่ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล ช่วง 2 ปีมานี้ตลอดครับ
ผมเขียนเอาไว้ในรีวิวแล้วด้วยซ้ำ โปรดอ่านดีๆครับ ย้ำในบทความไป 2-3 รอบด้วยซ้ำ หัวจ่าย V-Power Diesel B5 หนะ สีฟ้า เสมอ ครับ
-
ขอบคุณสำหรับ reivew ครับ
แต่พี่จิมขอแย้งเรื่องศูนย์หน่อย เดียวนี้ auto city ก็บริการแย่กว่าเมื่อก่อนแล้วละครับ
เจอเองกับตัวทางศูนย์คิดเงินค่าอะไหล่ แต่ไม่ได้เปลี่ยนให้ ถ้าไม่ตรวจเองก็เรียบร้อย
ตอนนี้คิดจะเอารถเข้าศูนย์ แต่ไม่รู้จะเข้าที่ไหนดีแล้วสิตอนนี้
-
ขอเล่าให้อ่านครับ เพราะได้สัมผัส เจ้าไทรทัน ตัว 4x4 เกียร์ธรรมดา เครื่อง 178 แรงม้านี้แหละ เปรียบเทียบกับ ฟอร์จูนเนอะและ VIGO ตัว 4x4 นะ
ขอเท้าความก่อนว่า เพื่อนผมคนหนึ่ง เดิมได้ใช้ VIGO ตัวไมเนอร์ฯ 4x4 มาใช้ได้ประมาณ 1 ปี และมี ฟอร์จูนเนอร์ใช้มาแล้วประมาณ 4 ปี
มันเป็นคนเท้าหนัก กดไม่สนใจน้ำมัน ทั้งในเมือง นอกนอกเมือง มันกดแหลก ...มันบอกถูกใจมากๆ เพราะดึงดีและแรงมาก
ทีนี้ จากที่Mitsu ได้ออกตัวใหม่ 178 แรงม้า เพื่อนผมก็หวังว่ามันคงแรงกว่า คันเดิมทั้ง 2 คัน ... มันก็ขายซะ ทั้ง 2คัน โดยหวังว่า จะถอย ปาเจโร่ และ ไทรทัน พร้อมกัน 2 คัน
แต่ทีนี้ ปาเจโร่ ยังไม่สามารถส่งรถให้ได้ ต้องรอประมาณ 1เดือนกว่าๆ แต่ไทรทันรับรถได้เลย ... เพื่อนผมเลยได้ไทรทันมาลองเหยียบก่อน .....
สรุปว่าไงรู้ไหมครับ .... มันได้ลองขับไปหัวหิน เลยในตอนเช้าวันที่ออกรถ ... และช่วงสาย มันโทรมาถอนจองปาเจโร่ในทันที .....
ผมคุยกับมันและถามมันว่าทำไม .. .มันบอก สู้ VIGO ไม่ได้เลยว่ะ ...... !!!
ผมถามต่อไปว่า "ตรงไหนฟะ โดยรวมมันน่าจะ OK กว่า VIGO เยอะนะ"
มันตอบผมว่า ....!!! ผมจะสรุปเป็นข้อๆให้อ่านเลยดีกว่า เพราะผมคุยกะมันนานมากเรื่องนี้ เพราะผมเป็นคนเชียร์มันจนมันต้องขายรถ สุดรัก 2 คันพร้อมกัน เพื่อไปถอย mitsu เลยทีเดียว ....
1.เครื่องยนต์ ไม่แรงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับ VIGO ต่างกันตรง ไทรทันที่ดึงยาวกว่า ลากแรงบิดได้มากกว่า .... คือ จังหวะ 0-100 VIGO ทำได้ดีกว่าชัดเจน ไทรทันจะมาดีกว่าตรง 100+ไปแล้ว และสำหรับคนที่มีความชำนาญ ด้านการสับเกียร์อยู่แล้ว คือ ดึงแรงบิดมาใช้ พอหมดเปลี่ยนเกียร์ต่อไปเลยอย่างต่อเนื่อง แบบเพื่อนผม มันบอกขับไทรทันแล้วอารมเสีย คือ รอรอบ รอบเครื่องไม่ถึง 2000 แรงไม่มี แต่ดีงทีดึงยาว แต่กว่าจะดึงมันไม่ทันใจ คนอื่นเค้าออกไฟแดงไปกันไกลแล้ว ไทรทันยังคลานรอรอบอยู่เลย .....
2.ภายใน ทัศนะวิสัย สู้ VIGO ไม่ได้ ... (จากที่เพื่อนผมบอก) มันบอกว่า กระจกมองหลัง บังลูกตามันเต็มๆ เวลาที่มันต้องชำเลืองมองไปทางซ้าย เพราะกระจกมองหลัง อยู่ต่ำ ทั้งๆที่มันปรับเบาะลงต่ำสุดแล้วก็ยังบัง (เพื่อนผมสูง 180)
3.วัสดุภายใน ก๊องแก้งมาก ... แผงประตู ทั้ง 4 บาน ด้านในบุด้วยพลาสติกล้วนๆ ไม่มีส่วนผสมของผ้า , หนัง หรือวัสดุอื่นมารองให้เวลาเท้าแขนหรือวางแขนให้นุ่มนวนเลย ..... รวมถึงที่วางแก้วที่มันบอกว่า หาที่วางไม่ได้ คือวางได้น้ำขวดละ 8บาท แต่ถ้าจะหาที่วางแก้วกาแฟ อเมซอน อันนี้ลืมได้เลย เพราะที่วางน้ำที่แผงประตูมันใส่ได้แค่น้ำขวดละ 8 บาทจริงๆ (แบบพอดีด้วย)
4.ช่วงล่าง เพื่อนผมบอกว่า ไทรทัน ดีกว่าเยอะ ในรูปแบบเดิมๆโรงงาน เข้าโค้งรู้สึกว่าทรงตัวดีกว่าและพวงมาลัยคมกว่าชัดเจน อันนี้ถือเป็นข้อดีที่มันชมเพียงข้อเดียว .. แต่มันบอกว่า จะไปถอดโช็คเดิมออกแล้วใส่ HotBit แทน (VIGO คันเดิมมันใส่ Hotbit มาเกือบแสนก็หนึบดี)
สุดท้าย มันฟันธงว่า โดยรวม VIGO ดีกว่า และบอกว่า ปาเจโร่ที่มันจองไว้เป็นตัว TOP เกียร์ AT ซึ่ง มันน่าจะมหาอืดแน่นอน ... มันเลยถอนจอง รอออกฟอร์จูนเนอร์ตัวไมเนอร์ นี่ล่ะครับ .....
ป.ล. เนื่อหาทั้งหมดนี้เป็นคำบอกเล่าจากผู้ใช้รถจริงท่านหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเสียหายแต่อย่างใด
-
เสียดายว่าไม่ได้ทดสอบเติม V Power Diesel นะครับ เพราะจากการใช้งานเทียบกันระหว่าง V Power Diesel กับ B5 ในเส้นทางเดิมๆและสันดานในการขับรถเดิมๆของผมในทุกๆวันจาก กทมไปกลับนครปฐม ผมจะพบเสมอๆว่า V power Diesel จะให้ระยะทางที่มากกว่า B5 เสมอ แต่ราคาที่แตกต่างกันถึง 3บาทกว่าๆ /ลิตร ทำให้พบว่า ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยังไม่คุ้มค่าเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดว่าความกระชับ ขับสนุก เร่งตามเท้าได้ดีกว่า เป็นความคุ้มค่าหละก้อ อันนี้เห็นด้วยครับ
ผมเติม V-Power Diesel B5 ในรถทดสอบที่ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล ช่วง 2 ปีมานี้ตลอดครับ
ผมเขียนเอาไว้ในรีวิวแล้วด้วยซ้ำ โปรดอ่านดีๆครับ ย้ำในบทความไป 2-3 รอบด้วยซ้ำ หัวจ่าย V-Power Diesel B5 หนะ สีฟ้า เสมอ ครับ
ผมอ่านดีแล้วครับ แต่ผมเข้าใจว่าคุณJimmy อาจจะเข้าใจอะไรสับสนกันกับชื่อการค้าของน้ำมันยี่ห้อนี้นะครับ
Shell ขายน้ำมันPremium grade ในรหัสของ V power ทั้งเบนซิน และดีเซล
เพราะ V power Diesel นั้น คือ D100 ส่วน B5 นั้นใช้ชื่อการค้าว่า Shell fuel safe ครับ
ไม่ได้มีเจตนาอื่นนะครับ แต่ถ้าคุณJimmy ใช้คำว่า V-Power Diesel B5 ผมก็คงจะต้องอนุมานไปเองว่ามันคือ Shell Fuel safe B5
เชลล์เป็นบริษัทน้ำมันเพียงรายเดียว ที่ขาย D100 และ B5 ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่น ขาย B2 ( กลายเป็น B3 ไปแล้ว หรือ กลับเป็น B2 หรือยังก็ไม่ทราบ ) กับ B5
-
เสียดายว่าไม่ได้ทดสอบเติม V Power Diesel นะครับ เพราะจากการใช้งานเทียบกันระหว่าง V Power Diesel กับ B5 ในเส้นทางเดิมๆและสันดานในการขับรถเดิมๆของผมในทุกๆวันจาก กทมไปกลับนครปฐม ผมจะพบเสมอๆว่า V power Diesel จะให้ระยะทางที่มากกว่า B5 เสมอ แต่ราคาที่แตกต่างกันถึง 3บาทกว่าๆ /ลิตร ทำให้พบว่า ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยังไม่คุ้มค่าเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดว่าความกระชับ ขับสนุก เร่งตามเท้าได้ดีกว่า เป็นความคุ้มค่าหละก้อ อันนี้เห็นด้วยครับ
ผมเติม V-Power Diesel B5 ในรถทดสอบที่ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล ช่วง 2 ปีมานี้ตลอดครับ
ผมเขียนเอาไว้ในรีวิวแล้วด้วยซ้ำ โปรดอ่านดีๆครับ ย้ำในบทความไป 2-3 รอบด้วยซ้ำ หัวจ่าย V-Power Diesel B5 หนะ สีฟ้า เสมอ ครับ
ผมอ่านดีแล้วครับ แต่ผมเข้าใจว่าคุณJimmy อาจจะเข้าใจอะไรสับสนกันกับชื่อการค้าของน้ำมันยี่ห้อนี้นะครับ
Shell ขายน้ำมันPremium grade ในรหัสของ V power ทั้งเบนซิน และดีเซล
เพราะ V power Diesel นั้น คือ D100 ส่วน B5 นั้นใช้ชื่อการค้าว่า Shell fuel safe ครับ
ไม่ได้มีเจตนาอื่นนะครับ แต่ถ้าคุณJimmy ใช้คำว่า V-Power Diesel B5 ผมก็คงจะต้องอนุมานไปเองว่ามันคือ Shell Fuel safe B5
เชลล์เป็นบริษัทน้ำมันเพียงรายเดียว ที่ขาย D100 และ B5 ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่น ขาย B2 ( กลายเป็น B3 ไปแล้ว หรือ กลับเป็น B2 หรือยังก็ไม่ทราบ ) กับ B5
V power diesel (ที่ขายในไทย ณ ปัจจุบัน) เกิดจากดีเซลแท้ 100%+Biodiesel 5% ครับ
ไม่ใช่ดีเซลล้วนๆ ดังนั้นที่พี่จิมมี่เรียกว่าV-Power Diesel B5 ถูกแล้วครับ
ที่หัวจ่ายก็มีติดไว้ครับลองดูจากรูปได้
เครดิตรูป : คุณ U9WS http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php?topic=3841.0 (http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php?topic=3841.0)
-
เสียดายว่าไม่ได้ทดสอบเติม V Power Diesel นะครับ เพราะจากการใช้งานเทียบกันระหว่าง V Power Diesel กับ B5 ในเส้นทางเดิมๆและสันดานในการขับรถเดิมๆของผมในทุกๆวันจาก กทมไปกลับนครปฐม ผมจะพบเสมอๆว่า V power Diesel จะให้ระยะทางที่มากกว่า B5 เสมอ แต่ราคาที่แตกต่างกันถึง 3บาทกว่าๆ /ลิตร ทำให้พบว่า ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมานั้น ยังไม่คุ้มค่าเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคิดว่าความกระชับ ขับสนุก เร่งตามเท้าได้ดีกว่า เป็นความคุ้มค่าหละก้อ อันนี้เห็นด้วยครับ
ผมเติม V-Power Diesel B5 ในรถทดสอบที่ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล ช่วง 2 ปีมานี้ตลอดครับ
ผมเขียนเอาไว้ในรีวิวแล้วด้วยซ้ำ โปรดอ่านดีๆครับ ย้ำในบทความไป 2-3 รอบด้วยซ้ำ หัวจ่าย V-Power Diesel B5 หนะ สีฟ้า เสมอ ครับ
ผมอ่านดีแล้วครับ แต่ผมเข้าใจว่าคุณJimmy อาจจะเข้าใจอะไรสับสนกันกับชื่อการค้าของน้ำมันยี่ห้อนี้นะครับ
Shell ขายน้ำมันPremium grade ในรหัสของ V power ทั้งเบนซิน และดีเซล
เพราะ V power Diesel นั้น คือ D100 ส่วน B5 นั้นใช้ชื่อการค้าว่า Shell fuel safe ครับ
ไม่ได้มีเจตนาอื่นนะครับ แต่ถ้าคุณJimmy ใช้คำว่า V-Power Diesel B5 ผมก็คงจะต้องอนุมานไปเองว่ามันคือ Shell Fuel safe B5
เชลล์เป็นบริษัทน้ำมันเพียงรายเดียว ที่ขาย D100 และ B5 ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่น ขาย B2 ( กลายเป็น B3 ไปแล้ว หรือ กลับเป็น B2 หรือยังก็ไม่ทราบ ) กับ B5
V power diesel (ที่ขายในไทย ณ ปัจจุบัน) เกิดจากดีเซลแท้ 100%+Biodiesel 5% ครับ
ไม่ใช่ดีเซลล้วนๆ ดังนั้นที่พี่จิมมี่เรียกว่าV-Power Diesel B5 ถูกแล้วครับ
ที่หัวจ่ายก็มีติดไว้ครับลองดูจากรูปได้
เครดิตรูป : คุณ U9WS http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php?topic=3841.0 (http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php?topic=3841.0)
ขอบคุณครับ สำหรับความกระจ่าง
ขอโทษคุณJimmy ด้วยนะครับ สำหรับความเขลาของผมเอง
กรรมจริงๆ
-
กินน้ำมันเหมือนกันนะคับ ทำไม Hyundai H-1 หนักกว่าเครื่องเท่ากัน ยังแรงกว่าประหยัดกว่าเลย
:-\
-
ข้อมูลละเอียดมากๆ ครับ
กว่าจะอ่านจบ
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ :D
-
ขอบคุณครับ อ่านจบแล้วคิดถึงรถตัวเอง
ในจังหวะเร่งแซงที่ความเร็ว 40 ขึ้นไป ต้องชะลอรถให้ความเร็วต่ำกว่านั้นแล้วกระทืบเต็มเท้า ไม่งั้นเกียร์ไม่ยอมลง 1 ให้
ไม่ก็ชิฟท์เกียร์เอง สิ่งที่ต้องการคืออัตราทดเกียร์ที่ชิดกว่านั้น หรือความยืดหยุ่นของแรงบิดที่มากกว่านั้น ไม่งั้นรถจะเร่งไม่ขึ้น อันตราย
-
เรื่องความแรง ผมว่ามาแนวเดียวกับนาวาร่าเลยคือ เครื่องเล็ก แรงม้าสูง รอรอบ แต่ปลายไหลรอบจัด ใช้งานทั่วไปอาจจะสู้พวกเครื่องที่แรงพอประมาณ แต่ดึงดีตั้งแต่รอบต่ำ แต่ก็รอบหมดไว อย่างพวก VIGO 2500 I/C หรือ BT-50 ไม่ได้ แต่ถ้าขับอัดกันที่รอบสูงก็เข้าทางเขาหละ
-
คุณจิมมี่ครับ เรื่องของแรงที่มาเมื่อรอบรอบเกิน 1800หรือ2000รอบไปแล้วนี่ มันเป็นปัญหาที่ทางกายภาพของเครื่องที่ไม่สามารถเรียกกำลังในรอบต่ำได้ หรือว่ามันเกิดจากปัญหาทาง software ของตัว ECU ครับ เพราะเท่าที่ผมอ่าน ตัวเทอร์โบแปรผันครีบมันทำให้ปรับแรงดันเทอร์โบให้เหมาะกับรอบเครื่องได้ในทุกย่าน ซึ่งถ้าเป็นแบบหลังจริงๆ มันก็น่าจะมีโอกาสแก้ไขได้ค่อนข้างง่าย ใช่มั้ยครับ
เรื่องต่อมาคือเรื่องของเชื้อเพลิง จากวิกฤตน้ำมันปาล์มทำให้น้ำมันบางจากแจ้งว่าได้เลิกผลิต b5 เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นมา ส่วนของเชลล์เองก็มีการให้ข่าวออกมาว่าจะเลิกผลิตชั่วคราวเช่นกัน และทางรัฐบาลเองก็อณุญาตและขอร้องให้ผู้ผลิตน้ำมัน จำหน่ายน้ำมัน b3 เพียงอย่างเดียว ไม่รู้ว่าช่วงนี้น้ำมัน v-power diesel ของเชลล์จะเป็นb3รึป่าว ถ้าคุณจิมมี่ทดลองรถในช่วงนี้น่าลองตรวจสอบดูก่อนนะครับ
-
เรื่องแรงบิดน่าจะแก้ได้เสียทีนะครับ ใช้ตัวเก่าอยู่ก็เป็นเช่นนั้น กดน้อยก็ไม่วิ่ง แต่พอเกิน 1800-2000 ก็กระโจนทะยานจนเกินเหตุ เบาะข้างๆ มองค้อนอยู่บ่อยๆ
-
สวัสดีน้องจิม
เพิ่งได้มาอ่าน เพราะไปจองมาแล้ว จะเปลี่ยนเจ้า Shogun ล่ะ ใช้มาก็ 15 ปีแล้ว
ที่จองไว้เป็นตัว 4WD GT สีน้ำตาล รับรถก่อนสงกรานต์
จากที่อ่าน
จริงอย่างว่าต้นมาช้ามากต้องรอรอบ เพราะไปลองขับมาเหมือนกัน ไม่ค่อยทันใจเลย
เรื่องกินน้ำมัน ก็กินไปหน่อยแต่พอรับได้นะ ยังไงก็ดีกว่า Shogun V6 3.5 ลิตรที่ใช้อยู่นั่นแหละ
-
หวัดดีครับทุกท่าน ผมสมาชิกใหม่ครับ
ผมได้ทดลองขับ Pajero Sport ตัวนี้แล้ว มันคนละอารมณ์กับ D MAX เลย (ปกติใช้ D MAX 3.0 4WD VGS Turbo AUTO อยู่) ทดสอบที่ 180 km/h มันก็วิ่งดีนะ ยิ่งตอนเร่งแซง ใช้ funaction Sport รู้สึกเลยว่ามันแรงจริงๆ ตอนนี้กำลังตัดสินใจว่าจะเอาตัวนี้อีกคัน ผมมีคำถามถึงผู้เชี่ยวชาญรบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ ตัว Naviagator ที่จอ touch screen ใช้งานยังไงครับ กดเลือกแล้ว มันหายเงียบไปเลย แล้วทีนี้ Funaction อื่นก็เลยใช้งานไม่ได้ ต้องดับเครื่องและ start ใหม่