Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bungy ที่ มีนาคม 07, 2011, 14:45:30
-
http://www.thaipost.net/news/070311/35346 (http://www.thaipost.net/news/070311/35346)
เคาะโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ ให้แรงจูงใจลดมลพิษ ระบุหากปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เก็บเพิ่ม 5% "สรรพสามิต" ใจร้อนอยากให้ใช้ทันที แต่ "มั่น" บอกให้ปรับตัว 2-3 ปี
นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ได้สรุปโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่แล้ว โดยจะมีการเพิ่มแรงจูงใจด้านการลดมลพิษ ซึ่งกำหนดว่ารถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) น้อยกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ให้เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราปกติ หากปล่อย CO2 ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้ลดภาษีสรรพสามิต 5% แต่หากปล่อย CO2 เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอีก 5%
สำหรับโครงสร้างใหม่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งที่มีรถ E10 และ E20 รวมอยู่ด้วย จากที่มีอัตราภาษีหลายอัตราตามขนาดเครื่องยนต์ และกำลังแรงม้าตั้งแต่ 25-50% ก็จะลดลงเหลือ 2 อัตรา คือ คิดตามขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3000 cc. อัตราภาษี 30% ขนาดเครื่องยนต์เกิน 3000 cc. อัตราภาษี 50% โดยให้แรงจูงใจการปล่อย CO2 ว่า ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้ลดภาษี 5% แต่หากปล่อย CO2 เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 5%
ขณะที่รถยนต์ตรวจการณ์ หรือ PPV ยังคงอัตราภาษีเดิมที่ 20% และให้แรงจูงใจภาษีการปล่อย CO2 เหมือนกับรถยนต์นั่งเช่นกัน
นายมั่นกล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ หากนำมาใช้ทันทีตามข้อเสนอของกรมสรรพสามิต จะกระทบกับผู้ประกอบการรถยนต์ ทำให้ต้นทุนเพิ่ม เพราะรถยนต์ที่ใช้ในประเทศในปัจจุบัน มีการปล่อย CO2 มากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ทำให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มอีก 5% ซึ่งหากกรมสรรพสามิตเสนอมา จะต้องหารือให้ยืดเวลาการบังคับใช้ออกไป 2-3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว
นายมั่นกล่าวว่า กรมสรรพสามิตประเมินว่าการเก็บภาษีรถยนต์ในปี 2554 จะได้จำนวน 8.36 หมื่นล้านบาท หากนำโครงสร้างภาษีใหม่มาใช้ปี 2557 จะทำให้ภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 1.29 แสนล้านบาท และเพิ่มเป็น 1.45 แสนล้านบาท ในปี 2560 ภายใต้การขยายตัวของปริมาณรถยนต์ที่ 4% ต่อปี.
ภาษีใหม่ ราคารถก็จะถูกลงสิครับ ไม่มีต้องตอนแรงม้ากันแล้ว
-
ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่า รถแต่ละค่ายจะเอาเทคโนโลยีอะไรมาใช้ในการลดมลพิษ
-
ดีแล้วครับ ค่อยเป็นค่อยไป (แต่ความรู้สึกช้าจังนะ ต่างประเทศเขาเก็บกันมาตั้งนานแล้ว)
-
ว้าวๆๆ รอวันนี้มานานแล้ววว แบบนี้รถแรงๆ ราคาก็จะได้ถูกลง
จัด 535i CKD 306 ม้า 195 g/km ด่วน!
ปล. จริงๆ แล้วน่าจะมีแรงจูงใจ ลดภาษีพวกที่ปล่อย CO2 น้อยมากๆ (เช่นน้อยกว่า 120 g/km) ลงไปอีกสัก 5% นะครับ
-
เริ่มจะเป็นสากลกับเค้าแล้ว
อนาคตคงมีรถดีๆมาให้ใช้เยอะขึ้น
-
ว้าวๆๆ รอวันนี้มานานแล้ววว แบบนี้รถแรงๆ ราคาก็จะได้ถูกลง
จัด 535i CKD 306 ม้า 195 g/km ด่วน!
ปล. จริงๆ แล้วน่าจะมีแรงจูงใจ ลดภาษีพวกที่ปล่อย CO2 น้อยมากๆ (เช่นน้อยกว่า 120 g/km) ลงไปอีกสัก 5% นะครับ
เห็นด้วยครับ
-
แบบนี้รถหลายๆ รุ่นคงขนเทคโนโลยีลดมลภาวะกันมาเต็มแน่นอน ;D
-
เอ่อ คือว่าน้ำมันในไทยยังล้าหลังนะ
-
เอ่อ คือว่าน้ำมันในไทยยังล้าหลังนะ
ปีหน้าก็ Euro 4 แล้วครับ ไทยเป็นรองแค่ยุโรป อเมริกา แล้วก็ญี่ปุ่นเองนะครับ(ซึ่งเราก็เป็นรองเขาอยู่แล้ว เรื่องธรรมดา)
-
ถ้าเป็นตามนั้น
เก๋ง E20 มลพิษต่ำก็จะเหลือ 20%
Eco Car จะเหลือ 12% มั๊ย
เก๋ง Diesel มลพิษต่ำก็จะเหลือ 25%
ส่วน Hybrid ยังจะได้ผลประโยชน์เพิ่มอีกไหมถ้าได้อีกนี่ จะเหลือแค่ 5% เองนะ
แล้วถ้ากระบะ กระบะแค็บ Diesel มลพิษต่ำ จะเหลือ -2% หรือป่าว
-
ถ้าเป็นตามนั้น
เก๋ง E20 มลพิษต่ำก็จะเหลือ 20%
Eco Car จะเหลือ 12% มั๊ย
เก๋ง Diesel มลพิษต่ำก็จะเหลือ 25%
ส่วน Hybrid ยังจะได้ผลประโยชน์เพิ่มอีกไหมถ้าได้อีกนี่ จะเหลือแค่ 5% เองนะ
แล้วถ้ากระบะ กระบะแค็บ Diesel มลพิษต่ำ จะเหลือ -2% หรือป่าว
ขอเพิ่มเติมครับ http://khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEEzTURNMU5BPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNeTB3Tnc9PQ== (http://khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEEzTURNMU5BPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNeTB3Tnc9PQ==)
คลังรีดภาษีรถปล่อยมลพิษ อี20อ่วม!จ่ายเพิ่ม5%-พีพีวีเสียเท่าเดิม
นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง กล่าวว่า กรมสรรพสามิต กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ได้สรุปการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงสร้างภาษีใหม่จะเพิ่มแรงจูงใจด้านการลดมลพิษ ซึ่งกำหนดไว้ว่ารถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ (CO2) น้อยกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ให้เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราปกติ หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้ลดภาษีสรรพสามิต 5% แต่หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอีก 5%
สำหรับโครงสร้างใหม่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งจะมีรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 10% (อี10) และรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 20%(อี20) รวมอยู่ด้วย ส่วนอัตราภาษีที่มีหลายอัตราตามขนาดเครื่องยนต์ และกำลังแรงม้า มีอัตราภาษีตั้งแต่ 25-50% ก็จะลดลงเหลือ 2 อัตรา คือ คิดตามขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3000 ซีซี อัตราภาษี 30% ขนาดเครื่องยนต์เกิน 3000 ซีซี อัตราภาษี 50% โดยให้แรงจูงใจการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตรจะได้ลดภาษี 5% แต่หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่รถยนต์ตรวจการณ์(พีพีวี) ยังคงอัตราภาษีเดิมที่ 20% แล้วได้แรงจูงใจภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เหมือนกับรถยนต์นั่งเช่นกัน
สำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานทั้งรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 85% (อี85) อัตราภาษีลบ 3% จากอัตรารถยนต์นั่ง ส่วนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) ที่ผลิตจากโรงงานอัตราภาษี 20% และรถยนต์ไฮบริดอัตราภาษี 10% พร้อมทั้งแรงจูงใจภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหมือนกับรถยนต์นั่ง และพีพีวี แต่รถยนต์ประหยัดพลังงานประเภทรถยนต์ไฮบริด รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงและรถพลังงานไฟฟ้า(อีวี) เสียภาษีอัตราเดิม 10% และไม่มีแรงจูงใจด้านภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงรถยนต์อีโคคาร์ก็ใช้อัตราภาษีเดิม 17%
นายมั่นกล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่หากนำมาใช้ทันทีตามข้อเสนอของกรมสรรพสามิตจะกระทบกับผู้ประกอบการรถยนต์ทำให้ต้นทุนเพิ่ม เพราะรถยนต์ที่ใช้ในประเทศปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ทำให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มอีก 5% ซึ่งหากกรมสรรพสามิตเสนอขึ้นมาจะต้องหารือให้ยืดเวลาการบังคับใช้ออกไป 2-3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว
ทั้งนี้กรมสรรพสามิตประเมินผลที่คาดการณ์จะได้รับจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ในส่วนของภาษีรถยนต์นั่งภาษีที่เก็บได้น่าจะขยายตัวถึง 27.71% เทียบกับปี"53 เนื่องจากรถอี 20 ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
BMW ดีเซล Benz ดีเซล รถยุโรป จงเจริญ อิอิ
-
ถ้าเป็นตามนั้น
เก๋ง E20 มลพิษต่ำก็จะเหลือ 20%
Eco Car จะเหลือ 12% มั๊ย
เก๋ง Diesel มลพิษต่ำก็จะเหลือ 25%
ส่วน Hybrid ยังจะได้ผลประโยชน์เพิ่มอีกไหมถ้าได้อีกนี่ จะเหลือแค่ 5% เองนะ
แล้วถ้ากระบะ กระบะแค็บ Diesel มลพิษต่ำ จะเหลือ -2% หรือป่าว
ขอเพิ่มเติมครับ http://khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEEzTURNMU5BPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNeTB3Tnc9PQ== (http://khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEEzTURNMU5BPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNeTB3Tnc9PQ==)
คลังรีดภาษีรถปล่อยมลพิษ อี20อ่วม!จ่ายเพิ่ม5%-พีพีวีเสียเท่าเดิม
นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง กล่าวว่า กรมสรรพสามิต กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ได้สรุปการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงสร้างภาษีใหม่จะเพิ่มแรงจูงใจด้านการลดมลพิษ ซึ่งกำหนดไว้ว่ารถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ (CO2) น้อยกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ให้เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราปกติ หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้ลดภาษีสรรพสามิต 5% แต่หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอีก 5%
สำหรับโครงสร้างใหม่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งจะมีรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 10% (อี10) และรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 20%(อี20) รวมอยู่ด้วย ส่วนอัตราภาษีที่มีหลายอัตราตามขนาดเครื่องยนต์ และกำลังแรงม้า มีอัตราภาษีตั้งแต่ 25-50% ก็จะลดลงเหลือ 2 อัตรา คือ คิดตามขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3000 ซีซี อัตราภาษี 30% ขนาดเครื่องยนต์เกิน 3000 ซีซี อัตราภาษี 50% โดยให้แรงจูงใจการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตรจะได้ลดภาษี 5% แต่หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่รถยนต์ตรวจการณ์(พีพีวี) ยังคงอัตราภาษีเดิมที่ 20% แล้วได้แรงจูงใจภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เหมือนกับรถยนต์นั่งเช่นกัน
สำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานทั้งรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 85% (อี85) อัตราภาษีลบ 3% จากอัตรารถยนต์นั่ง ส่วนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) ที่ผลิตจากโรงงานอัตราภาษี 20% และรถยนต์ไฮบริดอัตราภาษี 10% พร้อมทั้งแรงจูงใจภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหมือนกับรถยนต์นั่ง และพีพีวี แต่รถยนต์ประหยัดพลังงานประเภทรถยนต์ไฮบริด รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงและรถพลังงานไฟฟ้า(อีวี) เสียภาษีอัตราเดิม 10% และไม่มีแรงจูงใจด้านภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงรถยนต์อีโคคาร์ก็ใช้อัตราภาษีเดิม 17%
นายมั่นกล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่หากนำมาใช้ทันทีตามข้อเสนอของกรมสรรพสามิตจะกระทบกับผู้ประกอบการรถยนต์ทำให้ต้นทุนเพิ่ม เพราะรถยนต์ที่ใช้ในประเทศปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ทำให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มอีก 5% ซึ่งหากกรมสรรพสามิตเสนอขึ้นมาจะต้องหารือให้ยืดเวลาการบังคับใช้ออกไป 2-3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว
ทั้งนี้กรมสรรพสามิตประเมินผลที่คาดการณ์จะได้รับจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ในส่วนของภาษีรถยนต์นั่งภาษีที่เก็บได้น่าจะขยายตัวถึง 27.71% เทียบกับปี"53 เนื่องจากรถอี 20 ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
BMW ดีเซล Benz ดีเซล รถยุโรป จงเจริญ อิอิ
ดีเซลจงเจริญด้วยคนครับ
-
ถ้าเป็นตามนั้น
เก๋ง E20 มลพิษต่ำก็จะเหลือ 20%
Eco Car จะเหลือ 12% มั๊ย
เก๋ง Diesel มลพิษต่ำก็จะเหลือ 25%
ส่วน Hybrid ยังจะได้ผลประโยชน์เพิ่มอีกไหมถ้าได้อีกนี่ จะเหลือแค่ 5% เองนะ
แล้วถ้ากระบะ กระบะแค็บ Diesel มลพิษต่ำ จะเหลือ -2% หรือป่าว
ขอเพิ่มเติมครับ http://khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEEzTURNMU5BPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNeTB3Tnc9PQ== (http://khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdNVEEzTURNMU5BPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNeTB3Tnc9PQ==)
คลังรีดภาษีรถปล่อยมลพิษ อี20อ่วม!จ่ายเพิ่ม5%-พีพีวีเสียเท่าเดิม
นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง กล่าวว่า กรมสรรพสามิต กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ได้สรุปการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงสร้างภาษีใหม่จะเพิ่มแรงจูงใจด้านการลดมลพิษ ซึ่งกำหนดไว้ว่ารถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ (CO2) น้อยกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ให้เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราปกติ หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้ลดภาษีสรรพสามิต 5% แต่หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นอีก 5%
สำหรับโครงสร้างใหม่ภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งจะมีรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 10% (อี10) และรถที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 20%(อี20) รวมอยู่ด้วย ส่วนอัตราภาษีที่มีหลายอัตราตามขนาดเครื่องยนต์ และกำลังแรงม้า มีอัตราภาษีตั้งแต่ 25-50% ก็จะลดลงเหลือ 2 อัตรา คือ คิดตามขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3000 ซีซี อัตราภาษี 30% ขนาดเครื่องยนต์เกิน 3000 ซีซี อัตราภาษี 50% โดยให้แรงจูงใจการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตรจะได้ลดภาษี 5% แต่หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่รถยนต์ตรวจการณ์(พีพีวี) ยังคงอัตราภาษีเดิมที่ 20% แล้วได้แรงจูงใจภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เหมือนกับรถยนต์นั่งเช่นกัน
สำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงานทั้งรถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ 85% (อี85) อัตราภาษีลบ 3% จากอัตรารถยนต์นั่ง ส่วนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) ที่ผลิตจากโรงงานอัตราภาษี 20% และรถยนต์ไฮบริดอัตราภาษี 10% พร้อมทั้งแรงจูงใจภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหมือนกับรถยนต์นั่ง และพีพีวี แต่รถยนต์ประหยัดพลังงานประเภทรถยนต์ไฮบริด รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงและรถพลังงานไฟฟ้า(อีวี) เสียภาษีอัตราเดิม 10% และไม่มีแรงจูงใจด้านภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงรถยนต์อีโคคาร์ก็ใช้อัตราภาษีเดิม 17%
นายมั่นกล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่หากนำมาใช้ทันทีตามข้อเสนอของกรมสรรพสามิตจะกระทบกับผู้ประกอบการรถยนต์ทำให้ต้นทุนเพิ่ม เพราะรถยนต์ที่ใช้ในประเทศปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ทำให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มอีก 5% ซึ่งหากกรมสรรพสามิตเสนอขึ้นมาจะต้องหารือให้ยืดเวลาการบังคับใช้ออกไป 2-3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว
ทั้งนี้กรมสรรพสามิตประเมินผลที่คาดการณ์จะได้รับจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ ในส่วนของภาษีรถยนต์นั่งภาษีที่เก็บได้น่าจะขยายตัวถึง 27.71% เทียบกับปี"53 เนื่องจากรถอี 20 ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
BMW ดีเซล Benz ดีเซล รถยุโรป จงเจริญ อิอิ
ถ้าเป็นตามนั้น
เก๋ง E20 มลพิษต่ำก็จะเหลือ 25% ตามเดิม
Eco Car ก็เหมือนกัน 17% เท่าเดิม
เก๋ง Diesel มลพิษต่ำก็จะเหลือ 25%
กระบะก็ไม่มีได้ผลประโยชน์
สรุปว่า รถที่มียอดขายในประเทศรวมกันเกิน 90% ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆจากกฎหมายใหม่อันนี้เลย
>:(
-
yessssssssssssss
-
ถ้าผมเป็น บ.ผลิตรถ
ผมจะจับรถที่มีอยู่ ใส่มอเตอร์ 1 แรงม้า + แบตซัก 1000 วัตต์ + วงจรควบคุม
แล้วขายเป็น Hybrid for Thailand only.
ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
-
Hybrid กับรถ EV 10% เท่ากัน
ทั้งๆที่ Nissan leaf เป็น Zero emission แต่ต้องโดนภาษีเท่า Prius ?
แล้วจะบอกเหตุผลเรื่องปล่อย co มาทำไม ในเมื่อมาตรฐานมันเอียงชัดๆ
-
เอ่อ คือว่าน้ำมันในไทยยังล้าหลังนะ
ปีหน้าก็ Euro 4 แล้วครับ ไทยเป็นรองแค่ยุโรป อเมริกา แล้วก็ญี่ปุ่นเองนะครับ(ซึ่งเราก็เป็นรองเขาอยู่แล้ว เรื่องธรรมดา)
แต่เมืองนอกเค้าจะไป ยูโร6 2012 นี้แล้วนะครับเมืองไทยยูโร4 แล้วรถที่นำเข้าก็ต้องกลับมาตอนเครื่องอยู่ดีเพราะรับน้ำมันไม่ได้
-
Hybrid กับรถ EV 10% เท่ากัน
ทั้งๆที่ Nissan leaf เป็น Zero emission แต่ต้องโดนภาษีเท่า Prius ?
แล้วจะบอกเหตุผลเรื่องปล่อย co มาทำไม ในเมื่อมาตรฐานมันเอียงชัดๆ
กฏหมายนี้เหมือนจะออกมาแก้เกี้ยว บ.อื่นๆ
ที่ออกมาเรียกร้องขอสิทธิผลประโยชน์ทางภาษีให้รถมลพิษต่ำ โดยยกกรณี Hybrid ของ พี่โต ที่ได้สิทธิประโยชน์แบบสุดๆ มาเปรียบเทียบ
ว่า นี่งัย แก้กฏหมายให้แล้วนะ
-
แล้วเหล่ารถบบรทุกกับรถเมทั้งหลายจะทำยังไง? ทุกวันนี้ล้างรถมาใหม่ๆถ้าหากว่าติดไฟแดงท้ายรถใหญ่จบกันแล้ว เอามือลูบนิดเดียวเขม่าสกปรกเต็มไปหมดแล้ว แถมด้วยละออกน้ำมันเป็นจุดๆๆๆๆเต็มไปหมด :-X
-
แต่พวก รถ super cars ราคาจะขึ้นนะครับ ได้อย่างเสียอย่าง คนรวยๆๆต้องรีบซื้อครับ ;D
พวกเครื่องยนต์ 3000 ซีซี ขึ้นไป แพงขึ้นอีก 50+5% นะครับ ถ้า CO2 เกิน 200 นะ
แต่ว่า งง รถยนต์คันไหนเกินไม่เกิน น้ำมันที่ทดสอบต้องเป็นน้ำมันในไทย สิครับ จะเปิดช่องโกง CO2 หรือเปล่าครับ
คงเทียบกับ spec ยุโรป ไม่ได้สิครับ เพราะ น้ำมันเขา EU5-6 กันแล้ว
รถแพงขึ้น ถ้า option เท่าเดิม ไม่มีใครซื้อกันหรอกครับ ผมว่า บริษัทรถยนต์ต้องแข่งกันที่ option กันแล้ว
-
แต่เมืองนอกเค้าจะไป ยูโร6 2012 นี้แล้วนะครับเมืองไทยยูโร4 แล้วรถที่นำเข้าก็ต้องกลับมาตอนเครื่องอยู่ดีเพราะรับน้ำมันไม่ได้
เมืองนอกนั่นแค่แถบยุโรปเองครับ แล้ว ยูโร 5-6 ต่างกันแค่ ปริมาณ ซัลเฟอร์นิดเดียว ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรเลยครับ
ปัจจุบันมาตรฐานไทย ซัลเฟอร์ 200-600 ppm (เบนซิน) แต่ถ้าไปยูโร4แล้ว จะเหลือ30-80 (ดีขึ้นมาก)
แต่ยูโร6ก็แค่ 10ppm ถือว่าเล็กน้อยมากครับจาก4ไป6 ถ้าเทียบกับปัจจุบันไปที่ยูโร4ครับ