Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 2k ที่ มีนาคม 11, 2011, 17:08:47
-
เมื่อก่อนประเทศไทยเคยได้ชื่อว่ายิ้มสยามเพราะมักจะช่วยเหลือกันยิ้มแย้มให้กันแต่ผมคิดว่าปัจจุบันนี้มันคงจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้วกระมัง จำได้ปีที่แล้วตอนที่มีข่าวผู้หญิงกำลังท้อง7เดือนแล้วไปเจอผู้หญิงอีกคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือเพราะว่าโดนคนร้ายจี้เอารถฟอจูนเนอร์ไปคุณแม่กำลังท้องนี่ก็ช่วยขับรถไล่ตามไปจนแจ้งตำรวจเอาของคืนมาได้หมด ( http://www.news.thai2ads.com/contentnew-news-501 (http://www.news.thai2ads.com/contentnew-news-501) ) แทนที่จะเป้นเรื่องน่าชื่นชมแต่กระแสความคิดจากคนในเว็บบอร์ดเกือบครึ่งหนึ่งกลับมองคุณแม่คนนี้ในทางที่แปลก หาว่าตัวเองเข้าไปเสี่ยงมั่ง ไม่ใช่เรื่องของตัวเองมั่ง ไม่ห่วงเรื่องในท้องมั่ง ได้ไม่คุ้มเสียมั่ง บ้าบิ่นเกินไปมั่งต่างๆนาๆ...........กลายเป้นว่าการที่คนๆหนึ่งช่วยเลหือคนอื่นในยามที่เค้าเดือดร้อนกลับกลายเป็นเรื่องที่แปลกไม่น่ากระทำไปแล้วเหรอ?? :'(
วันนี้ผมเองก็เจอความนิ่งเฉยของคนไทยนี้กับตัวเองเช่นกัน เมื่อเช้าตอนที่ผมกำลังจะมาปั๊มลายนิ้วมือเข้าโรงตึ๊ง...........เอ๊ยเพื่อเข้างานตอนเช้า มองข้ามไปอีกฟากของซอย1เลนเห็นชัดเจนเลยว่ามีประเป๋าเงินสีเทาขนาดกลางตกอยู่ข้างๆรถขายฝรั่ง คุณว่ามันแปลกไหมล่ะครับที่ในช่วงเช้าคนเดินกันเป็นร้อยๆซื้อมื้อเช้ากับเดินเข้าตึกก่อนเข้างานทำไมไม่มีใครสนใจกระเป๋าใบนี้เลย? จนพาให้ผมสงสัยว่าหรือที่จริงแล้วมันคือก้อนกระดาษสีเทากันแน่?
รอให้รถเข้าซอยผ่านไปจนผมข้ามมาอีกฝั่งได้ก็ยังไม่มีใครสนใจจะหยิบมันขึ้นมา เห็นผู้หญิงซื้อฝรั่งคนนึงก้มลงมองมันดูแล้วมองหาทำท่าอึกอักเหมือนว่ารู้แล้วนะว่ามีคนทำกระเป่าหล่นอยู่ แต่แล้วคุณเธอก็เดินจากไปปล่อยให้มันอยู่ที่พื้นนั่นแหละ พอผมหยิบขึ้นมาดูก้เห้นว่ามันเป็นกระเป๋าเงินจริงๆนั่นแหละ หนาด้วยข้างในคงจะมีบัตรอะไรเต็มไปหมดเลย ซึ่งทันทีหยิบกระเป๋าด้วยปรากฏว่าคนรอบข้างทั้งหลายมองดูผมกันเต็มไปหมดเลย.................ทั้งคนรอบข้างทั้งคนขายของจ้องกันใหญ่ ดีที่หมาจรจัดอีกสองตัวใกล้ๆมันไม่หันมามุงดูกับเค้าด้วย เออถ้าพวกมรึงเห็นว่ามีคนทำหล่นไว้เยอะแยะขนาดนี้ทำไมไม่สนใจหยิบขึ้นมาดูกันวะ!!!! นี่ถ้าหากว่าผมหยิบขึ้นมาแล้วรีบเก็บซ่อนเลยคงโดนรุมกระทืบหมอบแถวนั้น >:(
ถามน้าคนขายฝรั่งรู้ไหมว่าของใครทำหล่นไว้แกก็บอกอ๋อคงจะของผู้หญิงคนที่มาซื้อเมื่อกี้แหละที่ทำหล่นไว้ อ้าวววววน้าก็เห็นว่าทำหล่นไว้เหมือนกันแล้วทำไมไม่เก้บขึ้นมาก่อนจะมีใครที่ไม่น่าไว้ใจฉกไปล่ะค้าบบบบบ? ผมเลยฝากเบอร์โทรศัพท์ไว้เผื่อว่าเจ้าของเค้านึกขึ้นได้เดินมาถามจะได้เอาคืน ผ่านไป 1ชั่วโมงยังไม่มีใครโทรมาเลยเปิดดูข้างในหาชื่อเจ้าของซะหน่อย นี่ถ้าคนไม่ดีเก้บไปนี่แม่คุณต้องตายแน่ๆเลย ข้างในมีแบงค์พันแน่ๆใบนึงกับบัตรเครดิตอีกไม่ต่ำกว่า4ใบ อูยยยยยยย หวาดเสียวแทนจริงๆถ้าหายเกินวันเค้าจะนึกเลขบัตรออกตามไล่อายัดบัตรได้ถูกหมดไหมวะนี่!!!! สุดท้ายนึกขึ้นได้ว่ามีระบบในองค์กรใช้ดูชื่อพนักงานได้เลยหาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเจ้าของมารับคืนเรียบร้อยไปอีก1คดี..............เจ้าของตัวเล็กๆขาวๆเสียงเล็กๆหวานๆหน้าตาน่ารักน่าลุ้นซะด้วย อิ๊ๆๆๆ :-*
น่าคิดไหมครับว่าทำไมคนรอบๆข้างจำนวนมากก็เห้นว่ามีกระเป๋าหล่นอยู่แต่กลับไม่กล้าที่จะหยิบมันขึ้นมา กลับทำเหมือนว่ามันเป็นกับดักไม่น่าไว้ใจชิ้นหนึ่งอย่าไปยุ่งกับมันเลย แต่ขอดูหน้าไอ้อ้วนที่ใจกล้าหน้าด้านหยิบมันขึ้นมาซะหน่อย (ไอ้ตอนโดนรุมจ้องนี่ผมก็เขินนิดๆพาลให้คิดว่าซิปกางเกงเจ้าปัญหามันรูดลงเองก่อเรื่องให้ผมขายหน้าอีกรึเปล่า) จะบอกว่าไม่รู้ว่ามันหล่นอยุ่ก็ไม่ใช่แน่เพราะผมอยู่ห่างไป 10 เมตรยังเห้นชัดแจ๋วเลยว่ามีกระเป่นสีเทาหล่นอยู่บนพื้น............ เห้นกันตั้งหลายคนแต่ทำไมไม่ทำอะไรเลย? ไม่กล้าที่จะทำความดี? อายที่จะหยิบของตกพื้น? หรือว่าไม่ใช่ของๆกรูกรูไม่สนใจกันแน่? รู้แล้วว่าทำไมมุขที่โจรทำร้ายผู้หญิงเพื่อแย่งกระเป่าแล้วตะโกนบอกว่าเรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่งคนรอบข้างถึงไม่ยุ่งมันถึงได้ผลนัก ถ้าคนในสังคมเลือกที่จะเมินเฉยต่อความลำบากของคนอื่นแบบนี้สังคมไทยในอนาคตคงจะน่ากลัวมากๆอาจ ถ้าคนโดนแทงเพราะโดนปล้นก็คงจะนอนตายตรงนั้นเลยเพราะคนอื่นๆกลัวที่จะเข้าไปช่วยเหลือ :-\
-
มันเป็นเพราะคนทำดีไม่ได้ดีไงครับ .....
1.ถ้าในกระเป๋านั้นเป็นระเบิด ..... คุณจะทำไง ??
2.ถ้าในกระเป๋านั้นมียาบ้า ... คุณจะทำไง ??
ไม่ว่า คุณจะเจออะไรใน 2 ข้อนี้ ..... ความรับผิดชอบต่อกระเป๋านั้น ต้องตกอยู่ที่คุณคนเดียวครับ ....
1.ถ้าคุณเจอระเบิดล่ะ คุณว่าคุณจะยังมีชีวิตอยู่ไหม และจะมีใครตายไปพร้อมกับคุณอีกกี่คน ??
2.ถ้าเป็นยาบ้า ... คุณจะวางไว้อย่างเดิม หรือจะหิ้วไปให้ตำรวจล่ะ ..... ??
จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 ข้อ คนรับผิดชอบ ณ.เวลานั้นคือคุณ .. ถ้าระเบิด คุณก็ตาย ...ถ้าเป็นยาบ้า ก็โดนตำรวจจับ กว่าจะสืบว่าไม่ใช่ของคุณ คุณก็ต้องนอนในคุกหลายวันจนกว่าจะพิสูจน์ ความบริสุทธ์ได้
หลายๆคน ไม่อยากมีภาระ หรือความรับผิดชอบที่ไม่จำเป็นมั้งครับ .... ถ้าเราเฉยซะ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ .... แต่ถ้าเข้าไปยุ่ง เรื่องเล็กๆ อาจเป็นเรื่องใหญ่ให้ปวดหัวก็ได้ครับ
แต่สิ่งที่คุณทำนั้น ขอชมเชยครับว่า เป็นการกระทำที่กล้ารับผิดชอบ ที่จะทำในสิ่งที่ดีงามครับ
เรื่องบางเรื่องทำแล้วได้ไม่คุ้มเสีย ฉะนั้น คนเมืองสมัยนี้ เวลาทำอะไร จะคิดเยอะจนรู้สึกว่า แล้งน้ำใจไปแล้วมั้งครับ
........
ขอขยายความคำว่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" นิดนึงนะครับ ..
ยกตัวอย่าง คุณแม่ที่ท้องแ้ล้วกัน ... ถามว่าความดีที่คุณแม่ทำนั้น เป็นสิ่งที่ดีครับ ได้รับการชมเชยตามสมควรที่จะได้รับ ...
แต่ถ้าถามว่า ถ้าเหตุการดังกล่าว กลับมาเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องศูนย์เสียลูกในท้อง หรือ ชีวิตตัวเองล่ะครับ ถามว่า ใครจะช่วย ...... ?? ความศูนย์เสียที่เกิดขึ้น เมื่อเทียบกันแล้ว มัน"ได้ไม่คุ้มเสีย" อย่างที่เค้าว่าไหมล่ะครับ
ป.ล.ความคิดเห็นผมอาจจะออกไปแนวทางลบในความคิดหลายๆท่านนะครับ แต่นี่คือสังคมจริงๆทุกวันนี้เท่านั้นเองครับ
-
12 ปีก่อน หลานชายผมเก็บเงินแบงค์ 100 จากข้างๆร้านรถเข็นขายส้มตำ ... ทันทีที่หลานชายเก็บได้ ก็บอกเสียงดังว่า "ป้า(เจ้าของร้าน)ครับ เงินของป้าร่วงครับ"
ป้า บอกว่า " เงินของหนูนั่นแหล่ะ เก็บไปเลยๆ " ลูกค้าระแวกนั้นก็ได้แต่มองกันอย่างเดียว
จริงๆแล้วเงินลูกค้าคนไหนก็ไม่รู้ทำร่วงไว้ แต่ตกร่วงอยู่นานแล้ว คนมาซื้อของก็ผ่านไปผ่านมาเตะเงินไปมา ป้าเจ้าของร้านส้มตำมองเห็นอยู่นานแล้ว เพียงแต่รอดูว่าใครจะเป็นคนเก็บมันขึ้นมา ... ::)(ปัจจุบันหลานบวชเณรมาแล้ว 6 ปี ยังไม่สึกเลย)
คล้ายกันมั้ยครับ เพียงแต่ครั้งนี้ของชิ้นนั้นมันมีสิ่งห่อหุ้มอยู่..
ถ้าจะให้เดา สังคมการมองโลกในแง่ร้าย และความเห็นแก่ตัวนั่นแหล่ะที่ทำให้คนหลายๆคนเปลี่ยนไป มันอยู่ที่เราจะเปลี่ยนตัวไปกับสังคมรึป่าว
...
เรื่องคุณแม่น้องฮีโร่ ... ได้ฟังข่าวแล้วยังชื่นชมเลยครับ ... การที่เค้าจะช่วยเหลือใคร ผมว่าเค้าคงมองแล้วว่าสามารถทำได้ หากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด เค้าก็ต้องพร้อมที่จะรับความเสี่ยงไปเอง ... ผมเองก็ไม่ทราบว่าใครจะก่นด่าในกรณีอย่างนี้บ้าง แต่เข้าทำนองว่า มือไม่พายก็อย่าเอาเท้ามาราน้ำ 8)
-
ผมสรุปง่ายๆ เลยนะครับ
ผมชื่นชมในการกระทำของเขานะครับ
แต่ถ้าผมเป็นสามี หรือญาติ
ผมไม่ปลื้มครับ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา สามีจะคิดยังไงละครับ ลูก เมีย ไปพร้อมกันหมดเลยหรือครับ?
มันไม่มีอะไรผิดหมด หรือถูกหมดหรอกครับ มันขึ้นกับมุมมอง
-
จริงๆเรื่องคุณแม่น้องฯ ที่เป็นพลเมืองดีเขาก็ขับรถตาม และช่วยประสานงานให้ตำรวจ
ไม่ได้ขับรถไปปาดหน้ารถคนร้าย หรือขับไปโฉบรถคนร้ายสักหน่อย
ไม่เห็นจะต้องไปด่าเลยว่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยง
คนสมัยนี้มองด้านลบก่อนที่จะมองความดีของคนอื่น >:(
-
เราต้องยึดมั่นกับคำว่าความดีครับไม่งั้นสังคมจะอยู่ลำบากมากขึ้นครับ หลายๆกรณีที่คนทำความดีแล้วเป็นเรื่อง
เข้าตัวซะงั้น หลายคนต้องพิการก็มีทั้งๆที่ไม่ต้องทำก็ใด้แต่...เขาทำ
ที่สำคัญคือมันอยู่ที่เจตนาด้วยถ้าเราเจตนาดีซะอย่างก็ไม่ต้องกลัวครับ อย่างเช่นของหายแล้วใด้คืนมันเหมือนถูกหวยเลยนะครับ
บางครั้งสิ่งที่เขาทำหายอาจเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิต ความเป็นอยู่ของเขาหรือคนในครอบครัวก็ใด้
ปล. 1. ดีที่ยังมีคนแบบคุณอยู่
2. "เจ้าของตัวเล็กๆขาวๆเสียงเล็กๆหวานๆหน้าตาน่ารักน่าลุ้นซะด้วย อิ๊ๆๆๆ" เห็นเจ้าของแล้วไม่อยากคืนเลยใช่ใหมครับ ;D ;D อยากเก็บใว้ดูนานๆ
-
ทำดีไม่ต้องเดี๋ยว เห็นว่ามันดีหรือถูกต้องแล้วก็ทำเลย
ใครจะว่าแกมันบ้า เอ็งจะเสี่ยงตายทำไม แต่ผมว่าอย่างน้อยคนบ้านั้นก็มีความกล้ามากกว่าคนที่พูดนะครับ
ความกล้าทำดี เป็นสิ่งที่อยากให้มีกันเยอะกว่านี้ครับ
ป.ล.ความคิดเห็นผมอาจไม่ถูกใจความคิดหลายๆท่าน แต่ผมอยากเตือนสติคนให้ทำดีมากขึ้นเท่านั้นเองครับ
-
ทำดีกันก่อนจะสาย ตายไปแล้วไม่มีประโยชน์ครับ
-
สำหรับผม ผมไม่รีรอที่จะทำความดีเลยครับ ไม่ได้คิดว่าเราจะได้หรือเสียอะไรจากการทำดี รู้แต่ว่าเวลาทำความดีแล้วมันรู้สึกสบายใจก็ทำครับ อย่างล่าสุดที่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติ คนที่กำลังฝากเงินหน้าผมทำแบงค์พันหล่น ผมก็เก็บทันทีและส่งให้เค้า บอกเค้าว่าเงินเค้าหล่น คนอืนมองผมก็ไม่สนใจหรอกครับว่าเค้าจะมองชื่นชม หรือมองด้วยความรู้สึกอย่างอื่น เพราะผมดีใจที่เจ้าของเค้าได้เงินคืนครับ ;D
-
เกิดมา หางานดีๆทำ มีครอบครัว หาเงิน ปฏิบัติตามกฏหมาย
แค่นี้มันไม่คุ้มหรอก ต้องทำดี เพื่อคนอื่นบ้าง ยอมเสียสละบ้าง
แต่เดี๋ยวนี้ ........ ??? ??? มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองทำงานรอเงินเดือนแค่เนี้ย......
-
ขอชื่นชมในความกล้าทำดีของคุณครับ ทำดีไปเถอะครับ ใครไม่รู้ไม่เห็นก็ช่าง อย่างน้อยเรารู้อยู่แก่ใจเราเองว่าเราทำอะไรอยู่ก็พอครับ
โดยส่วนตัวมีความคิด (รวมถึงการกระทำด้วย) ว่า ถ้ามีโอกาสทำดีได้ก็จะทำทันที ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะตัวเรารู้ดีที่สุด เราทำดีแล้วสบายใจ ก็ดีกับเรา ถ้าเราทำดีแล้วมัวแต่คิดว่า จะมีใครเห็นใครรู้ไหมหนอ เราก็คงทุกข์ ทุกข์เพราะกังวลว่าจะมีใครรู้หรือเปล่า
-
คนที่คิดว่าจะทำดีแล้วไม่ทำเพราะคิดว่าได้ไม่คุ้มเสีย ก็คือคนที่เห็นแก่ตัว
ซึ่งความเห็นแก่ตัวมีอยู่ในทุกคนอยู่แล้ว จะมากจะน้อยก็แล้วแต่บุคคล รวมถึงผมด้วย
บางคนบอกว่าเพราะสังคมเป็นแบบนี้ กลัวเก็บกระเป๋าแล้วเจอระเบิดเจอยัดยาบ้า เลยไม่มีใครกล้าทำความดี......อยากถามย้อนกลับว่า เพราะสังคมทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ หรือเพราะเราทำให้สังคมของเราเป็นแบบนี้กันแน่ สรุปเพราะสังคม หรือเพราะเรากันแน่
เรื่องได้ไม่คุ้มเสีย อยากให้มองกันลึกๆ กรณีที่คุณแม่ต้งท้อง ผมว่าโครตคุ้มเลยหละ อย่ามองแค่ว่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเงินไม่เท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นๆ ที่คิดจะทำดีกล้าทำดีมากขึ้น (คนดีถ้าแค่คิดว่าจะทำดีแต่ไม่ทำก็ไม่ได้เรียกว่าคนดีหรอกครับ ) แล้วลองคิดดูที่เดี๋ยวนี้ขโมยโจรมันเยอะขนาดนี้เพราะคนที่คิดจะทำดีแต่ไม่ทำพวกคนไม่ดีมันคิดแล้วมันทำแล้วก็สำเร็จมันก็ได้ใจกันใหญ่แล้วมันก็มาสร้างปัญหาให้พวกที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีนี่แหละ นี่ถ้าพวกคิดจะทำดีทั้งหลาย เห็นอะไรที่ไม่ดีช่วยกันเป็นหูเป็นตาช่วยเหลือกันพวกโจรมันก็จะน้อยลง ผลประโยชน์มันก็จะตกอยู่กับสังคมของเรานี่แหละ ผมว่าโครตคุ้มเลย
-
ตอนแม่ผมท้องพี่7เดือนเอาโฟล์คในตอนนี้ขับไล่ทับคนร้ายข่มขืนครับ เห้นกำลังจะกระทำจะๆเลยไล่บี้มันซะแทบตาย ฮ่าๆๆๆ ;D