Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: BnN ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2009, 18:39:07
-
พอดีวันนี้เพิ่งได้น้ำมันเครื่องมาจากคุณป้า เบ็ดเสร็จรวมแล้ว สามแกลลอนใหญ่ (4ลิตร)
แล้วก็หกแกลลอนเล็ก (1ลิตร) สรุปแล้วเยอะมากเลยครับ
แล้วมันมีบางแกลลอนที่ผลิตมารวมอายุถึงวันนี้ก็ 1 ปีเศษๆแล้ว
เลยอยากถามว่า น้ำมันเครื่องที่เก็บอยู่ในแกลลอนเฉยๆโดยไม่ได้เอาออกมาใช้ ยังไม่ได้แกะนี่
จะมีอายุอยู่ได้นานขนาดไหน แล้วจะหมดอายุหรือเปล่าครับบบบ (ฟังดูเหมือนนมเนาะ)
:)
-
ถ้าไม่เคยแกะมาก่อน ก็สามารถเปิดใช้ได้ ครับ
แต่ถ้าแกะมาแล้ว และเก็บไว้ 1 ปี ก็อย่าใช้เลย
มีวันหมดอายุเหมือนกัน แต่ จะเรียกว่าเป็นการเสื่อมคุณภาพลงไปมากกว่า
-
น้ำมันเครื่องใหม่ๆที่พวกเราไปเติมกันตามอู่บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันเก็บมา 2 ปีแล้วด้วยซ้ำ
แต่ขึ้นอยู่ด้วยว่าเราจะเอาไปใส่ในรถที่ถูกขับแบบไหน? เบนซ์คันเก่าพี่ใส่ Castrol Magnatec
ตอนนั้น ใส่อยู่ 2 ปี เพราะน้ำมันแพงเลยวิ่งแค่ 10,000 กว่าโลใน2ปี
มันก็ไม่มีปัญหา เสียงเครื่องไม่แปร่ง แรงดันอยู่ครบทุกเม็ด นี่คือ 2 ปีในเครื่องยนต์ฉะนั้น
2 ปีบนหิ้งภายในภาชนะที่ปิดสนิท..สบม. สบายมาก
นั่นคือข่าวดี ข่าวที่ยังไม่แน่ใจว่าดีหรือไม่ดีคือจากรูปน้ำมันที่เธอมีอยู่นั้นพี่ไม่แน่ใจว่าอันไหน
จะเหมาะเติมดีนะ Mobil1 นั่นน่ะใช้ได้ แต่ตัวนั้นความหนืดมัน 50
ทีนี้เจ้า SR18เราน่ะวิ่งมากี่โลแล้ว ถ้าวิ่งมาเกิน 150,000แล้วก็เอาเลย ใช้ได้
แต่ถ้าวิ่งมาไม่กี่หมื่น ใส่แล้วมันค่อนข้างจะหนืดไปหน่อยนะ ถ้าได้ 40 กำลังดี
ส่วน PTT Dynamic นั่นเอาไว้เติมเครื่องดีเซล จริงๆมันก็ใช้ได้กับเครื่องเบนซินนะ
เพียงแต่คุณสมบัติบางอย่างไม่ลงตัว น้ำมันเครื่องดีเซลทำมารับกับเครื่องที่หมุน 4000รอบ
มาเจอ 7000 รอบพี่ว่าไม่ค่อยงาม ขนาดน้ำมันเครื่องเบนซินตัวท้อปของค่ายนี้
เอาไปเติมในรถเบนซินที่หมุน 8000 รอบยังไม่น่าไว้ใจ..9000รอบ พังคาสนามมาแล้ว
ส่วน Havoline Energy ลองดูหน่อยว่าความหนืดมัน 40 ได้ไหม ถ้า 30 ล่ะก็อย่าเติม
ปั๊มน้ำมันเครื่อง SR sensitive for real! ถ้าน้ำมันใสไป แรงดันจะต่ำ ไม่เหมาะ
และปั๊ม SR ก็ไม่ได้เก่งเรื่องสร้างแรงดันที่พอเหมาะพอควรนัก
ถ้าไม่มีอันไหนเหมาะสม แนะว่าน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์เกรดที่น่าไว้ใจ มันก็แค่700กว่าบาท
อย่าได้เสียดายของ จัดไปให้อย่างเหมาะสมจะอารมณ์ดีจนวันถ่าย
-
ขอบคุณมากครับบบบพี่เช็ง และพี่จิม
เดี๋ยวกล้วยไปถามพ่อก่อนแล้วกันว่าเครื่องนี่วิ่งมากี่กิโลแล้ว
จะได้เลือกน้ำมันที่เหมาะสม
;D
-
ลองโอลีนสิ ไม่เป็นไขด้วย
-
องุ่น ดีสุด!! คิคิ
------------------
ผู้เกิน เช็ง
จะบอกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเปลี่ยนน้ำมันยเครื่องให่มันหนืดขึ้น แม้ว่าจะวิ่งไปเยอะแล้วก็ตามนะ
เดิม ใช้เบอร์ 40 มา ก็ให้ใช้ 40 ไปอย่างนั้น ไม่ต้องไปเปลี่ยนเลยเชียว
-
แต่ผมว่าจำเป็นนะ
ช่องว่างระหว่างลูกสูบเวลาวัดความห่างยังวัดกันด้วยความหนาแค่กระดาษแผ่น
ฟิล์มน้ำมันเครื่องกับปั๊มน้ำมันเครื่องเมื่อเวลาผ่านไปปัจจัยความสึกหรอในตัวเครื่องทุกอย่างมีเปลี่ยนแปลงหมด
ไม่งั้นลองหารถยุค 90 ที่วิ่งมา 300,000โลสักคันแล้วเติมน้ำมันหนืด 30 แล้วซัดดู
ติด Oil Press. ไว้ดูแค่นั้นก็รู้เรื่องแล้ว ที่เรารู้สึกว่ามันไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ
แรงดันน้ำมันกับอุณหภูมิของน้ำมันอยู่ตรงหน้า ถ้าเห็นแล้วจะทราบเลยว่าเลือกเกรดน้ำมันมาผิดแล้ว
ความจำเป็นในการเลือกเกรดน้ำมันให้ถูกยังคงมีอยู่ เพียงแต่เครื่องยนต์ทุกวันนี้มีขั้นตอนการสร้างที่ดีกว่า
ทำให้เมื่อก่อนที่เราเชื่อกันว่าครบแสนโลต้องเติมหนืด 50 มันเปลี่ยนไป เครื่องยุคใหม่นี้แสนโลเติมหนืด 30
ยังได้ แต่ถ้ามีโอกาส 40 มันคือเกรดกลางที่ใช้ได้กับเครื่องหลากอายุมากๆ
และเรากำลังพูดถึง SR18อายุ 15-17ปี เป็นเครื่องยุค 90 ไม่ใช่ HR16
-
แล้วถ้าเครื่องอายุ 20 กว่าปีอย่างผมล่ะครับ เติม Mobile 1 W50 ได้มั้ย
-
จะบอกว่า ถ้าให้เอารถอายุแบบนั้น มาเติม 30 ยังไง ก็อาจมีปัญหาได้อยู่แล้ว
คือ พี่กำลังบอกว่า รถเนี่ย ถ้าเดิม เติมยังไงมา เติมความหนืดเท่าเดิมไปจะดีกว่า
และ เห็นด้วยว่า 40 คือค่้า่กลาง แต่ในกรณีของกล้วย เราไม่รุ้ว่า เดิม เขาเติมความหนืดเท่าไหร่มาอยู่
เครื่องของรถยนต์ตั้งแต่ ยุคใหม่ๆ เป็นต้นมา พวกที่ใหม่กว่า ตระกูล VG ของนิสสัน หรือ G ของ โตโยต้า
พี่ว่าเทคโนโลยีด้านโลหะมันก็ดีขึ้นมากเพียงพอจะให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดเดิมมาตั้งแต่ออกโรงงานแล้วนะ
อย่างของบ้านพี่ เติมเกรด 40 มาตลอด ก็ใช้ไปตลอด จน โอเวอร์ฮอลล์เครื่อง
ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร จะมี ก็มีในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับพวกเสื้อสูบหรือห้องเผาไหม่้
-
1. เรื่องโลหะเทคโนโลยีของเครื่องรุ่นใหม่ ทราบแล้ว แล้วถ้าอ่านดีๆ ก็เขียนไว้ข้างบนแล้วว่าแสนกว่าๆยังใช้หนืด30ได้
2. รถเดิมเติมมายังไงก็เติมไปอย่างนั้น ถ้าหมายถึงโรงงานบอกมาให้เติม 30 ก็ใช้ 30 อันนี้ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าหมายถึงว่าถ้ากล้วยเติม 40 อยู่แล้ว ก็ให้ใช้ 40 ต่อไป เพราะเป็นค่ากลางที่เซฟที่สุด อันนี้เห็นด้วย
3. คนเติมเกรด 40 มาตลอด ใช้ไปตลอดจนโอเวอร์ฮอลเครื่องก็ไม่เห็นปัญหาอะไร คนเติมเกรด 50 ใช้ไปตลอดจนโอเวอร์ฮอล์ก็ไม่เห็นปัญหาอะไรเหมือนกัน เพราะต่างคนก็ต่างวิ่งมานานหลายแสนโลจนรู้สึกว่ามันถึงเวลาโอเวอร์ฮอล์ของมันเอง เลยไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา แต่ถ้ามีคนสองคนซื้อรถพร้อมกัน อีกคนนึงใช้ 40 อีกคนใช้ 50 พอสี่แสนโล ไอ้คนใช้ 40 โอเวอร์ฮอลล์เครื่องแล้ว ไอ้คน 50 ยังวิ่งปกติควันไม่ขาว เมื่อนั้นแหละถึงจะเห็นว่ามันเป็นปัญหา ซึ่งโอเค นี่มันก็แค่เคสตัวอย่างที่ผมลองกับเครื่อง 4A-FE เครื่องอื่นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้มั้ง
-
ครับผม
-
ครับผม
และขอเสริมด้วยว่าฝ่าตรีนระดับลิงตีฉาบอย่างของกล้วย
ควรใช้น้ำมันเครื่อง Torco ซะเลยจะได้ชัวร์
เอาไหมไอ้กล้วย เมื่อวานพี่ไปเจอมา ลิตรละพันกว่าๆเอง..555
ปล. จริงๆไม่ต้องล่อของแพงขนาดนั้นหรอก เคยเล่าให้กล้วยฟังแล้วว่ามีน้ำมันที่ถูกกว่านั้นแล้วใช้ได้เหมือนกันด้วย ว่างๆมาเอาพี่ได้
-
ถามพ่อมาและ
พ่อบอกว่าปกติก็ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 40 แหละ
แต่เลขจำนวนที่วิ่งของเครื่องนี้มาไม่รู้ว่าเท่าไหร่ละ
เดี๋ยวดูอีกที ฮ่าๆๆๆ
ถ้าเกิดว่ามันถึงแสนห้าแล้วก็เดี๋ยวลองแนะให้พ่อเติม Mobil1 เบอร์ 50 ดูดีกว่า
ปล. ระดับลิงตีฉาบนี่มันหมายฟามว่ายังไง ฮึ???
-
จะให้พี่อธิบายจริงๆเหรอ?
ต้องเรียกคนอื่นเค้ามาเห็นคุณตีฉาบดีกว่า จะได้ฮากันหลังหัก
ส่วนน้ำมัน ถ้ามัน 40 อยู่แล้วก็โอเคนะ เครื่องมาจากญี่ปุ่น แล้วมาวิ่งในไทยได้กี่โลอันนั้นเดี๋ยวก็คงรู้
แต่ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ไม่เป็นไรนะ ลองใส่ 50 ดูก็ได้ ถ้าเครื่องเงียบลงก็อาจจะเป็นไปได้ว่าพวก
ลูกถ้วยไฮโดรลิคกับของต่างๆภายในเครื่องมันทำงานได้ดีขึ้น แต่เตือนไว้ก่อนว่ามันอาจจะกินน้ำมันขึ้นนะ
ถ้าใส่แล้วกินขึ้นเป็น 1-2กิโลลิตร (ไม่น่าจะขนาดนั้น) ก็ให้เปลี่ยนกลับมาใช้ 40
-
เออๆไม่ต้องอธิบายก็ด้ะ
อายชาวบ้านเค้า
-
ก๊ากกกกกกกกกกกกก
เคสของกล้วย พี่ยังยืนยันว่า ใส 40 ต่อไป ดีแล้ว ไม่ต้องไปเพิ่มเป็น 50 หรอก
-
ding dong