Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YIM ที่ เมษายน 20, 2011, 21:02:32
-
ผมสงสัยมานานแล้ว หลายคนจะบอกว่า Honda Legend มันไม่ได้เรื่อง เพราะไม่มีรุ่นขับหลัง แต่ทำไมไม่เคยมีใครบ่น Audi ละครับ
ทั้ง Audi 80/A4
Audi 100/A6/V8/A8
มันก็พัฒนามาจากรถเล็กขับหน้าเครื่องมอเตอร์ไซค์อย่าง DKW F102 ทั้งนั้น ในขณะที่ Honda ก็พัฒนามาจาก Honda N ซึ่งเป็นรถเล็ก เครื่องมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน
แต่ทำไมมีแต่คนนืนทา Legend ไม่เห็นมีใครนินทา Audi ละครับ ทั้งที่มันก็คล้ายๆ กัน Audi ในยุคหลัง Auto Union ก็ไม่เคยทำรถขับหลังเลย แต่คนก็ยอมรับมันในตลาด premium
-
Legend ขับสี่ไม่ใช่หรอครับ ?
-
Legend ขับสี่ไม่ใช่หรอครับ ?
จำได้ว่าเป็น SH-AWD นี่ครับ
-
audi นี่ถึงจะขับหน้าแต่เครื่องนี่ยังวางตามยาวเหมือนรถขับหลัง แถมระบบขับ4quattroยังดังเกินหน้าเกินตาระบบขับ4ของยี่ห้ออื่นไปไกล
และที่สำคัญคือความเป็นรถพรีเมียมแบรนด์เยอรมันย่อมได้รับการยอมรับและไว้วางใจมากกว่ารถญี่ปุ่นแน่นอนครับ
-
เพราะ audi offer ขับสี่ทุกรุ่นไงครับ
-
Legend รุ่นแรกๆ เป็นขับหน้าครับ
ที่สำคัญ Legend ตั้งแต่ Gen 3 ก็เครื่องวางตามยาวครับ เหมือนกับ Vigor รุ่นที่ 3
ที่ทำ SH-AWD ก็เพื่อลบคำสบประมาทที่ว่าเป็นรถขับหน้านี่ละครับ
ต่างกันแค่สัญชาติ ไม่ยุติธรรม อย่างนี้เขาเรียก racism :'(
-
ที่ว่า Legence กันเยอะเพราะว่ามันไม่มีขับหลังยี่ห้ออื่นเค้ามีทั้งหลังและขับสี่
ส่วน Audi ขับหน้าจริงแต่เทคโนโลยีดีกว่ามากและถ้าแฟน Audi เค้าไม่ซื้อขับหน้ากันหรอกครับต้อง Quattro ครับ
-
จริงๆแล้ว ออดี้ใช้ระบบขับสี่ลุยตลาดเป็นหลักครับ สังเกตดูว่า รถทุกเซกเมนต์ของเขา จะมีรุ่นท๊อปเป็นควอโตรเสมอ
ส่วนฮอนด้าน่ะเหรอ รุ่นท๊อปแทบหาระบบขับสี่ไม่เจอ
อีกอย่างนึงออดี้ใช้แพลทฟอร์มร่วมกับเครือโฟล์ค จึงประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ ก็เลยมีเงินไว้ยัดออพชั่นหรือโฆษณาได้เยอะหน่อย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ออดี้เป็นแบรนด์ที่ทำกำไรที่สุดในเครือโฟล์คนะครับ
-
ก็นี่แหละครับ เหตุผลที่รถญี่ปุ่นต้องมีพรีเมี่ยมแบรนด์ของตัวเอง
acura infinity หรือ lexus เอง เกิดขึ้นมาเพราะอยากตอบโจทย์ตรงนี้
โดยเฉพาะสินค้าอย่างรถยนต์ ผมว่าผู้บริโภคใช้ทัศนคติตัดสินใจ
มากกว่าใช้เหตุผลเชิงตรรกะ นะครับ
จริงๆระบบ awd honda มันอาจดีกว่า Quattro audi ก็ได้ครับ
แต่ "คนหมู่มาก" เค้าไม่คิดอย่างนั้น นั้นแหละคืิอปัญหาครับ :D
-
เพราะ audi offer ขับสี่ทุกรุ่นไงครับ
quattro นี่ชื่อเสียงถีงกับดีเกินหน้าตา xDrive และ 4Matic ด้วยหรือเปล่าครับ
-
เพราะ audi offer ขับสี่ทุกรุ่นไงครับ
quattro นี่ชื่อเสียงถีงกับดีเกินหน้าตา xDrive และ 4Matic ด้วยหรือเปล่าครับ
3 ยี่ห้อนี้ถ้าขับ 4 ผม นึกถึงออดี้ก่อนครับ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นตามนี้
-
ตำนานที่ไม่มีตัวตน อย่าง Legendหรือคะ??
ถ้าริงโกะว่ามัน คือ Accord ตัวหรูสุดยังพอดูได้ค่ะ เพราะไม่มีอะไร ที่บ่งบอกความหรูหราเลยสักนิด
ทุกรุ่นที่ผ่านมา บอกตรงๆ ว่าไม่ได้ออกแบบสำหรับคนนั่ง เหมาะที่จะขับเองเสียด้วยซ้ำ
จริงๆ ฮอนด้า ต้องการอยากให้รถตัวเองเป็นรถธง ถึงขนาด แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกับ MG Rover เพราะเจ้า นั้นทำรถหรูแนวผู้ดีอยู่แล้ว
สรุป ฮอนด้าเก่งแต่รถเล็ก ส่วนโรเวอร์ไม่มีเงินทุน
เจ็งกระบ๊งค่ะ....
-
คิดได้ไงเอา Quattro ระบบขับเคลื่อนอันเลื่องชื่อและตำนานที่มีประวัติศาสตร์ของ Audi มาเทียบกับ Honda ครับ
รถมันคนละชั้นกัน
อย่าเอารถที่เค้าพยายามคิดค้นระบบขับเคลื่อน quattro อย่างยากลำบาก ผ่านบทพิสูจน์มายาวนาน
ทั้งในสนามแรลลี่โลก และสนามแข่งต่างๆมากมาย
Quattro นี่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Audi เลย คิดถึงขับ 4 full time ก็นึกถึง quattro เลยลำดับแรก
เอามาเทียบกับระบบขับ 4 ของฮอนด้า ที่พัฒนาเพียงแค่สนองตลาดเท่านั้น ได้ไงครับ
รถที่ออกมาจากจิตวิญญาณนักขับ (ไปหาอ่านเรื่องราวการพัฒนา Quattro ในหนังสือ car หน้าปก 30 years of Audi Quattro ได้ครับ)
กับ รถที่ทำมาเพียงเพื่อตอบสนองต่อตลาด มันต่างกันนะ
เฮ้อ...
คิดได้ไงอ่ะ เดี๋ยวก็เทียบเบนซ์ เดี๋ยวเทียบ BMW เดี๋ยวเทียบ Audi มีคัวตนของตัวเองบ้างมั้ยเนี่ย ยี่ห้อนี้ >:(
-
น่าเสียดายที่ Honda ไม่ทุ่มสุดตัวเหมือนกับตอนที่ Toyota ทำ Project F1 (LS) ตอนนั้น Toyota เล่นทุ่มแบบงบไม่อั้น เพื่อสร้าง platform ใหม่ แต่น่าเสียดายที่ Honda ทำ Legend ขึ้นมาโดยเอารถที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุง ผลก็คือพอมันแปะตรา Acura แล้ว คนกลับแยกไม่ออกว่ามันต่างจาก Honda ถูกๆ ยังไง (คล้ายกรณี Lexus ES)
แต่เอาเถอะครับ ก่อนโลกจะแตก ผมขอเห็นชาวโลกสรรเสริญว่ารถญี่ปุ่น เทียบเท่ารถเยอรมันสักครั้งก็พอใจแล้ว
-
เพราะ audi offer ขับสี่ทุกรุ่นไงครับ
quattro นี่ชื่อเสียงถีงกับดีเกินหน้าตา xDrive และ 4Matic ด้วยหรือเปล่าครับ
quattro มันผ่านการพิสูจน์ตัวเองในสนามแรลลี่โลกและสนามแข่งมาอย่างยาวนานครับ จะว่าไปมันคือหน้าตาของ Audi เลยก็ว่าได้
ใครที่อยากจะลองรถยี่ห้อ Audi ก็อยากจะได้ระบบนี้มาใช้กับรถตัวเองทั้งนั้น ถ้างบถึงนะ
4matic จริงๆ เบนซ์เก่าๆ บางรุ่นที่อายุน่าจะเกิน 20 ปีไปหลายขุม ก็เห็นมีแปะอยู่ท้ายๆ แต่ไม่ใช่แฟนเบนซ์ไม่ทราบครับ
ส่วน xdrive ของ bmw ผมพึ่งสังเกตุว่าเค้าใช้ชื่อนี้ก็ตอนที่เริ่มทำ suv นะ แต่อันนี้ไม่ชัวร์
-
Quattro มันเป็นเรื่องของทั้งโชค และจินตนาการ และความมานะด้วยละนะ
มันเป็นเหมือนกับที่ Newton รู้ว่าโลกมีแรงดึงดูด เพราะมีแอปเปิ้ลหล่นนั่นแหละ
มีคนๆ หนึ่ง พบว่า VW Iltis ซึ่งเป็นรถตรวจการขับเคลื่อน 4 ล้อ วิ่งบนหิมะได้เร็วกว่ารถชนิดอื่น จึงนำมาพัฒนาเป็น Ur-Quattro
สำหรับผม มันไม่ใช่ "รถที่มาจากจิตวิญญาณของนักขับ" เสียทีเดียว สำหรับผม Quattro มันก็เหมือน GT-R หรือ Veyron
เป็น "เป้าหมายอันบ้าคลั่งของวิศวกร" มากกว่า ตัว Quattro ตอนที่ออกมานั้น มีแต่คนหาว่าบ้า เพราะบอกว่า AWD มันหนัก ไม่เหมาะจะเอาไปทำรถแข่ง แต่ผลที่ออกมาก็คือ ใน Group B Rally ไม่มีใครตามมันทัน จากนั้นทุกคนที่จะลงแข่ง WRC ต้องทำ AWD ออกมา (Mercedes 190E ตอนแรก จะลงแข่ง Group B เหมือนกัน แต่รู้ว่าสู้รถ AWD อย่าง Quattro ไม่ได้ ก็เลยหนีไปทางเรียบแทน)
Audi เป็นยี่ห้อที่มีรถน่าสนใจหลายรุ่น รถขับหน้าของ Auto Union/DKW ที่ต่อมาเป็น Audi อย่าง Auto Union 1000 กับ DKW F102 ซึ่งเป็นรถขับหน้า เครื่อง 2 จังหวะ ถือเป็นรถขับหน้าที่ผลิตจำนวนมากในยุคแรกๆ (ไม่นับพวก Citroen หรือ Cord นะ) ซึ่งต่อมา มันก็พัฒนาเป็น Audi 80 และ VW Passat และกอบกู้ VW จากการสูญพันธุ์ไปกับรถเครื่องวางหลังที่หมดอนาคต และ 80 นี่เอง ที่กลายเป็น Coupe/Quattro, A4, S4 ในเวลาต่อมา
หลายคนพอพูดถึง Audi มักจะนึกถึง Quattro แต่สำหรับผม Quattro มันเป็นเพียงผลงานที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองตลาดหนึ่งๆ ซึ่งต้องการรถที่มีสมรรถนะดี หรือ motorsport เท่านั้น แต่ในแง่การตลาดแล้ว หลายคนอาจจะลืมไปว่า ถ้าไม่มี platform ขับหน้าของ Audi, VW ก็คงจะลงโลงไปกับ Type 3 และ Type 4 ไปตั้งแต่ 40 กว่าปีที่แล้วครับ
-
Quattro มันเป็นเรื่องของทั้งโชค และจินตนาการ และความมานะด้วยละนะ
มันเป็นเหมือนกับที่ Newton รู้ว่าโลกมีแรงดึงดูด เพราะมีแอปเปิ้ลหล่นนั่นแหละ
มีคนๆ หนึ่ง พบว่า VW Iltis ซึ่งเป็นรถตรวจการขับเคลื่อน 4 ล้อ วิ่งบนหิมะได้เร็วกว่ารถชนิดอื่น จึงนำมาพัฒนาเป็น Ur-Quattro
สำหรับผม มันไม่ใช่ "รถที่มาจากจิตวิญญาณของนักขับ" เสียทีเดียว สำหรับผม Quattro มันก็เหมือน GT-R หรือ Veyron
เป็น "เป้าหมายอันบ้าคลั่งของวิศวกร" มากกว่า ตัว Quattro ตอนที่ออกมานั้น มีแต่คนหาว่าบ้า เพราะบอกว่า AWD มันหนัก ไม่เหมาะจะเอาไปทำรถแข่ง แต่ผลที่ออกมาก็คือ ใน Group B Rally ไม่มีใครตามมันทัน จากนั้นทุกคนที่จะลงแข่ง WRC ต้องทำ AWD ออกมา (Mercedes 190E ตอนแรก จะลงแข่ง Group B เหมือนกัน แต่รู้ว่าสู้รถ AWD อย่าง Quattro ไม่ได้ ก็เลยหนีไปทางเรียบแทน)
Audi เป็นยี่ห้อที่มีรถน่าสนใจหลายรุ่น รถขับหน้าของ Auto Union/DKW ที่ต่อมาเป็น Audi อย่าง Auto Union 1000 กับ DKW F102 ซึ่งเป็นรถขับหน้า เครื่อง 2 จังหวะ ถือเป็นรถขับหน้าที่ผลิตจำนวนมากในยุคแรกๆ (ไม่นับพวก Citroen หรือ Cord นะ) ซึ่งต่อมา มันก็พัฒนาเป็น Audi 80 และ VW Passat และกอบกู้ VW จากการสูญพันธุ์ไปกับรถเครื่องวางหลังที่หมดอนาคต และ 80 นี่เอง ที่กลายเป็น Coupe/Quattro, A4, S4 ในเวลาต่อมา
หลายคนพอพูดถึง Audi มักจะนึกถึง Quattro แต่สำหรับผม Quattro มันเป็นเพียงผลงานที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองตลาดหนึ่งๆ ซึ่งต้องการรถที่มีสมรรถนะดี หรือ motorsport เท่านั้น แต่ในแง่การตลาดแล้ว หลายคนอาจจะลืมไปว่า ถ้าไม่มี platform ขับหน้าของ Audi, VW ก็คงจะลงโลงไปกับ Type 3 และ Type 4 ไปตั้งแต่ 40 กว่าปีที่แล้วครับ
เห็นด้วยครับ
-
น่าเสียดายที่ Honda ไม่ทุ่มสุดตัวเหมือนกับตอนที่ Toyota ทำ Project F1 (LS) ตอนนั้น Toyota เล่นทุ่มแบบงบไม่อั้น เพื่อสร้าง platform ใหม่ แต่น่าเสียดายที่ Honda ทำ Legend ขึ้นมาโดยเอารถที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุง ผลก็คือพอมันแปะตรา Acura แล้ว คนกลับแยกไม่ออกว่ามันต่างจาก Honda ถูกๆ ยังไง (คล้ายกรณี Lexus ES)
แต่เอาเถอะครับ ก่อนโลกจะแตก ผมขอเห็นชาวโลกสรรเสริญว่ารถญี่ปุ่น เทียบเท่ารถเยอรมันสักครั้งก็พอใจแล้ว
GT-R ไงครับ