Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 15:57:37

หัวข้อ: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 15:57:37
รถน้ำ กทม. กำลังจอด ดูดน้ำขึ้นแทงค์หลังรถอยู่

ทันใดนั้นก็มีรถมาชนท้าย

คนขับรถที่ชนท้ายยอมรับว่าหลับใน ไม่ได้เบรคก่อนชน




ความเห็นเจ้าของกระทู้ "สำหรับความปลอดภัยผมว่าใช้ได้เลยนะ"

(http://image.ohozaa.com/i/b7d/image0623.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=88b49c9d6e28d0b047c42900874717b6)


หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 15:59:32
มาเต็มไม่เบรคก่อน เหมือนการ ทดสอบการชนชื่อดังทั้งหลาย

(http://image.ohozaa.com/i/1d6/image0624.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=454f5061a645ee52d4ebae1267a9c861)

ปล.มาeditเพราะลืมใส่รูป
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ เมษายน 22, 2011, 16:01:38
มีรูปเยอะกว่านี้มั้ยครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 16:02:09
ตรงข้ามกับ มุม ภาพก่อนหน้า

(http://image.ohozaa.com/i/ddc/image0625.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=d173020816c2dcdb2cc0df47307ff230)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 16:03:53
ประตู ที่เหลือสามารถเปิดได้ตามปรกติ
(http://image.ohozaa.com/i/a3b/image0627.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=a66ed9db1b1c1bc3caacd0b21e14b283)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 16:09:26
มีไว้ดีกว่า ไม่มี จริงๆ
ไม่ต้องกังวลว่า ชนไม่ตรงเซ็นเซอร์
(http://image.ohozaa.com/i/3d1/image0629.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=2d052fec7f4cf6872b18fd8bbeeba2ec)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 16:11:32
คานบนใหญ่ รถจอดอยู่

คานล่างเล็กว่า วิ่งเข้าหา

(http://image.ohozaa.com/i/ebf/image0631.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=9e96e88acc52a5b9fe27f34f7243406f)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 16:15:44
แถม....... (รูปสุดท้ายของวันนี้)
(http://image.ohozaa.com/i/48c/image0628.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=39234f8dd323f16031ac0ef64702946e)

หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ เมษายน 22, 2011, 16:18:14
เจ๋งดีครับ ชักหลงรักน้องมีนามากขึ้นมากกว่าเดิมอีกเห็นแบบนี้ ;D

ทดสอบการชนกลางเมือง ขอให้คนขับไม่เป็นอะไรมากนะครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ เมษายน 22, 2011, 16:25:43
โอ้ รถยังผ่อนไม่หมดเลย เอาซะแล้ว

สงสารเจ้าของรถครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Air_graphic ที่ เมษายน 22, 2011, 16:27:25
มาเต็มนี่มาเท่าไรพอจะทราบมั้ยครับ

เพราะคนรู้จัก เอาแจ็สไปเหินน้ำข้ามเกาะไปขวางถนนอีกด้าน เป็นย่านชุมชน
แล้วมาร์ชอีกฝากวิ่งเข้ามาอัดข้างแจ้สเต็มๆ คนรู้จักกระดูกคอเคลื่อน
มาร์ชนั่งมา3คน ถุงลมทำงาน แต่หน้ารถทั้งคอนโซลยุบเข้าหาตัวผู้ขับ
จนผู้ขับมาร์ช และผู้โดยสารเบาะหน้า เสียชีวิต คนหลังสาหัส

หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 16:27:40
คนขับปฐมพยาบาลพันนิ้วนิดเดียวครับ  น่าจะโดนถุงลมลวก(เสียดสี)

คนที่ อาสาฯ ส่งไป รพ. ก่อน คือ ผู้โดยสารด้านหน้าครับ

เกิดเหตุวันนี้(22) ก่อนบ่ายสอง บนถนน 304 สุวิทวงศ์

Edit ตอบ ค.ห. บน  30<-->50 เพราะห่างจาก แยกไฟแดงมาประมาณ  600 เมตรครับ สำหรับคนง่วงหลับในไม่ยน่าจะเร็วว่านี้
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ เมษายน 22, 2011, 16:29:30
คนขับปลอดภัยดีแล้วครับ ดูแล้วไม่ธรรมดาเลยนะครับเนี่ย รูป 3 นี่ยอมรับเลยว่า ดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร

แต่แอบสงสัยนิดนึง ปกติแล้วตัวแผ่นถุงลมนี่เขาทำด้วยอะไรหรอครับ
พอดีที่เคยเห็นถุงลมมาก็มีรถ Fiesta ที่โชว์โครงเปลือยๆ ในงาน Motor Show ก็เห็นมันทำจากผ้า
ก็แอบสงสัยว่ามันทำมาจากผ้าจริงๆ หรอ สงสัยรถคันจริงๆ ทั่วไป (รวมถึงรุ่นอื่นด้วย) คิดว่าทำมาจากพลาสติกตลอด
จนมาเห็นรูปนี้แหละ ถุงลมในรถคันขายจริงที่ซูมแบบชัดที่สุดเท่าที่เคยดูมา เออก็ดูเหมือนผ้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: keng. ที่ เมษายน 22, 2011, 16:45:31
โชคดีแล้วครับที่คนขับและผู้โดยสารไม่เป็นอะไร

ปล.ชนแบบนี้ต้องขายซากเลยมั้ยครับ?
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: keanetona ที่ เมษายน 22, 2011, 17:13:17
ขอบคุณสำหรับภาพครับ

สำหรับความปลอดภัย ผมว่าสอบผ่านครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ เมษายน 22, 2011, 17:23:46
ฝากระโปรงหลุดทั้งแผ่น
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: DArkMaster ที่ เมษายน 22, 2011, 17:44:44
บาดเจ็บเล็กน้อยก็ขอให้หายไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ เมษายน 22, 2011, 17:52:35
ถุงลมนิรภัยต้องทำจากผ้าครับ

ส่วนผู้ที่เสียชีวิตใน มาร์ช ที่คุณ air graphic พูดถึงนั้น

ถามคำเดียวเลยว่า คาดเข็มขัดนิรภัยหรือเปล่า?
ถ้าคาด ยังไๆ งน่าจะเจ็บสาหัสเป็นขั้นสูงสุด ไม่น่าถึงขั้นเสียชีวิต

สมัยนี้ คนไม่ค่อยคาดเข็มขัดฯ ยังมีอยู่เยอะครับ ไม่ประมาท เป็นการดีที่สุด
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ เมษายน 22, 2011, 19:00:26
ชน 30-50 เป็นขนาดนี้???????

โอวอีโคคาร์

ดีนะตอนนี้นใช้ Peugeot 405 ชนเกือบ100 (น่าจะนะ แต่ ช่างที่ศูนย์บอกว่า ขนาดนี้ต้องเกิน 100 แล้ว)
ตอนทางลาดลงทางด่วน กับกระบะบรรทุดเต็มพิกัด นั่นก็แทบไม่ได้เบรก เพราะตอนนั้น รถไม่มี ABS
กระทืบไปล้อตายเลย ผลคือ กระโปรงหน้าดุ้งขึ้นมา + หม้อน้ำแตก + ไฟแตก

รถไม่มีถุงลม แต่ผมไม่เป็นอะไรเลยยยยยยยยยย

แค่แว่นหลุดเฉยๆเอง

คิดไม่ออกว่าถ้าขับ March ตอนนั้นจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ เมษายน 22, 2011, 19:28:04
ชน 30-50 เป็นขนาดนี้???????

โอวอีโคคาร์

ดีนะตอนนี้นใช้ Peugeot 405 ชนเกือบ100 (น่าจะนะ แต่ ช่างที่ศูนย์บอกว่า ขนาดนี้ต้องเกิน 100 แล้ว)
ตอนทางลาดลงทางด่วน กับกระบะบรรทุดเต็มพิกัด นั่นก็แทบไม่ได้เบรก เพราะตอนนั้น รถไม่มี ABS
กระทืบไปล้อตายเลย ผลคือ กระโปรงหน้าดุ้งขึ้นมา + หม้อน้ำแตก + ไฟแตก

รถไม่มีถุงลม แต่ผมไม่เป็นอะไรเลยยยยยยยยยย

แค่แว่นหลุดเฉยๆเอง

คิดไม่ออกว่าถ้าขับ March ตอนนั้นจะเป็นยังไง

ถ้าเป็นmarch คุณจะไม่ชนคันข้างหน้าครับ เพราะ สามารถ เบรคได้ทัน และมี abs ช่วยเหลือ หักหลบได้ไม่เกิดอุบัติเหตุปลอดภัยทั้งคนทั้งรถ

หรือ abs ทำงานแต่คุณไม่หักหลบ พุ้งชน ก็จะไม่แรงมาก เพราะ เห็นบอกว่า เหยีบเบรคจมมิด ความเร็วคงจะลดลงมาเยอะมากๆ

เผลอ อาจชนที่ความเร็วต่ำกว่า 40 กม ต่อ ชมอีก ก็หน้ายุบ แบบในรูปข้างบน คนขับก็ปลอดภัย หายห่วง
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ เมษายน 22, 2011, 19:42:36
ชน 30-50 เป็นขนาดนี้???????

โอวอีโคคาร์

ดีนะตอนนี้นใช้ Peugeot 405 ชนเกือบ100 (น่าจะนะ แต่ ช่างที่ศูนย์บอกว่า ขนาดนี้ต้องเกิน 100 แล้ว)
ตอนทางลาดลงทางด่วน กับกระบะบรรทุดเต็มพิกัด นั่นก็แทบไม่ได้เบรก เพราะตอนนั้น รถไม่มี ABS
กระทืบไปล้อตายเลย ผลคือ กระโปรงหน้าดุ้งขึ้นมา + หม้อน้ำแตก + ไฟแตก

รถไม่มีถุงลม แต่ผมไม่เป็นอะไรเลยยยยยยยยยย

แค่แว่นหลุดเฉยๆเอง

คิดไม่ออกว่าถ้าขับ March ตอนนั้นจะเป็นยังไง

ถ้าเป็นmarch คุณจะไม่ชนคันข้างหน้าครับ เพราะ สามารถ เบรคได้ทัน และมี abs ช่วยเหลือ หักหลบได้ไม่เกิดอุบัติเหตุปลอดภัยทั้งคนทั้งรถ

หรือ abs ทำงานแต่คุณไม่หักหลบ พุ้งชน ก็จะไม่แรงมาก เพราะ เห็นบอกว่า เหยีบเบรคจมมิด ความเร็วคงจะลดลงมาเยอะมากๆ

เผลอ อาจชนที่ความเร็วต่ำกว่า 40 กม ต่อ ชมอีก ก็หน้ายุบ แบบในรูปข้างบน คนขับก็ปลอดภัย หายห่วง

อันนั้นน่ะรู้
อันนี้หมายถึงสถานการณ์ที่ว่า หากชนถึง 100 แล้ว มาร์ชจะเป็นยังไงตะหาก ถ้าเทียบกะ 405 แล้ว

โอววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ เมษายน 22, 2011, 19:48:46
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ เมษายน 22, 2011, 20:10:57
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ

ท่าทางจะใช้ Eco Car ใช่ไหม๊น่ะ :o
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: 007 ที่ เมษายน 22, 2011, 20:13:59
ด้านความปลอดภัยผ่าน แต่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ต้องได้ใช้เลยจะดีกว่า
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ เมษายน 22, 2011, 20:25:13
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ

ท่าทางจะใช้ Eco Car ใช่ไหม๊น่ะ :o

ผิดแล้วครับผมไม่ได้ใช้ Eco Car ครับ เพียงแต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดเรื่องที่เรายังไม่รู้นะครับ

ลองหาอ่านเยอะๆนะครับบทความในเวปเนี้ยมีดีหลายๆเลย
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ เมษายน 22, 2011, 20:51:24
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Nuttie ที่ เมษายน 22, 2011, 21:03:04
ถ้าไม่เห็นภายใน ก็ไม่คิดว่าจะเป็นมาร์ชเหมือนกัน  :)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: chatcharwarn ที่ เมษายน 22, 2011, 21:16:59
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ผมเคยมาแล้วครับ...

กับรถคันนึงที่บ้าน(Vigo 3.0E) ซึ่งก็ขายซากไปแล้ว...

กำลังรีบกลับบ้านครับ หลังจากทำงาน ไม่ได้นอน2คืนเต็มๆ
ตอนนั้นวิ่งมา100 แล้วถอนคันเร่ง แล้วก็วูบหลับไปเลย(แบบ สับปงกน่ะครับ)
สะดุ้งอีกที ก็เห็นท้ายรถคันข้างหน้า(Mighty X) ที่จอดอยู่ข้างทาง
ผมก็กดเบรคเต็มตีน... เสียงเอี๊ยดลั่น(ไม่มีABS, ไม่มีAirbag, ไม่ได้คาดBelt) หักขวา...

ด้านซ้ายหน้าของรถผมซัดกับท้ายด้านขวาของMighty X เต็มๆ

จากจุดที่ผมวูบหลับ จนถึงท้ายรถ Mighty X ประมาณ30-40เมตร
พอชนปุ๊บ รถMighty X กระเด็นขึ้นฟุตบาทริมถนนไปอีกเกือบๆ 10เมตร ชนต้นไม้ข้างทาง แล้วเด้งไหลกลับมาจอดบนถนนเหมือนเดิม
รถผมเอง พอชนปุ๊บ ล้อล๊อคตาย ไถลจากเลนซ้ายสุด มาจอดที่เลนขวาสุด(ถนน 4เลน ไม่มีเกาะกลาง) รอยเบรคลากเป็นทางจนถึงจุดที่จอด

สภาพรถก็เละพอๆ กับเจ้าMarch นี่แหละครับ แต่เสาA ไม่มีปัญหา ประตูเปิด-ปิดได้ปกติ มีแค่เก๊ะ(ช่องเก็บของข้างล่าง) กระเด็นหลุดออกมา ส่วนคอนโซลที่เหลือเหมือนเดิม เข็มความเร็ว 0 วัดรอบ 0 ครับ

ส่วนห้องเครื่อง หม้อน้ำ แบต อะไรก็ตามที่เหนือซุ้มล้อฝั่งคนนั่ง กระจาย... ส่วนเครื่องยังOK

ตัวผมเองไม่ได้คาดBelt ก็กลิ้งอยู่ในรถครับ ช้ำตามตัว(คอ, หลัง, สะโพก) ปากแตก และก็เป็นแผลที่หน้าผากนิดนึง

ปล.ตอนที่ชน แล้วฝากระโปรงทิ่มใส่กระจก ทำให้กระจกร้าวทั้งบาน รู้สึกเหมือนมี"ผง" เหมือนเศษละอองกระจกเล็กๆ ฟุ้งออกมาใส่หน้าเลย
ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป... ครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ เมษายน 22, 2011, 21:26:27
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ผมเคยมาแล้วครับ...

กับรถคันนึงที่บ้าน(Vigo 3.0E) ซึ่งก็ขายซากไปแล้ว...

กำลังรีบกลับบ้านครับ หลังจากทำงาน ไม่ได้นอน2คืนเต็มๆ
ตอนนั้นวิ่งมา100 แล้วถอนคันเร่ง แล้วก็วูบหลับไปเลย(แบบ สับปงกน่ะครับ)
สะดุ้งอีกที ก็เห็นท้ายรถคันข้างหน้า(Mighty X) ที่จอดอยู่ข้างทาง
ผมก็กดเบรคเต็มตีน... เสียงเอี๊ยดลั่น(ไม่มีABS, ไม่มีAirbag, ไม่ได้คาดBelt) หักขวา...

ด้านซ้ายหน้าของรถผมซัดกับท้ายด้านขวาของMighty X เต็มๆ

จากจุดที่ผมวูบหลับ จนถึงท้ายรถ Mighty X ประมาณ30-40เมตร
พอชนปุ๊บ รถMighty X กระเด็นขึ้นฟุตบาทริมถนนไปอีกเกือบๆ 10เมตร ชนต้นไม้ข้างทาง แล้วเด้งไหลกลับมาจอดบนถนนเหมือนเดิม
รถผมเอง พอชนปุ๊บ ล้อล๊อคตาย ไถลจากเลนซ้ายสุด มาจอดที่เลนขวาสุด(ถนน 4เลน ไม่มีเกาะกลาง) รอยเบรคลากเป็นทางจนถึงจุดที่จอด

สภาพรถก็เละพอๆ กับเจ้าMarch นี่แหละครับ แต่เสาA ไม่มีปัญหา ประตูเปิด-ปิดได้ปกติ มีแค่เก๊ะ(ช่องเก็บของข้างล่าง) กระเด็นหลุดออกมา ส่วนคอนโซลที่เหลือเหมือนเดิม เข็มความเร็ว 0 วัดรอบ 0 ครับ

ส่วนห้องเครื่อง หม้อน้ำ แบต อะไรก็ตามที่เหนือซุ้มล้อฝั่งคนนั่ง กระจาย... ส่วนเครื่องยังOK

ตัวผมเองไม่ได้คาดBelt ก็กลิ้งอยู่ในรถครับ ช้ำตามตัว(คอ, หลัง, สะโพก) ปากแตก และก็เป็นแผลที่หน้าผากนิดนึง

ปล.ตอนที่ชน แล้วฝากระโปรงทิ่มใส่กระจก ทำให้กระจกร้าวทั้งบาน รู้สึกเหมือนมี"ผง" เหมือนเศษละอองกระจกเล็กๆ ฟุ้งออกมาใส่หน้าเลย
ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป... ครับ

นี่ล่ะนะครับปัญหาพวกชอบจอดขวางเกะกะข้างทางบนถนนซึ่งมีไว้วิ่ง แต่ถือว่าใช้ได้นะครับที่ไม่สาหัส แล้วตอนหมดสตินี่รู้สึกยังไงอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ เมษายน 22, 2011, 21:37:39
4 ดาว Euroncap นะเนี่ย นับถือๆ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: chatcharwarn ที่ เมษายน 22, 2011, 21:58:43
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ผมเคยมาแล้วครับ...

กับรถคันนึงที่บ้าน(Vigo 3.0E) ซึ่งก็ขายซากไปแล้ว...

กำลังรีบกลับบ้านครับ หลังจากทำงาน ไม่ได้นอน2คืนเต็มๆ
ตอนนั้นวิ่งมา100 แล้วถอนคันเร่ง แล้วก็วูบหลับไปเลย(แบบ สับปงกน่ะครับ)
สะดุ้งอีกที ก็เห็นท้ายรถคันข้างหน้า(Mighty X) ที่จอดอยู่ข้างทาง
ผมก็กดเบรคเต็มตีน... เสียงเอี๊ยดลั่น(ไม่มีABS, ไม่มีAirbag, ไม่ได้คาดBelt) หักขวา...

ด้านซ้ายหน้าของรถผมซัดกับท้ายด้านขวาของMighty X เต็มๆ

จากจุดที่ผมวูบหลับ จนถึงท้ายรถ Mighty X ประมาณ30-40เมตร
พอชนปุ๊บ รถMighty X กระเด็นขึ้นฟุตบาทริมถนนไปอีกเกือบๆ 10เมตร ชนต้นไม้ข้างทาง แล้วเด้งไหลกลับมาจอดบนถนนเหมือนเดิม
รถผมเอง พอชนปุ๊บ ล้อล๊อคตาย ไถลจากเลนซ้ายสุด มาจอดที่เลนขวาสุด(ถนน 4เลน ไม่มีเกาะกลาง) รอยเบรคลากเป็นทางจนถึงจุดที่จอด

สภาพรถก็เละพอๆ กับเจ้าMarch นี่แหละครับ แต่เสาA ไม่มีปัญหา ประตูเปิด-ปิดได้ปกติ มีแค่เก๊ะ(ช่องเก็บของข้างล่าง) กระเด็นหลุดออกมา ส่วนคอนโซลที่เหลือเหมือนเดิม เข็มความเร็ว 0 วัดรอบ 0 ครับ

ส่วนห้องเครื่อง หม้อน้ำ แบต อะไรก็ตามที่เหนือซุ้มล้อฝั่งคนนั่ง กระจาย... ส่วนเครื่องยังOK

ตัวผมเองไม่ได้คาดBelt ก็กลิ้งอยู่ในรถครับ ช้ำตามตัว(คอ, หลัง, สะโพก) ปากแตก และก็เป็นแผลที่หน้าผากนิดนึง

ปล.ตอนที่ชน แล้วฝากระโปรงทิ่มใส่กระจก ทำให้กระจกร้าวทั้งบาน รู้สึกเหมือนมี"ผง" เหมือนเศษละอองกระจกเล็กๆ ฟุ้งออกมาใส่หน้าเลย
ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป... ครับ

นี่ล่ะนะครับปัญหาพวกชอบจอดขวางเกะกะข้างทางบนถนนซึ่งมีไว้วิ่ง แต่ถือว่าใช้ได้นะครับที่ไม่สาหัส แล้วตอนหมดสตินี่รู้สึกยังไงอ่ะครับ

หลับครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย

พอตื่นขึ้นมาก็ งงๆ (ได้ยินเสียงจากข้างนอกเลยว่า ตายยังๆ) เดินจากรถ งงๆ ซักพักก็เริ่มรู้สึกระบมตามตัว เห็นสภาพรถก็แทบล้มทั้งยืนครับ...  :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ เมษายน 22, 2011, 22:04:55
เรียนคุณ Zardus

ผมนำข้อมูลมาให้ชมครับ ขออภัยที่หา 405 ไม่ได้ แต่คิดว่า 406 คงจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
แล้วจะได้หมดข้อกังขาว่า ถ้าวันนั้นคุณขับ March ก็คงจะดีเสียยิ่งกว่า

แล้วกรุณางดใช้ภาษาที่เสียดสีท่านอื่นด้วยนะครับ
ที่นี่เราให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนั้นกรุณารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และตอบด้วยภาษาที่สร้างสรรค์ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคุณจะต้องเป็นสาวกของรถประเภทนั้นเสมอไป
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: tyong ที่ เมษายน 22, 2011, 22:27:22
เยี่ยมจริงๆครับ น้องมีนา :)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ เมษายน 22, 2011, 22:32:55
เรียนคุณ Zardus

ผมนำข้อมูลมาให้ชมครับ ขออภัยที่หา 405 ไม่ได้ แต่คิดว่า 406 คงจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
แล้วจะได้หมดข้อกังขาว่า ถ้าวันนั้นคุณขับ March ก็คงจะดีเสียยิ่งกว่า

แล้วกรุณางดใช้ภาษาที่เสียดสีท่านอื่นด้วยนะครับ
ที่นี่เราให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนั้นกรุณารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และตอบด้วยภาษาที่สร้างสรรค์ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคุณจะต้องเป็นสาวกของรถประเภทนั้นเสมอไป

ชัดมาก ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ เมษายน 22, 2011, 22:35:22
น่าจะได้ 4 ดาวอยู่หรอกครับ โครงสร้างห้องโดยสารเสียหายนิดเดียวเอง

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: benley ที่ เมษายน 22, 2011, 22:37:26
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ

ท่าทางจะใช้ Eco Car ใช่ไหม๊น่ะ :o

ผมไม่รู้หรอกนะว่า Goft กับ 405 ใครแข็งกว่ากัน
แต่ถ้าชนที่ความเร็ว 100 ก็คงเป็นแบบนี้แหละ หรือมากกว่า
และไม่ใช่แค่เฉพาะแว่น ที่จะหลุดอย่างเดียวหรอกครับ

Crash test 100km-h VW Golf 2008 (http://www.youtube.com/watch?v=1TNFDeK6GLE#)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ เมษายน 22, 2011, 22:40:17
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ทางคนขับ March  มียาติดตัวมาด้วย ต้อนที่ผมขอเค้าถ่ายรูปในรถก็มี ซองซิปใส่ยาของโรงพยายบาล
เป็น พวก แก้แพ้แก้อักเสพ น่ะครับ ไม่ได้ อ่านมาก พอเห็นเลย รีบไปบอก คนขับ ว่ายังมีซองยาตก อยู่
ที่วางเท้าคนขับ เหลืออยู่น่ะครับ


หลับในจริงๆครับ เท่าที่ถามจาก พี่เค้ามา
ยิ่ง บ่ายๆ ที่แดดแรงๆ เพิ่งทานข้าวมาไม่นาน แล้วโดนแอร์เย็นๆส่อง  ความเสี่ยงสูงมากๆครับ (ผมก็เคย)
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ เมษายน 22, 2011, 23:33:08
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ทางคนขับ March  มียาติดตัวมาด้วย ต้อนที่ผมขอเค้าถ่ายรูปในรถก็มี ซองซิปใส่ยาของโรงพยายบาล
เป็น พวก แก้แพ้แก้อักเสพ น่ะครับ ไม่ได้ อ่านมาก พอเห็นเลย รีบไปบอก คนขับ ว่ายังมีซองยาตก อยู่
ที่วางเท้าคนขับ เหลืออยู่น่ะครับ


หลับในจริงๆครับ เท่าที่ถามจาก พี่เค้ามา
ยิ่ง บ่ายๆ ที่แดดแรงๆ เพิ่งทานข้าวมาไม่นาน แล้วโดนแอร์เย็นๆส่อง  ความเสี่ยงสูงมากๆครับ (ผมก็เคย)
ยาพวกนี้มักจะบอกนะครับว่าถ้ามีฤทธิ์ให้ง่วง ไม่ควรขับรถ ดังนั้นถ้ากินใหม่ๆไม่ขับดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ เมษายน 23, 2011, 00:00:09
ยาแก้แพ้กลุ่ม Anthistamine ใน generation แรกทุกตัว ทำให้ง่วงได้ครับ ไม่ว่าจะเป็น Chlorpheniramine, Dyphenhydramine (Dramamine), Dimenhydrinate, Hydroxyzine (Atarax ตัวนี้ง่วงมากเป็นพิเศษ ขนาด 25 mg ใช้ระงับประสาทได้)

ทางแก้คือ

- ถ้าต้องขับรถ ให้เลี่ยงยาพวกนี้ซะ
- ถ้าจำเป็นให้ไปใช้ยาที่ gen สูงๆ ขึ้น เช่น Cetirizine (Zyrtec), Loratadine (Clarityne), Fexofenadine (Telfast) ซึ่งจะมีโอกาสง่วงน้อยหน่อย แต่ขอเสียคือจะแพงกว่า และลดน้ำมูกได้ไม่ดีครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: 2C-T ที่ เมษายน 23, 2011, 09:40:27
อยู่ที่มุมการชนด้วยครับถึงจะมาไม่เร็วมากแต่ถ้าไปชนในจุดที่อ่อนที่สุดของรถก็จะเสียหายได้มาก

ดูจากรูปรถไปชนกับคานท้ายรถบรรทุกที่อยู่สูงกว่าก็จะยุบไปค่อนข้างเยอะดีที่มาไม่เร็วมากเลยปลอดภัยครับ
แค่ถ้ามารซ์คันนี้ไปชนท้ายรถเก๋งด้วยกันห้องโดยสารจะดูดีกว่านี้เยอะครับเพราะจะกระจายแรงการชนไปให้รถคันหน้า
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: jones ที่ เมษายน 23, 2011, 11:15:03
เหงแบบนี้แล้วดูน่าใช้ขึ้นมานะนี่
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ เมษายน 23, 2011, 11:26:53
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ

ท่าทางจะใช้ Eco Car ใช่ไหม๊น่ะ :o

ผิดแล้วครับผมไม่ได้ใช้ Eco Car ครับ เพียงแต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดเรื่องที่เรายังไม่รู้นะครับ

ลองหาอ่านเยอะๆนะครับบทความในเวปเนี้ยมีดีหลายๆเลย

โอเคครับ จะลองศึกษาดูครับ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ เมษายน 23, 2011, 15:16:18
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ผมเคยมาแล้วครับ...

กับรถคันนึงที่บ้าน(Vigo 3.0E) ซึ่งก็ขายซากไปแล้ว...

กำลังรีบกลับบ้านครับ หลังจากทำงาน ไม่ได้นอน2คืนเต็มๆ
ตอนนั้นวิ่งมา100 แล้วถอนคันเร่ง แล้วก็วูบหลับไปเลย(แบบ สับปงกน่ะครับ)
สะดุ้งอีกที ก็เห็นท้ายรถคันข้างหน้า(Mighty X) ที่จอดอยู่ข้างทาง
ผมก็กดเบรคเต็มตีน... เสียงเอี๊ยดลั่น(ไม่มีABS, ไม่มีAirbag, ไม่ได้คาดBelt) หักขวา...

ด้านซ้ายหน้าของรถผมซัดกับท้ายด้านขวาของMighty X เต็มๆ

จากจุดที่ผมวูบหลับ จนถึงท้ายรถ Mighty X ประมาณ30-40เมตร
พอชนปุ๊บ รถMighty X กระเด็นขึ้นฟุตบาทริมถนนไปอีกเกือบๆ 10เมตร ชนต้นไม้ข้างทาง แล้วเด้งไหลกลับมาจอดบนถนนเหมือนเดิม
รถผมเอง พอชนปุ๊บ ล้อล๊อคตาย ไถลจากเลนซ้ายสุด มาจอดที่เลนขวาสุด(ถนน 4เลน ไม่มีเกาะกลาง) รอยเบรคลากเป็นทางจนถึงจุดที่จอด

สภาพรถก็เละพอๆ กับเจ้าMarch นี่แหละครับ แต่เสาA ไม่มีปัญหา ประตูเปิด-ปิดได้ปกติ มีแค่เก๊ะ(ช่องเก็บของข้างล่าง) กระเด็นหลุดออกมา ส่วนคอนโซลที่เหลือเหมือนเดิม เข็มความเร็ว 0 วัดรอบ 0 ครับ

ส่วนห้องเครื่อง หม้อน้ำ แบต อะไรก็ตามที่เหนือซุ้มล้อฝั่งคนนั่ง กระจาย... ส่วนเครื่องยังOK

ตัวผมเองไม่ได้คาดBelt ก็กลิ้งอยู่ในรถครับ ช้ำตามตัว(คอ, หลัง, สะโพก) ปากแตก และก็เป็นแผลที่หน้าผากนิดนึง

ปล.ตอนที่ชน แล้วฝากระโปรงทิ่มใส่กระจก ทำให้กระจกร้าวทั้งบาน รู้สึกเหมือนมี"ผง" เหมือนเศษละอองกระจกเล็กๆ ฟุ้งออกมาใส่หน้าเลย
ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป... ครับ

นี่ล่ะนะครับปัญหาพวกชอบจอดขวางเกะกะข้างทางบนถนนซึ่งมีไว้วิ่ง แต่ถือว่าใช้ได้นะครับที่ไม่สาหัส แล้วตอนหมดสตินี่รู้สึกยังไงอ่ะครับ

หลับครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย

พอตื่นขึ้นมาก็ งงๆ (ได้ยินเสียงจากข้างนอกเลยว่า ตายยังๆ) เดินจากรถ งงๆ ซักพักก็เริ่มรู้สึกระบมตามตัว เห็นสภาพรถก็แทบล้มทั้งยืนครับ...  :'( :'( :'(

พี่เขยผมก็เคยโดนกระบะหลับในเสยท้าย ตอนสี่โมงเย็นครับ
ถนนสี่เลน พี่ผมวิ่งซ้าย ขับ80 ใช้ exior 1.6
เจอสตราด้า พี่แกดันตูดรถพี่ผมลงร่องกลางถนน เหวี่ยงไปฟาดต้นไม้
สตราด้าแค่กันชนหลุด ส่วนรถพี่ผมหน้ายับล้อหลุด ท้านเยิน หลังคายุบ ดีแก๊สไม่ะเบิด พี่ผมคาดเข็มขัดเลยไม่เป็นอะไรแค่เศษกระจกบาด หน้าแดงๆเพราะถุงลม
ราคารถ ณ ตอนนั้นสองแสนกว่า เจอค่าซ่อมแสนเจ็ด ซวยสุดๆ ไม่ได้ไปทำอะไรใคร แต่ต้องเปลี่ยนรถใหม่

ยังไงก็ขอเตือนสติท่านทั้งหลาย ระวังเรื่องหลับในด้วย แม้จะตอนกลางวันก็ตาม
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: TorTy ที่ เมษายน 23, 2011, 17:27:40
ถึงจะชนหน้าเต็มซับแรงเต็มที่แต่ได้ขนาดนี้ก็okแล้วรถเล็กขนาดนี้ ;D
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ เมษายน 24, 2011, 03:41:52
จากภาพ เอาฝั่งคนนั่งเข้าปะทะ
ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยอาจจะมีคนบาดเจ็บได้เหมือนกันนะครับ

อย่างว่าแหละ หลับใน ถ้าเบรคก่อนคงไม่ยับเยินขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: BMW :D ที่ เมษายน 24, 2011, 12:37:12
โอ้วมาร์ช
รถในฝัน

โอ้วโน่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Ecocar VS Watering Car
เริ่มหัวข้อโดย: bankkrab ที่ เมษายน 24, 2011, 13:45:26
เรียนคุณ Zardus

ผมนำข้อมูลมาให้ชมครับ ขออภัยที่หา 405 ไม่ได้ แต่คิดว่า 406 คงจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
แล้วจะได้หมดข้อกังขาว่า ถ้าวันนั้นคุณขับ March ก็คงจะดีเสียยิ่งกว่า

แล้วกรุณางดใช้ภาษาที่เสียดสีท่านอื่นด้วยนะครับ
ที่นี่เราให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนั้นกรุณารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และตอบด้วยภาษาที่สร้างสรรค์ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคุณจะต้องเป็นสาวกของรถประเภทนั้นเสมอไป


+1 ครับ ชอบข้อมูลที่หามาเปรียบกันให้ดู

หวังว่าหลายคนคงจะเลิกหลงรถตัวเองว่าปลอดภัยที่สุด ดีที่สุด รถข้าเจ๋งที่สุด...ไม่ใช่นะครับ รถอะไรก็ตายครับถ้าขับประมาท

คนเราถ้าขับประมาท ขับเท่าไหร่ก็ตายได้ครับ แนะนำว่าขับทั่วๆไป 90-120 ก็พอในทางไกล

ถ้าขับ 140-200 นี่ผมว่าระวังถึงแค่สองที่นะครับ วัด กับ โรงพยาบาล : )