Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: BnN ที่ เมษายน 26, 2011, 13:50:59
-
ขี้เกียจจะพูดให้มากความ
สำหรับ First Impression ที่พี่จิมได้มาทิ้งระเบิดเอาไว้ในเว็บบอร์ดเมื่อตอนเช้าว่ามันคือรถอะไร
นั่นก็คือ Honda Brio รถยนต์อีโคคาร์รายที่ 2 ที่จะมาฟาดฟันกับ Nissan March อย่างเป็นทางการ
0-100 > 14.86 วินาที (CVT)
80-120 > 11.09 วินาที (CVT) พี่จิมนั่งคนเดียวทั้งหมด
Top Speed 145@5600 rpm
ช่วงล่างดีกว่าที่คิดไว้ ถ้าคิดว่ามันเป็นอีโคคาร์ และดีกว่ามาร์ชนิดหน่อย
จบการรายงาน
สมหมายถ่ายภาพ สมปองรายงาน สมเสร็จถ่ายอุจจาระ
-
ว้าวววววววว :o
อัตราเร่งโอเคเลย แต่ทำไม top speed น้อยเช่นนี้
-
ถ้านั่งทดสอบครบทีม HLM ช่วงล่างบริโอ้จะไหวมัยเนี๊ย
-
เพิ่งจะ Login ได้จาก Le Meridian เชียงรายนี่ละครับ
คืนนี้ เตรียมพบ รีวิวแรกในโลก Honda Brio กันแบบออร์เดิร์ฟ...
บอกได้เลยว่า รถคันนี้ ดีกว่าที่คิด แต่ มันควรจะดีกว่านี้ได้อีกนิด
เฉลย เซอร์ไพรส์แล้วนะครับ อิอิ
-
นี่ พี่จิม
ของฝากจากเชียงรายอะซื้อมาฝากด้วยนะ
น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู บลาๆๆๆ เยอะแยะ
ไม่มีละน่าดู
-
ขอถามท่านผู้รู้อีกหน่อยครับ รถรุ่นนี้จะขายที่ออสเตรเลียไหมครับ
-
ทำไม Brio มันดูแรงกว่า March ไม่เท่าไรเลยละครับ ทั้งที่แรงม้ามากกว่าเยอะ 11 ตัว เครื่องก็ 4 สูบด้วย
-
เอาละสิ ดีกว่าที่คิด
หน้าเหลือ 2 นิ้วแน่ผม
เอ แต่ 4 สูบ ก็ยังดีกว่า March นิดหน่อยหรือ?
-
เจอมาร์ช mt แซงล่ะงานนี้ ฮ่าๆๆ
-
ขอถามท่านผู้รู้อีกหน่อยครับ รถรุ่นนี้จะขายที่ออสเตรเลียไหมครับ
ตลาดโอเชียเนีย (ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) อาจจะส่งไปครับ
-
เอาละสิ ดีกว่าที่คิด
หน้าเหลือ 2 นิ้วแน่ผม
เอ แต่ 4 สูบ ก็ยังดีกว่า March นิดหน่อยหรือ?
ผมว่าอีโคคาร์ก็คืออีโคคาร์วันยังค่ำ เน้นประหยัดเชื้อเพลิง ลดมลภาวะครับ
-
เป็นข่าวดีที่สุดหลังจากสงกรานต์มา เพราะรูปสึกว่าช่วงนี้มีแต่ดราม่า ไม่เป็นที่น่าติดตามมากนัก
พอคุณจิมมี่ บอกว่ากำลังจะมีเซอร์ไพรซ์ ผมก็เฝ้าติดตามว่า เอ๊ จะเป็นคันไหนน้า
ตกลงเฉลยคือ Brio รถซึ่งคนทั้งโลกให้ความสนใจ เพราะเป็น Eco Car คันแรกของค่าย Honda
และ HLM จะทำรายงานก่อนเป็นเจ้าแรกของไทย ได้ยินแล้วช่าง น่าดีใจสำหรับแฟนๆ สมาชิกเว็ปยิ่งนัก
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับบทความนะครับ จะรออ่านทุกคำ ทุกบรรทัดเลยทีเดียว
และเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนครับ
-
ทำไม top speed น้อยจัง
แต่อัตราเร่งก็ใช้ได้นะเนี่ย
-
เจอมาร์ช mt แซงล่ะงานนี้ ฮ่าๆๆ
แหม เอา AT มาเทียบกับ MT ก็เกินไปครับ
ไว้รอดู MT กะ MT แล้วกันว่าใครจะแรงกว่าใคร
ผมว่า Brio อาจแรงกว่าหน่อยเดียว
-
รออ่านโลดครับ ^^
-
คุย โวว่า เหนือกว่าด้วย 4 สูบ แค่ 145 แค่นี้ บ้ายบาย.....ยังไมนับ ไล่ฝ้า กับปัดน้ำฝนหลัง กร้ากกกกกกก
-
แปลกใจกับ topspeed ทำไมน้อยกว่า มีนาอีกล่ะเนี้ย? ??? เอามารอดูนะครับ ;D
-
ขอน้ำพริกหนุ่มด้วย เอาเจ้าเด็ดๆนะ
-
น้ำหนัก/แรงม้า มากกว่า ทำไมผลออกมาแรงกว่ามาร์ชหน่อยเดียวเอง
ส่วนท็อปสปีดผมไม่สนใจ แต่สนใจที่ความเร็ว 100 ใครใช้รอบเครื่องน้อยกว่ากันครับ
-
top speed ต่ำกว่าที่คิดไปเยอะ
-
0-100 มาร์ช cvt ได้ 15.63 วิ น้อยกว่าแค่วิเดียว
ความเร็วสูงสุดมาร์ช cvt ได้ 162 ทำไมเจ้านี่น้อยอย่างนี้
:'( แต่ยังไงจะรอคอยดูรีวิวคืนนี้นะครับ
-
รอดูด้วยคน แต่ความเร็วสูงสุดน้อยจัง แต่ใช้ในเมืองก็ ok อยู่
-
จัดระเบียบลมไต้ท้องรถแล้ว ยัง วิ่งไม่ไหลลื่นอีกหรอ
น่าจะมีใครจัด Head -To-Head นะครับ วิ่ง ในสนาม บริจสโตน หรือ แก่งกระจานก็ได้
-
จะรออ่านครับ แต่ สงสัย ทำไม Topspeed น้อยกว่ามาร์ชแฮะ (ช่างมัน ไม่สน สนแต่ช่วงล่าง ความปลอดภัย อุปกรณ์ใช้สอย ขับเร็วไม่เอา กลัวตาย)
-
รถเล็กและเบาขนาดนั้น สำหรับผมวิ่งได้เกิน 120km/h ก็เกินพอแล้วละครับ และอีกอย่างเขาเกิดมาเพื่อประหยัดไม่ได้แรงเน้อ ^_^ แต่ต้องดูว่าจะประหยัดจริงแค่ไหนเพราะมาร์ชยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไร
-
ผมว่าผู้ผลิตอาจเน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก รถเล็กๆแบบนี้ส่วนตัวผมว่าขับในเมืองน่าจะเหมาะกว่า
ความเร็วสูงสุดจึงไม่ได้มากมายนัก รอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอีกทีนึงครับ
-
ขี้เกียจจะพูดให้มากความ
สำหรับ First Impression ที่พี่จิมได้มาทิ้งระเบิดเอาไว้ในเว็บบอร์ดเมื่อตอนเช้าว่ามันคือรถอะไร
นั่นก็คือ Honda Brio รถยนต์อีโคคาร์รายที่ 2 ที่จะมาฟาดฟันกับ Nissan March อย่างเป็นทางการ
0-100 > 14.86 วินาที (CVT)
80-120 > 11.09 วินาที (CVT) พี่จิมนั่งคนเดียวทั้งหมด
Top Speed 145@5600 rpm
ช่วงล่างดีกว่าที่คิดไว้ ถ้าคิดว่ามันเป็นอีโคคาร์ และดีกว่ามาร์ชนิดหน่อย
จบการรายงาน
สมหมายถ่ายภาพ สมปองรายงาน สมเสร็จถ่ายอุจจาระ
ดูจาก top speed แล้วยังสู้มาร์ชไม่ได้เลย
เห็นแฟนๆ สาวกฮอนด้า คุยข่มมาร์ชไว้เยอะ
เจ้าบริโอ้ 90 แรงม้าเนี่ย 4 สูบ (มีสูบมากกว่าตั้ง 1 สูบแหนะ) ว่าแรงกว่ามาร์ชกระจุยกระจายมากมาย
สงสัยคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกแล้วล่ะ รถยังไม่ได้ทดสอบกันเลย
ออกแต่สเปค ผมเห็นมาเยอะ รถสเปคสูงๆ แต่ขับจริงๆ วิ่งช้ากว่ารถสเปครองๆ ก็เยอะแยะ
เพราะความเร็วมันขึ้นอยู่กับอะไรหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่ตัวเครื่อง จำนวนสูบ ขนาดเครื่องยนต์อย่างเดียว
.............. ขอขำก่อนนะครับ
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :D :D :D :D :D :D
ว่าแต่รถมันยกเลิกการจองแล้วไม่ใช่เหรอครับ
-
รอดูฉบับเต็มครับ น้าข้างบ้านผมเค้าสนใจมากเลยครับ
ข่าวว่าตอนนี้ Honda งดจอง Brio เนื่องจากอะไหล่ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นขาดแคลน
-
ผมกลับมองว่า Top Speed สำหรับรถแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่หนะครับ
อัตราเร่งมากกว่า ที่น่าสนใจ
-
รออ่านเหมือนกันครับ
และก็แปลกใจที่ว่า
ที่ว่า spec บนกระดาษ brio เนี่ย มัน 90 ม้า
ทำไมมัน top speed ได้แค่เนี้ย
ผมว่า e-car คันเก่าของผม 88 ม้า
ยัง top speed ได้เร็วกว่านั้นเลย
-
รอ full vesion ครับ จริงๆ ตาม concept ไม่น่าจะเอา top speed มาพูดนะ ผมนึกการประหยัดน้ำมัน แล้วก็ feeling การขับ แล้วก็ทัศนวิสัยในการขับ พวก ergonomic ต่างๆ ดีกว่า
-
จะให้ผมทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในทริปที่เชียงราย??
บนเส้นทางขึ้นลงดอยตุง?
เห็นท่าจะไม่ถูกสถานที่แล้วละคร้าบ เหอๆ
-
จะให้ผมทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในทริปที่เชียงราย??
บนเส้นทางขึ้นลงดอยตุง?
เห็นท่าจะไม่ถูกสถานที่แล้วละคร้าบ เหอๆ
พี่จิมมี่ ลองวิ่งทดสอบทางระหว่าง อ.เมือง - แม่สายดูครับ เป็นทางเรียบตลอดทาง ไม่มีขึ้นเนิน ลงเขา ตรงแทบจะตลอดทางเช่นกัน
-
ส่วนที่ว่า Acceleration และ Top-speed ออกมาเท่านี้ผมว่าอาจจะเป็นเพราะเรื่อง fuel-consumtion ที่ถูกบีบอยู่ในเสปคของ Eco-car โดยผ่านกล่อง ECU ควบคุมตรงนี้อยู่
ถ้าทำการปลคล๊อค พ่วงกล่องอาจจะเห็นขุมพลังที่แฝงอยู่ตรงนี้ก็ได้ครับ เพราะ Eco-car คือรถประหยัดพลังงานผมว่า 145km/hr ก็ถือว่าสูงมากแล้วกับรถคันเล็กๆแบบนี้ อัตราเร่งนั่นจาก 80-120 หรือ 60-100 นั่นแหละสำคัญในการขับในเมืองที่เป็นหัวใจในการออกแบบรถคันนี้
ส่วนตัวรอดูอัตราเร่ง MT ครับพี่จิมมี่
-
ใครอืดกว่ากันครับ
-
ถ้าจะลอง test การบริโภคน้ำมัน จะ เปลี่ยนมา Test บนไฺฮเวย์ ก็ได้นะครับ เส้น เชียงราย-พะเยา สี่เลน รถไม่ค่อยเยอะด้วยถ้าเทียบกับเ้ส้นไปแม่สาย แต่เอ่อ อาจจะมีหน่อยแฮะ ช้าแช่ขวา
-
แต่ตอนนี้ที่ผมนั่งคิดอยู่ว่า อันไหนจะแรงกว่ากัน ระหว่าง jazz ตัวเก่า 1.5 4 สูบ IDSI 88แรงม้า cvt
กับ brio 1.2 4 สูบ 90 ม้า cvt
อืมใครพอจะมีประวัติ มั้ยครับว่า Jazz Idsi ตัวเก่าเนี้ย 0-100 เท่าไรครับ แล้วก็ topspeedได้เท่าไรเอ๋ย
พอดีว่ามันคาใจผมอยู่ อ่ะครับ เพราะ ถ้ามือ 2ตัวJazz ตัวนี้ ราคามันอยูใกล้เคียง กับ brio ตัวใหม่มากเลยครับ
-
ว่าแล้วว่าต้องเป็น Brio จากเชียงราย จริงๆก็ดีอยู่หรอกนะครับ
ถ้าไม่ลดต้นทุน+ทำเอาผมหัวโขกกับประตูหลังตอนเข้ารถไป 2 ทีในงาน motorshow
ผมว่าเครื่อง+ช่วงล่าง หนะก็กะไว้แล้วว่าน่าจะดีกว่ามาร์ชแต่คงไม่ห่างมาก
เพราะยังไงก็คืออีโคคาร์ ยังไงผมจะรออ่านรีวิวนะครับ ว่าจะมีอะไรที่เซอร์ไพรซ์มากกว่า อัตราเร่ง+ช่วงล่าง รึปล่าว
เพราะผมคิดว่าถ้าต่างกันแค่นี้เทียบกับการลดต้นทุนแล้วมันยังห่างกับมาร์ชไกลอยู่ครับ
ปล.คห.ส่วนตัวนะครับ
-
ผมว่า Brio เหมาะกับคนตัวไม่ใหญ่มาก ประมาณ 165-175 เพราะถ้าใครสูงกว่านี้ท่าทางจะนั่งไม่สบาย(คันเล็ก)
-
แต่ตอนนี้ที่ผมนั่งคิดอยู่ว่า อันไหนจะแรงกว่ากัน ระหว่าง jazz ตัวเก่า 1.5 4 สูบ IDSI 88แรงม้า cvt
กับ brio 1.2 4 สูบ 90 ม้า cvt
อืมใครพอจะมีประวัติ มั้ยครับว่า Jazz Idsi ตัวเก่าเนี้ย 0-100 เท่าไรครับ แล้วก็ topspeedได้เท่าไรเอ๋ย
พอดีว่ามันคาใจผมอยู่ อ่ะครับ เพราะ ถ้ามือ 2ตัวJazz ตัวนี้ ราคามันอยูใกล้เคียง กับ brio ตัวใหม่มากเลยครับ
เท่าที่จำได้ อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม Jazz i-DSI แรงกว่าครับ แบบตัวเลขดีกว่าแน่ ๆ ครับ
คิดว่าปลายต้องดีกว่าแน่ ๆ
-
ว้่าวๆๆๆ ข่าวดีจริงๆ นึกว่า0-100จะ13วิปลายๆ ซะอีก ขอให้ประหยัดกว่าmarchละกัน
แม่ผมชอบคันนี้มากเลยเวลาดูรูป พอเจอตัวจริง แม่บอกmarchดีกว่า
-
ว้่าวๆๆๆ ข่าวดีจริงๆ นึกว่า0-100จะ13วิปลายๆ ซะอีก ขอให้ประหยัดกว่าmarchละกัน
แม่ผมชอบคันนี้มากเลยเวลาดูรูป พอเจอตัวจริง แม่บอกmarchดีกว่า
มันอืดกว่า 13 วิปลายนะจ๊ะ ข่าวดียังไงเอ่ย แอบงง
-
ว้่าวๆๆๆ ข่าวดีจริงๆ นึกว่า0-100จะ13วิปลายๆ ซะอีก ขอให้ประหยัดกว่าmarchละกัน
แม่ผมชอบคันนี้มากเลยเวลาดูรูป พอเจอตัวจริง แม่บอกmarchดีกว่า
ข่าวดีตรงไหนครับ ::)
-
หมูกระทะร้านภูปลายฟ้าอร่อยครับ พี่ลองไปชิมดูได้ จากอดีตเคยอยู่เชียงราย ;D
-
แต่ตอนนี้ที่ผมนั่งคิดอยู่ว่า อันไหนจะแรงกว่ากัน ระหว่าง jazz ตัวเก่า 1.5 4 สูบ IDSI 88แรงม้า cvt
กับ brio 1.2 4 สูบ 90 ม้า cvt
อืมใครพอจะมีประวัติ มั้ยครับว่า Jazz Idsi ตัวเก่าเนี้ย 0-100 เท่าไรครับ แล้วก็ topspeedได้เท่าไรเอ๋ย
พอดีว่ามันคาใจผมอยู่ อ่ะครับ เพราะ ถ้ามือ 2ตัวJazz ตัวนี้ ราคามันอยูใกล้เคียง กับ brio ตัวใหม่มากเลยครับ
เท่าที่จำได้ อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม Jazz i-DSI แรงกว่าครับ แบบตัวเลขดีกว่าแน่ ๆ ครับ
คิดว่าปลายต้องดีกว่าแน่ ๆ
อ้าวหรอครับ ผมนึกว่า เจ้า jazz idsi ช้ากว่า อืมนะแต่คงเพราะได้แรงบิดสูงสุด มาในรอบ 2700 ล่ะมั้ง
ตอนแรกผมนึกว่าจะช้า กว่าbrio เพราะน้ำหนักตัวซะอีก โอ้คิดผิดจริงๆด้วย
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลครับ :D
-
ว้่าวๆๆๆ ข่าวดีจริงๆ นึกว่า0-100จะ13วิปลายๆ ซะอีก ขอให้ประหยัดกว่าmarchละกัน
แม่ผมชอบคันนี้มากเลยเวลาดูรูป พอเจอตัวจริง แม่บอกmarchดีกว่า
มันอืดกว่า 13 วิปลายนะจ๊ะ ข่าวดียังไงเอ่ย แอบงง
หมายถึง ข่าวดีที่First Impressionจะมาครับ ตอนแรกผมคิดว่า0-100จะ13วิปลาย อะครับ
-
ยินดีตอนรับครับพี่จิมมี่ ว่าแต่ วิ่งทดสอบตรงไหนบ้างเหรอครับ ผมอยู่หน้า มอ แม่ฟ้าหลวงน่ะ
-
ทำไมผมกลับคิดว่า ความเร็วสูงสุดแค่นี้ก็พอแล้ว
แต่อัตราเร่ง ช่วงล่างอะไรอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ควรสนใจมากกว่า
-
ผมกลับหวังว่าให้มันสมรรถนะดี เพราะหวังว่ามันจะ
1. กลบข้อเสียเรื่องท้ายได้
2. รถโล้นๆ ไม่มีอะไร น้ำหนักน่าจะเบา อาจจะประสบความสำเร็จกับวัยรุ่น ในแบบเดียวกับ EG6
-
ยินดีที่ทำช่วงล่างมาดีครับ
-
EX 2.0 ผมปกติวิ่งอย่างมากก็ 120 เองครับ
ผมว่า Brio สูงสุด 145 ก็เหลือๆแล้วครับ
;D ;D ;D
-
ว่าแล้ว ริงโกะต้องน้ำลายฟูมปากจริงๆด้วย
-
อัตราเร่ง ผมกลับรู้สึกว่าด้วยน้ำหนักและแรงเครื่อง ควรทำได้ดีกว่านี้
ท้อปสปีด ไม่ใช่เรื่องที่สนใจ แต่ที่สนใจคือรถแรงม้าเท่านี้ พื้นที่หน้าตัดรถแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำ 80-120 ได้ราวๆนี้ ไม่ควรสุดที่ 145
แต่ที่สุดที่ 145 เพราะตั้งใจล็อคไว้ ผมจะโอเค ไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก
ประเด็นสำคัญที่อย่าลืมคิดกัน
1) รถ Pre-production อาจเซ็ตมาเค้นสมรรถณะไม่เต็มที่นัก
2) ยังต้องดูด้วยว่าพื้นที่ ณ จุดที่ทำการทดสอบเป็นเช่นไร ความลาดชันและความกดอากาศ
ความเบาบางของอากาศ มีผลต่ออัตราเร่งได้ทั้งนั้น
-
สรุป
หลังจากผ่านช่วง Q & A อันเข้มข้น.....
คือ วิศวกรญี่ปุ่น มากันกี่คน ได้พูดกันทุกคน ยกเว้นคนเดียวคือ คนออกแบบภายนอก...
สรุปว่า ความเร็วสูงสุด "ล็อกนะครับ" เหตุผลเพราะ เขามองในเรื่องการทำรถให้ประหยัดน้ำมันเป็นหลักมากกว่า
แต่บอกตรงๆนะครับ สิ่งที่ผมว่าเหนือความคาดหมายเลยคือ ช่วงล่าง เพราะต้องบอกว่า
นี่คือ Honda ขนาดเล็ก ที่ทำช่วงล่างออกมาได้ดีผิดคาดจริงๆ
ส่วนอะไรก็ตามที่ ชาวเว็บของเรา วิพากษ์วิจารณ์
จะบอกว่า ตอนนี้ ทีมวิศวกรชาวญี่ปุ่นทั้งหมด รับทราบกันหมดแทบทุกข้อเรียบร้อยแล้วครับ
และจะขอน้อมรับไว้นำไปพิจารณาว่าจะทำยังไงกันต่อไปหนะครับ
-
ตัวเลขดูไม่เลวแหะ แต่ที่สงสัยคือการเก็บเสียงว่าจะทำได้ดีรึเปล่า?
-
สรุป
หลังจากผ่านช่วง Q & A อันเข้มข้น.....
คือ วิศวกรญี่ปุ่น มากันกี่คน ได้พูดกันทุกคน ยกเว้นคนเดียวคือ คนออกแบบภายนอก...
อ้าว!! เขาจะไม่มาบอกหน่อยหรอ ว่าทำไมถึงทำท้ายรถให้เป็นแบบนั้นอะ
(หรือเขาอายที่เสียงตอกรับมันไม่ดี ;D )
-
สรุป
หลังจากผ่านช่วง Q & A อันเข้มข้น.....
คือ วิศวกรญี่ปุ่น มากันกี่คน ได้พูดกันทุกคน ยกเว้นคนเดียวคือ คนออกแบบภายนอก...
น่าสงสารแฮะ
หวังว่าการขับขี่มันจะฉีกแนวจาก March ได้นะครับ ไม่งั้นสงสัย.......
-
เพิ่มเติมคำตอบแล้วนะครับ ย้อนกลับไปอ่านด้วยนะครับ
-
สรุป
หลังจากผ่านช่วง Q & A อันเข้มข้น.....
คือ วิศวกรญี่ปุ่น มากันกี่คน ได้พูดกันทุกคน ยกเว้นคนเดียวคือ คนออกแบบภายนอก...
ว่าแล้วเชียว ด้านวิศวกรรม บริโอดูมีภาษี แต่การ ออกแบบ นี่สิ น่าปวดหัว บางครั้ง มันกลบความดีงามของมันหมดเลย
จะว่าไป ความเร็วสูงสุด พอๆกับรถมอเตอร์ไซค์ระดับ 150 CC ยังไงยังงั้น??
-
เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆว่า lock เพื่อ fuel-consumtion เรื่องถอดๆแก้ๆไทยเราถนัดนัก
-
พี่จิมมี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ กลับมาเร็วๆๆๆๆๆๆๆ อยากอ่านแล้ววววววววว
ว่าแต่ทาง Honda เขาจัดทริปช่วงนี้ทำไมอ่ะ เพราะยังไงก็จองรถไม่ได้อยู่ดี แอบงง
นี่แค่เกริ่นๆ เท่านั้น ฟังแล้วใจชื้นขึ้นมาทันที ตอนนี้รอลุ้นอย่างเดียว คือ
ขอให้ประหยัดกว่า March เพียงข้อนี้แหละ ที่จะกลบเรื่องประตูท้าย + ที่ปัดน้ำฝนได้ แล้วจะกลับมาขายดีแน่นอน
พี่จิมมี่ฝากถามเขาหน่อยสิว่า มีที่ปัดน้ำฝนในรุ่น Minor change หรือเปล่า จะได้รอทีเดียว อิอิ
ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพครับพี่จิมมี่
ขอบคุณครับ
-
เอาละ ใครทำอู่ ทำร้าน tuning ไปหาวิธีปลด limiter ด่วนเลย
เครื่องแบบนี้ น้ำหนักแบบนี้ ทำกล่องเสียหน่อย 160-170 ไม่น่าจะยาก 5555
ถ้าประหยัดกว่า ขับมันส์กว่า อันนี้มีเฮ
-
ปลดกล่องไม่ยากครับผม
-
คำถามที่ว่า ทำไมไม่ติดตั้งใบปัดน้ำฝน หรืออย่างน้อย ไล่ฝ้าหลังก็ยังดี
คำตอบจากทีมวิศวกร :
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car
เลยไม่ได้มีการติดตั้งมาให้ อย่างไรก็ตาม เราได้ทำการทดสอบโดยวิ่งด้วยความเร็วสูง
ในสภาพฝนตกแล้ว พบว่าปริมาณการเกาะตัวของน้ำ อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
ส่วนไล่ฝ้าหลังนั้น ไม่ได้ติดตั้งมาให้ เพราะจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้รถของคนไทย
พบว่า ไม่ค่อยได้ใช้งานไล่ฝ้าหลังกันเท่าใดนัก จึงมิได้ใส่มาให้ในตอนนี้"
ประเด็นนี้ มีคนแย้งขึ้นมา ว่า ในระหว่างขับกลับเข้าที่พัก มีฝนตกปรอยๆพอสมควร
และทำให้ได้พบว่า ทัศนวิสัยการมองเห็นด้านหลังยังไม่ดีเท่าที่ควร
วิศวกรก็เลยบอกว่า ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำ เพื่อที่จะนำไปปรับปรุง
และพัฒนาต่อไป หากนี่เป็นความต้องการของลูกค้า ในอนาคต ก็อาจจะพิจารณานำมาติดตั้ง
ให้กับรถรุ่นต่อไป ก็อาจเป็นไปได้
-
คำถามที่ว่า ทำไมไม่ติดตั้งใบปัดน้ำฝน หรืออย่างน้อย ไล่ฝ้าหลังก็ยังดี
คำตอบจากทีมวิศวกร :
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car
เลยไม่ได้มีการติดตั้งมาให้ อย่างไรก็ตาม เราได้ทำการทดสอบโดยวิ่งด้วยความเร็วสูง
ในสภาพฝนตกแล้ว พบว่าปริมาณการเกาะตัวของน้ำ อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
ส่วนไล่ฝ้าหลังนั้น ไม่ได้ติดตั้งมาให้ เพราะจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้รถของคนไทย
พบว่า ไม่ค่อยได้ใช้งานไล่ฝ้าหลังกันเท่าใดนัก จึงมิได้ใส่มาให้ในตอนนี้"
ประเด็นนี้ มีคนแย้งขึ้นมา ว่า ในระหว่างขับกลับเข้าที่พัก มีฝนตกปรอยๆพอสมควร
และทำให้ได้พบว่า ทัศนวิสัยการมองเห็นด้านหลังยังไม่ดีเท่าที่ควร
วิศวกรก็เลยบอกว่า ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำ เพื่อที่จะนำไปปรับปรุง
และพัฒนาต่อไป หากนี่เป็นความต้องการของลูกค้า ในอนาคต ก็อาจจะพิจารณานำมาติดตั้ง
ให้กับรถรุ่นต่อไป ก็อาจเป็นไปได้
วิศวกร ตอบแบบ รักษาภาพลักษณ์มากๆๆ ยอมว่าผิดพลาดไปแล้วไม่ได้ ตอบแบบ ก็เราอยากลดต้นทุนอ่ะ ตอบไม่ได้ อิอิ
-
อ่านแล้วงง
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car "
อ่านแล้วงงสุดๆ กฎระเบียบใหม่หรือครับ???
-
ตอนนี้ปัญหาที่ Brio กำลังจะเจอคือการขาดชิ้นส่วนอย่างหนักครับ
ปีนี้ทำยังไงก็ได้ให้ประคองสถานการณ์ไปได้ รักษาความพึงพอใจลูกค้าที่รอให้ได้
แล้วค่อยรอกวาดยอดปีหน้าล่ะครับ
-
รถแบบนี้ ต่อให้ Top Speed มันสูงกว่านี้แล้วกล้าขับถึง Top Speed มันเหรอครับ
คราวที่แล้วเห็นภาพ March เจอ 10 ล้อ แล้ว
รถแบบนี้ 100 เดียวก็ขนลุกแล้ว
โดยเฉพาะ ถ้าโดนชนท้ายนี่ เป็นลมเลย
City Car ขับอย่าให้เกิน 80 ไว้เป็นดีครับ
Safety First
-
ก่อนหน้านนี้ เคยเอาไว้ว่าน่าจะมี Brio One Make Race
พอผลทดลองขับ ออกมาแบบนี้ นึกเลยเถิดไปถึง
1. Honda -Brio - Eco-Challenge-Cup (BECC)
แข่ง ขับประหยัด ในเส้นทางใช้งานจริง ความเร็ว จริง (มี TC คอยเช็คเวลา ไม่ให้ขับช้าไป)
แล้วนำตัวเลบผู้ที่ ประหยัดที่สุดมา โฆษณา ( คล้าย แบบ City ZX ผสมกับ แบบ อิซูซุ )
หรือ อาจจะมี Event อื่นๆ เสริมตามมา ในปีที่2-3 เช่น
Honda Brio (Freshy) Lady Cup
ให้ สาวๆ หน้าใหม่ ที่มีความสามารถ สมัครเข้าแข่งขัน (เืพื่อให้ดูเหมาะสมกับระดับสินค้าที่วางไว้)
-
อ่านแล้วงง
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car "
อ่านแล้วงงสุดๆ กฎระเบียบใหม่หรือครับ???
เข้ามางง ด้วยคน หรือฮอนด้า จะตีความหมาย Eco car ว่าเป็น รถราคาถูก ไปซะแล้ว - -"
รถแบบนี้ ต่อให้ Top Speed มันสูงกว่านี้แล้วกล้าขับถึง Top Speed มันเหรอครับ
คราวที่แล้วเห็นภาพ March เจอ 10 ล้อ แล้ว
รถแบบนี้ 100 เดียวก็ขนลุกแล้ว
โดยเฉพาะ ถ้าโดนชนท้ายนี่ เป็นลมเลย
City Car ขับอย่าให้เกิน 80 ไว้เป็นดีครับ
Safety First
Safety First น่ะใช่คับ แต่ในชีวิตจริงคงไม่อย่างงั้น ถ้าทั้งชีวิตคุณขับแค่ 80 คงวิ่งเลนขวาไม่ได้ โดนบีบแตรไล่แน่ๆ ลองนึกดู เวลาคุณรีบๆ แล้วยังจะขับแช่ที่ 80 อยู่หรอ ?
100-120 มันไม่ได้เร็วเท่าไหร่หรอกคับ แหม ไม่ใช่มอไซด์เด็กแว้นนะ วิ่ง100 แล้วขนลุก รถมีสี่ล้อสมัยนี้ถึงจะราคาถูก แต่ช่วงล่างเค้ารองรับมาดีคับ วิ่ง100-120 สบายๆ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น
-
หรือจะแข่ง 1 ถัง เที่ยว 3 ประเทศ 555555
-
คุณ Zardus
วันนี้ บนทางขึ้นลงเขา พระตำหนักดอยตุง
Brio คันสีน้ำเงิน และอีกหลายๆคัน
ใช้ความเร็วในโค้งกันที่แถวๆ 60-70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และก็ผ่านแลุยมาได้สบายๆ ไม่มีคันไหนกลิ้งตกเหวข้างทางเลยแม้แต่คันเดียว
ช่วงล่างรถ ECO Car สมัยนี้ ดีกว่ารถเล็กสมัยก่อนเยอะแล้วละครับ
-
อ่านแล้วงง
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car "
อ่านแล้วงงสุดๆ กฎระเบียบใหม่หรือครับ???
ไม่เห็น่า งง เลยครับ ECO car มันขายถูก กำไรมันน้อย เลยต้องลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด เพื่อกำไรสูงสุด อะไรตัดได้ตัดออกหมด ง่ายๆเองครับ ไม่เห็นจะมีอะไรเข้าใจยาก โดนเละขนาดนี้ minor ใส่มาให้ชัวร์ 555
-
อ่านแล้วงง
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car "
อ่านแล้วงงสุดๆ กฎระเบียบใหม่หรือครับ???
หรือข้อจำกัดที่ว่า ECO = Economic คือต้องทำให้ราคาถูก
เลยใส่มาไม่ได้แบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้เนอะ
จริงๆ ผมว่าสู้เพิ่มราคาให้เท่ากับ March แล้วยัด Option จัดเต็ม
ก็อาจจะดูดีกว่าแบบนี้ก็ได้นะ
เพราะคนรู้จักผมหลายคน ที่ไม่เอา Brio ไปเอา March ทั้งที่แพงกว่าสองหมื่น
ก็เพราะเค้ายอมรับได้กับราคาที่เพิ่มขึ้น กับ Option ที่ได้มา
-
อ่านทุกกระทู้แล้ว แล้วนั่งตรึกตรองดูนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว
เหตุผลที่ฮอนด้าบอกมาว่าล็อคที่145นั้นมันก็ดีครับ เพราะพฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ขับรถเร็วและอาจจะถึงขั้นเร็วจัดจ้าน การล็อคความเร็วเป็นสิ่งที่ดี และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้จริง
แต่บางที่ถ้ามีเหตุที่ต้องขับเร็วมากกว่านี้เช่น ปวดขี้ เยี้ยวจะราด พ่อแม่จะตาย หรือแม้แต่การนำคนป่วยที่บาดเจ็บหรือเป็นโรคป่วยที่รุ่นแรงพาส่งโรงบาลเพราะบ้านนั้นมีรถบรีโอ้อยู่คันเดียว รถคันแรกในชีวิตที่ออกด้วยเงินเดือนที่หามาด้วยความอยากลำบาก แต่มาเจอความเร็วแค่นี้อาจจะไม่ทันใจและทันการณ์แน่ๆ ขอเพิ่มเป็นเพิ่มเป็น 150-160 ก็ไม่เสียหายนะครับ เป็นทางสายกลางที่ดี
-
อ่านทุกกระทู้แล้ว แล้วนั่งตรึกตรองดูนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว
เหตุผลที่ฮอนด้าบอกมาว่าล็อคที่145นั้นมันก็ดีครับ เพราะพฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ขับรถเร็วและอาจจะถึงขั้นเร็วจัดจ้าน การล็อคความเร็วเป็นสิ่งที่ดี และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้จริง
แต่บางที่ถ้ามีเหตุที่ต้องขับเร็วมากกว่านี้เช่น ปวดขี้ เยี้ยวจะราด พ่อแม่จะตาย หรือแม้แต่การนำคนป่วยที่บาดเจ็บหรือเป็นโรคป่วยที่รุ่นแรงพาส่งโรงบาลเพราะบ้านนั้นมีรถบรีโอ้อยู่คันเดียว รถคันแรกในชีวิตที่ออกด้วยเงินเดือนที่หามาด้วยความอยากลำบาก แต่มาเจอความเร็วแค่นี้อาจจะไม่ทันใจและทันการณ์แน่ๆ ขอเพิ่มเป็นเพิ่มเป็น 150-160 ก็ไม่เสียหายนะครับ เป็นทางสายกลางที่ดี
มาเห็นด้วยครับ น่าจะล็อคที่ 160 กำลังดีครับ ;)
เอ๋หรือว่า ที่ล็อคความเร็วที่145 เพราะ กลัวเกียร์ ไปเร็วก่อนกำหนด ล่ะเนี้ย ;D ;D ;D
-
เอ่อ...... คำตอบที่บอกว่า ด้วยข้อจำกัดของ Eco car ??
คิดได้นะคะนั่น ?
แถม คนทดสอบจริงแย้ง ขนาดนั้น เฮ้อ ถ้าตอบแบบนี้
(http://freeimagehosting.khonkaenlink.info/uploads/f79cdb208c.jpg)
ปล.สำนวน User Jeenoon เหมือน ไปป่วน ริงโกะที่บอร์ดปาล์ม ยังไงไม่ทราบ หรือริงโกะคิดไปเอง ??
-
อัตตราเร่งอืดกว่าที่คิดไว้พอสมควรเรยอ่ะ ทั้ง top speed ด้วย นึกว่าอย่าน้อยๆจะได้ซัก170-180ซะอีก แต่ไอ้ทที่ว่าวิศวกรตอบว่ามันเปงความต้องของลูกค้าไรเนี่ย ไม่ต้องรอถึงรุ่นหน้าหรอก รุ่นนี้แหละ ล็อตหลังๆก้ยังดี กะไอ้เหล็กรถข้างในนี้ก้เหมือนกัล น่าเกลียดจิงๆ ไม่ต้องลดต้นทุนขนาดนั้นก้ได้ :P :P
-
ช่วงล่างดี - ถ้าเกาะด้วยและไม่เด้งเกินเหตุด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก March เองผมลองมาแล้วว่าวิ่งนิ่งๆ
120-140 ไม่ได้มีความน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย หาก Brio หนึบกว่า แปลว่าสามารถขับหลบเลี่ยงอุปสรรค
ที่ความเร็วสูงได้มั่นใจกว่า ถือว่าดีเกินพอสำหรับประเภทของรถ
ไล่ฝ้าหลัง - จากการวิจัยพบว่าคนไทยไม่ค่อยได้ใช้ไล่ฝ้าหลัง...ขอตลกร้ายได้ไหม..จากการวิจัยคนไทยก็ไม่ค่อยได้ใช้ถุงลมนิรภัย? ไล่ฝ้าไม่มีให้ พอรับได้ แต่ควรมีไล่ฝ้าหรือปัดน้ำฝนไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง วันฝนตก
ฝ้าขึ้น จะถอยหลัง ฝ้าเต็ม..ใครจะเช็ด? ปีนไปเช็ดไหม? หรือต้องให้มือซนๆไปหาปัดน้ำฝนเซียงกงชุดละไม่กี่พัน
มาติดตั้งเอง? ก็ดีเหมือนกัน เป็นการสร้างโอกาสทำรายได้ให้ผู้ผลิตของแต่งรายเล็ก
อัตราเร่ง - ดูแล้วผมยังเชื่อว่ารถยังเซ็ตไม่ลงตัว มีโอกาสที่มันจะเร็วได้มากกว่านี้และเร็วจนพอสำหรับวิ่งรอบประเทศ แซงได้มั่นใจ..ไม่ใช่แซงแบบต้องรอถนนว่างโล่งสนิทแล้วมาบอกว่ามั่นใจ
การล็อคความเร็ว - รับได้และโอเค
แต่ไม่โอเคตรงที่เหตุผลประกอบคือล็อคเพื่อประหยัดน้ำมัน ถ้าจะล็อคเพื่อประหยัด กรุณาล็อคตั้งแต่ 120 เป็นต้นไป การล็อคที่ 145 ให้บอกไปเลยว่าล็อคเพราะไม่ต้องการให้ใช้ความเร็วสูงกว่านี้ และจบ Make sense
สิ่งที่ Honda ล็อค ถือว่ากึ๋น และไม่ค่อยมีใครอยากทำ และเป็นการตัดเนื้อตัวเองเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ลองคิดดูสิว่าวัยรุ่นใจร้อนหลายคนที่ไม่ชอบ March มาพบว่า Brio วิ่งได้แค่ 145 จะอารมณ์เสียขนาดไหน
เรียกได้ว่า Honda ยอมตัดใจไม่ตามใจลูกค้ากลุ่มนี้ เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและคนที่ใช้รถอย่างหนึ่ง
ส่วนใครอยากจะปลด (ผมเชื่อว่ามีกลุ่มน้อย) ก็หาทางปลดได้อยู่ดี เพราะ L15 ใน City ก็ปลดล็อค 190 ได้
เครื่องบล็อคนี้ก็ไม่น่าจะยาก แต่ไม่น่าจะถูกกระเป๋าเท่าไหร่
ห้องโดยสาร - ไม่ต้องอะไรมาก ผมนั่งมาแล้ว และบอกได้เลยว่ามันไม่ได้คับแคบอย่างที่คิดไว้ตอนแรก
ผมสามารถนั่งขับเบาะหน้าได้สบาย จะให้ขับลงไปยันปัตตานีเลยก็ได้นะ แต่เบาะหลังก็โอเค เล็กตามขนาดรถ
แต่ผมยังพอนั่งได้เป็นเวลาสักชั่วโมงนึง
-
อ่านทุกกระทู้แล้ว แล้วนั่งตรึกตรองดูนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัว
เหตุผลที่ฮอนด้าบอกมาว่าล็อคที่145นั้นมันก็ดีครับ เพราะพฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ขับรถเร็วและอาจจะถึงขั้นเร็วจัดจ้าน การล็อคความเร็วเป็นสิ่งที่ดี และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้จริง
แต่บางที่ถ้ามีเหตุที่ต้องขับเร็วมากกว่านี้เช่น ปวดขี้ เยี้ยวจะราด พ่อแม่จะตาย หรือแม้แต่การนำคนป่วยที่บาดเจ็บหรือเป็นโรคป่วยที่รุ่นแรงพาส่งโรงบาลเพราะบ้านนั้นมีรถบรีโอ้อยู่คันเดียว รถคันแรกในชีวิตที่ออกด้วยเงินเดือนที่หามาด้วยความอยากลำบาก แต่มาเจอความเร็วแค่นี้อาจจะไม่ทันใจและทันการณ์แน่ๆ ขอเพิ่มเป็นเพิ่มเป็น 150-160 ก็ไม่เสียหายนะครับ เป็นทางสายกลางที่ดี
เหตุการฉุกเฉินที่ท่านว่า 150-160 เนี้ย มันน่าจะได้ใช้เฉพาะ ทางไกล พวก มอเตอร์เวย์ หรือบูรพาวิถี เท่านั้นนะครับ แต่ถ้าจะให้เหยีบ 140 ขึ้นในเมือง
ผมยังมองว่ามันเกินจำเป็นไปสักหน่อย และอีกอย่าง คนที่ มีรถคันแรก ของครอบครัว คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยขับรถเร็วหลอกครับ ผมว่านะ
แต่ถ้าท่านต้องการความคล้องตัวในเมือง ผมก็คิดเหมือนหลายๆคนที่บอกว่า ขออัตราเร่งดี มันดีกว่า ท๊อปสปีด เยอะๆอีกนะครับ
ลองคิดดูขับได้ 150-160 แต่ 0-100 ได้ 18 วิ แบบนี้ไม่คล่องตัวแน่ๆครับ ปวดขี้นี่ก็นะคงไม่รอด ส่วนเรื่องที่ปัดน้ำฝน ผมว่าให้ด้านหน้า 1 อัน
ด้านหลัง 1 อันสะจะดีกว่า และผมคิดว่า honda มีน้ำยา เคลือบกระจก มาให้ตั้งแต่ออกจากโรงงานทุกคันทุกรุ่น
ตั้งแต่ City ไป Accord ลองสังเกตุนะครับ กระจกทุกบานเคลือบ สารนี้ไว้ แต่ mazda กับ nissan ไม่มี (ไม่แน่ใจยี่ห้ออื่นมีหรือป่าว)
ผมว่า ไอ้สารตัวนี้ช่วยได้มากเลยเวลาฝนตกครับ
-
ขอนอกเรื่อง : พี่จิมมี่อยู่เชียงรายเหรอครับ เราไปมีตติ้งกันเล็กๆน้อยๆ ไมครับ ;D ;D
-
เรื่องปัดน้ำฝนกระจกหลังเนี่ย ผมใช้มินิอยู่ก็ไม่ค่อยได้ใช้งานมันเลยครับ
เสียตังค์เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนไปสอง สามรอบแล้ว
ส่วนเรื่องต้นทุนนั้น หลายๆ คนอาจรู้สึกว่าอะไรกันนักกันหนากะอีแค่ปัดน้ำฝน
จากประสบกาารณ์แล้วราคาทั้งชุดราวๆ 7,000 บาท
ทำไมมันแพงนัก??? อย่าลืมว่านอกจากไอ้ก้านปัดที่เราเห็นตรงกระจกแล้ว ยังมีชิ้นส่วนอื่นอีก เช่น
ก้านสวิทช์ ตรงคอพวงมาลัย, กระปุกน้ำสำหรับเอาไว้ฉีด, หัวฉีดน้ำ, เพาเวอร์ไฟฟ้าอีก
ไม่นับร วมกระบวนการผลิตที่ต้องเพิ่มเข้าไปอีก 3-4 จุดเป็นอย่างน้อย
คิดได้ดังนั้นทีมงานก็เลือกที่จะตัดมันออกไปดีกว่า ทำให้ต้นทุนรถสูงขึ้น แถมยังเสียเวลาผลิตอีก ไหนจะต้องสต๊อกชิ้นส่วนเพิ่มอีกหลายรายการ
จบข่าว ;D
-
หลังจากดูความเร็วแล้ว ผมว่าแทบไม่ต่างเลยนะครับ
สำหรับ 0-100
บริโอ้0-100 14.86 วินาที (CVT) พี่จิมนั่งคนเดียว
มาร์ช0-100 15.63 วินาที (CVT) นั่งสองคน
ต่างกันตรง
บริโอ้ 80-120 11.09 พี่จิมนั่งคนเดียว
มารืช 80-120 12.59 นั่งสองคน
เห็นตัวเลขเครื่องแล้วนึกว่าจะดีกว่า แต่ก็โอเคครับ
ส่วน ผมคิดว่า Ecocar ของแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน
มาร์ช Ecology
บริโอ้ Economic
ถ้าเซตเครื่องใหม่ก่อนขายกับกลับไปปรับปรุงที่ลูกค้าไทยบอกไว้
ผมว่าขายได้แน่ครับ
-
ผมว่าความเร็วสูงสุดก็okนะ
-
ตอนแรกนึกว่าตัวรถไปได้แค่ 145 เลยสงสัยว่าน้อยจัง
พอรู้ว่าล็อกที่ 145 ผมมองว่าค่อนข้างเข้า่ท่า
เพราะกลุ่มผู้ใช้คงมีวัยรุ่นใจร้อนอยู่ในนั้นแน่ๆ และล็อกความเร็วไว้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้ใช้ความเร็วสูงเกินไปจนเป็นอันตราย
ผมก็วัยรุ่นใจร้อน และรู้ตัวแน่ว่าถ้าขับรถ ถนนโล่งหน่อย ยังไงก็มีมิดตีนแน่
จะบอกว่าหาที่ทำความเร็วระดับนั้นในเมืองยาก ผมเห็น Vios, City, Yaris กดเกิน 140 บนทางด่วนออกบ่อยครับ
หรือออกมาชานเมืองหน่อยอย่างถนนราชพฤกษ์ นครอินทร์ หรือ 345 ก็มี ไล่ฟัดกับกระบะส่งของ และแท็กซี่
ส่วนเรื่องที่ปัดน้ำฝนกับไล่ฝ้าก็เห็นว่าควรจะติดให้อยู่ดี มีให้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
รออ่านผลการทดลองเรื่องช่วงล่างกับการบังคับควบคุมเป็นพิเศษครับ :)
-
ด้วยข้อจำกัดของ Eco car ก็เลยติดตั้งที่ปัดน้ำฝนหลังไม่ได้
งั้นก็ช่วยไปบอก Nissan ด้วยสิว่าให้เอาที่ปัดน้ำฝนหลังออก
อีเวร ตอบมาได้ กำปั้นทุบดินสุดๆ
-
กฎใหม่ของ Eco Car คือห้ามมีที่ปัดน้ำฝนหลัง ?
-
ด้วยข้อจำกัดของ Eco car ก็เลยติดตั้งที่ปัดน้ำฝนหลังไม่ได้
งั้นก็ช่วยไปบอก Nissan ด้วยสิว่าให้เอาที่ปัดน้ำฝนหลังออก
อีเวร ตอบมาได้ กำปั้นทุบดินสุดๆ
ก็เหมือนกับที่เค้าตอบพี่ ตอนไปสัมนากับฮอนด้าที่เขาค้อแหละน้องกล้วย
ก็เรื่องหลอดไฟ ราคาไม่ถึงบาท ในสวิทซ์ปรับกระจกของแจ๊ซGD
"คุณมองราคา1บาทในรถคันเดียว แต่บริษัทมองในแง่จำนวนที่มากขึ้นต่อการผลิต"
ส่วนเรื่องที่อัตราเร่ง กับช่วงล่างที่คุณจิมบอกมา ต้องบอกว่าจริงตามนั้นเลยครับ เท่าที่ขับBrioเองในเวลาสั้น
และมีประสปการณ์อยู่กับทีมแข่งแจ๊ซวันเมคเรซและคลับเรซมาหลายปี
ท๊อปสปีดที่145 ฟังตอนแรกก็คิดว่าต้องล๊อกไว้แน่นอน...(และก็จริงที่วิศวกรบอกคุณจิม)
เพราะเครื่องตัวนี้ (L12)วางอยู่ในแจ๊ซที่เยอรมันจำได้ว่าท๊อปสปีดอยู่ที่
Top Speed 110 mph = 177.02784 kph
อัตราสิ้นเปลือง
ในเมือง 42 miles per gallon = 17.8560357 kilometers per liter
นอกเมือง 60 miles per gallon = 25.5086224 kilometers per liter
**ที่มา http://www.autoexpress.co.uk/carreviews/newreviews/229380/specs/honda_jazz.html?spec=7917923 (http://www.autoexpress.co.uk/carreviews/newreviews/229380/specs/honda_jazz.html?spec=7917923)
ส่วนข้อติติงต่างๆ ท่านวิศวกร รับทราบไปแล้ว
ก็หวังว่า จะปรับปรุงตั้งแต่ส่งมอบคันแรกเลย ก็ยังไม่มีใครได้รับรถซักคันไม่ใช่ นิ!
-
แอบเสียดายนิดๆครับที่ล๊อกความเร็วไว้ที่ 145 น่าจะเปลี่ยนเป็นสัก 160 น่าจะพอเหมาะกว่า
แต่ก็ดีครับ ไม่อันตรายดีด้วย
รออ่านนะครับ :)
-
ท่าทางฮอนด้า ไม่มีตัว MT มาให้ทดสอบแหงๆ
อยากเห็นผลเทสตัวนี้มากกว่า
-
คำถามที่ว่า ทำไมไม่ติดตั้งใบปัดน้ำฝน หรืออย่างน้อย ไล่ฝ้าหลังก็ยังดี
คำตอบจากทีมวิศวกร :
"เหตุผลที่ไม่ได้ใส่ใบปัดน้ำฝนมาให้ เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car
เลยไม่ได้มีการติดตั้งมาให้ อย่างไรก็ตาม เราได้ทำการทดสอบโดยวิ่งด้วยความเร็วสูง
ในสภาพฝนตกแล้ว พบว่าปริมาณการเกาะตัวของน้ำ อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
ส่วนไล่ฝ้าหลังนั้น ไม่ได้ติดตั้งมาให้ เพราะจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้รถของคนไทย
พบว่า ไม่ค่อยได้ใช้งานไล่ฝ้าหลังกันเท่าใดนัก จึงมิได้ใส่มาให้ในตอนนี้"
ประเด็นนี้ มีคนแย้งขึ้นมา ว่า ในระหว่างขับกลับเข้าที่พัก มีฝนตกปรอยๆพอสมควร
และทำให้ได้พบว่า ทัศนวิสัยการมองเห็นด้านหลังยังไม่ดีเท่าที่ควร
วิศวกรก็เลยบอกว่า ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำ เพื่อที่จะนำไปปรับปรุง
และพัฒนาต่อไป หากนี่เป็นความต้องการของลูกค้า ในอนาคต ก็อาจจะพิจารณานำมาติดตั้ง
ให้กับรถรุ่นต่อไป ก็อาจเป็นไปได้
สรุปไปไหนมาไหน โปรดพกผ้าไปด้วยอย่างน้อย 1-2 ผืน
-
คือไม่รู้นะครับว่า ไอ่ต้นทุนเรื่องที่ปัดน้ำฝนหลังกับไล่ฝ้ามันจะเยอะ หรือว่าผลสำรวจของ Honda คนส่วนใหญ่ไม่ใช่
แต่ ผมใช้ครับใช้บ่อยๆด้วย เวลาจำเป็นที่ต้องจอดนอกบ้านหรือกลางแจ้งคุณลองนึกกันดูนะครับ
ถ้าหมอกจับ ไม่มีใบปัดแต่มีไล่ฝ้ายังเปิดไล่ฝ้าแล้วรอได้ หรือถ้ามีใบปัดกดปัดแล้วไปต่อหรือถอยหลังเลย ไม่ต้องคอยออกไปเช็ด
หรือผมเป็นคนส่วนน้อย หรือคนที่ Honda ตกสำรวจ
ยืนยันว่าผมใช้บ่อย!!!
ผมเข้าใจว่า eco car คือรถที่ทำให้ผู้ใช้รถประหยัด ไม่ใช่รถที่ประหยัดทุนสร้าง(แล้วทำให้ผู้ใช้ต้องไปหาอุปกรณ์เสริมมาติดตั้ง เช่นผ้าเช็ดกระจก หรือใบปัด)
-
เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car เลยไม่ได้มีการติดตั้งมาให้
แล้ว March 12E ขึ้นไปทำไมมีให้ครับ แล้วมีข้อจำกัดอันไหนที่เกี่ยวกับที่ปัดน้ำฝนหลังบ้าง
-
ลดต้นทุนก็บอกมาตรงๆเถอะ ฮอนด้าจ๋า
พูดตามตรง
ตั้งแต่ใช้รถท้ายตัดมา เวลาฝนตก ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยใช้ใบปัดหลัง :P
-
ลดต้นทุนก็บอกมาตรงๆเถอะ ฮอนด้าจ๋า
พูดตามตรง
ตั้งแต่ใช้รถท้ายตัดมา เวลาฝนตก ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยใช้ใบปัดหลัง :P
เพราะมันไม่ใช่แค่น้ำฝน แต่มันมีขี้โคลนเกาะโด้ยยยย
ชิมิ ชิมิ ตาเบสท์
-
ตกลงว่าล๊อคเหรอ???
แต่ก็รอรถที่ออกมาวิ่งจริงๆกันดีกว่า เดี๋ยวก็ปลดล๊อคความเร็วได้
ปล.เหตุผลบางอย่างเหมือนข้อแก้ตัว เฮ้อ...
-
สิ่งที่ผมสนใจอีกอย่างหนึ่งคือตำแหน่งเบาะนั่งด้านหลังมันจะสบายไหมน่ะสิครับ
เพราะว่า ด้วยความที่รู้ตัวเองว่าฐานล้อที่สั้นกว่ามาร์ช จึงได้พยายามดันเลือนตำแหน่งเบาะหลังไปทางด้านหลังมากขึ้น
ทำให้มันเหมือนจะนั่งขี่ล้อมากขึ้น จุดนี้เลยอยาการู้ว่ามันนั่งสบายไหมครับ หรือว่ามันจะซับแรงสะเทือนมาถึงตับอย่างมาก
-
ลดต้นทุนก็บอกมาตรงๆเถอะ ฮอนด้าจ๋า
พูดตามตรง
ตั้งแต่ใช้รถท้ายตัดมา เวลาฝนตก ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยใช้ใบปัดหลัง :P
เพราะมันไม่ใช่แค่น้ำฝน แต่มันมีขี้โคลนเกาะโด้ยยยย
ชิมิ ชิมิ ตาเบสท์
ตามนั้นเลยพี่หนุ่ย 55555
โดยเฉพาะ คนที่ไปแปลงกันชนท้าย (ไม่มีบังโคลน)
-
ลดต้นทุนก็บอกมาตรงๆเถอะ ฮอนด้าจ๋า
พูดตามตรง
ตั้งแต่ใช้รถท้ายตัดมา เวลาฝนตก ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยใช้ใบปัดหลัง :P
มันอยู่ที่นิสัยคนขับด้วยอ่ะครับ
ผมบอกเลยว่า ผมใช้ตลอด
-
เพราะว่าด้วยข้อจำกัดของรถ ECO Car เลยไม่ได้มีการติดตั้งมาให้
แล้ว March 12E ขึ้นไปทำไมมีให้ครับ แล้วมีข้อจำกัดอันไหนที่เกี่ยวกับที่ปัดน้ำฝนหลังบ้าง
ข้อจำกัดในต้นทุนของรถรุ่นนี้มากกว่ามั้งครับ
เคยคุยกับ supplier เค้าบอกว่าบริษัทรถเค้าจะทำรถรุ่นไหน เค้าจะคิดก่อนว่าจะขายราคาเท่าไหร่ แล้วต้นทุนไม่เกินเท่าไหร่
ราคาขายแค่นี้ หักภาษีไป เหลือราคาจริง แล้วคุณคิดว่าต้นทุนรถต่อคันจะเหลือเท่าไหร่...
-
อัตราเร่งนี่ถือว่าจัดพอสมควรนะเนี้ย แรงกว่า 1.6 นิโออีก ฮ่าๆๆ!!
รออ่านรีวิวครับป๋ม ^^
นี่ พี่จิม
ของฝากจากเชียงรายอะซื้อมาฝากด้วยนะ
น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู บลาๆๆๆ เยอะแยะ
ไม่มีละน่าดู
โหพี่กล้วย พี่กล้วยบอกพี่จิมมี่ทีว่าจะขึ้นเหนือให้มาเชียงใหม่บ้าง แค๊ปหมูกับไส้อั่วอ่ะ เยอะ!!
จะส่งไปให้พี่จิม ก็ไม่เอา งั้นพี่กล้วยเอาแทนม่ะ 555! PM ที่อยู้มาด้วยนะ อิอิ
-
ปูเสื่อรอจะหลับแล้วครับ
-
ผมเดาว่าวิศวกรญี่ปุ่น ที่ผ่านมาอาจะดูเหมือนว่าไม่ค่อยจะฟังคนไทยเท่าไหร่
และโปรดอย่าเอาความสำเร็จของ City มาเปรียบเทียบ กะ Brio หล่ะกันครับ
-
สงสัยคงได้อ่านพรุ่งนี้ ง่วงแล้วหง่ะ รอนานมาก ไปนอนก่อนนะครับ บายๆ
-
เขียนมาได้ 70 % แล้ว และตอนนี้ ง่วงมากเช่นกันครับ
ใส่รูปครบหมดแล้ว
-
รออ่านอยู่ครับ คุณจิมมี่ เดี๋ยวผมไปอาบน้ำรอก่อนละกันนะครับ ;D
-
ยังรออยู่ครับ เอาใจช่วยครับ อยู่ใกล้ ๆ พี่ jimmy จะหากาแฟอร่อย ๆ จากดอยช้างให้ดื่มคับ
-
ผมยังรอพี่จิมมี่เสมอนะครับ ;D
ปูเสื่อมาตั่งแต่เมื่อวาน วันนี้นอนกางมุ้งรอเลยละกัน
-
ว๊าววววววววววว มาแล้ววววววววว ;D ขอบคุณพี่จิมมี่พี่แพนล่วงหน้าครับ
ความเห็นส่วนตัว ผมโอเค รับได้กับท๊อปสปีดครับ ผมว่าแค่นี้เพียงพอสำหรับวัยมหาลัยอย่างผมครับ 120 ก็กลัวแล้ว ดีตรงจะเพิ่มความประหยัดและปลอดภัยดีด้วย ที่ผมสนใจและมองในแง่ดี เบาะนั่งคุู่หน้า อัตราเร่ง และช่วงล่างครับ ถ้าตรงนี้โอเคก็น่าคบหาอยู่ เสียใจจังทำไมวิศวกรและทีมผู้ผลิตไม่มาสอบถามความต้องการ หรือฟังความเห็นเราก่อนหน้านั้นน่ะ คงจะดีไม่น้อย(ถ้าเป็นไปได้ก็คงดี). ภาวนาให้รถที่จะออกขายจริงดีขึ้นกว่านีิ้ :)
ง่วงก็พักก่อนได้ครับพี่รักษาสุภาพด้วย ผมคงรออ่านไม่นอนง่าย ;)
-
ยังรออ่าน review พี่ Jimmy อยู่ครับ กด F5 รอมาตั้งแต่ 2 ทุ่ม เป็นกำลังใจให้ครับพี่ และขอบคุณที่ทุ่มเท เพื่อคนรออ่านอย่าง พวกเรา ^^
-
การมีสุขภาพที่แข็งแรงคือลาภอันประเสริฐนะครับ อย่าลืม อย่าหักโหมมากนะครับ คนที่รักเราเค้าจะเป็นห่วงเอา จะช้าจะไวยังไงพี่ๆน้องๆชาว HLM ก็ติดตามผลงานเสมอแน่นอน พักผ่อนบ้างนะครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ครับ
-
หลังจาก ManU ชนะ Shalke 04 ก็ยังแวะเข้ามาดู
สงสัย 30% ที่เหลือ มันคงเยอะแฮะ ณ เวลา 03:48 ก็ยังไม่ขึ้น web จ้า
-
ตื่นมาดูบอลจนจบ รีวิวยังไม่คลอดเลย (รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ)
สงสัยพี่จิมมี่แกจะสลบไปแล้วล่ะครับ เช้านี้ไว้มาดูใหม่ นอนก่อนละครับ
-
ล๊อคแล้วไง 145 เกินพอ สำหรับคนทั่วไปใช้งานในเมือง ถ้าจะซื้อ Brio ไว้วิ่งแต่ ทางไกลตลอดไปซื้อ Jazz ซื้อ City เหอะคับ ไม่ต้องบ่นกันหรอก
แต่ถึงล๊อคมาเราก็ปลดได้ แรงน้อยมา เราเทอร์โบได้ ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว
L15A7 เกียร์ธรรมดาใน City เดิมๆกล่องตัดที่หน้าปัดประมาณ 195 พอปลดแล้วก็ไหลไปได้ไม่เกิน ไม่เกิน 215 Km/H แน่นอน เพราะเกียร์ 5 หมดแล้ว
-
ตามสไตล์ครับ เป็นลูกช่างติกันไปหมดแล้ว
ออพชัน ต้องเยอะประหนึ่งรถหรู คีย์เลส แอร์ออโต้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไม่มีก็ถูกบ่น
เครื่องต้องแรง แต่อัตราการสิ้นเปลืองต้องดีมาก เพราะ 11-12 กม./ลิตร ก็ยังรู้สึกว่ากินเกินไป
แต่ทั้งหมดต้องมาในราคาถูกแสนถูก
ลืมไปหรือเปล่าว่ามันคือ ECO Car
ออกมาเพื่อความประหยัด ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงรถยนต์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
ยกระดับคุณภาพชีวิตแทนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ ต้องขับรถเก่าที่บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้
ผมจะรอวันที่ท่านท่านโตขึ้น แล้วได้ทำงานเป็น Product Planning กันบ้าง ว่าจะทำได้หรือไม่
-
ตามสไตล์ครับ เป็นลูกช่างติกันไปหมดแล้ว
ออพชัน ต้องเยอะประหนึ่งรถหรู คีย์เลส แอร์ออโต้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไม่มีก็ถูกบ่น
เครื่องต้องแรง แต่อัตราการสิ้นเปลืองต้องดีมาก เพราะ 11-12 กม./ลิตร ก็ยังรู้สึกว่ากินเกินไป
แต่ทั้งหมดต้องมาในราคาถูกแสนถูก
ลืมไปหรือเปล่าว่ามันคือ ECO Car
ออกมาเพื่อความประหยัด ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงรถยนต์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
ยกระดับคุณภาพชีวิตแทนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ ต้องขับรถเก่าที่บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้
ผมจะรอวันที่ท่านท่านโตขึ้น แล้วได้ทำงานเป็น Product Planning กันบ้าง ว่าจะทำได้หรือไม่
แล้วทำไมมาร์ช มีได้ระคับในราคาที่ต่างกันแค่ 2-3 หมื่น?????? ต้นทุนบริโอ้สูงกว่าขนาดนั้นเลยหรอคับ
-
ตรรกะของการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่า
คือการปฎิบัติตนให้ดูดีกว่าคู่แข่ง...
นั่นคือสิ่งที่นิสสัน มาสด้า และมิตซูบิชิ ให้มาในรถแต่ละรุ่นของเขา
เป็นที่รู้ๆกันว่า โตโยต้า และฮอนด้า คือเบอร์1และเบอร์2 ในตลาดเมืองไทย
ถ้าขายคนไทยแล้วราคาเท่าๆกันกับ เบอร์1และเบอร์2
แล้วใส่ของมากั๊กๆอฟชั่นเหมือนๆกับเบอร์1-2
ช่วยตอบทีครับ ว่าคนซื้อจะซื้อหรือไม่....
***นั่นแหละ ผมถึงเข้าใจว่าทำไมมาร์ชถึงใส่ออฟชั่น กันมาแบบ"โหนกนูนฟูลสเกล"
"สู้กับทัพใหญ่อาวุธต้องครบมือ"
และคนได้ประโยชน์ก็คือผู้บริโภคนั่นเอง
ไม่ได้บอกว่า ยี่ห้อใดดีกว่ากันครับ
แต่มีข้อคิดอย่างนึง รถเครื่องยนต์เดียวกัน แรงม้าเท่ากัน ยี่ห้อและรุ่นเดียวกัน
ตัวท๊อปมีดิสหลัง ตัวเริ่มต้นกับรอง กลับเป็นดรัมเบรค
นั่นคือสิ่งที่ผมเห็นในรถยี่ห้อเบอร์1 (ผมหล๊ะ งง!)
ในขณะที่ เบอร์3-4-5 ให้ออฟชั่นมาชนิดที่เคยพูดกับริงโกะตอนเจอกันครั้งแรกว่า
มันให้มาขนาดนี้ น่าใช้ สุโค่ย!
นั่นแหละเวลามันเปลี่ยนไป เบอร์1-2 ควรจะเปลี่ยนความคิดได้แล้ว
มีของอะไรในญี่ปุ่น ก็ช่วยเอามาใส่ให้มันสุดๆ แบบจัดหนักซะทีคร๊าบ!
-
ตามสไตล์ครับ เป็นลูกช่างติกันไปหมดแล้ว
ออพชัน ต้องเยอะประหนึ่งรถหรู คีย์เลส แอร์ออโต้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไม่มีก็ถูกบ่น
เครื่องต้องแรง แต่อัตราการสิ้นเปลืองต้องดีมาก เพราะ 11-12 กม./ลิตร ก็ยังรู้สึกว่ากินเกินไป
แต่ทั้งหมดต้องมาในราคาถูกแสนถูก
ลืมไปหรือเปล่าว่ามันคือ ECO Car
ออกมาเพื่อความประหยัด ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงรถยนต์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
ยกระดับคุณภาพชีวิตแทนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ ต้องขับรถเก่าที่บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้
ผมจะรอวันที่ท่านท่านโตขึ้น แล้วได้ทำงานเป็น Product Planning กันบ้าง ว่าจะทำได้หรือไม่
เห็นด้วยกับคุณเนย พูดได้ตรงประเด็นมากครับ
-
ตามสไตล์ครับ เป็นลูกช่างติกันไปหมดแล้ว
ออพชัน ต้องเยอะประหนึ่งรถหรู คีย์เลส แอร์ออโต้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไม่มีก็ถูกบ่น
เครื่องต้องแรง แต่อัตราการสิ้นเปลืองต้องดีมาก เพราะ 11-12 กม./ลิตร ก็ยังรู้สึกว่ากินเกินไป
แต่ทั้งหมดต้องมาในราคาถูกแสนถูก
ลืมไปหรือเปล่าว่ามันคือ ECO Car
ออกมาเพื่อความประหยัด ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงรถยนต์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
ยกระดับคุณภาพชีวิตแทนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ ต้องขับรถเก่าที่บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้
ผมจะรอวันที่ท่านท่านโตขึ้น แล้วได้ทำงานเป็น Product Planning กันบ้าง ว่าจะทำได้หรือไม่
ประมาณว่าอยากได้รถ Full Option ที่ราคา Top Load กันน่ะแหละครับ
ไม่เคยคิดว่าจะได้เท่าที่จ่ายกันเลย รถถูกๆแบบนี้ มันก็ได้อีแบบนี้แหละครับ
อีกหน่อยอาจมีเสียงบอกว่า ทำไมอีโคคาร์ ไม่มี Dual Clutch + Clutch Ceramic + Cruise Control ก็เป็นได้นะ
ถ้าอยากได้ออพชั่นเยอะๆ รถแรงๆ ช่วงล่างดีๆ
แนะนำเพิ่มเงินครับ ซื้อ Benz-BMW ไปเลย ครบแน่นอน อะไรจำเป็นไม่จำเป็นพี่แกให้หมด ล้นจริงๆ
-
ประมาณว่าอยากได้รถ Full Option ที่ราคา Top Load กันน่ะแหละครับ
ไม่เคยคิดว่าจะได้เท่าที่จ่ายกันเลย รถถูกๆแบบนี้ มันก็ได้อีแบบนี้แหละครับ
อีกหน่อยอาจมีเสียงบอกว่า ทำไมอีโคคาร์ ไม่มี Dual Clutch + Clutch Ceramic + Cruise Control ก็เป็นได้นะ
ถ้าอยากได้ออพชั่นเยอะๆ รถแรงๆ ช่วงล่างดีๆ
แนะนำเพิ่มเงินครับ ซื้อ Benz-BMW ไปเลย ครบแน่นอน อะไรจำเป็นไม่จำเป็นพี่แกให้หมด ล้นจริงๆ
เท่าที่ผมจำไม่ ผิดนะครับ Benz กับ BMW ยังไม่มีอย่างนึงที่ brioมี อยากรู้มั้ยครับว่าคืออะไร?
... . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ...
มันคือไฟ Eco ไงครับ BMW ยังไม่มีเลย Benz ล่ะมีไม ;D ;D ;D ;D(ฮาๆนะครับ)
*Moza!!! โบกรถเมล Benz มินิบัส(คันเขียว) ขึ้นก่อนจะให้เงินคนขับซิ่งหนี ;D ;D ;D
-
เท่าที่อ่านกระทู้ที่พูดถึงเกี่ยวกับบริโอ้ เกือบทุกกระทู้
จะมีคนตอบโดยใช้อัตตา เป็นส่วนมาก
ผมเลือกที่จะเก็บข้อเท็จจริง จากคุณจิมมี่
เพราะเท่าที่ติดตามมา ไม่ว่าจะเป็นรถคันไหน
คุณจิมมี่จะทดสอบและวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา
โดยไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม
และในขณะเดียวกัน ก็กล้าชมในสิ่งดีที่พบในการทดสอบ
แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆในการทดสอบ
ที่เหลือ ผู้ใช้จริงแบบLongTime จะบอกได้เองว่าจริงหรือไม่.....
ถ้าไม่เปิดใจกว้าง ในสิ่งที่เราเห็น
เราก็จะมองเห็นแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดี
และนั่น ก็คือสิ่งที่ผมมักจะพบในผู้อ่านหลายท่าน...
เมื่อไม่ถูกใจ ก็จะเห็นเป็นสิ่งมืดดำไปเสียหมด
จงติอย่างมีเหตุผล คือ ติเพื่อก่อ มิใช่ด่าทอด้วยความคะนอง...
แล้ววันหนึ่ง คุณก็จะเติบโตเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดี และไม่แก่เร็ว...
อัตตา= ตัวกู ของกู *ความเป็นตัวของตัวเอง( Ego)
-
ใส่ปัดน้ำฝนหลังมาเถอะ....เพิ่มเงินอีกสัก 5000-6000 บาท หรือเป็น op เสริมก็คงไม่น่าเกลียดนา :-*
-
ตามสไตล์ครับ เป็นลูกช่างติกันไปหมดแล้ว
ออพชัน ต้องเยอะประหนึ่งรถหรู คีย์เลส แอร์ออโต้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไม่มีก็ถูกบ่น
เครื่องต้องแรง แต่อัตราการสิ้นเปลืองต้องดีมาก เพราะ 11-12 กม./ลิตร ก็ยังรู้สึกว่ากินเกินไป
แต่ทั้งหมดต้องมาในราคาถูกแสนถูก
ลืมไปหรือเปล่าว่ามันคือ ECO Car
ออกมาเพื่อความประหยัด ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงรถยนต์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
ยกระดับคุณภาพชีวิตแทนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ ต้องขับรถเก่าที่บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้
ผมจะรอวันที่ท่านท่านโตขึ้น แล้วได้ทำงานเป็น Product Planning กันบ้าง ว่าจะทำได้หรือไม่
ตั้งแต่ผมติดตามเว็บมา ผมชอบเวลาคุณเนยคอมเม้นท์จริงๆ ตรงไปตรงมา คิดก่อนพิมทุกครั้ง
เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ อ่านแล้วเกิดประโยชน์จริงๆครับ
-
ตามสไตล์ครับ เป็นลูกช่างติกันไปหมดแล้ว
ออพชัน ต้องเยอะประหนึ่งรถหรู คีย์เลส แอร์ออโต้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไม่มีก็ถูกบ่น
เครื่องต้องแรง แต่อัตราการสิ้นเปลืองต้องดีมาก เพราะ 11-12 กม./ลิตร ก็ยังรู้สึกว่ากินเกินไป
แต่ทั้งหมดต้องมาในราคาถูกแสนถูก
ลืมไปหรือเปล่าว่ามันคือ ECO Car
ออกมาเพื่อความประหยัด ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงรถยนต์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
ยกระดับคุณภาพชีวิตแทนที่จะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ หรือ ต้องขับรถเก่าที่บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้
ผมจะรอวันที่ท่านท่านโตขึ้น แล้วได้ทำงานเป็น Product Planning กันบ้าง ว่าจะทำได้หรือไม่
ตั้งแต่ผมติดตามเว็บมา ผมชอบเวลาคุณเนยคอมเม้นท์จริงๆ ตรงไปตรงมา คิดก่อนพิมทุกครั้ง
เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ อ่านแล้วเกิดประโยชน์จริงๆครับ
สวัสดีครับ อ่านคอมเม้นนี้ แล้ว เลยต้องสมัครเพื่อมาโพสเลยครับ ครั้งแรงเลยครับ หุหุ
สั้น ๆ ครับ โดนจริง ๆ