Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PREM ที่ พฤษภาคม 11, 2011, 00:49:34
-
ยุคนี้เกียร์ออโต้ หรือคลัทช์คู่ หรือเกียร์อื่นๆ ที่เป็นแบบ 2 pedals (ไม่มีแป้นคลัทช์) ในรถยนต์มันก้าวหน้าไปไกลแล้ว
รถบางรุ่นมีเกียร์กันถึง 8 สปีดแล้ว และตอนนี้ Mercedes-Benz ก็กำลังพัฒนาเกียร์ 9 สปีด
ขณะเดียวกัน รถใหม่ๆ บางรุ่น ก็ยังใช้เกียร์ออโต้ที่มีเพียงแค่ 4 สปีดอยู่
อยากถามความเห็นทุกท่านในนี้ว่า หมดเวลาของเกียร์ 4 สปีดรึยัง
รถทุกรุ่นในปัจจุบันนี้ควรจะขยับไปให้เกียร์ 5-6-7-8 สปีด หรือ CVT ได้แล้ว หรือว่า 4 สปีดก็ยังใช้ได้ดีไม่มีปัญหา หรือว่า 4 สปีดมันมากไป?? 2-3 สปีดก็พอแล้ว??
และอยากถามเพิ่มด้วยว่า เกียร์ 8-9 สปีดที่กำลังมานี้ ทุกคนคิดว่ามันมากเกินไปมั้ยครับ?
-
ไม่แค่ 4 หรอกครับ ผมว่า 5 ด้วยที่กำลังจะหมดยุค ต่อไป 6 เกียร์คือพื้นฐานแน่ๆ
-
5 Speed ผมว่ากำลังดีนะ
-
สมัยนี้มันต้อง Infinite Speed แบบ CVT แล้ว
แต่จะว่าไปไอ้ Infinite Speed มันค้นพบตั้งแต่ยุค 60 แล้วนี่หว่า
-
ผมว่าต่อไปคงเข้าสู่ยุคของ ToroidalCVT นะ
-
กับรถเล็ก หรือใช้แค่ในเมือง ผมโอเค
4สปีด พอถึงเกียร4 รถติดพอดี
พูดถึงเกียร4สปีด มันมีข้อเสียที่รอบมันสูง
ถ้าจะทำให้รอบที่เกียร4ต่ำ ก็ต้องทดห่างๆ
อัตราเร่งก็ตกอีก
ผมว่า 5-6สปีด กำลังดีครับ
เกียรหลายๆจังหวะ ทำให้เรียงอัตราทดได้ดีขึ้น อัตราเร่งดี
รักษารอบเครื่องในช่วงที่มีกำลังพอดีๆ
ในขณะที่ความเร็วเกียรสุดท้าย กรณีขับชิลๆ ก็ใช้รอบไม่สูงมาก
แต่ขอทนๆหน่อยเถอะ
เรื่องรถ ผมไม่ค่อยห่วงอะไร แต่เกียรนี่ คือสิ่งที่ผมห่วงที่สุดเลย
-
ผมว่าเกียร์ออโต้น่าจะอยู่ที่ CVT หรือ 7 สปีด
เกียรธรรมดาน่าจะอยู่ที่ 6 หรือ 8 (8 ก็มากไปเนอะสับกันมือแหก)
-
ผมว่าไม่จำเป็นเสมอไปครับว่ามันจะต้องตกยุค จริงๆตอนแรกที่ผมเทียบระหว่าง Civic FD 1.8 กับ 2009 Altis 1.6 ผมก็เซ็งที่มีแค่ 4 เกียร์เหมือนกันนะครับ แต่ก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นหลังจากได้ลองใช้งานมาสองปีนิดๆว่าเอาเข้าจริง 4 สปีดนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่า 5 สปีดเท่าไหร่เลย ให้อัตราเร่งได้ทันใจดีมาก แม้ว่ามันควรจะประหยัดได้มากกว่านี้อีกหากได้เกียร์ 5 สปีดก็ตาม แต่ผมก็ถือว่าประหยัดใช้ได้แหละครับ (นอกเมืองก็ขับอยู่แถว 120 ได้ 15-16 โลลิตร บนมอเตอร์เวย์)
ส่วนเรื่องอัตราเร่ง ให้ดูในตารางเปรียบเทียบของคุณจิมมี่เอานะครับ ดูเฉพาะ Altis 1.6 4AT จะก่อนไมเนอร์หรือหลังก็ได้ครับ เทียบกับ Civic 1.8 5AT ที่เครื่องแรงกว่า และใช้เกียร์ 5 สปีด
(http://www.headlightmag.com/main/images/stories/jimmy01/Toyota/2010_11_22_30_Toyota_Corolla_Altis_Minorchange_Test/2010_Toyota_Corolla_Altis_Minorchange_Data01.jpg)
(http://www.headlightmag.com/main/images/stories/jimmy01/Toyota/2010_11_22_30_Toyota_Corolla_Altis_Minorchange_Test/2010_Toyota_Corolla_Altis_Minorchange_Data05.jpg)
ถ้าคิดว่าแค่ Altis ยังกังขา ลองดู Tiida 1.64AT อีกตัวเปรียบเทียบก็ได้ครับ
ดังนั้นสำหรับผม เกียร์ 4 AT ยังไม่ถือว่าเก่าเกินไปครับ การใช้งานทั่วๆไปในเมืองนั้นก็ถือว่าเพียงพอ และออกนอกเมืองก็ทำได้ไม่น่าเกลียดด้วยครับ ;)
-
โดยส่วนตัวแล้วผมว่า มันอยู่ที่ลักษณะของการใช้งานมากกว่า ครับ ว่าจะเลือกเกียร์แบบไหนและมีกี่จังหวะมาใส่ในรถ เพราะหากว่าเป็นรถที่ไว้ใช้งานในเมืองหรือ รถเล็กที่ไม่ได้เน้น
เรื่องสมรรถนะต่างๆมากมายเน้นเรื่องประหยัดทั้งค่าตัวและน้ำมันแบบนี้ เกียร์ 4 speed ก็เหลือเฟือแล้ว ครับยิ่งเป็น 5 Speed หรือ CVT ก็ยิ่งสบายเลยแต่หากว่าจะเน้นไปที่สมรรถนะ
อัตราเร่งต่างๆ แบบ นี้เกียร์ที่มีจังหวะมากๆ อัตราทดในแต่ละเกียร์ที่ชิดจะช่วยได้ในเรื่องของ อัตราเร่ง และ อัตราสิ้นเปลือง แน่ๆ...แต่มันก็มีราคาที่แพงขึ้นพอควรเมื่อเทียบกับเกียร์
4-5 speed ทั่วไป^^
;D ;D
-
ไม่เก่าก็จริงแต่รุ่นใหม่ๆก็ควรให้ห้ามาเป็นพื้นฐานครับ
ส่วนแปดสปีด เก้าสปีด หนักรถไปเปล่าๆ ถ้างานนี้เดี๋ยวเล็กซัสจะต้องเอา 10 มาเกทับแน่ๆหลังจากขึ้นถึง 8 เป็นรายแรก
-
เลิกก็ดีครับ มันกระตุก ผมไม่ชอบครับ
;D ;D ;D
-
ในความเห็นผม
มันน่าจะสัมพันธ์กับเครื่องยนต์เป็นหลัก
เพราะเครื่องใหม่ๆ โดนบังคับเรื่องมลพิษ
ต้องออกแบบมาให้มีความจุลดลง เผาใหม่หมดจดกว่าเดิม
เมื่อความจุลดลง เอาไอเสียมาเผาซ้ำ
ที่รอบต่ำๆ ถึงกลางๆ ที่เทอร์โบยังไม่บูสต์ แคมยังไม่ยก กำลังก็จะน้อยลงไป
จึงต้องใช้เกียร์ที่มีอัตราทดชิดมากขึ้น มาช่วย
ผมชอบเกียร์ ห่างๆ ลากรอบยาวๆ มันส์ดี 55.
-
อันตราทดเกียร์เท่าไหร่ก็ได้คับ แต่ขอให้ได้ตัวเลขประหยัดพลังงานเยอะๆไว้ก่อน
ยุคนี้และในอนาคตพลังงานแพง ;D
-
ผมว่ามาตรฐานสำหรับเกียร์ธรรมดาน่าจะเป็น 5 ได้แล้วครับ
ผมชอบฮอนด้าอย่างนึงที่ให้เกียร์ออโต้แบบ 5 speed ถึงแม้จะเป็นรถเล็กอย่างซิตี้ก็ตาม
สำหรับค่าบำรุงรักษาของรถที่เป็น 5 เกียร์และน้ำหนัก ไม่ต่างกับ 4 เกียร์มาก แต่สิ่งที่ได้มาคือความต่อเนื่อง สมรรถนะ และความประหยัดน้ำมัน ผมจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นมาตรฐานได้แล้ว
ยกตัวอย่างชัดๆที่ผมไม่ชอบก็คือ มาสด้า3 ตัว 1.6 ที่ให้เกียร์ 4 speed ขับถึงแค่ความเร็ว 60-70 บางทีมันก็กลายเป็นเกียร์4 ซะแล้ว ซดน้ำมันซะ
-
จะเกียร์อะไร ผมก็ว่าขึ้นกับเทคโนโลยี และตัวเครื่องยนต์เองด้วยครับ
ถ้าวิ่งได้เร็ว และประหยัดน้ำมัน จะเกียร์อะไรก็ช่างมันครับ เพราะเกียร์ A/T เราไม่ได้มานั่ง shift เองอยู่แล้ว
-
ผมขับทางยาวทุกวัน วิ่งความเร็วค่อนข้างสูง
ผมใช้ 5 เกียร์ หรือ 6 เกียร์ดีกว่า 4 เกียร์เยอะมากๆครับ
4 เกียร์วิ่ง 140 รอบจะ 4000 อยู่แล้วครับ เปลืองแถมเสียงดังมากด้วย
-
ผมว่าสมัยนี้พื้นฐานควร จะเป็น 5AT ได้แล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่ ก็ควรเป็น CVT
ถึงแม้ว่า4AT อัตราเร่งจะดี แต่ผมว่าแรงปลาย หรือ topspeedนั้น คงต้องแช่ กันนานแน่ๆเลย
มาเห็นด้วยกับคุณ yimyont ครับ
เดาว่า ถ้า Sunny NEO เปลี่ยนเกียร์ เป็น5AT หรือ6AT ล่ะก็มันก็น่าจะยังอืดๆเหมือนเดิม แต่หลายๆอย่างน่าจะดีขึ้น แต่ไม่มาก ;D
(แต่ก็แค่ฝันกลางวัน ;D ;D ;D)
-
อยู่ที่ความเหมาะสมของรถและเครื่องรุ่นนั้นๆ มากกว่ากระมังครับ
เห็นที่สนามDRAG รถมีแค่ 3 เกียร์เองครับ ถ้าจำไม่ผิด ;)
-
4 Speed นั้นพอสำหรับการใช้งาน "ถ้าไม่คิดอะไรมาก"
ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะ จำนวนเกียร์ ยิ่งน้อย อัตราทดระหว่างแต่ละเกียร์
ยิ่งต้องมีจุดบอดในสักจุดระหว่างบางเกียร์
ในรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มักมีการเซ็ตความเร็วที่ใกล้เคียงกัน
เกียร์ 1 - มักหมดกันที่ราวๆ 58-62kmh
เกียร์ 2 - ว่ากันที่ 100-120kmh
เกียร์ 3 - บางค่ายหมดที่ 140 บ้างก็ลากยาวถึง 190
เกียร์ 4 - วิ่ง 100kmh บางรุ่นรอบขึ้น 2,400 บ้างก็ 3,000
การใช้เกียร์แค่ 4 สปีดนั้น จึงเหมือนกับถูกบังคับให้เลือก "ช่วงถนัด"ในการเร่ง
และความประหยัด
หากเลือกทด 1) 55 2) 90 3)135 4)200 แบบนี้เร่งแซงทุกช่วงไว แต่รอบเดินทางสูง ปลายหมดเร็ว
หากเลือกทด 1) 60 2) 110 3) 180 4) Overdrive ก็จะประหยัดน้ำมัน แต่มีจุดอ่อนที่ช่วงความเร็ว 60-80
เพราะเป็นรอบเครื่องที่ยังไม่เข้า Range พละกำลัง หากวิ่งอยู่ 60 แล้วกดคันเร่ง รถจะพุ่งตัวไปไม่แรง
อยากจะลอง 1)55 2)90 3)135 แล้ว 4 เป็น Overdrive ยาวๆ? ก็ได้นะ แต่ถ้าอยู่ 140 แล้วอยากไป 160
ก็จะยังมีจุดอ่อนอยู่ดี และบริษัทรถก็เลือกแล้วที่จะบาลานซ์ทุกอย่างให้มีความเป็นกลางและเน้นประหยัดน้ำมัน
มากกว่าการซิ่ง
ดูจากคลิป Pajero Sport ตัวขับสอง เทียบกับตัวขับสี่ จะเห็นจุดอ่อนของการใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
แล้วถ้าเอาอัตราทด 1) 55kmh 2)90 3) 135 4)200 มาใช้ รู้กันว่าชิดพอสำหรับการใช้งานและเร่งเร็วได้ในหลายช่วง แต่ไม่ประหยัดเพราะเกียร์ท้ายทดจัดไป..ก็เอาเกียร์ 5 เข้ามาโปะ ก็วิ่งทางไกลแบบประหยัดได้แล้ว
ในเมื่อมีช่วงเกียร์ที่รองรับอัตราเร่งได้หลายช่วง เดินทางไกลได้ประหยัดน้ำมันกว่า ก็ย่อมดีกว่า
พูดกันง่ายๆว่าถ้ามีรถสองคันที่เหมือนกันทุกอย่างยกเว้นเกียร์ 4 กับ 5 เกียร์ ..ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องเลือก 4.
แต่เกียร์ ก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งของรถทั้งคัน ดังนั้นเมื่อนำเข้าไปพิจารณารวมกัน บางครั้งหากรถคันนึงมีทุกอย่างที่ตรงใจคุณ แต่ติดตรงที่เกียร์เป็น 4 สปีด ..ผมว่าไม่ควรนำมาคิดมาก
-
ผมว่า 4 s[eed ก็ดีนะ อย่างน้อยๆ ในรถ Altis ผมมั่นใจว่าทนทานกว่า CVT ไม่ต้องมานั่งใช้น้ำมันเกียร์ CVT เท่านั้นด้วย ;)
-
ถ้าคิดแบบท่านผู้การ ยั่งงี้เกียร์ออโต้ 3 สปีดสมัยเก่าก็ยังใช้ได้นี่ครับ "ถ้าไม่คิดอะไรมาก" เน้นแค่ให้รถเคลื่อนที่ได้ก็พอ
ที่ผมไม่เห็นด้วยเพราะว่า โจทย์ของกระทู้อยู่ที่ มันตกยุคแล้วหรือยัง
เราต้องมาดูว่า ยุคนี้เขานิยมอะไร... เรื่องการอนุรักษ์พลังงานใช่มั้ย ?
แล้วเกียร์ 4 สปีดให้รอบเดินทางสูงกว่า กินน้ำมันมากกว่า ซึ่งขัดกับเทรนด์ยุคนี้
ดังนั้นผมว่าเกียร์ 4 สปีด ตกยุคแล้วล่ะครับ
-
7 Speed DSG สิครับ เทรนด์นี้มาแรง ;D
-
ผมว่า 4 s[eed ก็ดีนะ อย่างน้อยๆ ในรถ Altis ผมมั่นใจว่าทนทานกว่า CVT ไม่ต้องมานั่งใช้น้ำมันเกียร์ CVT เท่านั้นด้วย ;)
ที่บอกว่าทนทานกว่านี่กี่กิโลเมตรครับถึงพังครับสำหรับเกียร์ของ Altis ครับ?
;D ;D ;D
-
7 Speed DSG สิครับ เทรนด์นี้มาแรง ;D
อันนี้อยากได้มากครับ
;D ;D ;D
-
ผมว่า 4 s[eed ก็ดีนะ อย่างน้อยๆ ในรถ Altis ผมมั่นใจว่าทนทานกว่า CVT ไม่ต้องมานั่งใช้น้ำมันเกียร์ CVT เท่านั้นด้วย ;)
ที่บอกว่าทนทานกว่านี่กี่กิโลเมตรครับถึงพังครับสำหรับเกียร์ของ Altis ครับ?
;D ;D ;D
ไม่รู้จีิงๆครับ แต่ไม่มั่นใจ เกียร์ CVT ครับ จากที่ฟังจากการทดสอบใน web เรา ไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้ ;D ;)
-
ผมว่าทนไม่ทนมันขึ้นอยู่กับคน มากกว่านะครับสำหรับ CVT เนี่ย
ลองเกียร์ 4 Speed เอะอะ kick down กันเป็นประจำ ผมว่าก็พัง
-
ขอตอบแบบเพ้อเจ้อนิดนึงนะครับ
ผมอยากให้เป็นเดินหน้า2speed กับถอยหลัง 1 speed น่ะครับ ;D
มี2เกียร์ เกียร์ low มีไว้เร่งแซง ขออัตราเร่งเทพๆ หน่อย และก็เกียร์ HI มีไว้ขับชิวๆ อ่ะครับ
แบบว่ากดคันเร่งทีเดียวไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ครับ :D
-
ขอตอบแบบเพ้อเจ้อนิดนึงนะครับ
ผมอยากให้เป็นเดินหน้า2speed กับถอยหลัง 1 speed น่ะครับ ;D
มี2เกียร์ เกียร์ low มีไว้เร่งแซง ขออัตราเร่งเทพๆ หน่อย และก็เกียร์ HI มีไว้ขับชิวๆ อ่ะครับ
แบบว่ากดคันเร่งทีเดียวไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ครับ :D
ฮอนด้าคลิกไปเลยครับ อิิอิ บิดอย่างเดียว
-
เก่าไปแล้วครับ
เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยีมันโตมากแล้ว นอกจากเหตผลด้านต้นทุน ผมก็ไม่เห็นว่า จะมีอะไรที่ต้องทำให้ใช้ 4 speed
-
ผมว่ามันเก่าไปมากๆเลย แต่ถ้า overdrive รอบไม่สูงมากผมยังถือว่าพอทนนะ ;D
-
ไม่ตกยุค แต่ผมกลับไม่ชอบ เพราะในแง่การขับทั่วๆไป มันลากนานไปนิดช่วงเกียร์ 2 - 3 3 - 4 เปลืองน้ำมัน
เลยชอบ 5 จังหวะ มันกระฉับกระเฉงดี แม้จะเปลี่ยนถี่ไปหน่อย แต่ถ้ารถรุ่นไหนมีระบบหน่วง ก็น่าจะช่วยได้
-
มันคงตกยุคไปแล้วล่ะครับตอนนี้ แต่ผมยังรู้สึกชอบมากกว่า 5 จังหวะใน CR-V
แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็น CVT ครับ มันลื่นไหลดีจริงๆ เหยียบปุ๊ปมาปั๊ป รอบดีดอย่างไว
-
สำหรับผมมันเก่าไปแล้ว ใช้อินโนว่า 4 AT พอถึง 60 กม/ชม มันอืดมาก ๆ พอเร่งถึง 120 กม/ชม รอบก็สูง กินน้ำมันมาก ๆ
อาจเป็นเพราะเป็นรถขับหลัง และเครื่อง 2000 ซีซี 136 แรงม้า แบกน้ำหนัก 1.6 ตันด้วย
แต่ถ้าได้ 5 AT อย่างน้อยวิ่งทางไกลมันน่าจะประหยัดกว่านี้
-
รถผม NewCity MT ยังอยากให้มี 6 เลยครับ
เพราะเกียร์ 5 รถผมขับ 100 รอบล่อไป 3000 แหนะ เปลืองมาก
-
เก่าไปแล้วครับ
เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยีมันโตมากแล้ว นอกจากเหตผลด้านต้นทุน ผมก็ไม่เห็นว่า จะมีอะไรที่ต้องทำให้ใช้ 4 speed
ผมเห็นด้วยครับ
ส่วนตัวผมชอบ CVT มากครับ ไหลลื่น วิ่งเรียบตลอดการเดินทาง
แต่หลายท่านก็ว่ากันว่า CVT ไม่ค่อยทนทาน บางคนบอกว่าไปตั้งแต่ 70,000 บางคนก็บอกไปตั้งแต่ 100,000 ต้น
ตอนนี้ CityZX ผมเลย 140,000 ไปแล้วยังใช้งานปกติดี (ยกเว้นมันจะหอนเบาๆ ช่วง 60-80 km/h)
จะรอดูครับว่ามันจะทิ้งผมก่อน หรือ ผมจะทิ้งมันก่อน(ขาย)
-
4 Speed นั้นพอสำหรับการใช้งาน "ถ้าไม่คิดอะไรมาก"
ที่ต้องบอกแบบนี้เพราะ จำนวนเกียร์ ยิ่งน้อย อัตราทดระหว่างแต่ละเกียร์
ยิ่งต้องมีจุดบอดในสักจุดระหว่างบางเกียร์
ในรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มักมีการเซ็ตความเร็วที่ใกล้เคียงกัน
เกียร์ 1 - มักหมดกันที่ราวๆ 58-62kmh
เกียร์ 2 - ว่ากันที่ 100-120kmh
เกียร์ 3 - บางค่ายหมดที่ 140 บ้างก็ลากยาวถึง 190
เกียร์ 4 - วิ่ง 100kmh บางรุ่นรอบขึ้น 2,400 บ้างก็ 3,000
การใช้เกียร์แค่ 4 สปีดนั้น จึงเหมือนกับถูกบังคับให้เลือก "ช่วงถนัด"ในการเร่ง
และความประหยัด
หากเลือกทด 1) 55 2) 90 3)135 4)200 แบบนี้เร่งแซงทุกช่วงไว แต่รอบเดินทางสูง ปลายหมดเร็ว
หากเลือกทด 1) 60 2) 110 3) 180 4) Overdrive ก็จะประหยัดน้ำมัน แต่มีจุดอ่อนที่ช่วงความเร็ว 60-80
เพราะเป็นรอบเครื่องที่ยังไม่เข้า Range พละกำลัง หากวิ่งอยู่ 60 แล้วกดคันเร่ง รถจะพุ่งตัวไปไม่แรง
อยากจะลอง 1)55 2)90 3)135 แล้ว 4 เป็น Overdrive ยาวๆ? ก็ได้นะ แต่ถ้าอยู่ 140 แล้วอยากไป 160
ก็จะยังมีจุดอ่อนอยู่ดี และบริษัทรถก็เลือกแล้วที่จะบาลานซ์ทุกอย่างให้มีความเป็นกลางและเน้นประหยัดน้ำมัน
มากกว่าการซิ่ง
ดูจากคลิป Pajero Sport ตัวขับสอง เทียบกับตัวขับสี่ จะเห็นจุดอ่อนของการใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
แล้วถ้าเอาอัตราทด 1) 55kmh 2)90 3) 135 4)200 มาใช้ รู้กันว่าชิดพอสำหรับการใช้งานและเร่งเร็วได้ในหลายช่วง แต่ไม่ประหยัดเพราะเกียร์ท้ายทดจัดไป..ก็เอาเกียร์ 5 เข้ามาโปะ ก็วิ่งทางไกลแบบประหยัดได้แล้ว
ในเมื่อมีช่วงเกียร์ที่รองรับอัตราเร่งได้หลายช่วง เดินทางไกลได้ประหยัดน้ำมันกว่า ก็ย่อมดีกว่า
พูดกันง่ายๆว่าถ้ามีรถสองคันที่เหมือนกันทุกอย่างยกเว้นเกียร์ 4 กับ 5 เกียร์ ..ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องเลือก 4.
แต่เกียร์ ก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งของรถทั้งคัน ดังนั้นเมื่อนำเข้าไปพิจารณารวมกัน บางครั้งหากรถคันนึงมีทุกอย่างที่ตรงใจคุณ แต่ติดตรงที่เกียร์เป็น 4 สปีด ..ผมว่าไม่ควรนำมาคิดมาก
โคตรเห็นด้วยกะพี่แพนเลย เรื่องช่วงจุดอ่อนของเกียร์ 4 จังหวะ อัลติสถ้าวิ่งด้วยความเร็ว 60-80 เปลี่ยนมาเกียร์ 3 แล้วรถไม่ค่อยวิ่งเลย ต้องลงเกียร์ 2 หรือไม่ให้รอเลย 90 ไปก่อนถึงจะเร็ว
เหมือนพี่แพนพูดเดะเลย พี่แพนเก่งโคตรอ่ะ
-
ถ้าคิดแบบท่านผู้การ ยั่งงี้เกียร์ออโต้ 3 สปีดสมัยเก่าก็ยังใช้ได้นี่ครับ "ถ้าไม่คิดอะไรมาก" เน้นแค่ให้รถเคลื่อนที่ได้ก็พอ
ที่ผมไม่เห็นด้วยเพราะว่า โจทย์ของกระทู้อยู่ที่ มันตกยุคแล้วหรือยัง
เราต้องมาดูว่า ยุคนี้เขานิยมอะไร... เรื่องการอนุรักษ์พลังงานใช่มั้ย ?
แล้วเกียร์ 4 สปีดให้รอบเดินทางสูงกว่า กินน้ำมันมากกว่า ซึ่งขัดกับเทรนด์ยุคนี้
ดังนั้นผมว่าเกียร์ 4 สปีด ตกยุคแล้วล่ะครับ
คุณ chariot ถ้าบอกว่าเกียร์ 4 จังหวะมันกินรอบเครื่องมากกว่าแต่ไม่ใช่ทุกรุ่นนะ บ้านผมมีตัวอย่างอยู่ accord g8 5AT กับ colorado 4AT 2คันนี้เทียบความเร็วกับรอบเครื่องแล้วพอๆกันเลย ที่ความเร็ว 100 ใช้รอบเครื่องประมาณ 2000 รอบทั้งคู่ 120 ก็ใช้ประมาณ 2400 รอบกว่าๆทั้งคู่เช่นกัน แต่ขับแอคคอร์ดเวลาเจอเนินแล้วจะหงุดหงิดดว่าเพราะเกียร์5มันทำมาลดรอบอย่างเดียว กำลังแทบจะไม่มีแตะคันเร่งหน่อยมันลงมาเกียร์4เลย ขณะที่เจ้าโคโลราโด้ถ้าแตะคันเร่งมันก็ไต่ไปได้เรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องลดเกียร์แต่ประการใด นาวาร่ามี 5AT มันก็ใช้รอบเครื่องประมาณนี้เหมือนกันไม่ได้ต่างกับ 4AT เลย แต่มันจะได้ตรงอัตราเร่งตามที่ผู้การแพนว่าไว้น่ะแหละ
-
โบราณ
-
มันจะสปีดไม่สำคัญครับ วิ่งไหน กทม. ก็ไม่เกิน gear 3 หรอกครับ
-
เรื่องรอบเครื่องที่สูงในช่วงความเร็วเดินทางของเกียร์ auto 4 speed ไม่จำเป็นต้องคู่กันเสมอนะครับ เพราะการที่รอบเครื่องจะเท่าไรนั้นมันมาจากหลายตัวแปร
เช่น อัตราทดของเกียร์ และ เฟืองท้ายที่ต้องเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับพละกำลังของเครื่องยนต์ว่ามีมากน้อยขนาดไหน และจะใช้งานอะไร บางทีเราอาจเห็นรถที่มี
เกียร์ 4 speed หลายคันใช้รอบค่อนข้างสูงในช่วงความเร็วเดินทาง 100 km/hr บางรุ่นฟาดไปแล้วเกือบ 3000 รอบแต่ในขณะเดียวกันบางรุ่นอาจจะใช้รอบแค่
2000 นิดๆเท่านั้นเอง ^^ ;D ;D
บางทีผมมองเรื่องของประสิทธิภาพการส่งถ่ายกำลัง และ ความนุ่มนวลในการใช้งาน เป็นหลักเหมือนกัน(เพราะเทคโนโลยีของเกียร์สมัยนี้ข้อนข้างที่จะทันสมัย
มากๆแล้ว)ถึงแม้จะมีแค่ 4-5 จังหวะก็เพียงพอแล้วละ ;D ;D
-
จขกท. ขอแสดงความห็นมั่ง
ผมว่า 4 เกียร์มันน้อยไป ช่องว่างระหว่างเกียร์มันกว้างเกิน
กดคันเร่งไปบางทีก็เกียร์สูงเกิน ไม่มีแรง บางทีก็ลงต่ำเกิน รอบฟาดไปสูงเกินโดยไม่จำเป็น
อีกอย่างที่ความเร็วเดินทาง รอบเครื่องในเกียร์ 4 ค่อนข้างสูง 110 ล่อไปเกือบ 3,000
ผมรู้ว่าทดเฟืองท้ายให้รอบต่ำๆ ก็ได้ แต่ทำแบบนั้นอัตราเร่งก็จะแย่ลงไปอีก
ผมว่าปัจจุบันควรจะมีสัก 6 เกียร์เป็นมาตรฐาน หรือไม่ก็ CVT
-
ผมว่า 4 s[eed ก็ดีนะ อย่างน้อยๆ ในรถ Altis ผมมั่นใจว่าทนทานกว่า CVT ไม่ต้องมานั่งใช้น้ำมันเกียร์ CVT เท่านั้นด้วย ;)
ที่บอกว่าทนทานกว่านี่กี่กิโลเมตรครับถึงพังครับสำหรับเกียร์ของ Altis ครับ?
;D ;D ;D
เอาเป็นว่าโดยรวมมันทำระยะได้ไกลกว่า CVT ครับด้วยการออกแบบในตัวมันเองนั้นแหละอะไรที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นปัญหามันก็ตามมามากขึ้น
แต่เดี่ยวนี้มีชุดซ่อมไม่ต้องห่วงมากเตรียมเงินไว้อย่างเดียวครับ
-
คุณ chariot ถ้าบอกว่าเกียร์ 4 จังหวะมันกินรอบเครื่องมากกว่าแต่ไม่ใช่ทุกรุ่นนะ บ้านผมมีตัวอย่างอยู่ accord g8 5AT กับ colorado 4AT 2คันนี้เทียบความเร็วกับรอบเครื่องแล้วพอๆกันเลย ที่ความเร็ว 100 ใช้รอบเครื่องประมาณ 2000 รอบทั้งคู่ 120 ก็ใช้ประมาณ 2400 รอบกว่าๆทั้งคู่เช่นกัน แต่ขับแอคคอร์ดเวลาเจอเนินแล้วจะหงุดหงิดดว่าเพราะเกียร์5มันทำมาลดรอบอย่างเดียว กำลังแทบจะไม่มีแตะคันเร่งหน่อยมันลงมาเกียร์4เลย ขณะที่เจ้าโคโลราโด้ถ้าแตะคันเร่งมันก็ไต่ไปได้เรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องลดเกียร์แต่ประการใด นาวาร่ามี 5AT มันก็ใช้รอบเครื่องประมาณนี้เหมือนกันไม่ได้ต่างกับ 4AT เลย แต่มันจะได้ตรงอัตราเร่งตามที่ผู้การแพนว่าไว้น่ะแหละ
รถคนละชนิด คนละประเภทเครื่องยนต์ คนละความจุกระบอก ก็ยังเอามาเทียบกันได้เนอะ ::)
ที่ผมบอกว่าเกียร์ 4 สปีดรอบเครื่องสูงกว่า เทียบเอาจากเครื่องเบนซินขนาดตัวถังและความจุเดียวกัน (1,600 ซีซี) จำนวน 3 คัน
จำนวนรถที่ได้เทสต์อาจจะน้อยไปที่จะทำการสรุป หากใครมีข้อมูลการเทสต์ที่ใกล้เคียงกัน ก็แลกเปลี่ยนได้ครับ (แต่แอคคอร์ดVSกระบะไม่เอานะครับ)
-
คุณ chariot ถ้าบอกว่าเกียร์ 4 จังหวะมันกินรอบเครื่องมากกว่าแต่ไม่ใช่ทุกรุ่นนะ บ้านผมมีตัวอย่างอยู่ accord g8 5AT กับ colorado 4AT 2คันนี้เทียบความเร็วกับรอบเครื่องแล้วพอๆกันเลย ที่ความเร็ว 100 ใช้รอบเครื่องประมาณ 2000 รอบทั้งคู่ 120 ก็ใช้ประมาณ 2400 รอบกว่าๆทั้งคู่เช่นกัน แต่ขับแอคคอร์ดเวลาเจอเนินแล้วจะหงุดหงิดดว่าเพราะเกียร์5มันทำมาลดรอบอย่างเดียว กำลังแทบจะไม่มีแตะคันเร่งหน่อยมันลงมาเกียร์4เลย ขณะที่เจ้าโคโลราโด้ถ้าแตะคันเร่งมันก็ไต่ไปได้เรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องลดเกียร์แต่ประการใด นาวาร่ามี 5AT มันก็ใช้รอบเครื่องประมาณนี้เหมือนกันไม่ได้ต่างกับ 4AT เลย แต่มันจะได้ตรงอัตราเร่งตามที่ผู้การแพนว่าไว้น่ะแหละ
รถคนละชนิด คนละประเภทเครื่องยนต์ คนละความจุกระบอก ก็ยังเอามาเทียบกันได้เนอะ ::)
ที่ผมบอกว่าเกียร์ 4 สปีดรอบเครื่องสูงกว่า เทียบเอาจากเครื่องเบนซินขนาดตัวถังและความจุเดียวกัน (1,600 ซีซี) จำนวน 3 คัน
จำนวนรถที่ได้เทสต์อาจจะน้อยไปที่จะทำการสรุป หากใครมีข้อมูลการเทสต์ที่ใกล้เคียงกัน ก็แลกเปลี่ยนได้ครับ (แต่แอคคอร์ดVSกระบะไม่เอานะครับ)
อ่ายะผมก็นั่ง งงตั้งนานว่า เอาดีเซล ไปเปรียบกับ เบนซิน ได้ไง ยังไงๆดีเซลรอบกว่าต่ำกว่าอยู่แล้ว ::)
-
คุณ chariot ถ้าบอกว่าเกียร์ 4 จังหวะมันกินรอบเครื่องมากกว่าแต่ไม่ใช่ทุกรุ่นนะ บ้านผมมีตัวอย่างอยู่ accord g8 5AT กับ colorado 4AT 2คันนี้เทียบความเร็วกับรอบเครื่องแล้วพอๆกันเลย ที่ความเร็ว 100 ใช้รอบเครื่องประมาณ 2000 รอบทั้งคู่ 120 ก็ใช้ประมาณ 2400 รอบกว่าๆทั้งคู่เช่นกัน แต่ขับแอคคอร์ดเวลาเจอเนินแล้วจะหงุดหงิดดว่าเพราะเกียร์5มันทำมาลดรอบอย่างเดียว กำลังแทบจะไม่มีแตะคันเร่งหน่อยมันลงมาเกียร์4เลย ขณะที่เจ้าโคโลราโด้ถ้าแตะคันเร่งมันก็ไต่ไปได้เรื่อยๆโดยที่ไม่ต้องลดเกียร์แต่ประการใด นาวาร่ามี 5AT มันก็ใช้รอบเครื่องประมาณนี้เหมือนกันไม่ได้ต่างกับ 4AT เลย แต่มันจะได้ตรงอัตราเร่งตามที่ผู้การแพนว่าไว้น่ะแหละ
รถคนละชนิด คนละประเภทเครื่องยนต์ คนละความจุกระบอก ก็ยังเอามาเทียบกันได้เนอะ ::)
ที่ผมบอกว่าเกียร์ 4 สปีดรอบเครื่องสูงกว่า เทียบเอาจากเครื่องเบนซินขนาดตัวถังและความจุเดียวกัน (1,600 ซีซี) จำนวน 3 คัน
จำนวนรถที่ได้เทสต์อาจจะน้อยไปที่จะทำการสรุป หากใครมีข้อมูลการเทสต์ที่ใกล้เคียงกัน ก็แลกเปลี่ยนได้ครับ (แต่แอคคอร์ดVSกระบะไม่เอานะครับ)
คุณโพสได้ตอนแรกไม่ได้บอกนี่ครับว่าเฉพาะรถยนต์ 1600 CC คุณเล่นตอบแบบเหมารวมมาเลย ผมก็เลยแค่อธิบายว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่คุณว่าไปสำหรับรถทุกรุ่นนี่ครับ ทันสมัยจริงต้องรถบัสกับรถบรรทุกครับพวกนี้มี 5AT ใช้มาเป็น10ปีแล้ว มาตราฐานของทุกวันนี้ก็เป็น 6AT แล้วด้วย ไม่นับพวกคลัชท์ไฟฟ้าที่ตอนนี้ว่ากัน12เกียร์ขั้นต่ำ แต่ก็ยังมี4AT ไว้ให้เลือกสำหรับพวกรถ City Bus บางรุ่น
-
ถ้าคิดแบบท่านผู้การ ยั่งงี้เกียร์ออโต้ 3 สปีดสมัยเก่าก็ยังใช้ได้นี่ครับ "ถ้าไม่คิดอะไรมาก" เน้นแค่ให้รถเคลื่อนที่ได้ก็พอ
ที่ผมไม่เห็นด้วยเพราะว่า โจทย์ของกระทู้อยู่ที่ มันตกยุคแล้วหรือยัง
เราต้องมาดูว่า ยุคนี้เขานิยมอะไร... เรื่องการอนุรักษ์พลังงานใช่มั้ย ?
แล้วเกียร์ 4 สปีดให้รอบเดินทางสูงกว่า กินน้ำมันมากกว่า ซึ่งขัดกับเทรนด์ยุคนี้
ดังนั้นผมว่าเกียร์ 4 สปีด ตกยุคแล้วล่ะครับ
คำว่าตกยุค ครอบคลุมถึงไหนกันล่ะครับ ถ้ารถจำนวนไม่น้อยในตลาดยังใช้กันอยู่ ผมว่าแปลว่าไม่ตก
แต่ 3 สปีด ตกยุคแน่นอน เพราะจุดอ่อนชัดเจนมากทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและเรื่องความต่อเนื่องของการส่งกำลัง
และที่สำคัญคือไม่มีใครใช้แล้วในตลาดรถป้ายแดงในไทยตอนนี้
ประเด็นที่ผมบอก ถ้าอ่านทั้งหมดที่ผมพิมพ์ละเอียด ก็จะเข้าใจว่าที่จริงผมไม่ได้ปักหลักว่า 4 เกียร์นั้นดี
แต่ 4 เกียร์ในปัจจุบันยังใช้การได้ แต่ก็ได้แจงรายละเอียดไว้แล้วว่าการขยับไปเป็น 5 นั้น เป็นสิ่งที่น่าทำได้แล้ว
เพราะมีข้อดีมากกว่า แต่ตกยุค..ผมว่ายังไม่ใช่..ยิ่งเป็นเรื่องมลภาวะ..เกียร์ที่ทดต่ำจะมีส่วนช่วยเวลาเดินทางไกล
ที่รอบต่ำ แต่ในเมืองที่ติดและขยับบ้าง เกียร์ 1 ของคุณไม่ว่าจะรถ 4 หรือ 5a/t ไม่ได้ทดต่างกันมากเลย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
-
ผมก็ใช้เกียร์ 4 speed อยู่ แตถ้าต้องซื้อรถใหม่ผมไม่เลือกแค่ 4 เกียร์แน่นอน
ผมว่าบางบริษัทค่อนข้างเอาเปรียบผู้บริโภคครับ
ราคาขายเท่ากัน แต่บริษัทแรกให้ 4 เกียร์ อีกบริษัทให้ 5 เกียร์ ผมว่าบริษัทที่ให้ 4 เกียร์เอาเปรียบผู้บริโภคครับ
เพราะ Feature แต่ละอย่างเค้าจะพิจารณาจากจำเป็นต้องให้ลูกค้าหรือเปล่า
-ถ้าไม่มีให้แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ บ่นก็จำเป็นต้องลดกำไรใส่ให้
-ถ้าคิดว่าไม่ใส่แล้ว อย่างไรลูกค้าก็ยังซื้ออยู่ดี ก็ไม่ต้องใส่ให้ครับ กำไรต่อคันเยอะดี แต่ถ้าเริ่มบ่นก็จะใส่ตอน MMC
ทำเหมือนเป็นของใหม่ ทั้งที่จริงๆ ต้องใส่มาให้ลูกค้าตั้งแต่แรกแล้ว ผมว่าบริษัทแบบนี้เอาเปรียบผู้บริโภคครับ
ส่วนใหญ่ก็เอาเปรียบเราผู้บริโภคทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามากน้อยแค่ไหน
หน้าที่ของผู้บริโภคก็เลือกบริษัทที่เอาเปรียบเราน้อยที่สุด คุณภาพ ความปลอดภัย และ feature เหมาะสมที่สุด
แต่เน้นว่าอย่าดูแต่ feature นะครับ จะโดนหรอกเอาง่าย ว่า feature เพียบแต่ไปลดโครงสร้างอื่นๆ ที่เรามองไม่เห็นแต่มีผลต่อความปลอดภัยโดยตรง
-
ผมว่า เกียร์ทุกแบบน่ะแหละ ไม่ว่าธรรมดาหรือ Automatic ก็ตามแต่ในไทย
ควรขยับมาตรฐานเพิ่มอีกอย่างละจังหวะเถิด...
ตอนนี้รถบ้านเรา(ไม่นับรถนำเข้า)ที่เกียร์ธรรมดา 5 สปีดน่ะ ขออีกนิดนะ ให้ 6 ไปเลย ให้เหมือน Navara กับ Altis หน่อย
ส่วนเกียร์ออโตเมติก นี่ก็เหมือนกัน 4 สปีด กันแทบทุกรุ่น...ขอสัก 5 สปีดเหอะนะ
(แต่รุ่นใหม่ๆนี่ตั้งใจประชดรึเปล่าไม่รุ เช่นอัลติส ให้เลย 7 สปีด Cruze,Focus ก็ 6 speed)
ป.ล.น่าจะมีเกียร์ธรรมดาให้เลือกในบางรุ่น Top ด้วย เพราะรุ่น Top มักเกิดมาแรง ไม่ต้องเน้นสะดวกสบายมากก็ได้
เช่น Corolla altis 2.0v 6MT แบบเนี้ย..
-
เสริมข้างบนนิดนึง altis เป็นเกียร์cvt ในรุ่น1.8 กับ 2.0ครับ ส่วน ตัว1.6 เป็น4at
ส่วนที่เขา โฆษณา ว่า7speedนั้น มากจากการล็อค อัตราทดเกียร์ ไว้เวลา เราจะเล่นโหมด+ -ครับ
ตัวอย่าง รถที่มีลักษณะนี้ เหมือนกันคือjazzตัวแรกครับ