Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: benley ที่ มิถุนายน 21, 2009, 20:59:01
-
เครื่องยนต์ญี่ปุ่นแบบขับหลัง ขนาด2000ซีซี มีรุ่นไหนบ้างครับ
เพราะเท่าที่ผมมีความรู้ก็แค่ SR 3S แล้วเครื่องของอินโนว่า
และตัวไหนทนสุด จุกจิกน้อยสุด กะว่าจะหาความรู้ก่อนที่จะซื้อรถ
แล้วเอามาเปลี่ยนเครื่องครับ เพราะว่าอยากได้ 190E
ปล.รบกวนถ้ามีสเปคก็ยิ่งดีนะครับ และมีตัวไหนที่มีเกียร์ธรรมดา 6 สปีดบ้างครับ
ขอบคุณครับ
-
190E ส่วนมากถ้าเปลี่ยนเครื่องก็มีแต่วางเจกันครับ
แต่บอกไว้ก่อนว่าตอนเบนซ์ทำรถรุ่นนี้ออกมา เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันวางเครื่องหกสูบเลยแม้แต่น้อย
การที่เกิด 190E 2.6 6 สูบขึ้นมาเพราะต้องการทำมาไล่กับ BMW 325e/325i E30 และเครื่องหกสูบที่วางในนั้น ก็เป็นเครื่องเสื้อเหล็ก ฝาอัลลอย เครื่องทั้งตัวหนักกว่า 4G63ไม่กี่โล ไม่ใช่เครื่องฝาใหญ่ๆ แค็มสองแท่ง
วางได้ แต่ห้องเครื่องแน่นเอี้ยดเลยนะ แน่นกว่า E36วางเจอีก
เครื่องญี่ปุ่นขับหลัง มีตัวไหนบ้างที่ 2,000cc
เท่าที่นึกออก ง่ายที่สุดก็คือ SR20 ทั้งหลาย มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกแน่ หาไม่ยาก และมีให้เลือกหลายปีหลายรุ่น
3S ถ้าเป็นขับหลัง ก็ต้องเป็นเครื่องของ Altezza BEAMS 200 ม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่หายากกว่า และราคาไม่ถูกนัก แต่เพราะตัว 190E จริงๆแล้วเบากว่า Altezza นิดๆ ถ้าเราวางเครื่องตัวนี้ได้ก็คงขับสนุกไม่หยอก
มีขับหลังอีกตัวคือ F20C ของฮอนด้าไงล่ะ 2.0ลิตร 240-250 แรงม้า เกียร์หกสปีดด้วย แต่มันน่าจะราคาแพงยิ่งกว่า 3S BEAMS ซะอีกน่อ
ถ้าคุณชอบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และกำลังมองเครื่อง 4 สูบ ก็ยังมีเครื่องของ Silvia S15 ซึ่งใช้เครื่อง SR20DET ฝาดำหลังหักตัวหลังสุด 250 แรงม้าเท่าฮอนด้า แต่แรงบิดสูงกว่าเยอะ แต่จะโมเพิ่มหรือไม่? เพราะเกียร์ S15 6 สปีดนั้นออกแบบมาโดยพยายามทำขนาดให้เท่ากับเสื้อเกียร์ 5 สปีด แต่ต้องยัดเฟืองเกียร์ 6 สปีด ทำให้ถ้าเล่นกันหนักๆแล้วไม่ทนเท่า 5 สปีด
ปัญหาของเบนซ์วางข้ามสายพันธุ์คือคนวางเครื่องเสร็จชอบลืมเฟืองท้ายกัน อย่าลืมเปลี่ยนด้วย เพราะเครื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ชอบเฟืองท้ายระดับทด 4.1-4.4 กัน 190E เดิมๆ มักจะอยู่ที่ 3.26-3.46 ฉะนั้นถ้าวางเครื่องแล้วไม่ทำเฟืองท้าย รถวิ่งไม่ออก แต่จะเอาเฟืองอะไรใส่ได้ ผมก็ไม่เคยถามชาวบ้านเขาเหมือนกันว่าทำยังไงครับ
-
ขอบคุณมากเลยครับ ท่านผู้บัญชาการ ;D
ตอนนี้ก็กำลังเริ่มหาข้อมูล จะทำ 190E ก่อน และค่อยไปทำ C-Class 180 MT W202 ต่ออีกที
แต่ C-Class กะจะวาง เครื่อง 280 ไม่ก็ 320 (จ่ายตังค์อีกบาน :o)
เพราะก่อนที่จะมาขับ นาวาร่า ก็ขับเจ้า C-Class แล้วเหนื่อยจริงๆๆ กว่าจะกินลมได้ :D
พอตังค์พร้อมแล้วจะบิ้วใหม่ทั้งคู่เลย ภายนอกโทรมเหลือเกิน
หลัง2ตัวนี้แล้ว ก็จะตามด้วย 135i coupe เพราะชอบเหมือนกัน รถเล็กขับสนุก
-
อีกไม่นานน่าจะมีคนที่ใช้ 124 วางเครื่อง 320 แถวๆนี้มาบอกราคาเครื่องและอุปกรณ์กันได้บ้าง
ผมว่าเครื่อง320 น่าจะพอนะครับ ตัวเลขที่ผมได้มาจากน้องคนนั้น ทำเอารถญี่ปุ่น 3.5 V6 หนาวขี้ได้ง่ายๆ
แม้จะเป็น 3.2ลิตร 220ม้าก็เถอะ
135i คงต้องนำเข้ามาเองครับเพราะ BMW Thailand ไม่มีตัวนี้ ทางที่คุณจะได้เครื่อง 3.0เทอร์โบตัวนี้มาขับก็คงต้องเป็น 335i
-
335i มันใหญ่ไปหน่อยนึง เพราะดูจากสเปคแล้ว ต่างกันไม่มาก
แต่ที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็คือ โปร่งตรงกลางที่มีจอดิสเพลย์ มันเหม่งๆๆสำหรับผม ;D
ว่าแต่ ถ้าซื้อจริงก็คงเป็นเกียร์ธรรมดา เพราะชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
-
เท่าที่เคยเห็น 190E เปลี่ยนเครื่อง
ก็จะเจอกับ 1J 2J ทั้งตัวเทอร์โบ และธรรมดา
หรือไม่ก็ตระกูล SR ทั้งหลาย ไล่ตั้งแต่ 140 กว่าม้า ยัน 200 กว่าตัว
เคยลองขับคันที่ลง 1JZ-GE 2JZ-GTE และ SR20 DET
อยากจะบอกว่า ตัว 2JZ-GTE อย่าไปยุ่งกับมันเลย ขับยากมาก กดนิดเดียวรถก็แถแล้ว
ไม่รู้ว่าตัวถังจะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน อาจจะต้องถึงขั้นตีโรลบาร์ช่วย
แล้วก็ติดเหล็กกันโครง หน้า-หลัง กันเลยทีเดียว
แถมเครื่องก็หนัก ต้องพยายามล่นมาให้ติดผนังห้องเครื่องมากที่สุด
ยางหน้าอาจจะหมดเร็วใช่เล่น
ส่วน 1JZ-GE ก็ออกแนวใช้งานสบายๆ
อารมณ์คล้ายขับ ซิวิค 2.0 แต่ให้อัตราเร่งที่ดีกว่านิดหน่อย
แต่ก็ยังต้องพยายามล่นเครื่องมาเหมือนเดิม
ส่วน SR20-DET กลับขับสนุกที่สุด
น้ำหนักกำลังดี อัตราเร่งใช้ได้ รถไม่มีอาการย้วย
แต่ก็ยังต้องปราณีตกับคันเร่งเหมือนเดิม ไม่งั้นอาจจะมีหมุนได้เหมือนกัน
อ้อ.....
เคยมีคนรู้จักกันใช้ W124 แล้วไปลงเครื่องของ E320 มาเหมือนกันครับ
ได้เครื่อง เกียร์ เบรค 4 ล้อ เพลากลาง เพลาข้าง เป็นของเครื่องเลย
เบ็ดเสร็จหมดไปเกือบ 2แสน5หมื่นบาท
อันนี้เป็นราคาเหมา พร้อมจัดการเอกสารให้หมดด้วย
แต่เท่าที่ลองคุยๆมา ถ้าไปทำอู่อื่นที่ไม่ใช่อู่นี้ น่าจะอยู่ประมาณ ไม่เกิน 2 แสน
แต่ยอมรับเลยว่ารถวิ่งดีมาก
อัตราเร่ง ก็ใช้ได้
แต่สูบน้่ำำมันระดับโลกเลยครับ
รู้สึกว่าในเมืองจะวิ่งอยู่ 6 กม./ล.
ทางไกลประมาณ 8-10 กม./ล. ที่ 100-130 กม./ชม.
ลงแล้วห้องเครื่องสวยมากครับ แน่นเต็มพอดีเลย
-
เครื่อง 320 ในเมืองแค่ หกโลลิตร คุณ ghia ว่าระดับโลก งั้นซาบผม เครื่อง 2,000 ในเมือง 6 โลลิตร อัดๆเหลือ 5 นี่สงสัยระดับกาแล็กซี่แหงๆ ;D
ตอบในฐานะคนเล่นรถวางเครื่องขับหลังนะครับ ผมวาง 1JZ-GTE ใน วอลโว่ 740 ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้อะไรหรอก แบบเครื่องเดิมกินน้ำมันไม่วิ่งก็บอกป๋า
ป๋าเลยจัดให้ แรงระเบิด แต่เพลาเดิมขาดครับ...ต้องยกเพลาซูปร้ามาใส่ ฯลฯ อีกมากมาย
จำได้ว่าเขาอู่เว้นอาทิตย์กันเลย แต่ก็จบนะ จบสวยๆ ตอนนั้นวางกับพี่พี ยูเทค (นานมากแล้วป่านนี้ปิดอู่ไปยังก็ไม่รู้....)
ผมว่าถ้ารถมันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับวางเครื่องใหญ่ๆ มันจะมีปัญหาเรื่องกระจายน้ำหนักนะครับ ขนาด 740 เวลาออกตัวแรงๆ ยังแถเลย
เพราะมันไม่มีลิมิเต็ดสลิป อ่ะ ดังนั้นถ้ารถใช้งานจริงๆ แล้วต้องการวางเครื่องข้ามพันธุ์ผมว่าลองมองเครื่องที่เหมาะกับรถดีกว่า
อย่างกระบะขนของที่บ้า่นผมนะ ส่วนมากเขานิยมวางเจกันใช่ป่าวครับ หกสูบแน่นห้องเครื่องต้องทุบไม่งั้นลงไม่ได้
ผมวาง 3S-GE ขับหลังเกียร์ออโต้ด้วย ก็วิ่งดีนะครับแม้ไม่ปรี๊ดปร๊าด แต่ก็ใช้งานได้ดีและประหยัดสุดๆเลย เพราะติดแก๊ส LPG
นี่ขนาดเฟืองท้ายเดิมๆนะ ถ้าได้เฟืองท้ายทดตรงๆหน่อยยิ่งออกตัวดีกว่านี้อีก
กรณี 190E ถ้าไม่คิดมาก หา SR20 ฝาขาวก็วิ่งแล้วนะครับ ทำดีๆวายริ่งสมบูรณ์นี่ ก็ถือว่าโอเคเลย แต่้ถ้าขยับไปเครื่องเทอร์โบ
อยากให้ดูเรื่องเพลาขับให้ดีเลยว่ามันรองรับไหวมั๊ย ส่วนการวางผมว่าไม่เกินความสามารถช่างไทยนะครับ
-
ฮ่าๆๆๆๆ
ที่บอกสูบน้ำมันระดับโลกนี่...
เพราะวิธีการขับของเจ้าของรถครับ
แกขับเหมือนแข่งขับประหยัดของ อีซูซุ เลย
ค่อยๆออกตัว ค่อยๆเร่ง ค่อยๆเบรค (แต่ยังเปิดแอร์)
เคยมีบางทีแกอยู่ในโหมด "เร่งรีบ"
ในเมืองมีประมาณ 4 กม./ล. เหมือนกันครับ
อีกอย่างพอไปเทียบกับ แอคคอร์ด ตัว V6 ที่ใช้อยู่
ขนาดอัดๆ ในเมืองยัง 8 กม./ล. เลย
มันเลยทำผมขนลุกทุกทีที่คิดถึงการเติมน้ำมัน
ผลสุดท้ายจับไปดมแก็สทำกับข้าว
คุ้มทุนภายในไม่กี่เดือน...