Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:01:23

หัวข้อ: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:01:23
สืบเนื่องจากกระทู้นี้ครับ http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,13815.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,13815.0.html)

ตอนนี้กำลังจะจอง H-1 อยู่แล้วครับ แต่
-กลัวศูนย์บริการในระยะยาว
-ราคาขายต่อกรณีเกิดไม่ได้ใช้รถแล้ว
-ไม่มีศูนย์ในจังหวัดผม

ถ้าผมจะซื้อ Ventury แล้วสามารถทำช่วงล่างให้ใกล้เคียง H-1 ได้มั๊ยครับ หรือว่าซื้อ H-1 ไปเลยดีกว่า

ส่วนตัวแล้วชอบ H-1 มากกว่า แต่ ไม่มีศูนย์บริการ!!!! แถมดูในคลับก็มีปัญหากันอยู่พอสมควรครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nut_K ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:17:32
ส่วนตัวเชียร์ Hyundai H-1 ครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:23:07
ตอนแรก เข้ามาเชียร H-1 เต็มที่
แต่พอเห็นว่าไม่มีศูนย์ในจังหวัด

มองไปที่ Ventury ทันที



แต่แอบขัดกันนิดหน่อย
คุณ จขกท บอกว่ากลัวขายต่อไม่ดี แต่กลับคิดถึงศูนย์ระยะยาว

แนะนำว่า ถ้าซื้อรถระดับนี้แล้ว แปลว่ามีความต้องการ(ขนคน)มาก
คงไม่ซื้อแล้วขายทันที ในเวลาไม่นาน
มองไปที่ระยะยาว น่าจะดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:25:02
ถึงพี่ Yenchar ครับผมไม่ต้องการขนคนมากครับ
แต่ความจำเป็นคือ ต้องการติดเก้าอี้คนชรา(welcab)ครับ
จำเป็นต้องใช้ประตูสไลด์
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:38:55
Freed สิครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 21:40:28
คห.บน Freed เล็กเกินครับถึงจะติด welcab ได้แต่เบาะจะตัวเล็กครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TheBestOrNothing ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 23:05:00
ถึงน้อง TnP_PKt    ครับผม ตอนนี้คันของญาติผมใช้มา 1 ปีแล้วครับ พร้อมกับติดตั้งระบบ เก้าอี้อัตโนมัติ(แบบ รพ วิชัยยุทธนะครับ) ตัวรถยังไม่มีปัญหาอะไรนะครับผม แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปครั้งเดียวเองครับ (lotหลังๆไม่ค่อยมีปัญหาแล้วมั้งครับ เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้ยินเสียงบ่นเรื่องเล็กๆน้อยๆเหมือนกันอะครับ ) ช่วงล่างของ Hyundai H-1 ไว้ใจได้ครับผม อีกทั้งเป็นดีเซลอีกประหยัดและแรงอีกครับ  (ระบบติดตั้งยกคนชราของญาติผมหนักประมาณ 150 KG อะครับ ถ้า Freed คงจะอืดลงค่อนข้างชัดเจนเลยครับ) ส่วนเรื่องราคาขายต่อต้องลองดูต่อไปอะครับ  แต่รถตู้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเปลี่ยนบ่อยหรอกครับ เพราะมันเป็นรถที่ไม่ได้ใช้ทั้งวัน เหมือนรถsedanบ้านๆทั่วไป หรอกครับผม

เรื่องศูนย์คงต้องรออีกซักพักอะครับ หลังๆ Hyundai ก็พยายามขยายศูนย์บริการอยู่นะครับ แถวบ้านผมเพิ่งมี Hyundai บางนามาเพิ่ม เกือบๆปีและ
แต่ผมละชอบการบริการของ Hyundai อะสิครับ(หรือผมโชคดีเจอSaleดีก็ไม่รู้นะครับ  ประทับใจมากกว่าตอนออก Mercedes อีกครับ = =" )
โชคดีสำหรับรถใหม่นะครับผม ^^
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Chariot ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 23:22:40
ถ้าข้อเสีย 3 ข้อนี้มีความสำคัญกว่าประเด็นเรื่องช่วงล่าง ก็แนะนำให้ไปเล่น Ventury เถอะครับ

ถ้ากลัวแข็ง ก็หาใส่แหนบแบบนุ่ม ถ้ากลัวโคลงอีก ก็หาโช้คหนืดๆหน่อย เท่านี้ก็พอแล้วล่ะครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 00:33:52
H-1 Only Ventury เคยนั่งรถของ กฟผ แล้ว มันคือ Hiace ชัดๆ
H-1 ยอดรถตู้ในราคาไใ่เกิน 2 ล้านเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 00:49:08
ถ้ามีคนขับรถ Ventury
แต่ถ้าขับเอง H-1 เหมาะสมครับ บริษัทแม่เข้ามาทำตลาดเองแล้ว ผมไว้วางใจนะ
แล้วอีกอย่าง ยอดขายก็ไม่ใช่เล่นๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Joe ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 02:49:48
เห็นกระทู้นี้ต้องรีบเข้ามาตอบ
เคยเจอปัญหาเดียวกันคือเลือกไม่ถูกระหว่าง 2 คันนี้
ป้าไปซื้อ Ventury สีขาวจากศูนย์สุขุมวิท 43 ด้วยความอยากสบายใจ
ลุง (อีกบ้าน) ใจกล้าไปถอย H-1
2 ปีผ่านไป
2 คันนี้ไม่จุกจิกทั้งคู่ สบายใจไป
แต่ Ventury ห่วยมากกกกกกก มันคือ Hiace แบบปรับแหนบนิ่ม โยน แต่กระด้าง วิ่งเร็วไม่ได้ การทรงตัวเลว
เครื่อง Ventury นอกจากอืดมากกก แถมซดอยู่ 4-6 โลลิตร ส่วน H-1 ได้ 8-9 โลลิตรแต่แรงดี
อย่าพลาดอย่างป้าผมอีกนะ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 09:37:21
Ventury มันไม่ได้ห่วยขนาดนั้นหรอกครับ

เพื่อนผมทำธุรกิจที่ลาว ต้องวิ่งไป กลับ ลาว-ราชบุรีบ่อยๆ
มีคนนั่งไปด้วย 9 คน จะขับไป 2 คัน ก็ใช่เรื่อง
เลยตัดสินใจซื้อรถตู้ เพราะธุรกิจเค้าคงยาว ลูกค้ามีความสัมพันธ์กันดี เลยว่ากันยาวๆ
บ้านเพื่อนผมเลยซื้อ Ventury สีดำ ตัวเบนซินมาติดแก๊ส
พูดถึง มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนะครับ ถ้าขับแบบคนทั่วๆไป


ประเด็นเรื่องช่วงล่าง และเครื่องยนต์ H-1 ได้ใจตรงนี้ไป
แต่รถตู้ก็คือรถตู้ครับ เอาไว้โดยสาร เน้นใช้งานเป็นหลัก
พูดถึงความนุ่ม ความสบาย H-1 ก็ไม่ได้สบายกว่า Ventury อย่างมีนัยสำคัญ

ความมั่นใจในแบรนด์ H เองก็ได้รับความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาก
แต่มันก็อยู่ที่ลักษณะการใช้งาน ยิ่งเรื่องของศูนย์บริการ ถ้าไม่มีในจังหวัดแล้ว
ผมคิดว่าเอา Ventury เถอะครับ
ถึง H-1 จะขับดี แต่ถ้ามีปัญหา หรือจะเข้าเช็คศูนย์ทีนึงต้องวิ่งข้ามจังหวัด
ผมว่า ไม่ไหวนะ

ส่วนเรื่องของความจำเป็นของคุณ จขกท เรื่องเก้าอี้
รถตู้ ประตูสไลด์ ยังไงๆก็ติดได้ ถือว่าคุณคิดถูกแล้วที่มองรถตู้เพื่อความสบายของท่าน
ส่วนที่เหลือ คือตัวคุณเอง ที่ตัดสินใจครับ ว่าจะเอาสะดวก หรือขับดี

ปล. Ventury ติดแก๊สได้ไม่มีปัญหาครับ แต่อืด มากกกกก
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: methus zaa ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 10:26:01
พี่แนะนำ toyota ventury นะ เพราะว่า พี่มั่นใจในรถตลาดมากกว่านิดนึง h-1 ก็ไม่ใช่พี่ไม่ชอบนะ แต่พี่ว่ามันใหญ่เกินไปนะ รถก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก แต่ว่าถ้าซื้อมาแล้ว จะปรับอะไรเพิ่มให้ดีขึ้นก็ได้นะ เห็นด้วยกับบางท่านที่บอกว่า ถ้าเกิดเข้า h-1 มันเสียขึ้นมา ไม่ต้องวิ่งข้ามจังหวัดเลยเหรอ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: tawirup ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 10:47:19
เข้ามาเชียร์ H1 ครับ  ใช้มาแล้ว1ปี + ติดเก้าอี้ยกด้วยครับ ยังไม่เคยเจอปัญหาจุกจิกครับ
ปกติผมขับเองครับ  การตอบสนองไม่แพ้รถเก๋งเลยนะครับ ทำความเร็วได้ทำให้รู้สึกว่าขนาดไม่เป็นอุปสรรค
ขนาดภรรยาผมไปตลาดยังไม่เอา F10 ไป  แต่เอาH1 ไปแทน  บอกว่าจอดง่ายกว่า !!!

เรื่องศูนย์บริการพอดีผมได้ศูนย์ที่สนิทกัน  รับผิดชอบ+บริการดี เลยหมดปัญหาเรื่องนี้ครับ

หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: IncarRus ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 10:52:15
พูดถึงความนุ่ม ความสบาย H-1 ก็ไม่ได้สบายกว่า Ventury อย่างมีนัยสำคัญ
ผมก็ไม่เคยนั่ง H-1 นะครับ ก็ไม่รู้ว่า ช่วงล่าง เค้าเป็นยังไง
แต่ที่แน่ๆ Ventury น่าจะเลวร้าย อย่างมีนัยสำคัญอยู่นะครับ

แต่จะแตกต่างกันแค่ไหน อันนี้ ผมก็ไม่ทรายครับ  :-\
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Joe ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 11:45:00
อยากเห็นภาพ
ให้ไปลองทั้งสองคันครับ
ทางเรียบบ้าง ขรุขระบ้าง เอาคอสะพานด้วย แล้วก็ขับขึ้นสะพานชันๆหน่อยอย่างสะพานแขวน
แล้วจะเข้าใจทันทีครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Chariot ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 11:48:03
อยากให้มองมุมนี้ว่า เอารถมาดัดแปลงใส่เก้าอี้ อาจทำให้การรับประกันในบางชิ้นส่วนหมดไป

ถ้าการรับประกันชิ้นส่วนนั้นหมดลง แล้วเราจะไปซ่อมนอกศูนย์ที่ไหน

H-1 - หาอู่นอกซ่อมยาก อาจต้องวิ่งข้ามจังหวัด ไปให้ศูนย์ซ่อม ซึ่งเสียค่าซ่อมแพงกว่าโตต้าแน่ๆ

Ventury - ซ่อมอู่นอกได้ง่ายๆ ช่างมีทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์

* ดังนั้นเวนทูรี่จึงเหมาะกับเป็นรถที่จะซื้อมาดัดแปลงมากกว่า จะติดเบาะ ติดแก๊ส ใส่แหนบนุ่ม หรือใส่ถุงลม ก็ทำได้สบายๆ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: mandize ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 12:13:04
เอา H-1 ครับ

Ventury ถ้าไม่ติดพะยี่ห้อ Toyota มันก็ขายไม่ออกหรอก
ดีไซน์ห้องโดยสารไม่ได้เรื่องเลย ดูแล้วประมาณรถราคาล้านห้า ได้แค่นี้หรอ
 เบาะนั่งก็ห่วยมาก  นั่งสบายเฉพาะแถวสอง
เบาะที่เหลืออารมณ์เอาเบาะ Commuter มาหุ้มหนังนั่นแหละ รองน่องสั้น
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 12:34:03
จริงๆใจมันไป H-1 แล้วนะครับ แต่เมื่อตะกี้นี้เลยเพิ่งไปขับ Grandvia มา
เป็นรถมือ 2 ติดแก๊สแล้ว ปี 2001 ก็โอเคนะครับราคา 8แสนกว่าๆ
ผมก็สนใจอีกเพราะซ่อมช่างก็น่าจะซ่อมได้แล้ว และผมก็ใช้รถไม่เยอะด้วยครับ
H-1 เป็นรถที่คุ้มค่ามากแต่มันไม่ค่อยจะมีที่ซ่อมนะครับกรณีมีปัญหา(negative thinking)
Grandvia เป็นไงบ้างครับจุกจิกมั๊ยครับ

ส่วนเรื่อง เก้าอี้คนชราใครติดตั้งแล้วช่วย pm มาบอกหน่อยนะครับว่าที่ไหนราคาเท่าไหร่ครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 16:09:47
จริงๆใจมันไป H-1 แล้วนะครับ แต่เมื่อตะกี้นี้เลยเพิ่งไปขับ Grandvia มา
เป็นรถมือ 2 ติดแก๊สแล้ว ปี 2001 ก็โอเคนะครับราคา 8แสนกว่าๆ
ผมก็สนใจอีกเพราะซ่อมช่างก็น่าจะซ่อมได้แล้ว และผมก็ใช้รถไม่เยอะด้วยครับ
H-1 เป็นรถที่คุ้มค่ามากแต่มันไม่ค่อยจะมีที่ซ่อมนะครับกรณีมีปัญหา(negative thinking)
Grandvia เป็นไงบ้างครับจุกจิกมั๊ยครับ

ส่วนเรื่อง เก้าอี้คนชราใครติดตั้งแล้วช่วย pm มาบอกหน่อยนะครับว่าที่ไหนราคาเท่าไหร่ครับ

Grandvia เป็นรถที่ไม่จุกจิกนะ ญาติพี่เมื่อก่อนใช่อยู่ แต่ขายมาเป็น H-1 แล้ว เพราะมันเก่าเกิน
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 17:48:59
เข้าศูนย์ทุกเดือนหรือเปล่าครับ ถึงกลัว ว่าไปศูนย์อยู่ไกล

ไม่วิ่งต่างจังหวัดเลยหรือเปล่าครับ ถึงกลัวจะต้องไปเซอร์วิสต่างจังหวัด

ปัญหาอะไรหรือครับ ที่จะทำให้รถใหม่ วิ่งเข้าศูนย์ไม่ได้ แก้ไขไม่ได้

ราคาขายต่อ ขายมากี่คันแล้วล่ะครับ ได้ราคาดีเท่าไหร่

ถ้าตอบข้างบนว่าไม่ ได้หลายข้อ ก็ใช้ได้ครับ H-1 กลัวอะไรก็ให้มีเหตุผลครับ  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 18:08:21
เข้าศูนย์ทุกเดือนหรือเปล่าครับ ถึงกลัว ว่าไปศูนย์อยู่ไกล

ไม่วิ่งต่างจังหวัดเลยหรือเปล่าครับ ถึงกลัวจะต้องไปเซอร์วิสต่างจังหวัด

ปัญหาอะไรหรือครับ ที่จะทำให้รถใหม่ วิ่งเข้าศูนย์ไม่ได้ แก้ไขไม่ได้

ราคาขายต่อ ขายมากี่คันแล้วล่ะครับ ได้ราคาดีเท่าไหร่

ถ้าตอบข้างบนว่าไม่ ได้หลายข้อ ก็ใช้ได้ครับ H-1 กลัวอะไรก็ให้มีเหตุผลครับ  ;D ;D ;D


อืมม.... น่าคิดนะครับ คุณ จขกท. น่าจะเอากลับไปคิดดูอีกที

แต่อันนี้จากประสบการณ์ใช้รถที่ไม่ค่อยมีวิ่ง (Galant เก่ามาก) ที่ต่างจังหวัดนะครับ

คือ ถ้ารถที่ซื้อมาเนี่ยไม่มีปัญหาอะไร (H1 ป้ายแดง ไม่มีอะไรมั้ง) ก็คงจะไม่มีอะไรครับ
แต่ถ้ามีขึ้นมา การที่จะลาดเข้าศูนย์ทีนึง ก็เตรียมค่า slide-on ไว้สัก 3-4 พันได้เลย เพราะศูนย์อยู่นอกจังหวัด

ปัญหาต่อมาคือ ถ้าจะซ่อมในจังหวัดละ? (ถ้ารถหมดประกันแล้ว)
1. ถ้าไม่เจอช่างที่เก่งจริงๆ อาจจะงานช้างได้ เพราะไม่ชำนาญกับรถแปลกๆ
2. อะไหล่อาจจะหายากถึงยากที่สุด อาจต้องถึงขั้นวิ่งไปซื้อจากวรจักรมาด้วยตัวเอง

ซึ่งถ้าการใช้ Hyundai ในเมืองไทยยังไม่แพร่หลายมากกว่านี้ เวลาเสียขึ้นมา ก็อาจจะต้องทำใจว่า รถอาจจะวิ่งไม่ได้สัก 2-3 สัปดาห์ (ยกเว้นจะเสียค่าลากไปศูนย์ที่ต่างจังหวัด แต่ตอนซ่อมเสร็จ เขาจะเอากลับมาส่งคุณหรือเปล่า)

เรื่องราคาขายต่อผมไม่รู้

โดยสรุป : ถ้ารถไม่มีปัญหาอะไร ผมว่า H1 มีความสุขครับ

แต่ถ้ามีปัญหาขึ้นมา อาจจะเจอนรกบนดินได้เหมือนกัน เพราะรถแปลกๆ มันหาช่างที่ซ่อมเป็น หาอะไหล่ได้ยากแน่นอนครับ (ในขณะที่ Ventury/Hiace อะไหล่เพียบ)

เพราะฉะนั้นส่วนตัว ผมเชียร์ Ventury อ่ะครับ จริงอยู่รถอาจจะไม่ดีมาก แต่ก็ไม่ต้องมาเจอนรกบนดิน ถ้าเกิดมันเสีย


ปล. ผมขอโทษคุณ YF-19 ไว้ด้วย ที่ผมแย้งขึ้นมาแบบนี้ แต่พอดีผมเจอประสบการณ์เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว คือชิปจุดระเบิด Galant ผมเสีย ตอนที่วิ่งเข้ายโสธร รถขยับไม่ได้ ผมต้องลากจากยโสธรเข้าอุบล หมดไป 4000 จากนั้นก็เข้าอู่ประจำ (อันนี้ผมถือว่าโชคดีที่มีอู่นอกซี้) ช่างก็ตรวจหาอาการไปประมาณ 2 วัน แล้วโทรมาถาม

"ตัวช่วยจุดระเบิดเสีย เปลี่ยนเครื่องไหม?"

ผมก็มึนเลยครับ ถามไปถามมา เครื่องรุ่นผม (4G63 8v) มันหาอะไหล่ไม่ค่อยได้ ยกเครื่องง่ายกว่า สุดท้าย ผมก็วิ่งเข้ากทม. ไปหาซื้อที่วรจักร ผลปรากฎว่า ไม่มีของ ต้องรอญี่ปุ่น 1 เดือน สุดท้ายผมก็เลยให้พี่ที่รู้จักกันเขาไปหาซื้อเซียงกงมาให้ โดยสรุป ผมไม่มีรถ ไปไหนมาไหนไม่ได้ราวๆ 1 สัปดาห์ และหมดค่า Pizza กับ KFC ไปหลายตังค์เลยครับ

คือถ้าไม่มีปัญหามันก็ดี แต่ถ้ารถมันเริ่มเก่าปุ้บ อาจจะมีเหนื่อยครับ เพราะต้องวิ่งหาอะไหล่
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 18:46:07
เข้าศูนย์ทุกเดือนหรือเปล่าครับ ถึงกลัว ว่าไปศูนย์อยู่ไกล

ไม่วิ่งต่างจังหวัดเลยหรือเปล่าครับ ถึงกลัวจะต้องไปเซอร์วิสต่างจังหวัด

ปัญหาอะไรหรือครับ ที่จะทำให้รถใหม่ วิ่งเข้าศูนย์ไม่ได้ แก้ไขไม่ได้

ราคาขายต่อ ขายมากี่คันแล้วล่ะครับ ได้ราคาดีเท่าไหร่

ถ้าตอบข้างบนว่าไม่ ได้หลายข้อ ก็ใช้ได้ครับ H-1 กลัวอะไรก็ให้มีเหตุผลครับ  ;D ;D ;D


อืมม.... น่าคิดนะครับ คุณ จขกท. น่าจะเอากลับไปคิดดูอีกที

แต่อันนี้จากประสบการณ์ใช้รถที่ไม่ค่อยมีวิ่ง (Galant เก่ามาก) ที่ต่างจังหวัดนะครับ

คือ ถ้ารถที่ซื้อมาเนี่ยไม่มีปัญหาอะไร (H1 ป้ายแดง ไม่มีอะไรมั้ง) ก็คงจะไม่มีอะไรครับ
แต่ถ้ามีขึ้นมา การที่จะลาดเข้าศูนย์ทีนึง ก็เตรียมค่า slide-on ไว้สัก 3-4 พันได้เลย เพราะศูนย์อยู่นอกจังหวัด

ปัญหาต่อมาคือ ถ้าจะซ่อมในจังหวัดละ? (ถ้ารถหมดประกันแล้ว)
1. ถ้าไม่เจอช่างที่เก่งจริงๆ อาจจะงานช้างได้ เพราะไม่ชำนาญกับรถแปลกๆ
2. อะไหล่อาจจะหายากถึงยากที่สุด อาจต้องถึงขั้นวิ่งไปซื้อจากวรจักรมาด้วยตัวเอง

ซึ่งถ้าการใช้ Hyundai ในเมืองไทยยังไม่แพร่หลายมากกว่านี้ เวลาเสียขึ้นมา ก็อาจจะต้องทำใจว่า รถอาจจะวิ่งไม่ได้สัก 2-3 สัปดาห์ (ยกเว้นจะเสียค่าลากไปศูนย์ที่ต่างจังหวัด แต่ตอนซ่อมเสร็จ เขาจะเอากลับมาส่งคุณหรือเปล่า)

เรื่องราคาขายต่อผมไม่รู้

โดยสรุป : ถ้ารถไม่มีปัญหาอะไร ผมว่า H1 มีความสุขครับ

แต่ถ้ามีปัญหาขึ้นมา อาจจะเจอนรกบนดินได้เหมือนกัน เพราะรถแปลกๆ มันหาช่างที่ซ่อมเป็น หาอะไหล่ได้ยากแน่นอนครับ (ในขณะที่ Ventury/Hiace อะไหล่เพียบ)

เพราะฉะนั้นส่วนตัว ผมเชียร์ Ventury อ่ะครับ จริงอยู่รถอาจจะไม่ดีมาก แต่ก็ไม่ต้องมาเจอนรกบนดิน ถ้าเกิดมันเสีย


ปล. ผมขอโทษคุณ YF-19 ไว้ด้วย ที่ผมแย้งขึ้นมาแบบนี้ แต่พอดีผมเจอประสบการณ์เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว คือชิปจุดระเบิด Galant ผมเสีย ตอนที่วิ่งเข้ายโสธร รถขยับไม่ได้ ผมต้องลากจากยโสธรเข้าอุบล หมดไป 4000 จากนั้นก็เข้าอู่ประจำ (อันนี้ผมถือว่าโชคดีที่มีอู่นอกซี้) ช่างก็ตรวจหาอาการไปประมาณ 2 วัน แล้วโทรมาถาม

"ตัวช่วยจุดระเบิดเสีย เปลี่ยนเครื่องไหม?"

ผมก็มึนเลยครับ ถามไปถามมา เครื่องรุ่นผม (4G63 8v) มันหาอะไหล่ไม่ค่อยได้ ยกเครื่องง่ายกว่า สุดท้าย ผมก็วิ่งเข้ากทม. ไปหาซื้อที่วรจักร ผลปรากฎว่า ไม่มีของ ต้องรอญี่ปุ่น 1 เดือน สุดท้ายผมก็เลยให้พี่ที่รู้จักกันเขาไปหาซื้อเซียงกงมาให้ โดยสรุป ผมไม่มีรถ ไปไหนมาไหนไม่ได้ราวๆ 1 สัปดาห์ และหมดค่า Pizza กับ KFC ไปหลายตังค์เลยครับ

คือถ้าไม่มีปัญหามันก็ดี แต่ถ้ารถมันเริ่มเก่าปุ้บ อาจจะมีเหนื่อยครับ เพราะต้องวิ่งหาอะไหล่


เข้าใจครับ ประสบการณ์แต่ละคน และ สภาพแวดล้อมแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ  เลยฝากเป็นคำถามให้คิดดูครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 18:46:38
ตอบพี่ YF-19 ครับ
1.เข้าศูนย์ไม่ทุกเดือนครับ ผมไม่น่าจะวิ่งเยอะเท่าไหร่เพราะไม่ใช่รถหลักของที่บ้าน
2.วิ่งต่างจังหวัดบ้างครับแต่ส่วนใหญ่ในจังหวัดครับ ส่วนศูนย์อยู่สุราษฎ์ห่างกับภูเก็ตเกือบๆ 300 km.ครับ
3.ตอนนี้ H-1 มีปัญหากันพอสมควรครับ http://www.pantown.com/board.php?id=33879&area=4&name=board34&topic=1103&action=view (http://www.pantown.com/board.php?id=33879&area=4&name=board34&topic=1103&action=view)
   ตามในนี้ครับ หลายคนเริ่มอารมณ์เสียแล้วครับ
4.ปกติผมไม่ได้ขายรถบ่อยครับแต่บ้านผมก็ไม่ได้รวยมากทำธุรกิจจะเอาเงินไปทิ้งกับรถมากไม่ได้ครับกรณีจำเป็นต้องขายต่อ
   ขออย่าให้ขาดทุนมากครับ

เหตุนี้อยากรู้ว่า Granvia จุกจิก+ซ่อมแพงมั๊ยครับ อู่นอกธรรมดาๆพอแก้ไขได้มั๊ยครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 18:50:52
ผมเห็นด้วยกับคุณ YIM นะ

ผมเอง corolla ยังมีปัญหาเลยครับ

เพราะรถเก่ามากๆ ยังไงก็ต้องมี ยิ่งรถแปลก ยิ่งหนักครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 18:55:20
ตอบพี่ YF-19 ครับ
1.เข้าศูนย์ไม่ทุกเดือนครับ ผมไม่น่าจะวิ่งเยอะเท่าไหร่เพราะไม่ใช่รถหลักของที่บ้าน
2.วิ่งต่างจังหวัดบ้างครับแต่ส่วนใหญ่ในจังหวัดครับ ส่วนศูนย์อยู่สุราษฎ์ห่างกับภูเก็ตเกือบๆ 300 km.ครับ
3.ตอนนี้ H-1 มีปัญหากันพอสมควรครับ http://www.pantown.com/board.php?id=33879&area=4&name=board34&topic=1103&action=view (http://www.pantown.com/board.php?id=33879&area=4&name=board34&topic=1103&action=view)
   ตามในนี้ครับ หลายคนเริ่มอารมณ์เสียแล้วครับ
4.ปกติผมไม่ได้ขายรถบ่อยครับแต่บ้านผมก็ไม่ได้รวยมากทำธุรกิจจะเอาเงินไปทิ้งกับรถมากไม่ได้ครับกรณีจำเป็นต้องขายต่อ
   ขออย่าให้ขาดทุนมากครับ

เหตุนี้อยากรู้ว่า Granvia จุกจิก+ซ่อมแพงมั๊ยครับ อู่นอกธรรมดาๆพอแก้ไขได้มั๊ยครับ

ถ้าตามchoice นี้ ผมว่าศูนย์อยู่ไกลเกินไปครับ  น่าจะตัด H-1 ไปเลยครับ ลองมองตัวเลือกอื่นดูครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 19:06:45
300 km เลยเหรอครับ อืม งั้นผมก็เห็นด้วยนะครับ ถ้าจะตัด H1

Granvia เนี่ย ผมไม่เคยใช้ แต่โดยพื้นฐานมันก็คือ Hiace gen ที่แล้ว เอามายื่นเครื่องยนต์ออกไปด้านหน้าใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้น มันก็น่าจะแปลงเอาอะไหล่ Hiace มาใช้ได้บ้างไม่มากก็น้อย อะไหล่น่าจะหาเซียงกงได้ เพราะที่ญี่ปุ่นเมื่อก่อนวิ่งเยอะเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: l3ank ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 19:44:54
อยู่ข้างนอกบ้าน เดี๋ยวจะกลับมาตอบให้ครับ
เพิ่งขับไปกลับราชบุรี-ชัยนาทมาสดๆเลย

จาก คนใช้งานจริง

ขอบคุณ นาย YENCHAR ที่ช่วยเข้ามาตอบก่อน ^^

(New Ventury 2010)
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: mandize ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 22:02:13
คุยกับผู้ใหญ่ท่านนึงมาว่า Hyundai จะเปิดศูนย์ที่ภูเก็ตแล้วนะครับ


หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: TnP_PKt ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 22:05:28
คุยกับผู้ใหญ่ท่านนึงมาว่า Hyundai จะเปิดศูนย์ที่ภูเก็ตแล้วนะครับ



ผมเช็กมาแล้วครับว่าน่าจะประมาณปลายปีถึงต้นปีหน้าครับ
เป็นเครือของ Hyundai รัตนาธเบศธ์ครับ ยังไงไม่น่าเกินวันจันทร์ผมคงสรุปแล้วอะครับ
ไม่แน่อาจจะเป็น Hyundai ก็ได้มีความเป็นไปได้สูงเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: l3ank ที่ กรกฎาคม 17, 2011, 00:22:43
ขั้นแรกขอตอบจากลิงค์เก่า (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,13815.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,13815.0.html)) ก่อนนะครับ
ดูจากสิ่งที่ต้องการก่อนนะครับ

1. รถที่มีประตูสไลด์ข้างให้หน่อยครับเพื่อจะได้ติด welcab
2. การใช้งานผู้หญิงอายุประมาณ 50 ขับ
3. ขับไม่เร็วเข้าในเมืองบ่อย
4. ขับไปที่ต่างๆทั้งในเมือง และทางไกล
5. วิ่งไม่เยอะค่าน้ำมันไม่แคร์
ึ6. มือหนึ่งหรือมือสองไม่เกิน 7 ปีก็ได้ ขอซ่อมไม่แพง จบ ไม่จุกจิก

ซึ่งถ้าดูจากข้างบนแล้ว ขอบอกได้เลยครับ ว่า "Toyota Ventury ไม่เป็นตัวเลือกอยู่ในนั้นครับ"

เนื่องจาก ผมว่ามันใหญ่ไปสำหรับผู้หญิงครับ ที่จะเอามาขับในเมือง การจะจอดหรือหาที่จอดอะไรจะยากซักนิดนึง
แถมต้องมานั่งกังวลเรื่องความสูงของตัวรถอีก ดังนั้นถ้ามีคนขับรถนั่นก็ว่าไปอย่างครับ สบายเลย
เรื่องการขับขี่ เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง(อ่าน)ตามด้านล่างครับ
ส่วนเรื่องค่าซ่อมผมไม่ทราบจริงๆครับ เพราะรถเพิ่งออกมาใหม่

ดังนั้นผมคิดว่าควรหาตัวเลือกใหม่ครับ ไม่เหมาะกับ ventury ครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในส่วนนี้จะเป็นการพูดถึงการขับขี่ของ new ventury 2010 นะครับ
ขอเกริ่นถึงเหตุผลในการเลือกก่อนนะครับ ^^
เรื่องมันเริ่มต้นจาก งาน motor expo เมื่อปลายปีที่ผ่านมาครับ
เนื่องจากที่บ้านผม ต้องการรถตู้ที่ทนๆซักคันขับไป-กลับระหว่างกรุงเทพกับลาวครับ โดยมีระยะทางประมาณ 700+ กม.หรือไป-กลับประมาณ 1400+ กม.ครับ
และครอบครัวผมเป็นครอบครัวหญ่ จึงต้องการใช้สำหรับพาลูกหลานไปเที่ยวในวันหยุดยาวครับ
และเป็นช่วงที่ ventury ไมเนอร์เชนจ์พอดีครับ และก็ต้องมาเจอคำถามเหมือนกันเลยครับ
"New Ventury VS H-1"
ซึ่งถ้าจะถามว่าทำไมถึงเลือก Ventury หล่ะ?
ผมก็คงตอบเหมือนกับหลายๆท่านในนี้ครับว่า
การดูแลระยะยาวมันยากมั้ย จุกจิกรึป่าว อะไหล่จะหายากมั้ย ถ้าเราจะใช้อีกหลายๆปี
ศูนย์บริการดีหรือป่าว มีบริการทั่วถึงหรือไม่
ระยะเวลาในการรออะไหล่ เมื่อทำการเคลมไปแล้ว
ดังนั้นเมื่อลองชั่งน้ำหนักเอาแล้ว รวมถึงความต้องการและความจำเป็นจากด้านบน
จึงตัดสินใจเลือก Ventury ครับ
พอออกจากศูนย์มาก็นำไปติดแก๊สเลยครับ ใช้แบบถังโดนัทใส่ไว้แทนตรงยางอะไหล่ใต้ท้องรถครับ
ข้อเสียคือ ถังมันจะอยู่สูงจากพื้นไม่เกินฟุตครับ สำหรับผมแล้ว ตำแหน่งถังมันอยู่เตี้ยมากๆ

ลืมบอกไปครับ ว่า ก่อนที่จะซื้อ ventury ผมใช้ innova เครื่องดีเซลอยู่ครับ ซึ่งการขับขี่ก็โอเคในระดับหนึ่งครับใช้ความเร็วประมาณ 150 ในการเดินทาง
ซึ่ง innova คันนี้ขึ้นเหนือล่องใต้มาหมดแล้วครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่า Innova เป็นรถ 7 ที่นั่งที่ดีเลยทีเดียว

ตอนนี้จะพูดถึง Feeling ในการโดยสารและขับขี่หล่ะครับ
ตอนนี้ Ventury คันนี้พาผมขึ้นเหนือล่องใต้ไปแล้ว 6000+ ไปมาทั้งปาย เชียงใหม่ ลาว และอื่นๆอีกมากมาย
โดยรวมในห้องโดยสารผมว่า กว้างและสูงครับ เวลาจะเดินเข้าไปในรถ ไม่ต้องก้มตัวมากครับ โดยความสูงของผมและน้องจะอยู่ที่ประมาณ 180-183 ครับ
เก้าอี้คู่หน้ามีที่นวดให้ และสามารถปรับให้หันหน้ามาคุยกับคนนั่งแถวที่สองได้ครับ
ความห่างของที่นั่งแต่ละล๊อกยังเหลือที่ให้ยืดขาได้อีกครับ

แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อเสียเลยครับ ต้องมีอยู่แล้ว(เดี๋ยวจะหาว่า เข้ามาเชียร์อย่างเดียว อิอิ)
อย่างแรก การปรับเบาะครับ ปรับให้เอนได้นิดเดียวของแถวสุดท้ายและรองสุดท้ายเอง
และอย่างที่สอง หมอนรองหัวครับ มันไม่ค่อยจะพิงไม่ค่อยสบายซักเท่าไหร่ครับ ถามจากคนที่นั่งมานะครับ(ส่วนมากผมเป็นคนขับ ToT โอกาสนั่งแทบไม่ค่อยมี)

ส่วนในเรื่องการขับขี่
อัตราเร่งในช่วง 0-80 จะช้านิดนึงครับ แต่หลังจากผ่าน 100 มาได้แล้วกำลังของรถก็จะมาเรื่อยๆครับ ตามแรงเท้าของเราที่กดไปเลย
แต่ทว่าสิ่งที่น่าปวดหัวของผมที่สุดคือ จังหวะเร่งแซงครับ แรงมาช้ามาก ไม่สามาถที่จะพุ่งออกไปทันทีที่เหยียบได้เลย

ช่วงล่างก็ตามความเห็นข้างบนครับ ถ้าคนนั่งกันน้อย เด้งกันมันเลยครับ หรือถึงจะนั่งเต็มรถก็ยังรู้สึกว่ามันเด้งอยู่
ในเวลาโค้ง ventury ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก แทบจะเหวี่ยงคนกันทั้งรถเลยทีเดียว 555
แต่สิ่งที่ประทับใจคือ ขับชิว 100-120 แบบไม่เร่งอะไรมาก ช่วงล่างนิ่ม คนนั่งก็สบายไปตามๆกันตลอดทิป

สรุป ผมยังมีความสุขกับเจ้าอ้วนดำคันนี้อยู่ครับ ไว้พาวงศา คณา ญาติ ไปเที่ยวและใช้ในการติดต่อธุรกิจก็ยังดูดีครับ
แต่ผมขอค้านนิดนึงนะครับ ผมว่า "ถึงมันจะเลวร้ายยังไง แต่ผมว่ามันไม่เลวร้ายถึงขนาดเป็น Big Hiace หรอกครับ"

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ

สอบถามได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ ventury ได้เสมอครับ (เพราะขับแค่รุ่นนี้ รุ่นเดียว ^^)
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ กรกฎาคม 17, 2011, 00:41:05
Alphardเหมาะมากๆถ้าโจทย์เป็นไปตามที่จขกท.ให้ไว้ครับเพราะผู้หญิงขับง่ายสุด ทนถึกๆ ช่วงล่างนุ่มนวลแต่จะโยนมากกว่ารถเก๋งทั่วไปครับ ถ้าต้องการที่นั่งมากกว่า7ที่นั่งH-1ก็น่าใช้ครับเพราะถึงจะคันใหญ่แต่ขับคล่องตัวมากๆแบบไม่น่าเชื่อครับ ช่วงล่างกระด้างกว่าAlphardพอควรและเป็นHyundaiเป็นรถทีทนทานเหมือนToyotaเลยครับ ส่วนVenturyผมคิดว่าน่าจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายครับเพราะที่นั่งขับอยู่หน้าล้อทำให้ขับยากกว่าทั้ง2คันแรกและช่วงล่างไม่เหมาะกับการวิ่งต่างจังหวัดครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: vellcap ที่ กรกฎาคม 17, 2011, 21:59:03
Granvia อะไหล่ทั่วๆไปไม่แพงครับ เช่น โช๊คหน้าราคาไม่กี่พันเอง แต่ชิ้นที่ไม่ค่อยเสียนี่สิบางชิ้นแพงเอาเรื่องเหมือนกันนะครับเหอะๆ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: WTF ที่ กรกฎาคม 18, 2011, 07:46:53
ขับ H-1 feeling ของช่วงล่างและอื่นๆคนละเรื่องกับการขับรถตู้อย่าง ventury นะครับ อีกอย่างเรานั่งหลังล้อ(ventury นั่งบนล้อ) บังคับพวงมาลัยต่างกัน H-1 วงเลี้ยวก็แคบ แรงบิดดี ขับง่ายมากครับ เสียอย่างเดียวจริงๆคือ คอนโซลมันไม่ค่อยสวยนะ สำหรับผม แต่ถ้าเทียบกับ ventury ก็ถือว่าไม่แพ้แหละ เป็นผม H-1 แบบไม่ต้องคิดเลย แต่ถ้าติดเรื่องศูนย์บริการ อันนี้เราต้องคิดเองครับว่าคุ้มไหมที่จะวิ่งไป service ที่จังหวัดใกล้ที่สุด ตอบไม่ได้ครับ ต้องดูว่าปกติเราไปจังหวัดนั้นบ่อยแค่ไหนด้วย
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: sirisak_ac118 ที่ กรกฎาคม 18, 2011, 08:04:56
H-1 อีกเสียงครับ  ;D
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: daddy_d ที่ กรกฎาคม 18, 2011, 09:23:46
ความรู้สึกเหมือน กับตอนที่ผมจะซื้อเมื่อ 2 ปีที่แล้วเลยครับ
ผมว่าไปลองขับ - ลองนั่ง ทั้ง 2 คัน เลยครับ
ขอแนะนำว่า วันที่ไปลอง ขับ พาสมาชิกในบ้านทั้งหมด ไปร่วมนั่งและตัดสินใจด้วยครับ
เพราะ เราเป็น ทั้งคน จ่ายตังค์ และคนขับ จะไม่รู้ ความรู้สึกของผู้โดยสารครับ

บ้านผมโชคดีหน่อย วันที่ไปลองขับ เราได้สัมผัสทั้ง 2 รุ่น และผลสรุป คือ......H-1 ครับ
วัสดุ แตกต่างกัน มากมาย มหาศาล แต่ถ้าติดที่ Brand ก็ ต้อง แลัวแค่ครับ
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: apiwattu67 ที่ กรกฎาคม 19, 2011, 03:29:11
Hyundai H1 อีกหนึ่งเสียง เพราะที่บ้านใช้ Ventury อยู่ช่วงล่างห่วยแตกมากๆๆๆๆ วิ่งเกิน 120 ก็เริ่มส่ายแล้ว สู้ H1 ไม่ได้ ตอนทดลองขับรถ Test drive วิ่ง 140 ยังควบคุมได้ไม่เครียด
หัวข้อ: Re: !!! H-1 VS Ventury ครับ !!!
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ กรกฎาคม 19, 2011, 17:20:26
ขอเน้นเรื่องการบริการหลังการขายนะครับ
ผมว่าในระยะ 4 ปีหรือแสนกิโลยังไงก็พอๆกัน เรื่องซ่อมก็น่าจะยังไม่มีปัญหาเท่าไหร่
แต่ถ้า ปีที่ 5 เป็นต้นไป เริ่มซ่อมแล้วล่ะ ต้องเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ตามอายุ
แต่ผมว่าเครื่องดีเซล กิน เบนซิน เรื่องนึงคือ ความอึดนะครับ
ถ้าใช้ยาวๆ ยิ่งได้เปรียบ แต่ถ้าใช้ไม่เกิน 4 ปีก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เท่าไหร่

อีกเรื่องคือสมรรถนะ ดีเซล แรงกว่าครับถ้าแบกน้ำหนักเท่ากัน กินน้ำมันน้อยกว่าด้วย

ถ้าเทียบกันว่าใครประหยัดกว่ากันระหว่าง
ดีเซล 14-15 โลลิตร ลิตรละไม่เกิน 30 บาท ตกโลละ 2 บาท
กับเบนซิน 8-10 โลลิตร(เต็มทีี่ไม่เกิน 12) ลิตรละ 35-37 บาท ตกโลละ 3 บาทกว่า เว้นแต่จับติดแก๊ส
ผมว่าดีเซลมีภาษีเยอะกว่านะครับ