Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:05:37

หัวข้อ: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:05:37
ผมใช้ชีวิตอยู่กับน้องมีนามาเกือบๆ 2 อาทิตย์ พบว่า คนที่อยู่รอบตัวมีทัศนคติต่อรถเล็กในด้านที่ไม่ดีเยอะมาก เช่น

1. เครื่อง 1.2-1.3 อืด(แต่ Brio แบบแรงกว่า น้องดาวเดียว :D 1.4)
2. ออกต่างจังหวัดไม่ได้(แต่ก็เห็นขายดีที่ต่างจังหวัด)
3. ล้อเล็ก ไม่เกาะถนน
4. เหล็กบาง รถกระป๋อง
5. โดนรถบรรทุกดูดแล้ววูบ ปลิว(ผมว่ารถ Altis ก็เป็นนะ เคยโดนมาแล้ว)
6. ทำไมไม่ซื้อรถเครื่อง 1.5 ไปคิดแก๊ซ เน้นที่ Vios Altis 1.6 สุดๆ หรือ ใช้รถ CNG จากโรงงาน(น้องดาวเดียว)
7. เพิ่มตังนิดนึง ซื้อ 1.5 ตัวล่าง Vios J / City S / 2 รุ่นล่าง อะไรประมาณนี้

เห้อ ตั้งแต่ซื้อมา เหมือนจะมาแนวๆนี้ตลอด โดยเฉพาะรถผม พอบอกว่าเครื่อง 3 สูบ นี่ยิ่งโดนว่า เครื่องรถกะป้อ(ซูบารุ)

เข้าใจเลยว่า คนไทย(ทั่วไป) มีทัศนคติแบบนี้นี่เอง ถึงไม่มีบริษัทไหนกล้าทำรถเครื่องเล็กกว่า 1.5 ถ้าไม่ได้ภาษีช่วย
แบบโครงการ Eco car หรือราคาถูก ก็คงไม่มีใครซื้อจริงๆ น่ากลัวว่า รถ Eco car ของอินโด มาเมืองไทยก็อาจจะขายไม่ได้
ถ้ามาแบบลดต้นทุนเกิน และขายถูกกว่า Eco car หรือ 1.5 ตัวล่าง ไม่มาก

มีความคิดเห็นอย่างไรกันครับ :)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Envil ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:23:38
แล้วขับแล้วแฮปปี้มั้ยหละจ้า

ถ้าคนขับโอเค ก็ปิดหูคำติรอบข้างได้เลย +_+

ตอนนี้เราก็จองHyundaiไป ก่อนจองตำติสุดจะเอ่ยมากมาย
สุดท้ายเราว่ามันไม่ได้อยู่ที่ทัศนคติคนอื่นๆ อยู่ที่ตัวเรา
น้องมีนา เราว่าอย่างไรก็ซื้อง่ายขายคล่องอยู่แล้ว  :D
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:25:31
ผมว่าสังคมไทยมันจะมีการแบ่งชนชั้นกันอยู่แล้วล่ะครับ

ถ้าในเมื่อมีอีโคคาร์ 1.2 ลิตรมามีราคาถูกสุดในตลาด
ก็ไม่แปลกที่จะมีประเภทขับรถที่แพงกว่านิดหน่อยแล้วใส่กับรถที่คลาสเล็กกว่า

ก็สมัยก่อนคนขับรถ 1.5 ลิตร โดนเหยียดหยามมาก่อนน่ะสิครับ
พอมีอีโคคาร์ อีโคคาร์ก็รับกรรมไป

แต่ก็น่าคิดนะ นี่ขนาดโดนด่า มันยังขายดีนะ อีรถแบบเนี้ย
ถ้ายกเป็นรถเทพคงหมื่นคันต่อเดือน เหอ ๆ

ส่วนย่อหน้าสุดท้าย

มันเป็นความจริงของบริษัทรถส่วนใหญ่ล่ะครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: หงส์จำปา ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:30:49
ทัศนคติต่อรถเล็กยังไม่เท่าไหร่ ทัศนคติต่อแบรน์นี่ซิรุ่นแรงเลย ถ้าคนไทยกล้าเปิดใจเอาคำว่าต้องโต,ต้องฮอน รับรองคุณจะเห็นและประสบอะไรดีๆของรถยี่ห้ออื่นๆอีกเยอะโดยไม่โดนครอบความคิดในกะละ แบบว่าเสียเงินแต่ได้ของต่ำกว่าคุณภาพอ่ะ(บ้างอ้างว่าต้องเสียภาษีให้รัฐเยอะ แต่ทำไมรถนำเข้าบางยี่ห้อได้ของดีอุปกรณ์ครบกว่าในราคาต่ำกันเกินแสนครึ่ง??)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:32:03
สุขทุกข์อยู่ที่ใจครับ  ต่อให้คุณขับ Accord Camry Teana

ถ้าคุณไปอยู่ในสังคมหนึ่งที่ผมเคยสัมผัส คุณก็โดนดูถูกอยู่ดี

เพราะเค้าแย่งกันซื้อแบนซ์รุ่นใหม่ๆใครได้ขับก่อนชนะ

มีเงินไปช๊อปจะซื้อไรดี คอนโด หรือ Z4

อย่าไปคิดมากครับคนเรามันไม่เหมือนกัน ปล่อยผ่านๆ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:33:20
รถก็เหมือนแฟนล่ะครับ ไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา ใครจะกล่าว จะว่าอย่างไร ยังไงเราก็รักของเรา

หรือง่ายๆ ถ้าหมดรักแล้วก็เลิกกัน แค่นั้น
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Oslan ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:36:02
ข้อ 1, 3, 4 ต้องยอมรับครับ

ข้อ 2 รถวิ่งได้มันก็ออกต่างจังหวัดได้หมดแหละครับ แต่มันขับเหนื่อยกว่า

ข้อ 5 เรื่องปกติของรถเล็ก ห่างๆ มันไว้เป็นดีครับ = =''

ส่วน 6 กับ 7 ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการใช้งาน ความชอบ ของแต่ละบุคคลนะครับ

ส่วนตัวผมว่า สังคมไทยเรายอมรับรถเล็กมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะครับ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ถ้าเป็นคนที่ไม่มองความแรง เน้นที่ประโยชน์ใช้สอย ผมว่าพวกเขามองรถเล็กกันทุกคนครับ แต่ก็นั่นแหละครับ แต่ละคนมีโจทย์ไม่เหมือนกัน ก็ขึ้นกับว่าโจทย์ของใคร จะไปตรงกับรถคันไหน

แต่ถ้าเรื่องการยอมรับล่ืะก็ ดูจากยอดขายของ March ก็พิสูจน์ได้แล้วครับ ถึงการยอมรับเป็นอย่างดีจากสังคมบ้านเรา
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: toonze ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:36:23
ผมจังชอบเลย น้องมีนา ถ้ามีตังจะซื้ออีกคัน แต่นี้ไม่มี คิคิคิ รถสวยแบบธรรมดามองแล้วไม่เบื่อ

อย่าไปใช้ใจครับ เคยเจอพวกแบบนี้ แล้ว น่าเบื่อมาก ขับรถยังไม่เป็นเลย แล้วมาบ่นให้เราฟังทำไม เงินก็เงินเรา มาช่วยออกหรือป่าวพูดให้เสียความรู้สึก อย่ามานั้งรถกรูละกัน
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:37:43
เรื่องประหยัดน้ำมัน สำหรับผมคงจะไปมอง Panamera S Hybrid ตรงหน้าเวปมากกว่า แบบว่าอยากได้ตัวซีดตัวสั่นเลยทีเดว แต่ก็ได้แค่มอง

ถ้าถามว่ารังเกียจอีโคคาร์ไหม ผมก็ตอบว่าไม่ได้รังเกียจนะ มันดูดีในแบบที่มันเป็น แต่ถ้าถามว่าจะซื้อใช้เองไหมคงตอบว่าไม่อะครับ

ผมเป็นผู้ชายตัวเล็กนะ แต่ไม่ชอบขับรถเล็กหนะครับ เพราะรุ้สึกอึดอัดหนะ ชอบที่นั่งใหญ่ๆ นั่งสบายๆ มากกว่าครับ

แต่ถ้าภาวะจำเป็นก็นั่งได้ไม่ได้รังเกียจนะคับ เพราะรถเพื่อนผมส่วนมากก็จะใช้รถเล็กกันคับ รวมถึงน้องมีนาด้วย แฟนเก่าผมก็เพิ่งซื้อมาใช้คับ

ส่วนในเรื่องเครื่องยนต์ มันก็ควรทำให้เหมาะสมกับรถหนะนะคับ ถ้าอีโคคาร์ แต่ใช้เครื่อง 6.0 V12 Twinturbo คงประหลาดพิลึก :o
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: HIGHSEA ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:40:54
ผมไม่สนใจหรอกครับว่าใครจะมองว่าไง ผมสนใจว่ารถที่เราซื้อตอบโจทย์เราใด้ครบรึเปล่าเท่านั้น
ในเรื่องของ ราคา ความปลอดภัย ความคุ้มค่าของเงินที่เสียไป แต่ถ้าจะมาดูถูกว่ารถเล็กอย่างนั้น
อย่างนี้ ก็ต้องลองดูกันสักตั้งแหละครับ ;D
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Cross MPV ที่ สิงหาคม 10, 2011, 13:41:04
1.ผมไม่เคยบอกคนอื่นที่ผมคุยเรื่องรถด้วยว่า March อืด และผมบอกให้เพื่อนๆ ทั้งหมดที่ผมรู้จักว่าอย่าตัดสินเพียงแค่เครื่องยนต์
ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะ เช่น March, Skoda Yeti, MB E250
2.ผมบอกคนอื่นว่า สมัยก่อน Mira ยังขับขึ้นดอยได้ ทำไมอีโคคาร์จะขับขึ้นดอยไม่ได้
3-5.อันนั้นมันขึ้นกับภาพรวมของรถแต่ละคัน และขึ้นกับฟิลลิ่งในการขับด้วย แต่โดยรวมต้องดูว่าราคารถเท่าไร ได้อะไรมา มันคุ้มไหมมากกว่าจะมาคิดเสียดสีแบบนั้น
6-7.ไม่ขอออกความเห็น

แต่คุณคิดผิดแล้วที่บอกว่าไม่มีคนกล้าซื้ออีโคคาร์ ลองหันกลับไปดูยอดขายของ March สิครับในกระทู้เมื่อกี้
มันก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วนะครับว่ายอดขายมันมากกว่ารถ B Segment บางรุ่นเสียอีกนะครับ
และอย่าลืมว่า Ecocar เป็นโครงการที่รัฐบาลไทยอยากสร้างให้คนไทยมีงานทำ แต่ก็เป็นรถอนุรักษ์พลังงาน ไม่ใช่ "รถราคาถูก" นะครับ
เพียงแค่ว่าการทำตลาดของ Nissan เขามาทางนี้และสามารถควบคุมต้นทุนได้ บริษัทอื่นๆ ขืนขายแพงกว่าก็จบเห่สิครับ

ส่วนรถอินโดที่มาไทยนั้น มันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไปหรอกครับ ลองคิดดูว่าก่อนหน้ารถเล็กอย่าง Naza Forza หรือ Proton Savvy
ทั้งๆ ที่ราคาถูกกว่า City-Vios นั้น ทำไมถึงขายไม่ได้ ลองคิดดูสิครับว่าทำไมพกคุณถึงไม่ซื้อ ???? อยากได้แค่รถที่มีหลังคาไม่ให้เปียกฝนเท่านั้นหรือ
ผมว่ามันไม่ใช่ ถึงแม้ใครจะบอกว่าอยากได้รถราคาถูกๆขับ แต่ความคาดหวังมันยังมีเยอะครับ

สุดท้ายนี้ ถ้าคนรอบตัวเค้ามองแบบอคติกับน้อง March ของคุณ คุณก็พาเค้าไปนั่งเสียสิครับ จะได้เปิดโลกใหม่ให้เคาได้รับรู้กัน
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:09:20
ทัศนคติ มันเป็นของส่วนบุคคล เขาอาจชอบเรา ไม่ชอบเรา ชอบรถเรา ไม่ชอบรถเราก็ได้ คนเรา นานาจิตตังครับ ดังนั้นถ้าคุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี แล้วจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก???

รถเล็กโดนดูถูก แล้วรถใหญ่ไม่โดนดูถูกเหรอครับ ไม่เคยได้ยินเหรอครับ

"แม่ง มีเงินขับเบนซ์ แต่มีปัญญาขับรถแค่นี้"
"เหอะๆ ไอ้นี่ ขับ Z4/SLK/Boxster พ่อมันรวย"
"MINI ซื้อมาได้ไง รถคันจิ๋วราคา 2 ล้าน"

คนเรามีธรรมชาติ ที่จะอิจฉาคนที่มีมากกว่า และมีความสุขที่จะดูถูกคนที่ด้อยกว่าเสมอครับ ดังนั้นจึงไม่แปลก อย่างที่คุณ HOMY ว่าไว้ พอรถ B-Segment ออกมา คนก็ดูถูก พอ Eco Car ออกมา คนก็ดูถูก ก็คนเรามันมีความสุขที่จะดูถูกคนอื่น เท่านั้นแหละครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:10:42
1. เครื่อง 1.2-1.3 อืด(แต่ Brio แบบแรงกว่า น้องดาวเดียว ยิ้มกว้างๆ 1.4)
   - "น้องดาวเดียว ยิ้มกว้างๆ 1.4" อันนี้หมายถึงรถอะไรอะครับ ไม่รู้จริงๆ

2. ออกต่างจังหวัดไม่ได้(แต่ก็เห็นขายดีที่ต่างจังหวัด)
   - คือการใช้งานน่ะครับ ไม่สำคัญว่าซื้อจังหวัดไหน แต่ไม่ได้ขับไปไกล จะซื้อยะลาก็ได้ แต่ก็ขับแต่ในยะลาไรทำนองนี้ครับ

3. ล้อเล็ก ไม่เกาะถนน
   - ถ้าหมายถึงเรื่องหน้ากว้างของล้อ อันนี้ก็แน่นอนครับ ซึ่งเป็นเรื่องจริง เพราะ หน้ากว้างยิ่งมาก ก็ยิ่งเกาะกว่าครับ

4. เหล็กบาง รถกระป๋อง
   - ถ้าพูดถึง Eco Car ก็แน่นอนครับ ลองเทียบ Brio กับ Mini ดูง่ายๆ เล็กพอกัน เรื่องความปลอดภัยก็วัดเองครับ

5. โดนรถบรรทุกดูดแล้ววูบ ปลิว(ผมว่ารถ Altis ก็เป็นนะ เคยโดนมาแล้ว)
   - พูดตรงๆ ว่าไม่เคยใช้ Eco Car เลยไม่รู้ว่าโดนดูดปลิวเป็นยังไง แต่คันอื่นๆที่ใช้นี่ ยังไม่เคยโดนดูดนะครับ มีแต่เค้าบอกว่า คันเล็กๆ ชนกะรถบรรทุกจะเหลืออะไร

6. ทำไมไม่ซื้อรถเครื่อง 1.5 ไปคิดแก๊ซ เน้นที่ Vios Altis 1.6 สุดๆ หรือ ใช้รถ CNG จากโรงงาน(น้องดาวเดียว)
   - ยังสงสัยเหมือนเดิม "น้องดาวเดียว" นี่อะไร

7. เพิ่มตังนิดนึง ซื้อ 1.5 ตัวล่าง Vios J / City S / 2 รุ่นล่าง อะไรประมาณนี้
   - คือถ้าราคาห่างกันไม่มาก เค้าก็อยากแนะนำสิ่งที่ดีกว่าให้ ถ้าแนะนำ จาก Brio->City น่าจะพอคุยกันได้รู้เรื่องหน่อย แต่ถ้าแนะนำ Brio->Accord อาจโดนด่าได้

"เข้าใจเลยว่า คนไทย(ทั่วไป) มีทัศนคติแบบนี้นี่เอง ถึงไม่มีบริษัทไหนกล้าทำรถเครื่องเล็กกว่า 1.5 ถ้าไม่ได้ภาษีช่วย
แบบโครงการ Eco car หรือราคาถูก ก็คงไม่มีใครซื้อจริงๆ น่ากลัวว่า รถ Eco car ของอินโด มาเมืองไทยก็อาจจะขายไม่ได้
ถ้ามาแบบลดต้นทุนเกิน และขายถูกกว่า Eco car หรือ 1.5 ตัวล่าง ไม่มาก"

- ก็ดีแล้วนี่ครับ จะได้เอามาแต่รถดีๆ เครื่องเล็กนี่ ผมว่า Mini ก็ขายดีนะ เครื่องเล็ก+คันเล็กเหมือนกัน เพื่อนผมใช้เพียบ (แต่ใช้เองไม่ได้ ตัวใหญ่ไป T^T) นี่ก็เล็ก
คนไทยน่ะ เค้าสนคุณภาพ ถ้าจะเอาอะไรที่บอกว่า "แย่หน่อยนะ แต่ถูก" มาขายคนไทยน่ะ เดี๋ยวนี้เรารู้แล้ว หลอกเราไม่ได้หรอก
ส่วนเรื่องรถอินโดน่ะ ผมว่า ถ้าเรา Toyota Crown เข้ามาประกอบ+ขายไม่แพงเว่อร์ ผมว่าขายดีกว่า เอาของถูกๆเข้ามาขายเยอะ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:15:19
น้องดาวเดียว คือ AVEO ครับ  ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:28:34
ผมสรรเสริญคนที่เป็นแบบ ผ้าขี้ริ้วห่อทอง มากกว่าทองห่อผ้าขี้ริ้วนะครับ

คนรู้จักผมมีมากมายที่ดูภายนอกเหมือนเป็นคนเดินดินกินอยู่แบบธรรมดา แต่หารู้มั้ยว่าทรัพย์สินเค้าเยอะมากกก คนบางคนดูรวยมากแต่หนี้ท่วมหัว

แล้วอีกอย่างรถเราๆเป็นคนขับ เราเป็นคนรู้ข้อมูลของรถดีที่สุด นกเสียงกาอย่าไปฟังเลย ที่เค้าพูดบางทีอาจเป็นห่วงเราก็ได้ แต่เค้าก็ไม่รู้จักรถเราเท่าตัวเราเองหรอกคับ มีข้อดีของรถเล็กอีกมากที่พวกเขาอาจยังไม่รู้แต่เรารู้  ;D

ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ครับ ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:29:18
ผมว่าคุณตั้งกระทู้เกี่ยวกับรถคุณมากไปนะครับ


เราตัดสินใจไปแล้ว อย่าให้อะไร มาทำให้คุณหวั่นไหวครับ
ผมก็ชอบรถเล็กๆ ผมตัดสินใจซื้อรถเล็ก เพราะผมชอบ

รถเล็ก มีอะไรดีๆหลายอย่าง

รถเล็ก ใช้เครื่องเล็กๆ ก็แรงได้ ประหยัดได้
รถเล็ก เสียภาษีถูก บำรุงรักษาต่ำ ประกันถูก อะไหล่ถูก
รถเล็ก เบรคดีกว่า บังคับควบคุมดีกว่า ไวกว่า คล่องตัวกว่า
ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคาไม่ตก

และอื่นๆอีกมากมาย

ใครบอกรถเล็กๆไม่เกาะ เป็นความคิดของคนรุ่นเก่าๆครับ
หลายๆคนยังเอาราคาและขนาด เป็นที่ตั้ง
คุณงามความดีของรถเล็ก มีมากกว่าที่คิดแน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Envil ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:38:09
เราว่าคนซื้อรถเล็ก กลับจะคิดเป็นมากกว่าคนซื้อรถใหญ่ด้วยซ้ำนะ เพราะอยู่ที่การใช้งานด้วย
โดยเฉพาะกับพวกกลุ่มคนที่ชอบดูถูก
เช่น
ขับรถไปทำงานที่จอดก็แคบ แต่ซื้อรถใหญ่ๆ เพราะ..ดูดีกว่า ทั้งๆที่เทียบกับรถเล็กๆราคาต่างกัน6-7หลัก??? เอาไปเติมน้ามันได้อีกกี่ปี?
แต่พอใช้งานจริงๆ ก็ขับไปทำงานระยะทางเท่ากัน
รถเล็ก > ถูกกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า รวดเร็วกว่า ขับง่ายเลาะง่ายจอดง่ายกว่า แถมตอนขายต่อก็ไม่ต้องคิดเยอะขายคล่อง
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:42:59
แล้วแต่คนครับว่าชอบรถใหญ่ รถเล็ก รถกลาง อย่างผมชอบรถขนาดกลางเพราะมันดูสบายดี ไม่ชอบขนาดใหญ่เพราะเทอะทะไม่คล่องตัว
สรุปเรืื่องแบบนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ซื้ออยู่แล้วครับ  น้องมีนาก็ดีออก ผมเคยเจอนะ ที่จอดรถแคบๆ รถผมจอดไม่ได้แต่น้อง มีนา จอดได้ เดินเข้าห้างชิวไปแล้ว
ผมยังต้องวนรถหาที่จอด ขับในเมืองยังไงน้องมีนา ต้องดีกว่าอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: donutchan ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:45:57
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี  
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ  

หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Cross MPV ที่ สิงหาคม 10, 2011, 14:53:41
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี 
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ 



อันนี้ผมเห็นด้วยครับ อยากจะพูดหลายทีแล้วว่าที่เขาใส่มาให้นั้น ก็เพราะอยากให้บ้านเรามีอย่างเขาบ้าง
และอีกอย่างคือเขามีไว้ในรุ่นท็อป ที่คุณต้องเสียเงินเพิ่ม ไม่ได้บังคับให้ซื้อในรุ่นมาตรฐานเสียหน่อย

ยิ่งแบบรถ Hybrid นี่คนไทยแอนตี้มาก ไหนจะค่าน้ำมันไม่ได้ประหยัดเท่าติดแก๊ส แบตเตอรี่ลูกละเป็นแสน ฯลฯ
แล้วเมื่อไรประเทศไทยจะไปไกลเหมือนอย่างเขากัน แต่ก็นะผมว่าอีกประมาณสัก 5 ปี เดี๋ยวรถพวกนี้ก็เยอะในไทยแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:03:23
ผมว่าคุณตั้งกระทู้เกี่ยวกับรถคุณมากไปนะครับ


เราตัดสินใจไปแล้ว อย่าให้อะไร มาทำให้คุณหวั่นไหวครับ
ผมก็ชอบรถเล็กๆ ผมตัดสินใจซื้อรถเล็ก เพราะผมชอบ

รถเล็ก มีอะไรดีๆหลายอย่าง

รถเล็ก ใช้เครื่องเล็กๆ ก็แรงได้ ประหยัดได้
รถเล็ก เสียภาษีถูก บำรุงรักษาต่ำ ประกันถูก อะไหล่ถูก
รถเล็ก เบรคดีกว่า บังคับควบคุมดีกว่า ไวกว่า คล่องตัวกว่า
ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคาไม่ตก

และอื่นๆอีกมากมาย

ใครบอกรถเล็กๆไม่เกาะ เป็นความคิดของคนรุ่นเก่าๆครับ
หลายๆคนยังเอาราคาและขนาด เป็นที่ตั้ง
คุณงามความดีของรถเล็ก มีมากกว่าที่คิดแน่นอนครับ

ขอบคุณครับ ผมเองก็ไม่ได้หวั่นไหว แต่แอบสงสัยและเข้าไปด้วยว่า ทำไมหนอ ถึงเป็นกันแบบนี้
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี 
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ 



อันนี้ผมเห็นด้วยครับ อยากจะพูดหลายทีแล้วว่าที่เขาใส่มาให้นั้น ก็เพราะอยากให้บ้านเรามีอย่างเขาบ้าง
และอีกอย่างคือเขามีไว้ในรุ่นท็อป ที่คุณต้องเสียเงินเพิ่ม ไม่ได้บังคับให้ซื้อในรุ่นมาตรฐานเสียหน่อย

ยิ่งแบบรถ Hybrid นี่คนไทยแอนตี้มาก ไหนจะค่าน้ำมันไม่ได้ประหยัดเท่าติดแก๊ส แบตเตอรี่ลูกละเป็นแสน ฯลฯ
แล้วเมื่อไรประเทศไทยจะไปไกลเหมือนอย่างเขากัน แต่ก็นะผมว่าอีกประมาณสัก 5 ปี เดี๋ยวรถพวกนี้ก็เยอะในไทยแล้วล่ะ
ผมตรรกะของบ้านเราแปลกๆ เช่น ผมมีญาติที่ ใช้รถคนเดียว ขับรถไม่เร็ว แต่ซื้อ อัลติส CNG ราคา 8.59 แสนบ. ทั้งที่ขับรถเพียงวันละ 30 กิโล
แทนที่จะซื้อรถ Vios เครื่อง 1.5 ราคา 6.09 แสนบ. ประหยัดตังไปหลายแสนอยู่

การประหยัดแบบนี้ไม่ได้ประหยัดที่ตัวรถเอง แต่ประหยัดที่ค่าเชื้อเพลิง ซึ่งผมว่ามันผิดหลักการมากๆ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Cross MPV ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:08:44
เหมือนพี่ที่เป็นเภสัชกรท่านหนึ่งมาปรึกษาผมเลยครับ พี่เค้าอยู่ต่างอำเภอห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 20 กว่ากิโล
แต่การเดินทางคือทำงานที่โรงพยาบาล นอนที่บ้านพักโรงพยาบาลเดินมาโรงพยาบาลเพียงไม่กี่ก้าว
แต่อยากได้ Altis CNG มากๆ เพราะเขาบอกว่ามันประหยัด ผมเลยถามแกว่าเดือนๆ หนึ่งแกขับไปไหนบ้าง
แกตอบว่า ไปในเมืองบ้าง พาแม่ไปเที่ยวบ้างเดือนละไม่กี่ครั้ง

อืมมมม เปลี่ยนเป็นมองรุ่นธรรมดาก็น่าจะประหยัดเงินเติมน้ำมันไปได้หลายปีอยู่
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:20:19
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี 
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ 



อันนี้ผมเห็นด้วยครับ อยากจะพูดหลายทีแล้วว่าที่เขาใส่มาให้นั้น ก็เพราะอยากให้บ้านเรามีอย่างเขาบ้าง
และอีกอย่างคือเขามีไว้ในรุ่นท็อป ที่คุณต้องเสียเงินเพิ่ม ไม่ได้บังคับให้ซื้อในรุ่นมาตรฐานเสียหน่อย

ยิ่งแบบรถ Hybrid นี่คนไทยแอนตี้มาก ไหนจะค่าน้ำมันไม่ได้ประหยัดเท่าติดแก๊ส แบตเตอรี่ลูกละเป็นแสน ฯลฯ
แล้วเมื่อไรประเทศไทยจะไปไกลเหมือนอย่างเขากัน แต่ก็นะผมว่าอีกประมาณสัก 5 ปี เดี๋ยวรถพวกนี้ก็เยอะในไทยแล้วล่ะ
เห็นด้วยเลยครับ
พอออปชั่นน้อยก็บอกว่า บ้านเรามาตรฐานต่ำ
พอออปชั่นทัดเทียมก็หาว่า ใส่มาทำไมก็ไม่รู้

เฮ้ออออออออออออ อะไรก็ไม่รู้
------------
ส่วนตัวแล้วรถเล็กผมชอบนะ แต่ว่าต้องคิดหลายองค์ประกอบด้วยนะ

ถ้ารถเล็ก แต่ซดน้ำมันยังกับคนอดข้าว 3 เดือน ก็ไม่เอา
ถ้ารถเล็ก แต่นั่งแบบอึดอัดเกินไป ก็ไม่เอา
ถ้ารถเล็ก แต่สิ่งที่ควรมีกลับหาย ก็ไม่เอา
ถ้ารถเล็ก แต่ชนแล้วสภาพคนเหมือนแตงโมโยนจากชั้นดาดฟ้า ตึกใบหยก ก็ไม่เอา
----------
แม้ว่าเล็ง Prius อยู่ แต่สไตล์รถที่ผมชอบนั้นเป็น

"รถเล็ก แต่มีความอเนกประสงค์" (เช่น Note Jazz Ractis ครับ)
เผื่อใครนึกภาพไม่ออก

(http://www.dieselstation.com/pics/Nissan-Note-car-wallpaper.jpg)
Note

(http://3.bp.blogspot.com/_FoXyvaPSnVk/SM6szK1mttI/AAAAAAAA5Xg/yoDTx0FhH5k/s400/Toyota-Ractis-3.jpg)
Ractis
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:26:11
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี  
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ  



อันนี้แล้วแต่คนนะครับ แล้วแต่การใช้รถของแต่ละคนด้วย เพราะอย่าลืมว่า option มากขึ้น การซ่อมบำรุงก็มากขึ้นตามไปด้วย บางคนเขาใช้รถคันนึง 15-20 ปี เอาง่ายๆ ผมโคตรจะมีความสุขกับช่วงล่าง solid axle ของ Galant ผมเลย ในขณะที่ Accord เป็น Double Wishbone แต่อย่าลืม solid axle กระด้างจริง แต่ก็แทบไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องตั้งศูนย์ไปทั้งชาติเลยครับ

ก็จริงว่า option หลายๆ อย่าง เขาก็ใส่ให้มาในรุ่นท็อป เสียเงินเพิ่ม ก็ดีแล้ว

แต่ผมก็มองว่า รถหลายรุ่น ถ้ารุ่น base ตัด option ได้มากกว่านี้ แล้วราคาถูกกว่านี้ ก็จะดีไม่น้อย

เพราะผมก็เจอมาหลายคน ที่ยอมขับรถที่อันตรายมากขึ้น ไม่สบายมากขึ้น เพียงเพื่อประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาทก็ยังดี

ผมแนะนำว่า ลองไปดูพวก Isuzu Faster ตามทุ่งนาต่างจังหวัดบ้างก็ดีครับ ผมว่า น่าจะทำให้เห็นภาพในมุมกลับของการใช้รถเหมือนกัน (ที่คนกทม. เรียกกันว่าอีผุๆ นั่นแหละ)

จริงๆ ผมก็ชอบนะ รถที่มีอุปกรณ์ electronic ให้มาเยอะๆ เนี่ย แต่ถ้าไม่มีเงินซ่อมขึ้นมา มันก็คงน่าเศร้าเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ใช้รถกันสั้นๆ แค่ 7 ปี เหมือนคนญี่ปุ่นสักหน่อย
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:29:08
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี  
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ  



อันนี้แล้วแต่คนนะครับ แล้วแต่การใช้รถของแต่ละคนด้วย เพราะอย่าลืมว่า option มากขึ้น การซ่อมบำรุงก็มากขึ้นตามไปด้วย บางคนเขาใช้รถคันนึง 15-20 ปี เอาง่ายๆ ผมโคตรจะมีความสุขกับช่วงล่าง solid axle ของ Galant ผมเลย ในขณะที่ Accord เป็น Double Wishbone แต่อย่าลืม solid axle กระด้างจริง แต่ก็แทบไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องตั้งศูนย์ไปทั้งชาติเลยครับ

ก็จริงว่า option หลายๆ อย่าง เขาก็ใส่ให้มาในรุ่นท็อป เสียเงินเพิ่ม ก็ดีแล้ว

แต่ผมก็มองว่า รถหลายรุ่น ถ้ารุ่น base ตัด option ได้มากกว่านี้ แล้วราคาถูกกว่านี้ ก็จะดีไม่น้อย

เพราะผมก็เจอมาหลายคน ที่ยอมขับรถที่อันตรายมากขึ้น ไม่สบายมากขึ้น เพียงเพื่อประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาทก็ยังดี

ผมแนะนำว่า ลองไปดูพวก Isuzu Faster ตามทุ่งนาต่างจังหวัดบ้างก็ดีครับ ผมว่า น่าจะทำให้เห็นภาพในมุมกลับของการใช้รถเหมือนกัน (ที่คนกทม. เรียกกันว่าอีผุๆ นั่นแหละ)

จริงๆ ผมก็ชอบนะ รถที่มีอุปกรณ์ electronic ให้มาเยอะๆ เนี่ย แต่ถ้าไม่มีเงินซ่อมขึ้นมา มันก็คงน่าเศร้าเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ใช้รถกันสั้นๆ แค่ 7 ปี เหมือนคนญี่ปุ่นสักหน่อย

ถูกต้องครับ ผมเอง ก็อยากใช้รถยาวๆ 15-20 ปีเช่นกัน ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:33:23
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี 
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ 



อันนี้แล้วแต่คนนะครับ แล้วแต่การใช้รถของแต่ละคนด้วย เพราะอย่าลืมว่า option มากขึ้น การซ่อมบำรุงก็มากขึ้นตามไปด้วย บางคนเขาใช้รถคันนึง 15-20 ปี เอาง่ายๆ ผมโคตรจะมีความสุขกับช่วงล่าง solid axle ของ Galant ผมเลย ในขณะที่ Accord เป็น Double Wishbone แต่อย่าลืม solid axle กระด้างจริง แต่ก็แทบไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องตั้งศูนย์ไปทั้งชาติเลยครับ

ก็จริงว่า option หลายๆ อย่าง เขาก็ใส่ให้มาในรุ่นท็อป เสียเงินเพิ่ม ก็ดีแล้ว

แต่ผมก็มองว่า รถหลายรุ่น ถ้ารุ่น base ตัด option ได้มากกว่านี้ แล้วราคาถูกกว่านี้ ก็จะดีไม่น้อย

เพราะผมก็เจอมาหลายคน ที่ยอมขับรถที่อันตรายมากขึ้น ไม่สบายมากขึ้น เพียงเพื่อประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาทก็ยังดี

ผมแนะนำว่า ลองไปดูพวก Isuzu Faster ตามทุ่งนาต่างจังหวัดบ้างก็ดีครับ ผมว่า น่าจะทำให้เห็นภาพในมุมกลับของการใช้รถเหมือนกัน (ที่คนกทม. เรียกกันว่าอีผุๆ นั่นแหละ)

จริงๆ ผมก็ชอบนะ รถที่มีอุปกรณ์ electronic ให้มาเยอะๆ เนี่ย แต่ถ้าไม่มีเงินซ่อมขึ้นมา มันก็คงน่าเศร้าเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ใช้รถกันสั้นๆ แค่ 7 ปี เหมือนคนญี่ปุ่นสักหน่อย

ถูกต้องครับ ผมเอง ก็อยากใช้รถยาวๆ 15-20 ปีเช่นกัน ;)
ถามพี่เต้นิดนึง
ถ้า City Li และ Soluna XLi มาแซยิดอีก
(อ่อ และรวมถึง Faster Z,Hilux Hero,Sunny B11,Cyclone ด้วย)

พี่เต้จะเอาแทน March หรือเปล่าครับ (ถามขำๆนะ)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:42:43
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี  
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ  



อันนี้แล้วแต่คนนะครับ แล้วแต่การใช้รถของแต่ละคนด้วย เพราะอย่าลืมว่า option มากขึ้น การซ่อมบำรุงก็มากขึ้นตามไปด้วย บางคนเขาใช้รถคันนึง 15-20 ปี เอาง่ายๆ ผมโคตรจะมีความสุขกับช่วงล่าง solid axle ของ Galant ผมเลย ในขณะที่ Accord เป็น Double Wishbone แต่อย่าลืม solid axle กระด้างจริง แต่ก็แทบไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องตั้งศูนย์ไปทั้งชาติเลยครับ

ก็จริงว่า option หลายๆ อย่าง เขาก็ใส่ให้มาในรุ่นท็อป เสียเงินเพิ่ม ก็ดีแล้ว

แต่ผมก็มองว่า รถหลายรุ่น ถ้ารุ่น base ตัด option ได้มากกว่านี้ แล้วราคาถูกกว่านี้ ก็จะดีไม่น้อย

เพราะผมก็เจอมาหลายคน ที่ยอมขับรถที่อันตรายมากขึ้น ไม่สบายมากขึ้น เพียงเพื่อประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาทก็ยังดี

ผมแนะนำว่า ลองไปดูพวก Isuzu Faster ตามทุ่งนาต่างจังหวัดบ้างก็ดีครับ ผมว่า น่าจะทำให้เห็นภาพในมุมกลับของการใช้รถเหมือนกัน (ที่คนกทม. เรียกกันว่าอีผุๆ นั่นแหละ)

จริงๆ ผมก็ชอบนะ รถที่มีอุปกรณ์ electronic ให้มาเยอะๆ เนี่ย แต่ถ้าไม่มีเงินซ่อมขึ้นมา มันก็คงน่าเศร้าเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ใช้รถกันสั้นๆ แค่ 7 ปี เหมือนคนญี่ปุ่นสักหน่อย

ถูกต้องครับ ผมเอง ก็อยากใช้รถยาวๆ 15-20 ปีเช่นกัน ;)
ถามพี่เต้นิดนึง
ถ้า City Li และ Soluna XLi มาแซยิดอีก
(อ่อ และรวมถึง Faster Z,Hilux Hero,Sunny B11,Cyclone ด้วย)

พี่เต้จะเอาแทน March หรือเปล่าครับ (ถามขำๆนะ)

พี่คงไม่ถึงขั้นนั้นนะครับ อยากมาก
ถ้าพี่โตแกจะทำรถราคาประหยัดจริงๆ ก็เอา พื้นฐานของรถรุ่นเก่าๆ เช่น โซลูน่ามาทำ
หรือ นิสสัน เอาพื้นฐานของมีนา K11 ตัวเก่ามาทำ ใหม่
ใช้เครื่องยนต์ใหม่(อาจไม่มีวาล์วแปรผัน แต่ประหยัด ถ้าให้ดูควรเป็นเครื่อง 3 สูบ) ใส่เกียร์ CVT หรือ 4 AT ที่ประหยัดน้ำมัน
พวงมาลัยไฟฟ้า คันเร่งสาย(ก็ได้)

กระจกไฟฟ้าคู่หน้าเท่านั้น เซ็นทรัลล๊อค เครื่องเสียง เล่น USB คล้ายๆ Brio ตัว S MT ครับ

แค่นี้ ก็น่าใช้แล้วครับ

ปล. พี่ชอบรถ 5 ประตูมากกว่าแล้วแหละคับ ตอนนี้ ถ้ามีก็ขอหลังคาสูงๆ แบบน้องมีนา หรือสูงกว่านี้อีกครับ ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:47:49
ขอตอบด้วยคน

พวก B11 นี่เกินไปนิด

แต่ถ้าเป็น City SX8 เนี่ย ผมเอานะ รถที่เทคโนโลยีสัก 15 ปีผมว่า ยังพอไหวอยู่

ที่ Africa เขายังขาย Peugeot 504 จนถึง 5-6 ปีที่แล้วเลย
ลองไปดูเวลาที่ผลิตในแต่ละประเทศนะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Peugeot_504 (http://en.wikipedia.org/wiki/Peugeot_504)

อ้อ แล้ว Golf Gen1 (เปลี่ยนชื่อเป็น Citi Golf) ก็ขายถึง 2 ปีที่แล้ว
http://en.wikipedia.org/wiki/VW_CitiGolf (http://en.wikipedia.org/wiki/VW_CitiGolf)

อ้อ ลองไปหาเจ้า Nissan Tsuru ใน Mexico ด้วยนะ

แล้วผมก็จะถามคุณว่า

"แซยิดมันผิดตรงไหน???"  :D

ถ้าคุณเจอพวกนี้เข้าไป คุณก็จะรู้ว่า Lancer แซยิด หรือ Isuzu TF น่ะ มันเด็กๆ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 15:58:19
ขอตอบด้วยคน

พวก B11 นี่เกินไปนิด

แต่ถ้าเป็น City SX8 เนี่ย ผมเอานะ รถที่เทคโนโลยีสัก 15 ปีผมว่า ยังพอไหวอยู่

ที่ Africa เขายังขาย Peugeot 504 จนถึง 5-6 ปีที่แล้วเลย
ลองไปดูเวลาที่ผลิตในแต่ละประเทศนะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Peugeot_504 (http://en.wikipedia.org/wiki/Peugeot_504)

อ้อ แล้ว Golf Gen1 (เปลี่ยนชื่อเป็น Citi Golf) ก็ขายถึง 2 ปีที่แล้ว
http://en.wikipedia.org/wiki/VW_CitiGolf (http://en.wikipedia.org/wiki/VW_CitiGolf)

อ้อ ลองไปหาเจ้า Nissan Tsuru ใน Mexico ด้วยนะ

แล้วผมก็จะถามคุณว่า

"แซยิดมันผิดตรงไหน???"  :D

ถ้าคุณเจอพวกนี้เข้าไป คุณก็จะรู้ว่า Lancer แซยิด หรือ Isuzu TF น่ะ มันเด็กๆ

แซยิก ไม่ดีตรงไหน โดนใจ กด LIke 10 ที ;)

เห็นด้วย B11 เก่าเกิน แต่จะบอกว่า พื้นฐานช่วงล่างของ B11 กับน้องมีนา ดูคล้ายกันมาก
โช๊คเป็นแบบ แยกกะสปริงในคู่หลังเหมือนกันเลย ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:13:31
คนไทยยังคงขาดความรุ้เรื่องยานยนต์และเลือกที่จะเชื่อเพื่อนย้านมากกว่าผลทดสอบขับครับ มันเป็นลักษณะของคนไทยที่ชอบฟังแต่เสียงส่วนใหญ่หรือคนใกล้ตัวมากกว่า คนไทยเลยชอบเหมารวมว่าโตโยต้าฮอนด้าเป้นของดีเพราะมันมีเยอะบนถนน  :P

แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ค่านิยมที่ซื้อรถต้องโตโยต้าฮอนด้าเท่านั้นกำลังหมดอายุล้มหายตายจากไปเรื่อยๆแล้วครับ สมัยนี้คนมีกำลังซ์อรถคือคนยุคใหม่ที่เปิดใจมองเรื่องคุณภาพมากกว่าที่จะยึดติดกับยี่ห้อตลาด การที่ฟอร์ด มาสด้า นิสสัน กำลังโตเอาๆในตอนนี้เป็นข้อบ่งชี้ได้อย่างดี ในอนาคตรถแต่ละค่ายจะเข็นเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาอีกมาก ข้อแตกต่างระหว่างยี่ห้อจะยิ่งลดลงอีกมาก ทีนี้จุดเด่นที่เจ้าตลาดทั้งสองมีจะโดนแทนจืดจางลง สิ่งที่คนซื้อมุ่งไปหาคือรูปลักษณ์และความคุ้มค่า ซึ่งเป็นจุดด้อยที่ยี่ห้อเจ้าตลาดไม่มีและยังคงไม่มีต่อไปเพราะยังลำพองกับความสำเร็จในอดีตอยู่ โอกาสที่อันดับหนึ่งด้านยอดขายจะผลัดมือกันมีอสูงมาก

เรื่องของการดูถูกขนาดความจุในรถที่เล็กนั้นก็เป็นลักษณะหนึ่งของคนไทยอีกล่ะที่มักจะตัดสินเอาจากขนาดและตัวเลขและละเลยที่จะมองดูจากการใช้งานจริง ผมเชื่อว่าคงจะเคยเห็นกันบ่อยๆคนที่ชอบพูดว่า 320D 520D ไม่น่าใช้เพราะเป็นเครื่องดีเซลเสียงดัง แต่ตัวเองนั้นไม่มีปัญญาที่จะหาซื้อเป็นเจ้าของได้เลย เข้าข่ายคนบ่นไม่ซื้อคนซื้อไม่บ่น แต่แนวคิดแบบนี้ก็จะล้มหายตายจากไปเองเพราะข้อดีของเก๋งดีเซลมันมีมากมายและนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเค้าจะยึดติดกับรถเก๋งแล้วปล่อยให้รถดีเซลล้ำหน้าเกินไปหลายขั้นก็ช่างเค้าเถอะ  ในอนาคตคนที่ยึดติดกับความจุเครื่องก็จะอยู่ลำบากเพราะเทคโนโลยีกำลังหันมาในทางที่ลดขนาดเครื่องลงแล้วเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น อยากรู้เหมือนกันว่าพวกนี้จะทำยังไงเมื่อ BMW จะมีแต่เครื่อง 1600 2000 เท่านั้นโดยที่ไม่รุ้ว่าเทอร์โบที่ใส่มาให้มันมีดียังไง  ;D
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:21:22
ขอ Civic EG 3 ประตู กลับมาพร้อม L15A
ออโต้5สปีด กระจกไฟฟ้า

ผมจะกระโดดไปจองเลย
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:22:34
ขอตอบด้วยคน

พวก B11 นี่เกินไปนิด

แต่ถ้าเป็น City SX8 เนี่ย ผมเอานะ รถที่เทคโนโลยีสัก 15 ปีผมว่า ยังพอไหวอยู่

ที่ Africa เขายังขาย Peugeot 504 จนถึง 5-6 ปีที่แล้วเลย
ลองไปดูเวลาที่ผลิตในแต่ละประเทศนะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Peugeot_504 (http://en.wikipedia.org/wiki/Peugeot_504)

อ้อ แล้ว Golf Gen1 (เปลี่ยนชื่อเป็น Citi Golf) ก็ขายถึง 2 ปีที่แล้ว
http://en.wikipedia.org/wiki/VW_CitiGolf (http://en.wikipedia.org/wiki/VW_CitiGolf)

อ้อ ลองไปหาเจ้า Nissan Tsuru ใน Mexico ด้วยนะ

แล้วผมก็จะถามคุณว่า

"แซยิดมันผิดตรงไหน???"  :D

ถ้าคุณเจอพวกนี้เข้าไป คุณก็จะรู้ว่า Lancer แซยิด หรือ Isuzu TF น่ะ มันเด็กๆ
ขอแถม Toyota Tazz ด้วยครับ

(http://cars.brick7.co.za/media/za/14001_14100/toyota-tazz-2001-14057_b_5930c215af12ba6f.jpg)
(http://images04.olx.co.za/ui/10/45/15/1291970198_145424015_1-Pictures-of--Toyota-Tazz-130-FOR-SALE-1291970198.jpg)
ถ้าแซยิด ผมอยากให้เอารถมาแซยิดอยู่เช่นกัน

1.March K12,Cube Z11 ดีไซน์แบบนี้อยู่ได้อีกครึ่งศตวรรษ
2.Toyota Vios เก่า ประทับใจการขับขึ่มาก แต่ขอปรับวัสดุภายในกับแอร์ให้ดีด้วย
3.Honda Civic FD เห็นตัวใหม่แล้วเพลียใจ
4.Toyoa Vitz/Yaris ตัวแรก และ Funcargo น่าใช้มากกกกกกก (ถ้า MC แล้วนะ)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื$
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:37:46
ผมว่า มันเริ่มออกไปทาง "รถเล็กดีกว่ารถใหญ่ ซื้อรถใหญ่ไม่เข้าท่า" แล้วล่ะ

คือต้องเข้าใจก่อนว่า รถนี่เป็นรสนิยมส่วนบุคคลนะ

บางคนขับแต่ในเมือง แต่เวลาไปไหนเผื่อจะขนเพื่อนไปได้หลายๆคน โดยที่ไปไม่บ่อยแต่ก็เผื่อ+มีเงิน
ซื้อ - Camry / Accord / Teana ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน

บางคน อยากได้เล็กๆ + สะดวก + ไม่ได้ขนของ เลือกรถเล็กๆ แต่ก็ชอบในความสวยด้วย
ซื้อ - Mini / Citreon Ds3 / Volvo C30 ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน

บางคนขับไปทำงาน แต่ต้องแวะไปส่งลูกๆ + เผื่อจะต้องขนของ หรือหอบเอาจักรยานๆปๆหนต่อไหน
ซื้อ - CR-V / Chev.อะไรสักอย่าง ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน

บางคน ชอบความปลอดภัย + ความสวย + หรูหรา + มีเงิน ถึงแม้จะขับในเมืองอย่างเดียว
ซื้อ - Benz-หลากรุ่น / BMW-หลากรุ่น / Volvo-หลากรุ่น ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน

บางคน งบน้อย+ใช้คนเดียว+ไม่มีที่จอด+กลัวค่าซ่อมแพง+อยากประหยัด
ซื้อ - March / Aveo / Brio ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน

ทีนี้
มีคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณซื้อ มาว่า/บ่น/ติ/แนะนำพวกคุณ พวกคุณก็ไม่พอใจ บอกว่ามันดีงั้นดีงี้

ตอนนี้
คุณไม่เห็นด้วยกับรถแบบอื่นที่คนเค้าซื้อ คุณก็ มาว่า/บ่น/ติ/แนะนำคนอื่น แล้วถ้าเค้าไม่พอใจบ้างล่ะ?

มันก็ธรรมดา คล้ายๆเรื่องการเมือง(ขออนุญาตครับ)
คุณเลือกเบอร์ 99 อีกคนเลือกเบอร์ 0 มันก็เพราะคิดไม่เหมือนกัน
แล้ว
จะมานั่งว่ากัน/ด่ากัน/บ่นกัน/ทะเลาะกัน เหรอ? อย่าเลย ไม่ดีหรอก
เพราะ
เงินเรา สิทธิเรา รสนิยมเรา เราใช้ เราเลือก เราจ่ายเอง ไม่เกี่ยวกะคนอื่น

ถ้ามีใครว่าอีกก็แนะนำนะครับว่าพูดไปว่า "เงินเรา สิทธิเรา รสนิยมเรา เราใช้ เราเลือก เราจ่ายเอง ไม่เกี่ยวกะคนอื่น"
แล้วจะได้ไม่ต้องสนใจอะไรอีก อยากทำอะไรทำครับ
ไม่แน่ ไอ้รถใหญ่ๆที่ใครๆว่าไม่ชอบ วันนึงถ้าราคามันถูก หรือมีความจำเป็น คุณเองอาจต้องซื้อก็ได้
แล้วอาจมีคนมาพูดว่า "รถเล็กดีกว่า สวยกว่า เร็วกว่า ถูกกว่า ประหยัดกว่า หาที่จอดง่ายกว่า" ใส่คุณก็ได้


อีกอย่าง รสนิยมการใช้รถนี่มันแล้วแต่ประเทศนะครับ
ยุโรป ชอบรถเล็กๆ เล็กจัดๆ ไม่มีเหตุผล -> ผิดตรงไหน
ญี่ปุ่น ชอบใช้รถสีขาว ไม่มีเหตุผล -> ผิดตรงไหน
จีน ชอบใช้รถยุโรป ไม่มีเหตุผล -> ผิดตรงไหน
ไทย ชอบรถใหญ่ๆ ไม่มีเหตุผล -> ผิดตรงไหน
ประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศ ชอบเอารถจากประเทศเราไปใช้แบบไม่ได้ยืมและไม่คืน ไม่มีเหตุผล -> โคตรผิด

ใครจะใช้รถแบบไหน ไม่เกี่ยวกับเราครับ
ผมอยากลอง Mustang GT / Camaro / Dodge Challenger
แต่คนไทยไม่นอยม + ราคาเกินไปสำหรับรถอเมริกัน แล้วผมไม่เห็นบ่นเลยว่า เห็นใจบริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถ Muscle Car

 จริงไหม๊?
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื$
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:53:03


 จริงไหม๊?


ก็ใช่ ใครจะใช้อะไรก็ใช้ไปนะคับ ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:55:09
มันก็สรุปง่ายๆ ว่า

รสนิยมการใช้รถ ของคนแต่ละประเทศ ในแต่ละช่วงเวลา ไม่เหมือนกัน จบ!

แต่ก็นะ ถ้าคุณเป็นคนส่วนน้อย มันก็ไม่แปลกที่คุณจะหงุดหงิด

ยกตัวอย่าง เวลาที่ผมเห็นคนกินก๋วยเตี๋ยว แล้วสาดเครื่องปรุงลงไปเป็นกำๆ ผมโคตรหงุดหงิดเลย เถ้าแก่เขาตุ๋นน้ำซุปแทบตาย แต่ไอ้พวกติดรสเครื่องปรุง ดันสาดลงไปแบบกะให้กลบรถน้ำซุปทีเขาต้มมาไปซะอย่างนั้น เห็นแล้วหัวเสียจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเงินเขา สิทธิ์ของเขา ก็เข้าใจว่าคนไทยส่วนมาก วัดความอร่อยกันที่ปริมาณเครื่องกับสมุนไพร แต่มันก็มีอาหารหลายๆ อย่าง ที่เขากินกันที่คุณภาพของวัตถุดิบเหมือนกัน

กลับมาเรื่องรถ ผมว่าหลายๆ คนในนี้ รวมตัวผมเองด้วย เห็นรสนิยมการใช้รถในหลายๆ ประเทศ อย่างในยุโรป หรือญี่ปุ่น เห็นเขาใช้รถเล็กๆ แล้วประหยัดน้ำมัน แล้วอิจฉา แต่ก็อย่างว่าแหละ รสนิยมจากต่างประเทศ กับในประเทศ มันเทียบกันไม่ได้ เพราะวัฒนธรรมการใช้รถมันต่างกัน รถบ้านเรามันแพงมาก ดังนั้นรถจึงต้องเป็นเครื่องมือแสดงสถานะทางสังคมด้วย

แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ สิงหาคม 10, 2011, 16:58:16
ข้อคิดกระทู้นี้ Many People. Many Lifestyle. ครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ สิงหาคม 10, 2011, 17:00:50
แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D

อ้าวมาพูดแบบนี้

หงุดเงี้ยวบ่อยเหรอครับ หา?

คือผมก็บ่อยเหมือนกัน แฮ่ๆ ;D

แบบว่า.................. ปกติใช้บริการที่ไหนครับ และพอมีตัวเด็ดๆแนะนำไหม๊ PMมาเล้ย (จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป)

5555555555555+

ปล. ขอโทษทีครับ รู้สึดตัว "จริงไหม๊?" มันตัวใหญ่ ดูรุนแรงไปหน่อย แก้แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 17:09:25
แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D

อ้าวมาพูดแบบนี้

หงุดเงี้ยวบ่อยเหรอครับ หา?

คือผมก็บ่อยเหมือนกัน แฮ่ๆ ;D

แบบว่า.................. ปกติใช้บริการที่ไหนครับ และพอมีตัวเด็ดๆแนะนำไหม๊ PMมาเล้ย (จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป)

5555555555555+

ปล. ขอโทษทีครับ รู้สึดตัว "จริงไหม๊?" มันตัวใหญ่ ดูรุนแรงไปหน่อย แก้แล้วนะครับ

ไม่มีที่ทางประจำหรอกครับ เหอๆ

ยุติๆ เดี๋ยวโดนแบน
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Zardus ที่ สิงหาคม 10, 2011, 17:11:05
แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D
ไม่มีที่ทางประจำหรอกครับ เหอๆ

ยุติๆ เดี๋ยวโดนแบน
[/quote]

อุ๊บส์ ขออภัยครับ
ลืมไป ว่าไม่ใช่ BLV
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: civicferio ที่ สิงหาคม 10, 2011, 17:11:44
รสนิยมคนมันไม่เหมือนกันค่ะ ริงโกะก็ออกตัวว่าเป็นชนกลุ่มน้อย ชอบรถรุ่นถูก มากกว่าแต่ขอมีอะไรพื้นฐาน เช่นพวงมาลัยเพาเวอร์ก็พอ ถ้าสมัยนั้น ซืตี้ ไทปซ๊ รุ่น Lxi auto ริงโกะก็เอาค่ะ แบบว่า สมัยนั้นออกมาได้โดนมาก บางอย่างไม่ได้ใช้บ่อยๆจะไม่กังวลในระยะยาวค่ะ เพราะรถใช้นานแร่ๆ เงินไม่ใช่บาทสองบาท ไหนค่าน้ำมัน ค่าดูแลอีก
รสนิยมคนไทยจะมีการใช้รถเพื่อบ่งบอกฐานะเป็นหลักคะ  ยิ่งถ้าคนเชื่อถือกับรถที่ใช้มากเท่าไรยิ่งดี ทั้งที่ความเป็นจริงนานๆวิ่งทีค่ะ คนส่วนน้อยจะหารถตรงใจคนขับ แล้วใช้คุ้มค่ะ
จากความเห็นคนเคยขับ civic eg ex &jazz 1.5s at ค่ะ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: burutrad ที่ สิงหาคม 10, 2011, 17:14:41
 เพื่อนผมใช้น้องมีนาอยู่ไม่เห็นคนรอบข้างจะมีทัศนคติไม่ดีอะไรเลยครับอย่าคิดมากครับเราขับแล้วสบายใจก็อย่าไปใส่ใจคนอื่นมากนักเลยครับ... ;) ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: CRO ที่ สิงหาคม 10, 2011, 18:01:45
จขท. อย่ากังวลไปเลยครับพี่ที่ทำงานผมขับ  Accord 2.4 top อยู่ดีๆ ขายไปซื้อน้องมีนามาขับซะงั้น แกบอกว่าประหยัดดี ไป ตจว ก็เช่ารถตู้ VIP ไป เิงนแกก็มีเยอะแยะ แถมยังบอกอีกว่าจะซื้อบริโอ้ให้แฟนขับอีก ^^'

หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: bigglives ที่ สิงหาคม 10, 2011, 18:16:37
ขึ้นอยู่กับ Lifestyle ของแต่ละคนมากกว่า

ผมก็ใช้มาร์ชมากำลังจะครบ 2 เดือนแล้วประทับใจมันทุกอย่าง ไม่ต้องแรงก็ได้ แต่ผมใช้ชีวิตในเมืองส่วนใหญ่ความคล่องตัวสำคัญมาก และประกอบกับพึ่งทำงานได้จะปีนึงก็ยังไม่อยากสร้างรายจ่ายมากมาย

แต่ไม่แน่ อนาคต อาจจะเปลี่ยนไปซื้อรถใหญ่ขึ้นก็ได้ แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  ;D
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ สิงหาคม 10, 2011, 18:53:21
ผมว่ามันอยู่ที่ชนชั้นของแบนรด์และราคามากกว่าครับ ถ้าอยากรู้ว่าคนไทยมีทัศนคติ ต่อรถเล็กยังไง รอ BMW ปล่อย พรีเมี่ยมอีโคคาร์(i3) ออกมาก่อนและทำตลาดในไทยก็รู้ครับ ว่าพวกเขาเหล่านั้นคิดยังไง
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: mini_freak ที่ สิงหาคม 10, 2011, 19:11:40
แปลกครับ ทำไมที่บ้านผมเคยมีมินิรุ่นเก๋า (เครื่องยังแค่ 850 ซีซี ไม่ก็จุมากสุดก็ 1275 ซีซี) ทำไมไม่เห็นโดยเหยียดหยามล่ะ?
แต่อย่าไปคิดว่าราคามันถูกนะ แพงระดับออกเงินซื้อรถใหม่ได้คันนึงเลย

ยิ่งเฟียต 500 รุ่นเก่านี่ แล้วใหญ่นา

ผมว่า มันอาจจะเป็นค่านิยมพิลึกๆ แต่ปลูกฝังด้วยแรงกระแสสังคมมาก็ได้ครับ

รถเรา เงินเรา ไม่ใช่รถเขา ไม่ใช่เงินเขาครับ เราเลือกที่จะซื้อมาดูแล อย่าไปว้าวุ่นกับรอบข้างครับ ขับไปอย่างมีความสุขกับรถเล็กๆ หาที่จอดง่าย ขับก็คล่อง อาจจะดีกว่ารถใหญ่ๆ แต่หาที่จอดยาก ก็ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: loading ที่ สิงหาคม 10, 2011, 21:13:44
อัันนี้มันแล้วแต่คนมองนะท่าน  ก่อนจะซื้อรถผมเชื่อว่าทุกคนคงหารถที่เหมาะสมกะตัวเอง เช่น พวก option ที่มากะรถ

การที่เห็นรถที่เล็กกว่าเป็นรถกระป๋องไหม เกะกะเราไหม ตรงนั้นอยู่ที่คนใจร้อนใจเย็นนะวินาทีนั้นๆ

รถกระป๋องก็ชนรถ  B  C  D  sagment ของคุณตายคารถได้ครับ

ดังคติที่ว่า  งูพิษตัวเล็กๆ  ก็กัดช้างตายได้
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: BestHuafoo ที่ สิงหาคม 10, 2011, 22:04:17

ข้อ 1 2 4 เคยโดน


เลยเอา แจ็ส i-DSI ไปเชียงใหม่ ขึ้นดอยอินทนนท์ ดอยสุเทพ ตำหนักภูพิงค์
หลังจากนั้นเงียบกันเป็นแถว 555555+
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ สิงหาคม 10, 2011, 22:08:00
คนไทยยังคงขาดความรุ้เรื่องยานยนต์และเลือกที่จะเชื่อเพื่อนย้านมากกว่าผลทดสอบขับครับ มันเป็นลักษณะของคนไทยที่ชอบฟังแต่เสียงส่วนใหญ่หรือคนใกล้ตัวมากกว่า คนไทยเลยชอบเหมารวมว่าโตโยต้าฮอนด้าเป้นของดีเพราะมันมีเยอะบนถนน  :P

แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ค่านิยมที่ซื้อรถต้องโตโยต้าฮอนด้าเท่านั้นกำลังหมดอายุล้มหายตายจากไปเรื่อยๆแล้วครับ สมัยนี้คนมีกำลังซ์อรถคือคนยุคใหม่ที่เปิดใจมองเรื่องคุณภาพมากกว่าที่จะยึดติดกับยี่ห้อตลาด การที่ฟอร์ด มาสด้า นิสสัน กำลังโตเอาๆในตอนนี้เป็นข้อบ่งชี้ได้อย่างดี ในอนาคตรถแต่ละค่ายจะเข็นเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาอีกมาก ข้อแตกต่างระหว่างยี่ห้อจะยิ่งลดลงอีกมาก ทีนี้จุดเด่นที่เจ้าตลาดทั้งสองมีจะโดนแทนจืดจางลง สิ่งที่คนซื้อมุ่งไปหาคือรูปลักษณ์และความคุ้มค่า ซึ่งเป็นจุดด้อยที่ยี่ห้อเจ้าตลาดไม่มีและยังคงไม่มีต่อไปเพราะยังลำพองกับความสำเร็จในอดีตอยู่ โอกาสที่อันดับหนึ่งด้านยอดขายจะผลัดมือกันมีอสูงมาก

เรื่องของการดูถูกขนาดความจุในรถที่เล็กนั้นก็เป็นลักษณะหนึ่งของคนไทยอีกล่ะที่มักจะตัดสินเอาจากขนาดและตัวเลขและละเลยที่จะมองดูจากการใช้งานจริง ผมเชื่อว่าคงจะเคยเห็นกันบ่อยๆคนที่ชอบพูดว่า 320D 520D ไม่น่าใช้เพราะเป็นเครื่องดีเซลเสียงดัง แต่ตัวเองนั้นไม่มีปัญญาที่จะหาซื้อเป็นเจ้าของได้เลย เข้าข่ายคนบ่นไม่ซื้อคนซื้อไม่บ่น แต่แนวคิดแบบนี้ก็จะล้มหายตายจากไปเองเพราะข้อดีของเก๋งดีเซลมันมีมากมายและนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเค้าจะยึดติดกับรถเก๋งแล้วปล่อยให้รถดีเซลล้ำหน้าเกินไปหลายขั้นก็ช่างเค้าเถอะ  ในอนาคตคนที่ยึดติดกับความจุเครื่องก็จะอยู่ลำบากเพราะเทคโนโลยีกำลังหันมาในทางที่ลดขนาดเครื่องลงแล้วเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น อยากรู้เหมือนกันว่าพวกนี้จะทำยังไงเมื่อ BMW จะมีแต่เครื่อง 1600 2000 เท่านั้นโดยที่ไม่รุ้ว่าเทอร์โบที่ใส่มาให้มันมีดียังไง  ;D
เห็นด้วยครับ ยกเว้นรูปลักษณ์ ผมว่า พี่ to กับ Hon ก็ไม่ได้แย่นะ แต่เรื่องวัสดุและ option นิเห็นด้วยอย่างแรง เช่น accord ระบบ keyless ยังไม่มีเลย
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: gorilla ที่ สิงหาคม 10, 2011, 23:10:45
มันก็สรุปง่ายๆ ว่า

รสนิยมการใช้รถ ของคนแต่ละประเทศ ในแต่ละช่วงเวลา ไม่เหมือนกัน จบ!

แต่ก็นะ ถ้าคุณเป็นคนส่วนน้อย มันก็ไม่แปลกที่คุณจะหงุดหงิด

ยกตัวอย่าง เวลาที่ผมเห็นคนกินก๋วยเตี๋ยว แล้วสาดเครื่องปรุงลงไปเป็นกำๆ ผมโคตรหงุดหงิดเลย เถ้าแก่เขาตุ๋นน้ำซุปแทบตาย แต่ไอ้พวกติดรสเครื่องปรุง ดันสาดลงไปแบบกะให้กลบรถน้ำซุปทีเขาต้มมาไปซะอย่างนั้น เห็นแล้วหัวเสียจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเงินเขา สิทธิ์ของเขา ก็เข้าใจว่าคนไทยส่วนมาก วัดความอร่อยกันที่ปริมาณเครื่องกับสมุนไพร แต่มันก็มีอาหารหลายๆ อย่าง ที่เขากินกันที่คุณภาพของวัตถุดิบเหมือนกัน

กลับมาเรื่องรถ ผมว่าหลายๆ คนในนี้ รวมตัวผมเองด้วย เห็นรสนิยมการใช้รถในหลายๆ ประเทศ อย่างในยุโรป หรือญี่ปุ่น เห็นเขาใช้รถเล็กๆ แล้วประหยัดน้ำมัน แล้วอิจฉา แต่ก็อย่างว่าแหละ รสนิยมจากต่างประเทศ กับในประเทศ มันเทียบกันไม่ได้ เพราะวัฒนธรรมการใช้รถมันต่างกัน รถบ้านเรามันแพงมาก ดังนั้นรถจึงต้องเป็นเครื่องมือแสดงสถานะทางสังคมด้วย

แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D

ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวแบบไม่ปรุงครับ  มีแต่คนชอบถามว่าไม่ปรุงเหรอ

ผมบอกว่าผมชอบแบบเดิมๆ อยากรู้ว่ามันอร่อยหรือเปล่า ถ้าเราปรุงมันก็ไม่ใช่แล้ว  สรุป มีแต่คนหาว่าผมแปลก แล้วทิ้งท้ายด้วยประโยคว่า "แล้วมันจะอร่อยเหรอ?" ผมก็คิดในใจ "ไอ้ที่ปรุงๆกันเนี่ย มันจะไปรู้รสชาติที่แท้จริงได้อย่างไร แล้วจะพูดได้ไงว่ามันอร่อยจริงๆ"

ส่วนเรื่องรถ ผมก็ตามใจตัวเองนี่แหละ ชอบแบบไหนก็ซื้อแบบนั้น ไม่เคยแคร์สื่ออยู่แล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม   ;D ;D ;D

ปล. ผมสามเสนรุ่น 46 ครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 23:13:31
มันก็สรุปง่ายๆ ว่า

รสนิยมการใช้รถ ของคนแต่ละประเทศ ในแต่ละช่วงเวลา ไม่เหมือนกัน จบ!

แต่ก็นะ ถ้าคุณเป็นคนส่วนน้อย มันก็ไม่แปลกที่คุณจะหงุดหงิด

ยกตัวอย่าง เวลาที่ผมเห็นคนกินก๋วยเตี๋ยว แล้วสาดเครื่องปรุงลงไปเป็นกำๆ ผมโคตรหงุดหงิดเลย เถ้าแก่เขาตุ๋นน้ำซุปแทบตาย แต่ไอ้พวกติดรสเครื่องปรุง ดันสาดลงไปแบบกะให้กลบรถน้ำซุปทีเขาต้มมาไปซะอย่างนั้น เห็นแล้วหัวเสียจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเงินเขา สิทธิ์ของเขา ก็เข้าใจว่าคนไทยส่วนมาก วัดความอร่อยกันที่ปริมาณเครื่องกับสมุนไพร แต่มันก็มีอาหารหลายๆ อย่าง ที่เขากินกันที่คุณภาพของวัตถุดิบเหมือนกัน

กลับมาเรื่องรถ ผมว่าหลายๆ คนในนี้ รวมตัวผมเองด้วย เห็นรสนิยมการใช้รถในหลายๆ ประเทศ อย่างในยุโรป หรือญี่ปุ่น เห็นเขาใช้รถเล็กๆ แล้วประหยัดน้ำมัน แล้วอิจฉา แต่ก็อย่างว่าแหละ รสนิยมจากต่างประเทศ กับในประเทศ มันเทียบกันไม่ได้ เพราะวัฒนธรรมการใช้รถมันต่างกัน รถบ้านเรามันแพงมาก ดังนั้นรถจึงต้องเป็นเครื่องมือแสดงสถานะทางสังคมด้วย

แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D

ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวแบบไม่ปรุงครับ  มีแต่คนชอบถามว่าไม่ปรุงเหรอ

ผมบอกว่าผมชอบแบบเดิมๆ อยากรู้ว่ามันอร่อยหรือเปล่า ถ้าเราปรุงมันก็ไม่ใช่แล้ว  สรุป มีแต่คนหาว่าผมแปลก แล้วทิ้งท้ายด้วยประโยคว่า "แล้วมันจะอร่อยเหรอ?" ผมก็คิดในใจ "ไอ้ที่ปรุงๆกันเนี่ย มันจะไปรู้รสชาติที่แท้จริงได้อย่างไร แล้วจะพูดได้ไงว่ามันอร่อยจริงๆ"

ส่วนเรื่องรถ ผมก็ตามใจตัวเองนี่แหละ ชอบแบบไหนก็ซื้อแบบนั้น ไม่เคยแคร์สื่ออยู่แล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม   ;D ;D ;D

ปล. ผมสามเสนรุ่น 46 ครับ

เอ ผมก็ไม่รู้ตัวเองรุ่นไหน แต่รหัสขึ้นด้วย 35 น่ะครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: gorilla ที่ สิงหาคม 10, 2011, 23:17:33
มันก็สรุปง่ายๆ ว่า

รสนิยมการใช้รถ ของคนแต่ละประเทศ ในแต่ละช่วงเวลา ไม่เหมือนกัน จบ!

แต่ก็นะ ถ้าคุณเป็นคนส่วนน้อย มันก็ไม่แปลกที่คุณจะหงุดหงิด

ยกตัวอย่าง เวลาที่ผมเห็นคนกินก๋วยเตี๋ยว แล้วสาดเครื่องปรุงลงไปเป็นกำๆ ผมโคตรหงุดหงิดเลย เถ้าแก่เขาตุ๋นน้ำซุปแทบตาย แต่ไอ้พวกติดรสเครื่องปรุง ดันสาดลงไปแบบกะให้กลบรถน้ำซุปทีเขาต้มมาไปซะอย่างนั้น เห็นแล้วหัวเสียจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเงินเขา สิทธิ์ของเขา ก็เข้าใจว่าคนไทยส่วนมาก วัดความอร่อยกันที่ปริมาณเครื่องกับสมุนไพร แต่มันก็มีอาหารหลายๆ อย่าง ที่เขากินกันที่คุณภาพของวัตถุดิบเหมือนกัน

กลับมาเรื่องรถ ผมว่าหลายๆ คนในนี้ รวมตัวผมเองด้วย เห็นรสนิยมการใช้รถในหลายๆ ประเทศ อย่างในยุโรป หรือญี่ปุ่น เห็นเขาใช้รถเล็กๆ แล้วประหยัดน้ำมัน แล้วอิจฉา แต่ก็อย่างว่าแหละ รสนิยมจากต่างประเทศ กับในประเทศ มันเทียบกันไม่ได้ เพราะวัฒนธรรมการใช้รถมันต่างกัน รถบ้านเรามันแพงมาก ดังนั้นรถจึงต้องเป็นเครื่องมือแสดงสถานะทางสังคมด้วย

แต่ก็เอาน่ะ คนเราไม่ผิดหรอกที่จะหงุดหงิด หงุดเงี้ยว  ;D

ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวแบบไม่ปรุงครับ  มีแต่คนชอบถามว่าไม่ปรุงเหรอ

ผมบอกว่าผมชอบแบบเดิมๆ อยากรู้ว่ามันอร่อยหรือเปล่า ถ้าเราปรุงมันก็ไม่ใช่แล้ว  สรุป มีแต่คนหาว่าผมแปลก แล้วทิ้งท้ายด้วยประโยคว่า "แล้วมันจะอร่อยเหรอ?" ผมก็คิดในใจ "ไอ้ที่ปรุงๆกันเนี่ย มันจะไปรู้รสชาติที่แท้จริงได้อย่างไร แล้วจะพูดได้ไงว่ามันอร่อยจริงๆ"

ส่วนเรื่องรถ ผมก็ตามใจตัวเองนี่แหละ ชอบแบบไหนก็ซื้อแบบนั้น ไม่เคยแคร์สื่ออยู่แล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม   ;D ;D ;D

ปล. ผมสามเสนรุ่น 46 ครับ

เอ ผมก็ไม่รู้ตัวเองรุ่นไหน แต่รหัสขึ้นด้วย 35 น่ะครับ

สงสัยผมจะเป็นรุ่นพี่

รหัสผม 32238
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: สมาชิกคนที่2455 ที่ สิงหาคม 11, 2011, 00:05:40
รถก็เหมือนแฟนล่ะครับ ไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา ใครจะกล่าว จะว่าอย่างไร ยังไงเราก็รักของเรา

หรือง่ายๆ ถ้าหมดรักแล้วก็เลิกกัน แค่นั้น

กด like 10 ที

กด No like 1 ที เพราะยังมีแฟนเก่าของแฟนที่เคยรู้ดีเท่าเรา แถมก่อนเราซะด้วย  :o
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: yod artstu ที่ สิงหาคม 11, 2011, 00:40:15
ผมอยากได้ K-Car เสียด้วยซ้ำไป
พอดีบ้านอยู่ย่านกลางเมือง แต่ต้องเข้าซอยลึกครึ่งกิโล
ไม่มีรถเมล์ผ่านปากซอย ห่างรถไฟฟ้า เกือบสองกิโล
เลยต้องขับรถ เพราะต้องหอบหนังสือไปทำงาน

ขับวันๆนึงก็ไม่เกิน 8 กิโลไปกลับ ย่านกลางเมือง
สยาม อนุสาวรีย์ชัยฯ อยากได้ K-Car มากๆๆๆๆ

สภาพการจราจรแบบนี้ ออกตรงชั่วโมงเร่งด่่วน
หรือออกจากบ้านสาย ผ่านหน้าตึกอุ๊ แยกพญาไท
ตอนเปลี่ยนรอบเรียนพิเศษ (10:00-10:30) วันเสาร์
ติดบรรลัย vios ผมเล่นไป 6 กิโลลิตรครับ !  ;D

รถของ จขกท. OK อยู่แล้วครับ ไม่ต้องสนใจเสียงรอบข้าง
เราซื้อ เพราะเราชอบ และรถมันก็ตอบโจทย์ความต้องการของเรา
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ สิงหาคม 11, 2011, 07:59:36
ไหนๆ จะมองต่ำแล้ว ขับตุ๊ก ตุ๊ก แม่ม ไปเลย..
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:05:42
เอะอะ อะไรก็ รถกระป๊อ ซูบารุทุกที เอายี่ห้ออื่นได้มั๊ยครับ เบื่อจริงๆเลยเนี่ย


จะsizeเล็กใหญ่มันไม่สำคัญหรอกครับ มันอยู่ที่ลีลาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:07:16
เอะอะ อะไรก็ รถกระป๊อ ซูบารุทุกที เอายี่ห้ออื่นได้มั๊ยครับ เบื่อจริงๆเลยเนี่ย


จะเล็กใหญ่มันไม่สำคัญหรอกครับ มันอยู่ที่ลีลาาาาาาา

ใช่พี่ เรียกซูบารุนี่ เบื่อมากๆเลย

ได้ยินทีไรแสลงหูทุกที

รถซูบารุ สำหรับผมไม่ใช้รถกะป้อเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:23:02
เอะอะ อะไรก็ รถกระป๊อ ซูบารุทุกที เอายี่ห้ออื่นได้มั๊ยครับ เบื่อจริงๆเลยเนี่ย

ซูบารุโวย 5555
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: kritcc ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:27:06
การที่บริษัทรถ เลือกผลิตรถขนาดที่ผู้บริโภคต้องการ ก้อถูกต้องแล้วนี่ครับ Win-Win ทั้งสองฝ่าย

ถ้าจะสงสาร ควรสงสารคนซื้อรถมากกว่าที่ซื้อรถแพงเพราะภาษีรถยนต์เมืองไทยเยอะ รถเลยแพง แล้วก็ไม่แน่ใจว่าเงินภาษีนั้นกลับมาพัฒนาบ้านเมืองครบหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: Cross MPV ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:32:37
โดนใจเรื่องก๋วยเตี๋ยวครับ
ปกติผมไม่นิยมปรุงอะไรเลยเหมือนกันครับ ยกเว้นพริก เพราะอยากได้ความเผ็ดนอกนั้นก็จัดเลย
ส่วนเรื่องปรุง ผมเห็นบางคนเขายกชามมาตั้ง ยังไม่ได้ชิมก็ปรุงๆๆๆๆๆ เสียละ ทั้งๆที่ยังไม่ได้รู้เลยว่ารสเขาจะเปรี้ยว หวานหรือเค็ม
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:52:50
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี  
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ  



ผมก็เป็นไดโนเสาร์สำหรับคุณน่ะสิครับ ? 555

รถผมบางคันเป็น Keyless มาตั้งหลายปีแล้วครับ บอกตรง ๆ ไม่ประทับใจเพราะเวลามันพัง มีปัญหาขึ้นมากับระบบสตาร์ทไร้สาย ลากอย่างเดียวครับ

แล้วเซนเซอร์ถอย อันนี้ผมชอบนะ แต่ไม่ควรให้ศูนย์ติดมาให้ เพราะเขาคิดค่าติดแพงจัง ติดเอง 800 บาท จบ

แอร์ออโต้ ผมก็ใช้มานาน พอดูจะรู้ว่า สุดท้าย ไอ้ปุ่ม AUTO น่ะ ไม่ได้กดมันหรอก ผมจะปรับพัดลม หรือ ความเย็นคอมเพรสเซอร์เองอยู่ดีนั่นแหละ เพราะ AUTO กับเมืองไทย มันน่ารำคาญไปหน่อย เดี๋ยวพัดลมก็แรง เสียงดังขึ้นมาอย่างนั้น เดี๋ยวลมออกช่องกระจกบ้างฝ้าขึ้นอีก เดี่ยวเป่าขาจนเท้าเย็น อะไรพวกนี้น่ะครับ


หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ สิงหาคม 11, 2011, 09:54:53
รถเล็ก เค้าออกแบบมาเผื่อวิ่งระยะทางสั้นๆ หรือที่รถติดๆ

แต่คนไทยจะซื้อแล้วใช้มันทุกอย่าง ใช้ผิดประเภท ดูอย่างโฆษณาสิครับ พี่เคนจะขับไปทะเล ซึ่งผมว่ามันใช้ผิดประเภท

ที่ผมพูดเพราะ ผมเห็นรถเล็กๆ แต่ไปเดินทางไกลบ่อยๆ มันจะไม่แปลกเลยถ้าคุณขับอยุ่เลนกลางหรือมีมารยาทเห้นรถเร็วแล้วชิดซ้ายให้

แต่ที่ผมเจอคือ รถ Eco car ขับแช่ขวาทางโล่งๆ อยุ๋แค่ 100-120 เกือบทุกครั้ง แล้วพริบไฟสูงให้ก็ไม่หลบให้ มันอันตรายมากนะครับ ถ้าโดนชน

รถเล็กต่อให้ทำมาปลอดภัยยังไงก็รอดยากกว่ารถใหญ่นะครับ เตือนด้วยคาวมหวังดีนะครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 11, 2011, 10:03:26
เอะอะ อะไรก็ รถกระป๊อ ซูบารุทุกที เอายี่ห้ออื่นได้มั๊ยครับ เบื่อจริงๆเลยเนี่ย


จะsizeเล็กใหญ่มันไม่สำคัญหรอกครับ มันอยู่ที่ลีลาาาาาาา

วันหลัง ดริฟท์ใส่หน้ามันเลย เอาให้หงาย อิอิ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 11, 2011, 10:10:54
เคยเจอประมาณว่า ออฟชั่น พวก  Keyless  Auto-air  เซนเซอร์หลัง ให้มาทำไมไร้สาระ ทั้งนั้น
ผมก็นึกในใจ  ไดโนเสาร์พวกนี้ไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆเลยแฮะ  เค้าอุตส่าห์ใส่มาให้ ดันไปตำหนิเค้า เวรกำจิงๆ
สงสัยอยากจะใช้รถแบบเดิมๆกันไปอีก 30-50 ปี  
ชีวิตมันสั้นนัก หาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้างเถอะ  



ผมก็เป็นไดโนเสาร์สำหรับคุณน่ะสิครับ ? 555

รถผมบางคันเป็น Keyless มาตั้งหลายปีแล้วครับ บอกตรง ๆ ไม่ประทับใจเพราะเวลามันพัง มีปัญหาขึ้นมากับระบบสตาร์ทไร้สาย ลากอย่างเดียวครับ

แล้วเซนเซอร์ถอย อันนี้ผมชอบนะ แต่ไม่ควรให้ศูนย์ติดมาให้ เพราะเขาคิดค่าติดแพงจัง ติดเอง 800 บาท จบ

แอร์ออโต้ ผมก็ใช้มานาน พอดูจะรู้ว่า สุดท้าย ไอ้ปุ่ม AUTO น่ะ ไม่ได้กดมันหรอก ผมจะปรับพัดลม หรือ ความเย็นคอมเพรสเซอร์เองอยู่ดีนั่นแหละ เพราะ AUTO กับเมืองไทย มันน่ารำคาญไปหน่อย เดี๋ยวพัดลมก็แรง เสียงดังขึ้นมาอย่างนั้น เดี๋ยวลมออกช่องกระจกบ้างฝ้าขึ้นอีก เดี่ยวเป่าขาจนเท้าเย็น อะไรพวกนี้น่ะครับ




คล้ายๆผมเลย ;)
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ สิงหาคม 11, 2011, 10:56:37
อย่าคิดแทนคนอื่นดีกว่าครับ อยากคิดอะไรก็คิดไป ใส่ใจมากก็น่าเบื่อเตือนๆมาก็ฟังๆไว้ สนใจก็เอาไปคิด ไม่สนก็ปล่อยผ่าน
เอะอะอะไรก็รถเล็กไม่ดี แล้วเคยถามว่ารถใหญ่มันดีกว่ารถเล็กยังงัย ชนซัก 120 เหมือนกัน มันก็ไม่รอดเหมือนกัน
เห็นรถใหญ่ทีไรแม่มนั่งแค่คนเดียวตลอด ขับในเมืองก็เหมือนกัน รถใหญ่ยาว 5 ม. รถเล็ก 3.5 สามคันรวมกันได้ถนนเพิ่มอีกคัน


อย่ามีทัศนคติด้านลบก่อนที่จะทำอะไรเลยครับ อย่ามองคนอื่นที่ความคิดไม่เหมือนเราว่าเป็นคนคิดแปลก เพราะถ้าเค้าหันมามองท่าน
เค้าคงก็คิดว่าท่านแปลกเหมือนกัน

รถมันยังราคาแพงซื้อได้ที่ละคัน คนที่ผ่อนก็ภูมิใจว่าเป็นเจ้าของรถ กำลังทรัพย์มันมีแค่นี้จะให้เอาใหญ่ก็ไม่ไหว
ถ้าเป็นมือถือก็ว่าไปอย่าง ไม่กี่พัน ยันเป็นหมื่น ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น
ง่ายกว่าที่จะมาคิดว่ารถกรูดีกว่ามึงเพราะใหญ่กว่า หรือรถก็ดีกว่าึมึงที่เล็กกว่า บลาๆๆๆๆ

สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความเป็นทาสวัตถุอยู่ดี
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ สิงหาคม 11, 2011, 11:14:02
ถูกใจเรื่องก๋วยเตี๋ยว ผมก็ไม่ค่อยชอบปรุง จะสั่งเอาน้ำซุปเยอะๆเป็นประจำ ซดหมดถ้วยทุกที บางเจ้าที่สนิทกัน (ชายสี่) ก็ขอเพิ่มน้ำซุปอีกถ้วยเลยพี่เค้าก็แถมกระดูกกะหัวไชเท้าที่ใช้ต้มน้ำซุปให้ทุกที ซดน้ำซุปเปล่าๆโดยไม่ปรุงเนี่ยผมว่าอร่อยที่สุดแล้ว แต่ถ้ากินส้มตำต้องเผ็ดแซ่บเท่านั้น

เรื่องรถก็ว่ากันตามรสนิยมเถอะครับ ขอแค่มีปัญญาซื้อโดยไม่เดือดร้อนก็พอแล้ว ไม่ใช่มีเงินเดือนอันน้อยนิดแต่ออกฟอร์จูนเนอร์มันก็เกินตัว พอเพียงกันดีกว่า
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ สิงหาคม 11, 2011, 14:59:12
ตามความชอบและสถานภาพทางการเงินละกันครับ  :D
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: BaSkInElItEgUyS ที่ สิงหาคม 11, 2011, 20:04:35
ผมหละเบื่อพวกชอบแบ่งชนชั้นซะจริง ประมาณว่าคนรวยที่ใช้รถแพง คนจนใช้แต่รถถูก ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ใช่เสมอไปหรอก คนรวยอาจจะอยากใช้รถที่ราคาไม่แพงก็ได้
สังคมไทยเป็นแบบนี้ สืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่น การจะปรับเปลี่ยนเจตคติของคนนั้นยากยิ่งกว่าล้างคาบไคลที่ติดตามซอกผนังห้องน้ำซะอีกครับ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: jiraiyax ที่ สิงหาคม 11, 2011, 21:12:24
นิสัยคนไทยชอบมองกันที่วัตถุครับ ขวนขวายอยากได้ใคร่มีกัน ผมเห็นบางคนซื้อรถยนต์มาจะขับไปไหนไกลหรือก็เปล่า ขอแค่มีไว้เชิดหน้ชูตาไปก่อน
เงินก็ไม่ค่อยจะพอใช้ ส่วนตัวผมขี่มอ'ไซค์ ชิลๆ เขาก็ถามผมว่าทำไมไม่ซื้อรถยนต์ ผมตอบว่า มันไม่ค่อยจำเป็นสำหรับผมสักเท่าไร ถ้าซื้อมาแล้วเงินผมไม่พอใช้ต้องลำบาก อยากกินอะไรก็ไม่ได้กินอยากซื้ออะไรก็ไม่ได้ซื้อ ผมไม่เอาดีกว่า เคยเห็นกันไหมครับ คนขับอัลติส ยืมเงินคนขี่มอ'ไซค์ใช้ ^_^
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ สิงหาคม 12, 2011, 22:48:50
ก่อนจะบอกว่า คนอื่นแบ่งชนชั้น จะรวยพยายามแบ่งกับจน หรือจนพยายามแบ่งกับรวย

ลองมองก่อนดีมั้ยครับว่า การที่เราครอบครองรถเล็กเล็ก แต่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง
มันมีเรื่องอะไรที่จะทำให้เราต้องมานั่ง สังเกตุสังกาคนอื่นมั้ย ว่าเค้ามองเราในรถของเรายังไงครับ

ผมว่าไม่เห็นจะจำเป็นเลย ตอนคุณขับ AE101 อาจจะมีคนรอบข้างพูดเป็นวรรคเป็นเวรก็ได้
ว่ารถเก่าอายุจะ 20 ปี ยังจะขับอยู่ได้อีก รถรุ่น Taxi Meter อย่างนั้นอย่างนี้ คุณเคยเก็บมาเป็นอารมณ์รึเปล่า
แต่พอขับ March ที่เป็น Eco Car ผมสังเกตุว่าคุณกลับมา Sensitive เรื่องพวกนี้มากขึ้นยังไงก็ไม่ทราบ
จนมันจะกลายเป็นว่า คุณเองจะพยายามชี้ให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างคนที่เป็นเจ้าของรถ Eco Car
และคนที่เป็นเจ้าของรถ Segment อื่นอื่นมากเสียยิ่งกว่าครับ

ผมเรียนตรงตรง คุณชอบ Eco Car คุณอยากได้รถประหยัดน้ำมัน จะ Prius หรืออะไรก็แล้วแต่
คุณมีนิยามคำว่า "คุ้มค่าของเงิน" ในแบบของคุณ และปัจจุบันคุณและครอบครัวก็มีความสุขกับ March มาก
ผมถามหน่อยเถอะครับ ว่าคุณจะกังวลไปทำไมว่าคนรอบข้างเขามองคุณกับรถคุณอย่างไร
เพราะคนเหล่านั้นก็มีความนิยมชมชอบต่างกับคุณ มีนิยามคำว่า "คุ้มค่า" ต่างจากคุณ
แล้วคุณจะต้องไปแบกโลกทั้งโลกไว้ให้ทุกคนคิดเหมือนกันกับคุณเหรอ โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรานะครับ

ผมเรียนตรงตรง ผมเกลียด March เพราะ
1. ผมเป็นคนชอบขับรถเร็ว ผมจึงต้องการรถที่ตอบสนองได้ดี ไม่ใช่แค่วิ่งได้ไปเรื่อยเรื่อย
2. ผมปวดเมื่อยง่าย ผมต้องการรถที่เบาะนั่งสบาย March นั่งแป๊บเดียวก็เมื่อยมาก
3. ผมชอบอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย ผมไม่ชอบรถรุ่นต่ำสุด ถ้าเป็นไปได้ผมซื้อรุ่นท้อปเสมอ
4. ผมชอบเล่นกับโค้ง รถ March เดิมเดิม นุ่มจนยวบยาบ

คำถาม..ถ้าคุณไม่ได้ตรงกับ 4 ข้อที่ผมพูดมาข้างต้น แล้วคุณกับผมจะคิดไม่เหมือนกัน มันก็คงไม่แปลกใช่มั้ยครับ
ถึงผมจะเกลียด March จนไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้ามันขนาดไหน แต่ผมไม่ได้เกลียดคนที่ซื้อมาร์ชมาใช้
หรือผมไม่ได้ดูถูกว่าคนขับมาร์ชเป็นคนจน ไม่มีปัญญาซื้อรถแพงแพงหรือดีกว่านั้น มันไม่เกี่ยวกับตัวบุคคลเลย
ผมแค่ไม่ชอบมาร์ช ไม่ชอบมาก และไม่มีวันจะชอบมันได้ ไม่ว่าใครจะมายกเหตุผลร้อยแปดพันประการก็ตามที เท่านั้นเอง

ปล. ผมจะเกลียดคนขับมาร์ช ก็เฉพาะคนที่ทำกริยามารยาททราม อย่างเช่นที่ผมเพิ่งเคยเจอเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
March E CVT สีเขียว ทะเบียน XX-1264 ไล่จี้ผมบนถนนพระราม 2 แล้วก็ขับมาเบียดเต็มลำ เพราะพยายามจะแซง
จากท้ายรถผม ขึ้นซ้าย แล้วจะมาปาดเข้าหน้าผม แต่ช่องมันแคบ และกำลังรถ March มันขึ้นรถผมไม่ได้
แทนที่ March คันนั้นจะยกคันเร่งแล้วเข้าต่อท้าย กลับหักรถทั้งคันที่วิ่งอยู่ข้างผมแบบเต็มเต็มลำ ไม่มีส่วนไหนล้ำหน้าผมเลย
เข้าหาผมทั้งคัน ประหนึ่งว่าจะเบียดผมให้ตกถนน หรือไม่ก็ทำให้ผมตกใจเบรกหัวทิ่มยอมให้เขาไปก่อน

แต่บังเอิญว่ามันไม่เกิดขึ้นอย่างที่เขาต้องการ หลังจากนั้นก็กระฟัดกระเฟียด บีบคอให้มันวิ่งบี้โปรทีเจผม
ทั้งทั้งที่แค่ผมเดินคันเร่งเกียร์ 5 ก็ยืดระยะห่างได้ไปเป็นสิบช่วงตัวแล้ว พอไปชะลอขับช้าช้าข้างหน้า
มันก็จะไล่มาเทียบข้าง เปิดกระจกตะโกนโหวกเหวก ท้าตีท้าต่อย ให้จอดรถข้างทางแล้วลงมาอัดกันตัวต่อตัว

แบบนี้สิ ที่ผมจะเกลียดตัวบุคคล และไม่ใช่ว่าเป็นเพราะรถมาร์ช เพราะไม่ว่าจะเป็นรถคันไหน ที่ไอ้อีคนประเภทแบบนี้ขับอยู่
ผมก็จะเกลียดมันเข้าไส้ทุกคนเหมือนกัน เข้าใจมั้ยครับ?

แก้ไข เพิ่มเติมส่วนล่าง
ตอนผมออกมาสด้าใหม่ใหม่ มีแต่คนไม่เห็นด้วย บอกว่ารถไม่ได้เรื่อง ศูนย์บริการเฮงซวย ไม่มีอนาคต ไม่มีมูลค่า ขายต่อราคาตก
ผมไม่เห็นจะเก็บมันมาใส่ใจเลยครับ ผมมีความสุขกับรถผมและทุกวันนี้ก็ยังมีความสุขอยู่
ต่อให้ย้อนกลับไปปี 2002 ใหม่อีกครั้ง ผมก็ยังจะซื้อมาสด้าคันนี้เหมือนเดิม

อีกอย่าง ผมพาคนนั่งรถผมสารพัด มีทั้งชอบ เฉยเฉย และไม่ชอบ
แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เงินผมความสุขผม ใครจะมาว่าอะไรได้ จริงจริงเราต้องหัดคิดบวกไว้เสียบ้าง
คนไม่ชอบมาสด้าเยอะเยอะก็ยิ่งดี ศูนย์บริการจะได้คนไม่เยอะ ตื่นสายยังไงไปเข้าศูนย์ก็ซ่อมทันในหนึ่งวัน
นี่ปัจจุบันชักจะเหมือนฮอนด้าเข้าไปทุกที ต้องมีจองคิวล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ ต้องแหกขี้ตาตื่นรีบแจ้นไปศูนย์เพื่อเข้าคิวแรกแรก
ผมก็หาเรื่องคิดด้านบวกของผมไปได้ ถ้าผมเก็บสิ่งไม่ดีที่คนรอบข้างพูดเกี่ยวกับมาสด้าผมมาคิดมาก
วันนี้ผมคงจะเครียดจนเอาไม่อยู่ไปแล้วครับ เพราะนี่ก็ 9 ปีกว่าไปแล้วกับรถคันนี้
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ สิงหาคม 13, 2011, 05:06:38
เนยต้องเข้าใจ คนขับมาร์ชส่วนมากก็วัยรุ่น เพิ่งได้ใบขับขี่ทั้งนั้น แต่สอบเองหรือยัดเงินอันนี้ไม่ทราบ

ขับเลวๆก็เยอะ ขับดีๆ ที่เป็นพ่อหมีอย่างผมก็มีนะ อย่างน้อยๆ ผมขับมาร์ชคงไม่กล้าระรานใคร นัยว่ารถกูเล็ก
เดี๋ยวเบียดกันจะหนักกว่าเขา

ผมว่ามาร์ชมันมีปัญหาเพราะมันเซ็ทติ้งไม่ดี แต่จริงๆตัวรถโอเคนะ นี่จับยัดสปริงโหลดแล้ว ล้อยางเปลี่ยนใหม่แล้ว
ดูดีกว่าเดิมครับ แต่ฟิลลิ่งพวงมาลัยมันเห่ยไปหน่อย  ลองโค้งหักศอกหนักๆ มันก็พออยู่นะ แต่ไปแบบไม่แน่นเลย

มาร์ชตอบโจทย์เรื่องความประหยัด ทั้งน้ำมันและค่าบำรุงรักษา
ส่วนอิมตอบโจทย์เรื่องอารมณ์เป็นหลัก นอกนั้นไม่ค่อยสนใจ

ดีใจที่โรงรถจอดไอ้สองคันนี้พอแบบเบียดๆ
หัวข้อ: Re: เริ่มเข้าใจและเห็นใจ บริษัทรถยนต์ เรื่อง ทัศนคติ ของคนไทยที่มีต่อรถเล็ก
เริ่มหัวข้อโดย: SaLaPaoMan ที่ สิงหาคม 13, 2011, 08:17:14
เมื่อวานกูโดนมาชแซง..