Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Thunder ที่ สิงหาคม 24, 2011, 10:47:49
-
คือเรื่องมันมีอยู่ว่าผมเขาไปเติมแก๊สที่ปั้มแห่งหนึ่งในระหว่างที่รอผมก็เหลือบไปเห็นเด็กปั้มคุยโทรศัพท์ซึ่งนั่งติดกับหัวจายน้ำมันเวลาที่มีรถมาเติมก็จะวางไว้ตรงที่นั่งพอเติมเสร็จก็จะกลับมาคุยใหม่ และผู้มาเติมแก๊สก็คุยโทรศัพท์เช่นกันในระหว่างที่เติมแก๊ส
ทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ อันตรายหรือไม่ หรือว่าเฉยๆ เหตุการแบบนี้ผมเห็นแทบทุกครั้งที่เวลาไปเติมแก๊สหรือน้ำมันที่ปั้มนี้ ผมก็หวั่นๆอยู่เหมือนกันเพราะเคยเห็นคลิปที่มีการคุยโทรศัพท์แบบนี้แล้วก็เกิดไฟไหม้
-
ผมคิดว่าไม่อันตราย เพราะเป็นที่โล่งลมพัดผ่านได้สะดวก
จะอันตรายถ้าเอาโทรศัพท์แบบไฟฉายไปส่องดูน้ำมันที่ถังน้ำมันเลยนะครับ
-
เคยเห็นปั้มในอเมริกา เขาตั้งเสาส่งสัญญาณมือถือ อันใหญ่ๆ ไว้บนหลังคา
ผมก็ว่าไม่น่าจะมีอะไรนะ
-
ดูใน Mega Clever
มือถือไม่เป็นไร แต่ถ้าผ้าขนสัตว์ละก็......
Final destination 5.1 เลยคุณเอ้ยยย
-
ขอบคุณครับผมจะได้หมดกังวลสักที่ ;D
-
คุยแบบนี้อาจจะไม่เห็นไรมั้งครับ
แต่ถ้าเอาจ่อใกล้ถังที่มีไอน้ำมันก็ไม่แน่ครับ
ผมเคยคุยมือถือตอนเติมน้ำมัน (ที่ออสต้องเติมเองครับ) โดนพนักงานตัดหัวจ่าย + ด่าออกอากาศครับ พอไปจ่ายเงิน เค้าบอกว่าอันตรายมาก เคยเกิดเหตุมาแล้ว
-
ถึงไม่อันตราย แต่ผมว่า มันก็ไม่ควรโทรฯ เพราะตรงนั้นมีป้ายห้ามอยู่...
แต่ทำยังไงได้ เมื่อสังคมไทย สร้างนิสัยคนไทยให้กลายเป็นแบบนี้...
ก็เหมือนกับ ป้ายห้ามสูบบุหรี่ ในปั๊มน้ำมัน (ตรงที่ยืนฉี่ผู้ชาย) ถึงมี แต่ก็ยังมีคนสูบอยู่...
-
ผมก็ว่าไม่เป็นไรนะ แต่ทางที่ดีอย่าเอาเข้าไปใกล้ดีกว่าครับ
-
กำลังเป้นที่ถกกันในเว็บพันทางห้องกอหญ้าครับว่าคลื่นโทรศัพท์สามารถทำให้ติดไฟได้จริงหรือไม่ การทดสอบบางที่บอกว่าไม่ติดแน่ๆ การทดสอบบางที่ก็ว่ามีโอกาสติดได้ถ้าคลื่นรุนแรงพอ ตกลงแล้วยังคงไม่ได้ข้อสรุปว่ามันก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ไหม แต่ผมขอลงความเห็นว่าในเมื่อมันมีความเสี่ยงและยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน อย่าทำครับ เพราะถ้าพลาดขึ้นมาแล้วนั่นคือตายเลยไม่มีข้อแก้ตัว :-X
อีกอย่างการเติมน้ำมันก็ควรที่จะใส่ใจกับหัวจายมากกว่าที่จะพูดๆๆๆๆๆ วางสายสักสิบห้านาทีมันคงไม่ได้ทำให้ใครตาย...........โทรศัพท์สมัยนี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับ pace maker ใช่ไหม? สิ่งที่ควรสนใจคือหัวจายที่เสียบเข้าไปน่ะเหมาะกับรถตัวเองไหมไม่ใช่เครื่องดีเซลแต่ใส่เบนซินเข้าไปก็เสียเวลาล้างถัง คิวย๊าวยาวเติมเสร็จแทนที่จะจ่ายเงินก็มัวแต่พูดๆๆๆๆปล่อยให้คนอื่นเค้ารอไป หรือไมก็เก้ๆกังๆหยิบเงินหยิบบัตรไม่ถนัดยิ่งช้าลงไปอีก ที่สำคัญหากเกิดกรณีหัวจ่ายไม่ตัดคนอื่นตะโกนบอกจะได้รู้ตัวทันไม่ใช่มัวแต่พูดไปเรื่อยน้ำมันล้นออกมานองพื้นแล้วยังไม่รู้ตัว :P
การคุยโทรศัพท์มันแย่งสมาธิไปจากสภาพแวดล้อมรอบข้างเกินครึ่งครับ ใช้ให้พองามแล้วจะไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตัวเองและผู้อื่น :)
-
ไม่รู้ดิ.....
แต่ผมค่อนข้างกลัวนะ
เพราะมันมีครั้งหนึ่ง ท่านแม่ก็ไปเติมน้ำมันตามปกติ
แต่เด็กปั๊มนะสิ คุยโทรศัพท์สนุกสนานเสียจริง ยิ่งยืนห่างหัวเติมแค่ครึ่งเมตรอีก...(ดีนะเติมน้ำมันให้ถูก)
แม่เลยพูดว่า"ตรูละอยากตบให้โทรศัพท์หล่นซะจริง....โง่วุ้ย ใครเขาให้ทำงี้"(แรงไปเนอะ....)
เออวุ้ย....กลัวทั้งโทรศัพท์ กลัวทั้งแม่ตัวเอง....
-
กำลังเป้นที่ถกกันในเว็บพันทางห้องกอหญ้าครับว่าคลื่นโทรศัพท์สามารถทำให้ติดไฟได้จริงหรือไม่ การทดสอบบางที่บอกว่าไม่ติดแน่ๆ การทดสอบบางที่ก็ว่ามีโอกาสติดได้ถ้าคลื่นรุนแรงพอ ตกลงแล้วยังคงไม่ได้ข้อสรุปว่ามันก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ไหม แต่ผมขอลงความเห็นว่าในเมื่อมันมีความเสี่ยงและยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน อย่าทำครับ เพราะถ้าพลาดขึ้นมาแล้วนั่นคือตายเลยไม่มีข้อแก้ตัว :-X
อีกอย่างการเติมน้ำมันก็ควรที่จะใส่ใจกับหัวจายมากกว่าที่จะพูดๆๆๆๆๆ วางสายสักสิบห้านาทีมันคงไม่ได้ทำให้ใครตาย...........โทรศัพท์สมัยนี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับ pace maker ใช่ไหม? สิ่งที่ควรสนใจคือหัวจายที่เสียบเข้าไปน่ะเหมาะกับรถตัวเองไหมไม่ใช่เครื่องดีเซลแต่ใส่เบนซินเข้าไปก็เสียเวลาล้างถัง คิวย๊าวยาวเติมเสร็จแทนที่จะจ่ายเงินก็มัวแต่พูดๆๆๆๆปล่อยให้คนอื่นเค้ารอไป หรือไมก็เก้ๆกังๆหยิบเงินหยิบบัตรไม่ถนัดยิ่งช้าลงไปอีก ที่สำคัญหากเกิดกรณีหัวจ่ายไม่ตัดคนอื่นตะโกนบอกจะได้รู้ตัวทันไม่ใช่มัวแต่พูดไปเรื่อยน้ำมันล้นออกมานองพื้นแล้วยังไม่รู้ตัว :P
การคุยโทรศัพท์มันแย่งสมาธิไปจากสภาพแวดล้อมรอบข้างเกินครึ่งครับ ใช้ให้พองามแล้วจะไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตัวเองและผู้อื่น :)
+1เลยครับ ชอบมากโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายครับ ^^
ป.ล.อย่าว่าแต่มือถือเลยครับ ผมทำแลป ทดลองหาจุดวาบไฟของน้ำมันดีเซล ขนาดใช้แท่งทองเหลืองร้อนแดงแจ๋ เข้าไปจ่อเหนือน้ำมันในที่ปิด ที่อุณหภูมิ85C
ภาควิชาผมแบ่งออกเป็น10กลุ่ม มีแค่2-3กลุ่ม ที่ทำให้การวาบไฟได้สำเร็จ ขณะที่กลุ่มอื่น ขนาดน้ำมันร้อนไป 90C ไอน้ำมันก็หนาแน่นเพราะอยู่ในที่ปิด แท่งทองเหลืองก็แดงจนควันจะขึ้นอยู่ละ ยังทำให้ไฟวาบขึ้นมาไม่สำเร็จเลยครับ ยิ่งพูดถึงเรื่องไฟลุกขึ้นมา ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ - -
เพราะฉะนั้นผมก็เห็นด้วยว่า ยากมากที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนมากที่เห็นเกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยอื่นด้วยครับ เช่นอยู่ใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง
-
ติดไม่ติดไม่รู้ แต่เขาห้ามไว้ก็น่าจะเคารพหน่อยครับ
อีกอย่างที่สำคัญ เวลางานด้วย มืออาชีพไม่มีอย่างนี้ครับ
-
ผมทำธุรกิจด้านนี้ครับ คนโทรศัพท์ขณะเติมน้ำมันผมไม่ว่าครับ แต่พวกเติมน้ำมันไม่ดับเครื่องเนี่ย อันตรายและไม่มีมารยาทอย่างมากๆครับ
-
ผมทำธุรกิจด้านนี้ครับ คนโทรศัพท์ขณะเติมน้ำมันผมไม่ว่าครับ แต่พวกเติมน้ำมันไม่ดับเครื่องเนี่ย อันตรายและไม่มีมารยาทอย่างมากๆครับ
อูย เคยนั่งรถเพื่อน มันไม่ดับเครื่อง ไม่รู้เลยนะครับว่าตอนนั้นเข้าไปเสี่ยงภัย แต่ส่วนตัวผมเอง ดับเครื่องก่อนแน่นอนค่อยเปิดฝาถังครับ
-
มีการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย ซึ่งการติดไฟด้วยโทรศัพท์เป็นทฤษฎี ไม่สามารถทำซ้ำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการทดลอง
ผมเชื่อการทดลองของ Mythbusters ครับว่าไม่ทำให้ติดใจ เขาให้เหตุผลไว้ดีมากๆ คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเรื่องไฟไหม้ขณะโทรศัพท์ในปั๊ม คือไฟฟ้าสถิตย์จากชุดของเจ้าของรถต่างหาก
จากการทดลองซ้ำหลายครั้ง ประจุของโทรศัพท์มือถือไม่แรงพอจะทำให้ละองน้ำมันติดไฟ (การทดลองที่ทำให้ติดได้ ต้องมีละอองหนาแน่นมากในพื้นที่ปิด และใช้อุปกรณ์สร้างไฟฟ้าสถิตย์)
แล้วสาเหตุมาจากอะไร ท้ายการทดลองได้ให้เหตุผลไว้น่าสนใจว่า
ระบบเติมน้ำมันของฝรั่ง ที่เจ้าของรถเติมเองนั่นแหละ ทำให้เจ้าของรถต้องลงจากรถ และเกิดการเสียดสีของเสื้อผ้าจนเกิดไฟฟ้าสถิตย์ และเมื่อประจุคลายตัวในภาวะละอองน้ำมันเหมาะสม จึงเกิดการติดไฟขึ้น
แล้วเกี่ยวอะไรกับมือถือที่เป็นเรื่องเล่า?
เพราะว่าเหตุการไฟลุก มักเกิดกับคนขับที่เป็นผู้หญิงซึ่งมักใส่เสื้อไหมพรม (เกิดไฟฟ้าสถิตย์ง่ายมากในสภาพอากาศแห้ง) และมักคุยโทรศัพท์ระหว่างอยู่ในปั๊ม จึงทำให้เกิดเข้าใจในที่มาของการระเบิดผิดต่างหาก
-
ทั้งคนหน้ารถตู้ ทั้งเด็กปั้ม โทรไม่สนใจอะไรเลย
กฏเขากำหนดห้ามโทร ก็ต้องห้ามโทร ไม่ใช่คิดว่าไม่เป็นอะไร
พอเกิดระเบิดมาแล้วก็ซวยกับคนโทรเองนั่นแหล่ะ
-
การโทรศัพท์ไม่สามารถทำให้เกิดประกายไฟได้
แต่การทำโทรศัพท์ตกลงพื้น เคยได้ยินมาว่า
อาจจะยังมีอันตรายอยู่ครับ..
-
เข้าใจเด็กปั๊มครับว่า ความคิดถึงมันห้ามกันไม่ไหว :D
แต่เรื่องการคุยโทรศัพท์ และการติดเครื่องยนต์ในปั๊มซึ่งมีไอระเหยของน้ำมันเจืออยู่ในอากาศ
เป็นเรื่องที่มีเปอร์เซนต์เสี่ยงครับ
ซึ่งเรื่องที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นอันตรายและอันตรายนั้นเกิดกับชีวิตของคน
เราไม่สามารถเอาผลการทดลองในห้องแล๊ปใดๆมาหักล้างว่ามันไม่มีผลได้หรอกครับ
เพราะถ้าสมมุติมันเป็นเหตุการณ์หนึ่งในล้าน
วันนั้นระบบเซฟตัดน้ำมันไม่ทำงานและมือถือจุดประกายไฟระเบิดขึ้นมาจริงๆ
ถึงวันนั้น จะมานั่งเสียดายว่าเราทำไมไม่ให้ความสำคัญ เคารพกฏเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยให้มากกว่านี้
มันก็คงจะไม่ทันแล้วครับ และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ
เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์
มนุษย์จะไม่เกิดความตระหนัก ถ้ายังไม่เกิดความสูญเสียครับ :D
-
วันนี้ ทำ Fuel Consumption test ของ Prius ไปหมาดๆ
เด็กปั้มขาประจำของเรา โทรศัพท์ ขณะช่วยผมโขยก ขย่มรถ...
ผมด่าเลยว่า "ออกไปคุยที่อื่นเลย โทรศัพท์ในปั้มน้ำมันเนี่ยนะ?? คิดได้ไง?"
เจ้าตัวก็เดินไปแต่โดยดี ลองไม่เดินออกไปดูสิ..ฮึ่ม!