Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: comet1123 ที่ กันยายน 06, 2011, 00:54:31
-
"คลัง"กลับลำนโยบายคืนภาษี"รถคันแรก" ยันราคาไม่เกิน1ล.ได้หมด
รมช.คลัง กลับลำจากเดิมที่จะคืนภาษี "รถคันแรก" เฉพาะรถกระบะ-อีโคคาร์ เท่านั้น ล่าสุดจะให้รถราคา ไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้สิทธิด้วย เผยวิธีคืนภาษีจ่าย เป็นคูปอง-เช็คทยอยคืน 3 ปี ส่วนการลดหย่อน ค่าซื้อบ้านหลังแรกคืนครั้งเดียว 3 แสน แต่ให้สิทธิเฉพาะ ซื้อบ้านใหม่ ยันลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% มีผล 1 ม.ค.2555 แน่ ยอมรับกระทบรายได้รัฐ 5 หมื่นล้าน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า นโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรกว่าจะหาข้อสรุปทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าน่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทันไม่เกินสัปดาห์หน้า โดยหลังจากที่รับฟังความเห็นจากหลายๆ ฝ่ายแล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า จะไม่จำกัดเฉพาะรถประหยัด พลังงานแบบรถอีโคคาร์ และรถกระบะเท่านั้น แต่จะยึดหลักว่าเป็นรถยนต์ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้คืนภาษีไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะต้องซื้อ และโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2555
"กำลังพิจารณาว่าอาจจะขยายชนิดของรถยนต์ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นอีโคคาร์ กับรถกระบะ โดยจะใช้วิธีกำหนดราคา รถยนต์ว่าต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งอันไหนเข้าข่ายก็จะได้หมด เพราะถ้าเอาเฉพาะ อีโคคาร์ ก็อาจจะทำได้แค่ 2 ค่าย ค่ายอื่นๆ ก็จะไม่ยอม หรือคนที่ไม่อยากซื้อรถอีโคคาร์ก็จะไม่ได้" นายบุญทรง กล่าว
ส่วนวิธีการคืนภาษีนั้น อาจจะใช้วิธีการคืนเงินให้กับผู้ซื้อรถยนต์คันแรก โดยใช้คูปองหรือจ่ายเป็นเช็คที่ออกโดยกระทรวงการคลัง เพื่อที่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก จะได้ประโยชน์อย่างเต็มจำนวน เพราะโดยหลักการ ต้องการคืนภาษีสรรพสามิต ให้ประชาชนเต็มจำนวนภาษีที่เก็บจากรถยนต์แต่ละคัน และจะทยอยคืนใน 3 ปี ปีละ เท่าๆ กัน ดังนั้นจึงอาจจะไม่ใช้วิธีลดหย่อนภาษีเงินบุคคลธรรมดาได้ที่ต้องดำเนินการ ผ่านกรมสรรพากร เพราะดูแล้วประชาชนบางกลุ่มจะไม่ได้สิทธิ เนื่องจากไม่ได้เสียภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาอยู่แล้ว
ในเบื้องต้นได้มีการกำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก จะต้องถือกรรมสิทธิ์ในรถคันดังกล่าวไปไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก จะเป็นผู้ควบคุม โดยดูที่ทะเบียนในการโอน ว่าถ้ามีการโอนก่อน 5 ปี ก็จะยกเลิกสิทธิ ดังกล่าวทันที
ที่ทำตัวแดงไว้หากอ่านและเข้าใจไม่ผิดซื้อเงินผ่อนก็หมดสิทธิ์ใช่ไหมคับเพราะยัง
ไม่ได้โอนสิทธิ์แล้วแบบนี้จะมีใครได้มั่งอ่ะคับ คนระดับกลางๆเงินเดือน2-4หมื่น
ใครจะมีเงินสด 6-7แสนไปจนถึงล้านไปซื้อ ส่วนตัวผมกับนโยบายนี้ไม่ได้มีส่วนได้กะเขาคับ
เพราะผมทำงานอิสระเลย อดไป 555
-
ขอกล่าวเล็กๆ น้อยๆ สั้นๆ ณ ตรงนี้คำเดียวว่า "บ้า !!!"
-
เหอะๆ
-
งานนี้คาดว่าพี่ "T" คงจะไปกำลังภายในอะไรบางอย่าง
เวงขิงๆ
-
ผมไม่ได้มาจับผิดหรืออะไรนะ แต่ตอนหาเสียงบอกรถคันแรกลดแสนนึง
ตามความเข้าใจของผมและชาวบ้านทั่วไปคือ "ถ้าเราซื้รถคนแรกเราจะได้ลดแสนนึง"
รถราคาห้าแสนลดแสนนึงเหลือสี่แสน แต่พอได้เข้าทำงาน กลับมีเงื่อนไขเยอะแยะ
ทั้งต้องเป็นอีโก้คาร์กับกระบะ และมันไม่ได้ลดแสนนึงอย่างที่คิด แต่มาตอนนี้เหมือนต้องซื้อสด
สรุปว่ารถคันแรกก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดนโยบายอื่นเนอะ ผมทำใจและตื่นจากฝันเสียที
-
ขอไม่พูดอะไรมากครับ เหอะๆ
-
อย่าไปตามเลยครับ ออกมาให้ข่าวทีนึงก็ด่ากันทีนึง
รอประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ค่อยมาพูดกันให้เต็มที่ดีกว่า
-
เดี่ยวสักพักก็ลากการเมืองมาอีกนะครับ เอาให้เค้าประกาศก่อนดีกว่าไหม
-
เวลานี้สิครับ ควรจะพูด
เพราะพอถึงเวลาประกาศใช้แล้ว เราประชาชน ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั่งดูอยู่ห่างๆ
ได้รับอานิสงค์ จากความคิดอันฉาบฉวย แต่สุดท้าย ก็....เฮ้อ.........
-
"คลัง"กลับลำนโยบายคืนภาษี"รถคันแรก" ยันราคาไม่เกิน1ล.ได้หมด
รมช.คลัง กลับลำจากเดิมที่จะคืนภาษี "รถคันแรก" เฉพาะรถกระบะ-อีโคคาร์ เท่านั้น ล่าสุดจะให้รถราคา ไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้สิทธิด้วย เผยวิธีคืนภาษีจ่าย เป็นคูปอง-เช็คทยอยคืน 3 ปี ส่วนการลดหย่อน ค่าซื้อบ้านหลังแรกคืนครั้งเดียว 3 แสน แต่ให้สิทธิเฉพาะ ซื้อบ้านใหม่ ยันลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% มีผล 1 ม.ค.2555 แน่ ยอมรับกระทบรายได้รัฐ 5 หมื่นล้าน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า นโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรกว่าจะหาข้อสรุปทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าน่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทันไม่เกินสัปดาห์หน้า โดยหลังจากที่รับฟังความเห็นจากหลายๆ ฝ่ายแล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า จะไม่จำกัดเฉพาะรถประหยัด พลังงานแบบรถอีโคคาร์ และรถกระบะเท่านั้น แต่จะยึดหลักว่าเป็นรถยนต์ที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้คืนภาษีไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะต้องซื้อ และโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2555
"กำลังพิจารณาว่าอาจจะขยายชนิดของรถยนต์ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นอีโคคาร์ กับรถกระบะ โดยจะใช้วิธีกำหนดราคา รถยนต์ว่าต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งอันไหนเข้าข่ายก็จะได้หมด เพราะถ้าเอาเฉพาะ อีโคคาร์ ก็อาจจะทำได้แค่ 2 ค่าย ค่ายอื่นๆ ก็จะไม่ยอม หรือคนที่ไม่อยากซื้อรถอีโคคาร์ก็จะไม่ได้" นายบุญทรง กล่าว
ส่วนวิธีการคืนภาษีนั้น อาจจะใช้วิธีการคืนเงินให้กับผู้ซื้อรถยนต์คันแรก โดยใช้คูปองหรือจ่ายเป็นเช็คที่ออกโดยกระทรวงการคลัง เพื่อที่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก จะได้ประโยชน์อย่างเต็มจำนวน เพราะโดยหลักการ ต้องการคืนภาษีสรรพสามิต ให้ประชาชนเต็มจำนวนภาษีที่เก็บจากรถยนต์แต่ละคัน และจะทยอยคืนใน 3 ปี ปีละ เท่าๆ กัน ดังนั้นจึงอาจจะไม่ใช้วิธีลดหย่อนภาษีเงินบุคคลธรรมดาได้ที่ต้องดำเนินการ ผ่านกรมสรรพากร เพราะดูแล้วประชาชนบางกลุ่มจะไม่ได้สิทธิ เนื่องจากไม่ได้เสียภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาอยู่แล้ว
ในเบื้องต้นได้มีการกำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก จะต้องถือกรรมสิทธิ์ในรถคันดังกล่าวไปไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก จะเป็นผู้ควบคุม โดยดูที่ทะเบียนในการโอน ว่าถ้ามีการโอนก่อน 5 ปี ก็จะยกเลิกสิทธิ ดังกล่าวทันที
ที่ทำตัวแดงไว้หากอ่านและเข้าใจไม่ผิดซื้อเงินผ่อนก็หมดสิทธิ์ใช่ไหมคับเพราะยัง
ไม่ได้โอนสิทธิ์แล้วแบบนี้จะมีใครได้มั่งอ่ะคับ คนระดับกลางๆเงินเดือน2-4หมื่น
ใครจะมีเงินสด 6-7แสนไปจนถึงล้านไปซื้อ ส่วนตัวผมกับนโยบายนี้ไม่ได้มีส่วนได้กะเขาคับ
เพราะผมทำงานอิสระเลย อดไป 555
ถ้า่เป็นอย่างที่ว่านั้น
จขกท. ก็มีสิทธิ์ นะครับ เพราะ เป็นการ การคืนเงินภาษีสรรพสามิต จากราคารถ มิใช่้เป็นการ คืนเงินโดยการหักภาษีเงินได้ ครับ
-
เหนื่อยใจครับกับการเมืองยุคนี้
ประหยัดไว้ดีสุดครับ เพราะอีก4-5ปี เราประชานิยมกันมาก
จนต้องกู้เงินนอกประเทศมาใช้ สุดท้ายล่มจมแบบอาเจนตินา
ตอนนี้พยายามใช้สอยอย่างประหยัด ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
วันนั้นมาถึงคงมีคนเดือดร้อนกันทั่วแผ่นดิน ส่วนตระกูลร่ำรวย
คงไปเสวยสุขอยู่ ตปท. พวกเรานี่แหละรับกรรมเต็มๆ
อย่าประมาทครับพี่น้อง
ปล. ผมไม่สังกัดสีใดนะครับผมสีไตรรงค์
เทอดทูนและสำนึกในบุญคุณสถาบันกษัตริย์ที่ทำให้เรามีประเทศเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้
-
ขายฝัน
-
เหนื่อยใจครับกับการเมืองยุคนี้
ประหยัดไว้ดีสุดครับ เพราะอีก4-5ปี เราประชานิยมกันมาก
จนต้องกู้เงินนอกประเทศมาใช้ สุดท้ายล่มจมแบบอาเจนตินา
ตอนนี้พยายามใช้สอยอย่างประหยัด ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
วันนั้นมาถึงคงมีคนเดือดร้อนกันทั่วแผ่นดิน ส่วนตระกูลร่ำรวย
คงไปเสวยสุขอยู่ ตปท. พวกเรานี่แหละรับกรรมเต็มๆ
อย่าประมาทครับพี่น้อง
ปล. ผมไม่สังกัดสีใดนะครับผมสีไตรรงค์
เทอดทูนและสำนึกในบุญคุณสถาบันกษัตริย์ที่ทำให้เรามีประเทศเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้
เหมือนกันผมคนหลากสีครับ อย่ามองเป็นการเมือง ให้มองเป็นการเรือนแทนจะได้ไม่เครียด
ผมก็เห็นด้วยกับ จขกท.นะครับ เพราะคำว่าโอนกรรมสิทธิ์ แปลว่าเราซื้อสด หรือปิดไฟแนนท์....
ปัญหาคือ คนที่ซื้อรถราคาต่ำกว่า 1,000,000 สักกี่คนครับที่จะได้สิทธิ์นี้ เพราะมันต้องเป็นรถคันแรกด้วย???
รถคันแรก และต้องเป็นรถใหม่ด้วย...เพราะอ่านจากข้อมูลมันคือภาษีสรรพสามิต แล้วรถเก่าหล่ะได้มั๊ย?
รถคันแรกแต่รถเก่า รถมือสองน่ะ? คาดว่าไม่ได้.....
แล้วถามต่อว่า คนที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน และหรือ เริ่มมีรถคันแรกเนี่ย แล้วไม่ต้องกู้มาซื้อเนี่ย จะมีสักกี่คนหล่ะครับ
ไหนจะเงินเดือนไม่ได้เยอะ ดาวน์ได้ต่ำ ผ่อนหลายปี มันก็หมดสิทธิ์ไปแล้ว
ส่วนคนที่ได้สิทธิ์ คือคนที่มีเงินเก็บเยอะระดับหนึ่ง(ซื้อรถคันเกือบล้านด้วยเงินสด) ถามตรงๆว่า เจ้าของรถที่เพิ่งเริ่ม
ทำงานหรือเพิ่งซื้อรถคันแรก จะมีเงินเก็บเยอะขนาดนั้นหรือ? ผมว่าก็อาจจะต้องเรียกว่าเป็นเงินเก็บที่บ้านมาซื้อดีกว่า
เงินจากพ่อแม่ผู้ปกครองอะไรก็ตาม
และหรือ บ้านรวยอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องผ่อน ซื้อสดเลย
สรุป โครงการนี้ ช่วยคนรวยมากกว่าคนจนครับ ง่ายๆเลย
และนโยบายนี้จริงๆเหมือนให้ประชาชนที่มีเงินออมที่อยากได้ได้รถในส่วนลดแบบนี้ต้องเอาเงินออกมาซื้อ
โดยแท้จริงแล้ว รถคือสิ่งที่มันลดมูลค่าลงเรื่อยๆ แต่เงินออมสามารถนำมาเพิ่มมูลค่าได้จากการลงทุนครับ
วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยโดยตรงกับคนที่อยากได้รถใหม่และเป็นผู้เริ่มชีวิตการทำงาน หรืออะไรใหม่ได้เลย
ตอบโจทย์ไม่ได้เลย ผมวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลนะครับ
ปล. รถคันแรกไม่เกิน 1,000,000 ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่ผมซื้อ ก็ไม่ได้อีกเพราะมีรถคันแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว....
นโยบายมันค้านกับความเป็นจริง
ส่วนช่วยเหลือค่ายรถค่ายใดหรือเปล่าอันนี้ผมตอบแทนไม่ได้
เพราะทุกค่ายก็อยากได้ประโยชน์ไม่เฉพาะโตโยต้าหรอก
เชื่อผมสิ
-
รอเขาออกมาเต็มๆก่อนดีกว่าไหมครับ
ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะออกมาแบบนั้น เขาคงกลัวเรื่องรถเปลี่ยนมือมากกว่า
คงหาวิธีสักอย่างมาป้องกัน
ผมกำลังเล็งๆกับรถคันแรกเหมือนกัน ยังไม่เห็นไล่ตามข่าวทุกวันเลย ::)
ได้ก็ดีปีหน้าจ่ายภาษีน้อยหน่อย ไม่ได้ไงก็ยังซื้อเหมือนเดิม อย่าไปซีเรียสมาก
-
เห็นด้วยนะครับกับนโยบายนี้ เพราะถ้าคุณอยากใช้สิทธิ์นี้จริงๆคุณก็ต้องขยัน อดทนอดออม
แล้วก็อาจจะขอยืมเงินจากพี่น้องพ่อแม่ก็ได้ครับเพื่อที่จะซื้อสดได้เลยหรือไม่ก็ดาวน์ไป80-90%ผ่อนอีกนิดหน่อยไม่เกิน1xu
แล้วก็ซื้อรถที่ไม่แพงอย่างพวกcity vios fiestaอะไรพวกนี้อ่ะครับ รับรองว่ามีอีกหลายคนที่ได้สิทธิ์นี้ครับ
คนเราอยากได้อะไรมันต้องมีอุปสรรคบ้างครับ ต้องสู้บ้างไม่ใช่ได้ง่ายๆ
-
เห็นด้วยนะครับกับนโยบายนี้ เพราะถ้าคุณอยากใช้สิทธิ์นี้จริงๆคุณก็ต้องขยัน อดทนอดออม
แล้วก็อาจจะขอยืมเงินจากพี่น้องพ่อแม่ก็ได้ครับเพื่อที่จะซื้อสดได้เลยหรือไม่ก็ดาวน์ไป80-90%ผ่อนอีกนิดหน่อยไม่เกิน1xu
แล้วก็ซื้อรถที่ไม่แพงอย่างพวกcity vios fiestaอะไรพวกนี้อ่ะครับ รับรองว่ามีอีกหลายคนที่ได้สิทธิ์นี้ครับ
คนเราอยากได้อะไรมันต้องมีอุปสรรคบ้างครับ ต้องสู้บ้างไม่ใช่ได้ง่ายๆ
ถ้าทำแบบนี้ เดี๋ยวก็มีหนี้นอกระบบโผล่ออกมาอีกสิครับ ถ้าครอบครัวไม่ได้มีเงินมากเขาจะไปยืมที่ไหนละครับ
ถ้านโยบายนี้มีเงื่อนไขมากมายขนาดนี้ แทบจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปเลยครับ
คนเริ่มทำงานใหม่ๆ เงินเดือน 2-3 หมื่นบาท จะผ่อนให้จบภายในปลายปี 55 เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ไม่ว่าจะประหยัด หรือ ขยันแค่ไหน
นโยบายก็ยังไม่แน่ชัด สรุปแล้วจะมีเวลาผ่อนถึง 1 ปีหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ
-
เล็งฟอร์จูน 2.7 ไว้ ราคาดันเกินซะอีก :P
-
รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางทำได้ตั้งแต่หาเสียง
-
ผมเห็นนโยบายหลายๆอย่างของรัฐบาลชุดนี้แล้วชวนให้นึกถึงการโฆษณาบนแผ่นพับ ใบปลิวทั้งหลายที่มีเครื่องหมายดอกจันทร์เล็กๆกำกับเอาไว้
หากดูหรือฟังคร่าวๆแล้วสวยหรู จับต้องได้จริง แต่พออ่านเครื่องหมายดอกจันทร์แล้วต้องชะงัก..............ไม่นึกว่ามันจะลามไปทั่ว เฮ้อ.........
-
นโยบายนี้คงทำให้เราเห็น พ่อแม่ใช้ชื่อลูกซื้อรถ Eco car หรือกระบะ แน่ๆเลย :D
-
รอดูกันต่อไปครับ ว่าสุดท้ายแล้วจะออกมาเป็นเช่นไร
เดี๋ยวพอประกาศออกมาชัดเจน คงไม่มีใครว่าอะไรหากผมจะแสดงความคิดเห็นบ้าง
-
มันก็มองกันได้หลายแง่ครับ คนที่เห็นชอบนโยบายนี้มีเยอะ ...
ยกตัวอย่างหัวหน้าผมนี่แหละ ....
เค้าบอกจะได้ซื้อรถให้ลูกขับไปมหาลัย สักคัน ใช้ชื่อลูกซื้อ ....
หลายๆคนคิดแบบนี้ครับ คนเป็นพ่อเป็นแม่ สมัยนี้อยากซื้อรถให้ลูกๆขับไปโรงเรียน หรือ รถคันแรกสำหรับลูกที่พึ่งจบการศึกษา ...
คนทำงาน ก็ก้มหน้าก้มตากันต่อไปครับ เป็นนาทีทองของ ลูกๆ หลานๆ ที่พ่อแม่ มีอันจะกินอยู่แล้วน่ะครับ ...
-
เงืนหลายหมื่นล้าน เอามาทำ นโยบายแก้บน
-
ขอที่มาของข่าวด้วยครับ
-
อ่านข่าวแล้วเพลียจริงๆ ไม่อยากจะการเมืองเท่าไหร่แต่ไม่ไหวจะเพลียกับรัฐบาลนี้จริงๆ กลับไปกลับมา นาๆสารพัด
ทุกนโยบาย ต้องมี * ให้อ่านคำอธิบายกันดีๆ เหมือนอ่านโฆษณาตามหนังสือพิมพ์เลย
เพลียใจจริงๆ นโยบายรถคันแรก ที่กำลังจะทำเนี่ยครับ
-
ผมตอบแบบตรคงเลย
อย่างงี้ คงต้องบัญญัติศัพท์การเมืองใหม่
ใช้คำว่า "นโยพาย" แทน "นโยบาย"
แทน เพราะตอนนี้ที่ประกาศไว้ แทบจะสอดไส้ ครบทุกไส้ แล้ว
แต่ไม่เป็นไรครับ เราตั้งน่าตั้งตาทำงาน
ช่วยเหลือตัวเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ไม่ว่าใครจะเข้ามาดี หรือ เข้ามาร้าย เราก็อยู่ด้วยลำแข้ง ถึงไม่รวยมากแต่ก็พอมีพอใช้
-
นโยบายที่ออกมา ย่อมที่จะส่งผลดีแน่ๆไม่กลุ่มไดก็กลุ่มหนึ่ง
คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ต้องมีเป็นธรรมดา
แต่ไม่เข้าใจว่าทำออกมาแบบนี้มันช้วยกลุ่มคนมีเงินอยู่แล้วชัดๆ จะออกมาทำไมครับนโยบายแบบนี้
หรือเอาไว้ตอบคำถามในสภาหลอกประชาชนที่ไม่รู้เรื่องอะไรว่าทำตามที่พูดไว้แล้วครับ :(
-
รอดูต่อไปว่าตกลงจะเป็นยังไง
ช่วงนี้กินหญ้าไปก่อน มออออออ ;D
-
ชอบเอาเงินภาษีหาเสียงทางออ้มตลอด
สั้นๆ "ปัญญาออ่น"
-
ผมไม่ได้มาจับผิดหรืออะไรนะ แต่ตอนหาเสียงบอกรถคันแรกลดแสนนึง
ตามความเข้าใจของผมและชาวบ้านทั่วไปคือ "ถ้าเราซื้รถคนแรกเราจะได้ลดแสนนึง"
รถราคาห้าแสนลดแสนนึงเหลือสี่แสน แต่พอได้เข้าทำงาน กลับมีเงื่อนไขเยอะแยะ
ทั้งต้องเป็นอีโก้คาร์กับกระบะ และมันไม่ได้ลดแสนนึงอย่างที่คิด แต่มาตอนนี้เหมือนต้องซื้อสด
สรุปว่ารถคันแรกก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดนโยบายอื่นเนอะ ผมทำใจและตื่นจากฝันเสียที
ผมก็เข้าใจอย่างนี้เหมือนกัน
-
เหนื่อยใจครับกับการเมืองยุคนี้
ประหยัดไว้ดีสุดครับ เพราะอีก4-5ปี เราประชานิยมกันมาก
จนต้องกู้เงินนอกประเทศมาใช้ สุดท้ายล่มจมแบบอาเจนตินา
ตอนนี้พยายามใช้สอยอย่างประหยัด ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
วันนั้นมาถึงคงมีคนเดือดร้อนกันทั่วแผ่นดิน ส่วนตระกูลร่ำรวย
คงไปเสวยสุขอยู่ ตปท. พวกเรานี่แหละรับกรรมเต็มๆ
อย่าประมาทครับพี่น้อง
ปล. ผมไม่สังกัดสีใดนะครับผมสีไตรรงค์
เทอดทูนและสำนึกในบุญคุณสถาบันกษัตริย์ที่ทำให้เรามีประเทศเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้
ถูกต้องครับไม่ว่าจะยุคไหน ใครเป็นนายก ใครเป็นรัฐบาล ประชาชนควรออมเงิน ผมจะยกตัวอย่างการออมเงินให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ
ยกตัวอย่างประเทศแรก ประเทศ ญี่ปุ่น ประเทศนี้มีหนี้สาธารณะ ประมาณ 200% มาเป็น 10 ปีแล้ว หลายคนสงสัยว่าหนี้เยอะขนาดนี้ทำไม ประเทศไม่ล้มจม
นั่นเป็นเพราะ ประชาชนชาวญี่ปุ่น นิยมออมเงินกันครับ รัฐบาลเลยมีเงินไปใช้หนี้ เป็นเงินหนุมเวียน
ประเทศต่อมา สหรัฐอเมริกา ประเทศนี้มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ประมาณ 100% กว่าๆ แต่ ประชาชนส่วนมากไม่มีเงินออมเลย หรือเงินติดลบซะด้วย
แล้วตอนนี้ อเมริกา เป็นยังไงครับ กำลังเดือดร้อนอย่างมาก เพราะประเทศเดินมาถึงทางตัน
ถ้ายังหาภาคการผลิตจริงในประเทศไม่ได้ อเมริกา ก็มีแต่เข้าเกียร์ R แล้วเหยียบคันเร่งครับ
ทุกวันนี้ผมดูโฆษณา ตามสื่อแล้วเหนื่อยใจ กลัวประเทศไทยจะเป็นแบบอเมริกาจริงๆ มีแต่ธนาคารออกบัตรนั้นบัตรนี้
การกู้เงินน่ะกู้ได้ครับ ถ้าคุณกู้มาทำธุรกิจหรือกู้มายกระดับฐานะของชีวิต แต่ไม่ใช่กู้มากินครับ
นี่ออกทะเลไปไกลกลับเข้าเรื่องของส่วนเรื่องนโยบาย ผมว่าก็เป็นไปตามสไตล์ พท. คือทำให้แล้วไง ทำได้แล้วไง แต่ลายละเอียดอาจทำให้ผิดหวัง
ผมว่ามันน่าจะเป็นนโยบายระยะยาวมากกว่า ทำแค่นี้อาจทำให้หลายคนผิดหวัง และ ปชป. อาจได้คะแนนไป
นี่คุณทักษิณไม่ได้ช่วยคิดเลยหรือไง ทำไมปล่อยน้องทำแบบนี้ล่ะ? ช่วยๆ กันทำประเทศนี้ให้เจริญในรูปแบบของ ประชาธิปไตย เถอะ
-
ถ้าออกมาตามเนื้อข่าวจริงรากหญ้าหรือคนเงินเดือนน้อยๆจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากนโยบายนี้เลย คนที่จะได้ประโยชน์ก็คือกลุ่มคนมีกะัตังที่ซื้อสดโดยใช้ชื่อลูกหลานนั่นเอง :o
-
ฟังข่าวมาล่าสุด คนที่มีการผ่อนบ้านอยู่แต่ยังไม่มีรถและมีเงินเก็บพอจะซื้อรถได้นั้น จะไม่สามารถใช้สิทธ์นี้ได้เนื่องจากทางรัฐกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มภาระและสร้างหนี้แก่ภาคครัวเรือน แล้วเพิ่มเงื่อนไขมาเรื่อยๆแบบนี้ใครมันจะซื้อได้ นอกจากคนที่มีเงินอยู่แล้วแต่ยังไม่มีรถ ไม่มีภาระผ่อนบ้าน ไม่มีหนี้อะไร แถมชาวบ้านที่เลือกพวกเมิงเนี่ยคิดว่ามันมีสักกี่คนวะที่เข้าข่ายนี้(ขออภัยที่ใช้คำหยาบคาย)แต่นโยบายยังไม่สรุปอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีก
ปล.ผมคุยกับเพื่อนๆที่ทำงานกันว่าจะตั้งพรรคบ้างและประกาศนโยบายเพ้อฝันออกมาเยอะๆให้ได้เข้าเป็นสส.ก่อน ส่วนทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องนึงเช่นปลอดภาษีตลอดชีพ,ค่าแรงขั้นต่ำ1000บาท,แจกแมคบุ๊คโปรคนละเครื่อง,ซื้อบ้านครึ่งราคาแถมรถฟรี1คันในราคาไม่เกิน1ล้านบาท แล้วพอได้เป็นสส.ก็บอกว่านั่นเป็นแค่นโยบายช่วยหาเสียงเหมือนเฉลิมที่บอกว่าถ้าลูกผมไม่ได้เป็นสส.ก็จะลาออกจากการเมือง(สุดท้ายมันก็ดันลูกมันเข้ามาจนได้อยู่ดี....บัดซบเอ๊ย!!ไอ้ปื๊ดอยู่ใหน?)
-
สำหรับผม โดยรวมๆแล้วไม่ค่อยชอบนโยบายนี้สักเท่าไหร่ ตัวแนวคิดหน่ะโอเคที่อยากจะให้คนมีรายได้น้อยมีโอกาสแต่ดูเหมือนฉาบฉวยกันไปหน่อย นโยบายคือสิ่งที่ควรจะวางไว้เป็นแนวทางระยะยาว ไม่ใช่มาคิดปุ๊บปั๊บกันเดี๋ยวนั้น แล้วให้ใช้สิทธิ์ไม่เกินสิ้นปีหน้า เท่ากับว่าไม่ให้โอกาสคนในการปรับตัวเพื่อรองรับนโยบาย (เรื่องน้ำมันก็ทีนึงล่ะ ควรจะค่อยๆลด ไม่ใช่ตู้มเดียวลด คนปรับตัวไม่ทัน แล้วสินค้าไม่เห็นจะลดตาม ค่าโดยสารต้องอีกหลายวันถึงจะลด) ดูจากแนวทางในการวางนโยบายแบบนี้แล้วผมไม่ค่อยมั่นใจในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาบ้านเมืองเลยพับผ่าสิ ไม่ใช่เรื่องปัญหาเฉพาะหน้ากลับทำแบบเฉพาะหน้า
เห็นด้วยกับคุณ prai เรื่องโฆษณาบัตรเครดิตมากครับ เชิญชวนให้เราเป็นหนี้อย่างเปิดเผยไม่อ้อมค้อมกันเลย ถ้าเป็นของกรุงศรีบางอันดูดีหน่อย เป็นหนี้เพื่อธุรกิจแล้วก็ยายป่วย แต่อันอื่นเนี่ย ฟุ่มเฟือยชัดๆ การเอาเงินอนาคตมาใช้เนี่ยจะทำให้เราตกอยู่ในวังวนของการเป็นหนี้ถ้าหลุดออกมาไม่ได้ก็อย่าหวังเลยว่าจะมีอนาคต เห็นหลายคนแล้วตอนเอาเงินมาใช้ไม่เคยคิดว่าจะต้องจ่ายนึกว่าเอามาฟรีๆ แต่สุดท้ายก็ต้องจ่าย เดือดร้อนสิครับ เดือดร้อนตัวเองจะไม่ว่าอะไรเลย พาลพาครอบครัว คนรู้จัก เพื่อน พ่อแม่พี่น้อง ลูกเมีย ลำบากไปด้วย เอาบัตรโน้นไปโป๊ะบัตรนี้ เอาบัตรนี้ไปโป๊ะบัตรนั้น อยากให้เลียนแบบลาวที่เค้าออกกฎหมายไม่ให้คนจนเป็นหนี้ มอไซด์ต้องซื้อสดอย่างเดียว แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเป็นแบบนี้รึเปล่า
ผมเองก็มีอยู่ 3 ใบ แต่ทั้งหมดที่ทำก็เพื่อให้กู้บ้านคอนโดได้ผ่านง่าย และก็เป็นเงินฉุกเฉินสำรอง เคยพลาดใช้ตอนอยากได้แอร์มากๆเพราะผมเป็นคนขี้ร้อนแต่ไม่มีตัง ก็เลยรูดซื้อ+น้องไปฝึกงานต้องใช้เงินเยอะเป็นหนี้ไปเกือบปีเลยเข็ด จากนั้นก็รูดอีกทุกเดือนนะครับ รูดซื้อของแต่ผมจ่ายตรงเวลาเลยไม่เสียดอกเบี้ย แต่ได้แต้มสะสมขึ้นเรื่อยๆ นอกจากไม่ได้กินดอกผมแล้วยังเสียเงินให้ผมเพราะผมเอาแต้มไปแลกเป็นเงินอีกตะหาก 555 ทุกวันนี้มีเกือบทุกธนาคารแล้วมั้งโทรมาหาผมชวนให้ทำบัตรเครดิต แต่ผมไม่เอาแล้วหล่ะ ไม่มีประโยชน์ มี 3 ใบก็เหลือเฟือ ขาดแต่ธนาคารออมสินมั้งที่ไม่ได้โทรมา 555
-
เงื่อนไขเหมือนให้หาคนหัวนมชมพูจากชนพื้นเมืองอาฟริกาแท้ๆ :-X
-
พูดได้คำเดียวเลยว่า "ปัญญาอ่อนไร้สาระโครตๆ" >:( >:(
-
เหนื่อยใจครับกับการเมืองยุคนี้
ประหยัดไว้ดีสุดครับ เพราะอีก4-5ปี เราประชานิยมกันมาก
จนต้องกู้เงินนอกประเทศมาใช้ สุดท้ายล่มจมแบบอาเจนตินา
ตอนนี้พยายามใช้สอยอย่างประหยัด ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
วันนั้นมาถึงคงมีคนเดือดร้อนกันทั่วแผ่นดิน ส่วนตระกูลร่ำรวย
คงไปเสวยสุขอยู่ ตปท. พวกเรานี่แหละรับกรรมเต็มๆ
อย่าประมาทครับพี่น้อง
ปล. ผมไม่สังกัดสีใดนะครับผมสีไตรรงค์
เทอดทูนและสำนึกในบุญคุณสถาบันกษัตริย์ที่ทำให้เรามีประเทศเป็นปึกแผ่นมาถึงทุกวันนี้
เหมือนกันผมคนหลากสีครับ อย่ามองเป็นการเมือง ให้มองเป็นการเรือนแทนจะได้ไม่เครียด
ผมก็เห็นด้วยกับ จขกท.นะครับ เพราะคำว่าโอนกรรมสิทธิ์ แปลว่าเราซื้อสด หรือปิดไฟแนนท์....
ปัญหาคือ คนที่ซื้อรถราคาต่ำกว่า 1,000,000 สักกี่คนครับที่จะได้สิทธิ์นี้ เพราะมันต้องเป็นรถคันแรกด้วย???
รถคันแรก และต้องเป็นรถใหม่ด้วย...เพราะอ่านจากข้อมูลมันคือภาษีสรรพสามิต แล้วรถเก่าหล่ะได้มั๊ย?
รถคันแรกแต่รถเก่า รถมือสองน่ะ? คาดว่าไม่ได้.....
แล้วถามต่อว่า คนที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน และหรือ เริ่มมีรถคันแรกเนี่ย แล้วไม่ต้องกู้มาซื้อเนี่ย จะมีสักกี่คนหล่ะครับ
ไหนจะเงินเดือนไม่ได้เยอะ ดาวน์ได้ต่ำ ผ่อนหลายปี มันก็หมดสิทธิ์ไปแล้ว
ส่วนคนที่ได้สิทธิ์ คือคนที่มีเงินเก็บเยอะระดับหนึ่ง(ซื้อรถคันเกือบล้านด้วยเงินสด) ถามตรงๆว่า เจ้าของรถที่เพิ่งเริ่ม
ทำงานหรือเพิ่งซื้อรถคันแรก จะมีเงินเก็บเยอะขนาดนั้นหรือ? ผมว่าก็อาจจะต้องเรียกว่าเป็นเงินเก็บที่บ้านมาซื้อดีกว่า
เงินจากพ่อแม่ผู้ปกครองอะไรก็ตาม
และหรือ บ้านรวยอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องผ่อน ซื้อสดเลย
สรุป โครงการนี้ ช่วยคนรวยมากกว่าคนจนครับ ง่ายๆเลย
และนโยบายนี้จริงๆเหมือนให้ประชาชนที่มีเงินออมที่อยากได้ได้รถในส่วนลดแบบนี้ต้องเอาเงินออกมาซื้อ
โดยแท้จริงแล้ว รถคือสิ่งที่มันลดมูลค่าลงเรื่อยๆ แต่เงินออมสามารถนำมาเพิ่มมูลค่าได้จากการลงทุนครับ
วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยโดยตรงกับคนที่อยากได้รถใหม่และเป็นผู้เริ่มชีวิตการทำงาน หรืออะไรใหม่ได้เลย
ตอบโจทย์ไม่ได้เลย ผมวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลนะครับ
ปล. รถคันแรกไม่เกิน 1,000,000 ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่ผมซื้อ ก็ไม่ได้อีกเพราะมีรถคันแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว....
นโยบายมันค้านกับความเป็นจริง
ส่วนช่วยเหลือค่ายรถค่ายใดหรือเปล่าอันนี้ผมตอบแทนไม่ได้
เพราะทุกค่ายก็อยากได้ประโยชน์ไม่เฉพาะโตโยต้าหรอก
เชื่อผมสิ
ถ้ารถผ่อนใช้สิทธิ์ไม่ได้ แต่เงื่อนไขนี้มีไว้ให้คนซื้อรถคันแรก ก็คือคนไม่มีเงิน สรุปแล้ว มันแย้งๆ ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน
ถ้าเป็นแบบนี้ คนที่จะได้ประโยชน์ ไม่ใช่เด็กจบใหม่ทำงานปีแรกหรอกครับ แต่เป็นลูกคุณหนูขอพ่อแม่ถอยรถมากกว่า
สรุปแล้ว มึนๆ
-
ยิ่งตอนนี้ ภาษีนำเข้ารถใหม่ขึ้นอีก เซ็งครับ..
-
ยิ่งตอนนี้ ภาษีนำเข้ารถใหม่ขึ้นอีก เซ็งครับ..
ภาษีรถนำเข้ายังพอรับได้ครับเพราะถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยโดนแท้จริงครับ
โชคดีนะ ซื้อเมื่อปีที่แล้ว ก๊ากกกก
-
" ฟุ่มเฟือย "
-
เหมือนหาเสียงแบบโฆษณาตามหนังสือพิมพ์อะ
รถคันแรก ลดให้หนึ่งแสนบาท*
*ลดให้เฉพาะ เด็กอายุ 5 ขวบ มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาท จบปริญญาตรี เสียภาษีมาแล้ว 6 ปี
ถุย
-
เบื่อการเมืองครับ :(
-
ผมไม่ได้มาจับผิดหรืออะไรนะ แต่ตอนหาเสียงบอกรถคันแรกลดแสนนึง
ตามความเข้าใจของผมและชาวบ้านทั่วไปคือ "ถ้าเราซื้รถคนแรกเราจะได้ลดแสนนึง"
รถราคาห้าแสนลดแสนนึงเหลือสี่แสน แต่พอได้เข้าทำงาน กลับมีเงื่อนไขเยอะแยะ
ทั้งต้องเป็นอีโก้คาร์กับกระบะ และมันไม่ได้ลดแสนนึงอย่างที่คิด แต่มาตอนนี้เหมือนต้องซื้อสด
สรุปว่ารถคันแรกก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดนโยบายอื่นเนอะ ผมทำใจและตื่นจากฝันเสียที
เข้าใจเหมือนผมเปะ เหอะๆๆ
น้ำมัน 95 ก็ทีนึงแล้ว จะลดทำไมเนี่ย รถที่เติมได้ก็รถคนรวยกันทั้งนั้น อ้างว่าคนจนก็ยังเติม 95
ไม่รุเข้าใช้อะไรคิด แล้วก่อนหน้านี้คนจนคงไม่ยิงจนหรอกหรอ ราคา 95 พุ่งไป 50 กว่าบาท
เหอะๆๆ ทุกนโยบายต้องมีผมประโยชน์มาเป็นส่วนประกอบทั้งนั้นคับ :D :D :D
-
ทุกนโยบายของ รบ นี้จนวันนี้หลายๆคนคงเริ่มคิดกันขึ้นมาได้แล้วล่ะครับว่า... ??? ??? ???
-
น่าจะเปลี่ยนเป็น รถกระบะมือสองราคาไม่เกิน 2 แสน vat 7% ไม่ต้องเสีย จากการสังเกตุที่เต้นท์พ่อผม คนที่ซื้อส่วนใหญ่เอาทำมาหากินจริงๆครับ แต่ดอกบวกแวท แพงมาก แต่เค้าจำเป็นต้องเอาเพราะเอาไปทำเงินต่อได้ ออกรถเพื่อไปทำมาหากินเนี่ยผมว่าไม่ฟุ่มเฟือยนะครับ เอาราคากู้ไม่เกิน 2 แสนก็พอ
-
น่าจะเปลี่ยนเป็น รถกระบะมือสองราคาไม่เกิน 2 แสน vat 7% ไม่ต้องเสีย จากการสังเกตุที่เต้นท์พ่อผม คนที่ซื้อส่วนใหญ่เอาทำมาหากินจริงๆครับ แต่ดอกบวกแวท แพงมาก แต่เค้าจำเป็นต้องเอาเพราะเอาไปทำเงินต่อได้ ออกรถเพื่อไปทำมาหากินเนี่ยผมว่าไม่ฟุ่มเฟือยนะครับ เอาราคากู้ไม่เกิน 2 แสนก็พอ
+1 ครับ เห็นด้วย เอารถราคาไม่แพงดีที่สุด ทั้ง Eco car กระบะ มือ 2 ผมว่าควรแก้เป็นไม่เกิน 6 แสนด้วยครับ :)
-
นโยบายนี้คงทำให้เราเห็น พ่อแม่ใช้ชื่อลูกซื้อรถ Eco car หรือกระบะ แน่ๆเลย :D
ผมคนนึงแหละครับที่เป็นแบบนั้น
ถ้านโยบายนี้ออกมาจริง พ่อคงให้ผมซื้อ
ISUZU RT-50 4 ประตูมาจอดที่บ้านแน่ๆครับ
เพราะมันจำเป็นต้องใช้รถ แต่ลดได้ซักแสน
ก็น่าจะซื้อมาใช้ ตอนนี้ถ้าใช้คันกระบะ
ต้องนั่งเบียดกัน 5 คน (กระบะ spacecab)
-
ว้า กว่าผมจะเก็บเงินซื้อสดได้คงต้องรอถึง 2557-2558 นู้นแหละ ไม่เป้นไรอย่างน้อยก็ไม่มีหนี้ ;)
ก้มหน้าเก็บต่อไป
-
เปลี่ยนอีกแล้ว อะไรกันนี่ ความผิดไม่ใช่ของรัฐบาลแน่ๆ แต่เป็นคนที่เข้าไปรับตำแหน่ง เปลี่ยนบ้าไรกันเนี่ย เข้ามาไม่ทันไรจะกินกันแล้วเหรอ ผมว่าไม่นานเปลี่ยนครม.ยกชุดกันแน่ๆ :(
-
นโนบายพวกนี้มีแต่ความหวือหวา
หาสาระคนที่ได้ประโยชน์จริงๆจังๆแทบไม่ได้
ผมว่าเอาเข้าจริง เป็นคนส่วนน้อยมากครับ
สอดไส้ ดอกจัน ซ่อนไพ่ ไม่รู้ว่าจะคิดกันได้มั่งกันหรือยังครับ
-
ผมไม่ได้มาจับผิดหรืออะไรนะ แต่ตอนหาเสียงบอกรถคันแรกลดแสนนึง
ตามความเข้าใจของผมและชาวบ้านทั่วไปคือ "ถ้าเราซื้รถคนแรกเราจะได้ลดแสนนึง"
รถราคาห้าแสนลดแสนนึงเหลือสี่แสน แต่พอได้เข้าทำงาน กลับมีเงื่อนไขเยอะแยะ
ทั้งต้องเป็นอีโก้คาร์กับกระบะ และมันไม่ได้ลดแสนนึงอย่างที่คิด แต่มาตอนนี้เหมือนต้องซื้อสด
สรุปว่ารถคันแรกก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดนโยบายอื่นเนอะ ผมทำใจและตื่นจากฝันเสียที
เข้าใจเหมือนผมเปะ เหอะๆๆ
น้ำมัน 95 ก็ทีนึงแล้ว จะลดทำไมเนี่ย รถที่เติมได้ก็รถคนรวยกันทั้งนั้น อ้างว่าคนจนก็ยังเติม 95
ไม่รุเข้าใช้อะไรคิด แล้วก่อนหน้านี้คนจนคงไม่ยิงจนหรอกหรอ ราคา 95 พุ่งไป 50 กว่าบาท
เหอะๆๆ ทุกนโยบายต้องมีผมประโยชน์มาเป็นส่วนประกอบทั้งนั้นคับ :D :D :D
อย่าลืมคนจนที่ไม่มีเงินซื้อกระทั่งรถใหม่สิครับ รถสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปีที่ต้องทนใช้เพราะไม่มีเงินซื้อรถใหม่ครับ
ต้องจำทนเติมเบนซิน95เพราะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
มันหนักนะครับการผ่อนรถเมื่อราคารถประเทศนี้แพงเหมือนซื้อบ้าน
ไม่ใช่ญี่ปุ่นสักหน่อยที่เงินเดือนแค่6-7เดือนก็ซื้อรถได้แล้ว
เหมือนซื้อซีวิคอัลติสด้วยราคาค่าครองชีพไทยๆแค่1-2แสนบาท
ดังนั้นโดยรวมมันต้องยกระดับรายได้ของคนส่วนใหญ่อ่ะครับ อะไรทำได้ก่อนก็ทำไปก่อน
อะไรยากก็ค่อยๆทำ ถ้าไม่เริ่มทำแล้วเมื่อไหร่เราจะมีคนชั้นกลางค่อนประเทศเหมือนประเทศอื่นเขา
ถ้าคนชั้นกลางมีค่อนประเทศ ทีนี้SMEsทั้งหลายก็ผุดเป็นดอกเห็ดล่ะครับ
การวิจัย นวัตกรรมดี ก็จะตามมาเพราะคุ้มค่าแก่การลงทุนทำ บริษัทจิ๋วแต่แจ๋วของไทยคงจะมีขึ้นมาสู้กับ
ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ได้บ้าง
จะได้ไม่ต้องกดราคาค่าแรงถูกๆเพียงเพื่อผลิตของถูกๆให้ต่างชาติใช้ คนไทยนี่แหละจะใช้กันเอง
ส่วนนโยบายรถคันแรก ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นผมไมได้ซีเรียสมาก
เพราะเลือกตั้งครั้งนี้ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เลือกเพราะชื่อพรรคจริงๆ
ไม่ได้เน้นนโยบายอะไรมากนัก ขอแค่ให้มันเป็นไปครรลองที่ควรจะเป็นก็เท่านั้น
แค่ยืนกรานฝืนต่อต้านความไม่ถูกต้องในหลายๆปีที่ผ่านมาก็เท่านั้น
ขออภัยที่ผมเห็นแบบนี้ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับหลายๆท่านในเวบนี้
-
อยากให้หลายๆท่าน อย่าเพิ่งด่วนประเมินเขาเลยครับ รอให้เรื่องนี้ถึงที่สุดก่อนดีกว่า ว่าจะเอายังไงแน่
แต่ยังไง ทุกเรื่องมันก็มีทั้งด้านดีและด้านเสียแหละครับ ผมก็ไม่ค่อยชอบนโยบายนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็มีด้านดี แต่แทบทุกนโยบายก็ทำให้ผมสงสัยว่า รัฐจะมีปัญญาที่ไหนไปจ่าย
แต่อย่างว่า ถึงจะไม่อยากพูดเรื่องการเมือง แต่ยี่ห้อ พ.ท.ก็หาเงินเก่งอยู่ คงต้องดูกันต่อไปอีกน่ะครับ
-
คำแรกที่อยากจะเอ่ยก็คือ "ฟุ่มเฟือยสิ้นดี"
เพราะเท่าที่อ่านข้างต้น คิดว่าน่าจะเป็นคืนเงินสรรพสามิตของรถยนต์ออกใหม่ (ถอยป้ายแดง) 1 แสนบาท ฉะนั้น รถมือสอง (มันถูกรวบภาษีสรรพสามิตตรอนเจ้าของรถคนแรกซื้อไปแล้ว) คงหมดสิทธิ์
ถ้ามองแค่จุดนี้ ดูเหมือนจะมีโอกาสสำหรับรถอีโคคาร์ใช่ไหม?
ทว่า มันไปติดที่ว่าเงื่อนไขของสิทธิการรับคืนภาษีนี้ก็คือ ต้องโอนกรรมสิทธิ์ตกสู่เจ้าของกุญแจรถภายใน 1 ปี
คิดเอาง่ายๆ ว่า สมมุติถอยมาร์ชรุ่นเกียร์ธรรมดา ออพชันถูกสุด (399,xxx) จัดไฟแนนซ์ออกรถในงวดผ่อนชำระหนึ่งปี ค่างวดก็ปาไปหมื่นกว่าบาทแล้ว นี่มันงี่เง่าสิ้นดีชัดๆ
เท่าที่อ่านทั้งหมด ไม่ได้ลดราคารถอะไรแต่อย่างใด ก็แค่คืนเงินให้แสนนึง เมื่อทำตามเงื่อนไข แล้วกว่าจะได้ ก็ช้าอยู่แล้ว
สรุป เป็นนโยบายที่ฟุ่มเฟือยเป็นบ้า คิดแต่เอาใจ แต่ไม่คิดถึงความเป็นจริง
(ระวังกับมุกตลกร้ายข้างล่าง)
อ้อ... คิดว่ามีคนกลุ่มนึง ได้ผลประโยชน์จากส่วนลดจุดนี้เต็มๆ ..... ก็อาเสี่ยถอยรถให้เด็กๆ ไง พวกนี้เงินหนาจะตาย ซื้อสดอยู่แล้ว
-
ก็เอาเป็นว่ารอดูกันต่อไปกับนโยบายดอกจันนะครับ เพราะสุดท้ายที่ออกกันมาบ่นๆเนี่ย ถ้านโยบายเกิดขึ้นจริงก็ใช้กันใช่ไหม ผมว่าดีกว่าไม่มีนะ
แม่ผมบอกให้ผมซื้อกระบะแล้ว(ทั้งที่ไม่ค่อยชอบกระบะเลย)
-
ผมไม่ได้มาจับผิดหรืออะไรนะ แต่ตอนหาเสียงบอกรถคันแรกลดแสนนึง
ตามความเข้าใจของผมและชาวบ้านทั่วไปคือ "ถ้าเราซื้รถคนแรกเราจะได้ลดแสนนึง"
รถราคาห้าแสนลดแสนนึงเหลือสี่แสน แต่พอได้เข้าทำงาน กลับมีเงื่อนไขเยอะแยะ
ทั้งต้องเป็นอีโก้คาร์กับกระบะ และมันไม่ได้ลดแสนนึงอย่างที่คิด แต่มาตอนนี้เหมือนต้องซื้อสด
สรุปว่ารถคันแรกก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดนโยบายอื่นเนอะ ผมทำใจและตื่นจากฝันเสียที
เข้าใจเหมือนผมเปะ เหอะๆๆ
น้ำมัน 95 ก็ทีนึงแล้ว จะลดทำไมเนี่ย รถที่เติมได้ก็รถคนรวยกันทั้งนั้น อ้างว่าคนจนก็ยังเติม 95
ไม่รุเข้าใช้อะไรคิด แล้วก่อนหน้านี้คนจนคงไม่ยิงจนหรอกหรอ ราคา 95 พุ่งไป 50 กว่าบาท
เหอะๆๆ ทุกนโยบายต้องมีผมประโยชน์มาเป็นส่วนประกอบทั้งนั้นคับ :D :D :D
อย่าลืมคนจนที่ไม่มีเงินซื้อกระทั่งรถใหม่สิครับ รถสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปีที่ต้องทนใช้เพราะไม่มีเงินซื้อรถใหม่ครับ
ต้องจำทนเติมเบนซิน95เพราะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
มันหนักนะครับการผ่อนรถเมื่อราคารถประเทศนี้แพงเหมือนซื้อบ้าน
ไม่ใช่ญี่ปุ่นสักหน่อยที่เงินเดือนแค่6-7เดือนก็ซื้อรถได้แล้ว
เหมือนซื้อซีวิคอัลติสด้วยราคาค่าครองชีพไทยๆแค่1-2แสนบาท
ดังนั้นโดยรวมมันต้องยกระดับรายได้ของคนส่วนใหญ่อ่ะครับ อะไรทำได้ก่อนก็ทำไปก่อน
อะไรยากก็ค่อยๆทำ ถ้าไม่เริ่มทำแล้วเมื่อไหร่เราจะมีคนชั้นกลางค่อนประเทศเหมือนประเทศอื่นเขา
ถ้าคนชั้นกลางมีค่อนประเทศ ทีนี้SMEsทั้งหลายก็ผุดเป็นดอกเห็ดล่ะครับ
การวิจัย นวัตกรรมดี ก็จะตามมาเพราะคุ้มค่าแก่การลงทุนทำ บริษัทจิ๋วแต่แจ๋วของไทยคงจะมีขึ้นมาสู้กับ
ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ได้บ้าง
จะได้ไม่ต้องกดราคาค่าแรงถูกๆเพียงเพื่อผลิตของถูกๆให้ต่างชาติใช้ คนไทยนี่แหละจะใช้กันเอง
ส่วนนโยบายรถคันแรก ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นผมไมได้ซีเรียสมาก
เพราะเลือกตั้งครั้งนี้ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เลือกเพราะชื่อพรรคจริงๆ
ไม่ได้เน้นนโยบายอะไรมากนัก ขอแค่ให้มันเป็นไปครรลองที่ควรจะเป็นก็เท่านั้น
แค่ยืนกรานฝืนต่อต้านความไม่ถูกต้องในหลายๆปีที่ผ่านมาก็เท่านั้น
ขออภัยที่ผมเห็นแบบนี้ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับหลายๆท่านในเวบนี้
เอ่อ เรื่องอื่นผมไม่ขอพูดถึงละกัน
คนส่วนใหญ่เลือกที่พรรคก็จริง แต่ส่วนนึงก็เพราะนโยบายหาเสียงนะครับ
เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 300 ไม่ใช่ รายได้ขั้นต่ำ 300 อะไรแบบนี้
คือ ใครจะได้รับเลือกตั้งนะ อันนี้ไม่ใส่ใจ แต่
ถ้าพูดไว้ หาเสียงไว้ ต้องทำให้ได้อย่างที่พูด อันนี้แหละสำคัญ ครับ
ส่วนสิ่งที่ว่าไม่ถุกต้องที่ผ่านมาก็ว่ากันไป ไม่ขอพูดถึง
-
แม่ค้าแถวบ้าน ผม ก่อนหน้านี้ มาคุยโชว์โออวด นโยบาย กานจัง เป็นไงละ หลอกเด็ก
-
สงสัยแม่ค้าจะนึกว่าซื้อ Lamborghini Aventador จะได้ลด 1แสนบาท !!
-
ขอที่มาของข่าวด้วยครับ
จากหนังสือพิมพ์แนวหน้าครับ ---> http://fsv1.iqnewsclip.com/DownloadFile.aspx?productname=ClippingSelection&transid=62beb530-a28c-413f-8ced-ff0935fb843f (http://fsv1.iqnewsclip.com/DownloadFile.aspx?productname=ClippingSelection&transid=62beb530-a28c-413f-8ced-ff0935fb843f)
แต่เดี่๋๋ยวก่อน ข่าวก็คือข่าว ยังไม่ใช่ข้อสรุป
วันนี้มีข่าวมาอีกแล้ว.....
ตามนี้
-
ข่าวบางทีปากเดียวกันยังตีความไม่เหมือนกันเลยครับ ต้องรับจากหลายๆที่
แต่สำหรับผมนโยบายนี้มันก็แค่เรียกคะแนนนิยม มีก็เหมือนเป็น Gift Voncher มีก็ดีสีสัน ไม่มีก็ไม่ได้ว่าอะไร
-
ทุกๆนโยบาย ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ
ย่อมต้องมีคนได้ประโยชน์ คนไม่ได้ประโยชน์ และคนเสียประโยชน์
ตอนแจก 2000 ผมก็ไม่ได้ และผมว่าเป็นอะไรที่สิ้นคิดสุดๆ
-
นั่นมันเป็นแค่นโยบายช่วงหาเสียง ;D
-
หึๆๆ....ฮา ว่า แล้ววววว.....
ก็ดีละครับ ทุกวันนี้ รถก็จะล้นถนนอยู่แระ...