Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HOMY_DEMIO ที่ กันยายน 13, 2011, 14:46:01
-
วันนี้ ครม.อนุมัติคืนภาษี ตามนี้นะครับ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,15296.msg227585.html#msg227585 (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,15296.msg227585.html#msg227585)
หลายคนวิเคราะห์ว่า eco-car ภาษี 17% น่าจะซวยเพราะคนไทยแห่ไปซื้อรถ 1.5 ลิตรที่คืนภาษีสูงสุดมากกว่า
และมันน่าจะเป็นการทำลายฐาน eco-car มากกว่าจะช่วยสร้างยอดขาย
ส่วนรถกระบะยังไง ๆ มันก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตลาดเมืองไทยอยู่ดี
แต่โดยส่วนตัว เนื่องจากการลดภาษีคืนนั้นทำได้หลังจากต้องซื้อรถใช้แล้ว 1 ปีเต็ม เราผ่อนงวดหรือจ่ายสดต้องเต็ม
เหมือนซื้อรถตามปกติ ทำให้คนหลายกลุ่มยังผ่อนรถ 1.5 ลิตรไม่ได้แน่ ๆ ล่ะ คนกลุ่มนี้ประชากรก็ไม่ได้น้อย ๆ นะยังไงก็ต้องซื้ออีโคคาร์อยู่ดี
ส่วนบางคนบอกว่าเป็นแผนของใครนั้นผมไม่รู้แล้วอ่ะ
-
ผมว่าไม่กระทบเพราะยังไง march ก็ราคาถูกกว่าอยู่ดี โดยเฉพาะพวกตัวล่างๆ ราคาจะต่ำกว่า 4 แสนด้วยซ้ำครับ(S E MT /E CVT)
แต่ที่จะกระทบ คือ ตัวบนๆ ของ march เช่น V VL Brio V CVT อันนี้โดนเต็มๆ เพราะราคาพวก MZ 2 ตัวถูก /เฟียสต้า ตัว 1.4/Vios J E AT
ราคามันจะเข้ามาเท่าๆกันหรือถูกกว่า March ด้วย อันนี้น่ากลัวมาก
-
ผมว่า อาจจะทำให้คนที่กำลัง ลังเลว่า
เอาอีโค่คาร์ดี หรือเพิ่มเงินอีกไม่กี่หมื่นไปซื้อรถ 1.5 ลิตร
ก็ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เพราะรถ 1.5 ลิตร น่าจะได้คืนภาษีเยอะกว่า
ผมว่า โครงการนี้ เอื้อประโยชน์ให้คนมีเงินอยู่แล้วมากกว่าครับ
คนที่พร้อมจะซื้อรถ พร้อมที่จ่ายเงินผ่อนให้ครบ 5 ปี โดยที่ห้ามขายรถเลย
คนที่ไม่มีเงิน จะไปซื้อ
ถ้าเกิดว่าผ่อนๆ อยู่ ผ่อนไม่ไหวนี่
งานช้างเข้ามาเยือนแน่นอน เพราะขายรถไม่ได้ ถึงขายได้ ก็โอนไม่ได้
ถ้าหาคนไปผ่อนต่อไม่ได้ เสร็จแน่นอน
(เอ..รู้สึกจะตอบไม่ตรงประเด็น)
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า
อีโค่คาร์ อาจจะเสียตลาดจากกลุ่มคนที่กำลัง ลังเลอยู่ว่า จะเลือกแบบไหนดี
อืมมมม
จะว่าไปแล้ว
ผมว่า อีโค่คาร์ ตัวท๊อปสุด ยอดขายอาจจะลดลง เพราะคนหนีไปซื้อรถ 1.5 ลิตร ตัวถูกสุด กันครับ
ว่ากันง่ายๆ
ถ้าซื้อ มาร์ชท๊อป
เพิ่มเงินนิดหน่อย ไปซื้อ มาสด้า 2 ตัวถูกสุดดีกว่า
เพราะได้ภาษีคืนมากกว่า (รึเปล่า ผมก็ไม่รู้ว่า มาสด้า 2 กับมาร์ช เสียภาษีเท่าไหร่กันบ้าง)
-
รัฐบาลฉลาดนะครับ เน้นคนอายุเกิน 21 ผมเลยอดเอาชื่อน้องชายมาใช้ :'(
ล่าสุด มีพี่ที่บริษัทจะใช้ชื่อน้องชายมาซื้อรถเรียบร้อยแล้วครับ vios E AT น่าจะขายดีแน่ๆเลย
-
นโยบายนี้คนที่จะซื้อรถก็ถือว่าได้ gift voucher อาจจะต้องรีบตัดสินใจแห่กันซื้อเอาเงินไปหมุนรัฐช่วงระยะเวลานึง
ส่วนคนที่ไม่ได้จะซื้อแต่แรกก็คงไม่ได้ยี่หระอะไรมากเท่าไหร่นัก
ก็จะมีแต่ธุรกิจ SME ขนาดเล็กที่ผมคิดว่าจำเป็นอาจจะต้องใช้รถในระหว่างนี้ ก็สอยกระบะมาทำมาหากินสักคัน
ถ้าไม่มีนโยบายนี้ก็อาจจะซื้อพวกรถจีนมาขับ พอมีก็ซื้อรถตลาดทั่วไป
-
ผมคนนึงแหละครับ ที่ว่าจะออก march VL แม้ราคาใกล้เคียง กลุ่มเครื่อง 1500 เพราะอยากได้เครื่องเล็กครับ ที่บ้านมีแต่รถเครื่องใหญ่ๆแล้ว ไม่รู้เอา 1500 มาทำไมอีก แต่ก็รอดู ส่วนต่างภาษีก่อนครับ ว่าตกลงคืนเท่าไร่กันแน่ ถ้าต่างไม่มาก เอา มาร์ชแน่นอนครับ
-
ผมคนนึงแหละครับ ที่ว่าจะออก march VL แม้ราคาใกล้เคียง กลุ่มเครื่อง 1500 เพราะอยากได้เครื่องเล็กครับ ที่บ้านมีแต่รถเครื่องใหญ่ๆแล้ว ไม่รู้เอา 1500 มาทำไมอีก แต่ก็รอดู ส่วนต่างภาษีก่อนครับ ว่าตกลงคืนเท่าไร่กันแน่ ถ้าต่างไม่มาก เอา มาร์ชแน่นอนครับ
ดูตารางแล้ว ต่างกันไม่เกิน 1 หมื่นครับ :D
-
รถกระบะเสียภาษี 3% ได้เงินคืนเผลอเผลอไม่ถึงสองหมื่น......
-
เสียที่ทำไม่ไม่ให้รถที่ผลิตในประเทศทุกรุ่นไปเลยล่ะ ต้องจำกัด แบบนี้ผลประโยชน์ตกที่ไหนก็ตรงนั้นตลอด
-
ไม่ต้องกำหนดหลอกว่าเกินล้าน เพราะจากขอที่กำหมดทั้งหมดมันไม่มีรถที่อยู่ในเกนเกิน 700000 สักคัน
รถกระบะได้แต่ ตอนเดียว กับแคบ รถเก่งก็ไม่เกิน 1500 อดอะ ว่าจะออกปาเจโร่ ตัวล่างสุดหน่อย
-
รถกระบะเสียภาษี 3% ได้เงินคืนเผลอเผลอไม่ถึงสองหมื่น......
ต้องซื้อ double cab ครับ คุ้ม ได้ลดมาจนราคาเท่ากัน(แต่ภาษีรายปีแพง)
-
นโยบายนี้ มันครอบคลุมถึง กระบะมือสอง ไหมครับ ถ้าครอบคลุม ราคารถเท่าไรถึงจะได้คืนภาษีเต็มๆ100000 บาท
และการซื้อรถ 1 คัน เราเสียค่าอะไรบ้าง
-ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่ากันทุกคัน ทุกประเภท?
-ภาษีสรรพสารมิต กี่% ?
-ค่าจดทะเบียน ค่าต่อภาษีประจำปี นี่คือภาษีสรรพสารมิตหรือเปล่า
-หากผ่อน ต้องเสียดอกเบี้ยเงินผ่อน (อันนี้ไม่เข้ารัฐแต่เราต้องเสีย)
-ประกันภัย(อันนี้ไม่เข้ารัฐแต่เราต้องเสีย)
-และนอกจากที่กล่าวมา เราเสียเงินไปกับอะไรอีก นอกจากราคาตัวรถ
รถมือ 1 มือ 2 ต้องเสียค่าอะไรที่มันแตกต่างกันไหมครับ
รบกวนให้ความกระจ่างหน่อยครับ ซื้อรถมาใช้ เขาให้เสียอะไรก็เสีย โดยที่บอกตรงๆว่า ไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไร
-
นโยบายนี้ มันครอบคลุมถึง กระบะมือสอง ไหมครับ ถ้าครอบคลุม ราคารถเท่าไรถึงจะได้คืนภาษีเต็มๆ100000 บาท
และการซื้อรถ 1 คัน เราเสียค่าอะไรบ้าง
-ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่ากันทุกคัน ทุกประเภท?
-ภาษีสรรพสารมิต กี่% ?
-ค่าจดทะเบียน ค่าต่อภาษีประจำปี นี่คือภาษีสรรพสารมิตหรือเปล่า
-หากผ่อน ต้องเสียดอกเบี้ยเงินผ่อน (อันนี้ไม่เข้ารัฐแต่เราต้องเสีย)
-ประกันภัย(อันนี้ไม่เข้ารัฐแต่เราต้องเสีย)
-และนอกจากที่กล่าวมา เราเสียเงินไปกับอะไรอีก นอกจากราคาตัวรถ
รถมือ 1 มือ 2 ต้องเสียค่าอะไรที่มันแตกต่างกันไหมครับ
รบกวนให้ความกระจ่างหน่อยครับ ซื้อรถมาใช้ เขาให้เสียอะไรก็เสีย โดยที่บอกตรงๆว่า ไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไร
ภาษีมีหลายตัวมากๆ ข้อมูลเค้ามีให้อ่านค่อนข้างชัดเจนนะครับ เรื่องของภาษีแต่ละอย่าง ถามอากู๋ได้เลยครับ เด๋วก็กระจ่างเอง
ส่วนตามนโยบายคือมือ1 เท่านั้น เพราะเค้าจ่ายคืนจากภาษีสรรพสามิตที่เก็บมาจากรถมือหนึ่งตอนเราซื้อครับ มือ2จึงไม่เกี่ยวครับ เพราะสรรพสามิตไม่ได้เก็บตอนเราซื้อมือ2ครับ
-
เสียที่ทำไม่ไม่ให้รถที่ผลิตในประเทศทุกรุ่นไปเลยล่ะ ต้องจำกัด แบบนี้ผลประโยชน์ตกที่ไหนก็ตรงนั้นตลอด
ผลิตในประเทศทุกรุ่น! - -
นโยบายนี้สำหรับ คนเพิ่งเริ่มทำงาน คนที่อยากมีรถคันเเรก ครับ
จำกัด เเค่1500cc กับรถกระบะ นะถูกเเล้ว
-
น่าจะเพิ่มเป็น
เก๋งไม่เกิน 1800cc. นะ ;D
กระบะไม่เกิน 3000cc.
-
ถ้าหากจะสรุปอย่างนี้น่าจะเข้าใจง่ายขึ้นครับ เอาเฉพาะเรื่องอัตราการคืนภาษีเท่านั้น
1. กระบะ / แค็ป 3%
ราคาแพงสุดของกระบะแค็ปตีคร่าวๆ ไม่เกิน 850,000 บาท จะได้คืนภาษี 23,138 บาท
ดังนั้น รถกระบะ จะได้คืนภาษีน้อยที่สุด
2. ECO CAR 17%
ถ้าราคารถเกิน 629,417 บาท จะได้คืนภาษี 100,000
ดังนั้น Ecocar ยังไงก็ลดได้ไม่ถึง 1 แสน แน่นอน เพราะราคาขายแพงสุดไม่น่าเกิน 5 แสนปลาย
3. รถนั่ง 1500 cc E20 25%
ถ้าราคารถเกิน 428,000 บาท จะได้คืนภาษี 100,000 บาท
ดังนั้น รถนั่ง 1500 cc จะได้คืนภาษีเต็ม 1 แสนบาท
ปล 1. หัก VAT 7%
2. หักกำไรบริษัท 5%
3. แล้วนำราคาหน้าโรงงานมาหักภาษีสรรพสามิต
-
จิงๆแล้วการจะซื้อรถมันไม่ได้ดูที่ราคาอย่างเดียวอย่างที่ความเห็นข้างบนบอกๆกันว่า ถ้าEcoตัวtopราคาไม่ต่างจากเครื่อง1500ccก็จะไปซื้อ1500cc
ไม่ซื้อEco carทำให้Ecocarกระทบ ซึ่งก็จิงส่วนนึงแต่ก็มีบางคนอาจซื้อEco carโดยไม่ได้ดูที่ราคาอย่างเดียวก็มีครับ อย่างเช่นผมไงแม้ราคาจะไม่ต่างกันมากระหว่าง
Eco car รุ่นtopกับรถเครื่อง1500cc ก็ตาม
-
ยี่ห้อ รุ่น ราคารถ ราคาลดหัก vat7% ภาษีสรรพสามิต ส่วนลดภาษีตามจริง ราคาสุทธิ ภาษีที่จ่ายจริง
1 Nissan March S MT 380,000.00 355,140.19 51,601.57 51,601.57 328,398.43 17
2 Nissan March E MT 430,000.00 401,869.16 58,391.25 58,391.25 371,608.75 17
3 Nissan March E CVT 464,000.00 433,644.86 63,008.23 63,008.23 400,991.77 17
4 Nissan March EL CVT 494,000.00 461,682.24 67,082.04 67,082.04 426,917.96 17
5 Nissan March V CVT 512,000.00 478,504.67 69,526.32 69,526.32 442,473.68 17
6 Nissan March VL CVT 542,000.00 506,542.06 73,600.13 73,600.13 468,399.87 17
7 Honda Brio S MT 399,900.00 373,738.32 54,303.86 54,303.86 345,596.14 17
8 Honda Brio V MT 469,500.00 438,785.05 63,755.09 63,755.09 405,744.91 17
9 Honda Brio V CVT 508,500.00 475,233.64 69,051.04 69,051.04 439,448.96 17
10 Toyota Vios 1.5J MT 514,000.00 480,373.83 96,074.77 96,074.77 417,925.23 25
11 Toyota Vios 1.5J AT 549,000.00 513,084.11 102,616.82 100,000.00 449,000.00 25
12 Toyota Vios 1.5J AT(S) 564,000.00 527,102.80 105,420.56 100,000.00 464,000.00 25
13 Toyota Yaris 1.5J MT 539,000.00 503,738.32 100,747.66 100,000.00 439,000.00 25
14 Toyota Yaris 1.5J AT 574,000.00 536,448.60 107,289.72 100,000.00 474,000.00 25
15Toyota Vigo ตอนเดียว2.5J 507,000.00 473,831.78 13,800.93 13,800.93 493,199.07 3
16Toyota Vigo cab 2.5J 552,000.00 515,887.85 15,025.86 15,025.86 536,974.14 3
17Toyota Vigo cabเปิดได้ 2.5J 594,000.00 555,140.19 16,169.13 16,169.13 577,830.87 3
18Toyota Vigo 4 ประตู 2.5J-PS 634,000.00 592,523.36 63,484.65 63,484.65 570,515.35 12
19Toyota Vigo 4 ประตู 3.0G AT 981,000.00 916,822.43 98,230.97 98,230.97 882,769.03 12
-
7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)
ตาม2ข้อนี้ถ้าคนที่ซื้อรถเงินผ่อนล่ะคับนั่นหมายถึงครอบครองแล้วหรือเปล่าเพราะถ้าผ่อน
มันก็ยังเป้นชื่อของไฟแนนส์ไม่ใช่ชื่อเราเมื่อผ่อนหมดถึงจะโอนมาเป้นของเราถ้าตามที่ผมเข้าใจแล้ว
แบบนี้ต้องซื้อสดเท่านั้นซิคับถึงจะได้ภาษีคืนอ่ะคับแล้วแบบนี้มันจะช่วยคนรายได้น้อยยังไงคับ
หรือจิงๆแล้วมันยังไงคับ
-
มีแนวโน้มว่าจะได้วีออส 1.5 J ABS ปีหน้าซะแล้วครับ คงไม่รอดู L12F กะ ซีวิคแล้วล่ะครับ ไม่เลือกอีโก้คาร์เพราะราคาถูกกว่ากันซะอีก แล้วก็คงได้ติดแก๊สแน่นอน ที่สำคัญช่างที่อู่พ่อผมซ่อมพี่โตเก่ง ค่าซ่อมฟรีเสียแต่ค่าอะไหล่
6 Nissan March VL CVT 542,000.00 506,542.06 73,600.13 73,600.13 468,399.87 17
12 Toyota Vios 1.5J AT(S) 564,000.00 527,102.80 105,420.56 100,000.00 464,000.00 25
9 Honda Brio V CVT 508,500.00 475,233.64 69,051.04 69,051.04 439,448.96 17
ผมว่ากระทบกับตัวท๊อปเลยล่ะครับ เพราะปกติตัวท๊อปจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับตัวล่างของ B-Segment อยู่แล้ว
-
สงสัย
1.คืนเงินภาษีสรรพสามิตร คืนอย่างไร เฉพาะบุคคลที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้นใช่หรือไม่(เอาไปลดหย่อนภาษีเงินได้)
คาดการณ์
งานนี้ Mazda2 มีเฮ พี่ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี คงอารมณ์ดีเป็น พิเศษ
Ford Fiesta นั่งอึ้งไปตามๆกัน ไม่หนีกันกับเพื่อนร่วมชาติ อาวิโอ้ โดนหมัดนี้ 1.6 จุกไปเลย
Toyota Vios สั่งorder supplier + ตั้งไลน์ไว้เลย 8,000++ ทุกเดือนแน่ / Yaris อาจจะเห็นยอดขาย 600-800 กลับมาใหม่
Honda จากที่ปรามาสไว้เมื่อ สองสัปดาห์ก่อน
ว่ายอดปลายปีอาจจะไม่ถึง 127,200 คันภายในสิ้นปีนี้ ตอนนี้คงต้องยอมรับว่ายอดปลายปีนี้ถึงที่ตั้งไว้แน่ๆ
แก้ไข เพิ่มลิ้งค์
มาสดาทำงานกันเร็วดี ออกตัวแรงมาก
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116470 (http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116470)
-
สงสัย
1.คืนเงินภาษีสรรพสามิตร คืนอย่างไร เฉพาะบุคคลที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้นใช่หรือไม่(เอาไปลดหย่อนภาษีเงินได้)
คาดการณ์
งานนี้ Mazda2 มีเฮ พี่ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี คงอารมณ์ดีเป็น พิเศษ
Ford Fiesta นั่งอึ้งไปตามๆกัน ไม่หนีกันกับเพื่อนร่วมชาติ อาวิโอ้ โดนหมัดนี้ 1.6 จุกไปเลย
Toyota Vios สั่งorder supplier + ตั้งไลน์ไว้เลย 8,000++ ทุกเดือนแน่ / Yaris อาจจะเห็นยอดขาย 600-800 กลับมาใหม่
Honda จากที่ปรามาสไว้เมื่อ สองสัปดาห์ก่อน
ว่ายอดปลายปีอาจจะไม่ถึง 127,200 คันภายในสิ้นปีนี้ ตอนนี้คงต้องยอมรับว่ายอดปลายปีนี้ถึงที่ตั้งไว้แน่ๆ
แก้ไข เพิ่มลิ้งค์
มาสดาทำงานกันเร็วดี ออกตัวแรงมาก
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116470 (http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000116470)
ฝากให้เอาไปอ่าน ครับ
ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 และ พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 สินค้าและสถานบริการประเภท น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เครื่องดื่ม เครื่องปรับอากาศ โคมระย้า แก้วและเครื่องแก้ว รถยนต์ น้ำหอม รถจักรยานยนต์ พรม แบตเตอรี่ เรือ สนามแข่งม้า และสนามกอล์ฟ ได้บัญญัติรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบอุตสาหกรรม
2. ผู้ประกอบกิจการสถานบริการ
3. ผู้นำเข้าซึ่งสินค้า
4. ผู้อื่นตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น ผู้ดัดแปลงรถยนต์ ผู้กระทำผิดฐานมีไว้ในครอบครอง ขาย และมีไว้เพื่อขาย ฯ ตามมาตรา 161, 162 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527
* นโยบายเขาลดภาษีสรรพสามิต ไม่ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้
เงินได้รับคืนหลังจากเป็นเจ้าของรถ 1 ปี ครับ
พูดจนเบื่อเเล้ว ;D ;D ;D
-
^
^
^
^
ขอบคุณครับคุณ เฮียหลี
พอดีสับสนหน่ะครับ ก่อนหน้านี้บอกว่าจะเอาส่วนลดไปลดหย่อนภาษีเงินได้ ไม่ได้คืนเป็นเช็ค
แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วครับว่าจะคืนเป็นเช็ค
-
รากหญ้าอย่างผมจะได้มีรถคันแรกกับเขาซักที ;D
-
ดูจากตารางลดหย่อนภาษีแล้ว คนที่มีงบซื้อ Sub-compac 1500cc ตัวล่าง น่าจะขยับไปซื้อตัว กลางๆ ถึงบนได้ ในราคาที่ใกล้เคียงกันมาก
ส่วนคนที่มีงบซื้อ Eco-Car ตัวกลางๆ ถึงบน ก็น่าจะขยับไปซื้อ Sub-compac ตัวล่าง-กลาง ในราคาที่ใกล้เคียงกันมากเช่นกัน
-
ไม่ได้ อคติ นะ แต่ อดคิด ไม่ได้ ว่า...
อดีต รมต. ทรท. ที่ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท รถ ยี่ห้อ t มีเอี่ยวด้วยหรือเปล่า หว่า เพราะ เคยทำแท้ง eco car มาหลายครั้ง ตอนมีอำนาจ เพราะตัวเองไม่มีรถ ขาย พอหมดอำนาจ eco car ได้เกิด และ การตอบรับดี พอ อำนาจเดิม เริ่มกลับมา เลยหาทาง ขัดขา คนอื่น ด้วยเรื่อง มีผลแน่นอน เป็น แสนเลยนะ + - แล้วรถของ t กะลังจะออกด้วย ส่วนต่างมันจะ ช่วยดึงความสนใจ ไปหาของใหม่ ของรุ่น y เพราะเห็นรีบร้อนทำกันจัง ของอื่นที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ยัง แพงอยู่เลย ... ยังไม่เห็น รีบทำ ขนาดนี้เลย..ว่า มั๊ย...
-
ดูจากตารางลดหย่อนภาษีแล้ว คนที่มีงบซื้อ Sub-compac 1500cc ตัวล่าง น่าจะขยับไปซื้อตัว กลางๆ ถึงบนได้ ในราคาที่ใกล้เคียงกันมาก
ส่วนคนที่มีงบซื้อ Eco-Car ตัวกลางๆ ถึงบน ก็น่าจะขยับไปซื้อ Sub-compac ตัวล่าง-กลาง ในราคาที่ใกล้เคียงกันมากเช่นกัน
ประเด็นคือ หลายคนจะไม่ผ่านไฟแนนซ์ในการผ่อนรถ 1.5 ลิตรครับ
ยังไงตลาดล่างสุดที่มีกำลังซื้อก็ต้องซื้ออีโคคาร์กันอยู่แล้ว ถ้าไฟแนนซ์ไม่ผ่าน บางคนคงจะไต่ไป 1.5 ลิตรล่างกลางบนไม่ได้เต็มที่นัก
-
ไม่ได้ อคติ นะ แต่ อดคิด ไม่ได้ ว่า...
อดีต รมต. ทรท. ที่ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท รถ ยี่ห้อ t มีเอี่ยวด้วยหรือเปล่า หว่า เพราะ เคยทำแท้ง eco car มาหลายครั้ง ตอนมีอำนาจ เพราะตัวเองไม่มีรถ ขาย พอหมดอำนาจ eco car ได้เกิด และ การตอบรับดี พอ อำนาจเดิม เริ่มกลับมา เลยหาทาง ขัดขา คนอื่น ด้วยเรื่อง มีผลแน่นอน เป็น แสนเลยนะ + - แล้วรถของ t กะลังจะออกด้วย ส่วนต่างมันจะ ช่วยดึงความสนใจ ไปหาของใหม่ ของรุ่น y เพราะเห็นรีบร้อนทำกันจัง ของอื่นที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ยัง แพงอยู่เลย ... ยังไม่เห็น รีบทำ ขนาดนี้เลย..ว่า มั๊ย...
อาจจะเอี่ยวนิดโหน่ย เพราะ จำกัดแค่ 1500CC
บวกกับ เงื่อนไขเวลาที่ กำหนดไว้ 31 ธ.ค.2555 (อีโค่คาร์ใครยังไม่มาน้า)
ผมอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้
-
เอาเงินส่วนรวมมาแก้บน
-
บริษัทรถยนต์ที่ได้ผลประโยชน์จากนโยบายนี้เต็มๆ คงจะเป็นบริษัทที่ไม่มีนโยบาย Eco-car อย่าง Mazda กับ บริษัทที่ ยังไม่ได้ผลิต Eco-car อย่าง Toyota ยิ่งตอนนี้ วีออส ลดแลกแจกแถมสุดๆซะด้วย น่าจะขัดขา Almera ที่กำลังจะออกมาได้พอสมควร
-
สงสาร Brio ครับขายได้น้อยอยู่แล้วเจอหมัดนี้เข้าไป ถือว่าเจ็บมากเลย
คิดว่า March น่าจะพอขายไปได้อยู่ครับ จากกลุ่มคนที่ต้องการรถประหยัดน้ำมัน
-
ดูเหมือนนโยบายนี้จะเข้าทาง City Minorchange มากๆเลยนะครับ ;D
เพราะ นโยบายนี้เริ่มเดือนตุลาคม คงจะไล่เลี่ยกับช่วงเปิดตัวของ City
และ City เครื่องยนต์ไม่เกิน 1500 CC อยู่แล้ว..............
เอาง่ายๆ คือ
กระทบ"โดยตรง"กับ Brio ละกัน(ใครคิดซื้อรุ่น V CVT คงชะงักถ้ามาดู City S AT ราคาถูกลงจนต่างจากบริโอ้แค่ไม่กี่หมื่น.....)
แต่ March ไม่มากหรอก.......
ถ้าเอารุ่น E CVT ราคา 4 แสนนิดๆ ก็ถูกกว่า City S AT ลดภาษีอยู่ดี
*แต่งานนี้ ผมไม่ท้า Vios J รุ่นเบสิคนะครับ รายนั้น 514,000 บาท ถ้าลดภาษีอีก
คงจะไล่เลี่ย March รุ่น E,EL,V เลยละ
-
ผมเห็นส่วนใหญ่ แต่ละท่านจะนำการคืนภาษีมาหักลบออกจากราคารถ
ถ้าคิดให้ละเอียดลงไปอีก จะบอกว่าดูแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ
เพราะว่ายังไงเราก็ยังจะต้อง ผ่อนรถคันนั้นนั้นที่ราคาเต็มของมันอยู่ดี
ดอกเบี้ยเงินผ่อนก็โดนเต็มเต็ม ไม่น่าจะทำให้คนเอื้อมซื้อรถได้ง่ายขึ้นเลย
เงินในวันนี้ กับเงินในวันข้างหน้า ค่าไม่เท่ากันอีก
เพราะฉะนั้นจริงจริงแล้ว ภาษีที่ได้คืนมาในอีกหลายปีข้างหน้านั้น
ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่ากับจำนวนเงินที่เราเห็นในวันนี้ด้วยซ้ำ
เอากันจริงจริงแล้ว ผมคิดว่าแทบไม่ได้อะไรจากนโยบายนี้เลยด้วยซ้ำ
ยกเว้นคนที่มีเงินอยู่แล้ว ซื้อได้สบายมาก ก็ได้ส่วนลดภาษีมาใช้เล่นอีกนิดหน่อย
-
ผมเห็นส่วนใหญ่ แต่ละท่านจะนำการคืนภาษีมาหักลบออกจากราคารถ
ถ้าคิดให้ละเอียดลงไปอีก จะบอกว่าดูแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ
เพราะว่ายังไงเราก็ยังจะต้อง ผ่อนรถคันนั้นนั้นที่ราคาเต็มของมันอยู่ดี
ดอกเบี้ยเงินผ่อนก็โดนเต็มเต็ม ไม่น่าจะทำให้คนเอื้อมซื้อรถได้ง่ายขึ้นเลย
เงินในวันนี้ กับเงินในวันข้างหน้า ค่าไม่เท่ากันอีก
เพราะฉะนั้นจริงจริงแล้ว ภาษีที่ได้คืนมาในอีกหลายปีข้างหน้านั้น
ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่ากับจำนวนเงินที่เราเห็นในวันนี้ด้วยซ้ำ
เอากันจริงจริงแล้ว ผมคิดว่าแทบไม่ได้อะไรจากนโยบายนี้เลยด้วยซ้ำ
ยกเว้นคนที่มีเงินอยู่แล้ว ซื้อได้สบายมาก ก็ได้ส่วนลดภาษีมาใช้เล่นอีกนิดหน่อย
นี่เป็นสิ่งที่ผมพยายามพิมพ์ พยายามบอกหลายครั้งแล้ว
แต่หลายคนยังเข้าใจว่า หักราคาหน้าป้าย อยู่เลย
เฮ้อ
ที่เนยสรุปชัดเจนที่สุดครับ
-
จะมีคนที่มีเงินอีกสักกี่คน ที่ยังไม่มีรถและจะมาซื้อรถโครงการ eco car ส่วนใหญ่รถแบบนี้ผ่อนกันทั้งนั้นเลย
เสียดายเงินภาษีนะครับ น่าจะเอาไปทำอะไรที่ดีกว่านี้ได้มากมาย ;)
-
City SV น่าจะได้ลดเท่าไหรครับ
-
(http://img202.imageshack.us/img202/6176/32738022868766051415810.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/202/32738022868766051415810.jpg/)
Uploaded with ImageShack.us (http://imageshack.us)
อันนี้ ตารางคร่าวๆ ไม่รู้ถูกไหมนะครับ ;)
-
ยังมีอีกเจ้าที่จุกสุดๆ ครับ สำหรับผม คิดว่าหนักกว่า Eco-Car ซะอีก นั่นคือ Fiesta !! ตัวแรงขายดี ที่อุตส่าห์ฉุด Ford ขึ้นมาได้
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่เล่นตัว 1.6 กันทั้งนั้น แล้วนี่กลายเป็น 1.6 โดนกั้นไปเต็มๆ
ส่วน 1.4 คนไม่ค่อยเล่นกัน เพราะมีคนเจอปัญหาเยอะ ประหยัดก็สู้ 1.6 ไม่ได้ เครื่องสู้ไม่ได้ เกียร์ก็แย่กว่า เทคโนโลยีต่างๆ ที่ Fiesta เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันก็หายไป ไม่ว่าจะ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน เพราะของพวกนี้มีอยู่แค่ในตัว 1.6 เท่านั้น
ก็มาดูกันว่าตัวชูโรงของ Ford อย่าง Fiesta 1.6 โดนดอกนี้เข้าไปจะเป็นยังไง แต่ผมขอเดาว่าอีก 2 เดือนยอดตก !!
-
สง สาร แต่ ฟิ เอียสสส ต้าาา เกิดมา มี เครื่อง 1 จุด 6 ชูโรง :P
เดี๋ยวไป Comments ใน FB เจ็ปูแกดีกว่า เผื่อจะขยับเป็น 1.6 ได้ ;D
-
สงสัยครับ สมมุติ ถ้าผมซื้อมาสด้า 2 ราคา 545,000 บาท แบบผ่อนสัก 4 ปี จะได้ลดภาษี 100,000 บาท ใช่ไหมครับ
แล้ว 100,000 จะจ่ายคืนหลังจาก 1 ต.ค. 2555 โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวเลยหรือทยอยจ่ายเป็นปีๆไป แล้วสรุปจะได้คืน 100,000 บาสทจริงป่าว?
ไม่เกี่ยวกับภาษีที่เราต้องจ่ายทุกๆปีใช่ป่าว
ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมาครับ
:)
-
ตอนคิดยอดสำหรับผ่อนต่องวดของไฟแนนซ์ก็ต้องคิดราคาเต็มด้วยซิเนี่ย (ผมเข้าใจอย่างนี้นะ) งั้นจริงๆ ทุกเดือนๆที่จ่ายค่างวดก็จ่ายเยอะเหมือนเดิมซิ
-
ผมว่ารัฐออกนโยบายผิดอย่างแรงนะ ในเรื่องนี้
เพราะถ้าดูจากยุคและเหตุการณ์ปัจจุบันแล้ว
ลดหนึ่งแสนสำหรับรถคันแรก น่าจะไปลดหนึ่งแสนสำหรับเรือลำแรก จะดีกว่ามั๊ยค่ะคุณลูกค้า
-
สงสัยครับ สมมุติ ถ้าผมซื้อมาสด้า 2 ราคา 545,000 บาท แบบผ่อนสัก 4 ปี จะได้ลดภาษี 100,000 บาท ใช่ไหมครับ
แล้ว 100,000 จะจ่ายคืนหลังจาก 1 ต.ค. 2555 โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวเลยหรือทยอยจ่ายเป็นปีๆไป แล้วสรุปจะได้คืน 100,000 บาสทจริงป่าว?
ไม่เกี่ยวกับภาษีที่เราต้องจ่ายทุกๆปีใช่ป่าว
ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมาครับ
:)
เข้าใจถูกแล้วครับ ตามข่าวน่าจะจ่ายเชคครั้งเดียว
หลังคุณซื้อรถ 1 ปี
พร้อมทั้งทำสัญลักษณ์สมุดเล่มทะเบียนรถยนต์ห้ามโอนภายใน 5 ปี
ถ้าเกิดเหตุผ่อนไม่ได้ไม่ไหว คิดว่าคงต้องโดนค่าปรับ
ตอนคิดยอดสำหรับผ่อนต่องวดของไฟแนนซ์ก็ต้องคิดราคาเต็มด้วยซิเนี่ย (ผมเข้าใจอย่างนี้นะ) งั้นจริงๆ ทุกเดือนๆที่จ่ายค่างวดก็จ่ายเยอะเหมือนเดิมซิ
ใช่ครับ ผอ่นเต็ม ดาวน์เด็ม ดอกเบี้ยเต็ม ๆ ครับ เขาไม่ลดให้
เผลอ ๆ บริษัทหาเรื่องขึ้นราคาได้อีกครับ
-
ผมก็ยังมองว่าไม่น่าจะกระทบกับ Eco-Car เพราะยังไงก็ถูกกว่ารถ B-Segment อยู่ดี (ยกเว้นตัว top) ซึ่งถึงแม้ว่ารถแพงกว่าได้ภาษีคืนเยอะกว่า แต่ภาระในการผ่อน และความเสี่ยงที่จะผ่อนไม่ไหวโดนยึด ก็สูงตามไปด้วย ผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อย คงจะไม่ทำอะไรเกินตัวหรอกครับ (แต่คนที่ทำอะไรเกินตัว ก็คงมีบ้างแหละ ธรรมดาครับ)
ที่สำคัญ ภาษีคืนทีหลัง แสดงว่ายอดผ่อนยังเท่าเดิมนะครับ ถ้าไม่มีเงินก็ผ่อนไม่ได้อยู่ดีแหละ
-
อ่านไปอ่านมามา นโยบายเหมือนตั้งใจ ดูดเงินออกจากกระเป๋า
คนชั้นกลางหรือเจ้าของธุรกิจ SME ที่พอจะมีเงินเก็บ
มาให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น
-
สงสัยครับ สมมุติ ถ้าผมซื้อมาสด้า 2 ราคา 545,000 บาท แบบผ่อนสัก 4 ปี จะได้ลดภาษี 100,000 บาท ใช่ไหมครับ
แล้ว 100,000 จะจ่ายคืนหลังจาก 1 ต.ค. 2555 โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวเลยหรือทยอยจ่ายเป็นปีๆไป แล้วสรุปจะได้คืน 100,000 บาสทจริงป่าว?
ไม่เกี่ยวกับภาษีที่เราต้องจ่ายทุกๆปีใช่ป่าว
ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมาครับ
:)
เข้าใจถูกแล้วครับ ตามข่าวน่าจะจ่ายเชคครั้งเดียว
หลังคุณซื้อรถ 1 ปี
พร้อมทั้งทำสัญลักษณ์สมุดเล่มทะเบียนรถยนต์ห้ามโอนภายใน 5 ปี
ถ้าเกิดเหตุผ่อนไม่ได้ไม่ไหว คิดว่าคงต้องโดนค่าปรับ
ตอนคิดยอดสำหรับผ่อนต่องวดของไฟแนนซ์ก็ต้องคิดราคาเต็มด้วยซิเนี่ย (ผมเข้าใจอย่างนี้นะ) งั้นจริงๆ ทุกเดือนๆที่จ่ายค่างวดก็จ่ายเยอะเหมือนเดิมซิ
ใช่ครับ ผอ่นเต็ม ดาวน์เด็ม ดอกเบี้ยเต็ม ๆ ครับ เขาไม่ลดให้
เผลอ ๆ บริษัทหาเรื่องขึ้นราคาได้อีกครับ
ขอบคุณครับ แสดงว่าก้อเหมือนซื้อรถปกติ เผลอๆส่วนลดได้น้อยลง แต่ 1 ปี ผ่านไปจะได้เงินคืนมา 100,000 บาท
แบบนี้ก้อดีสำหรับคนที่ตั้งใจจะซื้อรถอยู่แล้วซินะ
55
:) :) :)
-
สงสัยครับ สมมุติ ถ้าผมซื้อมาสด้า 2 ราคา 545,000 บาท แบบผ่อนสัก 4 ปี จะได้ลดภาษี 100,000 บาท ใช่ไหมครับ
แล้ว 100,000 จะจ่ายคืนหลังจาก 1 ต.ค. 2555 โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวเลยหรือทยอยจ่ายเป็นปีๆไป แล้วสรุปจะได้คืน 100,000 บาสทจริงป่าว?
ไม่เกี่ยวกับภาษีที่เราต้องจ่ายทุกๆปีใช่ป่าว
ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมาครับ
:)
ผมลองทำตารางมาให้ดูนะครับ เป็นของมาสด้า 2 ทั้ง 5 ประตูและซีดาน รุ่นล่างสุด m/t ราคาหน้าห้าง 545,000 บาท
กรณีที่ 1 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 งวด (ดอก ณ ปัจจุบัน ประมาณ 2.4 ต่อปีครับ)
-ปีแรกเราจะผ่อนไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 111,998 บาท และจะได้เชคคืนเป็นเงิน 100,000 บาท เท่ากับว่าปีแรกยังเข้าเนื้ออยู่ 11,998 บาทครับ
-เมื่อผ่อนรถหมดครบ 4 ปี ราคารถจริงเมื่อผ่อนหมดหลังหักแสนนึงปีแรกไปแล้วจะเท่ากับ 484,240 บาท เท่ากับว่าเมื่อผ่อนหมดจะซื้อถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่ 60,760 บาท หรือประหยัดเงินไปเท่ากับ 60,760/4 = 15,190 บาท/ปี
กรณีที่ 2 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 72 งวด (ดอก ณ ปัจจุบัน ประมาณ 2.99 ต่อปีครับ)
-ปีแรกเราจะผ่อนไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 80,347 บาท และจะได้เชคคืนเป็นเงิน 100,000 บาท เท่ากับว่าปีแรกเรากำไรอยู่ 19,653 บาทครับ
-เมื่อผ่อนรถหมดครบ 6 ปี ราคารถจริงเมื่อผ่อนหมดหลังหักแสนนึงปีแรกไปแล้วจะเท่ากับ 518,330 บาท เท่ากับว่าเมื่อผ่อนหมดจะซื้อถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่ 26,670 บาท หรือประหยัดเงินไปเท่ากับ 26,670/6 = 4,445 บาท/ปี
กรณีที่ 3 ซื้อสดคุ้มที่สุดครับ ไม่ต้องผ่อนรายเดือน ครบ 1 ปี ได้รับเงินคืน 100,000 บาท เท่ากับซื้อรถถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่แสนนึงเต็มๆ
ปล.ไม่รวมค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายแอบแฝงอื่นๆนะครับ
สรุปว่างานนี้คุ้มครับ สำหรับคนที่อยากเป็นหนี้หรือหาภาระเพิ่มเล่นๆ และชอบนั่งเล่นชิวๆในรถยามรถติด(เตรียมใจไว้ได้เลยครับ) แต่จะคุ้มน้อยคุ้มมากก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของแต่ละคนเองละครับ
-
แล้วPJSจะได้ลดด้วยมั้ยครับเนี้ย
-
สงสัยครับ สมมุติ ถ้าผมซื้อมาสด้า 2 ราคา 545,000 บาท แบบผ่อนสัก 4 ปี จะได้ลดภาษี 100,000 บาท ใช่ไหมครับ
แล้ว 100,000 จะจ่ายคืนหลังจาก 1 ต.ค. 2555 โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวเลยหรือทยอยจ่ายเป็นปีๆไป แล้วสรุปจะได้คืน 100,000 บาสทจริงป่าว?
ไม่เกี่ยวกับภาษีที่เราต้องจ่ายทุกๆปีใช่ป่าว
ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมาครับ
:)
ผมลองทำตารางมาให้ดูนะครับ เป็นของมาสด้า 2 ทั้ง 5 ประตูและซีดาน รุ่นล่างสุด m/t ราคาหน้าห้าง 545,000 บาท
กรณีที่ 1 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 งวด (ดอก ณ ปัจจุบัน ประมาณ 2.4 ต่อปีครับ)
-ปีแรกเราจะผ่อนไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 111,998 บาท และจะได้เชคคืนเป็นเงิน 100,000 บาท เท่ากับว่าปีแรกยังเข้าเนื้ออยู่ 11,998 บาทครับ
-เมื่อผ่อนรถหมดครบ 4 ปี ราคารถจริงเมื่อผ่อนหมดหลังหักแสนนึงปีแรกไปแล้วจะเท่ากับ 484,240 บาท เท่ากับว่าเมื่อผ่อนหมดจะซื้อถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่ 60,760 บาท หรือประหยัดเงินไปเท่ากับ 60,760/4 = 15,190 บาท/ปี
กรณีที่ 2 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 72 งวด (ดอก ณ ปัจจุบัน ประมาณ 2.99 ต่อปีครับ)
-ปีแรกเราจะผ่อนไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 80,347 บาท และจะได้เชคคืนเป็นเงิน 100,000 บาท เท่ากับว่าปีแรกเรากำไรอยู่ 19,653 บาทครับ
-เมื่อผ่อนรถหมดครบ 6 ปี ราคารถจริงเมื่อผ่อนหมดหลังหักแสนนึงปีแรกไปแล้วจะเท่ากับ 518,330 บาท เท่ากับว่าเมื่อผ่อนหมดจะซื้อถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่ 26,670 บาท หรือประหยัดเงินไปเท่ากับ 26,670/6 = 4,445 บาท/ปี
กรณีที่ 3 ซื้อสดคุ้มที่สุดครับ ไม่ต้องผ่อนรายเดือน ครบ 1 ปี ได้รับเงินคืน 100,000 บาท เท่ากับซื้อรถถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่แสนนึงเต็มๆ
ปล.ไม่รวมค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายแอบแฝงอื่นๆนะครับ
สรุปว่างานนี้คุ้มครับ สำหรับคนที่อยากเป็นหนี้หรือหาภาระเพิ่มเล่นๆ และชอบนั่งเล่นชิวๆในรถยามรถติด(เตรียมใจไว้ได้เลยครับ) แต่จะคุ้มน้อยคุ้มมากก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของแต่ละคนเองละครับ
ขอบคุณมากๆคับ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก แต่ผมมีเงินดาวน์ไม่เกินแสน กะว่าจะดาวน์แค่ 15% แล้วผ่อน 48 หรือ 72 ก้อได้แล้วแต่ดูความต่างก่อน
รบกวนทำตารางสรุปให้อีกได้ไหมคับ จะเอาไปคุยกับแม่ อิอิอิ เห็นภาพชัดดี
:) :)
-
ถามว่าทำลายโครงสร้างหรือไม่
ตอบ คงไม่ถึงกับทำลายหรอกครับ เพราะ E CO CAR ใจความหลักของมันคือ ความประหยัดน้ำมัน มันก็ยังจะเป็นของมันแบบนี้ คนที่เน้นจุดนี้ก็ยังจะซื้อมันอยู่
แต่ถ้าถามว่า ส่งผลกระทบหรือไม่
ตอบ กระทบแน่ๆ และกระทบแรงด้วย เพราะ E CO CAR ใจความรองของมันคือ ราคาที่ถูกกว่ารถ B - SEG นี่คือจุดเปลี่ยน หากคนท่ี่เน้นดูที่ราคารถเทียบกับสิ่งที่ได้มา (ความคุ้ม) เขาก็คงขยับไปหา B - SEG ไม่มากก็น้อย
ถึงจะดาวน์ จะผ่อนเท่าเดิม แต่การได้รับเงินคืนมา มันก็ไม่ต่างจากการหักราคาหน้าป้าย เพราะเป็นเงินกระเป๋าเดิมอยู่ดี เมื่จบเกม ก็จะได้รถที่ราคาถูกกว่าคนที่ไม่ได้รับสิทธิ แต่ก็คงแค่พอยิ้มได้ :)ไม่ถึงกับหัวเราะร่า :D ซื้อแพง ก็จ่ายแพง
ปล.แต่ทุกวันนี้ ค่าผ่อน ECO กับ B-SEG มันก้ต่างกันเดือนละ 1000-2000 เท่านั้นนะ ถ้า B-SEG ลดให้ใกล้ๆ หรือเต็ม 100000 พอจบเกมราคา ECO กับ B-SEG จะจ่ายใกล้กันมาก งานนี้ยอดขายน่าจะไหลไปทาง B-SEG มากกว่า คหสต
-
สงสัยครับ สมมุติ ถ้าผมซื้อมาสด้า 2 ราคา 545,000 บาท แบบผ่อนสัก 4 ปี จะได้ลดภาษี 100,000 บาท ใช่ไหมครับ
แล้ว 100,000 จะจ่ายคืนหลังจาก 1 ต.ค. 2555 โดยจ่ายเป็นก้อนเดียวเลยหรือทยอยจ่ายเป็นปีๆไป แล้วสรุปจะได้คืน 100,000 บาสทจริงป่าว?
ไม่เกี่ยวกับภาษีที่เราต้องจ่ายทุกๆปีใช่ป่าว
ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ รบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมาครับ
:)
ผมลองทำตารางมาให้ดูนะครับ เป็นของมาสด้า 2 ทั้ง 5 ประตูและซีดาน รุ่นล่างสุด m/t ราคาหน้าห้าง 545,000 บาท
กรณีที่ 1 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 งวด (ดอก ณ ปัจจุบัน ประมาณ 2.4 ต่อปีครับ)
-ปีแรกเราจะผ่อนไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 111,998 บาท และจะได้เชคคืนเป็นเงิน 100,000 บาท เท่ากับว่าปีแรกยังเข้าเนื้ออยู่ 11,998 บาทครับ
-เมื่อผ่อนรถหมดครบ 4 ปี ราคารถจริงเมื่อผ่อนหมดหลังหักแสนนึงปีแรกไปแล้วจะเท่ากับ 484,240 บาท เท่ากับว่าเมื่อผ่อนหมดจะซื้อถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่ 60,760 บาท หรือประหยัดเงินไปเท่ากับ 60,760/4 = 15,190 บาท/ปี
กรณีที่ 2 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 72 งวด (ดอก ณ ปัจจุบัน ประมาณ 2.99 ต่อปีครับ)
-ปีแรกเราจะผ่อนไปเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 80,347 บาท และจะได้เชคคืนเป็นเงิน 100,000 บาท เท่ากับว่าปีแรกเรากำไรอยู่ 19,653 บาทครับ
-เมื่อผ่อนรถหมดครบ 6 ปี ราคารถจริงเมื่อผ่อนหมดหลังหักแสนนึงปีแรกไปแล้วจะเท่ากับ 518,330 บาท เท่ากับว่าเมื่อผ่อนหมดจะซื้อถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่ 26,670 บาท หรือประหยัดเงินไปเท่ากับ 26,670/6 = 4,445 บาท/ปี
กรณีที่ 3 ซื้อสดคุ้มที่สุดครับ ไม่ต้องผ่อนรายเดือน ครบ 1 ปี ได้รับเงินคืน 100,000 บาท เท่ากับซื้อรถถูกกว่าราคาหน้าป้ายอยู่แสนนึงเต็มๆ
ปล.ไม่รวมค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายแอบแฝงอื่นๆนะครับ
สรุปว่างานนี้คุ้มครับ สำหรับคนที่อยากเป็นหนี้หรือหาภาระเพิ่มเล่นๆ และชอบนั่งเล่นชิวๆในรถยามรถติด(เตรียมใจไว้ได้เลยครับ) แต่จะคุ้มน้อยคุ้มมากก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของแต่ละคนเองละครับ
ขอบคุณมากๆคับ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก แต่ผมมีเงินดาวน์ไม่เกินแสน กะว่าจะดาวน์แค่ 15% แล้วผ่อน 48 หรือ 72 ก้อได้แล้วแต่ดูความต่างก่อน
รบกวนทำตารางสรุปให้อีกได้ไหมคับ จะเอาไปคุยกับแม่ อิอิอิ เห็นภาพชัดดี
:) :)
จัดไปครับ ผมทำเป็น excel ไว้ครับ ถ้าจะขอไฟล์ก็ได้ เดี๋ยวเมลไปให้ครับ
-
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าผ่อนจะไม่ค่อยคุ้มอ่ะครับ อีกอย่างยังไม่มีรายได้ แต่มีสิทธิ์ ที่บ้านก็เลยคิดว่าจะซื้อสดน่ะครับ คุ้มดีครับ ไม่ต้องโดนดอกด้วย :D
-
มันไม่ใช่ปัจจัย 4 ครับ
สำหรับรถยนต์ นโยบายมันไม่ควรมีมาตั้งแต่แรกแล้ว
ส่วนบ้านผมว่า ดีครับ
มันกระทบแบบโดมิโน่ ไปเรื่อย ๆ พวกเต๊นท์มือสอง โอดโอย กันแย่ล่ะ
-
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าผ่อนจะไม่ค่อยคุ้มอ่ะครับ อีกอย่างยังไม่มีรายได้ แต่มีสิทธิ์ ที่บ้านก็เลยคิดว่าจะซื้อสดน่ะครับ คุ้มดีครับ ไม่ต้องโดนดอกด้วย :D
ไม่เกี่ยวกับผ่อนหรือจ่ายสดนะครับ เพราะถ้าไม่มีส่วนลด100000 ผ่อนมันก็ต้องจ่ายมากกว่าซื้อสดอยู่แล้วเพราะมีดอกเบี้ย ยังไงมันก็ได้ผลเท่ากันในท้ายที่สุด
ตัวอย่างสมมติ รถราคา 5 แสน จ่ายสด 5แสน จ่ายผ่อนมันก็ประมาณ 5แสน3 ต่างกัน7หมื่น
ถ้ามีส่วนลด1แสน ในปีแรก จ่ายสดก็ 4แสน(หลังได้เงินคืน) ผ่อนก็ 4แสน3(หลังได้เงินคืน) ก็ต่างกัน7หมื่นนั่นแหละครับ
-
ยี่ห้อ รุ่น ราคารถ ราคาลดหัก vat7% ภาษีสรรพสามิต ส่วนลดภาษีตามจริง ราคาสุทธิ ภาษีที่จ่ายจริง
1 Nissan March S MT 380,000.00 355,140.19 51,601.57 51,601.57 328,398.43 17
2 Nissan March E MT 430,000.00 401,869.16 58,391.25 58,391.25 371,608.75 17
3 Nissan March E CVT 464,000.00 433,644.86 63,008.23 63,008.23 400,991.77 17
4 Nissan March EL CVT 494,000.00 461,682.24 67,082.04 67,082.04 426,917.96 17
5 Nissan March V CVT 512,000.00 478,504.67 69,526.32 69,526.32 442,473.68 17
6 Nissan March VL CVT 542,000.00 506,542.06 73,600.13 73,600.13 468,399.87 17
7 Honda Brio S MT 399,900.00 373,738.32 54,303.86 54,303.86 345,596.14 17
8 Honda Brio V MT 469,500.00 438,785.05 63,755.09 63,755.09 405,744.91 17
9 Honda Brio V CVT 508,500.00 475,233.64 69,051.04 69,051.04 439,448.96 17
10 Toyota Vios 1.5J MT 514,000.00 480,373.83 96,074.77 96,074.77 417,925.23 25
11 Toyota Vios 1.5J AT 549,000.00 513,084.11 102,616.82 100,000.00 449,000.00 25
12 Toyota Vios 1.5J AT(S) 564,000.00 527,102.80 105,420.56 100,000.00 464,000.00 25
13 Toyota Yaris 1.5J MT 539,000.00 503,738.32 100,747.66 100,000.00 439,000.00 25
14 Toyota Yaris 1.5J AT 574,000.00 536,448.60 107,289.72 100,000.00 474,000.00 25
15Toyota Vigo ตอนเดียว2.5J 507,000.00 473,831.78 13,800.93 13,800.93 493,199.07 3
16Toyota Vigo cab 2.5J 552,000.00 515,887.85 15,025.86 15,025.86 536,974.14 3
17Toyota Vigo cabเปิดได้ 2.5J 594,000.00 555,140.19 16,169.13 16,169.13 577,830.87 3
18Toyota Vigo 4 ประตู 2.5J-PS 634,000.00 592,523.36 63,484.65 63,484.65 570,515.35 12
19Toyota Vigo 4 ประตู 3.0G AT 981,000.00 916,822.43 98,230.97 98,230.97 882,769.03 12
ขอวิธีคำนวณด้วยครับ
-
เค้าคิดราคาหน้าโรงงานนะครับ
ราคาขายที่เรารู้กันนี้
รวม vat สรรพสามิตร กำไร เข้าไปแล้ว