Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: reyeshenry ที่ กันยายน 14, 2011, 11:25:32
-
เข้าใจว่าเป็นนโยบายที่ดีครับ ช่วยคนอยากมีรถหลายๆคน
แต่ ก็อดตั้งคำถามในใจไม่ได้ว่า ท่าที่ผมทราบ หลายๆประเทศทั่วโลก เขาเน้นให้คนใช้ระบบขนส่งมวลชน แต่เข้าใจว่า ระบบขนส่งมวลชนเรายังไม่ดีพอ ยังไม่ครอบคลุม
การซื้อรถยนต์ในต่างประเทศ อย่างต่างอเมริกาเนี่ย ที่ผมทราบ ราคารถ ไม่แพงมาก แต่ภาษี ต่างๆ โดยเฉพาะภาษีจอด แพงมาๆ
จึงแอบคิดในใจ เงินที่เอาไปเป็นส่วนลดให้รถแต่ละคันเนี่ย คิดเป็นเงิน ก็หลายหมื่นล้าน แสนล้าน ถ้าเอาสร้างระบบรถไฟฟ้า ดีๆ ได้เป็น ร้อยๆ กิโลเมตรเลยนะนั่น
ก็เลยสงสัยว่า นอกจากประเทศไทยแล้ว มีประเทศไหนในโลกบ้างที่สนับสนุนให้ประชาชนซื้อรถยนต์ ?
ปล.บ่นตามประสาครับ อย่าถือสา มาแชร์ความรู้สึกกันครับ
-
อืมจริงครับ เพราะ คทสญหกต. นโยบายแบบนี้เลยใช้ได้ผลดีนักแล ::)
-
น่าจะมีอเมริกานะครับ เพราะที่นั่นเค้าสนับสนุนให้คนเป็นหนี้ บ้านหลังใหญ่ รถคันใหญ่
-
แทนที่จะ เอาภาษีไปช่วยประชาชน กำลังเดือดร้อนน้ำท่วมกันอยู่ กลับช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000
เพลียกันต่อไป ไหนจะ บ้านหลักแรกอีก / ค่าแรงขั้นต่ำ / ลอยตัว NGV LPG :-X
-
เขาบอกว่าเขาไม่ได้สนับสนุนให้คนมาซื้อรถเพิ่มครับ
เขาบอกว่าเขาต้องการช่วยเหลือ หรือแบ่งเบาภาระ สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถครับ
โปรดเข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐด้วยครับ ถึงแม้ว่าการกระทำมันจะแตกต่างจากเจตนาก็ตามที
-
น่าจะเยอะครับ เช่น ญี่ปุ่นเมื่อรถเก่าระดับนึง(จำไม่ได้ว่า5ปีหรือเปล่า)ตัวรถจะต้องจ่ายภาษีแพงเหมือนบังคับให้ขายเพื่อซื้อรถใหม่กลายๆ
หรือจะเยอรมัน ที่เราสามารถเอารถเก่าไปเทรินเป็นรถใหม่ที่ประหยัดน้ำมันและมลพิษต่ำแล้วจะได้รับการลดหย่อนภาษี
จุดประสงค์หลักๆของพวกนี้ก็คือกระตุ้นให้มีการซื้อรถใหม่ เศรษฐกิจจะได้ดีๆ
อีกข้อนึงคือเป็นการกำจัดรถเก่าๆที่กินน้ำมันและมลพิษเยอะไปด้วยในตัว
-
ถ้าสมัยก่อน ก็มีบ้าง เช่น ญี่ปุ่นออกนโยบาย Kei Car เพื่อให้คนจนเข้าถึงรถเล็กราคาถูกได้ (ก็คล้ายๆ Eco Car ของเราแหละ) แต่นั่นเป็นเมื่อ 50 ปี ที่แล้วครับ
ปัจจุบัน มักจะเป็นกฎหมายที่ส่งเสริมให้คนเปลี่ยนมาใช้รถประหยัดพลังงาน ลดมลพิษมากกว่า ไม่ใช่รถอะไรก็ได้
ส่วนเรื่องนโยบาย ก็พูดกันไปหลายทีแล้ว จนมันออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ตอนนี้ขอรอดูอีกสักพัก แล้วค่อยมาวิจารณ์ครับ
อืมจริงครับ เพราะ คทสญหกต. นโยบายแบบนี้เลยใช้ได้ผลดีนักแล ::)
มันแปลว่าอะไรครับ บอกผมที??
น่าจะมีอเมริกานะครับ เพราะที่นั่นเค้าสนับสนุนให้คนเป็นหนี้ บ้านหลังใหญ่ รถคันใหญ่
จริงๆ มันก็ไม่เชิง มันต้องย้อนกลับไปเมื่อเกือบๆ 100 ปีที่แล้ว คือสมัยก่อนเนี่ย บริษัทรถยนต์มีอำนาจมาก เขาว่ากันว่า (คือหลักฐานไม่แน่ชัด) ช่วงที่ USA กำลังพัฒนาประเทศ พวกบริษัทรถยนต์ (GM) ก็ไป lobby รัฐบาลสหรัฐ ให้ไม่พัฒนาพวกรถไฟ หรือขนส่งมวลชน เพื่อที่จะดันให้ยอดขายรถยนต์ และรถเมล์สูงขึ้น จึงเป็นที่มาว่าทำไมคน อเมริกันขับรถเยอะ และในเมื่อรถไฟไม่สะดวก จึงต้องซื้อรถคันใหญ่ ให้เหมาะกับการเดินทางไกล (ไม่ใช่เพราะคนขับตัวใหญ่หรอกครับ คนอังกฤษ ฝรั่งเศสก็ตัวใหญ่นะครับ)
ลองไปอ่านดูครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Great_American_streetcar_scandal (http://en.wikipedia.org/wiki/Great_American_streetcar_scandal)
-
ไม่รู้ว่ามีประเทศไหนที่มีนโยบายนี้บ้างแต่ผมฟังธงว่านั่นต้องเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าแล้วทั้งหมดและมีค่าเฉลี่ยรายได้ต่อคนอยู่ในระดับสูงถึงสูงมากครับ ซึ่งประเทศด้อยพัฒนาอย่างไทยยังไงก็ไม่เหมาะ รถติด น้ำมันแพง เศรษกิจผันผวน จำนวนคนจนยังมากกว่าคนรวย วิกฤตน้ำท่วมในปัจจุบัน และเรื่องราวอื่นๆอีกมากมายบ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมสักนิดที่จะเอาเรื่องนี้มาใช้กัน
ยืนยันเหมือนเดิมว่าไปมองดูคนที่มีความจำเป็นต้องใช้รถในการเดินทางดีกว่า คนชั้นกลางและล่างที่ต้องใช้รถเมล์รถไฟฟ้าน่ะ ซื้อรถเมล์ชั้นดีได้ครบทุกสายทั่วประเทศเลยนะเงินขนาดนี้ ไอ้เรื่องเอาใจคนมีเงินแล้วให้เค้าสบายขึ้นน่ะไม่ต้อง ผมคนนึงไม่ต้องการครับเอาไปให้คนที่เค้าจำเป็นจริงๆซะ!!! ออกนโยบายนี้มาเคยบ้างไหมที่จะเดินทางรอบกรุงเทพสักวันโดยใช้เงินไม่เกินร้อยบาท? ไม่เคยสัมผัสความลำบากของชนชั้นล่างแต่กล้าพูดว่าออกนโยบายแบบนี้เพื่อให้คนสบายกัน พลาดมหันต์แล้ว จับคนในรัฐบาลทุกคนไปลองนั่งรถเมล์สีสักสายขี้คร้านแค่ป้ายเดียวลงมาจะอยากโละทิ้งสั่งซื้อรถเมใหม่แทบไม่ทันกัน
ถ้าอยากจะกระตุ้นเศรฐกิจไปโน่นเลยครับลงทุนด้านสินค้าการเกษตรส่งออกที่ประเทศไทยไปรียบด้านภูมิศาสตร์เหนือกว่าหลายๆพื้นที่โลก สนับสนุนจัดการกันดีๆเราทำเงินได้ดีไม่แพ้ที่ญี่ปุ่นส่งออกรถขายเลย ทำไมไม่ทำวะ? ขออนุญาติการเมืองหน่อย ผมมองว่ารัฐบาลนี้พยายามจะเบนเข็มวางแผนเอาใจคนให้สนับสนุนตัวเองมากขึ้นโดยมาเน้นที่ชนชั้นกลางที่เริ่มมีฐานะบ้างแล้วหลังจากที่ออกนโยบายเพิ่มเงินเดือนเอาใจระดับชนชั้นล่างมาแล้ว แต่ไม่ว่าแผนไหนก็ไม่ได้มีผลดีขึ้นเลยมีแต่คนจนลงทุกวัน ขึ้นเงินแบบไม่มีแบบแผนผลที่ได้คือสินค้าขึ้นราคาเงินเฟ้อ เอาใจคนมีเงินอยู่แล้วเอาภาษีมาถลุงเล่นเงินหมดคลังไปห้าหมื่นล้านก็ต้องเอาจากประชาชนมาชดใช้ในส่วนนี้อยู่ดี สุดท้ายตายหร่ากันหมดเราๆท่านๆ เสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อหลากสี ไม่ได้มีใครมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นสักนิด ลำบากกว่าเก่าอีก
-
รถไฟความเร็วสูงเขามีแผนจะสร้างอยู่เเล้ว ส่วนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายก็กำลังสร้างอยู่(4-5ปีน่าจะเสร็จ)
นโยบายภาษีรถยนต์ ไม่ถึงเเสนล้านครับ เมื่อวานอนุมัติไป3หมื่นล้าน
ถือเป็น ออเดิร์ฟ เเล้วกัน เพราะกว่าระบบขนส่งมวลทั่วประเทศ จะเสร็จสมบูรณ์ก็อีกหลายปี
-
เงินแสนล้านบาทไทย ไม่ได้รถไฟฟ้าเป็นร้อยๆ กิโลเมตรครับ
ถ้าทำในกรุงเทพฯ 50 กิโลเมตรจะได้หรือเปล่าครับ และใช้เวลาสร้างเป็น 4 ปีขึ้นไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่ารัฐบาลไม่ได้หน้าสิครับ
ไม่ได้แพงที่ระบบ หรือราง หรือตัวรถไฟฟ้านะครับ แต่มันแพงที่ดินที่จะเวนคืนทำรถไฟฟ้าครับ
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าน่ะมีอยู่แล้วครับ แต่ พท. เคลียร์กับ BTS ไม่ค่อยได้ ซึ่งมันเป็นบริษัทเอกชน(มหาชน) พท. เขาจะทำเป็น 20 บาทตลอดสาย ใต้ดินยอมแล้ว รฟม. ยอมแล้ว เหลือ BTS ครับ
และถ้าทำรถไฟฟ้าต้องได้รับความร่วมมือกับ กทม. ด้วย ซึ่ง มี ปชป. คุมอยู่ แล้วจะเอายังไงล่ะทีนี้
ก็รอดูกันต่อไป แต่อย่าไปทำตามชาติตะวันตกมากนะครับ ไม่งั้นประเทศไทยจะเป็นประเทศไทยได้อย่างไรกัน
ผมว่ายึกหลักของพระเจ้าอยู่หัว โอเคสุดครับ พอเพียงครับ ใช้แต่พอดี
ตอนนี้อเมริกา ก็เจอกับการถอยหลังลงคลองหนักขึ้นเรื่อยๆ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ทางออกของปัญหามี แต่ไม่กล้าทำ ถ้าทำคะแนนเสียงพรรคของรัฐบาลคงไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก
ยุโรปก็หนักเอาเรื่องเหมือนกัน ถ้าประเทศไทยยังเป็นอย่างนี้ต่อไป มัวแต่ทะเลาะกันคงไม่ได้เรื่อง คงได้แต่นั่งมอง จีน อินเดีย บราซิล รัฐเซีย เจริญเอาๆ
-
ก้อนที่จะเถียงกันไปไหล
ตอบคำถามเจ้าของกระทู้กันก่อนดีกว่า
ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา
ญี่ปุ่นเอง ก็มีโครงการ ECO Car แต่แนวทางของเขาคือ "รถเพื่อสิ่งแวดล้อม"
ยิ่งประหยัดน้ำมัน ยิ่งปล่อยมลพิษต่ำ ภาษียิ่งถูก ได้ส่วนลดภาษีไปเยอะมาก
โครงการนี้ จบสิ้นลงเมื่อ เดือนกันยายน ปีที่แล้ว
สหรัฐอเมริกา ตอนนั้น บารัก โอบามา เองก็ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจ
ออกโครงการมามากมาย หนึ่งในนั้นคือ Cash for Crunker
ให้ประชาชน เอารถรุ่นเก่าที่ไม่ต้องการแล้ว ไปเทิร์นเปลี่ยนรถใหม่ที่ศูนย์ฯ
โดยได้ส่วนลดกี่พันเหรียญฯ ก็ว่าไป แต่รถที่แลกเปลี่ยนไป ต้องถูกทำลายทิ้งสถานเดียว
เอาไปขายต่อไม่ได้เด็ดขาด ต้องทำให้พัง ก่อนเอาไปย่อยรีไซเคิล
สรุปว่า มีครับ แต่กระบวนการจัดการ และการกระตุ้นของเขา
มันเป็นสิ่งที่เหมาะสม กับทั้งประชาชน และบริษัทรถยนต์
คือทุกฝ่ายได้ประโยชน์กัน ในภาพรวม มากๆ
แต่บ้านเรา ต่อให้บริษัทรถยนต์ได้ประโยชน์
ถ้าจะให้ลองไปถามความเห็นส่วนตัว ของผู้บริหารบริษัทรถยนต์หลายค่าย
ลึกๆ เขาก้ไม่เห็นด้วยกัน เพาะเขามองว่า นี่คือการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดเอาเสียเลย
ประเทศเราไม่ได้มีปัญหาอะไรด้าน เศรษฐกิจที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ กันขนาดนั้น
แต่ทำไมต้องกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนด้วยวิธีนี้ ?
-
คนซื้อรถส่วนตัวมาใช้ เพราะระบบขนส่งมวลชนเมืองไทยห่วย
ไปถามเด็กป.4 มันยังตอบได้เลยว่าควรจะแก้ที่อะไร
แก้ให้ซื้อรถส่วนตัวสะดวกขึ้น ?
หรือ..
แก้ให้โดยสารขนส่งมวลชนสะดวกขึ้น ?
ผมล่ะไม่อยากจะรู้เลยว่ารัฐบาลนี้มันไปเอาความคิดบ๊องๆ แบบนี้มาจากไหน... ::)
-
มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ
ต้องเข้าใจว่าประเทศไทย รายได้ทั่วไปต่ำกว่าที่จะซื้อของที่มีความจำ อย่างรถ หรือ บ้านได้
การที่มีนโยบายแบบนี้ ส่วนนึง (มองในแง่ดี) เป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย โดยมีกำหนดเงื่อนไขต่างๆนานา เช่น เครื่องยนต์ไม่เกินเท่านี้ ราคาไม่เกินเท่าไหร่ เป็นรถผลิตในประเทศ บลา บลา.....
รถในปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างนึงในชีวิต ไม่มีมัน...บางทีจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยตามมาทีหลัง โดยเฉพาะการเดินทางในเวลากลางคืนโดยรถยนต์โดยสารสาธารณะ
แต่บางคนกลับออกมาบ่นว่าทำไม กำหนดเครื่องเล็กจัง แบบนี้ก็ซื้อรถใหญ่ไม่ได้นะซิ
ถ้าคิดแบบนี้ผมมองว่าเห็นแก่ตัว เพราะถ้าคุณมีรายได้ขนาดซื้อรถ C-segment ขึ้นไปได้แล้ว รายได้คุณก็คงดีในระดับนึง
ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด เหมือนจะมุ่งส่งเสริมรถที่เพียงพอต่อความจำเป็น มากกว่ารถที่ซื้อมาเผื่อความสะดวกสบายส่วนตัว ผมค่อนข้างเห็นด้วยในจุดนี้ มันเหมือนเป็นกำลังใจอย่างนึงให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย
-----------------------------------------------------------------------------------------
แต่ที่สำคัญกว่า คือ ไม่ใช่การส่งเสริมให้คนซื้อรถ แต่ต้องส่งเสริมให้คนไม่ใช้รถควบคู่กันไปด้วย (อย่าเพิ่งงงครับ)
การพัฒนาระบบขนส่งต่างๆ และจัดการเรื่องผังเมือง เป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไปด้วย
ผมคนนึงที่ไม่นิยมใช้รถ ถ้าไม่จำเป็น และผมคิดว่าคนส่วนใหญ่คงไม่อยากใช้เหมือนกัน ถ้าระบบขนส่งดีพอที่จะทำให้พวกเขาจอดรถไว้ที่บ้านได้
------------------------------------------------------------------------------------------
สุดท้าย นโยบายจะดีหรือไม่ดี มันไม่ได้อยู่ที่ตัวนโยบายเพียงอย่างเดียว หากอยู่ที่คนจะนำมันมาใช้ในทางที่ควรจะเป็น หรือ ใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
-
ผมว่าที่เขาทำนโยบายนี้ ดีในแง่นึง คือ สนับสนุนรถประหยัดพลังงาน(1.5 ลงไป) และรถทำมาหากิน(กระบะ)
แต่อยากให้เอาเงินไปลงทุน ทำรถไฟฟ้าจะดีกว่าไหม :D
-
สงสัยวันที่ 17 หัวข้อที่สนธนากันในร้านอาหาร ต้องบรรจุออเดิร์ฟนี้ไว้แน่ๆ 5 5 5
จริงๆ อยากจิมมี่พูด(และก็ลบกระทู้ผมไปด้วย 5 5 5 เข้าใจนะไม่ว่ากัน)
ผมว่าการกำหนดกรอบนโยบายมันสะเปะสะปะ ไปหน่อยน่ะ
ถ้าสนับสนุนจริงๆ ต้องมีนโยบายนี้ควบคุมไปกับการลอยตัวน้ำมันไปเลย...ต้องบวกและลบไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่งั้นกองทุนน้ำมันก็แบกหนี้สินเดือนไม่รู้กี่พันล้าน จริงๆ ควรเป็นแบบนั้น แต่ทำไม่ได้เพราะถ้าทำก็เสียคะแนนเสียง
สุดท้ายมันก็วกเข้ามาเรื่องเหล่านี้จริงๆ คำถามที่ดีที่ผมอ่านบทวิเคราะห์ นสพ.ไทยโพสต์เมื่อวานคือ
นโยบายทั้งหลายทั้งแหล่เนี่ย รัฐบาลใช้เงินร่วมๆ 700,000 ล้านครับ แล้วคำถามคือ แล้วรัฐบาลจะหาเงินมาจากไหน?
จุดนี้มากกว่า ที่ผมอยากรู้ว่า รัฐบาลจะหาเงินจากที่ไหน มา ซัพพอรตอภิมหาประชานิยม อย่างที่กำหนดนโยบายออกมา....
-
สงสัยวันที่ 17 หัวข้อที่สนธนากันในร้านอาหาร ต้องบรรจุออเดิร์ฟนี้ไว้แน่ๆ 5 5 5
จริงๆ อยากจิมมี่พูด(และก็ลบกระทู้ผมไปด้วย 5 5 5 เข้าใจนะไม่ว่ากัน)
ผมว่าการกำหนดกรอบนโยบายมันสะเปะสะปะ ไปหน่อยน่ะ
ถ้าสนับสนุนจริงๆ ต้องมีนโยบายนี้ควบคุมไปกับการลอยตัวน้ำมันไปเลย...ต้องบวกและลบไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่งั้นกองทุนน้ำมันก็แบกหนี้สินเดือนไม่รู้กี่พันล้าน จริงๆ ควรเป็นแบบนั้น แต่ทำไม่ได้เพราะถ้าทำก็เสียคะแนนเสียง
สุดท้ายมันก็วกเข้ามาเรื่องเหล่านี้จริงๆ คำถามที่ดีที่ผมอ่านบทวิเคราะห์ นสพ.ไทยโพสต์เมื่อวานคือ
นโยบายทั้งหลายทั้งแหล่เนี่ย รัฐบาลใช้เงินร่วมๆ 700,000 ล้านครับ แล้วคำถามคือ แล้วรัฐบาลจะหาเงินมาจากไหน?
จุดนี้มากกว่า ที่ผมอยากรู้ว่า รัฐบาลจะหาเงินจากที่ไหน มา ซัพพอรตอภิมหาประชานิยม อย่างที่กำหนดนโยบายออกมา....
จ่ายภาษีปีละ สองแสนอยู่นี่ไงครับ ให้พวกมันเอาไปผลาญเล่น >:( >:( >:(
-
ขอแสดงความคิดเห็นนะครับผม
1. ผมว่าตอนนี้นโยบายยังไม่ได้ถูกนำมาใช้จริงแต่อย่างใด พวกเราก็ได้แต่เสนอความคิดว่า ผลจากนโยบายนี้จะออกมาอย่างไร ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า เราต้องให้เวลา ให้โอกาส รัฐบาลลองใช้ นโยบาย ก่อนนะครับ เราถึงจะตัดสินจากผลของมัน ไม่ใช่ความน่าจะเป็นของนโยบาย
2. การที่เราต่อต้านการสนับสนุนให้คนมีรถนั้น เป็นเพราะว่า เรากลัวที่เราขับรถออกจากบ้าน ขับรถบนถนน แล้วเราจะเสียเวลาเดินทางมากขึ้น รถจติดมากขึ้นหรือเปล่า ทำไมไม่เห็นมีใครพูดเลยว่า เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถติด อยากจะให้คนไทยลองมองปัญหาโดยเริ่มที่ตัวเองก่อนเลยนะครับ เพราะการจะแก้ปัญหาจะแก้ได้ง่ายขึ้น ถ้าเราจะเริ่มจากตัวเอง ผมไปทำงานทุกวัน ใช้ขนส่งมวลชนทุกวัน ไม่ได้เอารถออกมาขับเลย คนมีรถ อาจจะไม่ขับก็ได้ คนจำเป็นต้องใช้รถ อาจจะยังไม่มีใช้ก็ได้นะครับ
3. ขนส่งมวลชน ไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกเรื่องนะครับ ยกตัวอย่าง BRT ที่วิ่งอยู่แถวๆ สาทร พระราม3 เนี่ยครับ หลายคนอาจจะเคยเห็น ผมทำงานอยู่แถวๆนั้น โต๊ะทำงานมองออกไปเห็นสถานีต้นทาง แต่ขอโทษนะครับ ไม่เคยเห็นคนรอขึ้นรถ หรือว่าลงจากรถเลยครับ คนใช้กันน้อยมากๆ มีแต่จะทำให้รถติดเพิ่มขึ้นเพราะ แบ่งพื้นผิวการจราจรไปหนึ่งเลนกว่าๆ และที่มากไปกว่านั้น ผมเคยเห็นป้ายงบประมานที่ใช้ก่อสร้างครับ แค่สถานที่อยู่ตรงแยกนราธิวาสครับ เกือบ สองร้อย ล้านบาท ผมเห็นแล้วแทบจะรั่งร้องไห้ เงินเยอะขนาดนั้น ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย สร้างปัญหาด้วยซ้ำ ไหนจะสถานีอื่นๆอีก รถแต่ละคันไม่รู้ว่าแพงขนาดไหน รวมๆแล้วเท่าไหร่
4. ผมสนับสนุนให้ลอยตัวแก๊สซหุงต้มครับผม ให้ราคาที่แท้จริงของตัวสินค้าได้บ่งบอกถึงปริมาณที่ใช้จริง ไม่ใช่ว่าให้คนที่ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายเพิ่มให้คนเอารถไปติดแก๊สครับ แล้วอ้างว่า จะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ใช้รถติดแก๊ส และ ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งแก๊สในรถยนต์ครับ เปลี่ยนเถอะครับรถเก่าๆที่กินน้ำมันแล้วเอาไปติดแก๊ว คุณสร้างมลพิษเยอะมากๆนะครับ สมัยนี้มาตราฐานมลพิษไปถึงไหนแล้ว รัฐบาลเค้าก็กำลังจะให้ส่วนลดแล้ว เปลี่ยนรถเถอะครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ขอโทษนะครับยาวไปหน่อย แต่บางทีก็อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบ้างครับผม
-
ส่งเสริม กระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเรื่องดีครับ
ทำให้คนกล้าใช้เงินมากขึ้น
แต่มองอีกมุม
ถ้าคนที่กล้าใช้เงิน แต่ไม่มีเงิน = ใช้เิงินเกินตัว = สร้างหนี้
ผมเชื่อว่า นโยบายนี้จะทำให้คน "กล้า" ที่จะออกรถกันมากขึ้น
ในทางกลับกัน มองว่าทำให้คนกล้าเป็นหนี้มากขึ้นเหมือนกัน
ถ้าคนที่ซื้อรถ มีสติ ดูฐานะตัวเอง
นโยบายนี้ จะดีมากกกกกกกก ครับ
แต่มันใช้ไม่ได้กับคนไทยหรอก เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยประเมินตัวเอง
ซื้อๆไปก่อนเพราะได้ลดภาษี แต่ไม่ดูกำลังทรัพย์ตัวเอง
คนแบบนี้ มีเยอะครับ
-
4. ผมสนับสนุนให้ลอยตัวแก๊สซหุงต้มครับผม ให้ราคาที่แท้จริงของตัวสินค้าได้บ่งบอกถึงปริมาณที่ใช้จริง ไม่ใช่ว่าให้คนที่ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายเพิ่มให้คนเอารถไปติดแก๊สครับ แล้วอ้างว่า จะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ใช้รถติดแก๊ส และ ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งแก๊สในรถยนต์ครับ เปลี่ยนเถอะครับรถเก่าๆที่กินน้ำมันแล้วเอาไปติดแก๊ว คุณสร้างมลพิษเยอะมากๆนะครับ สมัยนี้มาตราฐานมลพิษไปถึงไหนแล้ว รัฐบาลเค้าก็กำลังจะให้ส่วนลดแล้ว เปลี่ยนรถเถอะครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ไม่น่าจะลดได้ครับกลับเพิ่มเสียอีก เพราะถึงเราเปลี่ยนจากรถคันเก่าๆไปใช้คันใหม่ก็ตามเพราะรถเก่าๆคันนั้นก็ยังอยู่ในระบบต่อไป กลายเป็นมี 2 คัน ช่วยกันปล่อยมลพิษ ต้องเอารถเก่าเกิน 10 ปี ไปเทิร์นเป็นรถใหม่ได้ส่วนลดเยอะๆ แล้วก็เอารถเก่าไปทำลายเสียถึงจะตัดออกจากระบบได้จริงๆครับ
-
4. ผมสนับสนุนให้ลอยตัวแก๊สซหุงต้มครับผม ให้ราคาที่แท้จริงของตัวสินค้าได้บ่งบอกถึงปริมาณที่ใช้จริง ไม่ใช่ว่าให้คนที่ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายเพิ่มให้คนเอารถไปติดแก๊สครับ แล้วอ้างว่า จะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ใช้รถติดแก๊ส และ ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งแก๊สในรถยนต์ครับ เปลี่ยนเถอะครับรถเก่าๆที่กินน้ำมันแล้วเอาไปติดแก๊ว คุณสร้างมลพิษเยอะมากๆนะครับ สมัยนี้มาตราฐานมลพิษไปถึงไหนแล้ว รัฐบาลเค้าก็กำลังจะให้ส่วนลดแล้ว เปลี่ยนรถเถอะครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ไม่น่าจะลดได้ครับกลับเพิ่มเสียอีก เพราะถึงเราเปลี่ยนจากรถคันเก่าๆไปใช้คันใหม่ก็ตามเพราะรถเก่าๆคันนั้นก็ยังอยู่ในระบบต่อไป กลายเป็นมี 2 คัน ช่วยกันปล่อยมลพิษ ต้องเอารถเก่าเกิน 10 ปี ไปเทิร์นเป็นรถใหม่ได้ส่วนลดเยอะๆ แล้วก็เอารถเก่าไปทำลายเสียถึงจะตัดออกจากระบบได้จริงๆครับ
+1 เห็นด้วยครับ ทุกวันนี้นิยมกันมากเลย ซื้อ รถเก่า ไปติดแก๊ซ เกาไม่ถูกที่คัน ควรจะใช้รถประหยัดพลังงาน กลับกลายเป็น ใช้รถกินน้ำมันแต่ติดแก๊ซง่ายๆ
-
4. ผมสนับสนุนให้ลอยตัวแก๊สซหุงต้มครับผม ให้ราคาที่แท้จริงของตัวสินค้าได้บ่งบอกถึงปริมาณที่ใช้จริง ไม่ใช่ว่าให้คนที่ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายเพิ่มให้คนเอารถไปติดแก๊สครับ แล้วอ้างว่า จะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ใช้รถติดแก๊ส และ ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งแก๊สในรถยนต์ครับ เปลี่ยนเถอะครับรถเก่าๆที่กินน้ำมันแล้วเอาไปติดแก๊ว คุณสร้างมลพิษเยอะมากๆนะครับ สมัยนี้มาตราฐานมลพิษไปถึงไหนแล้ว รัฐบาลเค้าก็กำลังจะให้ส่วนลดแล้ว เปลี่ยนรถเถอะครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ไม่น่าจะลดได้ครับกลับเพิ่มเสียอีก เพราะถึงเราเปลี่ยนจากรถคันเก่าๆไปใช้คันใหม่ก็ตามเพราะรถเก่าๆคันนั้นก็ยังอยู่ในระบบต่อไป กลายเป็นมี 2 คัน ช่วยกันปล่อยมลพิษ ต้องเอารถเก่าเกิน 10 ปี ไปเทิร์นเป็นรถใหม่ได้ส่วนลดเยอะๆ แล้วก็เอารถเก่าไปทำลายเสียถึงจะตัดออกจากระบบได้จริงๆครับ
เห็นด้วยอีกคนครับ
-
ผมรอโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มาก่อน ถึงตอนนั้นพวก Plug-in hybrid หรือ Fuel Cell คงพร้อมจะทำตลาดบ้านเราอย่างเต็มที่ ;D
ฮิฮิ ถึงตอนนั้นค่าไฟก็จะถูก ประหยัดกว่าแก็สเยอะเลย
แต่จริงๆแล้วผมรอ BTS กับ MRT นะ :-*
-
4. ผมสนับสนุนให้ลอยตัวแก๊สซหุงต้มครับผม ให้ราคาที่แท้จริงของตัวสินค้าได้บ่งบอกถึงปริมาณที่ใช้จริง ไม่ใช่ว่าให้คนที่ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายเพิ่มให้คนเอารถไปติดแก๊สครับ แล้วอ้างว่า จะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ใช้รถติดแก๊ส และ ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งแก๊สในรถยนต์ครับ เปลี่ยนเถอะครับรถเก่าๆที่กินน้ำมันแล้วเอาไปติดแก๊ว คุณสร้างมลพิษเยอะมากๆนะครับ สมัยนี้มาตราฐานมลพิษไปถึงไหนแล้ว รัฐบาลเค้าก็กำลังจะให้ส่วนลดแล้ว เปลี่ยนรถเถอะครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ไม่น่าจะลดได้ครับกลับเพิ่มเสียอีก เพราะถึงเราเปลี่ยนจากรถคันเก่าๆไปใช้คันใหม่ก็ตามเพราะรถเก่าๆคันนั้นก็ยังอยู่ในระบบต่อไป กลายเป็นมี 2 คัน ช่วยกันปล่อยมลพิษ ต้องเอารถเก่าเกิน 10 ปี ไปเทิร์นเป็นรถใหม่ได้ส่วนลดเยอะๆ แล้วก็เอารถเก่าไปทำลายเสียถึงจะตัดออกจากระบบได้จริงๆครับ
คนหนึ่งคน ถึงจะมีรถยนต์ สอง คัน แต่ก็ขับได้แค่ครั้งละ หนึ่งคัน นะครับผม ก็สุดแล้วแต่ท่านเจ้าของรถนะครับ ที่จะซื้อรถใหม่มา แล้ว เลือกที่จะขับรถคันเดิมที่สร้างมลพิษมากกว่า หรือ รถยนต์คันใหม่เอี่ยมอรทัย ส่วนรถคันเก่าที่มีอยู่ ท่านเจ้าของรถจะเลือกเก็บไว้เพราะเข้าใจว่า รถบางคันก็มีคุณค่าทางจิตใจกับคนบางคน หรือ ไม่ก็ขายออกไป
-
ขอดูประกาศฉบับจริง ก่อนดีกว่าครับ
-
พวกเราเนี่ยพูดได้เพราะส่วนใหญ่มีรถกันแล้วที่เล่นเว็ปนี้คิดถึงคนที่เค้าไม่มีบ้างไม๊ครับ
ผมว่านโยบายอะไรมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้นแหละครับเป็นทุกนโยบายของทุกๆรัฐบาล
แต่หัวใจสำคัญคือถ้าข้อดีมันมากกว่าก็น่าจะเป็นนโยบายที่ดีได้
ประเทศเรามันผิดที่โคลงสร้างตั้งแต่แรกแล้วครับไหนมีใครบอกผมหน่อยเถอะที่ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน
ไม่ใช่ว่าอยากมีเงินไว้ซื้อรถซื้อบ้านเป็นของตัวเองหรือเก็บเอาไว้ดูแลคนในครอบครัวหรอครับ
แต่เราเคยคิดกันไม๊ว่าโกาสและความสามารถของเราทุกคนมันไม่เท่ากันเราไม่เห็นด้วยก็ต่อเมื่อเราไม่ได้
รับประโยชน์หรือเรามีในสิ่งๆนั้นแล้วผมว่าใจเขาใจเราคำนี้มันยังใช้ได้นะครับ
ลองคิดกันดูเล่นประเทศเราดิ้นรนอยากเป็นแหล่งประกอบและผลิตรถยนต์อันดับต้นๆของเอเซีย
แต่สิ่งที่น่าขำคือรถที่ส่งออกกับมีราคาขายถูกกว่าบ้านเราในบางรุ่นด้วยช้ำเหตุผลเพราะกลัวประเทศขาดดุลการค้า
แต่กลับอยากเป็นประเทศประกอบรถยนต์อันดับต้นมันจะมีค่าอะไรถ้าคนในประเทศไม่มีโอกาสได้ใช้รถในราคาที่เหมาะสม
เราผลิตประกอบรถให้ประเทศอื่นใช้แต่เราเองกลับไม่ได้ใช้ในราคาที่ควรจะเป็นไม่ต้องต่ำเท่าอเมริกาแต่จะให้ไม่คิดก็ไม่ได้
รายได้เฉลี่ยต่อหัวก็มากกว่าเราแต่ดันใช้รถราคาถูกกว่าช่วยทำราคาใหรู้สึกว่าไม่โดนเอาเปรียบมากนักจะเห็นได้ว่าปัจจุบัน
เสียงของผู้บริโภคในไทยก็เริ่มมีประโยชน์เช่นค่ายดาวสามแฉกประกาศลดราคา
ลงมาแข่งกับผู้นำเข้าอิสระผลประโยชน์ก็ตกกับผู้บริโภคชัดเจนน่าคิดว่ารถประกอบในประเทศแต่ทำราคาออกมาแทบไม่ต่างกับนำเข้า
จะเป็นที่อัตราภาษีหรือการตั้งราคาที่เอาเปรียบโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเ็นทั้งสองอย่างลองสังเกตุกันดีๆพอจะเปลี่ยนรุ่นที่ไรหั่นราคามาแบบ
ว่าไม่กลัวคซื้อก่อนหน้าเข้าจะเสียใจไม่หันกลับมาใช้แบรนด์นั้นๆอีก
ถ้าเป็นไปได้อยากให้อัตราภาษีรถยนต์ในประเทศต่ำกว่านี้หรือคิดการจัดเก็บแบบยุธรปก็ได้เดี่ยวก็จะเกิดการแข่งขันกันเองรวมทั้งประสิทธิภาพของรถยนต์
การปล่อยมลพิษจะได้ต่ำลงเป็นการช่วยโลกไปในตัวครับ
-
4. ผมสนับสนุนให้ลอยตัวแก๊สซหุงต้มครับผม ให้ราคาที่แท้จริงของตัวสินค้าได้บ่งบอกถึงปริมาณที่ใช้จริง ไม่ใช่ว่าให้คนที่ใช้น้ำมัน ต้องจ่ายเพิ่มให้คนเอารถไปติดแก๊สครับ แล้วอ้างว่า จะทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น แต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ใช้รถติดแก๊ส และ ผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งแก๊สในรถยนต์ครับ เปลี่ยนเถอะครับรถเก่าๆที่กินน้ำมันแล้วเอาไปติดแก๊ว คุณสร้างมลพิษเยอะมากๆนะครับ สมัยนี้มาตราฐานมลพิษไปถึงไหนแล้ว รัฐบาลเค้าก็กำลังจะให้ส่วนลดแล้ว เปลี่ยนรถเถอะครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ไม่น่าจะลดได้ครับกลับเพิ่มเสียอีก เพราะถึงเราเปลี่ยนจากรถคันเก่าๆไปใช้คันใหม่ก็ตามเพราะรถเก่าๆคันนั้นก็ยังอยู่ในระบบต่อไป กลายเป็นมี 2 คัน ช่วยกันปล่อยมลพิษ ต้องเอารถเก่าเกิน 10 ปี ไปเทิร์นเป็นรถใหม่ได้ส่วนลดเยอะๆ แล้วก็เอารถเก่าไปทำลายเสียถึงจะตัดออกจากระบบได้จริงๆครับ
คนหนึ่งคน ถึงจะมีรถยนต์ สอง คัน แต่ก็ขับได้แค่ครั้งละ หนึ่งคัน นะครับผม ก็สุดแล้วแต่ท่านเจ้าของรถนะครับ ที่จะซื้อรถใหม่มา แล้ว เลือกที่จะขับรถคันเดิมที่สร้างมลพิษมากกว่า หรือ รถยนต์คันใหม่เอี่ยมอรทัย ส่วนรถคันเก่าที่มีอยู่ ท่านเจ้าของรถจะเลือกเก็บไว้เพราะเข้าใจว่า รถบางคันก็มีคุณค่าทางจิตใจกับคนบางคน หรือ ไม่ก็ขายออกไป
ส่วนใหญ่จะเอาคันเก่าไปเทิร์นนะครับ ตัวเราหน่ะขับคันใหม่ แต่คันเก่าไปไหนก็ไม่รู้แล้ว คนที่ซื้อไปหลายคนก็เอาไปติดแก๊สเพราะรถมันเก่าแล้วติดแก๊สไปก็ไม่เสียดาย ไม่ค่อยมีใครหรอกครับที่ซื้อเพิ่มโดยที่ไม่ขายคันเก่าออกไปก่อน ติดปัญหาเรื่องเงิน ไม่ก็มีหลายคันก็ไม่ได้ใช้ ที่จอดไม่พอ เทิร์นไปจะได้ผ่อนน้อยๆบ้าง วันดีคืนดีก็ขับผ่านมาเจ๊อะกันให้หวนนึกถึงความหลังที่เคยอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าซื้อเพิ่มมันก็ไม่ได้เพิ่มมลพิษหรอกครับกลับลดซะอีกแต่คนที่ซื้อเพิ่มโดยที่ไม่ได้ขายคันเก่าออกเนี่ยน่าจะเป็นส่วนน้อยนะครับ
-
ที่บ่นกัน เรื่องของเรื่องคือ ตัวเองมีรถ เเล้วเลย ไม่ได้ผลประโยชน์ใช่ไหม?
เเล้วที่บ่นว่า ทำให้คนเป็นหนี้เป็นสิน
ไม่มีใครบังคับ ให้คุณไปซื้อรถหรอก
คุณต้องประมาณตัวคุณเองว่ามีกำลังซื้อ พอหรือไม่
-
อยากให้มองกันหลาย ๆ มุม
เรื่องส่งเสริมให้คนเป็นหนี้ ผมอยากรู้ว่ามีซักกี่คนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้แล้วไม่ได้ใช้บัตรเครดิตหรือไม่ได้ผ่อนบ้านกัน
ที่พร่ำบอกกันเหลือเกินว่า พอเพียง พอเพียงน่ะ ใช่ครับเพราะคนพูดน่ะพอจนเหลือเฟือต่างหากถึงได้พูดออกมาได้
คนที่เค้าไม่มีโอกาสและ "มีไม่พอจริง ๆ" ในประเทศไทยยังมีอีกเยอะมากมายเลยครับ และพวกเค้าก็ยังต้องกระเสือก กระสนกันต่อไป
สำหรับบางคนการมีรถซักคัน แม้ว่าจะถูกแค่ไหนก็ตาม ทำให้เค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น มีโอกาสทำอะไรได้มากขึ้น
และที่กลัวว่าออกนโยบายนี้ทำให้รถติดอย่างนั้นอย่างนี้
"ประเทศไทยนี่มีแค่กรุงเทพเหรอครับ"
-
ที่บ่น/ด่ากันเป็นเพราะว่าเม็ดเงินที่หายไปมันไม่ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากล่ะครับ ในเว็บนี้ไม่เห็นมีใครบ่นเพราะตัวเองไม่ได้สิทธินั้นเลย จะมีแต่อยากให้เอาไปลงทุนกับรถสาธารณะมากกว่า
ผมคนนึงนี่ไงบ้านมีรถส่วนตัวประหยัดน้ำมันด้วย แต่ต้องใช้รถสาธารณะในการเดินทางในแต่ละวัน ส่วนใหญ๋รถอยู่บ้านเฉยๆ ผมเชื่อว่าคนที่ไม่ได้มีรถก็มีความคิดเช่นเดียวกับผมที่ว่าควรจะต้องมีการสร้างสายรถไฟฟ้าให้มากกว่านี้และมีการปรับปรุงคุณภาพตัวรถและคนขับรถเมล์ทุกสายให้มากกว่านี้ ต่อให้รัฐบาลนี้เอาเงินส่วนตัวมารองรับนโยบายนี้โดยไม่มีเงิ่อนไขมากมายผมก็กาลงคะแนนไม่เห็นสมควรอยู่ดี อย่างที่หลายๆคนบอกข้างบน เรื่องนี้ไม่ช่วยลดมลพิษเพราะรถคันเก่าก็ยังอยู่กลับจะสร้างปัญหารถติดให้หนักขึ้นกว่าเก่าอีก ประเทศไทยไม่ใช่อเมริกาที่มีพื้นที่กว้างใหญ่สามารถสนับสนุนให้ประชากรของเค้ามีรถได้โดยไม่ต้องกังวลรถติด แตกต่างจากประเทศไทยที่ถนนมันก็มีเท่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิมเพราะแผงลอยมายึดถนนไปเรื่อยๆ ต่อให้มันมีรถโคตรรรของความประหยัดใช้พลังงาน40กิโลเมตรลิตรก็ไม่มีใครอยากใช้อยู่ดีเพราะว่ารถมันติดเป็นชั่วโมงประหยัดน้ำมันแค่ไหนก็ไม่พอเสียเวลาเป็นอย่างมาก ค่าน้ำมันที่มีแต่ทะยานขึ้นเรื่อยๆต่อให้ประหยัดมากกว่านี้มันก็ไม่พอแล้ว ไม่อธิบายซ้ำแล้วครับ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยในการแก้ปัญหารถยนต์นั้นคือการสนับสนุนรถสาธารณะให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่สนับสนุนให้คนไทยก่อหนี้โดยไม่จำเป็นแบบนี้
-
อยากให้ลองคิดกันว่า ถ้าตอนดึกๆ บุคคลในครอบครัวคุณๆท่านๆเกิดป่วย/บาดเจ็บ คุณจะยังมายืนรอโบกรถเมล์หรือแท็กซี่กันไหมครับ แล้วถ้ายิ่งเป็นแถบชนบทนี่ยิ่งไม่ต้องหวังระบบขนส่งมวลชนเลยครับ
หรืออย่างง่ายๆ หลายๆคนก็อยากพาครอบครัว/พ่อ-แม่ ไปพักผ่อนด้วยกันใช่ไหมครับ และหลายคนก็คงไม่อยากจะพาคุณย่าคุณยายแบหข้าวของขึ้นรถเมล์ ต่อเป็นสามสี่รอบหรอกครับ
นั่นหละครับ กลุ่มที่เขายังต้องการรถไว้ประจำบ้านแต่ไม่สามารถมีได้ยังมีอีกเยอะครับ
แล้วเราลองมาดูระบบขนส่งมวลชนกันบ้าง อย่างBRT เป็นต้น ใช่ว่าสร้างขึ้นมาจะช่วยลดปัญหาจราจร แต่กลับทำให้ย่อยยับไปกว่าเดิมอีก ประเทศเราผิดพลาดตั้งแต่การวางผังเมืองแล้วครับ
ทางแก้ที่ดีผมว่าไม่ใช่พัฒนาระบบขนส่งมวลชนฟรอกครับ แต่ควรจะผลักดันประชากรให้กระจายออก ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่เหมือนทุกวันนี้ครับ
-
ก็ว่ากันไปครับ จริงอยู่ คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ ตามความตั้งใจของรัฐมันก็มี ตามที่บางท่านว่า
แต่ประเด็นที่อีกหลายๆๆท่าน จะสื่อมากกว่าคือ จำนวนนั้นมัน "น้อย" ครับ ไม่คุ้มกับเม็ดเงินที่ต้องเสียไป เทียบกับการนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ
อย่างที่โน๊ต เดี่ยว9 พูดไว้ในเรื่องของ คำขวัญกทม. เกี่ยวกับเรื่องขนส่งครับ ลองไปฟังดู ยูทูบก็มี จะรอแผ่นแท้ออกก็ยิ่งดี สนุกดีครับ อย่าเครียดครับ ^^
-
ญาติทางฝั่งแฟนผมเป็นคนต่างจังหวัดครับแล้วก็พากันพูดว่าไม่ได้ให้ประโยชน์กับพวกเค้าเลย ชีวิตต่างจังหวัดไม่ได้ต้องเร่งรีบและต้องมีรถยนต์ส่วนตัวเหมือนอย่างในกรุงเทพ เค้ามีรถสองแถว แท็กซี่ รถเมล์ในเมืองพร้อมใช้ ถ้ามีมอเตอไซคันเดียวก็เพียงพอแล้ว คนจำนวนมากตามต่างจังหวัออกรถใหม่มาได้ไม่นานสุดท้าก็จอดไว้บ้านเฉยๆขี่มอเตอไซหรือปั่นจักรยานเอา เพราะไม่รู้จะใช้ไปทำไมระยะทางใก้ๆและที่สำคัญรถไม่ติดด้วย ตามจังหวัดใหญ่ๆที่มีรถติดนั้นลองชะโงกดูใกล้ๆสิครับกรุงเทพมหานครทั้งนั้น รถต่างจังหวัดน้อยมากที่จะติดถ้าไม่ใช่เมืองใหญ่ๆอย่างเชียงใหม่ อยุธยา
รากฐานของระบบคมนาคมที่มีคุณภาพต้องเริ่มต้นมาจากการบริการสาธารณะครับไม่ใช่ที่ตัวคนใดคนหนึ่ง นโยบายนี้ผมให้เต็มที่ไม่เกิน5ปีคนเกือบครึ่งก็ขายรถทิ้งหาซื้อคันใหม่กันหมดแล้ว แต่ถ้าเอามาลงทุนกับรถเมล์เราสามารถใช้งานมันได้อย่างน้อยๆสิบปีหรือมากกว่านั้นตามที่เราเห็นๆกันอยู่ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่เราแล้วที่แล่นๆกันน่ะ ส่วนในกรณีที่ว่ากลางคืนมีคนเจบป่วยนั้นไม่ต้องกลัวเลย ถ้ามีรถสาธารณะจริงไปได้อยู่แล้ว แต่ไม่ต้องมองการไกลขนาดนั้นครับในตอนนี้ชาวบ้านเค้าก็มีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถมือสองสภาพดีๆกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องง้อรถใหม่แต่อย่่างใด และตามพื้นที่นั้นๆก็ไม่ได้มีรถติดมีมลภาวะสูงชนิดที่ต้องเอาเรื่องลดมลพิษมาใช้ด้วย
-
เห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ ประเทศไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพ
ดังนั้นเลิกนโยบายนี้แล้วเอาไปสร้างรถไฟฟ้า ออกจะเป็นความคิดที่ไม่ค่อยคิดถึงหัวอกคนที่อยู่ตจว.ห่างไกล
ไม่มีระบบขนส่งมวลชน หรือจะทำก็ทำยากมากเพราะความหนาแน่นประชากรต่ำเกินไป ไม่คุ้ม
ดังนั้นที่เหมาะสมที่สุดก็คือ นโยบายนี้ เพื่อช่วยให้คนที่จำเป็นและรายได้ไม่มากพอ(แม้จะไม่จนจนไม่มีเงินซื้อรถ)
ก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
พ่อแม่ที่อยู่ตจว.สามารถขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนที่อยู่ห่างออกไป20-30กม.ได้
โดยไม่ต้องทนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนกันไป ฝนตกก็เปียก อันตราย ขนของได้นิดเดียว ฯลฯ
ดึกดื่นจำเป็นต้องเดินทางขึ้นมา เช่น มีคนป่วย แต่มีแค่มอเตอร์ไซค์ต้องวิ่งไปเรียกเพื่อนบ้านที่ห่างออกไปเป็นกิโลๆ
จะอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้
คนจะค้าขายก็สามารถใช้ในการพาณิชย์ได้ อย่างน้อยก็ทำให้เพิ่มขอบเขตที่สามารถเดินทางได้มากขึ้น
เข้าใกล้ตลาดได้มากขึ้น ขนได้ทีละมากขึ้น สินค้าปลอดภัยไม่เสียหายจากน้ำฝน ฯลฯ
และขอทีเหอะครับที่กลัวคนไทย "คนอื่น" จะโง่จนไม่ประมาณตัวเองว่าซื้อได้หรือไม่ได้
คนเหมือนกันก็ต้องเคารพในวิจารณญาณของคนอื่นด้วยครับ เราไม่ได้คิดเป็นตัดสินใจเป็นอยู่กลุ่มเดียว
ใครๆก็ไม่อยากเดือดร้อนเพราะซื้อของเกินตัวทั้งนั้น หรือมีก็คงเปอร์เซนต์น้อยจนหักล้างข้อเสียของนโยบายได้มากกว่า
สำหรับผมแล้วการเป็นหนี้ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแม้แต่น้อย
อย่างที่เคยเขียนไปกระทู้อื่นว่า ผมเชื่อในทุนนิยม บริโภคนิยม และเสรีนิยม
ไม่เห็นด้วยกับความพอเพียงที่มากเกินไปและการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย
นักธุรกิจที่ร่ำรวยตอนนี้ก็ล้วนแต่เคยเป็นหนี้กันมาแล้วและตอนหนี้ก็คงเป็นหนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
มากน้อยต่างกันไป การเป็นหนี้คือโอกาสในการพัฒนาครับ
อย่างน้อยนโยบายนี้ก็ทำให้ราคารถที่แพงเว่อร์ในเมืองไทย ลดดีกรีลงไปได้บ้าง
แม้จะลดได้ไม่เยอะก็ตามเมื่อเทียบกับรายได้โดยรวมของประชาชน
-
ที่บ่นกัน เรื่องของเรื่องคือ ตัวเองมีรถ เเล้วเลย ไม่ได้ผลประโยชน์ใช่ไหม?
เเล้วที่บ่นว่า ทำให้คนเป็นหนี้เป็นสิน
ไม่มีใครบังคับ ให้คุณไปซื้อรถหรอก
คุณต้องประมาณตัวคุณเองว่ามีกำลังซื้อ พอหรือไม่
จี้ดดด แต่ตรงใจ :o
การเป็นหนี้ หากเป็นเพราะลงทุน คุ้มครับ ถึงจะล้มละลายแต่ก็ได้ประสบการณ์ ฮา :D
-
ผมสงสัยจริงๆ ว่าใครบ้าง ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ นอกจากค่ายรถยนต์???
-
ดีไม่ดียังไม่รู้เหมือนกันครับแต่เชื่อไหมจังหวัดผมไม่มีรถเมล์ครับกี่รัฐบาลก็ไม่มีปัญญาทำได้ ไม่ว่านะ ปชป หรือ พท นั่งรถไฟไปกรุงเทพรถด่วนพิเศษด้วย 13 ชัวโมงครับดังนั้นคนบ้านผมถ้าทำงานพอมีเงินเดือนทุกคนต้องคิดจะซื้อรถยนต์ครับเพราะมันสะดวกและคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าภายใน 10 ปีนี้จะแก้ปัญหานี้ได้ไม่ว่าจะพรรคไหนก็เถอะตอนค้านน่ะเก่งกันจังพอขึ้มาเหมือนกันหมด ดังนั้นถ้ามุมมองคนคนบ้านผมก็ถือว่ายังดีกว่าไม่มีนโยบายอะไรมาช่วยครับ
เรื่องที่หลายท่านบอกว่าให้เอางบไปพัฒนาขนส่งมวลชนนี่ขอโทษครับผมไม่คิดว่าจะทำได้ใน 5-10ปีนี้ครับ ไม่รู้รัฐบาลจะคิดงี้รึเปล่าเลยออกนโยบายนี้มาครับ
-
อคติกันเกินไปหรือเปล่า
ตัวเองขับรถ แต่ไม่อยากให้คนอื่นๆ(ที่งบน้อย) อยากมีรถขับบ้าง?
-
ใครชอบฝั่งไหนก็เชียร์ฝั่งนั้นหละ กระทู้อุปโลกความคิดตัวเองรึเปล่า?
-
ก็มีแต่นักการเมืองเลวๆ ที่คิดแต่จะเอาใจรากหญ้าให้มาเป็นหนี้ซื้อรถแหละ นับวันรากหญ้าก็จะกลายเป็นรากเน่า เพราะรัฐบาลแดงนี่แหละ
สรุป เจตนาต้องการซื้อเสียงแต่หาคำพูดสวยหรูมากลบเกลื่อนว่าแบ่งเบาภาระ ถ้างั้นไมไม่ลดภาษีสรรพสามิตไปเลยละ สมแล้วที่เค้าตั้งฉายาว่า ดีแต่โม้
-
ถ้าบอกว่านโยบายนี้ไม่ดี งบควรเอาไปทำอย่างอื่นน่ะ ผมเห็นด้วยนะครับ แต่ถ้าคิดว่านโยบายนี้ซื้อเสียง แจกตังไม่หนักกว่าเหรอครับ = =''
นโยบายนี้คนได้ประโยชน์ก็เฮกันไป คนไม่ได้ก็ด่ากันไป แต่ช่วยอธิบายเหตุผลให้ดีหน่อยเถอะครับ ของบางคนผมอ่านแล้ว บอกเลยว่า "ไม่ไหว"
ผมว่าพอเถอะ นี่บอร์ดรถยนต์นะครับ ไม่ใช่บอร์ดการเมือง และที่สำคัญ ไม่เบื่อประเด็นนี้กันบ้างเหรอครับ หรือสะใจที่ได้ด่า ??
หรือถ้าจะถก Discuss กันจริงๆ ช่วยยกเหตุผลให้ดีกว่า คำว่า "ไม่พอใจ" เถอะครับ
-
ก็มีแต่นักการเมืองเลวๆ ที่คิดแต่จะเอาใจรากหญ้าให้มาเป็นหนี้ซื้อรถแหละ นับวันรากหญ้าก็จะกลายเป็นรากเน่า เพราะรัฐบาลแดงนี่แหละ
สรุป เจตนาต้องการซื้อเสียงแต่หาคำพูดสวยหรูมากลบเกลื่อนว่าแบ่งเบาภาระ ถ้างั้นไมไม่ลดภาษีสรรพสามิตไปเลยละ สมแล้วที่เค้าตั้งฉายาว่า ดีแต่โม้
ตลกดีนะครับดีแต่โม้นี่รู้สึกจะเป็นเจ้าเก่านะไม่ใช้เจ้าใหม่ที่เค้าแซวกันนะอย่าพิมพ์เยอะซิครับเดี่ยวเค้ารู้กันหมดเชียร์ใคร
ต้องแจกเงินใช้ไม๊ถึงโดนใจแทบจะกด Like นะครับ
-
ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นครับ
1. ทำไมไม่เอาภาษีที่ลดหย่อน ไปพัฒนาขนส่งมวลชน
อันนี้แน่นอนครับ ผมก็อยากจะเห็นเมืองไทยมีระบบ Metro ที่ดีๆ แบบ New York ใช้ ผมจะได้ไม่ต้องนั่ง taxi เวลาไม่มีรถขับ
แต่
2. การส่งเสริมให้คนมีรถยนต์ ผิดหรือ??
ไม่ผิดครับ ในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนห่วยแตก แล้วมีการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างอเมริกัน เมื่อ 80-90 ปีที่แล้ว จนถึงช่วงปี 70 ก็แบบนี้เหมือนกันครับ (จริงๆ เกิดจาก GM ทำลายระบบขนส่งมวลชน เพื่อขายรถ) สำหรับผม ชีวิตโดยเฉพาะต่างจังหวัด การมีรถสักคัน มันก็ดีกว่าไม่มีครับ ยิ่งถ้าอยู่ห่างจากตัวเมือง
ตอนผมเรียน ม. อุบล มันอยู่ไกลจากเมือง 17 โล ถ้าไม่มีเจ้า Galant ผมคงได้แต่คุดคู้อยู่แถวมหาลัย ไปไหนไม่ได้แหงๆ
รถสองแถว ใช้ได้แค่ในเมืองระยะทางสั้นๆ ครับ ถ้านั่งยาวๆ นั่งกันอ้วกแน่ เพราะช้ามาก ผมเคยนั่ง 17 โล ราวๆ 2 ชม. กว่าได้มั้ง ผมว่าขับรถดีกว่า
เหตุผลเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คือ ในเมื่อมี Eco Car ที่เป็นนโยบายส่งเสริมการมีรถแล้ว จะออกนโยบายซ้ำซ้อนกันอีกทำไม คือผมว่าพอมีนโยบายที่มีจุดประสงค์เดียวกัน 2 อย่าง ผมว่ามันเกินไปหน่อย
แล้วก็
ตอนนี้เราวิจารณ์นโยบาย ไม่ใช่วิจารณ์รัฐบาล แยกประเด็นด้วยครับ
-
มาแอบแปลคำย่อ....คนไทยส่วนใหญ่หิวกระต่าย อิอิ
-
ตามคำถามของ จขกท.
เท่าที่ผมทราบ ผมยังไม่เคยเห็นรัฐบาลประเทศใดรวมทั้งรัฐบาลไทย มีนโยบายสาธารณะ
สนับสนุนให้ประชากรซื้อรถยนต์โดยตรงครับ เพราะรถยนต์เองก็เป็นสินค้าประเภทหนึ่งครับ
และไม่มีนโยบายใด มีศักยภาพขนาดบังคับการซื้อ การขายได้ครับ
จะทำได้ก็แค่จูงใจเท่านั้นครับ และนโยบายนั้นต้องมีผลประโยชน์ที่ชัดเจนจริงๆครับ
ส่วนนโยบายลดภาษีรถคันแรก ผมมองว่านโยบายนี้ไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนรถยนต์ที่มากขึ้นหรือน้อยลงครับ
นโยบายนี้มีชื่อเกี่ยวกับรถก็จริง แต่มันไม่ได้หมายถึงการจะทำให้คนมีรถได้ง่ายขึ้นครับ
นโยบายนี้ไม่ใช่ลักษณะของการแจกเงินให้เอาไปซื้อนะครับ
ตัวนโยบายมันเป็นเรื่องของการลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนในส่วนของภาษีครับ
หรือ มันเป็นการลดภาษีทางหนึ่งเท่านั้นครับ และเป็นเรื่องนโยบายที่ส่งผลเฉพาะกลุ่ม
แต่การเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม นั้นไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้สิทธิจะเสียผลประโยชน์ครับ
และการที่นโยบายนี้จะต้องใช้เม็ดเงินมาเพื่ออุดหนุนยอดที่ลดภาษี
ก็ไม่ได้หมายความว่า โครงการระบบขนส่งมวลชน จะไม่มีเงินเหลือเพื่อนำไปสร้างให้ครบเส้นทางแต่อย่างใด
การนำไปเชื่อมโยง ว่านำเงินตรงนี้ไปใช้ที่ตรงนั้นจะมีประโยชน์กว่า
ผมมองว่ามันไ่ม่เกี่ยวข้องกันครับ คนละหน่วยงาน คนละบริบทกันครับ
-
มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ทำใจยอมรับกันไป ไม่งั้น มี ผอ เอา ...
-
ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นครับ
1. ทำไมไม่เอาภาษีที่ลดหย่อน ไปพัฒนาขนส่งมวลชน
อันนี้แน่นอนครับ ผมก็อยากจะเห็นเมืองไทยมีระบบ Metro ที่ดีๆ แบบ New York ใช้ ผมจะได้ไม่ต้องนั่ง taxi เวลาไม่มีรถขับ
แต่
2. การส่งเสริมให้คนมีรถยนต์ ผิดหรือ??
ไม่ผิดครับ ในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนห่วยแตก แล้วมีการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างอเมริกัน เมื่อ 80-90 ปีที่แล้ว จนถึงช่วงปี 70 ก็แบบนี้เหมือนกันครับ (จริงๆ เกิดจาก GM ทำลายระบบขนส่งมวลชน เพื่อขายรถ) สำหรับผม ชีวิตโดยเฉพาะต่างจังหวัด การมีรถสักคัน มันก็ดีกว่าไม่มีครับ ยิ่งถ้าอยู่ห่างจากตัวเมือง
ตอนผมเรียน ม. อุบล มันอยู่ไกลจากเมือง 17 โล ถ้าไม่มีเจ้า Galant ผมคงได้แต่คุดคู้อยู่แถวมหาลัย ไปไหนไม่ได้แหงๆ
รถสองแถว ใช้ได้แค่ในเมืองระยะทางสั้นๆ ครับ ถ้านั่งยาวๆ นั่งกันอ้วกแน่ เพราะช้ามาก ผมเคยนั่ง 17 โล ราวๆ 2 ชม. กว่าได้มั้ง ผมว่าขับรถดีกว่า
เหตุผลเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คือ ในเมื่อมี Eco Car ที่เป็นนโยบายส่งเสริมการมีรถแล้ว จะออกนโยบายซ้ำซ้อนกันอีกทำไม คือผมว่าพอมีนโยบายที่มีจุดประสงค์เดียวกัน 2 อย่าง ผมว่ามันเกินไปหน่อย
แล้วก็
ตอนนี้เราวิจารณ์นโยบาย ไม่ใช่วิจารณ์รัฐบาล แยกประเด็นด้วยครับ
อ้าวคุณยิ้ม จบจากม.อุบลเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็ที่เดียวกันเลย นึกถึงสมัยนั่งรถแดงแฮะหวานเย็นดีทำให้กลายเป็นคนสใจเย็นไปได้เลย
-
นโยบายจะมีก็มีไปบ่นไปก็เหนื่อย
แต่เก็บภาษีรถวิ่งในกรุงให้เยอะขึ้น ดีกว่า
ผมใช้ในกรุงทุกวัน ยังเบื่อเลย ไม่รู้มันจะติดไปไหน
-
ผมไม่แสดง ความ คีดอะไรหรอก ครับ แต่อยากถาม ว่า ถ้า ผ่อนไม่ไหวแล้ว ขายไม่ใด้ทำไง ครับ ใครรับ ผีดชอบ
-
;D ;D ;D.........อเมริกาครับ ที่สนับสนุนให้คนช่วยมาซื้อรถใหม่กันเยอะๆ และชักชวนให้ซื้อรถที่ผลิตในอเมริกาด้วย เพื่อให้เงินหมุนเวียนกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับคนอเมริกันด้วยกัน
yogibear
-
ใจเย็นๆกันครับอย่าหลุดไปไกลแด๋วโดนเตือนยกกระทู้ :P
-
ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นครับ
1. ทำไมไม่เอาภาษีที่ลดหย่อน ไปพัฒนาขนส่งมวลชน
อันนี้แน่นอนครับ ผมก็อยากจะเห็นเมืองไทยมีระบบ Metro ที่ดีๆ แบบ New York ใช้ ผมจะได้ไม่ต้องนั่ง taxi เวลาไม่มีรถขับ
แต่
2. การส่งเสริมให้คนมีรถยนต์ ผิดหรือ??
ไม่ผิดครับ ในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนห่วยแตก แล้วมีการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างอเมริกัน เมื่อ 80-90 ปีที่แล้ว จนถึงช่วงปี 70 ก็แบบนี้เหมือนกันครับ (จริงๆ เกิดจาก GM ทำลายระบบขนส่งมวลชน เพื่อขายรถ) สำหรับผม ชีวิตโดยเฉพาะต่างจังหวัด การมีรถสักคัน มันก็ดีกว่าไม่มีครับ ยิ่งถ้าอยู่ห่างจากตัวเมือง
ตอนผมเรียน ม. อุบล มันอยู่ไกลจากเมือง 17 โล ถ้าไม่มีเจ้า Galant ผมคงได้แต่คุดคู้อยู่แถวมหาลัย ไปไหนไม่ได้แหงๆ
รถสองแถว ใช้ได้แค่ในเมืองระยะทางสั้นๆ ครับ ถ้านั่งยาวๆ นั่งกันอ้วกแน่ เพราะช้ามาก ผมเคยนั่ง 17 โล ราวๆ 2 ชม. กว่าได้มั้ง ผมว่าขับรถดีกว่า
เหตุผลเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คือ ในเมื่อมี Eco Car ที่เป็นนโยบายส่งเสริมการมีรถแล้ว จะออกนโยบายซ้ำซ้อนกันอีกทำไม คือผมว่าพอมีนโยบายที่มีจุดประสงค์เดียวกัน 2 อย่าง ผมว่ามันเกินไปหน่อย
แล้วก็
ตอนนี้เราวิจารณ์นโยบาย ไม่ใช่วิจารณ์รัฐบาล แยกประเด็นด้วยครับ
อ้าวคุณยิ้ม จบจากม.อุบลเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็ที่เดียวกันเลย นึกถึงสมัยนั่งรถแดงแฮะหวานเย็นดีทำให้กลายเป็นคนสใจเย็นไปได้เลย
อ้าว งั้นขอเรียกพี่เลยละกัน ไม่ทราบคณะไหน รหัสอะไรครับ
ผมจบเภสัช รหัส 48 ครับ
คิดถึง ม. เหมือนกันครับ ตอนนี้ 7-11 7 อันได้แล้วมั้ง ตอนไปเรียนใหม่ๆ แทบจะไม่มีอะไรเลย นอกจาก 7-11 หน้าหอดีจริง
ยินดีที่ได้รู้จักครับ