Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HOMY_DEMIO ที่ กันยายน 14, 2011, 20:22:30
-
รัฐถกกับเอกชนวันนี้
ไฟแนนซ์ และบริษัทรถมีข้อโต้แย้งรัฐบาล
ค่ายรถส่วนใหญ่มองว่ามันไม่กระตุ้นการซื้อรถถึง 5 แสนหรอก บ้างก็ว่าทำลายอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศซะเอง
แต่สำหรับไฟแนนซ์ มีความเห็นตรงกันว่า รัฐบาลไม่รอบคอบเท่าไร เมื่อลูกค้าเบี้ยวผ่อนเพื่อเอา เงินคืนภาษี
รัฐก็ไม่ยอมโอนเชคให้ไฟแนนซ์เพื่อหักต้นดอก ก็แปลกดี
ไฟแนนซ์เลยป้องกันตนเองด้วยการ ขึ้นเงินดาวน์ไปเลย
ดังนั้น ใครหวัง ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ฝันสลายได้เลย
และสำหรับคนที่จะซื้อรถจริงแต่เงินดาวน์น้อยก็ซื้อไม่ได้อีก บางคนถ้าอยากจนตัวสั่นไปกู้นอกระบบเพื่อหาเงินมาดาวน์แน่ ๆ
เป็นหนี้กันอีรุงตุงนังแน่นอน แต่ไฟแนนซ์ก็คงฉลาดอยู่หรอก ไม่งั้นคงเจ๊งกันหมด
http://mgr.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000117129 (http://mgr.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000117129)
-
สรุป กรรมไปตกอยู่ที่คนจะซื้อรถจริง ๆ อยู่ดี
-
โดน โดนแล้วล่ะ
-
555 ผมเป็นไฟแนนซ์ ผมก์ต้อง ป้องก้นความเสี่ยงหละ 55555
-
...ขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะจ๊ะ ;)
รัฐบาลทำนโยบายนี้เหมือนจะดี แต่สุดท้ายเน่าใน ผมว่าการโอนเงิน 1 แสนให้ ไฟแนนส์ นี่เข้าท่ากว่ามากเลยครับ เพราะยังไง ไฟแนนส์ ไม่กล้าเบี้ยวแน่ๆ(เป็นบริษัท) ;)
แต่ทางที่ดี ไม่มีดีที่สุดครับ ;)
-
ขอพูดหน่อยละกัน march S MT พอหักส่วนลดภาษีไป เหลือ 3.29 แสนเอง ถูกโคตรเลย :D
-
กลายเป็นว่ารถคันแรกในชีวิต ก็ซื้อยากกว่าเดิมเข้าไปอีก
เพราะเงินดาวน์ไม่ถึงอีก ก็ต้องเก็บเงินกันไป
-
ก็ต้อง พอเพียงล่ะครับ
ดูว่า เราพอไหว พอดาวน์ รุ่นไหน ยี่ห้ออะไร
ไม่ใช่ว่า ดูตรง เงินที่คืนมา
ไม่งั้น แย่ๆแน่
ตัวเราเอง ก็ต้องพิจารณา ให้รอบคอบ
รถไม่ใช่ บาท สองบาท และ
ส่วนลดก็ไม่ใช่บาท สองบาท และ
ยอดผ่อนต่อเดือน
ภาษี + ประกัน ประจำปี
มันต้องมองเยอะๆ
นโยบายนี้ ก็เหมือน รัฐบาล มาช่วย เราผ่อนนั้นล่ะครับ
หลังจากที่เรา ครอบครองรถได้ 1 ปี
ไม่มีไรมาก
;) ;) ;)
-
กลายเป็นว่ารถคันแรกในชีวิต ก็ซื้อยากกว่าเดิมเข้าไปอีก
เพราะเงินดาวน์ไม่ถึงอีก ก็ต้องเก็บเงินกันไป
พี่ homy ครับ โปร march ยังเหมือนเดิมเลยใน web thaimarch ยังคงเดิม หรืออนาคตจะเปลี่ยนแปลงนะครับ
พี่ครับ ผมว่าน่าจะแยกเป็น 2 ตลาด
1. พวกใช้สิทธิ ก็ดาวส์สูงๆไป ดอกสูงไป
2. พวกไม่ได้สิทธิ ก็ระบบปกติ
-
ทำแบบนั้นยุ่งยากกว่าเดิมอีกครับ
-
น่าสงสารคนที่ซื้อรถหลังจากนี้ ที่ไม่ได้รับสิทธิ
เพราะนอกจากจะไม่ได้รับสิทธิแล้ว ยังโดนทั้งดาวส์สูง ดอกแพง
แถมขายรถมือ สอง ก็โดนกดราคาอีก ซวยมันทั้งขึ้นทั้งล่อง โปรสงสัย คงไม่มีใครง้อลูกค้าแน่ๆ
-
แล้วแบบนี้ต้องกี่เปอร์เซนกันละเนี้ย
no comment !!!
-
ผมว่ามันก็เป็นเงื่อนไขที่โอเคในระดับหนึ่งนะครับ เพราะหากผู้ซื้อรถต้องอดทนเก็บหอมรอบริบมากขึ้น
มันก็ดีแล้ว คือถ้าการที่จะซื้อรถง่ายจนเกินไป เกิดคนในประเทศฟุ้งเฟื้อกันมากขึ้น อยากมีรถก็เดินเข้าโชว์รูมไปง่ายๆ
แบบนี้ก็จะไม่เห็นคุณค่าของการซื้อรถคันแรกในชีวิตนะครับ
-
ดาวน์มากขึ้นผมก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ ดีเสียอีกเพราะจะได้มีการวางแผนที่ดีขึ้น
กรรมไม่ตกกับผู้ใช้รถหรอกครับ เพราะผมเชื่อว่าแต่ละคนคิดได้วางแผนได้
นโยบายนี้คงไม่ได้ต้องการทำให้ทุกคนซื้อรถได้ แต่ทำให้คนที่กำลังจะมีรถซื้อรถได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง
ยังไงประโยชน์ก็น่าจะตกอยู่กับประชาชนอยู่ดีครับ
-
ไม่มีอะไรจะคอมเม้นท์กับนโยบายนี้ อีกแล้ว นอกจากจะบอกเป็นเสียงเดียวกะวันที่ขับรถผ่านป้ายหาเสียงเมื่อกลางปี ว่า
"เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ"
-
อาเมน!
ปล. ชอบที่ กาว ตอบ คิดแบบเดียวกัน จบ
-
มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะพี่จิมมี่ แค่อยากจะบอกว่า แทนที่ จะ "สนับสนุนให้คนเป็นหนี้"
ทำไม ไม่ "พัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ดีขึ้น"
รถปรับอากาศ "ฟรี" ก็ยังจะดีกว่า รึเปล่า?
หรือ อุโมงค์ สะพานข้ามแยก แม้กระทั่ง "วงเวียน"
หรือแค่มาให้ฝันๆ เพราะไง "ไฟแนนซ์" คนกลุ่มนั้น ก็อาจ "ไม่ผ่าน" จะได้ไม่เสียงบ อุบส์!!!
-
เหอะๆ พูดไม่ออก
การคืนภาษี มันก็คือทำให้คนกล้าเสี่ยงที่จะผ่อนรถมากขึ้น (นโยบายนี้ มีเพื่อคนที่มีความเสี่ยงที่จะผ่อนไม่ไหวสูงจริงไหม?)
ไฟแนนซ์ก็เลยแก้เกมด้วยการขึ้นเงินดาวน์ เวง
จากเดิมไม่มีรถขับเพราะผ่อนไม่ไหว ตอนนี้กลายเป็นไม่มีรถขับเพราะดาวน์ไม่ไหวแทน
ผมไม่สนับสนุนนโยบายนี้ แต่ถามรัฐนิดนึง
"ถ้าไม่สามารถทำให้ประเทศยอมรับหนี้เน่าบานเบอะได้ จะออกนโยบายก่อหนี้ทำไม"
หนี้อันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับหนี้เน่าอันใหญ่ยิ่ง
ตอนนี้ต้องย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องความรัดกุมของนโยบายแล้ว
ถ้านโยบายออกมาแล้ว คนกลับไม่สามารถผ่อนรถได้ง่ายตามวัตถุประสงค์ งั้นจะทำทำไม?
-
ผมลบข้อความไปแล้วล่ะครับ
เกรงว่า จะทำลาย ความรู้สึก กันและกัน
ขอบพระคุณมากครับที่เข้าใจ
-
คนที่เขาจะซื้อรถเขาคงคิดได้มั๊งครับ ว่าอะไรคือความเสี่ยง
รถไม่ใช่มีแค่เงินดาวน์และมีผ่อนจะพอนะ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาอีกเล่า....
ไฟแนนท์ก็ต้องอุดรูรั่วครับ ถ้าไม่อุด หนี้เน่าจากรถนี่ ปีๆก็ไม่ได้น้อยนะครับ ไฟแนนท์จึงต้องสกรีนอย่างละเอียด
และรถคันแรกด้วย......แปลว่าผู้กู้ไม่เคยกู้กับไฟแนนท์แน่นอนถูกต้องมั๊ยครับ? ใหม่ๆซิงๆ
ยิ่งสติ๊กมากขึ้น ในบอร์ดมาร์ชบ่นกันมากเรื่องทำเรื่องกู้ไฟแนนท์ ยิ่งมีโปรโมชั่นนี้ออกมาจากรัฐบาล
ถามจริงๆ ว่าไฟแนนท์ไม่ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่หรอ ถ้าผมเป็นไฟแนนท์ปล่อยกู้ ผมก็กลัวครับ
ยิ่งยึดรถมาแล้ว ขายทอดตลาดไม่ได้ หรือสภาพเละๆมา ไฟแนนท์เจ๊งเป็นแถบแน่นอน
-
ผมว่าคนที่จะซื้อรถมาใช้งานจริง ๆ เค้าไม่มีมองไอตัว 100,000 ในอีก หนึ่งปีเต็มข้างหน้าสักเท่าไหร่นะครับ และุ้ถ้ามาคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันมันก็จะไม่ถึงยอด 100,000 ซะอีก