Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: -Nut- ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 15:17:27
-
ใส่กรองเปลือยแล้ววิ่งขึ้นมั้ยครับ หรือได้ผลแค่ทางใจ แล้วตีกล่องกรองเปลื่อยกันที่ไหนหรอครับ ที่งานเนี้ยนๆน่ะครับ
ขอบคุณทุกคำตอบครับ
-
แบบแผ่น K&N แล้วจบ
ไม่ก็แบบสเตนเลส เฮริเคน อะไรนั่น
ไม่ได้โฆษณานะครับ บอกยี่ห้อเท่าที่รู้จัก
-
เคยขับ AE ของเพื่อน เครื่อง 4A-FE เปลี่ยนกรองเปลือย+ท่อไส้เยือง
รอบต่ำๆ หงุดหงิดมาก ขับในเมืองเลี้ยงครัชจนเมื้อยเพราะรถมันไม่มีแรงบิดเลย
แต่รอบกลางๆรอบสูงๆขับมันส์ดีครับ
ไล่กับซีวิคไดเมนชั่น 2.0 ออโต้ของเพื่อน ได้สบายๆ
พอหลังๆใส่พักปลายไส้ตรง รอบต่ำๆยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ รถดับจนอาย
แต่รอบเกิน 3 พัน ขับสนุกครับ ลากยาวๆ มันส์มาก
ยิ่งพวกรถรอบจัดๆ+เกียรธรรมดา สนุกมากครับ
แต่ก็เช่นกัน รถใช้รอบมากขึ้น กินน้ำมันขึ้น
กรองเปลือย ก็บอกอยู่แล้วว่าเปลือย ไม่มี Air Box เพราะงั้น มันจะรับฝุ่นเต็มๆ
แต่กับเกียรออโต้ แรงบิดหายหมด ต้นอืดปลายไม่ไหล (ผมลองกับวีออสตัวเองแล้ว)
สุดท้าย ใส่กรองแผ่น(แบบผ้า) ดีกว่าครับ
-
ใส่แบบ K&N ดีกว่าครับ
-
แบบแผ่น K&N แล้วจบ
ไม่ก็แบบสเตนเลส เฮริเคน อะไรนั่น
ไม่ได้โฆษณานะครับ บอกยี่ห้อเท่าที่รู้จัก
ถ้า สเเตนเลส Herricane นั้น กรองได้แต่ จิ๊กจก กับ แมงสาบ คับ ที่เหลือเข้าหมดดดดดดด... ...
-
ถ้ารถธรรมดา ไม่ทำอะไร เปลี่ยนแค่ชิ้นกรอง ได้แต่เสียง หาพลังสวรรค์วิมานอะไรไม่ได้
-
แบบแผ่น K&N แล้วจบ
ไม่ก็แบบสเตนเลส เฮริเคน อะไรนั่น
ไม่ได้โฆษณานะครับ บอกยี่ห้อเท่าที่รู้จัก
ถ้า สเเตนเลส Herricane นั้น กรองได้แต่ จิ๊กจก กับ แมงสาบ คับ ที่เหลือเข้าหมดดดดดดด... ...
ผมก็ว่างั้นอ่ะ ไซ้ ใส
-
ผมเคยexperiment โดยเทียบกันระหว่าง ถอดกรองอากาศทิ้ง วิ่งแมร่มแบบนั้นเลย
ผลออกมาไม่ต่างอะไรจากใส่กรองอากาศเลยแม้แต่นิดเดียว รถNA ผมว่า แรงดูดมันไม่มาก
เท่ารถเทอร์โบ พวกนั้นเวลาสืดอากาศทีโฮกฮาก อาจจะมีผลบ้าง แต่ผมไม่กล้าที่จะลอง
เพราะถ้าถอดกรองวิ่งเท่ากับแค่รอบเดียว เท่ากับผมฆ่าเทอร์โบ GT2871 เบิกป้ายแดงมาฟรีๆเลยทีเดียว
สรุปว่า ไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรกับกรองเปลือย กรองเห็ดอะไรมากมายหรอกครับ มันได้เสียง
พอได้เสียง มันก็เลยเร้าใจ เหยียบเยอะขึ้น อุปทานไปเองเหมือนกราวน์ไวร์เหมือนVolt Stabilized
เป๊ะเลย แม้กระทั่งK&N ผมยังไม่ใช้เลย ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แต่ว่านานๆเข้า มันจะพาผมเสียสตางค์หลัก
หลายหมื่นบาท ตามlogic ง่ายๆ กรองตาถี่... กรองฝุ่นละเอียด โฟลว์น้อยกว่า กรองตาห่าง...กรองฝุ่นหยาบกว่า โฟลว์ดีกว่า
ความต้องการของผู้บริโภค อยากจะให้ได้โฟลว์ขึ้น ไม่ไปrestrict การดูดอากาศของเครื่องยนต์หรือเทอร์โบ
แต่ประสิทธิภาพในการดักฝุ่น ได้ใกล้เคียงของเดิม(อย่าคาดหวังว่า
กรองตาห่าง มันจะกรองฝุ่นได้แจ่มเหมือนกรองอากาศแบบติดรถยนต์มาตรฐาน) ทางบริษัทผู้ผลิต
เลยต้องมีน้ำยา ทาเคลือบเอาไว้เพื่อช่วยดักฝุ่น คราวนี้ลองมาคิดต่อ ถ้าน้ำยา หรือของเหลวที่ทาเคลือบนั้น
ไม่มีความเหนียวในตัว คุณว่ามันจะจับฝุ่นได้ดีมั้ย? เพราะฉะนั้นสารที่ทาเคลือบมันก็จะเป็นพวกคล้ายๆน้ำมัน
ผมไม่ได้บอกว่าเป็นน้ำมันนะครับ เพราะนานๆเข้าพวกนี้ก็จะมีโอกาสหลุดผ่านเข้าไปได้ ยังไม่ต้องไปคิดถึงเครื่องนะครับ
มันจะไปเจอแอร์โฟลว์ ที่เป็นขดลวด hot wire ที่ปกติมันจะวาบไฟในช่วง1/1000วินาที ก่อนจะดับเครื่องเพื่อชำระล้างตัวเอง
ลองมาคิดดูว่า ไอของสารเคลือบที่คล้ายๆน้ำมัน บวกกับเศษฝุ่นนิดหน่อยหลุดเข้าไปแปะอยู่บนขดลวดhot wire แถมมีวาบไฟ
ด้วย พอนานๆเข้าพวกนี้จะกลายเป็นoil gunk เคลือบบนขดลวด แอร์โฟลว์คุณก็จะกลับ สู่มาตภูมิเดิม ในที่สุด ถ้ารถยอดนิยม
คงไม่ซีเรียสแต่ถ้าไปเจอรถประหลาดๆ แอร์โฟลว์ เปิดราคามาขำๆ 14,000-23,000 เจ้าของรถร้องเจี๊ยก เป็นลิงตกน้ำเลยทีเดียว