Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mick ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 19:36:41
-
โตโยต้าพอเจ้าใจอาจกลัวไปแย่งตลาดรถกระบะกับไฮบริด แต่ทำไมฮอนด้าซึ่งไม่มีรถกระบะไม่ทำตลาดเก๋งดีเซล น่าจะวิ่งดีและประหยัดได้มาก น่าจะแรงกว่าคู่แข่งสบายๆ
-
http://www.honda.co.uk/cars/accordsaloon/i-dtecengine/ (http://www.honda.co.uk/cars/accordsaloon/i-dtecengine/)
ทำครับแต่ไม่มีจำหน่ายในไทยเท่านั้นเอง
-
หมายถึงในประเทศไทยอะครับ น่าจะตีตลาดได้มาก ทนทานกว่าและน่าจะลุยน้ำได้ดีกว่าด้วย
-
คนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าเครื่องดีเซลเสียงดัง สมรรถนะแย่และล้าหลังกว่าเบนซินครับทำให้ไม่นิยม
กระแสเก๋งดีเซลเพิ่งมีเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เมื่อbmwเอา320dเข้ามา รถญี่ปุ่นคงยังไม่อยากเอามาเสี่ยงเท่าไรเพราะลูกค้าหลายคนก้ยังยึดติดกับภาพลักษณ์เก่าๆของดีเซลอยู่
เรื่องฮอนด้า เครื่องvtecของฮอนด้าปกติก็แรงและประหยัดกว่าเครื่องของยี่ห้ออื่นๆในพิกัดอยู่แล้ว ไม่น่าจำเป็นต้องเสี่ยงเอาดีเซลเข้ามา
ส่วนเรื่องลุยน้ำ ผมว่าเค้าไม่เอามาเป็นสาระสำคัญหรอกครับ
-
เครื่องดีเซลล์ลุยน้ำได้ดีกว่า
ผมว่าเรื่องนี้ไม่จริงนะครับ ที่มันดูลุยน้ำได้ เพราะมันอยู่ในกระบะหรือเปล่า? ตำแหน่งเครื่องมันสูงกว่า
ลองต่ำๆ เท่ารถเก๋ง ยังไงก็จมน้ำตายเหมือนกันแหละครับ ;)
ส่วนเรื่องเสียงดัง ผมว่ายังไงๆ ก็จริง
ขนาด 520d ตัวก่อน วิ่งผ่านยังหันไปมองรถไรฟร่ะเสียงกระหึ่ม แน่นอนในห้องโดยสารอาจจะเงียบ แต่ข้างนอกก็ยังดังอยู่ดีครับ มันเป็นบุลลิคของเครื่องยนต์อยุ่แล้ว
-
ก่อนหน้านี้ย้อนกลับไปคนไทยเองมองว่าเครื่องดีเซลคือเครื่องรถกระบะรถบรรทุกเลยไม่ได้รับความนิยม
รวมทั้งยังไม่ได้มีปัญหาทางด้านราคาพลังงานเหมือนสมัยนี้
ข้อเสียของดีเซลในยุคก่อนคือเสียงดังมากและการสั่นของเครื่องยนต์ที่เข้ามาในรถสูงรวมทั้งสมรรถนะที่ต่ำ
กว่าในแง่การใช้งานทั่วไปในยุคนั้น
เครื่องดีเซลในรถเก๋งก็เพิ่งมาบูมไม่นานนี้ในบ้านเราเบนซ์ E220 CDI W211 เป็นรุ่นที่สร้างยอดขายดีมากๆสำหรับ
การบุกเบิกเครื่องดีเซลในบ้านเราจริงๆก่อนหน้านั้น W210 ก็มีเข้ามาแต่น้อยมาก
จากตรงนี้เองก็ทำให้รถในระดับเดียวกันอีกหลายยี่ห้อและหลายรุ่นเริ่มเข้ามาทำตลาดเครื่องดีเซลรถเก๋งในบ้านเรา
เพราะผู้คนเริ่มเข้าใจและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์รวมทั้งมุมมองที่มีต่อเครื่องดีเซลในบ้านเราครับ
เรื่องที่ถามว่าทำไมรถญี่ปุ่นหลายๆรุ่นไม่มีเครื่องดีเซลส่วนนึงเพราะญี่ปุ่นเองมุ่งมั่นกับพลังงานไฟฟ้าและ Hybrid มากกว่า
และต้นทุนที่สูงกว่าเครื่องเบนซินเป็นส่วนนึงที่ไม่ทำตลาดไหนจะเรื่องเทคโนโลยีของเครื่องดีเซลเองที่โดยรวมเทียบต่อประเทศ
ถือว่าโซนรถญี่ปุ่นเทคโนโลยีเครื่องดีเซลยังตามฝั่งยุโรปอยู่ทั้งในเรื่องสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันแต่เรื่องพวกนี้ปัจจุบันก็ซื้อเทคโนโลยี
กันได้เชื่อว่าในอนาคตเองจะมีอีกหลายๆรุ่นเพราะโตโยต้าเองก็มีหลายๆรุ่นที่ในไทยมีแต่เครื่องเบนซินแต่ตลาดยุโรปมีเครื่องดีเซลเป็นตัวหลักครับ
-
มีแนวโน้มว่าเครื่อง ดีเซลจะมาแรงในเร็วๆนี้
-
ถ้า LPGยังถูกอยู่แบบนี้ ก็ยังไม่น่าสนครับ ;D
-
ถ้า LPGยังถูกอยู่แบบนี้ ก็ยังไม่น่าสนครับ ;D
ผมก็คิดอย่างนี้ครับ บริษัทรถคงทำวิจัยไว้แล้ว ว่าขายได้ไม่คุ้มเสี่ยง คนที่อยากประหยัดก็ติดแก๊สไป ง่ายกว่าถูกกว่า อย่าลืมว่าเครื่องดีเซลแพงกว่าเครื่องเบนซินนะครับ
-
เครื่องดีเซลเจอน้ำจะน๊อคนากกว่าครับ
แต่ถ้าน๊อคแล้วก็ฟื้นยากกว่าเหมือนกันครับ
-
อาจเป็นที่ ราคาเครื่องแพง ถ้าผลิตไม่เยอะจริงๆต้นทุนเครื่องคงจะแพง กำลงัอัดเยอะชิ้นส่วนเลยต้องแข็งแกร่ง หนักอีกด้วยมัย
-
ถ้า LPGยังถูกอยู่แบบนี้ ก็ยังไม่น่าสนครับ ;D
ผมก็คิดอย่างนี้ครับ บริษัทรถคงทำวิจัยไว้แล้ว ว่าขายได้ไม่คุ้มเสี่ยง คนที่อยากประหยัดก็ติดแก๊สไป ง่ายกว่าถูกกว่า อย่าลืมว่าเครื่องดีเซลแพงกว่าเครื่องเบนซินนะครับ
ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าใช่ประเด็นหลักนะครับ เพราะถ้าเกิดประชาคมอาเซียนจริงๆ ยังไงมันก็ต้องแพง
แต่คนไทยนี่ ขายความเชื่อครับ ถ้าเชื่ออะไรแล้วเปลี่ยนยาก เชื่อว่าเครื่องดีเซลเสียงดัง ไม่ดีต่างๆนาๆมาแต่ไหนแต่ไร ก็เลยเปลี่ยนยาก เหมือนๆกับที่เชื่อว่า รังนก ดีต่อสุขภาพมากมาย อะไรแบบนั้นอ่ะครับ
-
จริงๆ ก่อนหน้านี้มีครับ นานมาแล้วอย่าง
Daihatsu Charade Diesel เป็นต้น (เคยมีอยู่คัน)
หรือ Corona หลายรุ่นเองก็มี diesel
แต่อาจะเป็นเพราะเทคโนโลยีดีเซลญี่ปุ่นสู้เยอรมันไม่ได้ และประชากรในบ้านตัวเองต่อต้าน เพราะว่าเหม็นมลพิษ (ขอใช้คำว่าต่อต้าน)
คนนี้ Ishihara Shintaro เป็นผู้ว่า Tokyo ตั้งแต่ปี 2005
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c9/Shintaro_Ishihara%2C_2006-Sep-1.jpg/220px-Shintaro_Ishihara%2C_2006-Sep-1.jpg)
แกเคยรณรงค์ต่อต้านเครื่องยนต์ดีเซล เมื่อราวๆ ปี 2002 ด้วยการออกกฎข้อบังคับที่เข็มงวด และเอาน้ำมันดีเซลใส่ขวดแล้วเผาทิ้ง!
(ล่าสุด แกก็ไปพูดทำนองว่า ที่คนญี่ปุ่นเจอซึนามิ เพราะถูกพระเจ้าลงโทษ ว่าไปนั่น)
จนเพิ่งกลับมามีรถยนต์นั่งเครื่องดีเซลเมื่อไม่นานมานี้ครับ
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า ญี่ปุ่นอยู่ในยุคมืดของเครื่องดีเซลมาเกือบๆ 10 ปี ตอนนี้กำลังอยู่ในยุค renaissance จึงต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกสักพักครับ
-
จริงๆ ก่อนหน้านี้มีครับ นานมาแล้วอย่าง
Daihatsu Charade Diesel เป็นต้น (เคยมีอยู่คัน)
หรือ Corona หลายรุ่นเองก็มี diesel
แต่อาจะเป็นเพราะเทคโนโลยีดีเซลญี่ปุ่นสู้เยอรมันไม่ได้ และประชากรในบ้านตัวเองต่อต้าน เพราะว่าเหม็นมลพิษ (ขอใช้คำว่าต่อต้าน)
คนนี้ Ishihara Shintaro เป็นผู้ว่า Tokyo ตั้งแต่ปี 2005
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c9/Shintaro_Ishihara%2C_2006-Sep-1.jpg/220px-Shintaro_Ishihara%2C_2006-Sep-1.jpg)
แกเคยรณรงค์ต่อต้านเครื่องยนต์ดีเซล เมื่อราวๆ ปี 2002 ด้วยการออกกฎข้อบังคับที่เข็มงวด และเอาน้ำมันดีเซลใส่ขวดแล้วเผาทิ้ง!
(ล่าสุด แกก็ไปพูดทำนองว่า ที่คนญี่ปุ่นเจอซึนามิ เพราะถูกพระเจ้าลงโทษ ว่าไปนั่น)
จนเพิ่งกลับมามีรถยนต์นั่งเครื่องดีเซลเมื่อไม่นานมานี้ครับ
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า ญี่ปุ่นอยู่ในยุคมืดของเครื่องดีเซลมาเกือบๆ 10 ปี ตอนนี้กำลังอยู่ในยุค renaissance จึงต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกสักพักครับ
กด Like
-
ขอบคุณ คุณยิ้มที่ช่วยครับ
ขอเสริมนิดหน่อยแล้วกัน
ความจริงแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่น มีนโยบาย ไม่ส่งเสริมเครืองยนต์ดีเซล สำหรับรถยนต์นั่งมานานแล้ว
และมองว่าเป็นตัวการปล่อยมลพิษมากๆ ในปี 1995 ก้เลยออกกฎบังคับห้ามรถเครื่องยนต์ดีเซล
วิ่งเข้าเขตกรุงโตเกียว ผลก็เลยกลายเป็นว่า บริษัทรถญี่ปุ่นทุกค่าย เลยต้องยุติบทบาทเครื่องดีเซล
ในรถเก๋งไป
แต่ในตอนนั้น เทรคโนโลยี คอมมอนเรล เพิ่งเกิดพอดี และถูกนำมาใส่ในรถเก๋งขายที่ยุโรป
และขายกันระเบิดเทิดเทิง ยี่ปุ่นได้แต่มองตาปริบๆ พยายามพัฒนาเฉพาะเครื่องสำหรับรถเก๋งในเวอร์ชันยุโรปเท่านั้น
แต่ก็ทำออกมาได้ไม่ดีเท่ากับฝั่งยุโรป ที่เขาขายดีกันอย่างจริงจัง
นี่ละครับ คือสาเหตุ ที่ทำให้ การพัฒนาเครื่องดีเซล ในรถเก๋งญี่ปุ่น ถึงไม่ค่อยเกิดในรอบ 15 ปีมานี้
-
ในญี่ปุ่นเองยังมีเขตที่รถดีเซลห้ามเข้าด้วยนะหรือบางเมืองใช้รถดีเซลได้เป็นเวลาด้วย ดีเซลจะญี่ปุ่นจะบูมยังไง ไม่มีทาง
-
แล้วมีคนบอกว่า บ้านเราคุณภาพน้ำมันดีเซลไม่ได้ดีเหมือนยุโรป ทำให้การผ่านมาตรฐานต่างๆก็ยาก
-
ไม่เคยรู้มาก่อนนะนี้ ว่าที่ tokyo เคยมีนโยบาย ban เครื่อง diesel ความรู้ใหม่เลยนะนี้
-
Vigo เกรดเดียวกัน
เครื่องดีเซลขายแพงกว่าเครื่องเบนซิน 100,000 บาท ;D
-
หมายถึงในประเทศไทยอะครับ น่าจะตีตลาดได้มาก ทนทานกว่าและน่าจะลุยน้ำได้ดีกว่าด้วย
เรื่องลุยน้ำลองดูนี่ครับ http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=2397 (http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=2397)
-
ที่อังกฤษ รถเก๋งToyota เครื่องdiesel เกลื่อนเมืองเลย
แล้วมีคนบอกว่า บ้านเราคุณภาพน้ำมันดีเซลไม่ได้ดีเหมือนยุโรป ทำให้การผ่านมาตรฐานต่างๆก็ยาก
จริงครับ แต่เรื่องของส่วนประกอบในน้ำมันผทไม่รู้เรื่องหรอก แต่สีของน้ำมันและกลิ่นของบ้านเราและที่ยุโรปต่างกันมากเลย ละก็ Jaguar ไม่นำรุ่น Xf 3.0d เข้ามาขายเพราะปัญหาความแตกต่างของน้ำมันนี่แหละ
ละก็ที่อังกฤษ รถเก๋งToyoa diesel เพียบเลย
-
ขอนอกเรื่องนิดเดียว ดีเซลน่ารักหลายอย่าง สองอย่างที่ทำให้หวั่นใจ ถ้าจะเอาเข้ามา คือ SCV Valve ที่ของค่ายนึง ไม่ค่อยถูกกับน้ำมันในไทยเท่าไหร่ อีกอย่างคือดีเซลไม่ชอบอากาศเย็น ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีก็ได้
-
คนแก่หัวโบรานยัง ยี้กับเครื่อง diesel อยู่เลยคับ (เช่นพ่อผมเนี่ยแหล่ะ)
-
ต้องรอรัฐบาลญี่ปุ่นเปลี่ยนใจเท่านั้น เราถึงจะได้มีลุ้น :P