Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: yod artstu ที่ ธันวาคม 30, 2011, 23:03:28
-
อ่านของคนอื่นอยู่เป็นปีๆ ......นี่เป็นโอกาสดีที่ Camry Hybrid ของข้าพเจ้า จะตกรุ่นในปี 2012 นี้แล้ว
ทั้งๆที่เพิ่งออกรถมาได้ 5 เดือน T-T
จึงถือฤกษ์งามยามเปลี่ยนรุ่นนี้ บอกเล่าเก้าสิบเรื่องการใช้งานทั่วๆไป เพื่อให้พี่ๆน้องๆ
ที่กำลังจะซื้อรถมือสอง หรือซื้อรถรุ่นนี้ที่ยังอยู่ในสต๊อกและลดราคากันถล่มทลายเป็นหลักแสน
ได้ฟัง Report อันสุดจะกระท่อนกระแท่นของผม เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเพิ่มเติม
ว่า........จะรับมันเข้ามาอยู่ในชายคาเดียวกันกับท่านได้หรือไม่
ส่งท้ายปีเก่ากันซะเลย ;D ไหนๆจะเป็นรถตกรุ่นแล้ว
รายรายละเอียดอื่นๆ ลึกๆ ข้อมูลต่างๆ คุณจิมมี่ก็ได้ทำไว้สุดยอดและละเอียดมากๆแล้ว :) ถ้ามีอะไรซ้ำๆ ผมจะขอข้ามไปทั้งหมด
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=812:-toyota-camry-hybrid-&catid=65:d-segment-2000-3500-cc&Itemid=75 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=812:-toyota-camry-hybrid-&catid=65:d-segment-2000-3500-cc&Itemid=75)
-
ขอย้อนกลับไปตอนที่ตัดสินใจว่าทำไม ถึงเป็นคันนี้?
โดยปกติ ลักษณะการใช้รถของที่บ้าน อยู่กลางเมือง รถไฟฟ้าไปถึง
ทำงานในย่านที่เดินทางสะดวก ซอยแคบ ที่จอดรถมีน้อย
ต้องเข็นบ้าง ทำให้การใช้รถคันใหญ่ๆเป็นเรื่องลำบากมากกว่าสบาย
แต่ที่บ้่านก็ยังอุตส่าห์มีรถที่คันใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเข้าออกซอยได้สบาย
ก็เป็นรถระดับ C-Segment ธรรมดาคันหนึ่ง
รถ Nissan Primera ก็คือรถที่ว่านั้น เจ้าจอมดุคันนี้ใช้เครื่อง SR20 N/A
คันนี้ซื้อมาตั้งแต่ปี 1997 ในงานมอร์เตอร์โชว์ที่สวนอัมพร
สภาพ เดิมๆทุกอย่าง แค่เปลี่ยนล้อแมกซ์ เท่านั้น ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสองแสนกว่าโลแล้ว
เข้าศูนย์ปทุมวัน มาตลอดจนกระทั่งสี่ปีหลังมานี้ เริ่มเข้าอู่บ้าง
มันเป็นรถที่ดี อัตราการเร่งแซงไม่ต้องพูดถึง หลัง 3500-4000 รอบ จะสนุกมาก
แต่เรื่องการบำรุงรักษา ก็มีแอบงอแงบ้างตามสมควร โดยเฉพาะมอร์เตอร์สตาร์ท ที่เสียบ่อย
และเคยไปเสียกลางทางที่หัวหินมาครั้งนึง ทำให้ไม่กล้าที่จะใช้งานไกลเกินกว่า 100-150 กิโล จาก กทม.
คนที่ใช้หลักๆก็เป็นคุณพ่อ ที่อายุเยอะขึ้นทุกวัน ถึงแม้ว่าช่วงล่างของ Primera
จะ set ไว้หนึบสำหรับวัยรุ่นชาวอังกฤษที่ชอบความเร็ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความ
แข็งเป็นเกวียนของมัน ตึงตังและแข็งสุดๆ สงสารคุณพ่อที่ต้องขับมันไปดูกิจการย่านชานเมือง
ที่ผมไม่ชอบในรถคันนี้มากที่สุดคือ
1. ไม่มี airbag
2. ไม่มีระบบ เบรค ABS
3. ช่วงล่างเป็นญาติกับเกวียน
4. การเก็บเสียง
จึงไม่ค่อยอยากให้คุณพ่อใช้ และผมมีโครงการจับมันมา "ซน" ในภายภาคหน้า
แหม.........แต่ช่วงล่างมันก็ยิ่งนิ่มกว่า SUZUKI SJ413 คาริบเบี้ยนนะครับ
จำได้ว่า ระหว่างนั้นที่มีเจ้าเกวียน4x4 นั้น ที่บ้านยังพูดเปรียบเทียบอยู่เลยว่าคันเนี้ยย ช่วงล่างนุ่มกว่า....... :-X
-
หลังจากนั้น จึงได้ Vios 2004 มาประจำการ คันนี้ก็ซื้อมือหนึ่งมือเดียวเหมือนกัน
ก็ตอบโจทย์เรื่อง
ประหยัดน้ำมัน
บำรุงรักษาง่าย
ศูนย์บริการดี
มี ABS Airbag ใบเดียว
แต่ข้อเสีย ไม่ต้องพูดถึง เรื่องอัตราเร่ง ที่พ่อและผม มักจะไปอ้างอิงกับ
SR20 อยู่เสมอๆ : แต่ผมก็ใช้วิ่งทุกวันเพราะวิ่งในเมืองที่รถติดขัด
-
พอดีกับที่ผมต้องแต่งงาน และย้ายบ้านออกมา ทำให้ต้องยืมรถทั้งสองคันสลับไปใช้อยู่เสมอๆ
จึงมีโครงการที่จะซื้อรถคืนให้พ่อและแม่ โดยเอา Vios ไว้ใช้งานเป็นหลัก
โจทย์มีอยู่ว่า
1. ต้องมีศูนย์บริการที่บำรุงรักษาไว้ใจได้
2. มีระบบความปลอดภัยในรถเช่น Airbag / Side Airbag / ABS / VSC,VSA,ESP เป็นต้น
3. อัตราเร่งดี
4. เป็นรถ C-D Segment
และรถที่เข้าป้ายมาพิจารณาจากการทดลองขับก็มีอยู่หลายคันพร้อมเหตุผลที่ตัดออกไป เช่น
- TOYOTA CAMRY 2.0G : อัตราเร่ง 80-120 ที่ยังไม่ดีพอ และไม่มี ระบบความปลอดภัยที่มากพอ
- HONDA CRV 2.4 AWD : คันนี้ทุกคนลงมติ ว่า...."เอาคันเนี้ยแหละ!" แต่ตกม้าตายตรงที่ ทุกคนได้รับรู่เรื่องอัตราการบริโภค(แดร๊ก)น้ำมันของมัน
- TOYOTA FORTUNER หรือ PAJERO SPORT 4WD : คันนี้ ผมอยากได้ไปลุยทุ่ง ลุยฝาย ขึ้นเขา เป็นการส่วนตัว แต่พ่อต้องปีนขึ้น เค้าเลยขอบาย
- VOLVO V50 : ผมจะซื้อนะ แต่คุณพ่อกลัวเรื่องศูนย์ กับการบำรุงรักษา
- TOYOTA ALTIS 2.0 : เกือบลงตัวกับคันนี้แล้ว แต่ติดอยู่เรื่องชุดแต่ง ที่ซิ่งเกิ้นนนน และไม่เข้ากับคุณพ่อวัยลุง
- TOYOTA PRIUS : เป็นอีกคันผมจะเอา ระบบความปลอดภัยเพียบ กระทัดรัด แต่ที่บ้านไม่ชอบกันเพราะเรื่อง "P" (ถ้ามีโอกาส ผมก็จะซื้ออยู่ดี)
- FORD FOCUS TDCi : ชอบ อัตราเร่ง ความประหยัด อุปกรณ์ครบ แต่ติดเรื่องศูนย์เหมือน VOLVO (ผมอยากใช้ FORD นะครับแต่กลัวเรื่องศูนย์อย่างเดียวจริงๆ)
- NISSAN TEANA 2.0 : คันนี้ สวย ดูแพง นั่งสบาย ทุกคนชอบ แต่ติดกันที่สีภายใน จะสว่างไปไหน กลัวเลอะง่าย อีกอย่าง ศูนย์ NISSAN ใกล้บ้าน ไม่เวิร์คๆๆ
ก็เลยไม่รู้จะซื้อคันไหนกันดี ????????? ............. CRV เรอะ ?
ตอนนั้นเหมือนกับว่า ที่บ้านจะลงตัวกับ CRV2.4 AWD กันหมด กำลังจะเขียนในจองที่ศูนย์ปทุมวัน ละ....
แต่..........ผมเองนั่นแหละ ที่ "ฉีกมติ" ของทุกคนเพราะอัตราการกินน้ำมันที่........ไม่ช้าก็เร็ว
จะต้องมีคนด่าทุกครั้งที่เติมน้ำมันแน่ๆ และ.........ที่กล้าฉีกเพราะผมเป็นคนจ่ายตังค์ ;D ;D ;D
ว่าแล้วผมก็ติดต่อจอง CAMRY HYBRID เลย ทั้งๆที่ไม่มีในโผตั้งแต่ทีแรก.....เพราะลองขับแล้ว ปรากฎว่ามันได้ครบทุกข้อที่ต้องการ
(ยกเว้น
.เรื่องเข้าออกซอย ที่แอบลำบากนิดๆ แต่นาทีนี้ผมไม่สนแล้ว อยากได่้....)
กอปรกับได้ดูรีวิวของคุณจิมมี่ แอบสอบถามคนของ DENSO ที่บ้าน ที่รู้จักคนข้างใน TOYOTA เรื่องความน่าเชื่อถือของระบบ
HYBRID ก็เลยคลายความกังวลใจไปได้มาก
ผมได้เลือกรุ่นล่างสุด ที่มีแค่ CD (เพราะ GPS ใช้ของ GARMIN อยู่แล้ว)
แต่น่าเสียดาย.................ที่เค้าไม่ยอมใส่ USB มาให้
ส่วนรุ่นบนไปกว่านี้ก็มี ดีวีดี บลูธูท เนวิเกเตอร์ ฯลฯ ซึ่งผมไม่ต้องการเลย
กำหนดรับรถคันนี้ ทีแรกจะได้ทันต้นปี 2011 แต่ก็เลื่อนมารับรถเดือนมีนาคม
แต่ก็ติดสึนามิอีก จน 5 เดือนที่แล้ว ก็ได้ฤกษ์งามยามดีเสียที
สำหรับคันนี้ ได้ส่วนลดแค่ 50,000 เพราะเป็นช่วงขาดแคลนรถหลังสึนามิ
ของแถมไม่มีด๋อยอะไรเลย เพราะซื้อสด และอยู่ในช่วงหารถยาก......................
ถ่อไปออกรถที่อินเตอร์ยนต์ ชลบุรีเลย
-
ตัดเข้ามาเรื่องการใช้งานเลยดีกว่า......
อัตราเร่งในเมืองจากจุดหยุดนิ่งตามแยกไฟแดง
ไม่รู้นะ ผมมีความรู้สึกว่า Vios ของผม มันไม่ต้องกดคันเร่งมากเท่า Camry
ซึ่งผมก็ยังไม่เคยจับเวลา 0-40 ว่า ใครจะไปไวกว่ากัน แต่จากความรู้สึก
มันอืดๆกว่า Vios นิดๆนะครับ อาจเป็นเพราะว่า พยายามเลี้ยงคันเร่งไม่ให้
เครื่องยนต์ติดก็เป็นไปได้ หรือจะเป็นเพราะ ผมเคยขับแต่รถที่ใช้คัยเร่งสายก็เป็นได้
แต่ช่วง 60-120 เจ้านี่ไว้ใจได้ (จากตัวเลขทดสอบมันก็แรงจริงๆหล่ะครับ เห็นพอฟัดกับ 320D ก็ดีใจแล้ว)
อัตราเร่งแซงนอกเมือง
จากการที่ได้ใช้เส้นทาง กรุงเทพ-ประจวบฯ / กรุงเทพ-สุโขทัย ทำให้ได้ใช้อัตราเร่งแซง
ในสถานการณ์คับขัน ซึ่งทั้งผมทั้งพ่อ ชอบมากๆ แต่ สำหรับผมแล้ว...... "ความสนุก" แน่นอน
..ไม่มีเลย
เพราะการใช้เกียร์ CVT และมีมอร์เตอร์ไฟฟ้ามาช่วยเหลือ ทำให้อัตราเร่งเป็นไปอย่าง
"เรียบง่าย แต่ว่องไวไหลลื่น" อีกทั้งเสียงเครื่องก็.....ผู้ดี๊ผู้ดี
* เติม แกสโซฮอล์95 ทำให้อัตราเร่งด้อยลงไปกว่าที่คุณจิมมี่ทดสอบเล็กน้อย
ประกอบกับทุกครั้งที่วัดอัตราเร่งเป็นการเดินทางไกล จึงมีสัมภาระค่อนข้างมาก
ทำให้อัตราเร่ง ด้อยลงจากตัวเลขจากรีวิวของคุณจิมมี่ ประมาณ 0.8-1.5 วินาที
การบังคับควบคุม
เนื่องจากผมไม่เคยใช้รถใหญ่มาก่อน จะมีก็แต่ E34 ของพ่อตา ที่วิ่งในเมือง ก็เลยไม่รู้ว่า
รถใหญ่ๆ เมื่อขับเร็วๆ ซัดโค้งเป็นยังไง สำหรับคันนี้ พวงมาลัยไฟฟ้า ก็แอบเบากว่าทั้งสามคันที่ขับมามากกก
แต่กลับให้ความรู้สึกที่มั่นคงมากกว่าโดยเฉพาะ วีออส (ยกเว้น E34) แต่ถ้าเป็นพวกมุดๆ เปลี่ยนเลนสนุกๆในเมือง
มันทำได้ไม่ดีเท่าวีออสอยู่แล้ว ช่วงล่าง เมื่อเทียบกับสองคันที่ผมมีอยู่ ก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม แพ้เทียน่าแน่ๆเรื่องความสบาย ส่วนเรื่องการซัดเข้าโค้ง ผมไม่ได้ขับเสี่ยง
ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่เทีียบความสนุกนี่........ Primera กินขาด
แรงดึง เสียงเครื่อง ระยะฟรีพวงมาลัย ขนาดของรถ แต่นั่นแหละ
ทั้งกินน้ำมัน และความสบายในการขับ ไม่มีเลย ฯลฯ
ผมได้เคยนั่ง camry AVC40 2.0 ตัวก่อนหน้านี้ของลุง นุ่มและยวบย้วยเป็นที่สุด เทียบไม่ได้กับความแน่น
ของคันนี้เลย ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดๆ ว่าเวลาขับเร็วๆ ไม่ย้วย ไม่เหิน รู้สึกเฟิร์มกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อัตราเร่ง 2.0 คันนั้น ไม่ต้องพูดถึง อืดทืดดดด
-
ความสบายในห้องโดยสาร และทัศนวิสัย
เป็นไปตามที่คุณจิมมี่ว่าไว้ทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องทัศนวิสัยของเสา A ที่บดบังยามเวลาเลี้ยว
ชวนหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง
เป็นความรู็สึกเหมือนขี่แมมมอธไปในที่จราจรคับคั่งแหละครับ
ซึ่งเป็นความรู้สึกของคนที่เคยขี่ลาตัวเล็กๆมาก่อน
แต่เบาะนั่งคนขับ ผมกับพ่อ Happy ดี
ส่วนเบาะหลัง นั่งไม่สบายจริงๆ แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากเท่าทั้งสองคันที่ผมมีนะ :)
** ในรูป ผมเห็นด้วยกับคุณจิมมี่นะ ว่ากระจังหน้ามันเหมือน "แมงมุมโครเมี่ยม"
ผมแอบคิดว่าอยากเอากระจังของรุ่น 2.0 มาติดแทนจัง......
-
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ไม่วัดจากหน้าจอ แต่วัดจากจำนวนกิโลเมตร และจำนวนน้ำมันที่เติมกลับลงไป
ได้ดังนี้
* นั่ง 3-4 คน สัมภาระ เต็มท้ายรถ ไม่เลี้ยงคันเร่ง ขับเฉลี่ย 80-140 ส่วนใหญ่ไม่เกิน 120
ในเมืองเป็นส่วนน้อย นอกเมืองเป็นส่วนมาก
กรุงเทพฯ - ประจวบฯ 13.8 กิโลเมตร/ ลิตร
กรุงเทพฯ - หัวหิน ช่วงเทศกาล 12.8 กิโลเมตร / ลิตร
กรุงเทพฯ - สุโขทัย 14.6 กิโลเมตร / ลิตร
ในภาพ ฝาเครื่องสีเงินๆนั่น....พลาสติกนะคร๊าบ :P
-
ความเนี้ยบของการประกอบ
ภายในห้องโดยสาร จะเห็นว่าไม่ได้เรียบร้อยอะไรมาก ยังมีส่วนที่ ERROR อยู่มาก
โดยเฉพาะรอยต่อของวัสดุ และตัวเบาะหนัง ที่ผิวสัมผัส แข็ง ไม่ชวน Relax
และเรื่องโทนสีภายในที่เลือกใช้ ผมไม่ได้ชอบเลย ผมชอบรุ่น EXTREMO มากกว่า
เพียงแต่ว่าตอนจอง รุ่นนี้ยังไม่ออก T-T
* ในภาพ จะเป็นรูที่บาะหนังเฉพาะคู่หน้า ที่จะมีระบบแอร์เป่าเย็นมาให้ด้วย (แอร์ปั่นตด)
และมีตัวช่วยดันหลังให้เฉพาะด้านคนขับ
-
ที่เห็น จะเป็นตะเข็บรอบต่อของพักพิงหัว ที่เย็บไม่ค่อยเรียบร้อย
เห็นไหมครับ มีหนังปลิ้นๆออกมาด้วย เฮ่อ... :P
ทีแรกสุด มีด้ายลุ่ยออกมาด้วย แต่ผมได้ตัดออกไปแล้ว
-
ผิวของหนัง ก็...จะว่ายังไงดีหล่ะ ผิวสัมผัสไม่ได้นุ่มนวลชวนฝัน
ถ้าเป็นหนังวัว ก็คงไม่ใช่หนังของวัววัย "ขบเผาะ" แน่ๆ
เป็นหนังของ "วัวกร้านชีวิต" ;D
-
นี่ไง รอยต่อเหนือเรือนนาฬิกาขึ้นไป จะเป็นคลื่นๆ
ผมดูแล้วเป็นทุกคัน ไม่เนี้ยบ ระยะห่างยังไม่เท่ากัน
วัสดุเป็นเหมือนโฟมหรือยางอะไรสักอย่าง ที่มีผิวสัมผัสนุ่ม
แต่จะให้ผมเลือก ระว่างนุ่มนิดๆแบบนี้ กับเอารอบต่อเป๊ะๆ
ผมเลือกรอยต่อนะ
เพราะคงไม่มีใครขึ้นรถแล้วลูบไล้คอนโซลหน้ารถทุกครั้งก่อนออกรถแน่ๆ :-*
-
งานออกแบบ
ส่วนตัวผมว่างานออกแบบ ไม่ได้แย่อะไรมาก
แต่การเลือกจับคู่สี หรือการเบรคสีนี่เลวร้ายพอสมควร
ให้เพิ่มโทนให้มืดกว่านี้ วัสดุที่ใช้ในห้องโดยสาร จะดูแพงขึ้นมาทันที
ยกตัวอย่างกรณี ภายในของ Altis รุ่น 2.0 ที่เป็นสีดำ กับรุ่น 1.8 ที่เป็นสีเบจ
..... แต่ส่วนตัวนิดนึง วิทยุมันดูลิเกมากๆ
ทว่าการใช้งาน ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องอ่านคู่มือก็ยังได้
เรื่องของคุณภาพเสียง
ใครที่เคยฟัง หรือมี Bose Sound Dock หรือมีลำโพงคอม Bose Companion 3
อย่าหวังว่ามันจะไปไกลขนาดนั้นครับ เอาเป็นว่า ได้แค่ 1/4 ของลำโพงชุดเหล่านั้น :D
- ย่านทวีตเตอร์ เสียงแหลมไปนิดนึง
- ย่านเบส แอบบวมเล็กน้อย
- ย่านมิดเรนจ์ เสียงจมหายไปหน่อย
ต้องปรับแต่ง EQ ให้ลงตัวหน่อย
แต่โดยรวม เสียงก็ยังดีกว่าบางคันที่แพงกว่ามันเท่าตัวหล่ะน่า..... ;D
ระบบปรับอากาศ
แยกซ้ายขวา มีระบบออโต้ มีพลาสม่าคลัสเตอร์ฟอกกลิ่น ชอบมว๊ากกกก :D
-
จุดที่น่าเกลียดของรถคันนี้อีกจุดหนึ่งคือ........
สีของลายไม้ ชนิดที่เป็นประเด็นว่าผมอาจจะไม่ซื้อมันเพราะลายไม้เลยทีเดียว
แต่ก็ทำใจ........เพราะแพ้พลังและความประหยัดของมัน
สังเกตนะครับ ว่าเกียร์ จะไม่มีเกียร์ 3-2-1 จะเป็น B แทน ซึ่ง B ก็คือ
ตัวหน่วงช่วยเบรค โดยจะเอาการเบรคมามาใช้ปั่นไฟแทน
ผลของการใช้งาน ลงเนินชันประมาณ 25-30 องศาจากวัดเขาสุวรรณคีรี ที่ศรีสัชนาลัย
เป็นระยะทาง 400 เมตร พบว่าการใช้ B ไม่ค่อยหน่วงรถเท่าไหร่ แต่ทำให้รถตื้อลงเล็กน้อย
อาการไม่ช่วยเท่าการใช้เกียร์ 1 เหมือนใช้เกียร์ 2 มากกว่า
การใช้ B ในทางราบ กรณีรถข้างหน้าเบรกกระทันหัน ก็เหมือนการใช้เกียร์สอง
คือมีอาการหน่วงอยู่บ้าง แต่ที่เราไม่รู้สึกว่ามันหน่วง
อาจจะเป็นเพราะไม่มี "เสียงของเครื่อง" เข้ามาหลอกความรู้สึก
แต่เรื่องขึ้นเขา ยังไม่ได้ลองมากมาย เดี๋ยวไปเชียงใหม่แล้วจะมารายงานกันต่อไปครับ
-
ไฟที่ช่องใส่ซองบุหรี่
รถคันนี้อย่างที่คุณจิมมี่บอก มีไฟซ่อนอยู่ในรถเต็มไปหมด
ตั้งแต่ไฟใต้กระจกมองหลัง
ไฟใต้คอนโซล
ไฟริมประตู
ไฟอ่านแผนที่ หน้า หลัง
ไฟตรงที่เปิดประตู
ไฟที่จุดบุหรี่
เป็นต้น
ไม่อยากนึก ถ้าหลอดเสีย จะเปลี่ยนตรงไหน วุ่นวายไหม?
-
ปุ่มควบคุมความแรงของ "แอร์ปั่นตด"
ปุ่มปิดม่านบังแดดหลัง
-
ปุ่มความจำตำแหน่งเบาะ มีมาแค่ 2 ตำแหน่ง
ปุ่มปิดเปิด เซนเซอร์ถอย
ปุ่มปิดเปิด ไฟหน้าเลี้ยว AFS
ปุ่มปรับกระจกมองข้าง และพับกระจก
-
อันนี้ของเบาะคนขับ เห็นร่องรอย ERROR ของการประกอบ
ส่วนตัวนะ...ผมว่า การที่คุณจะเลือกใช้สีเบจ คุณต้องมีความเนี้ยบในเรื่อง
รอยต่อระหว่างวัสดุให้มากขึ้น มากกว่าสีเข้มๆ
-
ไฟซ่อน....
-
มือจับ + ที่ท้าวแขน เบาะหลัง
น่าสงสารผู้บริหาร คงเมื่อยนะ... ;D
เรื่องเมื่อยช่างมันเหอะ
แต่ดูสิ ดู สิคร๊าบพี่น้อง รอยต่อๆๆๆ
รถราคาล้านหกเจ้าข้าเอย....... ::)
-
แอร์สำหรับคนนั่งด้านหลัง ปรับอุณหภูมิ ไม่ได้ ได้แต่ลดความเร็วลมด้วยการ
กลิ้งลูกบิด ในภาพจะเห็นฝาปิดของ ซึ่งเป็นที่ท้าวแขนคนขับและคนนั่งด้านหน้า
ซึ่งเป็ฯตำแหน่งที่พอดีมากกกกกกกก และยังแถมด้วย "ช่องเย็น" เอาไว้เก็บ
เครื่องดืมอะไรเย็นๆที่หยิบจากตู้เย็นมาเก็บไว้ได้ ;D
-
ที่ปัดน้ำฝน ออโต้ แต่ผมปิดไว้เสมอ ปลอดภัยกว่า
-
ไฟหน้าอัตโนมัติ แต่ผมก็ปิดอีก เพราะกลัวมอเตอร์ไซด์ด่า เวลาลอดใต้สะพานกลับรถ ;D ;D
-
อันนี้แหละครับ รักเลยตอนเดินทางไกล
-
รอยตะเข็บหนัง และรอยต่อระหว่างไม้กับหนัง
มันล้นๆ จักจี้ อุ้งมือนะในตอนแรกๆ แต่เดี๋ยวก็ชินไปเอง
-
ม่านบังแดดเบาะคู่หลัง อัตโนมือนะคร๊าบ
-
มือจับประตู เปิดอัตโนมัติ ชอบมากกก
-
โคมหน้า :)
-
ถ้าเรามีรีโมทอยู่กับตัว เราสามารถกดปุ่มยางใกล้ๆกับไฟส่องทะเบียน
เพื่อเปิดท้ายรถได้
แต่ยางที่ปิดปุ่มนี้ดูราคาห้าบาทมากๆ บางๆ หยุ่นๆ
ดูเหมือนอายุการใช้งานใกล้ๆกับอายุของแมงวัน
-
สรุป
ผมกับพ่อก็ Happy นะครับ สำหรับการใช้งานโดยรวม โดยเฉพาะอัตราเร่ง ความประหยัด ฯลฯ
และมันก็เป็นรถที่ "แรงยามเร่งแซง กดปุ๊บมาปั๊บ ไว้ใจได้" ไม่มี Lac เหมือนรถคันเร่งไฟฟ้ารุ่นอื่นๆของ โตโยต้า
ต้องเข้าในว่า ในความแรงของมันมาจากสองพลังคือเครื่อง 2.4 + มอเตอร์ไฟฟ้า ส่งด้วยเกียร์ CVT ที่ไหลลื่น
"ลื่นลีเนียร์" เสียจนจับความรู้สึกดึงไม่ได้เลย เป็นผลให้ "ความสนุกสนานในยามขับขี่ ไม่มีเลย"
เหมือนคุณแพนได้บอกไว้ในคลิปว่า "เค้า.........จะพุ่งออกไปซื่อๆอย่างนั้นหล่ะครับ"
แต่ก็ถามหน่อย ใครจะซื้อ Camry Hybrid เพื่อเอาไปขับสนุกเพื่อรับส่งผู้บริหาร? : )
หลายๆอย่าง ก็ยังไม่สามารถรายงานใด้เนื่องจากใช้งานไปยังไม่ถึงหมื่นโล
เลยไม่รู้ว่าการบำรุงรักษาจะแพงหรือเปล่า หรือระบบไฟฟ้าจะมีปัญหาอะไรไหมในระยะยาวๆ
ไว้มีอะไร ผมจะมาอัพเดทให้ละกันนะครับ
======================================================
ถึงผู้ผลิตรถ
อยากให้ TOYOTA ใส่ใจเรื่องการใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยมาให้มากกว่านี้
จะเพิ่มราคาก็ไม่ว่า เพราะ............ผมไม่เข้าใจเลยว่า รถคันนี้จะเป็นรถของผู้บริหารที่มีคนขับให้ได้ยังไง?????
ในเมื่อ เบาะหลังก็ไม่ได้นั่งสบาย ช่วงล่างก็ไม่ได้นุ่มนวลชวนฝัน ม่านถุงลมนิรภัย ก็......ไม่มี
มันน่าจะเป็นรถสำหรับผู้บริหารที่ต้องการขับเองมากกว่าที่จะมีคนขับรถให้นะ : )
ได้แต่หวังว่า CAMRY 2012 จะดีกว่านี้นะ
======================================================
ปล. พ่อ happy กับรถใหม่ของเค้าแล้วครับ แต่ผมหน่ะ...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะแอบไปจองพรีอุส 555555555++++
-
เป็นรถคันนึงที่ผมได้ขับระยะทางยาวๆ และในเมือง แล้วชอบมากเลยครับ
CVT ถึงรู้สึกรถไม่ค่อยพุ่ง แต่ความเร็วมันวิ่งมาก่อนเลยครับ
กะระยะถอยจอดรถยากมาก รวมถึงข้างหน้าด้วย มองยากจริงๆ
แป้นเบรคกับคันเร่งผมเรื่องที่ผมขับยังไงกับมันก็ไม่ชินสักทีครับ แป้นเบรคตื้นมาก แตะนิดเดียวหัวทิ่มเลย คันเร่งก็กะไม่ถูก
แต่โดยรวมแล้วต้องขอบอกว่า"โคตรชอบ"เลยครับรุ่นนี้
-
เห็นด้วยครับ เรื่องกะระยะถอยเข้าออกซอง
E34 ยังโปร่งสบายตากว่ามากๆเลยครับ
ส่วนเบรค ถ้ากดน้อย มันไม่หน่วงเท่าไหร่ ทำให้เราต้องกดเยอะขึ้น
พอเยอะเกินก็หัวทิ่มครับ ผมไม่ได้ใช้ทุกวัน ก็ยังปรับตัวไม่ได้ :P
บางครั้งเลยแอบใช้เกียร์ "B" ช่วย ::)
-
เคยวช้ตัว 2.4 ธรรมก่อนไปขับ Prius
ข้าวของให้มาเยอะได้ใจจริงๆ หน้าตาสวย แต่ว่าขับเองแล้วไม่ค่อยคล่อง
ทั้งทัศนวิสัย (แม้ข้างหลังจะดีกว่า Prius ก็ตาม) แป้นเหยียบเอาใจยากก
ช่วงล่างนี่อัตราเสี่ยงเสียง"ตึง" ตอนลูกระนาดสูงกว่า Prius ซะด้วยแหะ
ส่วนตัวแล้วคันนี้หน้าตาผ่านหมด แต่พอลองลิ้มรสแล้วมันขัดๆอยู่ครับ
-
Camry ก็ยังเป็นแฮะ ไอ้การออกแบบเสา C หนาๆ เนี่ย เป็นมันตั้งแต่ Camry, Altis, Vios เลย
จริงอยู่ มันทำให้คนด้านหลังไม่ร้อน แต่กะระยะถอยยากสุดๆ ครับ
gen ต่อไปขอ opera window หน่อยเถอะขอรับ (แต่สงสัยจะยาก)
แต่ผมว่าจริงๆ ถือว่าสวยในระดับนึงนะครับ ถึงแม้จะสู้ความ grand ของ Teana ไม่ได้ก็ตาม
ขอบคุณครับ
-
รอยตะเข็บการประกอบผมว่าดูดีกว่าตัวก่อนหน้า (acv31) นะคับ
คันผมแย่กว่านี้นะตรงช่องนาฬิกากับ แอร์หลัง มันไม่ค่อยแนบแต่ผมไม่ได้สนใจมาก ณ เวลานั้น (แบเบาะอยู่คับ) ;D
เป็นรถที่ผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรขับไปเรื่อยๆเมื่อยก็พักที่ดีมากกกก
ผมขับของเพื่อนชอบอย่างเดียวตรงเข็มความเร็วมันขึ้นเร็วกว่า อดีต 330i e46 ผมอีกค๊าบบบ!!! แถมไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ด้วย แต่โดยรวมผมว่ามันำม่โดดเด่นเท่าไหร่
-
เป็นรถคันนึงที่ผมได้ขับระยะทางยาวๆ และในเมือง แล้วชอบมากเลยครับ
CVT ถึงรู้สึกรถไม่ค่อยพุ่ง แต่ความเร็วมันวิ่งมาก่อนเลยครับ
กะระยะถอยจอดรถยากมาก รวมถึงข้างหน้าด้วย มองยากจริงๆ
แป้นเบรคกับคันเร่งผมเรื่องที่ผมขับยังไงกับมันก็ไม่ชินสักทีครับ แป้นเบรคตื้นมาก แตะนิดเดียวหัวทิ่มเลย คันเร่งก็กะไม่ถูก
แต่โดยรวมแล้วต้องขอบอกว่า"โคตรชอบ"เลยครับรุ่นนี้
Camry เทียบกับ Passat CC เป็นยังไงบ้างหรือครับ สนใจจริงๆครับ
-
ขอบคุณสำหรีบริวิวครับ
จากประสบการณ์ที่เคยขับ2.4V ธรรมดาของคุณป้า ของเล่นเยอะมากๆครับ แต่การขับขี่ในเมืองokแต่พอขับเร็วชักจะไม่ใชแล้วครับ
แต่กับCAMRY HB ผมได้ขับแบบสั้นๆ รู้สึกว่ามันกับเฟริม์กว่าตัวธรรมดาเยอะครับ ช่วงล่างผมว่าคนหละฟีลลิ่งเลยครับ :)
-
เป็นรถคันนึงที่ผมได้ขับระยะทางยาวๆ และในเมือง แล้วชอบมากเลยครับ
CVT ถึงรู้สึกรถไม่ค่อยพุ่ง แต่ความเร็วมันวิ่งมาก่อนเลยครับ
กะระยะถอยจอดรถยากมาก รวมถึงข้างหน้าด้วย มองยากจริงๆ
แป้นเบรคกับคันเร่งผมเรื่องที่ผมขับยังไงกับมันก็ไม่ชินสักทีครับ แป้นเบรคตื้นมาก แตะนิดเดียวหัวทิ่มเลย คันเร่งก็กะไม่ถูก
แต่โดยรวมแล้วต้องขอบอกว่า"โคตรชอบ"เลยครับรุ่นนี้
Camry เทียบกับ Passat CC เป็นยังไงบ้างหรือครับ สนใจจริงๆครับ
เครื่อง 2.4 ของ Camry มาเทียบกับ 2.0 ของ CC นี่ขอบอกว่าคนละเรื่องเลยครับ
ของ CC นี่เหยียบแล้วมันจะกระชากตัวคุณเลยครับ แต่ Camry มันไปแบบนิ่มๆ
การขับขี่ CC มันใจกว่าครับ พวงมาลัยเบา แต่มั่นใจครับ
ถ้าผมยังไม่ได้ซื้อแล้วต้องมาดูสองตัวนี้ ผมคงเลือก CC แหละครับ ถ้ามีอะไรส่วนอื่นก็ถามมาได้เลยนะครับ เขียนไม่ค่อยเก่ง
-
เป็นรถคันนึงที่ผมได้ขับระยะทางยาวๆ และในเมือง แล้วชอบมากเลยครับ
CVT ถึงรู้สึกรถไม่ค่อยพุ่ง แต่ความเร็วมันวิ่งมาก่อนเลยครับ
กะระยะถอยจอดรถยากมาก รวมถึงข้างหน้าด้วย มองยากจริงๆ
แป้นเบรคกับคันเร่งผมเรื่องที่ผมขับยังไงกับมันก็ไม่ชินสักทีครับ แป้นเบรคตื้นมาก แตะนิดเดียวหัวทิ่มเลย คันเร่งก็กะไม่ถูก
แต่โดยรวมแล้วต้องขอบอกว่า"โคตรชอบ"เลยครับรุ่นนี้
Camry เทียบกับ Passat CC เป็นยังไงบ้างหรือครับ สนใจจริงๆครับ
เครื่อง 2.4 ของ Camry มาเทียบกับ 2.0 ของ CC นี่ขอบอกว่าคนละเรื่องเลยครับ
ของ CC นี่เหยียบแล้วมันจะกระชากตัวคุณเลยครับ แต่ Camry มันไปแบบนิ่มๆ
การขับขี่ CC มันใจกว่าครับ พวงมาลัยเบา แต่มั่นใจครับ
ถ้าผมยังไม่ได้ซื้อแล้วต้องมาดูสองตัวนี้ ผมคงเลือก CC แหละครับ ถ้ามีอะไรส่วนอื่นก็ถามมาได้เลยนะครับ เขียนไม่ค่อยเก่ง
เรื่องกระจกตรงประตูนะครับ
เวลาเราเปิดประตู กระจกมันจะเลื่อนลงมาก่อนหรือครับ
อย่างนี้ ถ้าเราเปิดประตูเร็วๆจะได้ไหมครับ กระจกมันจะเลื่อนลงทันหรือ
ชอบจริงๆ Passat CC, ทุกวันนี้เห็นมันผ่าน มันยังเรียกความสนใจจากผมเสมอ แต่บุญวาศนาเราไม่มีต่อกัน :( ผมเพิ่งซื้อ Volvo S40 ไป, อดเลยทีนี้
เสียดายจริงๆ
-
อ่อ กระจกตรงประตู ต้องดึงมือจับมาก่อนครับ แต่อย่าเพิ่งเปิด ดึงให้กระจกลงมาก่อนค่อยเปิด
แต่ถ้าคนไม่รู้เรื่องมาขึ้นรถผมแล้วคว้าเปิดหมับผมนี่มีค้อนครับ 555 กลัวมันจะพังบ้างอะไรบ้าง
แต่ถึงคว้าเร็วยังไงมันก็ลงมาทันอยู่ดีครับ ผมว่าเค้าน่าจะทำระบบนี้มาให้ทนพอสมควรนะครับ คนขับบางคนอาจไม่รู้เรื่องอะไรอย่างงี้
:)
-
ขอบคุณครับ
รถสวยครับ เรื่องตกรุ่น ทำใจล่วงหน้ากันเลยดีกว่า
โตโยต้าสุคหลังๆ ออพชั่นเต็มพิกัด แต่เรื่องวัสดุและความเนี้ยบลดลง
การขับขี่ที่ยังไม่ถือว่าดี เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ถือว่าดีขึ้นเยอะแล้วครับ (แต่มันก็กระด้างขึ้นมาก ;D)
-
ขอบคุณครับ เก็บรายละเอียดได้ดีนะ ถ่ายรูปสวยอีกต่างหาก จริงๆรถคันนี้ก็ติดที่ความปลอดภัยอย่างม่านถุงลมแหละครับ และการหวังขับสนุกในรถคันนี้ มันไม่ใช่จุดประสงค์เขาไงครับ คือความนุ่มสบาย ได้อยู่ แต่ไม่ชอบเบรคของรุ่นนี้เลย กะยาก จนเกิดการชนคันหน้าได้ง่ายๆ ถ้าไม่ชิน
-
เหมือนกันสองคันเลยครับ
Nissan primera รถคันแรกทึ่ผมซื้อด้วยเงินตัวเอง (ถึงแม่จะเป็นมือสอง)
คิดถึงมันมากครับ สีน้ำเงินมันสวยยมากก แต่ไม่มีAirbag ABS เท่านั้น
ช่วงล่างหน้งเหมือนSkyline ด้านหลังมัลติลิ่งบีม แต่ไม่เหมือนB14, A32 ในตอนนั้น
ส่วนอีกคันVIOS 1.5 ก่อนไมเนอร์ของแฟนที่ขับก่อนแต่งงานกัน
มันสู่Primera ไม่ได้ซักเรื่องยกเว้นเรื่องประหยัดน้ำมันเท่านั้น
ขายไปหมด ตอนนี้มันกล่ายเป็น Mazda3 5d 2.0and Teana xv 2.5
ส่วนคัมรี่นี้ผมไม่แลเลยเพราะเทียบความสบายกับเทียน่าไม่ติดฝุ่น ยกเว้นเรื่องความประหยัดเท่านั้น
ผมยอมจ่ายค่าน้ำมันมากกว่าจะนั่งในรถที่นั่งไม่ค่อยสบายกว่ากัน และส่วนต่างราคาเกือบ400,000 เอามาเติมน้ำมัน
เป็นค่าส่วนต่างได้ยอะมากน่ะครับ
-
ผมขอบอกว่า camry นี้ไมล์หลอกเจ้าของรถจิงๆ ไม่เชื่อลองเอา GPS จับความเร็วดูสิครับ ไมล์อ่อนกว่าความเป็นจิงเกือบ 15 kph เลย ตอนแรกผมคิด ๆ ดูว่าเอ... รถขับตั้ง 130 แล้ว นิ่งเงียบดี ที่ไหนได้ ดูความเร็วใน GARMIN มันยังไม่ถึง 120 เลย !!
-
เบรคมือเป็นเบรคมือไฟฟ้าหรือเปล่าครับ
*อยู่ข้างๆเบรคหรือเปล่าครับ
-
เบรคมือเป็นเบรคมือไฟฟ้าหรือเปล่าครับ
*อยู่ข้างๆเบรคหรือเปล่าครับ
camry ไม่มีเบรคมือนะ มีแต่เบรกมือไฟฟ้า 5555
-
เบรคที่เท้านั้นเค้าเรียกเบรคมือไฟฟ้าหรอครับ?
-
เบรคมือเป็นเบรคมือไฟฟ้าหรือเปล่าครับ
*อยู่ข้างๆเบรคหรือเปล่าครับ
อยู่ตรงขาซ้ายอ่ะครับ ไม่รู้ทำไม.....มันน่าจะสะดวกนะ แต่ผมไม่ชอบเลย
ชอบดึงข้างๆตัวมากกว่า :P
-
เบรคมือเป็นเบรคมือไฟฟ้าหรือเปล่าครับ
*อยู่ข้างๆเบรคหรือเปล่าครับ
camry ไม่มีเบรคมือนะ มีแต่เบรกมือไฟฟ้า 5555
อ่อ แบบนั้นเรียกว่าเบรกมือประชาทัณฑ์คร้บ
-
เคยทดลองขับยาวๆ พบว่า....ไม่น่าผิดหวัง เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร สิ่งที่ชอบคือช่วงล่างที่หนึบหนับกำลังดี และอัตราเร่งที่เหมือนเครื่องบิน Jet เป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่สุด
ส่วนเบาะนั่ง....ชอบแค่เบาะปั่นตดเพียงเท่านั้น นั่งชั่วครู่ เพียงพอ แต่นั่งนานๆ...จะพาลเมื่อยครับ
-
รูปสวย รีวิวดีครับ
ขอบคุณๆ
-
ทดสอบ ระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ไป-กลับ กรุงเทพฯ เชียงใหม่
ใช้เส้น กำแพงเพชร - เถิน ลำปาง - ซุปเปอร์ไฮเวย์
+ ขึ้น-ลง ดอยอินทนนท์ อยู่บนนั้น 2 วัน
+ ขึ้น-ลง ดอยสุเทพ
+ ขับในเมือง รถติด
นั่ง 4 คน ของเต็มจนแน่นท้ายรถ โดยเฉพาะขากลับ
มีกล้องดูดาว ORION ขนาดใหญ่ ขาตั้งกล้องดูดาว
ขาตั้งกล้อง และกระเป๋าเดินทาง 4 ใบ และของจุกจิก และเป้ประจำตัวของแต่ละคน
รายงานการสิ้นเปลือง
อัตราการสิ้นเปลือง ขึ้น-ลงดอย อยู่ที่ 9.9 กิโลเมตร / ลิตร
อัตราการสิ้นเปลือง เดินทางไกล กรุงเทพ-เชียงใหม่ 13.9 กิโลเมตร / ลิตร
อัตราการสิ้นเปลือง เดินทางในเมืองเชียงใหม่-กรุงเทพ 11.5 กิโลเมตร / ลิตร
การขับขี่เมื่อขึ้นเขา ทางชัน
ไม่พบปัญหากับการเร่งแซงบนดอยอินทนนท์ - ดอยสุเทพ แม้ว่าจะขนของเต็มที่
แต่อัตราเร่งยัง "รู้สึก" ว่าเป็นที่ "น่าพอใจ" พอดีไม่ได้จับเวลา แต่พอจะรู้สึกว่า
อัตราเร่ง เสียงเครื่องยนต์ (เปิดกระจกลองฟัง) ก็ยังไม่ดังเท่าเครื่องรอบจัดแบบ SR20
หรือเครื่อง NZ-FE วีออส วัดจากอัตราเร่งที่มีรถฟอร์จูนเนอร์ และ ไทรตันตามหลัง
ที่จะตามไม่ค่อยทัน
ช่วงก่อนขึ้นพระธาตุ บนดอยอินทนนท์ ผมจำได้ว่าวีออส นั่งสี่คน ของเต็มท้ายรถ ต้องเหยียบมิด
ใส่ L เลย แต่เจ้านี้ เหยียบเกินครึ่งก็เร็วเกินแล้ว สรุป อัตราเร่งไม่มีปัญหา
การขับขี่ขาลงอินทนนท์ ดอยสุเทพ
เรื่องที่ผมสงสัยจนต้องตั้งกระทู้ ถามเรื่อง B ของ camry ว่ามันหน่วงขนาดไหน
ก็รู้ทั้งรู้ว่ามันเอาไว้เบรก แต่ก็อยากรู้ว่ามันดีขนาดไหน ก็มากระจ่างตรง Downhill ที่ เชียงใหม่นี่หล่ะ
การลงเขาจากอินทนนท์ เมื่อผมใช้รถ วีออส หรือ พรีมีร่า คันเก่า ยังไงก็ยังรู็สึกว่า ระบบเกียร์ที่ให้ใส่
L ก็ยังมีความรู้สึก "หน่วง" มากกว่าการเข้าเกียร์ B ของ camry hybrid
ทำให้ต้องกดเบรคมากกว่าปกติ มีช่วงหลายกิโล ของดอยอินทนนท์ ที่ผมต้องเข้า B ค้างไว้ตลอด
สรุป ไม่รู้ว่าผมไม่คุ้น หรือไม่มั่นใจจริงๆก็ไม่รู้ แต่มีความรู้สึกว่า เกียร์ B ของ camry น่าจะมี อีกเสตป
ที่หน่วงมากกว่านี้
อัตราเร่งแซงหนีรถบ้าพลัง
บางครั้ง บางช่วง ถนนก็เพียงมี 2 เลน
เลนซ้าย ก็มีรถบรรทุกที่วิ่งประมาณ 50-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เลนขวา ก็วิ่งกัน 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ก็มี "หลายครั้ง" ที่ผมวิ่งที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วมีคนมา
สาดไฟสูง (มี ทั้งฟอร์ดเรนเจอร์ ฟอร์จูนเนอร์ อัลติส และ ครูซ หรือกระทั่งวีออสวิ่งมิดเกจ์)
และผมไม่สามารถหลบเข้าเลนซ้ายได้ เพราะมีรถใหญ่มาก
และก็ไม่ได้อยากเล่นกับเค้า
ก็ได้ใช้อัตราเร่งหนีเพื่อหนีไปอยู่ในระยะปลอดภัย
ได้ไม่ยากนัก สรุปอัตราเร่งทางตรงไม่น่าเป็นห่วง
ช่วงล่าง
พิสูจน์ เส้นทางสุดเส็งเคร็งช่วง กำแพงเพชร-ตาก
ผมไม่รู้จริงๆว่าต้องนั่งรถอะไรถึงจะรู้สึกว่านุ่มในช่วงนั้น
จำได้ว่าวีออสผ่านตรงนั้นเครียดว่าคันนี้เยอะ
การเข้าโต้งทางธรรมดา ผมไม่ได้ลอง เพราะพ่อแม่นั่งไปด้วย
เลยเข้าไม่เกิน 80 เกือบทุกโค้ง
:)
** เอารูป ไหล่ทางทรุดบนดอยอินทนนท์ก่อนขึ้นพระธาตุมาฝาก ขับลงจากพระธาตุตอนหั่วค่ำฝากระวังกันนิดนึงนะครับ
-
ถ้าใครสนใจรถคันนี้ ไม่ว่าจะรุ่นนี้ หรือรุ่นหน้า ท้ายรถคันนี้จะต้องเสียไปกับที่
เก็บแบตตารี่ของรถ
ยิ่งใส่ของแน่น แบตยิ่งร้อน และความร้อนมันจะเล็ดรอดออกมาทางเบาะหลังด้วย!!
หากคุณเป็นคนชอบเที่ยวไปไหนมาไหนครบสี่คนกับครอบครัว
ไปทีมากกว่า 3 วันกันบ่อยๆ ชอบซื้อของนู่นนี่นั่น
ผมว่ารถคันนี้ไม่ได้เหมาะกับคนที่มีกิจกรรมที่ชอบเที่ยว ชอบซื้อของ
เป็นนักถ่ายภาพสมัครเล่น ที่มีเลนส์มากกว่า 3 ตัว และมี super tele เป็นหนึ่งในนั้น
มีภรรยาหรือ แม่ยาย หรือ แม่ตัว ที่ชอบซื้อผลไม้ ของสด
จะบอกว่า ที่เก็บของท้ายรถ เล็กมว๊ากกกกกกกกก โดยที่เก็บของท้ายรถ ไม่สามารถ
+ ใส่ประเป๋าเดินทางขนาด size M-L ได้พร้อมกันทั้ง 4 ใบ
+ ขาตั้งกล้องขนาดใหญ่ กระเป๋าเลนส์ใบกลาง
+ รองเท้าสำรอง 4 ชุด อาหารแห้ง กล่องโฟมเก็บความเย็นใบเล็ก
+ ผ้าห่ม เครื่องกันหนาว (และยิ่งคุณชอบไปที่หนาวๆ และไม่ชัวร์ว่าที่พักที่นั้นๆ จะมีเครื่องกันความหนาวไว้พอหรือไม่)
นี่ยังไม่นับนะ ว่ามีลูกเล็กๆอีกคนนึง จะมั่วขนาดไหน
ท้ายรถคันนี้มันจะ "เล็กเกินไปสำหรับคุณ" ทันที
: ) แต่ผมก็ชอบมันนะ
-
ชอบเสียงเครื่องเงียบดีครับ