Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NgoH ที่ มีนาคม 02, 2012, 13:56:13
-
ผมคิดเห็นว่า คนที่มองแบนด์เหล่านี้ มองหา ECO CAR น่าจะดีกว่า หลายคนอาจคิดเหมือนผม
แตผมกลัวโปรตอน จะทิ้งลูกค้า ม้วนเสื่อกลับบ้านนะ
-
ของจีนไม่รู้เหมือนกันครับ ไม่ได้ตามเลย แต่ก็เห็นว่าเงียบมาก ส่วน Proton ของมาเลเซียเองก็เงียบมากเช่นกัน (เงียบเนี่ยหมายถึงเฉพาะในไทยนะ)
พอดีช่วงนี้ตามข่าวโปรตอนอยู่ แต่คิดว่าไม่ว่ายังไง Proton ในไทยก็คงสู้ไปเรื่อยๆแหละ เพราะรถรุ่นใหม่ๆที่จะออกมาก็น่าสนใจอยู่
อย่างปีนี้ก็เห็นมี P3-21A Global Car คันแรกของโปรตอน (เห็นบอกว่า Global Car คือคุณภาพรถที่สามารถเอาไปสู่กับคู่แข่งในตลาดโลกได้)
แต่ถ้าเห็นสเปกกับราคาแล้วอาจจะอึ้งไปเล็กน้อย ว่า option ขนาดนี้แต่ราคามันแค่นี้เองเหรอ
ที่ตามข่าวมา Proton ก็พยายามพัฒนาในหลายๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพวัสดุ เท่าที่ฟังมาหุ้นส่วนหลักสมัยก่อนคือรัฐบาลมาเลเซีย
พวก supplier ก็เลยเป็นพวกเส้นสายที่สนิทกับรัฐบาล แน่นอนถ้ามีเรื่องพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง มันย่อมไม่ดีแน่ (ผลิตยังไงก็ขายได้อยู่แล้ว)
อันเนี่ยเป็นปัญหาที่คนมาเลเซียไม่ชอบกันมาก แต่เมื่อต้นปีก็ขายหุ้นออกไปให้เอกชนแล้วนะ
พวกรถไฟฟ้า Proton เองก็มีเหมือนกัน พัฒนามาหลายปีละ ประมาณ 2014 อาจจะได้เห็นกันมั้ง มีแบบ REEV (แบบ Volt) กับ EV (แบบ Leaf)
ไปแข่งที่งาน RAC Future Car Challenge มาสองปีแล้วก็ได้รางวัลมาตลอด (http://www.futurecarchallenge.com/ (http://www.futurecarchallenge.com/))
เมื่อปีที่แล้วเห็นมีข่าวว่ามอบ Exora REEV กับ Saga EV ไปให้บรรดารัฐมนตรีทดลองใช้งานกันก่อน
เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็มีการจัดการแข่งขันให้บรรดานักศึกษาของมหาวิทยาลัยในมาเลเซียมาแข่งกันพัฒนา Saga EV (ก็ดีนะ ช่วยให้เด็กๆในประเทศพัฒนาไปด้วย)
ส่วนอันนี้ http://www.lotuscars.com/engineering/en/proactive-issue43 (http://www.lotuscars.com/engineering/en/proactive-issue43) ลองอ่านดูนะ เกี่ยวกับเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่เอามาใช้ใน P3-21A และ Exora Bold
ถ้า Proton ยังคงทำตามหลักการที่ MD คนปัจจุบันกำหนดไว้ ที่พยายามยกระดับคุณภาพของวัสดุเป็นสำคัญ Proton ก็น่าจะยังไม่หายไปไหนในเร็ววันหรอก
คงต้องดู P3-21A แหละ ว่าจะเปลี่ยนความคิดของคนที่ไม่ชอบ Proton ได้ไหม
-
น้องน้ำก็น่าจะมีส่วนในคำตอบนะ ถ้ามาอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นไง รถจากเพื่อนบ้านอาจจะเข้ามาฉวยโอกาส ก็ได้
-
ก็น่าจะยังอยู่นะครับแต่อาจจะเล่นโปรโมชั่นจัดหนัก ไม่งั้นขายแข่งeco carไม่ได้แน่ๆ แต่ที่รู้ๆคือพี่ที่ทำงานเบิกอะไหล่รถจีนยี่ห้อหนึ่งรอนานมาก
-
ผมว่าเราอาจจะได้เห็น Hybrid-Car ราคา 5 แสนจากจีนก็เป็นได้
หรือไม่ก็หันไปจับเซกเมนท์อื่นๆ ที่รถญี่ปุ่นไม่มีขายในไทย เช่น คูเป้-เปิดประทุนขนาดเล็กราคา 6-7 แสน
-
ผมว่าเราอาจจะได้เห็น Hybrid-Car ราคา 5 แสนจากจีนก็เป็นได้
หรือไม่ก็หันไปจับเซกเมนท์อื่นๆ ที่รถญี่ปุ่นไม่มีขายในไทย เช่น คูเป้-เปิดประทุนขนาดเล็กราคา 6-7 แสน
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็น่าสนนะ ;D
-
เคยคิดเล่นๆว่า น่าจะมีรถสำหรับแม่บ้านจริงๆ ไว้จ่ายกับข้าว รับลูก คันเล็กๆ ทรงน่ารัก ราคาไม่แพง
ออพชั่นมีเท่าจำเป็น เพาเวอร์ ซ.ล็อก เกียร์ออโต้ เอบีเอส แอร์แบกลูกนึง วัสดุเท่าบริโอ้ แต่ทรงน่ารักจับกลุ่มวัยรุ่นหรือผู้หญิง
ตอนนี้รถที่ผมคิด จีนเขาทำออกมาแล้วครับ แต่จะขายในไทยรึเปล่า เท่านั้นเอง
สำหรับคนที่คิดจะเปลี่ยนรถทุกๆทศวรรษ คงไม่ต้องการรถที่อยู่ยงคนกระพันแบบไฮลักซ์ผีสิงหรอก
(http://www.chrisleso.com/wp-content/uploads/2011/04/New-LC-panda.jpg)
หรือรถสปอร์ตขับชิวๆ 4-5 ปี หมดระยะประกันก็ขายทิ้ง
เหมือนไอโฟนก๊อปจากจีน เน้นดีไซน์สวยๆ ถือเอาเก๋ๆ พอสักปีนึงหรือพังก็ขายทิ้ง ไม่ต้องเสียเงินใช้ของแพง
ทำราคาและออพชั่นออกมาให้คนเกิดความลังเลว่า จะเอารถจีนคูเป้มือหนึ่ง หรือเอา W124 คูเป้มือสองดี
(http://autotraderca.files.wordpress.com/2009/01/brilliance_m3_1.jpg)
-
ยังไงรถจีนก็ยังน่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยอยู่ดีครับ ยิ่งคันเล็กๆแล้ว เพราะต่อให้มีเอบีเอส แอร์แบ็คไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัย
ถ้าออกแบบการกระจายแรงไม่ดี ชนตัวถังยุบเข้ามาถึงห้องโดยสารยังไงก็ไม่รอด
ถ้ารถจีนไม่แสดงให้เราได้เห็นว่าปลอดภัยในการทดสอบชนที่ได้มาตรฐาน โอกาสเกิดก็ยากครับ
-
^
^
^
นั่นคงเป็นวิธีควบคุมจำนวนประชากรของจีนไม่ให้ล้นประเทศมั้งครับ
(ใครไม่ฮามุขนี้ ฮาเองก็ได้)