Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: osment ที่ มีนาคม 03, 2012, 22:54:53
-
วันนี้โอกาสดี ได้พาเพื่อนไปจองรถ Ford Ranger มาครับ เลยถือโอกาสทดลองขับไปด้วยเลย
รุ่นที่ลองเป็นตัว 2.2 Double Cab AT และ MT น่ะครับ คันใหญ่โตมาก
จากที่ได้ขับมาประทับใจมากๆ ครับ เรียกได้ว่ารถเก๋งบางคันยังอาย
พอเข้าไปในห้องโดยสาร ลองสตาร์ทเครื่องดู เสียงเครื่องยนต์ในห้องโดยสารเงียบมากกกกก เงียบกว่า New D-Max เยอะ (วันนี้ไปลองมาด้วยครับ)
เอาเป็นว่าเสียงเครื่องยนต์ในห้องโดยสารเงียบกว่า Accord G8 อีกครับ
พละกำลังเครื่อง 2.2 พาร่างใหญ่โตของ Ranger ได้อย่างสบายๆเลยครับ ผมว่าเหลิอๆ ออกไปทางแรงซ่ะด้วยซ้ำ
เกียร์ 6 สปีดเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วและสมูทดีครับ แต่เกียร์ธรรมดาจะรู้สึกถึงแรงดึงมากกว่า
ช่วงล่างผมว่าออกไปทางแข็งนิดนึงครับ แน่นกำลังดี และทรงตัวที่ความเร็วสูงได้ดีมากครับ นิ่งจริงๆ
ผมทดลองขับไปที่ความเร็วประมาณ 160 (ถนนดำ) รถนิ่ง พวงมาลัยหนักแน่น เก็บเสียงเครื่องและเสียงยางได้ดีจริงๆ
ณ ที่ความเร็วขนาดนั้นผมแทบจะไม่รู้สึกว่าขับที่ความเร็ว 160 เลย เสียงที่ได้ยินชัดเจนคือเสียงลม แต่ถ้าขับประมาณ 120 ก็แทบไม่ได้ยิน
ทดลองขับเสร็จก็เซ็นใบจองรถเลยครับ ทั้งผมและเพื่อนชอบมาก รุ่นที่เพื่อนจองคือตัว 4 ประตู HR Auto ราคา 799,000 แถมประกันชั่น 1 ให้ด้วย
ปล.
ผมลองถามราคาตัว 3.2 จาก เซลล์ดู แทบช๊อค ตัวธรรมดาอยู่ที่ 1,049,000 บาท และตัว WT อยู่ที่ 1,149,000 บาท แพงได้ใจจริงๆ :D :D
-
ปล.
ผมลองถามราคาตัว 3.2 จาก เซลล์ดู แทบช๊อค ตัวธรรมดาอยู่ที่ 1,049,000 บาท และตัว WT อยู่ที่ 1,149,000 บาท แพงได้ใจจริงๆ :D :D
ราคาแพงได้ใจเลยอีก5-6ปีข้างตัวท็อปกระบะคงราคาเกินล้านไปหมด
ถ้าอยากให้ 2.2 แรงพอๆกับ 3.2 ละก็ตอนนี้เห็นมีกล่องแต่งต่างๆออกมาเยอะพอสมควรมีให้เลือกกับกระบะหลายยี่ห้อเลย ;D ;D
แต่ถ้าเรื่องอุปกรณ์เสริมในรถต่างคงต้องรอตัว MC ถึงตอนนั้นคงจัดเต็ม กระบะ 2-2.5 ลิตร น่าจะขายได้มากกว่า 2.8-3.2 ลิตร
-
เฮือก
1,149,000 :'(
-
เพิ่งไปลองในงานรถคันแรกมา
ผมก็ไม่ค่อยได้ลองขับกระบะ แต่จากที่เคยลองขับ Triton VG Turbo แล้วพอมาลอง Ranger แล้ว ผมว่า Ranger 2.2 พุ่งดีมากเลยครับ (หรือคันเร่งเบาก็ไม่รู้เหมือนกัน)
-
ยังไม่ได้ลองขับก็ชอบโฉมนี้แล้ว แต่หาข้อมูลมากขึ้นชักเอนใจไปทาง BT-50 PRO. บ้างเหมือนกันนะ คงต้องไปลองขับดูบ้างแระ ขอบคุณครับ
-
1149000 ผมยอมไปคบกับกระบะไฟท้ายใส่บิ๊กอายดีกว่าครับ ดูแล้วลงตัวกว่าในหลายๆด้าน ::)
-
ตอบครั้งที่สอง แพงมาก ผมชอบ d-max มากกว่า 5555 เพราะราคาขนาดนี้ผมไปเล่นพรีอุส ตัว standard ดีกว่า
แถมโดนตัดออปชั่นไปอีก เช่น เบาะ heater ระบบเฟืองท้ายแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง
ถ้าให้เลือกกระบะ ตอนนี้
1.colorado
2.bt-50
3.d-max
4.vigo
5. navara
-
เซลล์มั่วครับ เรนเจอร์ในไทยขายแค่ 3.2 WT 1.049 ล้านบาทรุ่นเดียวครับและท็อปสุดๆแล้วครับ XLT 3.2 อนาคตราคาถ้ามาจริงคงไม่ถึง 1ล้าน
3.2 มีรุ่นเดียวใน Ranger คือ 3.2 WT นอกนั้น3.2 XLT XLS ส่งออกหมด
-
ปล.
ผมลองถามราคาตัว 3.2 จาก เซลล์ดู แทบช๊อค ตัวธรรมดาอยู่ที่ 1,049,000 บาท และตัว WT อยู่ที่ 1,149,000 บาท แพงได้ใจจริงๆ :D :D
ราคาแพงได้ใจเลยอีก5-6ปีข้างตัวท็อปกระบะคงราคาเกินล้านไปหมด
ถ้าอยากให้ 2.2 แรงพอๆกับ 3.2 ละก็ตอนนี้เห็นมีกล่องแต่งต่างๆออกมาเยอะพอสมควรมีให้เลือกกับกระบะหลายยี่ห้อเลย ;D ;D
แต่ถ้าเรื่องอุปกรณ์เสริมในรถต่างคงต้องรอตัว MC ถึงตอนนั้นคงจัดเต็ม กระบะ 2-2.5 ลิตร น่าจะขายได้มากกว่า 2.8-3.2 ลิตร
เท่าที่ขับมา ผมว่า 2.2 เหลือกินเหลือใช้ครับ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงกล้าขายตัวท๊อป 2.2 ไว้ 969,000
พละกำลังมาไหลลื่นดีมากครับ จะติก็ตรงรอบต่ำๆ ที่รู้สึกว่ารถไม่พุ่งมาก เรื่องเกมส์จับเวลาผมไม่รู้ว่าค่ายไหนเร็วกว่าใคร
แต่เรื่องความรู้สึกเนี่ย มันไม่แพ้ใครเลยจ้าาา
แต่ถ้าตัว 3.2 คงจะแซ๊บน่าดู 555+
-
เซลล์มั่วครับ เรนเจอร์ในไทยขายแค่ 3.2 WT 1.049 ล้านบาทรุ่นเดียวครับและท็อปสุดๆแล้วครับ XLT 3.2 อนาคตราคาถ้ามาจริงคงไม่ถึง 1ล้าน
ขอบคุณครับ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อครับ แต่ก็ได้แต่เออ ออตามเซลล์ไป ผมยังคิดเลยว่าถ้ามาราคานั้นจริงๆ ใครจะไปซื้อ
-
ตอบครั้งที่สอง แพงมาก ผมชอบ d-max มากกว่า 5555 เพราะราคาขนาดนี้ผมไปเล่นพรีอุส ตัว standard ดีกว่า
แถมโดนตัดออปชั่นไปอีก เช่น เบาะ heater ระบบเฟืองท้ายแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง
ถ้าให้เลือกกระบะ ตอนนี้
1.colorado
2.bt-50
3.d-max
4.vigo
5. navara
เขาตัดออกหรือครับ ออปชั่น ยังไม่มีใครเห็นสเปคตัวในไทยและราคาอย่างเป็นทางการ ผมว่าจะรอดูปลายเดือนซักหน่อยว่าจัดเต็มแล้วเหมาะสมกับราคาหรือเปล่า
-
ผมเพิ่งเปิดเห็นในโบรชั่วร์ เขียนว่ามีตัวเบนซินดูราเทค 2.5 166 ม้าด้วย ไม่ทราบว่าอีกนานมั้ยครับกว่าจะมีขาย
-
ตัวรถมีแต่คนชอบกันแต่พอพูดถึงศูนย์บริการขึ้นมาความอยากมันหดไปหมดเลย โฮๆๆๆๆ ฟอร์ดเว้ยยยยเมื่อไหร่จะได้ฤกษ์สักทีหาาาา? :'(
-
ผมเพิ่งเปิดเห็นในโบรชั่วร์ เขียนว่ามีตัวเบนซินดูราเทค 2.5 166 ม้าด้วย ไม่ทราบว่าอีกนานมั้ยครับกว่าจะมีขาย
ไม่น่าทันครึ่งปีแรกครับผมว่านะ คิดดูในเว็บบอร์ดบ่นด่ากระจายคนที่จอง WT 2.2 ทั้ง 4*4,4*2 ยังรอคอยอย่างสิ้นหวัง XLT ยกสูงก็แทบส่งรถไม่ทันบางคนจองตอนงานมอเตอร์เอ็กโปก็ยังไม่ได้รถเลยครับ นี่ขนาดยังไม่เปิดตัวเตี้ยทุกรุ่นไม่ว่าดีเซลเบนซิล
-
เห็นคนที่ได้รับ BT-50 Pro 3.2 มารีวิวในคลับ
กินน้ำมันแทบไม่ต่างจาก 2.2 เลย
(แอบประหยัดกว่านิดนึงด้วยซ้ำ)
-
ผมก็ตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็นแล้วครับ นี่แหละกระบะในฝันจริงๆ เดินถามเซลล์อยู๋หลายครั้งเหมือนกัน
นั่งกลับมาคุยกันพ่อแล้ว คุณพ่อก็ชอบWT แต่ถ้าเล่นจริงๆคงเล่น 2.2 ครับ ภายในทำได้ดีมากๆ ดูเหมือนนั่งในรถเก่งเลย
แต่ห่วงอยุ๋เรื่องเดียวคือ เรื่อง0บริการนี่แหละ ว่าจะเป็นยังไง ออกรถมา0ห่วยแตก ก็เซ็งเหมือนกันครับ พวกBT50PRO ไม่รู้นะ
ผมแถบไม่ได้มองมันเลย รู็้สึกเหมือนไม่ค่อยถูกชะตาเลย ส่วนTriton เคยเป็นแบรนด์แรกๆที่ดู แต่เห็นMITSU~ Defectเยอะแล้วเรื่องอะไร
จะไปเสี่ยง ด้วย...ตอนนี้ต้องยอมรับจริงๆว่าRangerเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ถ้าดูแค่ตัวรถ แต่ถ้าดู0 นี่สำหรับผมคิดหนักจริงๆครับ
-
ที่ห้องโดยสารเงียบเพราะวิ่งไม่เกิน80รึป่าวครับ ผมเคยไปลอง กด110ขึ้นมันก็ดังวี๊ดนะครับ ของแบบนี้ลองนิดๆไม่ได้ ต้องกดหนักๆ เซลล์ยังไม่พอใจเลยครับ ผมไม่คิดอะไรในเมื่อเครื่อง 2.2 150แรงม้า มันวิ่งเฉียบแค่ไหนก็ต้องกดเยอะๆ เพราะเรายังไม่ซื้อ 5555
-
ก่อนเปิดตัว ชอบรุ่นนี้ที่สุดเลยคิดว่าจะซื้อรุ่นนี้แหละ แต่รอเปรียบเทียบ -D-max & bt-50 & Colorado
แต่หลังจากที่ลองแล้ว กับชอบ bt-50 ซะงั้น ตอนแรกก็เฉยๆกะรุ่นนี้รถไรหน้าตาแปลกๆแต่พอนานวันเข้ากลับดูโดดเด่นซะงั้น
ถ้าภายนอก ให้ ranger เท่ากับ bt-50 ชอบทั้งคู่เลย
แต่จากลองขับ ranger จะแข็งๆกว่า ลองนั่งเบาะหลังแล้วถ้าวิ่งทางไกลถ้าเป็นคนมีอายุหน่อยคงไม่ไหวแน่
ก็เลยเลือก bt-50 แทนครับ
ปล.ถ้ามีตังเยอะกว่านี้คงซื้อมาทั้ง2เลย 555
-
ที่ห้องโดยสารเงียบเพราะวิ่งไม่เกิน80รึป่าวครับ ผมเคยไปลอง กด110ขึ้นมันก็ดังวี๊ดนะครับ ของแบบนี้ลองนิดๆไม่ได้ ต้องกดหนักๆ เซลล์ยังไม่พอใจเลยครับ ผมไม่คิดอะไรในเมื่อเครื่อง 2.2 150แรงม้า มันวิ่งเฉียบแค่ไหนก็ต้องกดเยอะๆ เพราะเรายังไม่ซื้อ 5555
ลองกดไปถึง 160 ช่วงสั่นๆ ราวๆ 6-7 กิโลได้ครับ ไม่กล้ากดยาวกว่านี้ เกรงใจเซลล์ด้วย
เรื่องการเก็บเสียงผมว่ามันเก็บได้เงียบดีแล้วครับ ดังหน่อยก็เสียงลมตี แต่เสียงเครื่องและยางเบามากครับ
อาจเป็นเพราะรถที่ผมขับประจำมันเก็บเสียงไม่ดีก็ได้ เลยทำให้ผมรู้สึกว่ามันเก็บเสียงดีครับ ;) ;) ;)
-
2.2 ก็เหลือๆ แล้วครับ ต้องลองครับ ต้องลอง
-
ผมเพิ่งเปิดเห็นในโบรชั่วร์ เขียนว่ามีตัวเบนซินดูราเทค 2.5 166 ม้าด้วย ไม่ทราบว่าอีกนานมั้ยครับกว่าจะมีขาย
มาสด้าจะมีด้วยไหมครับ
-
ตอบครั้งที่สอง แพงมาก ผมชอบ d-max มากกว่า 5555 เพราะราคาขนาดนี้ผมไปเล่นพรีอุส ตัว standard ดีกว่า
แถมโดนตัดออปชั่นไปอีก เช่น เบาะ heater ระบบเฟืองท้ายแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง
ถ้าให้เลือกกระบะ ตอนนี้
1.colorado
2.bt-50
3.d-max
4.vigo
5. navara
เขาตัดออกหรือครับ ออปชั่น ยังไม่มีใครเห็นสเปคตัวในไทยและราคาอย่างเป็นทางการ ผมว่าจะรอดูปลายเดือนซักหน่อยว่าจัดเต็มแล้วเหมาะสมกับราคาหรือเปล่า
ตัดออกครับ เพราะผมเห็นในแคตตาล็อคเล่มใหญ่ที่เป็นสเปคอย่างเป็นทางการแล้ว ครับ
สรุปว่าขายราคา 1,049,000 บาท นี่ใช่มั้ยครับ ค่อยยังชั่วหน่อย
-
ตอบครั้งที่สอง แพงมาก ผมชอบ d-max มากกว่า 5555 เพราะราคาขนาดนี้ผมไปเล่นพรีอุส ตัว standard ดีกว่า
แถมโดนตัดออปชั่นไปอีก เช่น เบาะ heater ระบบเฟืองท้ายแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง
ถ้าให้เลือกกระบะ ตอนนี้
1.colorado
2.bt-50
3.d-max
4.vigo
5. navara
ที่ 1 ตัดออกจะดีมาก แล้วไล่ลงมา โด้ ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
-
ตอบครั้งที่สอง แพงมาก ผมชอบ d-max มากกว่า 5555 เพราะราคาขนาดนี้ผมไปเล่นพรีอุส ตัว standard ดีกว่า
แถมโดนตัดออปชั่นไปอีก เช่น เบาะ heater ระบบเฟืองท้ายแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง
ถ้าให้เลือกกระบะ ตอนนี้
1.colorado
2.bt-50
3.d-max
4.vigo
5. navara
ที่ 1 ตัดออกจะดีมาก แล้วไล่ลงมา โด้ ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ไม่ดียังไงบ้างครับ ขอข้อมูลหน่อย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
-
ranger กับ bt-50
มันรถบอดี้เดียวกันครับ
ทีมพัฒนาทีมเดียวกัน
เครื่องยนต์อะไหล่ใช้ร่วมกันได้
เบาะก็เหมือนกันแค่เปลี่ยนผ้าและหนังคนละลาย
ผมยังงงเลย บอกไปขับมาแล้ว สามารถบอกได้ว่าคันไหนดีกว่า
จริงๆ ถ้าเอาระบบ เครื่องมือวัดมาทดสอบสอบ มันแยกกันไม่ออกเรื่องประสิทธิภาพและช่วงล่างเลย
แต่พอเอาความรู้สึก คน เท่านั้นเหลาะ แยกได้ แบบ สุดยอด ผมละยอม
Mazda พัฒนาได้ขนาดนี้ เพราะ เอา เทคโนโลยีจาก Ford นะครับ
แต่กลายเป็นว่า คนไทยบอก mazda เจ๋งกว่า หุหุ
ยกตัวอย่าง Mazda 3 มันก็ Fucus นี่เหลาะ
ฺBT-50 มันก็ Ranger นี่เหลาะ ต่างกันตรง รูปลักษณ์และแยกการตลาด
-
ranger กับ bt-50
มันรถบอดี้เดียวกันครับ
ทีมพัฒนาทีมเดียวกัน
เครื่องยนต์อะไหล่ใช้ร่วมกันได้
เบาะก็เหมือนกันแค่เปลี่ยนผ้าและหนังคนละลาย
ผมยังงงเลย บอกไปขับมาแล้ว สามารถบอกได้ว่าคันไหนดีกว่า
จริงๆ ถ้าเอาระบบ เครื่องมือวัดมาทดสอบสอบ มันแยกกันไม่ออกเรื่องประสิทธิภาพและช่วงล่างเลย
แต่พอเอาความรู้สึก คน เท่านั้นเหลาะ แยกได้ แบบ สุดยอด ผมละยอม
Mazda พัฒนาได้ขนาดนี้ เพราะ เอา เทคโนโลยีจาก Ford นะครับ
แต่กลายเป็นว่า คนไทยบอก mazda เจ๋งกว่า หุหุ
ยกตัวอย่าง Mazda 3 มันก็ Fucus นี่เหลาะ
ฺBT-50 มันก็ Ranger นี่เหลาะ ต่างกันตรง รูปลักษณ์และแยกการตลาด
อาจจะเป็นที่ความชอบของแต่ล่ะคนครับ เพราะทั้งเครื่องและช่วงล่าง mazda เค้าปรับจูนเองครับ ไม่ได้ยกมาจาก Ford แล้วขายแบบทั้งดุ้น
เลย และบางคนที่ไปลองขับ เกิดไปโดนใจในแนวทางปรับจูนที่ Mazda ทำออกมาก็เท่านั้นเองครับ
-
ตอนนี้ Ford กับ Masda
ผลิตโรงงานเดียวกัน .....
-
ไปลองมาแล้วเหรอครับ ถึงยืนยัน นอนยันว่าเหมือนกัน ผลิตโรงงานเดียวกันไม่ได้หมายความว่าต้องใช้อุปกรณ์ บล็อค ไลน์เดียวกันทั้งหมดนี่นา
ไม่รู้ผมใช้คำผิดหรือเปล่า ไม่ได้เรียนอุตสาหการมา แต่ด้วยคอมมอนเซนส์ อมทั้งอุโบสถมาพูดผมก็ไม่เชื่อว่ามาสด้าเอาของฟอร์ดมาขายทั้งดุ้น
แม้แต่พี่จิมมี่ยังยืนยันว่ามาสด้านุ่มนวลกว่าชัดเจน
-
นุ่มนวล กว่านะจะโช๊คนะครับ แต่ปรับแค่นี้
ฟอร์ด เขาเขาแนว ลุยได้ ทุกสภาพถนน ตามคำคุย หรือสปอร์ตโฆษณา
ส่วน มาสด้า ไม่ได้ลุยขนาดนั้น ปรับช่วงล่างมันต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว
-
ราคาแรงขนาดนี้ เน้นโชว์ไม่เน้นขายเปล่านี่
-
ไม่ได้ไปลองหรอกครับ แต่บริบัท ที่ผมทำงานอยู่ อิสเทรินซีบอร์ด แหล่งผลิตiรถทั้งสองคัน นี่เหลาะครับ
ง่ายๆ คือผมทำงาน อยู่ในอุตสหกรรม การผลิต รถยนต์นี่เหลาะ
เครื่องยนต์และช่วงล่าง ยืนยันได้ครับ ของ ฟอร์ด - มาสด้า เพระา ยืนยันได้ ว่ามันคือคันเดียวกัน
อย่าว่าแต่โรงงานเดียวกันเลยครับ อยากจะบอกว่าสายพานเดียวกันเลยก็ว่าได้ แค่แยกปลายทางแยกเบรนไปขาย
ตอนนี้ กะบะมาสด้า ให้ Ford ออกแบบช่วงล่างและบอดี้ พูดง่าย ง่าย เข้าใจกันง่าย อีก ก็คือ มันคือรถคันเดียวกัน
ฟอร์ด - มาสด้า มันคือ รถยนต์คันเดียวกัน ต่างแค่รูปลักษณ์
ต้องพูดว่า ฟอร์ด ดียังไง - มาสด้า ก็ดียังงั้น
ส่วนชอบรูปร่างแบบไหนก็เลือกเอา
-
การเซ็ตช่วงล่างคนละแบบกันถึงแม้จะแพลตฟอร์มเดียวกันก็ตาม เพื่อให้ได้ฟิลลิ่งตามที่ต้องการ ฟอร์ดเน้นดุดัน ลุยๆหน่อย ก็เลยเซ็ตมาแข็งหน่อย ส่วนมาสด้าเน้นนั่งสบายเหมือนรถเก๋งก็เลยเซ็ตออกมานุ่มกว่ากันหน่อย
-
ไปลองมาแล้วเหรอครับ ถึงยืนยัน นอนยันว่าเหมือนกัน ผลิตโรงงานเดียวกันไม่ได้หมายความว่าต้องใช้อุปกรณ์ บล็อค ไลน์เดียวกันทั้งหมดนี่นา
ไม่รู้ผมใช้คำผิดหรือเปล่า ไม่ได้เรียนอุตสาหการมา แต่ด้วยคอมมอนเซนส์ อมทั้งอุโบสถมาพูดผมก็ไม่เชื่อว่ามาสด้าเอาของฟอร์ดมาขายทั้งดุ้น
แม้แต่พี่จิมมี่ยังยืนยันว่ามาสด้านุ่มนวลกว่าชัดเจน
ทั้งดุ้นยกเว้นโช๊ค นอกนั้นทั้งดุ้นไม่มีอะไรที่ต่างแม้แต่นิดเดียวในส่วนแชสซี ช่วงล่าง เครื่อง เกียร์
-
เวลาทดสอบ ความนิ่มนวล
ค่ายรถ จะมี ทางวิ่ง หรือ track ที่จำลองถนนรูปแบบต่าง ๆ เช่น ทางหิน ทางอิฐ ทางเอง ทางเนิน
ซึง Ford กับ MAZDA ใช้ เครื่องจักร และ คนทดสอบ ทีมเดียวกัน
ข้อกำหนดเดียวกัน เทคโนโลยีเดียวกัน
ข้อกำหนด หรือ requirment ที่โรงงาน AAT ของ Ford และ MAZDA ถูกควบรวมกลายเป็น เอกสารเดียวกัน
นี่คือสิ่งที่ผมรู้
และ การออกแบบ รถ จะไม่ใช้ Feeling มากำหนด
แต่จะใช้ Enginnering Specification เป็นตัวกำหนด และจะส่งผลถึงการออกแบบ
-
ไปลองมาแล้วเหรอครับ ถึงยืนยัน นอนยันว่าเหมือนกัน ผลิตโรงงานเดียวกันไม่ได้หมายความว่าต้องใช้อุปกรณ์ บล็อค ไลน์เดียวกันทั้งหมดนี่นา
ไม่รู้ผมใช้คำผิดหรือเปล่า ไม่ได้เรียนอุตสาหการมา แต่ด้วยคอมมอนเซนส์ อมทั้งอุโบสถมาพูดผมก็ไม่เชื่อว่ามาสด้าเอาของฟอร์ดมาขายทั้งดุ้น
แม้แต่พี่จิมมี่ยังยืนยันว่ามาสด้านุ่มนวลกว่าชัดเจน
เดี๋ยวนี้ เค้าไม่ใช่ คอมมอนเซนส์หรอกครับ ในการตัดสินอะไร
ผม ถูกสอนมาให้ ใช้ ข้อมูลจริง ประสปการร์ณจริง ในการ อธิบาย
และมก็ไม่ได้บอกว่า MAZDA เอามาทั้งดุ้น แต่ผมได้บอไปแล้ว หวังว่า คงเข้าใจ
อยากอยู่ในกะลา ก็อยู่ต่อไปเถอะครับ
-
ผมลองมาแล้ว ผมก็ว่ามันแตกต่าง แต่คุณบอกว่าไม่นับฟีลลิ่งสิ เอา Specification มาเทียบดู ผมว่าเราก็คุยคนละทางแล้วล่ะ
จบแค่นี้ละกันครับ เถียงต่อผมก็เขินเหมือนกัน เพราะผมก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์อะไร
-
ความรู้สึกมันอาจต่างกันจริงครับ แต่ผมก็บอกอยู่ว่ารถมันคือคันเดียวกัน แต่ถ้าอยากจะเอาฟิลลิ่งก็เชิญ
แต่ผมยืนยันได้ว่า มาตราฐาน การออกแบบ โครงสร้าง และ การผลิต มันคือรถ สมรรถนะเดียวกัน
spec เดียวกัน แต่ เอาความรู้สึกมาจับ มันไม่มีกฎเกณ์อะไรหรอกครับ แล้วแต่ชอลละกัน
สองรุ่น นี้ คุณจะซื้อ รุ่นไหนมันก้เหมือนกันเหลาะครับ
อยากจะบอกอีกอย่างนึงไม่ทราบ รู้รึเปล่า
ว่ารถ ทุกคันเมื่อผลิต ออกมาจะถูกขับทดสอบ อย่างน้อยก็ 60 กิโลขึ้นไป ก่อนจะถูกส่งไป จอดตากแดดอีกหลายวันกว่าจะได้ส่งขาย :-*
ส่วนผมบอกได้แค่นี้
ส่วนตัวผมเห็นรถ สองรุ่นนี้ ตั้งแต่ มันยังเป็น วุ้นอยู่เลย เมื่อ สามปีก่อน พูดมากไปไม่ดี
และจงภูมิใจเถอะ ว่า Mazda BT และ New Renger ถูกออกแบบและผลิตขึ้นที่ประเทศไทย เป็นที่แรก ไม่ได้ ผลิตที่อื่นแล้วย้ายฐานมสหรือ นำเข้ามาประกอบเหมือนรุ่นอื่น
Part Body และ โครงสร้างผลิตในไทยเกือบหมด
รถ รุ่นเดียว เหมือนกันทุกอย่างแค่ ลมอย่างไม่เท่ากัน แค่นี้ฟิลลิ่งก็ต่างกันแล้วครับ
-
ขออนุญาติเอาคำพูดของพี่จิมมี่จากหัวข้อด้านบนมาหน่อยนะครับ
"Ford จะคล่องตัว แต่ แอบสะเทือนจากพื้นถนนมากกว่า Mazda
ส่วน Mazda จะเฟิร์ม แน่น และนุ่มหนึบ กว่า Ranger นิดนึง ครับ"
ถ้าจะให้ดีคุณ mamaman ช่วย solf คำพูดหน่อยนะคำ อ่านดูแล้วไม่ค่อยรื่นเลย ต่อทำงานอยู่ในโรงงานประกอบเองเลยก็จริงไม่ได้หมายความว่าสามารถเอาเรื่องที่ตนเองรู้มากกว่าคนอื่นเขามาตอบอย่างนี้ได้ไม่ค่อยให้เกีรยติคู่สนทนากันสักเท่าไหร่เหมือนอวดรู้ซะมากกว่า ถ้าผมแปรเจตนาผิดก็ขออภัยด้วยเพราะบางทีข้อความมันสื่ออกมาได้ไม่หมดเหมือนคำพูด และผมไม่ได้ภูมิใจหรอกนะว่า Mazda BT และ New Renger ถูกออกแบบและผลิตขึ้นที่ประเทศไทยเป็นที่แรกเพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องรถนักและไม่ได้มีส่วนในกระบวนการสร้างมันขึ้นมาเลย
-
คุณ mamaman ถ้ามาจากโรงงาน ก็ดีเลย
"รถ ทุกคันเมื่อผลิต ออกมาจะถูกขับทดสอบ อย่างน้อยก็ 60 กิโลขึ้นไป ก่อนจะถูกส่งไป จอดตากแดดอีกหลายวันกว่าจะได้ส่งขาย" แล้วทำไมยังมีข้อผิดหพลาดแบบเห็นด้วยตาเปล่าขนาดนี้
ได้ดูส่วนของ fiesta ด้วยรึเปล่า ผมยังสงสัยมาตรฐาน QC ของโรงงานอยู่ว่าแบบไหนปล่อยได้ แบบไหนตก QC แล้วการประกอบที่เห็นคืออะไร
-
ความรู้สึกมันอาจต่างกันจริงครับ แต่ผมก็บอกอยู่ว่ารถมันคือคันเดียวกัน แต่ถ้าอยากจะเอาฟิลลิ่งก็เชิญ
แต่ผมยืนยันได้ว่า มาตราฐาน การออกแบบ โครงสร้าง และ การผลิต มันคือรถ สมรรถนะเดียวกัน
spec เดียวกัน แต่ เอาความรู้สึกมาจับ มันไม่มีกฎเกณ์อะไรหรอกครับ แล้วแต่ชอลละกัน
สองรุ่น นี้ คุณจะซื้อ รุ่นไหนมันก้เหมือนกันเหลาะครับ
อยากจะบอกอีกอย่างนึงไม่ทราบ รู้รึเปล่า
ว่ารถ ทุกคันเมื่อผลิต ออกมาจะถูกขับทดสอบ อย่างน้อยก็ 60 กิโลขึ้นไป ก่อนจะถูกส่งไป จอดตากแดดอีกหลายวันกว่าจะได้ส่งขาย :-*
ส่วนผมบอกได้แค่นี้
ส่วนตัวผมเห็นรถ สองรุ่นนี้ ตั้งแต่ มันยังเป็น วุ้นอยู่เลย เมื่อ สามปีก่อน พูดมากไปไม่ดี
และจงภูมิใจเถอะ ว่า Mazda BT และ New Renger ถูกออกแบบและผลิตขึ้นที่ประเทศไทย เป็นที่แรก ไม่ได้ ผลิตที่อื่นแล้วย้ายฐานมสหรือ นำเข้ามาประกอบเหมือนรุ่นอื่น
Part Body และ โครงสร้างผลิตในไทยเกือบหมด
รถ รุ่นเดียว เหมือนกันทุกอย่างแค่ ลมอย่างไม่เท่ากัน แค่นี้ฟิลลิ่งก็ต่างกันแล้วครับ
ไม่ได้อยู่วงการรถยนต์ไม่ทราบจริงๆว่าทุกคันที่ผลิตต้อง วิ่งทดสอบ 60 km
แต่ทดสอบแบบนี้เปลือง ต้นทุนสูงนะ ทั้ง พลังงาน เวลา ทรัพยากร ถ้าวันผลิตซัก 1000 คัน ใช้เวลากี่ชั้วโมงวิ่ง ใช้น้ำมันกี่ลิตร
โฮ.....เปลืองสุดๆเลย เค้าน่าจะเปลี่ยนมาใช้สุ่มนะจะช่วยลด cost ได้เยอะ
ช่างมันเถอะมันอยู่คนล่ะประเด็น ในส่วนการพูดคุยกันมา ผมก็ยังคิดว่า Mazda กับ Ford น่าจะปรับจูนช่วงล่าง และเครื่องยนต์ไปตามแนวทางของตัวเอง
แต่ต้องออกตัวก่อนล่ะครับ ว่าไม่มีข้อมูลทาง engineering มาสนับสนุน ก็อาศัยอ่่านใน club ของ newranger และ ของ BT 50 Pro คนที่ไปลองขับก็เอามาบอกประมาณว่า Ford T6ช่วงล่างแข็งกว่า แน่นหนึบ Mazda BT 50 Pro ออกแนวนุ่มนวลกว่า แต่ไม่ย้วย
ส่วนเรื่องลมยางนี้เห็นด้วยเลยครับ ;)
-
ขออนุญาติเอาคำพูดของพี่จิมมี่จากหัวข้อด้านบนมาหน่อยนะครับ
"Ford จะคล่องตัว แต่ แอบสะเทือนจากพื้นถนนมากกว่า Mazda
ส่วน Mazda จะเฟิร์ม แน่น และนุ่มหนึบ กว่า Ranger นิดนึง ครับ"
ถ้าจะให้ดีคุณ mamaman ช่วย solf คำพูดหน่อยนะคำ อ่านดูแล้วไม่ค่อยรื่นเลย ต่อทำงานอยู่ในโรงงานประกอบเองเลยก็จริงไม่ได้หมายความว่าสามารถเอาเรื่องที่ตนเองรู้มากกว่าคนอื่นเขามาตอบอย่างนี้ได้ไม่ค่อยให้เกีรยติคู่สนทนากันสักเท่าไหร่เหมือนอวดรู้ซะมากกว่า ถ้าผมแปรเจตนาผิดก็ขออภัยด้วยเพราะบางทีข้อความมันสื่ออกมาได้ไม่หมดเหมือนคำพูด และผมไม่ได้ภูมิใจหรอกนะว่า Mazda BT และ New Renger ถูกออกแบบและผลิตขึ้นที่ประเทศไทยเป็นที่แรกเพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องรถนักและไม่ได้มีส่วนในกระบวนการสร้างมันขึ้นมาเลย
คุณจิมมี ข่อนไปทางมาสด้าอยู่แล้ว
-
คุณ mamaman ถ้ามาจากโรงงาน ก็ดีเลย
"รถ ทุกคันเมื่อผลิต ออกมาจะถูกขับทดสอบ อย่างน้อยก็ 60 กิโลขึ้นไป ก่อนจะถูกส่งไป จอดตากแดดอีกหลายวันกว่าจะได้ส่งขาย" แล้วทำไมยังมีข้อผิดหพลาดแบบเห็นด้วยตาเปล่าขนาดนี้
ได้ดูส่วนของ fiesta ด้วยรึเปล่า ผมยังสงสัยมาตรฐาน QC ของโรงงานอยู่ว่าแบบไหนปล่อยได้ แบบไหนตก QC แล้วการประกอบที่เห็นคืออะไร
ถามได้โดนใจครับ :-*
-
มันไม่เกี่ยวกับภูมิใจไม่ภูมิใจหรอกครับ
แค่อยากจะบอกว่า ไทยที่คือลองผิดลองถูก
คันแรกของโลกของทั้งสอง รุ่น เกิดที่บ้านเรา ดังนั้นโอกาสเสียมันมีแน่นอน แต่ทีมงานระดับออกแบบก็ยังคงเป็นต่างชาติ 100%
ส่วนไทยควบคุมการผลิตให้ได้ตามการออกแบบ
รถยนต์หนึ่งคัน ใช้ ชิ้นส่วนต่างๆมากจากมากว่า 5000 โรงงาน แล้วเอามาประกอบกัน
รถยนต์ คันหนึ่งจะ สมบูรณืหรือไม่ขึ้นอยู่ มันอยู่ที่การควบคุม ผู้ผลิต มากกว่า 5000 โรงงานนั้น
คิดง่ายๆ เลยครับ ยกตัวอย่าง คนทำงานโรงงานผลิตรถ TOYOTA ถ้ามีเงินเหลือ กลับไปซื้อ รถฮอนด้า เพราะอะไร
กลับกันคนทำงานโรงงานผลิตฮอนด้า พอมีเงิน กลับไปซื้อ โตโยต้า
ผีเห็นผีครับ
มันไม่มีอะไรสมบูรณ์ 100 % โรงงาน ประกอบก็ใช้คนประกอบ QC ก็ใช้คนตรวจ error จากคนมีแน่นอน
สิ่งที่ เข้าเข้มงวดคือเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก ส่วนคุณภาพ ความสวยงามเรื่องรอง
ผมไม่ได้อวดรู้ หรือ อะไร หรอกครับ แค่เอาความจริงมากบอก และหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับ ผู้บริโภค
ผมไม่ได้โจมตี ว่าคันไหนห่วย คันไหนดี แค่อยากให้มองความจริง และเข้าใจให้ถูกต้อง
ถ้าไปถามคันที่เค้าขับรถสองรุ่นนี้ทดสอบ แล้วมันออกมาจากปากคนที่ ขับทดสอบทุกวันคุณจะเชื่อไหมง
ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่เป้นไรครับ แต่หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ สำหรับคนที่เชื่อ
ถ้าพูดอะไร ทำให้ขัดใจก็ต้องข้อโทษ มาด้วยแล้วครับ
-
เข้าใจในเจตนาดีครับ และเป็นเรื่องดีที่เอาเรื่องที่คนอื่นไม่มีโอกาสได้รู้ได้สัมผัสมาบอกกล่าวกันจะได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น แต่คำบางคำที่ใช้มันแปร่งๆจริงๆ ลองอ่านย้อนหลังดูครับ ไม่ได้ว่าอะไรครับเพราะบางทีเราก็หลุดกันได้ ผมก็บ่อย
ในหลายๆเรื่องต้องใช้ความรู้สึกเป็นตัววัดก็มีเยอะ คนที่จะตอบได้ดีที่สุดว่าอันไหนเป็นอย่างไรเทียบกับรุ่นอื่นแล้วเป็นอย่างไรคือคนที่ได้ทดสอบกันหลายๆรุ่น เช่น นักทดสอบรถ นักวิจารณ์ ซึ่งคนเหล่านี้ถ้าจะให้ได้ออกมาตามความเป็นจริงมากที่สุดต้องผ่านประสบการณ์และคลุกคลีเรื่องรถมานานมาก เพราะการที่จะเอามาเปรียบเทียบกับอีกคันมันต้องใช้สมองกลั่นออกมาจริงๆ
แต่ถ้าจะบอกว่าความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อันนี้ขอยกตัวอย่างการประกวดร้องเพลงแล้วกัน แต่ละคนที่มาประกวดเราฟังออกมั๊ยว่าคนไหนร้องดี ไม่ดี ดีกว่านี้ได้อีก เสียงออกมาจากท้องมีพลัง เจ็บคอ ไม่สบาย เป็นธรรมชาติ ประหม่า ตัวผมนั้นแยกไม่ค่อยออก อาศัยความชอบส่วนบุคคลตัดสินใจว่าใครร้องดีไม่ดี แต่คณะกรรมการที่ตัดสินรู้หมดเพราะเค้าอยู่ในวงการนี้มานาน สามารถเปรียบเทียบได้ว่าแต่ละคนเทียบกันอีกคนเป็นอย่างไร
ดังนั้น ผมเลือกที่จะเชื่อนักวิจารณ์รถในเรื่องข้อมูลการขับขี่แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบคันนั้นตามไปด้วยเสมอ เพราะบางทีเรืองที่ให้น้ำหนักไม่ตรงกัน แม้แต่นักวิจารณ์ด้วยกันก็ตามที
-
คุณ NINENOI ลอง อ่านการตอบ ลงมาระหว่างที่ผมตอบไป
ผมคงปรีตแตก จริงครับ เหตุที่ทำให้ หลุด เพราะเจอคน พูดจาไม่ค่อยจะดีก่อน ซึ่งผมก็ได้ระบุไปว่าตอบกับใครครับ
ซึ่งผมก็ตอบกลับเค้าไป ด้วยลัษณะเดียวกันกับที่เค้าพูดมา
แต่ไม่ได้เจตนาไปกระทบ คุณ NINENOI แต่อย่างใดครับ
ผมยอมรับ การวิจารณ์และความรู้สึกในการขับครับ และที่นี่ เค้าก็ไม่ได้ วิจารณ์แบบฟันธงว่า ดีหรือ ห่วย
แต่ที่ผมต้องการสื่อคือรายละเอียดอีกหลายอย่าง ที่ เพียงแค่การขับขี่ ไม่สามารถตอบได้
-
ต้องแยกให้ออกนะครับระหว่าง ชิ้นส่วนกับฟิลลิ่งการขับ รูปร่างที่ต่างกันเล็กน้อย ส่งผลต่ออากาศพลศาสตร์ จนไปมีผลต่อฟิลลิ่งการขับได้ครับ ถึงแม้ช่วงล่างจะเหมือนกันหมดเลยก็ตาม
เพราะงั้นที่ว่ามันแทบจะเป็นคันเดียวกันก็จริง ส่วนฟิลลิ่งการขับต่างกันก็จริงได้เช่นกันครับ และอย่าลืมว่า แค่สีภายใน หรือ ซันรูฟ ก็ส่งผลต่อฟิลลิ่งการนั่งและการขับ แม้แต่ผิวของผ้าที่หุ้มเบาะ ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อความรู้สึกได้ทั้งนั้นครับ เหมือนที่ X-Trail ไม่รู้สึกว่าแรง แต่จับเวลาแล้วแรง
ความรู้สึกของคนมันเชื่อถือไม่ได้อยู่แล้วครับ แต่ความรู้สึกมันบอกความพอใจครับ บางคนอยากได้รถที่รู้สึกดึงแต่ดูเวลาอาจจะไม่ดีก็ได้ รถมันเป็นเรื่องของการขายความพอใจอยู่แล้วครับ ไม่ต้องเถียงกันไปหรอกครับ
-
คุณ NINENOI ลอง อ่านการตอบ ลงมาระหว่างที่ผมตอบไป
ผมคงปรีตแตก จริงครับ เหตุที่ทำให้ หลุด เพราะเจอคน พูดจาไม่ค่อยจะดีก่อน ซึ่งผมก็ได้ระบุไปว่าตอบกับใครครับ
ซึ่งผมก็ตอบกลับเค้าไป ด้วยลัษณะเดียวกันกับที่เค้าพูดมา
แต่ไม่ได้เจตนาไปกระทบ คุณ NINENOI แต่อย่างใดครับ
ผมยอมรับ การวิจารณ์และความรู้สึกในการขับครับ และที่นี่ เค้าก็ไม่ได้ วิจารณ์แบบฟันธงว่า ดีหรือ ห่วย
แต่ที่ผมต้องการสื่อคือรายละเอียดอีกหลายอย่าง ที่ เพียงแค่การขับขี่ ไม่สามารถตอบได้
โอ้ เปล่าครับผมไม่ได้ติดใจอะไรเลยเพียงแต่สะกิดให้รู้ตัวนิดหน่อยครับกลัวจะไปกันใหญ่เห็นคุณ mamaman เริ่มเป๋แล้ว บางทีมีคนเริ่มก่อนแล้วตามๆกันไปมันไม่ค่อยจะจบสวยๆหรอกครับและบางทีต้องมีคนมาช่วยสะกิดบ้างก็ดี พอลองอ่านย้อนกลับไปดูอาจรู้สึกว่า อ้าวนี่ตูพูดเหรอเนี่ยไม่น่าหลุดมาได้เลย ว๊า ครั้งต่อไปใจเย็นลงกว่านี้ดีกว่า
ป.ล. ผมชอบภายนอกนาวาร่า ภายใน BT-50 เครื่องวีโก้ ช่วงล่างไตรตัน สุดท้ายจองซิตี้เพราะชอบรถเก๋ง 555
-
รถเก่าผมจับ เปลี่ยนแค่ แม๊กกับยางก็เปลี่ยนครับ ผมเปลี่ยนจาก ล้อ 15 ไปล้อ 17 คือจบเลย
เสลาเปลี่ยนยาง
โดยส่วนตัวผมไม่ไดสนใจ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เรื่องความรู้สึกเท่าไหร่ จับจุดไม่ค่อยถูกครับ
ผมสนใจแค่ ตอน ตกหลุม เค้าโค้ง หักเลี้ยวกระทันหัน ว่าอาการมันเป็นยังไง ปกติไหม
แต่ว็บนี้คงเน้น เรื่อง ความรู้สึกจริงๆ เหลาะ แค่ชื่อเว็บก็บอกแล้ว :P
-
ผมเป็นแฟนทั้งฟอร์ดและมาสด้านะครับ
ก่อนอื่นเลยผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถใด ๆ และไม่ได้เป็นนักทดลองและนักวิจารณ์ใด ๆ
แต่ผมรู้สึกว่ากระทู้นี้ เข้าใจไปคนละด้าน
พูดตรง ๆ เลย คุณ mamaman เท่าที่อ่านนะครับ ย้ำ! เท่าที่อ่าน เชื่อว่าสายการผลิตโรงงานเดียวกันในด้านช่วงล่าง
ฟอร์ดกับมาสด้าให้ผลไม่ต่างกันหรอก และคุณเองก็ไม่เชื่อว่า ฟอร์ดกับมาสด้ากระบะสองคันนี้จะต่างกันถึงขั้นที่ว่า
ขับแล้วสัมผัสได้ เพราะในหลายประโยค คุณพยายามบอกว่า Feeling ของคนมันจะเก่งไปหน่อยมั้ง ที่แบบ
ขับแล้วรู้ว่ามันแตกต่างกันทั้ง ๆ ที่ประกอบโรงงานเดียวกัน เพราะคุณรู้มาว่าเอกสารการวิจัยโครงการพัฒนารถ
มันถูกควบรวมเป็นอันเดียวกัน คุณบอกถูกสอนมาให้เชื่อจากสิ่งที่พิสูจน์ได้จากการวิจัย spec. อะไรต่าง ๆ นะถูกมั้ยครับ
อีกกรณีของอีกหลาย ๆ ท่านที่มาโพสท์กำลังจะบอกว่า ถึงแม้จะประกอบโรงงานเดียวกันนะครับ
ชิ้นส่วนเดียวกันก็ตาม พอขับแล้ว Feeling ในการขับมันต่างกันครับ จะโรงงานเดียวกันก็เถอะ
คราวนี้ความคิดเห็นผมแล้วนะครับ ผมก็ถูกสอนมาให้ใช้ความจริงที่พิสูจน์ได้ในการแสดงความคิดเห็นครับ
การที่คุณ mamaman บอกว่ามาจากโรงงานเดียวกันสายการผลิตเดียวกัน แล้วแยกตอนปลายสาย
โดยการสวมชิ้นส่วนของแต่ละยี่ห้อเครื่องเสียงแบบนี้กันชนแบบนี้ ฯลฯ ก็ต้องต่างกันเพราะคนละยี่ห้อ ถูกมั้ยครับ
ผมไม่นับด้วยนะให้สมมติเลยว่าใส่โช๊คสปริงยี่ห้อเดียวรุ่นเดียวกันด้วย ขันน๊อตความลึกมิลลิเมตรเดียวกันด้วย
นี่คือจุดต่างจุดที่ 1 ด้านวิศวกรรม และฟิสิกส์เลยนะครับ ยังไงน่ะเหรอคับ
มวลครับ หากถูกกดในตำแหน่งที่ต่างกัน การดูดซับแรงกระแทก การดีดตัวต่างกันครับ บาลานซ์ต่างกัน
เหมือนไม้กระดกที่เด็กเล่น ในสนามเด็กเล่นนั่นแหละ เพราะฉะนั้น ให้วิศวกรที่ออกแบบรถสองคันนี้มายืนยันเลยก็ได้
ผมมั่นใจว่า โครงช่วงล่างเหมือนกันหมด แต่ทันทีที่ประกอบเป็นรถสำเร็จแล้ว น้ำหนักกดลงที่จุดศูนย์ถ่วง หรือช่วงล่าง
ต่างกันแบบวัดได้แน่นอน ซึ่งส่งผลให้ความรู้สึกในการขับ รวมทั้งผลที่ได้จากการดูดซับแรงกระแทกของทั้งสองยี่ห้อต่างกัน เพราะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของฟอร์ดกับมาสด้า น้ำหนักไม่เท่ากันแน่นอน โลโก้ของยี่ห้อคงไม่ออกแบบมาให้น้ำหนักเท่ากันล่ะมั้งครับผมว่า
ต่อมาจุดต่างจุดที่ 2 ความสูงของน้ำหนักที่กดทับลงไปที่ช่วงล่างครับ ส่งผลกับการโคลงตัวของตัวถัง เหมือนที่คุณบอก
การเข้าโค้งกระทันหัน การเลี้ยว อะไรต่าง ๆ คุณมองแค่นั้นใช่มั้ยครับ ผมก็มั่นใจอีกแหละครับว่า ให้วิศวกรที่ออกแบบรถสองคันนี้มายืนยันเลยก็ได้ ถ้าวัดกันจริง ๆ แล้วความสูงของแต่ละชิ้นส่วนอุปกรณ์สูงไม่เท่ากัน ซุ้มล้อ หลังคา อะไรก็แล้วแต่ต่างกันแน่นอน เพราดีไซน์ภายนอกต่างกัน น้ำหนักของกันชนต่างกัน การวางชิ้นของไฟ ของอุปกรณ์เล็กน้อยต่างกัน สายไฟต่าง ๆ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้แหละครับ มันทำให้รถมีบุคลิกต่างกัน จุดศูนย์ถ่วง และแรงเหวี่ยงทางข้าง ต่างกันแน่ ๆ เพราะ
ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากัน และเหวี่ยงต่างจุดกัน
สรุปแล้วคือผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่ได้ใช้ฟิลลิ่งมาตอบคุณด้วย แต่ผมกำลังจะบอกว่าในความคิดเห็นส่วนตัวของผม
อิงกับทางฟิสิกส์แบบคุณนั่นแหละครับ ซึ่งจุดต่างทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ถ้านับรวมๆ กันแล้วมันส่งผล 1จุดอาจจะ 0.1%
แต่เมื่อรวมกันแล้วทุกชิ้นอาจจะต่างกัน 1-2% ส่งผลให้รถ"ต่าง"กันแล้วครับ
นั่นทำให้หลาย ๆ คนในเว็บบอร์ดนี้กำลังจะบอกคุณว่า
ถึงแม้จะออกจากไลน์การผลิตเดียวกัน แต่ประกอบชิ้นส่วนในรายละเอียดต่างกันเนี่ย มันส่งผลทางฟิสิกส์ ซึ่งส่งผลต่อสมรรถภาพรถ และส่งผลต่อมาถึงคนขับผู้รับความรู้สึกของรถครับ จะบอกว่าไม่ให้ใช้ความรู้สึกตัดสินไม่ได้หรอกครับ
เพราะความรู้สึกก็มาจากบุคลิกของรถ สมรรถภาพของรถและก็มาจากการประกอบรถนั่นแหละครับ มันเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่
พูดกันง่าย ๆ กุ๊กคนเดียวกัน เตาเดียวกัน เครื่องปรุงเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่ผัดต่างกันแค่ 5-10วินาที หรือความสดของวัตถุดิบต่างกันนิดเดียว นักชิมก็รู้แล้วครับ ว่าสองจานนี้มันต่างกัน
ด้วยความเคารพคุณ mamaman ลองเปิดใจให้กว้าง กับเหตุผลของท่านอื่น ๆ บ้างครับ
แล้วก็เว็บนี้เป็นเว็บแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันประสบการณ์กันอย่างเป็นมิตรนะครับ
สมาชิกทุกท่านให้เกียรติกัน และเป็นสังคมที่ดีอยู่แล้ว
ผมว่าคำว่า "อยากอยู่ในกะลา ก็อยู่ต่อไปเถอะครับ" เป็นการไม่ให้เกียรติสมาชิกท่านอื่นนะครับ
ผมว่าถ้าคุณ mamaman รู้สึกว่าเว็บนี้ไม่ดี หรือไม่ถูกใจคุณ หรือคนอื่นไม่เห็นด้วยกับคุณ แล้วคุณไม่ประทับใจเว็บนี้
ก็ไปเล่นเว็บอื่นเถอะครับ เพราะผมเชื่อว่ายังมีเว็บบอร์ดอื่น ๆ อาจจะยอมรับฟังความคิดเห็นในแบบของคุณก็เป็นได้
-
ผมเป็นแฟนทั้งฟอร์ดและมาสด้านะครับ
ก่อนอื่นเลยผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถใด ๆ และไม่ได้เป็นนักทดลองและนักวิจารณ์ใด ๆ
แต่ผมรู้สึกว่ากระทู้นี้ เข้าใจไปคนละด้าน
พูดตรง ๆ เลย คุณ mamaman เท่าที่อ่านนะครับ ย้ำ! เท่าที่อ่าน เชื่อว่าสายการผลิตโรงงานเดียวกันในด้านช่วงล่าง
ฟอร์ดกับมาสด้าให้ผลไม่ต่างกันหรอก และคุณเองก็ไม่เชื่อว่า ฟอร์ดกับมาสด้ากระบะสองคันนี้จะต่างกันถึงขั้นที่ว่า
ขับแล้วสัมผัสได้ เพราะในหลายประโยค คุณพยายามบอกว่า Feeling ของคนมันจะเก่งไปหน่อยมั้ง ที่แบบ
ขับแล้วรู้ว่ามันแตกต่างกันทั้ง ๆ ที่ประกอบโรงงานเดียวกัน เพราะคุณรู้มาว่าเอกสารการวิจัยโครงการพัฒนารถ
มันถูกควบรวมเป็นอันเดียวกัน คุณบอกถูกสอนมาให้เชื่อจากสิ่งที่พิสูจน์ได้จากการวิจัย spec. อะไรต่าง ๆ นะถูกมั้ยครับ
อีกกรณีของอีกหลาย ๆ ท่านที่มาโพสท์กำลังจะบอกว่า ถึงแม้จะประกอบโรงงานเดียวกันนะครับ
ชิ้นส่วนเดียวกันก็ตาม พอขับแล้ว Feeling ในการขับมันต่างกันครับ จะโรงงานเดียวกันก็เถอะ
คราวนี้ความคิดเห็นผมแล้วนะครับ ผมก็ถูกสอนมาให้ใช้ความจริงที่พิสูจน์ได้ในการแสดงความคิดเห็นครับ
การที่คุณ mamaman บอกว่ามาจากโรงงานเดียวกันสายการผลิตเดียวกัน แล้วแยกตอนปลายสาย
โดยการสวมชิ้นส่วนของแต่ละยี่ห้อเครื่องเสียงแบบนี้กันชนแบบนี้ ฯลฯ ก็ต้องต่างกันเพราะคนละยี่ห้อ ถูกมั้ยครับ
ผมไม่นับด้วยนะให้สมมติเลยว่าใส่โช๊คสปริงยี่ห้อเดียวรุ่นเดียวกันด้วย ขันน๊อตความลึกมิลลิเมตรเดียวกันด้วย
นี่คือจุดต่างจุดที่ 1 ด้านวิศวกรรม และฟิสิกส์เลยนะครับ ยังไงน่ะเหรอคับ
มวลครับ หากถูกกดในตำแหน่งที่ต่างกัน การดูดซับแรงกระแทก การดีดตัวต่างกันครับ บาลานซ์ต่างกัน
เหมือนไม้กระดกที่เด็กเล่น ในสนามเด็กเล่นนั่นแหละ เพราะฉะนั้น ให้วิศวกรที่ออกแบบรถสองคันนี้มายืนยันเลยก็ได้
ผมมั่นใจว่า โครงช่วงล่างเหมือนกันหมด แต่ทันทีที่ประกอบเป็นรถสำเร็จแล้ว น้ำหนักกดลงที่จุดศูนย์ถ่วง หรือช่วงล่าง
ต่างกันแบบวัดได้แน่นอน ซึ่งส่งผลให้ความรู้สึกในการขับ รวมทั้งผลที่ได้จากการดูดซับแรงกระแทกของทั้งสองยี่ห้อต่างกัน เพราะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของฟอร์ดกับมาสด้า น้ำหนักไม่เท่ากันแน่นอน โลโก้ของยี่ห้อคงไม่ออกแบบมาให้น้ำหนักเท่ากันล่ะมั้งครับผมว่า
ต่อมาจุดต่างจุดที่ 2 ความสูงของน้ำหนักที่กดทับลงไปที่ช่วงล่างครับ ส่งผลกับการโคลงตัวของตัวถัง เหมือนที่คุณบอก
การเข้าโค้งกระทันหัน การเลี้ยว อะไรต่าง ๆ คุณมองแค่นั้นใช่มั้ยครับ ผมก็มั่นใจอีกแหละครับว่า ให้วิศวกรที่ออกแบบรถสองคันนี้มายืนยันเลยก็ได้ ถ้าวัดกันจริง ๆ แล้วความสูงของแต่ละชิ้นส่วนอุปกรณ์สูงไม่เท่ากัน ซุ้มล้อ หลังคา อะไรก็แล้วแต่ต่างกันแน่นอน เพราดีไซน์ภายนอกต่างกัน น้ำหนักของกันชนต่างกัน การวางชิ้นของไฟ ของอุปกรณ์เล็กน้อยต่างกัน สายไฟต่าง ๆ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้แหละครับ มันทำให้รถมีบุคลิกต่างกัน จุดศูนย์ถ่วง และแรงเหวี่ยงทางข้าง ต่างกันแน่ ๆ เพราะ
ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากัน และเหวี่ยงต่างจุดกัน
สรุปแล้วคือผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่ได้ใช้ฟิลลิ่งมาตอบคุณด้วย แต่ผมกำลังจะบอกว่าในความคิดเห็นส่วนตัวของผม
อิงกับทางฟิสิกส์แบบคุณนั่นแหละครับ ซึ่งจุดต่างทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ถ้านับรวมๆ กันแล้วมันส่งผล 1จุดอาจจะ 0.1%
แต่เมื่อรวมกันแล้วทุกชิ้นอาจจะต่างกัน 1-2% ส่งผลให้รถ"ต่าง"กันแล้วครับ
นั่นทำให้หลาย ๆ คนในเว็บบอร์ดนี้กำลังจะบอกคุณว่า
ถึงแม้จะออกจากไลน์การผลิตเดียวกัน แต่ประกอบชิ้นส่วนในรายละเอียดต่างกันเนี่ย มันส่งผลทางฟิสิกส์ ซึ่งส่งผลต่อสมรรถภาพรถ และส่งผลต่อมาถึงคนขับผู้รับความรู้สึกของรถครับ จะบอกว่าไม่ให้ใช้ความรู้สึกตัดสินไม่ได้หรอกครับ
เพราะความรู้สึกก็มาจากบุคลิกของรถ สมรรถภาพของรถและก็มาจากการประกอบรถนั่นแหละครับ มันเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่
พูดกันง่าย ๆ กุ๊กคนเดียวกัน เตาเดียวกัน เครื่องปรุงเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่ผัดต่างกันแค่ 5-10วินาที หรือความสดของวัตถุดิบต่างกันนิดเดียว นักชิมก็รู้แล้วครับ ว่าสองจานนี้มันต่างกัน
ด้วยความเคารพคุณ mamaman ลองเปิดใจให้กว้าง กับเหตุผลของท่านอื่น ๆ บ้างครับ
แล้วก็เว็บนี้เป็นเว็บแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันประสบการณ์กันอย่างเป็นมิตรนะครับ
สมาชิกทุกท่านให้เกียรติกัน และเป็นสังคมที่ดีอยู่แล้ว
ผมว่าคำว่า "อยากอยู่ในกะลา ก็อยู่ต่อไปเถอะครับ" เป็นการไม่ให้เกียรติสมาชิกท่านอื่นนะครับ
ผมว่าถ้าคุณ mamaman รู้สึกว่าเว็บนี้ไม่ดี หรือไม่ถูกใจคุณ หรือคนอื่นไม่เห็นด้วยกับคุณ แล้วคุณไม่ประทับใจเว็บนี้
ก็ไปเล่นเว็บอื่นเถอะครับ เพราะผมเชื่อว่ายังมีเว็บบอร์ดอื่น ๆ อาจจะยอมรับฟังความคิดเห็นในแบบของคุณก็เป็นได้
ตอบ คุณ SADAEW
ถ้าคุณ อ่านดี ๆ ผมไ่ม่ได้ บอกว่าความ โต้แย้งเรื่องรู้สึกมันสำคัญหรือไม่สำคัญ
แต่ ผมพูดถึงเรื่อง ระบบช่วงล่างครับ ที่ผมยังยืนยันว่าเหมือนกันแทบจะทุกอย่าง
และบางคำพูดที่ไม่สุภาพ ผมก็ ตอบไปกับคนที่ไม่สุภาพ ซึ่งผมก็ระบุไว้แล้ว ผมไม่ได้พูดกับทุกคนนี่ครับ เป็นเรื่องของคนสองคุยคุยกันด้วยซ้ำ
แล้วผมไปห้ามคุณตอนไหนว่าไม่ให้ใช้ความรู้สึกครับ
ผมพูดเหรอครับ ว่าเว็บนี้ไม่ดี
ผมพูดเหรอครับ ว่า ฟิลลิ่งมัน ต้องเหมือนกันเท่านั้น ผมยังบอกอยู่เลย ว่า รถต่างกันนิดเดียว ฟิลลิ่งมัน ก็ต่างกันได้
กรุณา แยกแยะด้วยครับ และ ใครกันแน่ที่ใจแคบ ใครกันแน่ที่ไม่ยอมรับฟัง
-
ขออภัยถ้าคำพูดล่วงเกินนะครับ ^_^
มีประโยคนึงที่คุณบอกว่า
"ranger กับ bt-50
มันรถบอดี้เดียวกันครับ
ทีมพัฒนาทีมเดียวกัน
เครื่องยนต์อะไหล่ใช้ร่วมกันได้
เบาะก็เหมือนกันแค่เปลี่ยนผ้าและหนังคนละลาย
ผมยังงงเลย บอกไปขับมาแล้ว สามารถบอกได้ว่าคันไหนดีกว่า
จริงๆ ถ้าเอาระบบ เครื่องมือวัดมาทดสอบสอบ มันแยกกันไม่ออกเรื่องประสิทธิภาพและช่วงล่างเลย
แต่พอเอาความรู้สึก คน เท่านั้นเหลาะ แยกได้ แบบ สุดยอด ผมละยอม"
ซึ่งผมเองคิดว่า ต่อให้ช่วงล่างเดียวกัน ออกมาจากสายเดียวกันเลย รถรุ่นเดียวกันด้วยเนี่ย
แล้วติดกันชนต่างกัน วางตำแหน่งเครื่องต่างกัน น้ำหนักของเครื่องต่างกัน
แปะโลโก้ ที่น้ำหนักต่างกัน มันก็ต่างแล้วครับ
ไม่ใช่ว่าโครง แชสซี ช่วงล่างอันเดียวกันแล้วจะต้องเหมือนกันเป๊ะ ๆ ครับ
แล้วก็ ผมว่าคำพูดที่คุณบอกว่า จะขับคันไหนมันก็เหมือนกัน อาจจะจริงด้านเอกสารทางอุตสาหกรรม
แต่การใช้งาน สมรรถนะของรถจะเหมือนกัน อันนี้ไม่จริงแน่นอนครับ
-
ขออภัยถ้าคำพูดล่วงเกินนะครับ ^_^
มีประโยคนึงที่คุณบอกว่า
"ranger กับ bt-50
มันรถบอดี้เดียวกันครับ
ทีมพัฒนาทีมเดียวกัน
เครื่องยนต์อะไหล่ใช้ร่วมกันได้
เบาะก็เหมือนกันแค่เปลี่ยนผ้าและหนังคนละลาย
ผมยังงงเลย บอกไปขับมาแล้ว สามารถบอกได้ว่าคันไหนดีกว่า
จริงๆ ถ้าเอาระบบ เครื่องมือวัดมาทดสอบสอบ มันแยกกันไม่ออกเรื่องประสิทธิภาพและช่วงล่างเลย
แต่พอเอาความรู้สึก คน เท่านั้นเหลาะ แยกได้ แบบ สุดยอด ผมละยอม"
ซึ่งผมเองคิดว่า ต่อให้ช่วงล่างเดียวกัน ออกมาจากสายเดียวกันเลย รถรุ่นเดียวกันด้วยเนี่ย
แล้วติดกันชนต่างกัน วางตำแหน่งเครื่องต่างกัน น้ำหนักของเครื่องต่างกัน มันก็ต่างแล้วครับ
ไม่ใช่ว่าโครง แชสซี ช่วงล่างอันเดียวกันแล้วจะต้องเหมือนกันเป๊ะ ๆ ครับ
คือผมอยากบอกรถสองคันนี้เครื่องยนต์เดียวกัน และ ตำแหน่งเครื่องเดียวกัน แค่ตรา logo เปลี่ยนเท่านั้นครับ
ผมต้องขออภัยด้วย กับ ประโยคที่ว่า สามารถบอกได้ว่าคันไหนดีกว่า
แต่ผมไม่ได้ปฏิเสธ ครับ ว่า Feeling มันต้องเหมือนกัน แต่ผมพูดแค่ว่า ประสิทธิภาพ ช่วงล่างมันเหมือนกันครับ
และผมไม่ได้โต้ แย้ง เรื่อง ว่า feeling มันต้องเหมือนกัน หรือไม่เหมือน
รถสองรุ่นนี้ มันอาจต่างกันครับ แต่น้อยๆ มาก น้อยมาก จริงๆ จน คนที่รู้ว่ามันเหมือนกันอยู่แล้ว อาจแยกไม่ออก
ส่วน เรื่อง feeling ของแต่ละคนนี้ผมยอมรับครับ ว่า มันคงไม่เหมือนกันหรอก
ยังไงก็ถือซะวะ เป็นแค่การแสดงความคิดเห็น
ยังไงก็ต้องขอโทษ ด้วยแล้วกันครับ
ไม่ได้ มีเจตนา ที่จะ ว่าร้าย
ความหมายของผม ที่จะบอกคือ
พอมาใช้ความรู้สึกจับ มัน ช่างน่าแปลก น่าตกใจ และ มันช่างน่าแปลกใจ อะไรประมาณนี้ ไม่ได้ที่จะดูถูกคนอื่นเลย :'(
รถสองรุ่นนี้ ต่างกันตรง ยาง แม๊ก ซึ่งคงส่งผลกับความรู้สึกที่แตกต่างแน่นอน อยู่แล้ว
-
ครับยินดีครับ ผมก็ขอโทษนะครับถ้าคำพูดไม่เหมาะสม
ยังไงก็ขอบคุณที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ ;)
-
ตอบครั้งที่สอง แพงมาก ผมชอบ d-max มากกว่า 5555 เพราะราคาขนาดนี้ผมไปเล่นพรีอุส ตัว standard ดีกว่า
แถมโดนตัดออปชั่นไปอีก เช่น เบาะ heater ระบบเฟืองท้ายแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง
ถ้าให้เลือกกระบะ ตอนนี้
1.colorado
2.bt-50
3.d-max
4.vigo
5. navara
ที่ 1 ตัดออกจะดีมาก แล้วไล่ลงมา โด้ ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ไม่ดียังไงบ้างครับ ขอข้อมูลหน่อย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หาคำตอบได้เพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://www.newcolorado-club.com/index.php?topic=72.msg2038;topicseen#new (http://www.newcolorado-club.com/index.php?topic=72.msg2038;topicseen#new)
-
จากข้อมูลการผลิต
Ranger ที่ผลิตในไทยมียอดขายส่งออกไป ออสเตเรียกับภูมิภาคอื่นทั่วโลกครับ
ยอดขาย Ranger ในต่างประเทศ ทั่วโลก ส่งออก นำหน้า BT-50 มากพอสมควร
ในขณะ ที่ Colorado D-max ยอดส่งออกไม่สูง
ในไทย รถกะบะ
Vigo ที่หนึ่ง
D-max ที่สอง ( ขายได้แค่ไทย ออกไปต่างประเทศไม่รู้จัก )
Tritun ที่สาม ไล่มาพอๆ กัน คือ Cololado กับ navara
ที่เหลือ พอ ๆ กัน
แต่ mazda ฺBT-50 ขายได้เกือบบ้วย น้อยกว่า Ford ครึ่งๆ