Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Biddy ที่ เมษายน 01, 2012, 11:12:22
-
รบกวนด้วยครับ
-
ความประหยัด สามสูบมากกว่านิดหน่อย
ความแรง สี่สูบมากกว่านิดหน่อย
ความสั่นสะเทือน สามสูบยังไงเครื่องก็ไม่นิ่งกว่า มีสั่นบ้างเป็นระยะๆ แต่เวลานิ่งก็นิ่งได้ แต่ไม่เนียน
เสียงเครื่อง+ท่อ พูดแบบไม่เข้าข้าง 3 สูบ ดังมัน สะใจกว่า เวลาเร่งจริงๆ แต่ความเร็วก็ไปช้ากว่า 4 สูบ
แต่ที่ไม่แน่ใจคือ CO2 ใครจะปล่อยมากกว่ากัน แต่ถ้าให้เดา 3 สูบ่าจะน้อยกว่า
สรุป ใน cc เท่ากัน อยากแรงไป 4 สูบ Swift Brio
อยากประหยัด รักโลก มาที่ Gang 3 สูบ Mirage Almera March
-
วิ่งทางไกล ใกล้เคียงกันไหมครับ? อาทิตย์หนึ่งต้องวิ่งไปกลับกรุงเทพ ระยอง ครั้งถึงสองครั้งคับ
-
วิ่งทางไกล ใกล้เคียงกันไหมครับ? อาทิตย์หนึ่งต้องวิ่งไปกลับกรุงเทพ ระยอง ครั้งถึงสองครั้งคับ
วิ่งได้สบายครับ March Almera พิสูจน์มาแล้ว สามสูบ
ส่วน สี่ สูบ บริโอ้ ก็วิ่งได้ เช่นกันครับ
ถ้าไม่ขับโหด 130+ Eco Car ถือว่า ทำได้ดีในระดับหนึ่ง
-
ชอบความมัน เอา 4 สูบ ประหยัด 3 สูบ ^^
ผมเป็นคุณเอา 4 สูบ กรุงเทพ ระยอง จะได้มันๆ
-
ขอถามต่อไปแบบไม่รู้เรื่องเลยนะครับ
3 สูบเนี่ย พออายุของตัวรถมันเยอะๆ แล้ว เสียงของเครื่องยนต์มันจะเปลี่ยนไปหรือเปล่าอ่ะครับ
เปลี่ยนไปเหมือนกับ รถตุ๊กๆ หรือไม่ก็ suzuki fronte อ่ะครับ
-
ขอตอบแบบความรู้อันน้อยนิด
ผมคิดว่า 3 สูบ = 1200 ซีๆ
แปลว่า 1 สูบ ต้องมี 400 ซีๆ
หมายความว่า ช่วงชัก ต้องยาวกว่า
ทำให้การจุดระเบิดแต่ละรอบเครื่องยนต์นี้ สร้างกำลัง(แรงบิด)ได้มากกว่า
ส่วน 4 สูบ 1200 ซีๆ ตกสูบล่ะ 300 ซีๆ
แรงบิด แต่ละรอบเครื่องน่าจะต่ำกว่า แต่ปั่นรอบได้มากกว่า กำลังต่อเนื่องกว่า
คำถามนี้ คงเคยเจอสมัยก่อน ถามว่า 4 สูบ 2500 ซีๆ เทียบกับ 6 สูบ ซีๆเท่ากัน อะไรดีกว่า
ซึ่ง รอบต่ำๆ รอบออกตัว สูบน้อยๆ ชักยาวๆ น่าจะมีแรงดึงดีกว่า
พอรอบกลางๆ รอบสูงๆแล้ว หลายๆสูบช่วยกัน เดินเรียบกว่า มีกำลังต่อเนื่องกว่า
สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครสรุปได้ ว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะมันดีพอๆกัน
ส่วนตัวผม เชื่อว่าสูบน้อย น่าจะประหยัดกว่า อย่างน้อยๆประหยัดหัวเทียน วาวล์ไปสูบนึงล่ะ
แต่ถ้ารอบเครื่องเท่าๆกัน 3 สูบต้องทำงานหนักกว่า
เพราะถ้า 1 นาที รอบเครื่องหมุน 400 รอบ ในเครื่อง 4 สูบ แต่ละสูบ จะทำงานแค่นาทีละ 100 รอบ
ถ้าเป็น 3 สูบ ที่รอบ 400 แต่ล่ะสูบจะต้องทำงาน 133 รอบ ถึงจะเท่าเครื่อง 4 สูบ
ระยะยาวๆๆ อาจจะมีผลบ้างในเรื่องความสึกหรอ แต่ก็เล็กน้อยครับ ขับๆไปเถอะอย่าคิดมาก
-
ขอตอบแบบความรู้อันน้อยนิด
สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครสรุปได้ ว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะมันดีพอๆกัน
ส่วนตัวผม เชื่อว่าสูบน้อย น่าจะประหยัดกว่า อย่างน้อยๆประหยัดหัวเทียน วาวล์ไปสูบนึงล่ะ
แต่ถ้ารอบเครื่องเท่าๆกัน 3 สูบต้องทำงานหนักกว่า
เพราะถ้า 1 นาที รอบเครื่องหมุน 400 รอบ ในเครื่อง 4 สูบ แต่ละสูบ จะทำงานแค่นาทีละ 100 รอบ
ถ้าเป็น 3 สูบ ที่รอบ 400 แต่ล่ะสูบจะต้องทำงาน 133 รอบ ถึงจะเท่าเครื่อง 4 สูบ
ระยะยาวๆๆ อาจจะมีผลบ้างในเรื่องความสึกหรอ แต่ก็เล็กน้อยครับ ขับๆไปเถอะอย่าคิดมาก
ไม่ได้เหลือ สูบละ100รอบกระมังครับ เพราะทั้ง4สูบมันใช้ข้อเหวี่ยงเดียวกัน และรอบที่นับนั้นนับที่ข้อเหวี่ยงครับ
4สูบ 1รอบการทำงานแบ่งกันสูบละ90องศา
3สูบ 1 รอบการทำงาน แบ่งกันสูบละ 120 องศา
นั่นหมายความว่า1รอบการทำงาน3สูบจุดระเบิดน้อยครั้งกว่า4สูบนะครับ
มันจึงสั่นกว่านิดๆ แต่แก้ด้วยการใช้ บานลานซ์ชาร์ฟไงครับ
เครื่องยนต์เกษตร มีสูบเดียว จึงต้องแก้การสั่นด้วยแท่งเหล็กอันมหึมาไงครับ
-
แต่เสียงมันเพราะกว่าเยอะ เวลาเร่ง 4000-5000 รอบนะครับ
เทียบคันเก่ากับใหม่นะครับ
-
ตามความคิดผมสูบเยอะเสียงมันเร้าใจกว่านะ
เพราะน่าจะมีหลายคนที่ชอบ UZ จากเสียงของมันมากกว่าอัตราการกินน้ำมัน
แต่ของแบบนี้ก็นานาจิตตังครับ
http://www.youtube.com/watch?v=6fxzDQJ0AqI&feature=related
-
ขอตอบแบบความรู้อันน้อยนิด
สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครสรุปได้ ว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะมันดีพอๆกัน
ส่วนตัวผม เชื่อว่าสูบน้อย น่าจะประหยัดกว่า อย่างน้อยๆประหยัดหัวเทียน วาวล์ไปสูบนึงล่ะ
แต่ถ้ารอบเครื่องเท่าๆกัน 3 สูบต้องทำงานหนักกว่า
เพราะถ้า 1 นาที รอบเครื่องหมุน 400 รอบ ในเครื่อง 4 สูบ แต่ละสูบ จะทำงานแค่นาทีละ 100 รอบ
ถ้าเป็น 3 สูบ ที่รอบ 400 แต่ล่ะสูบจะต้องทำงาน 133 รอบ ถึงจะเท่าเครื่อง 4 สูบ
ระยะยาวๆๆ อาจจะมีผลบ้างในเรื่องความสึกหรอ แต่ก็เล็กน้อยครับ ขับๆไปเถอะอย่าคิดมาก
ไม่ได้เหลือ สูบละ100รอบกระมังครับ เพราะทั้ง4สูบมันใช้ข้อเหวี่ยงเดียวกัน และรอบที่นับนั้นนับที่ข้อเหวี่ยงครับ
4สูบ 1รอบการทำงานแบ่งกันสูบละ90องศา
3สูบ 1 รอบการทำงาน แบ่งกันสูบละ 120 องศา
นั่นหมายความว่า1รอบการทำงาน3สูบจุดระเบิดน้อยครั้งกว่า4สูบนะครับ
มันจึงสั่นกว่านิดๆ แต่แก้ด้วยการใช้ บานลานซ์ชาร์ฟไงครับ
เครื่องยนต์เกษตร มีสูบเดียว จึงต้องแก้การสั่นด้วยแท่งเหล็กอันมหึมาไงครับ
สำหรับนิสสันมาร์ช ใช้การบาลานซ์สูบช่วย ด้วยพูลเลย์ครับ ให้พูลเลย์ทำงานเหมือนกับมันเป็นสูบที่ 4 คับ ที่โต๊ะทำงานผมยังมีพูลเลย์ของมาร์ชอยู่ตัวนึงเลยครับ อิอิ( made in india นะจ๊ะ)
-
แต่ผมชอบเสียง 3 สูบ บล็อค HR12DE ของ Nissan จังครับ
เสียงโหด+ประหยัด ยิ่งมีปุ่มกดสตาร์ทยิ่งชอบเสียงสตาร์ทไปด้วยเลย
-
ผมก็หลงไหล เสียสตาสของ HR12DE ครับ ถ้า Jazz หรือ CITY เสียงสตาสเหมือน HR12DE คงดีไม่ใช่น้อย
-
ตามความคิดผมสูบเยอะเสียงมันเร้าใจกว่านะ
เพราะน่าจะมีหลายคนที่ชอบ UZ จากเสียงของมันมากกว่าอัตราการกินน้ำมัน
แต่ของแบบนี้ก็นานาจิตตังครับ
http://www.youtube.com/watch?v=6fxzDQJ0AqI&feature=related
ผมเคยลอง cefiro a31 อยู่คันนึงครับ เป็นรถเพื่อนยืมมา เพื่อนบอกว่า ฝากระโปรงมันติด เปิดไม่ได้ ผมก๋เออ ไม่เปิดก็ไม่เปิดว่ะ เติม แก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง พัทยา-กรุงเทพ รู้สึกว่า ทำไมมันวิ่งดีเช่นนี้ รถที่ อายุก็ 10 ปีได้แหละ ช่วงล่างแต่งนิดหน่อย อัด 160 180 ไปสบายๆ ไม่สั่นไม่หวิว จะถึง 200 แล้ว ก็ยังชิวอยู่ พอลงทางด่วนบางนา เหลือบลงเห็นเข็มน้ำมันหายไปครึงนึง รีบหาปั๊มเติมเลย พ่อที่นั่งมาด้วยก็บอก ทำไมมันหมดเร็วจัง ขาออกจากกรุ่งเทพ ถึงเมืองชลแล้วแถวๆ หน้า ford หันไปดูเข็มน้ำมันอีกดี เห้ยย เครื่องนิสสันอะไรว่ะเนี่ย แดกเอาแดกเอา ไม่ไหวแหละ เอาไขควงเขียๆ ตัวล๊อคฝากระโปรง เปิดดูว่ามันมีอะไรอยู่ข้างใน เปิดปุป ยืนงงทั้งผม ทั้งพอ V8 four cam ตัวใหญ่อยู่ข้างหน้า เสียงเครื่องนี้ อืมม สุดจะบรรยาย เด็กปั๊มเห็นบอก เจ่งอ่ะพี่ เหอๆๆๆ กลับไปบ้าน ถามไอ้เจ้าของรถ ทำไมไม่ติดแก๊สว่ะ ให้มันซดน้ำมันนะดีแล้ว อยากแรงก็ต้องยอมจ่ายกันหน่อย ไปแยกแก๊ซที่เค้าเอาไว้ทำกำข้าวมาวิ่งรถมันคุ้มหรอ เท่านั้นแหละครับ ผมตอนไม่เป็นเลย ;D ;D ;D หลังจากนั้นไม่นานมันก็ขายคันนี้ทิ้งไป อยากรู้จังใครเป็นผู้โชคดีได้ cefiro a31 V8 fourcam คันไหนไปกันหนอ ::) ::) ::)
-
ใช่ร้านเครื่องเชิงสะพานพระนั่งเกล้าหรือเปล่า?
-
เสียงเครื่อง HR12DE ถ้าคุณฟังเสียงมันดีๆ จะรู้สึกว่ามันเสียงคล้ายกับเครื่องRB
-
ใช่ร้านเครื่องเชิงสะพานพระนั่งเกล้าหรือเปล่า?
น่าจะใช่นะ ;D
2เดือนที่แล้วก็ไปเอาแผงแอร์จากที่นี่เหมือนกัน