Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: espnstar ที่ เมษายน 16, 2012, 21:35:54

หัวข้อ: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: espnstar ที่ เมษายน 16, 2012, 21:35:54
อยากขอความเห็นผู้รู้ ถึงความแตกต่างข้อดีข้อเสีย ผมเน้นด้านความคงทน กับ การบำรุงรักษาความจุกจิกต่างๆ กำลังศึกษาอยู่ถ้าใช้ก็คงใช้นานหลายปีหน่อยครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: heracrase ที่ เมษายน 16, 2012, 21:49:02
ดีเซลเครื่องสั่นและเสียงดังกว่าเบนซินแน่นอนครับ แต่แรงบิดและความประหยัดดีกว่าเบนซินแน่นอนเช่นกัน ::)
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: beerrl ที่ เมษายน 16, 2012, 21:59:20
เครื่องดีเซลมีข้อเสียที่เสียงดัง และ ติด gas แล้วใช้ gas วิ่งอย่างเดียวไม่ได้(ต้องผสม) ความเร็วปลายไม่สูงเท่าเครื่องเบนซิน น้ำมันเครื่องที่ใช้ปริมาณมากกว่า
ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น อัตราเร่ง การกินน้ำมัน แรงลากจูง ความทนทาน ลุยน้ำ ดีกว่าหมดครับ

คือ ถ้าคิดแล้วว่าไม่ต้องการใช้พลังงานทางเลือก ผมว่าดีเซลดีกว่า แต่ราคารถยนต์ก็แพงกว่าด้วย โคยรวมแล้ว ได้รถขับสนุก ประหยัดน้ำมัน ทนทาน
แต่ถ้าคิดว่ายังไงก็ติด gas แน่ เลือกเบนซินครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: iiuuiisj ที่ เมษายน 16, 2012, 22:08:58
เบนซิน
  -  ใช้ แก็ส ได้ 100%
  -  แรงบิด แรงม้า  รอบสูง 


ดีเซล
 -  แรงบิดแรงม้า  รอบต้น 
 - เทคโนโลยี ผมมองว่า ล้ำกว่า เบนซินนะ
 -  ประหยัดน้ำมัน  กว่า  แม้เครื่อยนต์ ใหญ่กว่า   

จาก หัวข้อ  ผม ขอเดาว่า  จขกท  น่าจะ เลือก รถ พวก  7 ที่ นั่ง  PJR  Fort  cap  /กระบะ  แนวๆ นี้ ใช่ไหม  เพราะ ผม ก็ เคยคิดอยู่   

- ถ้าคิดว่าไปไหนมาไหน คนเดียวตลอด นานๆ ที ออก ตจว  ผมว่า  เบนซิน นะครับ
- ถ้าจะ ไปไหน มาไหน 2 คน ขึ้นไป   ดี เซล ก็ ย่อมดีกว่า

- ส่วนกระบะ  ถ้าจะเอามา ขนของอย่างเดียว  คล้าย อารมณ์  ขนผลไม้  ดีเซลย่อมดีกว่า  ถ้าจะเอา ขับ ชิ่วๆ เพื่อ เข้าห้าง ขนของ  เบนซิน ก็ โอเครครับ

***  เครื่องดีเซล  ขนของ มันก็จะกินน้ำมัน ต่างจากเดิมนิดเดียว  เพราะ รอบต้นมีน ดึงให้เครื่องยนต์ ออกจัวง่าย ถึง ความเร็ว ที่ต้องการ ไว
*** ส่วน เบนซิน ยิ่งขน เยอะ  ก็ ยิ่ง คูณ  การกินน้ำมันมากขึ้น เท่าตัว
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: espnstar ที่ เมษายน 16, 2012, 22:12:31
แก๊สคงไม่ติดอ่ะครับ

แล้วถ้าเรื่องซ่อมบำรุงล่ะครับ

มีคนบอกผมเครื่องเบนซินซ่อมง่ายกว่าจริงเหรอครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: ArmMoTo ที่ เมษายน 16, 2012, 22:14:43
ใช่ครับ เท่าที่ทราบมา เครื่องเบนซินจุกจิกน้อยกว่า

และค่าซ่อมไม่ทำร้ายเท่าเครื่องดีเซลครับ

ดีเซลมันมีเทอร์โบด้วย ประเด็นหลักๆก็เทอโบร์นี่แหละครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: siamvip2 ที่ เมษายน 16, 2012, 22:38:36
รอดูครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: Bimmer Boy ที่ เมษายน 16, 2012, 22:43:27
เบนซินซ่อมง่ายกว่าก็็จริง แต่ต้องซ่อมบ่อยกว่า โอกาสรวนมีมากกว่า เอาง่ายๆ ทุกสองหมื่นโลต้องมีหัวเทียน กรองเบนซิน ทุกสี่หมื่นโลก็ควรล้างปีกผีเสื้อ แอร์โฟร์ อันนี้เป็นคร่าวๆที่ผมทำอยู่นะครับ รุ่นและยี่ห้ออื่นๆก็แตกต่างกันไป ส่วนกระบะส่งของอีกคันเป็นดีเซลคอมมอนเรล แทบไม่มีเรื่องต้องยุ่งกับเครื่องยนต์เลย อ้อมีเปลี่ยนเรกกูเรเตอร์ไปตัวเดียวเมื่อใช้ไปสักแสนสอง คือมีอาการเครื่องไม่มีกำลัง เร่งไม่ขึ้น ตอนนี้แสนห้ากว่าแล้วก็ยังใช้ปรกติอยู่

จขกท ใช้รถต่อปีเยอะไหมล่ะครับ หากแค่สองสามหมื่นโล ก็ใช้เบนซินก็ได้ แต่หากมากกว่านั้นดีเซลจะคุ้มกว่า แต่หากเป็นผม ถ้าไม่คิดติดแก๊สแน่ๆก็เลือกดีเซลแน่นอน เวลาบรรทุกหรือเร่งแซงมันไปได้ชิวๆกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ เมษายน 16, 2012, 22:52:59
ถ้าเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์เล็กๆ เน้นใช้งานในเมือง เบนซินดีกว่า คล่องตัวกว่า นุ่มนวลกว่า เงียบกว่า(แต่ดีเซลเล็กบ้านเราไม่มีขาย)
รถขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ใหญ่ 2500+ ขับทางไกลเป็นหลักดีเซลได้เปรียบเยอะ เทคโนโลยีก็เหนือกว่าเบนซิน
เบนซินจะสู้ได้ต่อเมื่อเอาเทอร์โบลงแบบรถยุโรปเท่านั้นแหละ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: iiuuiisj ที่ เมษายน 16, 2012, 22:54:03
จาก ที่ เคย มา  ช่างส่วนมากจะบอก ว่า ดีเซล ซ่อมง่าย แต่  จุดจิก นิดๆ หน่อยๆ

เบนซิน  นานๆ ทีจะ พัง แต่พังที่ก็ เหนื่อยอยู่

ลองคิดเล่น ๆ รถ ขับ ซัก 200000 โล   ดีเซล เฉลี่ย รอบเครื่อง ไม่เกิน 2700  เเต่ เบนซิน 3000+  เครื่องเบนซิน ย่อมไป ก่อน ดีเซล

ลองดู ง่ายๆ รถ ยนต์ ที่เอามาขน ผลไม้ ผัก ขับกัน เป็น ล้าน โล  ถึกมาก ตอน แรกไม่ เคยเชื่เลยว่ารถคันๆ 1 จะขับ ถึง 1ล้าน  โล  เจอ mitsu starda เลขหลักกิโล  999999

ผม งง ไป หลายอาทิตย์
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ เมษายน 16, 2012, 22:59:33
ผมตีความว่า จขกท คงบรรทุกเฉพาะคน ไม่เกิน 4-5 คน นะครับ
ถ้าวิ่งรถมากกกก เดือนหนึ่งๆเกิน 5,000 กิโล ใช้ เบนซินติดLPG ดีกว่าครับ คืนทุนเร็วเห็นๆ

ถ้าไม่ติดแก๊สนะ (หรือวิ่งน้อยกว่า 2,000กิโล/เดือน) ดีเซลครับ ประหยัดกว่า

การดูแลรักษา ผมว่ารถสมัยใหม่ ทั้งเบนซินและดีเซล ต้องการการดูแลที่พอๆกันครับ เพราะ เทคโนโลยี คอมมอนเรลล์ เป็นเทคโนโลยีที่สูงขึ้นมา กว่าเครื่องดีเซลแบบเดิมครับ ต้องเอาใจใส่เหมือนเครื่องเบนซินครับ

เทียบการกินน้ำมันนะครับ แบบง่ายๆ
สมัยก่อน
2.5 ดีเซล กิน 10 กิโล/ลิตร พอๆกับ 1.6เบนซิน กิน 10กิโล/ลิตร
ปัจจุบัน
2.2 ดีเซล(ตัวใหม่ หาดูได้ในคลิป คุณJ!MMY) กิน 11-12โล/ลิตร พอๆกับ เครื่อง 1.8 หรือ 2.0 ของเบนซิน(ไม่ใช่เครื่องเทอร์โบนะ) (เครื่อง 1.5-1.6 เดี๋ยวนี้ เล่นได้เกือบ 12-15กิโล/ลิตรแล้วมั้ง)
คลิ๊ปลับของCommander Cheng ดูอันแรกนะครับ มีการพูดถึงอัตราการกินน้ำมัน (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,20867.0.html)


ข้อมูลรถที่ผมใช้งานอยู่ครับ
ส่วน J32 2.5เบนซินที่ผมใช้อยู่ ขับในเมืองมากกว่านอกเมือง ประมาณ 7-10กิโล/ลิตรครับ (โซฮอลล์95 เอสโซ่)
D-Max Platinum 2.5คอมมอนเรลล์ดีเซล ตู้ทึบสูง บรรทุก ระหว่าง 2-3.5ตัน การกินน้ำมันไม่หนีกันครับ 7-8กิโล/ลิตร(ดีเซล ปั๊มเอสโซ่)
D-Max Platinum 2.5คอมมอนเรลล์ดีเซล ตู้ทึบสูง ไม่บรรทุก (มีแค่น้ำหนักตู้) กินน้ำมัน 8-9โล/ลิตร
ใช้มา 60,000กิโล ปกติ ยังไม่มีปัญหา(ยกเว้นแอร์ ตอนนั้น Isuzu ยังไม่แถมแอร์ ตอนนี้แอร์รวนแล้วครับ) เข้าศูนย์ตามระยะ รถซื้อมา พย. 2552

Triton 2.4เบนซินติดLPGหัวฉีด หลังคาสูง บรรทุก 1.5-2.5 ตัน กิน LPG 6-7 กิโล/ลิตร(LPG เติมทุกปั๊มที่แวะได้)
Triton 2.4เบนซินติดLPGหัวฉีด ตอนยังไม่มีหลังคา ไม่บรรทุก กินLPG 7.5-8กิโล/ลิตร
ใช้มา 20,000 กิโล ยังไม่มีปัญหา รถซื้อมา กค. 2554

หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ เมษายน 16, 2012, 23:41:56
เบนซิล
ลากรอบสูงกว่า เสียงเร้ากว่า ขับเอามัน 200 300 กม มันส์กว่าแน่นอนครับ
ดีเซล
แรงบิดมาในรอบต่ำ ออกตัวผมว่า ดีเซลทำได้ดีกว่า ทนกว่า ขับทางไกล 500+ ดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ เมษายน 17, 2012, 07:29:46
เทียบให้ถูกนะครับ

เบนซิน หรือ เบนซินเทอร์โบ

ประเด็นเรื่องแรงม้าแรงบิด
ถ้าเอาเบนซิน หายใจธรรมดาไปเทียบกับดีเซลเทอร์โบ คงไม่แฟร์กับเบนซินเท่าไหร่
แรงม้าแรงบิด เบนซินหายใจธรรมดาคงสู้ดีเซลเทอร์โบเครื่องใหญ่ๆไม่ไหว
ลองมองในมุมที่ว่า เบนซินเทอร์โบ VS ดีเซลเทอร์โบ ถึงจะแฟร์

แรกๆผมคิดว่าดีเซลไม่จุกจิก ทนทาน แต่ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปแล้วครับ
เมื่อก่อน ดีเซลไม่มีอะไรเลย เป็นเครื่องธรรมดาๆ ไม่มีระบบปั้ม ระบบหัวฉีด หรือราง
แต่ปัจจุบันนี้ ดีเซลใส่เทคโนโลยีเข้ามาเยอะ ทำให้สมรรถนะดี แต่ก็จุกจิกมากขึ้น
ดีเซล เบนซิน สมัยนี้ วัดความจุกจิกไม่ได้แล้ว เฉพาะตัวเครื่องน่ะดีเซลทนกว่าแน่นอน
แต่ในทุกๆวันนี้ เครื่องเบนซินหลายๆตัวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเบนซินก็ทนทานไม่แพ้กัน
ลองดู 4A ในตำนานก็ได้ครับ แทบไม่จุกจิกเลย มันทน อึด ถึก
เอาเป็นว่า มันทนพอๆกันครับ ตัดประเด็นเรื่องความทนทานไปได้เลย

ยังไงๆดีเซลก็ดีกว่าเพราะทุนพัฒนาสูงกว่า ได้กำลังเครื่องมากกว่า ความร้อนสูงกว่า
แต่ถ้าการวางเครื่องดีเซลแล้วทำให้ราคารถดีดสูงขึ้นมาเพราะทุนพัฒนามันแพง จะมีคนยอมซื้อเหรอครับ
ครูซดีเซล 1.2 ล้าน ขายได้กี่คัน??
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: HME ที่ เมษายน 17, 2012, 08:29:21
...แรงบิดสำคัญแต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง

เทียบกันรุ่นเดียวกันแต่ถ้าลองเปลี่ยนแค่ เครืองเบนซิน และดีเซล
ต่อให้มีแรงม้าเท่ากันแต่ดีเซลแรงบิดมากกว่า ก็ใช่ว่าจะเร็วกว่า

ที่อ้างว่าแรงบิดมารอบต่ำ ถ้าคุณไมไ่ด้เป็นพวกบ้าความเร็วมันก็คงสำคัญแหละ เพราะขับง่าย
แต่ถ้าคุณชอบเปลี่ยนเกียร์ เครื่องเบนซินแรงบิดมารอบสูงๆแคบๆไม่ได้เป็นปัญหาเลยครับ
สับเกียร์ดีๆ ยังไงดีเซลก็ตามไม่ทัน

ปล.ผมมีอคติกับเครื่องดีเซล ชัดเจนนะ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ เมษายน 17, 2012, 09:18:43
ดีเซลทนกว่าเบนซินแน่ เรื่องจุกจิกก็น้อยกว่า
แต่อย่าหวังว่า ค่าซ่อมมันจะถูกเหมือนสมัยก่อน เพราะปัจจุบันพอเปลี่ยนมาเป็น คอมมอนเรลกันหมด ค่าซ่อมก็ไม่ได้ถูกเหมือนพวก DI แล้วครับ เผลอๆบางอย่างอาจจะแพงกว่าเบนซินด้วยซ้ำ
ตอนนี้อุปกรณ์ในเครื่องดีเซลที่น่ากลัวว่าจะกลับบ้านเก่าไวคือพวกอุปกรณ์ที่ใช้ดักพวกไอเสียต่างๆ (เพื่อลดมลพิษ) และหัวฉีดครับ ในบ้านเราน้ำมันดีเซลคุณภาพยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ถ้าคุณซื้อรถที่ทำในไทย หรือจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรง มันก็พอโอเค แต่ถ้าซื้อรถเกรย์นี่ ผมอยากให้ตัดดีเซลทิ้งไปทันที
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: prototype82 ที่ เมษายน 17, 2012, 10:05:31
แต่ละเครื่องมันก็มีดีกันคนละแบบครับ อยู่ที่ความต้องการของเรามากกว่า

ความคงทนกับการบำรุงรักษา ถ้ารถสมัยนี้มันไม่แตกต่างกันเท่าไหร่หรอก


หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ เมษายน 17, 2012, 10:40:17
เครื่องยนต์ดีเซลยุคปัจจุบัน มีแรงม้าและแรงบิทมาก
เครื่องยนต์เบินซิล มีแรงม้ามากแต่แรงบิทน้อย

แรงม้า เรียกความเร็วได้ดีกว่า
แรงบิท ฉุดลากได้ดีกว่า


หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ เมษายน 17, 2012, 10:52:14
ต้องเปรียบเทียบดูแล้วว่าในซีรี่3รุ่นใหม่ เครื่อง2000เทอโบใน 320i กับ 320D ทั้งคู่ที่มี180แรงม้าพอๆกันใครจะทำอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่ากัน  ;D
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: espnstar ที่ เมษายน 17, 2012, 11:16:49
ปีๆนึงใช้ไม่เกิน20,000โล และตจว.เป็นหลัก ดูๆแล้วน่าจะเป็นเบนซินใช่มั้ยครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: prototype82 ที่ เมษายน 17, 2012, 11:51:07
ปีๆนึงใช้ไม่เกิน20,000โล และตจว.เป็นหลัก ดูๆแล้วน่าจะเป็นเบนซินใช่มั้ยครับ

เงื่อนไขน้อยไปนิดหนึ่งนะครับ คำถามกว้างไปตอบลำบาก

ถ้าเพิ่มเงื่อนไขมาอีกหน่อยเช่น ลักษณะการใช้งาน? ลักษณะการขับขี่? งบประมาณ?

เพื่อนๆสมาชิกคงช่วยตอบได้เยอะกว่านี้ครับ




หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: HME ที่ เมษายน 17, 2012, 16:14:38
C250 CGI vs CDI

http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1498:mercedes-benz-c-class-w204-c250-cgi-a-c250-cdi-blue-efficiency&catid=66:premium-compact&Itemid=85 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1498:mercedes-benz-c-class-w204-c250-cgi-a-c250-cdi-blue-efficiency&catid=66:premium-compact&Itemid=85)
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: นครอัญมณี ที่ เมษายน 17, 2012, 18:50:07
คำถามยอดฮิต
ลอง Serch ดูนะครับ
จะได้ความเห็นที่มากกว่าในกระทู้นี้
ได้ประโยชน์แน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: myalexxp ที่ เมษายน 18, 2012, 18:59:19
เฉพาะเครื่องยนต์ น่าจะดีเซลครับ

แต่เบนซิน วิ่ง ล้านกว่ากิโลเมตร ก็น่าจะมี

ส่วนดีเซล มีแน่ๆครับ ล้านกิโลเมตร  ;)