Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HOMY_DEMIO ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 13:54:02

หัวข้อ: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 13:54:02
รถคันแรกเริ่มหยุดผ่อน ไฟแนนซ์เจอเริ่มผิดนัดค่างวด

ไฟแนนซ์เผย"รถคันแรก"เริ่มออกอาการสะดุดหยุดส่งค่างวดแล้ว    ระบุสองสาเหตุใหญ่ผู้ซื้อกลุ่มรายได้น้อยกำลังเงินไม่ถึงและใช้รถเล็กแล้วผิดหวัง  โตโยต้าลีสซิ่งสแกนเข้มกลุ่มดาวน์ต่ำผ่อนยาวเพื่อลดความเสี่ยง    ด้านสมาคมเช่าซื้อไทยนัดกรมสรรพสามิตถกแนวปลดล็อกกติกายึดรถเพื่อขายทอดตลาด  เปิดยอดใช้สิทธิคืนภาษีล่าสุด 3.3 หมื่นคัน

           ภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 อนุมัติการคืนภาษีในโครงการรถคันแรกตามที่กระทรวงการคลังเสนอโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน  2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555 โดยเบื้องต้นได้ประเมินผลมาตรการดังกล่าวจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ขยายตัวและมียอดขายรถยนต์ ในปี 2555 เพิ่มขึ้น 500,000 คัน และประชาชนที่จองซื้อรถคันแรกจะได้รับภาษีคืนไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย รวมจำนวนทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาทนั้น  แม้ช่วงปลายปี 2554 จะเจอปัญหาอุทกภัยแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมากลับได้รับการขานรับอย่างล้นหลามในงานมหกรรมรถยนต์ที่มียอดจองรถคันแรกนับหมื่นคัน  แต่มาถึงวันนี้เริ่มมีสัญญาณที่ส่อถึงปัญหารถคันแรกแล้ว
-เริ่มหยุดชำระค่างวด                                               
           แหล่งข่าวจากสถาบันการเงินผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแห่งหนึ่ง เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงข้อเท็จจริงในโครงการรถคันแรกหลังดำเนินการมา 7 เดือนว่า   ได้รับข้อมูลตรงกันในกลุ่มสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถคันแรกว่า  ลูกค้ากลุ่มที่ขอใช้สิทธิรับคืนภาษีตามโครงการรถคันแรกเริ่มผิดนัดชำระค่างวดแล้ว   สาเหตุใหญ่คือมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการผ่อนชำระค่างวด  บางรายหลังจากซื้อรถมาใช้ระยะหนึ่งแล้วรู้สึกไม่ประทับใจต่อการใช้รถยนต์นั่งขนาดเล็กจึงอยากจะเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่   เหล่านี้เป็นสัญญาณการผ่อนชำระที่เริ่มสะดุด   
           "เป็นสัญญาณที่เฝ้าระวัง เท่าที่ทราบไฟแนนซ์เจอกันทุกค่ายโดยเฉพาะรายที่ปล่อยสินเชื่อมากๆ เช่น โตโยต้าลีสซิ่ง  ธนาคารธนชาต และ กรุงศรีจีอี ต่างก็เจอปัญหานี้แล้ว จึงต้องเตรียมขั้นตอนปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อรองรับกรณีที่ลูกค้าทิ้งรถ"แหล่งข่าวกล่าว
            หากลูกค้ากลุ่มที่ขอใช้สิทธิรับคืนภาษีตามโครงการรถคันแรกมีแนวโน้มจะทิ้งรถก็จะเป็นปัญหาต่อระบบ โดยเฉพาะไฟแนนซ์ในแง่ของการยึดรถเพื่อนำมาขายทอดตลาด  ทั้งนี้เพราะกระทรวงการคลังมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก  กรณีลูกค้าผิดสัญญาเช่าซื้อหรือผิดนัดชำระเกินตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดทางไฟแนนซ์ต้องยึดและนำรถยนต์ออกประมูลขาย เมื่อหักหนี้และค่าใช้จ่ายในการขายแล้ว ถ้ามีเงินเหลืออยู่ให้ผู้ให้เช่าซื้อนำเงินส่งแก่หน่วยงานที่เบิกจ่ายเงินตามระเบียบที่กรมบัญชีกลางกำหนด   แต่ขั้นตอนปฏิบัติต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อไม่ติดขัดในการประสานงาน
-เข้มกลุ่มดาวน์ต่ำผ่อนยาว
           ต่อข้อถามประเด็นดังกล่าวนายประยุทธ์ จิตรวัชรโกมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัทโตโยต้าลีสซิ่งประเทศไทยฯกล่าวว่า  กรณีลูกค้าผ่อนชำระไม่ไหว ถือเป็นสภาวะปกติของตลาด  ซึ่งอาจต้องเข้มงวดมากขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีพฤติกรรมจ่ายเงินดาวน์ต่ำ 10%และระยะเวลาผ่อนชำระนาน 60 เดือน อาจจะพิจารณารายละเอียดหรือขอเอกสารหลักฐานเพิ่มมากกว่ารายอื่น ทุกสถาบันการเงินต่างมีหลักเกณฑ์เพื่อบริหารความเสี่ยงและควบคุมอยู่แล้ว 
           "ผมมองว่าเป็นการบริหารความเสี่ยง และเตรียมขั้นตอนรองรับกรณีลูกค้าผ่อนชำระไม่ไหว ไม่ใช่อยู่ดีๆยึดรถและนำออกประมูลขายแต่เปลี่ยนมือไม่ได้  ปัญหาอีกข้อคือ ไฟแนนซ์ไม่รู้ว่ารถคันไหนเป็นรถในโครงการรถคันแรกเพราะยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันจากทางการ"นายประยุทธ์กล่าว
           นายประยุทธ์กล่าวว่า  ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อหยุดชำระค่างวด  เรื่องนี้ต้องศึกษาว่าจะใช้เอกสารหรือแบบฟอร์มอะไรบ้างเพื่อนำไปยืนยันให้กรมสรรพสามิตทราบและประสานไปยังกรมการขนส่งฯเพื่อปลดล็อกเพื่อรองรับขั้นตอนการยึดรถและนำรถออกประมูลให้สามารถเปลี่ยนมือได้ไม่ติดขัด  สำหรับบริษัทเองยังอยู่ในขั้นตอนขอหนังสือยืนยันจากกรมสรรพสามิตว่ารถยนต์คันไหนได้รับอนุมัติเข้าโครงการรถคันแรกแล้ว   เบื้องต้นบริษัทประมาณการว่า จะมีรถยนต์คันแรกเข้ามาประมาณ 15%ของยอดเช่าซื้อต่อเดือนจากเป้าทั้งปีที่ค่ายโตโยต้ากำหนดยอดขายรถยนต์ไว้ที่จำนวน 500,000 คัน 
-สมาคมเช่าซื้อนัดสรรพสามิต
           นายชลิต ศิลป์ศรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายธนกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในวันพุธที่ 16 พฤษภาคมนี้ ทางสมาคมเช่าซื้อไทยได้นัดหมายเข้าพบนายจุมพล ริมสาคร รองอธิบดี กรมสรรพสามิต  เพื่อหารือเกี่ยวกับระเบียบ ขั้นตอนและเอกสาร กรณีที่จำเป็นต้องยึดรถคันแรกคืนจากผู้เช่าซื้อ  โดยระบุว่า เนื่องจากโครงการรถคันแรกได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงต้องเตรียมการรองรับเผื่อไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้อาจจะมีการสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการขยายระยะเวลาใช้สิทธิรับเงินคืนภาษีจากโครงการรถคันแรกในคราวเดียวด้วย
           สำหรับทิสโก้นั้น เบื้องต้นมีลูกค้าใช้สิทธิประมาณ 7,000 คัน ส่วนในระบบคาดว่าน่าจะมีรถยนต์ขอใช้สิทธิดังกล่าวประมาณ 15%หรือประมาณ 75,000 คัน หากประมาณการทั้งระบบยอดขายรถยนต์เกือบ 500,000 คัน และประมาณยอดเคลมภาษีกรณีลูกค้าได้รับอนุมัติน่าจะตกประมาณ 14,000 ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม  ขณะนี้ทุกไฟแนนซ์ยังอยู่ในกระบวนการทยอยออกหนังสือรับรองการเช่าซื้อรถให้ลูกค้าเพื่อนำไปยื่นขอใช้สิทธิกับกรมสรรพสามิตเท่านั้น 
           ด้านนายณรงค์  ศรีจักรินทร์  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ อาวุโส สายธุรกิจสินเชื่อรถยนต์  ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  ธนาคารได้รับการตอบรับจากลูกค้าประมาณ 25,000 คัน(ตัวเลขเดือนกันยายนถึงเดือนเมษายนนี้) โดยยืนยันเป็นลูกค้าตัวจริงและเชื่อว่ายอดขายรถยนต์ปี 2555 จะเป็นปีประวัติศาสตร์ที่ยอดขายรถทะลุ 1ล้านคันแน่นอน
-ยอดขอคืนภาษี3.3หมื่นคัน   
           ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบไปยังกรมสรรพสามิตถึงความคืบหน้าการใช้สิทธิขอคืนภาษีรถยนต์คันแรก  พบว่า ระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2554 - 4 พฤษภาคม 2555 มีผู้ยื่นขอใช้สิทธิจำนวนทั้งสิ้น 33,000 คัน  แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 22,000 คัน รถปิกอัพ 5,200 คัน  และรถดับเบิลแค็บ  5,500 คัน
           แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิตกล่าวว่า  ในสัปดาห์ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน-4 พฤษภาคม มีประชาชนยื่นขอใช้สิทธิสูงถึง 4,500 คัน ดังนั้นแนวโน้มยอดการใช้สิทธิขอคืนภาษีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากนี้เป็นต้นไป  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กระบวนการจดทะเบียนรถยนต์ยังมีความล่าช้า เนื่องจากกรมการขนส่งฯขาดแคลนทะเบียนทั้งป้ายแดงและป้ายดำ   ส่วนประเด็นลูกค้าโครงการรถคันแรกขาดผ่อนงวดนั้นทางกรมสรรพสามิตยังไม่ได้รับข้อมูลแต่อย่างใด เข้าใจว่าทางสมาคมเช่าซื้อไทยคงจะมีหนังสือแจ้งเข้ามาอีกครั้ง
-ค่ายรถฟุ้งยอดขายไม่สะดุด
           แม้จะมีความเคลื่อนไหวจากฝั่งสถาบันทางการเงินหรือไฟแนนซ์-บริษัทเช่าซื้อต่างๆที่จะเข้าไปหารือกับทางภาครัฐ และยังไม่มีความคืบหน้า แต่ในส่วนของผู้ผลิตรถยนต์กลับพบว่ายอดขายยังคงเติบโตต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ค่ายมิตซูบิชิ ที่มีรถยนต์ในโครงการรถคันแรกในรุ่นมิราจ  โดยนายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเช่าซื้อต่างๆจะรวมตัวกันเพื่อเข้าหาภาครัฐเพื่อปลดล็อกบางเงื่อนไขนั้น ไม่ได้มีผลกระทบกับยอดจองของรถยนต์แต่อย่างใด โดยมองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นภาระของไฟแนนซ์-บริษัทเช่าซื้อกับตัวของลูกค้ามากกว่า ซึ่งในส่วนของบริษัทรถยนต์ก็ยังคงมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
           ด้านนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่าในกรณีที่บริษัทเช่าซื้อจะเข้าไปหารือกับภาครัฐนั้น ตรงจุดนี้ไม่ได้กระทบกับบริษัทรถยนต์แต่อย่างไร โดยยอดขายรถยนต์ยังคงทยอยจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขของ "สวิฟท์" ตั้งแต่เปิดตัวจนถึงช่วงหลังงานมอเตอร์โชว์มีจำนวนประมาณ 13,000 คัน และตอนนี้บริษัทก็ได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าแล้วบางส่วน ซึ่งการเข้าไปหาภาครัฐในครั้งนี้มองว่าเป็นการลดความเสี่ยงของบริษัทเช่าซื้อมากกว่า
           ขณะที่ค่ายฮอนด้า ที่โดนพิษน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส  บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยในช่วงไตรมาสสองยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัว รวมทั้งจากนโยบายลดภาษีรถคันแรกสูงสุด  100,000 บาท โดยฮอนด้ามีตัวเลขการขายของรถในกลุ่มนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 - เมษายน 2555 พบว่าบริโอ้ 563 คัน ,ฮอนด้า ซิตี้ 3,309 คัน และ ฮอนด้า แจ๊ซ 3,597 คัน 
           อนึ่งยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กในปี 2554 ที่ผ่านมาพบว่า  ในกลุ่มอีโคคาร์มีนิสสัน มาร์ช เป็นตัวนำด้วยยอดขาย 30,533 คัน  ฮอนด้า บริโอ้ 3,061 คัน และนิสสัน อัลเมร่า 2,178 คัน ขณะที่กลุ่มซับ-คอมแพ็กต์ มีโตโยต้า วีออส นำด้วยยอดขาย 58,710 คัน ฮอนด้า ซิตี้ 27,790 คัน  ฮอนด้า แจ๊ซ 19,706 คัน และมาสด้า 2 ทั้งซีดานและแฮตช์แบ็ก  27,714 คัน

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=121627:2012-05-11-14-44-55&catid=89:2009-02-08-11-24-05&Itemid=417 (http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=121627:2012-05-11-14-44-55&catid=89:2009-02-08-11-24-05&Itemid=417)

หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: สมาชิกคนที่2455 ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 14:20:00
มีหลายๆคนที่ซื้อรถเพราะอยากได้เงินคืน 1 แสนบาทมาเป็นตัวกำหนด โดยไม่ได้คำนึงถึงสภาพปัจจุบันของตัวเอง เรื่องมันจึงเป็นเช่นนี้แล


สู้ต่อไปไอ้มดแดง !
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 14:29:36
ถ้าจะซื้อจริงๆ ผมไม่มองไอ้ 100 000 นึงเลยนะครับ ส่วนประกอบมากกว่าครับ แต่ถ้าซื้อผ่อน ได้รถมาแล้ว รถมันแย่จริงๆ
วิ่งไปเสียไป ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วศูนย์ปัดความรับผิดชอบ ผมคงจะทุบรถโชว์สื่อ และเลิกผ่อนด้วยครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 14:44:33
อารมณ์เหมือนสาวๆเดินห้างเจอป้ายลด 50% แล้วเข้าไปแย่งกันซื้อโดยไม่สนราคาเต็ม ในขณะที่ซื้อประตูน้ำได้ในราคาไม่กี่ร้อย

ผมไม่ได้หมายความว่าของห้างไม่ดี แต่มันดีในราคาที่แพงกว่า หลายๆคนที่ใช้ของห้างอยู่แล้วเค้าก็ซื้อปกติอยู่แล้วโดยไม่สนว่าจะลดราคาอยู่แล้ว แต่คนที่ซื้อของประตูน้ำปกติ ก็ไม่ซื้อของห้าง นอกจากจะเจอป้ายลดราคาก็รีบเข้าไปซื้อโดยไม่คำนึงว่าเกินตัวไปหรือไม่
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 15:19:10
น่ากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ หนี้เน่า บานตะไท่
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: heropopeye ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 15:21:46
บางทีไม่จำเป็นต้องใช้ ฐานะไม่เอื้ออำนวยก็จะซื้อ
ซื้อเพื่อเอาสิทธิ ที่ไหนได้ ค่าเสื่อมราคา ค่าประกัน ค่าน้ำมัน บลาๆๆๆ
ปีนึง ก็หายไปแสนนึงเช่นกัน ลำบากตัวเองอีกต่างหาก ฝื่นผ่อนเกินตัว
รอพร้อมๆดีกว่า คนคิดเป็น ได้ดี โดยไม่ต้องลำบาก มีเยอะแยะไป
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: johnlee ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 15:39:37
เศรษฐกิจขาลงก็มีส่วนครับ

1.ลอยตัวเชื้อเพลิงทุกชนิด คนใช้รถเป๋

2.ของแพง เงินเดือนเท่าเดิม รายได้ลดลง

3.เงินเดือน 1.5 หมื่น ไม่ได้ทุกคนนี่นา

4.ค่าแรง 300 ก็ไม่ได้ทุกคน

อีกอย่าง เงินเก็บ หมดไปแล้วกับการซ่อมบ้านที่น้ำท่วม

หลังน้ำท่วม ผมยังไม่เห็นรายได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ไม่ว่าอาชีพใดๆ แต่รายจ่ายนี่ชัดเจนมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: THEKHAM ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 15:41:58
เป็นไปตามความคาดหมาย

- สนองนี๊ดด เพราะกิเลสมันเย้ายวนใจ อยู่ดีดี ไม่คิดจะซื้อ ก็ซื้อ กลายเป็นหนี้ หน้ามืดลืมคิดไป ว่าตัวเรามีภาระเยอะเเค่ไหนกัน
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 15:45:24
เป็นไปได้หลายสาเหตุครับ แต่จะทำอะไรเดี๋ยวนี้ต้องคิดเยอะวางแผนให้ดี
เอาที่เหมาะสมกับตัวเองจริงๆ และมีกำลังพอ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 15:53:27
ผมกลับเฉยๆกับนโยบายนี้นะทั้งๆที่น่าสนใจ แต่ก็สู้ต่อไปทาเคชิสำหรับคนที่กำลังลำบาก มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: adis ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 16:17:32
มันเป็นอย่างที่หลาย ๆ ท่านว่ามาจริง ๆ ครับ
คิดเฉพาะเรื่องภาษีรถคันแรก แล้วพอเห็นคนอื่น ๆ เค้าซื้อกันเยอะ
ก็เลยคิดจะซื้อบ้าง ทั้ง ๆ ที่ความจำเป็นก็ไม่มี รายได้ก็ไม่พอที่จะผ่อน
  ผมก็สอนน้องของเพื่อนไปเหมือนกันว่าให้คิดหน้าคิดหลังดี ๆ อย่าหลงกับสิ่งล่อตาล่อใจเกินไป
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: nonglek1228 ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 16:47:13
ต้องโทษที่ตัวบุคคล โทษนโยบายไม่ได้หรอก

คุณไม่พร้อมแล้วคุณไปซื้อ เพื่อหวังอยากได้เงินแสนคืนเหรอ แบบนี้เรียกไม่มองตัวเอง

แต่หากคุณเป้นคนที่กำลังจะซื้อรถคันใหม่อยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่ได้เงินคืนกลับมา
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 16:51:50
มันเป็นอย่างที่หลาย ๆ ท่านว่ามาจริง ๆ ครับ
คิดเฉพาะเรื่องภาษีรถคันแรก แล้วพอเห็นคนอื่น ๆ เค้าซื้อกันเยอะ
ก็เลยคิดจะซื้อบ้าง ทั้ง ๆ ที่ความจำเป็นก็ไม่มี รายได้ก็ไม่พอที่จะผ่อน
  ผมก็สอนน้องของเพื่อนไปเหมือนกันว่าให้คิดหน้าคิดหลังดี ๆ อย่าหลงกับสิ่งล่อตาล่อใจเกินไป

พูดเหมือนผมเลยครับ น้องที่รู้จัก 3 คน ซื้อมาร์ชไป 3 คัน  เพราะเงินแสน เดียวจริงๆ ทั้งๆ
ที่ขับไปกลับที่ทำงานวันละ 20 โล อีกคน ซื้อมาจอด อีกคนไปกลับบ้านอาทิตย์ละ 60 โล

เงินเดือนแต่ละคน ยังไม่ถึง 15000 เลยครับ ผมก็ภาวะนาให้ผ่อนกันหมดทุกคน
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 16:57:45
การที่จะซื้อรถคันหนึ่งหากว่าเงินแสนหนึ่งมันมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในการตัดสินใจซื้อรถคันนึงพึงระลึกไว้เลยว่า หนึ่งคุณกำลังเลือกรถใช้งานผิดประเภทถึงได้เอาเงินส่วนลดมาเป็นตัวตัดสินใจแทนที่จะเป็นคุณประโยชน์ของยานยนต์ สองคุณไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบรายจ่ายที่จะตามมาหลังจากซื้อรถอีกหลายๆแสน เงินที่ใช้ในการจ่ายเงินตอนซ์อรถนั่นมันแค่จุดเริ่มต้นของการจ่ายๆๆๆๆๆๆและจ่ายค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าภาษี ค่าบำรุงรักษา ค่าชดใช้อุบัติเหตุและค่าอื่นๆๆๆที่จะตามมาอีกมากมายในอนาคต  :-X

อย่ายึดติดว่าซื้อรถต้องเป็นรถใหม่เท่านั้น ในงบประมาณของอีโคคาร์และซิตี้คาร์ทั้งหลายคุณสามารถซื้อรถมือสองในสภาพงามๆที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ใหญ่กว่าได้สบายๆ พวกที่ใช้ปีสองปีหรือไม่ถึงปีแล้วขายทิ้งมีเยอะแยะ หากฟุ้งเฟ้อทนไม่ได้กับคำครหาของเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงาน คุณกำลังยืนอยู่ที่ปากเหวของคำว่า"หนี้สิน"แล้ว  :P
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 16:58:34
ลูกน้องผมตอนแรกจะออกวีออสแล้วหล่ะแต่เจอน้ำท่วมก่อนเลยมีเวลาได้คิดสุดท้ายก็ไม่เอาล่ะถอนจองเรียบร้อยไปซื้อบ้านแทนมีกัน 3 พี่น้องแต่อยู่หอคนล่ะที่เลยจะซื้อบ้านแล้วอยู่ด้วยกันจ่ายพอๆกับค่าเช่านั่นแหละ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: chaiz ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 17:59:56
ปัญหาเริ่มมา ก็แก้ไขกันไป

ใครที่ซื้อรถเพราะเงินคืน 1 แสน ทั้งๆที่ตัวเองผ่อนไม่ไหว ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ให้เป็นบทเรียนละกัน

นโยบายนี้โดยเนื้อหานั้นดี แต่ติดตรงที่
คนไทยยังไม่สามารถประเมินภาวะการเงินของตัวเองได้ดีพอ
ชอบตามน้ำ 
และมองเห็นแต่คำว่า ได้ โดยลืมนึกถึงกระบวนการก่อนนั้น กว่าจะรู้ตัวก็เป็นหนี้เกินตัว ลำบากกันไป
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: 2C-T ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 18:54:56
อาฟเตอร์ช๊อคลูกใหญ่กำลังจะมาแล้ว กับนโยบายที่เอาความโลภของคนเข้าแลก
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: FyGI ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 19:32:18
เริ่มออกลายแล้ว

และหลักจากนี้ก็จะเริ่มเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ ครับ


เหมือน นโยบาย สร้างความฟุ้งเฟ้อให้กับประชาชน

ให้ซื้อๆๆๆ แล้วประชาชนสร้างรายได้อย่างมั่นคงหรือยัง
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 19:55:36
จะว่าไปมันก็ไม่แปลกขนาดไม่มีนโยบาย1แสนบาทรถยังโดนยึดเรื่อยๆอยู่แล้ว นโยบายนี้ที่ผมเจอมาส่วนมากซื้อเพราะเงิน1แสนบาทเท่านั้น ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นอะไรแต่กลัวถูกเพื่อนๆหาว่าโง่ไม่ยอมใช้สิทธิ์ 
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Nuttie ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 20:46:42
ผมว่านโยบายมันออกมาแบบนั้น ข้อดีของมันน่ะมีเยอะ เพียงแค่ประชาชนที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ตอนนี้ ใช้สิทธิในทางที่ไม่คิดถึงผลระยะยาว

แล้วถ้าเป็นปัญหาแบบนี้ จะมีแนวทางแก้ไขหรือทางออกที่ดีของทั้งสองผ่ายไหม  ::)
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Terng ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 21:20:41
แทนที่จะให้เป็นส่วนลดเงินก้อน 100,000 บาท ที่จ่ายให้เจ้าของรถ ผมว่าน่าจะทำเป็นเหมือนโครงการเอาเก่ามาแลกใหม่ให้ส่วนลดแบบของอเมริกาเมื่อปีก่อนๆ (จำชื่อโครงการไม่ได้แล้ว) เพื่อให้ได้รถที่ปลอดภัยขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เป็นผลดีต่อทุกๆฝ่ายด้วย

หรือไม่ก็นำไปทำเป็นส่วนลดที่ทางผู้ขายรถ สามารถเรียกคืนจากภาครัฐได้ แล้วให้เป็นส่วนลดเงินสดจากยอดจัดไฟแนนซ์ หรือยอดซื้อสดแทน? ซึ่งจะทำให้คนใช้เงินในการผ่อนน้อยลง เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน แต่ลดปริมาณคนซื้อเพราะหน้ามืดโดนความโลภครอบงำได้ด้วย

 ผมดูนโยบายนี้แล้วมันเหมือนล่อให้คนหน้ามืดซื้อโดยไม่คิด เพียงเพราะจะได้เงิน 100000 ยังคิดอยู่เลยว่าสุดท้ายมันก็ต้องมีพวกที่กะจะโกงด้วยการดาวน์น้อย ผ่อนนาน ได้เงินครบแสนแล้วก็เชิด ไม่ผ่อนต่อแล้วกินส่วนต่างไป ถือว่าที่ผ่านมาก็ได้รถใช้ไปด้วย
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 21:38:13
แค่เริ่มต้นก็เบี้ยวค่างวดเสียแล้ว..
ปล.ขับรถใหม่แล้วต้องมานั่งกลุ้มใจเพราะเดือดร้อนค่างวดจะมันมีความสุขหรือครับ ?
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: koruru ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 21:46:34
ผมอยากให้คนที่คิด นโยบายนี้ มาอ่านจัง

 :) :) :)
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 21:55:57
เป็นไปตามที่คาดไว้เลย
ตั้งแต่เริ่มมีข่าวนโยบ่ยนี้ก็สังเกตุได้ว่ามีคนเข้ามาถามเริ่งการผ่อนรถ หรือเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะผ่อนได้
ซึ่งเราหลายคนก็ช่วยกันตอบ และให้ข้อคิดไปเยอะ เพราะซื้อรถมันไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนรายเดือน และค่าน้ำมัน มันยังมีค่าอะไรต่อมิอะไรอีกเพียบเลย
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: intervention ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 22:09:44
บอกได้อย่างเดียวว่าเสียดายเงินภาษี
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Niceguy_C ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 23:13:08
ไม่ผิดจากที่คาด เพราะมีหลายคน ออกรถทั้งที่ยังไม่พร้อม เพราะกลัวจะไม่ได้ส่วนลดเงินภาษี

เป็นนโยบายที่ไม่เกิดประโยชน์ในมวลรวมเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: baddream11 ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 23:31:48
กระตุ้นด้วยภาษีปีนี้แล้วปีหน้าจะเอาอะไรกระตุ้น
คนที่พร้อมและเกือบพร้อมและไม่พร้อม ต่างพากันมา
ออกรถปีนี้แล้ว และต้องทนถือครองรถไปอีก 5 ปี
และจะทำยังไงหนี้สินที่เกิดจากการออกรถ กรณีเป็นหนี้เสีย
ก็คงจะไม่พ้นเงินภาษีอีกตามเคย และคนที่ไม่ได้ประโยชน์
จากโครงการนี้ แต่ก็ต้องจ่ายภาษี จะรู้สึกเช่นไรกันหนอ......
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: mick ที่ พฤษภาคม 15, 2012, 23:50:44
ประชานิยม.....
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 00:04:04
นี่ไง ไอ้พวกที่ไม่มีการประเมินตนเอง เป็นปัญหาให้ส่วนรวมอีกครับ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: chaivat ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 06:13:48
ผมยังไม่รู้เลยว่าเงินส่วนลดรถคันแรกรัฐจ่ายคืนแบบไหน
1.นำไปเป็นส่วนลดการเสียภาษีจนครบจำนวนที่ได้
2.จ่ายเป็นเงินสดแบบทยอยจ่ายเป็นงวดจนครบ
3.จ่ายคืนตามจำนวนที่พึงได้ครั้งเดียว(ข้อนี้ไม่น่าเป็นไปได้เมื่อเอกสารครบและอนุมัติ)
ผมเคยคิดว่าให้คนซื้อรถคันแรกจ่ายเงินไปตามปกติแบบที่ทั่วไปซื้อ
พอปีที่ 3 4 5 รัฐเริ่มคืนเงินส่วนลดทยอยจ่ายคืน
 ข้อดี
1.ลดปัญหาแบบที่กำลังจะเกิดลงได้ เรื่องไม่สามารถผ่อนต่อ
2.รัฐมีเวลาในการเตรียมการเรื่องเงิน ซึ่งตอนนั้นรัฐคงมีฐานะการเงินแข็งแรงขึ้น(หรือเปล่า)
3.มีเวลารับมือกับปัญหาที่จะเกิดแต่น้อยลงเพราะมีระยะเวลาคิดนานขึ้น
ข้อเสีย
1.ผู้ที่อยู่ในระบบรถยนต์ทั้งระบบคงไม่ค่อยชอบ
2.ความพึงพอใจที่รัฐหวังไว้ได้น้อยลง
3.งานเอกสารที่จะเกิด งานคงเพียบ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: tspeed ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 06:42:21
รอซื้อมือสอง ราคาน่าจะตกมากๆ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 07:24:22
ซื้อ เพราะไม่ดูตัวเอง หวังโลภ เอาลดภาษี 100,000 ก็สมควรโดนแล้วครับ

คนออกนโยบาย เป็นคนไทย น่าจะเข้าใจความโลภ ไม่ประมาณตนเองของคนไทยได้ดี
แต่กลับออกนโยบายแนวๆนี้ออกมา
ถึงจะโทษนโยบายไม่ได้ ต้องไปโทษคนที่ไม่ประมาณตน
แต่มันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ฝ่ายนึงไม่ดูตัวเอง ฝ่ายนึงไปสนับสนุนคนเหล่านั้น
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: myalexxp ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 08:03:27
มันดีสำหรับคนมีเงินสดพอจะซื้อได้ครับ

แต่เค้าเลือกที่จะผ่อน (เก็บเงินไปทำทุนอย่างอื่น )

 ;)
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 10:27:30
ผมว่าเค้าฉลาดนะที่รู้ใจคนว่าต้องการอะไร โดยวิสัยของคนแล้วถ้าเห็นประโยชน์ตรงหน้าแล้วมักมองข้ามสิ่งที่ต้องเสียไป เช่น ซื้อหวยได้เลยเด็ดมาก็ทุ่มซะพอไม่ถูกมาไม่มีตังจ่ายซะงั้น เป็นหนี้เป็นสินกันยาวเลย ตอนซื้อไม่ได้เผื่อคิดว่าจะไม่ถูก หรือใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าโดยเห็นแก่ผ่อน 0 % นาน 10 เดือน แล้วไม่ได้มองว่าจำเป็นหรือไม่ จะมีเงินใช้หนี้รึเปล่า

ผมเคยต่อว่าแฟนเรื่องซื้อเครื่องซักผ้านี่แหละ แฟนผมอยากได้มากแต่ตอนนั้นการเงินยังไม่ดีจะรูดบัตรแต่ผมไม่ยอม เรื่องหนี้ที่ต้องผ่อนผมยอมแค่บ้านกับรถเท่านั้นที่เหลือถ้ามีตังก็ไม่ต้องซื้อ วินัยทางการเงินต้องมาก่อนถ้าเสียวินัยปัญหาอย่างอื่นจะตามมาอีกเยอะ แต่สินค้าทุกอย่างที่ผมซื้อส่วนใหญ่รูดบัตรนะแต่จ่ายหมดทุกครั้งเอาแต้มแลกเป็นเงินได้มาประมาณ 2000 แล้วและก็ไม่อยากพกเงินสดเยอะๆ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: jaammaii ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 11:10:49
แทนที่จะให้เป็นส่วนลดเงินก้อน 100,000 บาท ที่จ่ายให้เจ้าของรถ ผมว่าน่าจะทำเป็นเหมือนโครงการเอาเก่ามาแลกใหม่ให้ส่วนลดแบบของอเมริกาเมื่อปีก่อนๆ (จำชื่อโครงการไม่ได้แล้ว) เพื่อให้ได้รถที่ปลอดภัยขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เป็นผลดีต่อทุกๆฝ่ายด้วย

หรือไม่ก็นำไปทำเป็นส่วนลดที่ทางผู้ขายรถ สามารถเรียกคืนจากภาครัฐได้ แล้วให้เป็นส่วนลดเงินสดจากยอดจัดไฟแนนซ์ หรือยอดซื้อสดแทน? ซึ่งจะทำให้คนใช้เงินในการผ่อนน้อยลง เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน แต่ลดปริมาณคนซื้อเพราะหน้ามืดโดนความโลภครอบงำได้ด้วย

 ผมดูนโยบายนี้แล้วมันเหมือนล่อให้คนหน้ามืดซื้อโดยไม่คิด เพียงเพราะจะได้เงิน 100000 ยังคิดอยู่เลยว่าสุดท้ายมันก็ต้องมีพวกที่กะจะโกงด้วยการดาวน์น้อย ผ่อนนาน ได้เงินครบแสนแล้วก็เชิด ไม่ผ่อนต่อแล้วกินส่วนต่างไป ถือว่าที่ผ่านมาก็ได้รถใช้ไปด้วย
+ 1
ผมเห็นด้วยกับโครงการเเลกรถแบบที่เมกาเค้าทำ ได้ทั้งสองฝ่าย   ;D
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 11:46:17
ใช่ครับนโยบายนี้มีผลกระทบมากต่อคนGenYที่เพิ่งจบใหม่ รวมถึงทำงานได้ไม่นานเช่นGenXรุ่นท้ายๆ
1.ทำให้คนที่จบใหม่ หรือรายได้ยังไม่มากนัก ต้องดิ้นรนออกรถก่อนเวลาอันควร เนื่องจากกลัวหมดเขตของนโยบาย ซึ่งจริงๆก็คงซื้อรถประเภทนี้อยู่แล้ว
2.ทำให้คนที่คิดจะซื้อรถC-Seg หันกลับมาเล่นรถเล็กแทนเนื่องจากต้องการส่วนลดทางภาษี ทั้งๆที่จริงC-seg อาจเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า แต่ดันเกิดงกขึ้นมาซะอย่างนั้น
3.ผู้ปกครองทั้งหลายส่งชื่อบุตรหลานที่อายุเข้าเกณฑ์รถคันแรกเป็นตัวแทนไปออกรถกระบะยกสูง/ยกสูงสี่ประตู เอามาขับโก้ๆมากขึ้น ทั้งๆที่ถ้าไม่มีนโยบายนี้อาจยังไม่มีความจำเป็นต้องออก

คนที่ผมรู้จักตรงกับข้อ2-3เลยครับ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 11:49:40
เห็นนโยบายนี้ติดป้ายหาเสียงผมก็เพลียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว นโยบายประชานิยมแบบนี้ ปัญหามักจะตามมาภายหลังเสมอ

พรรคอะไรผมไม่พูดถึงนะครับเดี่ยวจะเป็นการเมืองปล่าวๆ

แต่อยากให้คนที่จบใหม่ๆเงินเดือน 15xxx-20xxx คิดให้ดีๆก่อนจะซื้อรถใหม่ซักคันที่ราคาผ่อนประมาณ 5-8พัน

มองดูตัวเงินอาจจะไม่เยอะมาก หักค่างวดไแแล้วยังสบายๆ

แต่มันออกทุกๆเดือนเดือนละเท่าๆกัน ถ้ามันเกิดเหตุฉุกเฉิน มีรถก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ

รถ = ลด




หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 12:01:00
กะแล้วว่าเดี๋ยวจะต้องมีกรณี ผ่อนไม่ไหวตามมาอีกเป็นพรวน
นโยบายนี้ ผมมองว่าคนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งแน่นอนมุมมองการใช้เงินก็จะไม่ละเอียด อยากได้อะไรมักจะซื้อ โดยคิดว่าเดี๋ยวก็ผ่อนคืนได้ แต่มักจะลืมค่าใช้จ่ายแอบแฝง ตรงจุดนี้แหละที่น่ากลัวครับ

หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Zx-III ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 12:04:09
นโยบายขายฝัน อันดับแรก ดูว่าตัวเองมีรายรับ รายจ่ายผ่อนไหวมั๊ย ค่าซ่อมค่าบำรุงรถ เหมือนเลี้ยงลูกเลยครับ 1ปี ค่าซ่อม ค่าบำรุง ค่าประกัน ค่าน้ำอื่น อื่นๆอีกปีละเท่าไร ไอ้ลด100k ก็ไม่ใช้ว่าได้ลดเลยนิ มันผ่อนลดเอา ถ้าจำไม่ผิด ไม่ชัวนะ ชอบนโยบายUSเอารถเก่าแลกรถใหม่ดีกว่า ลดco2ด้วย น้ำมันขึ้น ของอุปโภคบริโภคขึ้น เงินเดือนขึ้นแค่15k คิดว่าพอผ่อนเหรอครับ รถก็ติดโคตร เบื่อจริงๆ  เอาเงินลด100k ไปรีบทำรถไฟ้าชานเมืองเหอะครับ เซง
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 12:29:26
ไม่เกี่ยวกับนโยบายนะครับ จริงๆเรื่องรถคันแรกน่าจะเป็นมือสองเก่าๆเกียร์ธรรมดากันมากกว่าจะได้ฝึกฝนทักษะการขับขี่ ซ่อมและดูแลรักษาเบื้องต้น อีกอย่างจ่ายสบายๆด้วย พออยู่ตัวก็ค่อยขยับเอาที่ต้องการดีกว่า สมัยนี้ออกรถกันง่ายๆเกียร์ออโต้ทั้งนั้น แค่ใส่เกียร์ให้ไปข้างหน้าได็ก็จบล่ะ ดูจากบนถนนได้เลยมีพวกขับแบบงงๆตัวเองเยอะขึ้น
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: thelen ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 13:01:32
.....คิดไว้แต่แรกว่าส่วนมากน่าจะผ่อนไม่ไหวครับ เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้รายแรกที่ไม่รู้
ถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาภายหลังครับ ทั้งค่าน้ำมันค่าประกันค่าดูแลต่างๆอีก ถึงจะเป็นรถ
ใหม่ก็ต้องดูแลรักษาอยู่ดีครับ ดั้งนั้นจึงคิดไว้แต่แรกแล้วว่าน่าจะรอดไม่เกิน60เปอเซนต์
จากจำนวนรถทั้งหมด จากนั้นบรรดาอีโคคาร์ทั้งหลายจะต้องเข้าสู่กระบวนการขายทอด
ตลาด และผมเป็น 1 ในนั้นครับที่รอซื้ออยู่ รอเงียบๆอย่างใจเย็นครับ ตอนแรกหมายตาไว้
หลายคันอยู่ครับแต่พอเห็นคนทุ่มซื้อรถเพราะอยากได้ส่วนลดมีมากมาย จึงคิดว่ารอดีกว่า

**อันนี้ไม่นับรวมถึงรถต่างจังหวัดที่ส่วนมากซื้อสดกันเป็นส่วนใหญ่
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 13:51:12
เป็นไปตามความคาดหมาย ไม่มีผิดเพี้ยน......
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: chaiz ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 14:55:26
เท่าที่อ่านจากในเวปของ กรมสรรพสามิต บอกว่า จะคืนเงินให้เมื่อครอบครองครบ 1 ปี โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝาก โดยจะเริ่มจ่ายคืน 1 ต.ค. 55

ปัญหาต่อมา คนเบี้ยวค่างวด หรือทิ้งรถ น่าจะเยอะขึ้น หลังจากได้เงินคืน และปัญหาการทวงเงินคืน กรณีผิดเงื่อนไขของโครงการ เช่น ขาดส่งค่างวด รถโดนยึด ขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ก่อนครบ 5 ปี รถประสบอุบัติเหตุเสียหายsหนักต้องขายซาก ฯลฯ

แล้วอยากรู้ว่า กรณีขาดส่งค่างวดจนโดนยึดรถ เงินคืน 100000 หรือน้อยกว่านั้น จะเป็นของใคร?
ผู้ใช้สิทธิ์เก็บไว้ บังคับจ่ายค่างวดที่ค้าง หรือเรียกคืนรัฐ?
 
รัฐบาลก็เตรียมงานหนักแก้ปัญหา  ประชาชนก็เตรียมงานหนัก ทำงานจ่ายภาษี 555
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Appenzell Swiss ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 15:23:17
ผมมองว่าสาเหตุไม่ใช่เรื่องนโยบายคืนภาษีครับ ไม่ได้ขายดีเฉพาะรถเล็กครับ นั่นเป็นแค่ส่วนน้อย ถ้าจะโทษนโยบาย คงต้องโทษธุรกิจรถยนต์ที่ทำรถเล็กราคาถูกด้วยมั้ยครับ  เพราะคนรุ่นใหม่ใช้จ่ายไม่ระวังมากกว่า มักตัดสินใจเร็ว ไม่คิดให้รอบคอบ ทั้งๆที่รายได้น้อยและจะมีภาระเพิ่มขึ้นตามลำดับ
แถวบ้านผม ที่ผ่านมา ฮิตออกปาเจโร่กันมาก จนกลายเป็นกระแส คาดว่าคงมีปัญหาเช่นกันครับ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: chamanow88 ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 15:33:22
- เหยื่อติดเบ็ดแล้ว  ::) ::) ::)
- จะมีมือสองสภาพดีๆให้เลือกอีกมากมาย



นี่แหละประเทศไทย
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: BoZomBie ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 15:42:44
ผมล่ะเบื่อกับนโยบายสร้างฝัน คืนเงินแสน แต่มาเก็บคืนจาก น้ำมัน NGV LPG
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: tierak ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 15:49:59
เฉลี่ยเปอร์เซ็น ลูกค้าที่มีปัญหากับที่ไม่มีปัญหา มีมากแค่ไหนยังไม่รู้  แต่คิดว่าส่วนน้อยที่มีปัญหา และคิดว่านโยบายนี้ยังคงเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการซื้อรถจริงๆ
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: pinggiyam ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 15:50:39
เกิดจากคนไทยบ้างส่วน ไม่มีวินัยทางการเงิน  ;D ;D
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Bond007 ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 16:00:49
รถรุ่นใหม่คงระบบไฟไม่ดีมั้งครับ ..... ไฟแนน >_<
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: MandM ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 17:12:53
ไม่มีใครโทษธนาคารหรอครับ ตัวแสบเลย
คนไม่มีศักยภาพทางการเงินพอ ก็ให้กู้ มันโลภมากก็ลาภหาย
สมควรแล้วที่มันโดน

หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Blanco ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 20:50:14
ไม่มีใครโทษธนาคารหรอครับ ตัวแสบเลย
คนไม่มีศักยภาพทางการเงินพอ ก็ให้กู้ มันโลภมากก็ลาภหาย
สมควรแล้วที่มันโดน


ไม่น่าใช่นะครับ ถ้าจะโทดอาจจะโทดได้ว่า ให้ความเข้าใจในเรื่องดอกเบี้ยและดอกจัน ไม่ครบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมมองว่ายังไงมันเป้นเรื่องที่ผู้กู้ต้องศึกษาครับ
แล้วจะมาโทษแต่ฝั่งธนาคารก็ไม่ใช่นะครับ ไม่ได้มีใคร มันมือให้ไปกู้ครับ ถ้าประเมินตนเองดีเข้าใจกำลังทรัพย์ตัวเองดี ก็คงจะรู้คับว่าควรไม่ควร
ผมกลับมองว่าเป็นที่คนกู้ซะส่วนใหญ่นะครับ ขาดความเข้าใจ เอาแต่ได้ คิดว่าง่ายๆ ไม่รอบครอบ สนแค่ส่วนคืนภาษี 100000 สุดท้ายเกิดแรงตนเอง (อันนี้ไม่ได้ว่าทุกคนนะครับ)
แต่มันก็เป็นมุมมองของผม
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 21:54:58
ไม่เคยใส่ใจ เรื่อง 100000 เลยครับ ซื้อรถนะครับ ไม่ได้ออกรถเอาเงิน แสน ไร้สาระตั้งแต่คนคิดแล้ว นโยบายแบบนี้ใครที่ไหนจะคิดได้ นอกจากนักการเมืองไทย ประชานิยม อยากให้คนจนคนไม่พร้อมมีโอกาสมีรถ แต่กลายเป็นการฆ่าเค้าทั้งเป็นด้วยคำว่าหนี้สิน 

แถมสร้่างภาระให้สังคมอาที รถติด มลพิษ ฯลฯ แทนที่จะเอาเงินไปทำรถไฟความเร็วสูง หรือ รถไฟฟ้า คนที่ได้ประโยชน์คือ บริษัท รถยนต์ คนรับความเสี่ยงเป็นธนาคาร และคนรับกรรมคือ คนซื้อที่ไม่ีฐานะเพียงพอ

หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Mighty-X ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 23:25:58
ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็แย่แบบนี้ล่ะครับ :(
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: xroma83 ที่ พฤษภาคม 16, 2012, 23:52:50
พอเลือกตั้งรอบหน้า นโยบายใหม่ "พักชำระค่างวดรถ 6เดือนสำหรับรถที่เข้าข่าย"   :-\
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: chamanow88 ที่ พฤษภาคม 17, 2012, 09:41:24
พอเลือกตั้งรอบหน้า นโยบายใหม่ "พักชำระค่างวดรถ 6เดือนสำหรับรถที่เข้าข่าย"   :-\


+1 ลึกซึง อ่อมันเป็นนโยบายต่อเนื่องนี่เอง ;D ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: Zx-III ที่ พฤษภาคม 17, 2012, 09:57:48
พอเลือกตั้งรอบหน้า นโยบายใหม่ "พักชำระค่างวดรถ 6เดือนสำหรับรถที่เข้าข่าย"   :-\

สงสัยกะไอ้ผ่อนยาวๆๆๆๆ555
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: mooja ที่ พฤษภาคม 17, 2012, 18:18:34
ติดNPLตั้งเเต่วัยเริ่มต้นทำงานเลยนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ++ ลูกค้ารถคันแรก เริ่มเบี้ยวนัด เพราะผ่อนไม่ไหว (หวังเอาเงินคืน 1 แสนบาท)++
เริ่มหัวข้อโดย: MandM ที่ พฤษภาคม 17, 2012, 21:11:26
ไม่มีใครโทษธนาคารหรอครับ ตัวแสบเลย
คนไม่มีศักยภาพทางการเงินพอ ก็ให้กู้ มันโลภมากก็ลาภหาย
สมควรแล้วที่มันโดน


ไม่น่าใช่นะครับ ถ้าจะโทดอาจจะโทดได้ว่า ให้ความเข้าใจในเรื่องดอกเบี้ยและดอกจัน ไม่ครบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมมองว่ายังไงมันเป้นเรื่องที่ผู้กู้ต้องศึกษาครับ
แล้วจะมาโทษแต่ฝั่งธนาคารก็ไม่ใช่นะครับ ไม่ได้มีใคร มันมือให้ไปกู้ครับ ถ้าประเมินตนเองดีเข้าใจกำลังทรัพย์ตัวเองดี ก็คงจะรู้คับว่าควรไม่ควร
ผมกลับมองว่าเป็นที่คนกู้ซะส่วนใหญ่นะครับ ขาดความเข้าใจ เอาแต่ได้ คิดว่าง่ายๆ ไม่รอบครอบ สนแค่ส่วนคืนภาษี 100000 สุดท้ายเกิดแรงตนเอง (อันนี้ไม่ได้ว่าทุกคนนะครับ)
แต่มันก็เป็นมุมมองของผม

ผมทราบครับว่ามันต้องพิจารณาตนเองด้วย เพียงแต่เห็นคนในนี้มุ่งไปประเด็นอื่น
เลยยกเรื่องนี้ขึ้นมาก ผมคิดว่ามันเป็นรากของปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่นโยบายคืนภาษีครับ
เพราะไม่มีนโยบายนี้ ปัญหา suprime มันก็มีอยู่ตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่นำมาพูดกัน
จริงๆ แล้วปัญหานี้มันสามารถ ป้องกันได้ ถ้าธนาคาร มีความรอบครอบในการพิจารณาสินเชื่อมากกว่านี้ครับ
ไม่งั้นจะเอาเอกสารทางการเงิน ทรัพย์สินต่างๆ ไปดูตอนขอสินเชื่อทำไมครับ

เรื่องที่คนส่วนใหญ่สนใจแต่เงินคืน 100000 ขาดความเข้าใจ มันไม่เกี่ยวกับขั้นตอนการพิจารณาสินเชือเลยครับ
อยากได้รถ อยากได้เงิน 100000 คืน   แต่รายได้ไม่ถึง มันก็ต้องไม่ให้สินเชือผ่านสิครับ

เพราะฉะนั้นทางแก้ไขปัญหานี้มันก็ต้องไปตกอยู่กับธนาคารครับ ต้องรู้จักป้องกันตนเอง ไม่ใช่จะเอาแต่ดอกเบี้ย