Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: z4kas ที่ กรกฎาคม 05, 2012, 22:51:43
-
สวัสดีพี่น้องที่น่ารักทุกคนนะครับ
กระทู้อาจหลายคำถามนิดนึงนะครับ เพราะไม่อยากแยกหลายกระทู้
เริ่มเลยแล้วกัน
พ่อจะออกรถกระบะใหม่ครับ
.....เพื่อใช้บรรทุกของ (ประมาณ 1-1.5 ตัน นาน ๆ ทีจะเกิน 2-2.5)
.....ถ้ามีของบรรทุก จะวิ่งเข้าไร่ (แบบพื้นที่ไม่โหดมาก)
.....ถ้าวิ่งแบบปกติแบบไม่บรรทุก ....คอมเมนต์ว่า ขับไม่เร็ว แต่ก็ไม่ช้า
เดิมใช้ Isuzu Dmax โฉมแรก ปี 2003 เครื่อง 3000 ออโต้ ใช้งานตามที่ว่าข้างบน
ส่วนตัวผม ก็ว่าใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะลากจูง บรรทุก ...แต่อืดมากต่อให้เป็นรถเปล่า - -"
พอดีว่าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย พ่อเลยถือโอกาสขายเลย และบอกว่าใช้เกียร์ธรรมดาดีกว่า
ออโต้ใช้งานพวกนี้ไม่ดี และไม่ไหว (แต่ผมว่ามันก็รับใช้เรามาแสนกว่าโล แบบไม่มีปัญหานะ)
รถที่เล็งไว้มี 2 ตัวเลือก
- ขบวนการ 5 สี Ford Ranger
- ฮีโร่ของลูก Mazda BT-50
ตัวเลือกอื่นตัดหมด เพราะพ่อชอบความแข็งแรงของตัวรถ
( จริง ๆ พ่อไม่ชอบแบรนด์ทั้งสองเลย และพ่อก็บ่น ๆ กับตัวเองว่า
ซื้อรถมาใช้งาน ถ้าใช้งานไม่ได้แบบที่ตั้งใจ หรือใช้ได้ไม่เต็มที่
หรือซื้ออยี่ห้อตลาดอื่นมาเพราะกลัวราคาตก ....แล้วจะซื้อมาทำไม)
สรุปก็เลยจะเสี่ยงซื้อแบบตามเราชอบ (แต่ก็บ่น ๆ เองว่า ดีไหมหว่า - -*)
คำถามนะครับ
- พ่อบอกว่า ออโต้้ไม่ไหวหรอก แรงไม่พอ พังง่าย เปลืองน้ำมัน
อยากทราบว่ามันจริงแค่ไหน ณ.เทคโนโลยีปัจจุบัน และคุณภาพของเกียร์ออโต้ ของทั้ง 2 ค่ายนี้
ใจจริง ผมอยากได้เกียร์ออโต้ เพราะไม่ชำนาญเกียร์ธรรมดา
(เคยใช้ธรรมดาอยู่พักใหญ่เหมือนกัน แต่ยังไงก็ไม่คล่องเท่าออโต้ ขับเรื่อย ๆ อะได้ แต่พอมีอะไรฉุกเฉิน แค่จะเปลี่ยนเกียร์ ก็ไม่รอดแล้ว)
- ถ้าข้อแรกผ่าน เอาออโต้ได้
แต่ออโต้ มันดันมีแต่ตัวยกสูง เลยอยากถามคำถามต่อไปว่า
ตัวยกสูง เรานำมาลดระดับได้ไหมครับ (เพราะเวลาบรรทุกของขึ้นมันลำบากครับ)
โดยที่คุณสมบัติเดิม ๆ ยังอยู่ครบ (ให้ได้แบบตัวเตี้ยก็ยังดี)
เช่น ความนุ่มนวล น้ำหนักที่เดิมมันบรรทุกได้ ไม่ใช่ว่า โหลดได้ แค่กระด้างขึ้นเยอะ และบรรทุกได้น้อยลง
คือผมไม่ทราบว่า รถธรรมดา กับยกสูง มีชิ้นส่วนไหนต่างกันบ้าง
ถ้าเราทำให้มันเหมือนตัวเตี้ยธรรมดา จะยุ่งยากมากไหมครับ
- ถ้าเป็นออโต้ ในรุ่น 2 ประตู ยกสูง
ทั้ง 2 ยี่ห้ออันไหนจัดเต็มเรื่องความปลอดภัยของการขับขี่มากกว่าครับ (เช่นพวก EBD TSC)
เพราะดูโบรชัวร์แล้วรายละเอียดน้อยมากทั้งคู่
ส่วนคนขาย ......ผมยังรู้มากกว่าเลยมั้ง - -*
- อ้อ ตัวรถ 2 ยี่ห้อตอนนี้มี defect ตัวรถ หรือปัญหาอื่น ๆ อะไรบ้างแล้วครับ จะได้สังเกตไว้
เพราะรถที่จะได้รับ เป็นรถที่ถ้าจองก็รับรถได้เลย
แต่มีข้อสังเกตดังนี้
....ไมล์วิ่งไปแล้ว 130 โล (เขาบอกรถมาส่งโดยขับมาจากระยอง - -)
....พื้นกระบะท้ายมีรอยขึดลงถึงเนื้อสี เหมือนวางของอะไรมา ขีดยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัด 3-4 เส้น
คือคุ้มเสี่ยงไหมครับนี่
ตามคลับเข้าไปอ่านบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ค่อนมีคนพูดเท่าไหร่ เพราะlส่วนใหญ่มีแต่ .....รอมาข้ามปีแต่ยังไม่ได้รถ - -"
สุดท้าย ส่วนเรื่องศูนย์ ขอเสี่ยงดวงครับ = =
คำถาม 4 ข้อเอง แต่กระทู้ยาวชะมัด -*- ...ขออภัยด้วยนะครับ
-
ESP TCS ไม่มีใน 2.2 ทั้ง 2 ยี่ห้อครับ แต่ตัวเตี้ยฟอร์ดมี ABS EBD ให้หมด ถุงลมคู่หน้าก็มี ตัวยกสูงผมไม่แน่ใจของมาสด้า
-
อยากได้ออฟชั่นครบ ต้องเล่นตัว 3.2 ครับ ;D
-
รู้สึกมาสด้าจะมีตัว 3.2 เกียร์ธรรมดา ราคาพอน่าคบด้วยนะครับ
-
BT-50 ครับ
ผมไว้ใจ เรื่องศูนย์บริการ และการแก้ไขปัญหา ของ Mazda มากกว่า Ford ครับ ศูนย์ดีๆมีมากกว่า เซอร์วิสหลังการขายก็แก้ปัญหาได้กระตือรือร้นมากกว่า
-
มาสด้า เกียร์ธรรมดา ครับ
-
สองเจ้านั้นเวลาทดสอบอัดตราสินเปืองอาจจะดูใกล้เคียงอีซูสุ แต่การใช้งานเพื่อการพานิจค่าน้ำมันต่างมากน่ะคับ พอดีที่บ้านออกฟอร์ดมาอีกคัน กินน้ำมันเยอะกว่าตัวอีซูสุ ddi 116แรงน่ะคับ เข้าข่ายแรงมากกินมากไม่เกี่ยวกับcc คับ ccน้อยไม่ได้หมายความว่าจะประหยัดกว่า terboมันทำแรงได้ทุกอย่างคับ
ผมว่า ตัวddi กับวิโก้ตัวj(คันนี้ยืมจาก หจก ที่รู้จักกันใช้ชั่วคราว) ประหยัดมากคับ เพราะเวลาบรรทุกไม่มีความจะเป็นต้องงวิ่ง 150-170คับ
วิ่งไม่เกินร้อย120 บรรทุกของเต็มคัน ฟอร์ดกินมากๆ จนอยากขายแล้วว มันเหมาะขับโก้เอาเท่มากกว่า
-
แถมอีกนิดคับ ตัว2003ยังเป็นเครื่องรุ่นเก่าถ้าใช้ตัว 2006หรือ2007ขึึ้นไปจะเห็นความต่างคับ แรงเพียงพอคับ แตเสียงยังดังเหมือนเดิม
แต่เกียออโตไม่ได้ลองคับใช้แต่ธรรมดา
ทุกเส้นทางก่อนที่ผมจะให้เด็กเดินสายส่งของผมนั่งรถ วิ่งเองก่อน1รอบเพื่อคำนวนเรื่องงเวลากับน้ำมันก่อน หลังจากนั้นค่อยให้เด็กไป(ทำเพื่อควบคุมเรื่องเวลากับน้ำมันไม่สูญป่าว)
บรรทุก 1-1.5 ตัน วิ่ง120 2.2fordกินมากกว่า2.5isuzu ฟันธง แต่รุ่นใหม่ตัว 126แรงผมไม่รับว่าจะยังประหยัดอยู่มั้ย
-
เมื่อกี้นอกเรื่องไป(เซ็งกับตัวเองตัดสินใจพลาดค่าใช้จ่ายเพิ่มยิ่งน้ำมันแพงๆ)
ขอตอบตามคำถามคุณแทนคำขอโทดน่ะคับ ตอบตามประสบการณ์ที่เจอมาน่ะคับ
ข้อแรก ออโต เปลืองน้ำมันนี่จิงคับ ยิ่งเอามาบรรทุกยิ่งเปลื่อง เวลาบรรทุกหนักๆหน่อยแล้วเราเหยียบคันเร่งลึกหน่อยมันก็จะเปลี่ยนเกียรให้จนบางทีคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูงขนาดนี้เลย
ข้อสอง ลดได้คับแต่จะไม่คุ้มเอาเปลี่ยนเยอะคับ ส่วนการบรรทุกส่วนมากขึ้นอยู่กับแหนบคับ ผมเสริมเพิ่มคับจะยิ่งบรรทุกได้เยอะ ส่วนการโหลดผมไม่เคยเคยแต่เสริมหลังให้สูงหน่อยเวลาบรรทุกหน้าจะได้ไม่เชิด(อันนี้เด็กขอร้องมา โดนกะพิบไฟให้ตลอดการเดินทาง)
-
Ford Ranger !!!! 1 เสียง
-
ลองมองดู Navara มั๊ยหล่ะครับ
-
เอามาบรรทุกของ ขอยืนยันความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิมนะครับ
รถอย่าง BT50 กับ Ranger และ Triton ยกให้เป็นรถใช้ส่วนตัวดีกว่าครับ
หากจะเอามาทำพาณิชย์ บรรทุกหนักๆ ยังไงซะหันไปครบ navara หรือ D-max หรือ Vigo ดีกว่าครับ
ส่วนเกียร์แนะนำเกียร์ธรรมดาครับใช้ออโต้ไม่คุ้มเลยกับงานแบบนี้ยิ่งถ้าต้องลากรถขึนเขาบรรทุกสัก 1.5-2 ตันนี่
ไม่อยากคิดเลยว่าวันหน้าเกียร์จะเป็นยังไงบ้าง
-
เอามาบรรทุกของ ขอยืนยันความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิมนะครับ
รถอย่าง BT50 กับ Ranger และ Triton ยกให้เป็นรถใช้ส่วนตัวดีกว่าครับ
หากจะเอามาทำพาณิชย์ บรรทุกหนักๆ ยังไงซะหันไปครบ navara หรือ D-max หรือ Vigo ดีกว่าครับ
ส่วนเกียร์แนะนำเกียร์ธรรมดาครับใช้ออโต้ไม่คุ้มเลยกับงานแบบนี้ยิ่งถ้าต้องลากรถขึนเขาบรรทุกสัก 1.5-2 ตันนี่
ไม่อยากคิดเลยว่าวันหน้าเกียร์จะเป็นยังไงบ้าง
+1 ถูกเผง
-
ถ้าจะบรรทุกของหนัก ไปหา Navara เลยครับ แรงใช้ได้ และ Fram Chassis แข็งแกร่งสุดในตลาด
แต่ถ้าจะต้องเลือก Mazda กับ Ford
BT-50 3.2 เกียร์ธรรมดา คือ ตัวที่ผมว่าเวิร์กมากครับ
แต่อัตราสิ้นเปลืองนั้น ตัว AT จะประหยัดกว่านิดนึง
ทั้งคู่วิ่งได้ราวๆ 600 เกือบ 700 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 1 ถังแน่ๆ ขึ้นอยู่กับการขับของคุณ
เพราะผมลองมาแล้ว ใน Fleet Demo หลายคัน ทำได้ตามนี้
อีกอย่าง ผมไว้ใจศูนย์ Mazda มากกว่า Ford ถ้ามีปัญหา ส่งเรื่องมาให้ผมช่วยประสานงาน
ยังง่ายกว่า Ford เยอะครับ
-
นานๆบรรทุกทีก็ BT50 ครับแต่ถ้า บรรทุกเป็นประจำก็ navara(บรรทุกหนัก) d-max(บรรทุกของเบา)
-
BT-50 ทั้งสวย แต่หล่อสู้ ฟอร์ด ไม่ได้ แต่ไฟท้ายเด่นสวยที่สุดเลย เวลาจอดเรียงกับ ยี่ห้ออื่น
555+
-
ไม่ค่อยนิยมเอารถเกียร์ AUTO ไปวิ่งในไร่ในสวนกันเท่าไร เพราะสปีดอัตราเร่งสู้เกียร์ MANUAL ไม่ได้ในไร่ในสวนสภาพการขับเคลื่อนต้องการการสปีดการกระชากเป็นบางครั้ง
รถสูงสามรถเอามารดความสูงได้ ที่เรียกว่าโหลดเตี้ยมีร้านรับทำหลายแห่ง แต่คิดว่ายังไงก็ไม่เหมาะตามเห๖ผลข้างต้น
ฟอร์ดสมัยนี้สวยสูงกว้างใหญ่ออกตัวหลังติดเบาะแรงสุดๆ
มาสด้า BT 50 ก็สวยกว้างใหญ่ ภายในสะอาดตาดี สปีดออกตัวดี
จากเหตุผลที่ต้องการใช้งาน ส่วนตัวเลือกวีโก้แชมป์ 2.7 Cng เหมาะสมทั้งปวง แข็งแรง กำลังดี อัตราเร่งดี
ประหยัดสุดๆ เหมาะที่จะเอาไปวิ่งในไร่ในสวนเลยครับ ถังก๊าซอยู่บนกระบะปลอดภัยจากการกระแทกและลุยน้ำ
-
ถ้าใช้งานจริงๆก็เล่น ฟอรด์ไปเถอะครับ เค้าแข็งจริง แรงโอเคเลย ช่วงล่างไม่ต้องพูดถึงดีเยี่ยมกว่าค่ายอื่น แต่ทำใจแล้วกันไม่ช่รถตลาด จะเสียจะซ่อม จะขายต่อ ทุกอยากเลวร้ายไปหมด ทำใจเนอะ เมืองไทยส่วนตัวผม ว่า วีโก้ กับ Dmax ไว้ใจได้สุดครับ
-
ขอบคุณมากกับทุกคำตอบครับ
ณ.ตอนนี้คงเป็น Ford ค่อนข้างแน่แล้วละครับ
ข้อเสียทั้งเรื่องศูนย์ และอะไหล่ ก็ทำใจไว้บ้างแล้ว
ส่วนราคาขายต่อไม่ซีเรียสนักครับ
ขอแค่มีอะไหล่ซ่อม-เปลี่ยนได้ เรื่องขาย คงใช้อีกนานจนคุ้มละครับ
เหลือแค่เรื่องกินน้ำมันเนี่ยแหละ หวังว่าคงกินแบบไม่แย่กว่าคันเก่าก็ยังพอทนละครับ T-T
-
ถ้าได้ ford มาแล้ว จัดรีวิวการใช้งานให้ด้วยครับ
-
น้องข้างบ้านไปจองวีโก้แชมป์ 2.7 Cng ตัวตอนเดียวเอามาทำรถสองแถววิ่งรับผู้โดยสารสาย พระประแดง-สำโรง
วิ่งลุยน้ำตลอดปีเพราะน้ำขึ้นทีไรท่วมทุกที เลยลงตัวที่ตัวนี้แหละ คำนวนแล้วคุ้มแน่
-
อึดทน รถตลาด รถพันธุ์ข้าวเหนียว เล่นไอโก้ไป กับพี่อิซูสุ
สวย สด BT50, Ranger