Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: massyy ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 02:59:39

หัวข้อ: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: massyy ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 02:59:39
ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: chean ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 03:39:34
พูดยาก !!!
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 05:04:02
มันอธิบายยากอ่ะครับ
ผมเองก็ใช้ ดีเซล 2200 เหมือนกัน แต่เป็นรถเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทุกประมาณ 1000 เหมือนกัน วิ่งประมาณ  100 120 เหมื่อนกัน ยังมี 13-14 กม ลิตร โผ่ลเลยครับ
ผมว่า มันอยู่ที่คนขับนะครับ กดหนักไปหรือเปล่า ???
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: BestHuafoo ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 05:23:23

ปัญหาคือ เครื่อง 2.2 ที่ว่านั้น ดันแบบน้ำหนักรถเปล่ามากกว่าชาวบ้านชาวช่องเขานี่แหล่ะครับ

ไม่ใช่แค่ 40-50 โล ล่อกันเป็น 100-200 โลเลยทีเดียว


ว่าแต่คุณใช้ 2.2 ของรถสัญชาติอินเดียหรือสัญชาติลูกครึ่งญี่ปุ่นเมกาล่ะครับ  ???
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: [J]e[w] ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 06:33:58
T6 หรือ TATA ?

มีeco  ฟอร์ดแน่ๆเลย ย่ี่ห้อนี้ต้องทำใจเรื่องประหยัดนิดนึงนะครับ ผมขับยังไงก็สู้อีผุผุไม่ได้ แต่ก็แลกมาด้วยความเทห์และช่วงล่างที่ดกว่าครับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: massyy ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 07:02:21
รถสัญชาตเมกาคับ  กดเท่าๆกันกับยี่ห้ออื่น เพราะเอาไปวิ่งตามกัน ลองสลับคนขับแล้วด้วยก็ไม่ต่างกินเหมือนเดิม ที่บอกบรรทุกก็บรรทุกเท่าๆกัน
ช่วงล่างนี้ผมไม่เอามาเปรียบเทียบกันน่ะคับ เพราะเสริมแหนบทำช่วงล่างไว้บรรทุกหมดคับ
ผมคิดว่ารถคันนี้ไม่เหมาะกับการพานิจคับ

มาแชรประสบการณ์คับ อย่าซีเรียสกันน่ะคับ ข้อความที่ผมพิมไปทำให้ผิดใจใครก็ขออภัยด้วยคับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: BaSkInElItEgUyS ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 07:28:48
ก็ยังไม่เคยเห็นฟอร์ดรุ่นไหนทีป่ระหยัดจริงจัง นอกจาก น้องกัส TDCi นะครับ  :( :( :( :( :( :(
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 07:35:36
อาผมทำธุรกิจขนสิ่งก่อสร้าง เล่นกับรถกระบะหลายๆยี่ห้อ

อาผมบอกว่า รถกระบะ วิ่งตัวเปล่าแล้วมาวัดอัตราเร่งกัน ไม่ได้แสดงถึงสมรรถนะอะไรเลย
รถใหม่ๆ เทคโนโลยีดีๆ ทำอัตราเร่งได้ดี
พอจับบรรทุกซัก 1-2 ตัน วิ่งดีหรือไม่ดี จะดูที่ตรงนั้นล่ะ

วีโก้ 2.5 I/C เทอร์โบธรรมดาๆ บรรทุก 2 ตัน วิ่งขึ้นเขาสบายๆ
วิ่งตัวเปล่าทำอัตราเร่งได้ห่วยกว่าคู่แข่ง แต่พอบรรทุก แรงตกไม่มาก

ทุกวันนี้ ถามคนเชียงราย คนแม่ฮ่องสอนว่าทำไมถึงใช้ดีแม๊กซ์ วีโก้
เค้าบอกว่า ถ้าวิ่งรถเปล่า เจ้าอื่นๆก็ทำได้ดี เผลอวิ่งดีกว่าไอ้โก้ไอ้แม๊กซ์อีก
แต่พอบรรทุกเท่านั้นล่ะ ไอ้โก้ไอ้แม๊กซ์แรงไม่ตกเลย

ยอมรับว่า 4 ประตู ขนไม่เยอะ เจ้าอื่นทำได้ดี ขับสนุก
แต่ใช้ในเชิงพาณิชน์ กับคนขับมือเก๋า มันคนล่ะเรื่องกัน
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: dewz ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 07:36:51
ecoboost 1.6 คงพอๆกับ S60 1.6 DRIVe ครับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 07:55:21
พูดยากครับ เพราะผมไม่เคยใช้รถบรรทุกหนักๆเลยๆ มีกระบะก็วิ่งกระบะปล่าวๆตลอด นานๆปีละครั้งสองครั้งได้บรรทุกแต่ก็ไม่เคยถึงตันซักที
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: nouiii_1 ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 08:09:06
เอ้ออ รู้แล้วว่าทำมัย แถวเชียงใหม่ เชียงราย ถึงมีแต่ Vigo 3000 cc. อย่างงี้นี่เอง ;D
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: myalexxp ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 08:18:54
อาผมทำธุรกิจขนสิ่งก่อสร้าง เล่นกับรถกระบะหลายๆยี่ห้อ

อาผมบอกว่า รถกระบะ วิ่งตัวเปล่าแล้วมาวัดอัตราเร่งกัน ไม่ได้แสดงถึงสมรรถนะอะไรเลย
รถใหม่ๆ เทคโนโลยีดีๆ ทำอัตราเร่งได้ดี
พอจับบรรทุกซัก 1-2 ตัน วิ่งดีหรือไม่ดี จะดูที่ตรงนั้นล่ะ

วีโก้ 2.5 I/C เทอร์โบธรรมดาๆ บรรทุก 2 ตัน วิ่งขึ้นเขาสบายๆ
วิ่งตัวเปล่าทำอัตราเร่งได้ห่วยกว่าคู่แข่ง แต่พอบรรทุก แรงตกไม่มาก

ทุกวันนี้ ถามคนเชียงราย คนแม่ฮ่องสอนว่าทำไมถึงใช้ดีแม๊กซ์ วีโก้
เค้าบอกว่า ถ้าวิ่งรถเปล่า เจ้าอื่นๆก็ทำได้ดี เผลอวิ่งดีกว่าไอ้โก้ไอ้แม๊กซ์อีก
แต่พอบรรทุกเท่านั้นล่ะ ไอ้โก้ไอ้แม๊กซ์แรงไม่ตกเลย

ยอมรับว่า 4 ประตู ขนไม่เยอะ เจ้าอื่นทำได้ดี ขับสนุก
แต่ใช้ในเชิงพาณิชน์ กับคนขับมือเก๋า มันคนล่ะเรื่องกัน

แน่นอนที่สุดครับ

ถ้าทางเรียบ มี นาวาร่า+ไทรทัน พอได้เห็นอยู่บ้าง

ทางขึ้นเขา ดีแมกกะวีโก้ เอาไปกินครับ

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: mewzabahl ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 09:21:23
บรรทุก1.5ตัน +ทางขึ้นเขาลงเขา  ถ้าขับสบายๆ เล่น โก้ แม็ก 3.0 ดีกว่าครับ  เครื่องจะไม่ต้องออกแรงมาก      ที่บ้านใช้ โก้ 3.0  กับ โก้เบนซิล2.7   บรรทุกๆพอๆกัน ออกตัว โก้3.0 แทบไม่ต้องเลี้ยงครัชเลย   ส่วนเบนซิล เลี้ยงครัชไปเกือบหน้าประตูบ้าน ถึงจะมีแรงครับ  :D
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: joeyote ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 09:23:54
ผมไม่ได้ เยินยอ อะไรนะครับ

แต่รถเพื่อการพานิชเนี่ยย  ยังไง ก็ Isuzu ครับ

ทนกว่า ประหยัดกว่า
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: beerrl ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 09:31:34
ใน case นี้ผมจะบอกว่า การใช้รถ ต้องดูว่าเราเอาไปใช้งานอะไร
อย่างกรณีที่ต้องบรรทุกหนัก ขับขึ้นเขาลงเนิน ขับทางนอกเมือง ขับเครื่องใหญ่ได้เปรียบกว่าแน่นอนครับ
ทั้งกำลังดีกว่า รอบเครื่องต่ำกว่า ประหยัดกว่า วิ่งทางยาวถนอนเครื่องมากกว่า
(แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ารถขับดีขึ้น เหยียบมันกว่า เลยขับเร็วขึ้น เลยกินมากขึ้น?)

ถ้าในกรณีเดียวกันถ้าเอามาขับในเมือง รถติดๆ เครื่องใหญ่ ย่อมกินมากกว่า เครื่องเล็กก็เหมาะกว่าครับ

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: saransaran ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 09:53:17
กรณีของ T-6 นี่ กินทั้งในเมือง นอกเมืองครับ สาเหตุก็คงเป็นเพราะน้ำหนักตัวมัน หนักกว่าชาวบ้านเยอะ คันใหญ่ แลกกับความเท่ห์
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: mayjazza ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 09:58:46
จริงๆส่วนตัว นะ ผมไม่ค่อยชอบ รถ ซีซี น้อย แล้วไปเค้น เอาม้า เอาแรงบิด มากๆ...
...ผมว่ามัน ทำให้เปลือง เชื้อเพลิงมากขึ้น แล้วเวลาวิ่ง ยาวๆ แล้วเหมือนอาการ มันตื้อๆ ไงไม่รู้
...ที่ บ้าน ขนาด vigo prerunner 2.5vg 4 ประตู วิ่งรถ เปล่า ก็ วิ่งดี นะ พอบรรทุก สัก500 โล วิ่งแทบไม่ออกเลย
...เทียบกับ d-max hilander 3.0 คันเก่า อีกคัน รุ่นแรกๆ ยังไม่ใช่ iteQ นะ บรรทุกพอๆกัน แรงมันยัง มีเหลือๆ อีกอย่าง ใช้รอบได้ต่ำกว่า ถ้าวิ่งยาวๆ ประหยัดกว่า พอควร อันนี้จริงๆ ตอนนี้รถที่บ้านทั้ง2คันยังใชังานอยู่
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: MandM ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 09:59:08
อย่างนี้รถกระบะเจ้าตลาดก็ยังคงทำรถตอบโจทย์ความเป็น "กระบะ" ได้ดีกว่ายี้ห้ออื่นอยู่ดี
มิน่าผมสงสัยว่าอีซูซุยังใช้เครื่อง 3.0 เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เจ้าอื่น dowsizing กันหมด
รอดูน้อง วีโก้ใหม่ละกันว่าจะมาไม้ไหน
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: tspeed ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 10:01:43
ตามความคิดผมนะ
ถ้าเป็น ค่าย F และก็ M ที่ใช้เครื่อง 2.2
เครื่องรุ่นใหม่ ย่อมประหยัดกว่าเครื่องรุ่นเดิมครับ เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปครับ
   แต่....... ตัวถังรถรุ่นใหม่ ใหญ่ขึ้น ทำให้แบกน้ำหนักมากขึ้น

ผมมองว่า  
    รถรุ่นเก่า  CC เยอะกว่า(แรงม้าน้อยกว่า และกินน้ำมันกว่า เครื่องรุ่นใหม่) แต่ ตัวถังเล็กกว่า นน.ตัวถังเบากว่า
    รถรุ่นใหม่  CC น้อยกว่า (แรงม้าเยอะขึ้น กินน้ำมันน้อนกว่ารุ่นเก่า)  แต่ ตัวถังใหญ่ขึ้น  นน. ตัวถัง หนักกว่า

ดังนั้น จะเห็นว่า มันก็ไม่ได้กินน้ำมันแตกต่างกันมากหรอกครับ

แต่ถ้าจับเครื่องตัวใหม่ ยัดลงตัวถังรถรุ่นเก่า ผมว่า จะประหยัดน้ำมันกว่าชัดเจน แน่ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 10:20:37
เรียนเจ้าของกระทู้

1. ถ้าจะเขียนกระทู้ กรุณาระบุชื่อยี่ห้อไปเลย ไม่ต้องมาใบ้ครับ
2. ถ้าแค่มาบ่น ผมว่า ไม่เวิร์กครับ
3. เติมน้ำมันเต็มถัง รถเดิมของคณ ถังน้ำมัน แค่ 70 ลิตร แต่เจ้าตัวใหม่มัน 80 ลิตร
ดังนั้น ตอนเติมเต็มถัง ย่อมแพงกว่า ก็ถูกแล้วครับ

4. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตัวเปล่าๆ วิ่ง 110 เปิดแอร์ นั่ง 2 คน
ทั้ง BT-50 PRO และ Ranger ทำได้แถวๆ ตั้งแต่ 11 - 12.8 กิโลเมตร/ลิตรครับ
ไม่มีทางดีไปกว่านี้

แต่น้ำมัน 1 ถัง คุณจะแล่นได้ราวๆ 600 - 700 กิโลเมตรได้แน่ๆ
เพราะ ผมลองมาแล้วกับตัวเอง

ดังนั้น ต้องถามว่า คุณบรรทุกอะไร ขับอย่างไร เหยียบแค่ไหน แบกอะไร

อย่าเห็นแก่ ความจุกระบอกสูบต่ำกว่าแล้วจะประหยัดเสมอไป

ส่วน triton 2.5 ลิตร 116 แรงม้า หนะ ความจริงที่คนไม่รู้คือ ถ้าไม่นับ Isuzu ที่เรายังไม่มีโอกาสทำรีวิวแล้ว
อัตราสิ้นเปลือง ดีสุดในตลาด คือ 15.1 - 15.6 กิโลเมตร/ลิตร
แต่น้ำมัน 1 ถัง ก็แล่นได้ไกลพอกันกับเจ้าตลาดนั่นละครับ เพราะถังมันจุได้น้อยกว่า

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 10:21:57
ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: valent ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 10:56:40
เอาไปบรรทุกเป็นหลัก ก็ต้องเอาเครื่องใหญ่หน่อยครับ
เครื่องใหญ่เปลืองน้ำมันตอนรถเปล่า แต่ประหยัดมากกว่าตอนรถหนัก
เครื่องเล็กๆ เน้นเอาไว้ขับเท่ห์ๆ นานๆ บรรทุกที แบบนี้พอไหว
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: shoojai ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:08:25
ผมตอบแบบไม่มีความรู้ใดๆ ขอสรุปให้ท่านฟังว่า

ที่ท่านเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์เล็ก แล้วจะประหยัดกว่า "ท่านกำลังคิดผิดครับ"
เพราะท่านแบกของหนักมาก เครื่องเล็กมันก็ยิ่งต้องเรียกกำลังมากครับหลักการง่ายๆเลยครับ

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: chean ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:35:59
บรรทุกฮิตๆ ยังไงก็ต้อง toyota กับ isuzu สองแบนด์นี้เครื่องมันทนจริงๆ

แต่ถ้าที่ใช้งานอยู่ แล้วคัชซียังไม่หัก  ยังไงก็ต้อง navara มันแข็งมาก



หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: YF-19 ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:36:32
ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ไม่เห็นจะเป็นการดิสเครดิตตรงไหน

เจ้าของกระทู้ เองได้ทดสอบแล้ว ว่าวิ่งตามกัน และ เปลี่ยนคนขับ แล้ว ฟอร์ดก็ยังกินน้ำมันมากกว่าซึ่งก็ชัดเจนแล้ว

การขับรถสองคันไปด้วยกัน คันนึงเติมมากกว่า ก็แสดงว่ากินกว่า ชัดเจนนะครับ

มันคนละกรณีกับขนาดถังน้ำมัน ที่เติม 70 ลิตร 80 ลิตร เด็กต้องโทรขอเติมเพิ่ม ส่วนต่างอันนั้นเข้าใจเป็นปกติ ถังใหญ่ขึ้นเติมมากขึ้น

ส่วนการขับ เจ้าของกระทู้ก็แจ้งแล้วว่า บรรทุกหนัก 1-1.5 ตัน ขึ้นเขาตลอด  เครื่องเล็กกว่าจะต้องเค้นมากกว่าเครื่องใหญ่ ผมว่ามันก็ปกติ

ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ  "การเอาประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังจากการใช้จริง โดยที่ไม่ตรงกับคุณจิมมี่ มันเป็นความผิดหรืออย่างไรครับ"

ก็เค้าใช้แล้วมัน ไ่ม่ประหยัด มันก็เท่านั้น คนอื่นจะใช้แล้วเป็นยังไง ก็ไม่แปลก เพราะการใช้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่ถ้ามี คนที่ใช้งานแบบเจ้าของกระทู้ เข้ามาคุยแบบนี้ อีกซัก 2-3 คน ว่าเครื่อง2.2 ไม่ประหยัดเวลาขนของ  จะเชื่อได้ไหมครับ

หรือจะบอกว่า ที่พูดมา 3-4 คน ขับรถผิด  ???

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:44:32
ที่แน่ๆผมพิสูจน์เองแล้วว่า  2.5 TDCI ตัวเก่า ประหยัดกว่า 2.2 TDCI ตัวใหม่แน่นอน

โดยที่น้ำหนักของทั้งสองรุ่นพอๆกันเลย..

Everest หนัก 1.9 ตัน  กับ เรนเจอร์ หนัก 1.9 หนักพอกันเลย..
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:57:55
ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ไม่เห็นจะเป็นการดิสเครดิตตรงไหน

เจ้าของกระทู้ เองได้ทดสอบแล้ว ว่าวิ่งตามกัน และ เปลี่ยนคนขับ แล้ว ฟอร์ดก็ยังกินน้ำมันมากกว่าซึ่งก็ชัดเจนแล้ว

การขับรถสองคันไปด้วยกัน คันนึงเติมมากกว่า ก็แสดงว่ากินกว่า ชัดเจนนะครับ

มันคนละกรณีกับขนาดถังน้ำมัน ที่เติม 70 ลิตร 80 ลิตร เด็กต้องโทรขอเติมเพิ่ม ส่วนต่างอันนั้นเข้าใจเป็นปกติ ถังใหญ่ขึ้นเติมมากขึ้น

ส่วนการขับ เจ้าของกระทู้ก็แจ้งแล้วว่า บรรทุกหนัก 1-1.5 ตัน ขึ้นเขาตลอด  เครื่องเล็กกว่าจะต้องเค้นมากกว่าเครื่องใหญ่ ผมว่ามันก็ปกติ

ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ  "การเอาประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังจากการใช้จริง โดยที่ไม่ตรงกับคุณจิมมี่ มันเป็นความผิดหรืออย่างไรครับ"

ก็เค้าใช้แล้วมัน ไ่ม่ประหยัด มันก็เท่านั้น คนอื่นจะใช้แล้วเป็นยังไง ก็ไม่แปลก เพราะการใช้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่ถ้ามี คนที่ใช้งานแบบเจ้าของกระทู้ เข้ามาคุยแบบนี้ อีกซัก 2-3 คน ว่าเครื่อง2.2 ไม่ประหยัดเวลาขนของ  จะเชื่อได้ไหมครับ

หรือจะบอกว่า ที่พูดมา 3-4 คน ขับรถผิด  ???



วิเคราะห์เจาะลึกอย่างมีเหตุผล
ตัวตอนเดียว ตัวแคบ ตัวยกสูง ตัว4ประตู การกินน้ำมันแตกต่างกันไปตามสเต็บ
นิทั่น จขกท. ทั่นเอาตัวไหนมาขนของให้ลูกน้องขับ คิดว่าตอนเดียวคงจะประหยัดที่สุด แต่ยังไมมีขายเลย
หรือทั่นจะเอาตัวแค็บ มาทำพานิชย์ ก็สมควรหละเตรียมเจ๊งเลย

แต่ถ้าทั่นใช้ส่วนตัวจะเชื่อ นี่ถึงกับมีลูกน้องไม่ใช่แล้ว ก็แค่นั้น
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Tern vtec ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 11:59:47
ผมว่าการกินน้ำมันไม่เกี่ยวกับแบรนด์เลยอยู่ที่cc.ของรถคันนั้นมากกว่าเพราะลองสังเกตุดูทำไม2.2ไม่บรรทุกก็กินน้ำมันปกติ ถ้าจะเน้นบรรทุกยิ่งขึ้นเขาด้วยเน้นcc.เยอะดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:01:12
เครื่องเล็กวิ่งรถเปล่ามันก็น่าจะโอเคของมันละครับ ถ้าบรรทุกเยอะขนาดนี้ต้องลากรอบสูงกว่าเดินก็กินน้ำมันมากกว่าเดิม เป็นเรื่องปกติละครับ

ทำไมไม่ซื้อตัว 3.2 มาขับละครับ  ;D


ว่าแต่ซื้อรุ่นไหนไปขนของครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: loading ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:04:48
ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ไม่เห็นจะเป็นการดิสเครดิตตรงไหน

เจ้าของกระทู้ เองได้ทดสอบแล้ว ว่าวิ่งตามกัน และ เปลี่ยนคนขับ แล้ว ฟอร์ดก็ยังกินน้ำมันมากกว่าซึ่งก็ชัดเจนแล้ว

การขับรถสองคันไปด้วยกัน คันนึงเติมมากกว่า ก็แสดงว่ากินกว่า ชัดเจนนะครับ

มันคนละกรณีกับขนาดถังน้ำมัน ที่เติม 70 ลิตร 80 ลิตร เด็กต้องโทรขอเติมเพิ่ม ส่วนต่างอันนั้นเข้าใจเป็นปกติ ถังใหญ่ขึ้นเติมมากขึ้น

ส่วนการขับ เจ้าของกระทู้ก็แจ้งแล้วว่า บรรทุกหนัก 1-1.5 ตัน ขึ้นเขาตลอด  เครื่องเล็กกว่าจะต้องเค้นมากกว่าเครื่องใหญ่ ผมว่ามันก็ปกติ

ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ  "การเอาประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังจากการใช้จริง โดยที่ไม่ตรงกับคุณจิมมี่ มันเป็นความผิดหรืออย่างไรครับ"

ก็เค้าใช้แล้วมัน ไ่ม่ประหยัด มันก็เท่านั้น คนอื่นจะใช้แล้วเป็นยังไง ก็ไม่แปลก เพราะการใช้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่ถ้ามี คนที่ใช้งานแบบเจ้าของกระทู้ เข้ามาคุยแบบนี้ อีกซัก 2-3 คน ว่าเครื่อง2.2 ไม่ประหยัดเวลาขนของ  จะเชื่อได้ไหมครับ

หรือจะบอกว่า ที่พูดมา 3-4 คน ขับรถผิด  ???



ก็จริงนะครับในเมื่อถังใหญ่ขึ้น จุได้ตั้ง 80 ลิตร แต่ยังต้องโทรมาขอเงินเติมน้ำมันเพิ่ม แสดงว่าพี่แกซดกว่าคันที่ใช้ก่อนหน้านี้
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:07:18
เอาตัวแค็ปมาบรรทุกรึท่าน  :o

ให้ผมวิเคราะห์แบบประหลาดๆหน่อยไหม

เท่าที่มสังเกต ดีเซลยุคหลังมา  แทบไม่มีค่ายใดที่ประหยัดขึ้นเท่าไหร่เลย  

มังกรทอง กับ All-new D-MAX  สังเกตว่าวิ่งยาวๆไม่กระทืบคันเร่ง มันก็จะประหยัดพอๆกัน

แต่เทคโนโลยีห่างกันหลายขุม   เพราะอะไร ลองเอาเครื่อง AN D-MAX ไปใส่บอดี้มังกรทอง รับรองขับกันได้ แถว 19-20 สบาย เพราะบอดี้หนักน้อยกว่ากันมากโขทีเดียวเชียว  

วกกลับมาค่ายฟอร์ด&แฝดมาสด้า    

เครื่องคอมมอนเรล ตัวก่อน(ที่เอาบล็อคเดิมเป็น 20 ปีมาปรับปรุงใส่รางเข้าไป)  ก็ยังแบกน้ำหนักบอดี้น้อยกว่า ลองกลับกันเอา คอมPuma ไปใส่บอดี้ตัวเดิม

กินน้อยลงแน่ๆ เพราะบอดี้เล็กกว่า   สรุปทั้ง เรนเจอร์เก่า และ ใหม่  มันกินน้ำมันพอๆกัน  (เรนเจอร์ ก่อนคอมตัวไม่มีเทอร์โบก็กินพอกัน)

เห็นไหมว่ามันกินไม่ต่างกันที่ต่างกัน คือ อัตราเร่ง ความเร็วสูงสุด ความเงียบ ความปลอดภัย

ผมว่าแนวทางการสร้างรถ ดูเครื่องแล้วลองเพิ่มน้ำหนักดูว่ากินมากกว่าเดิมไหม  แบกน้ำหนักได้เท่าไหร่จึงกินเท่าเดิม  แล้วค่อยตกแต่รถ  

ส่วนที่คุณ เย็นชาบอก นั้น ว่าทำไมยี่ห้อนี้ขึ้นเขาดี แบบดีไม่ดี คุณมีรถหลายคัน ลองเปิดดูการเดินของท่ออากาศแต่ละค่ายครับ

ค่อยๆไล่ไป ว่าทำไม  ความยาวขนาด เทอร์โบ  แล้วจะรู้ว่าทำไม โก้แรงบิดมารอบต่ำมาก และหมดไวมาก  และทำไม ISuzu แรงม้า แรงบิด เครื่องถึง

ยังด้อยกว่าชาวบ้านเขา  ทำไม นาวาร่า ฟอร์ด มิตซู เร่งรอบแล้วสนุกคล้ายเบนซิน จุดประสงค์มันต่างกันครับ

ท่านต้องลองดูแล้วชม ตั้งสมมุติฐานเอาเอง  

แล้วก็เหมือนที่หลายท่านว่าไว้  ท่านเอาเครื่องเล็กมาลากของหนักมันไม่ประหยัดกว่าเครื่องใหญ่ลากของหนักหรอกครับ  อันนี้คนเล่นรถก็รู้กันอยู่แล้ว





หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:21:37
อันนี้ผู้บริโภคควรรู้ด้วยว่าเอามาทำอะไร ใช้อะไร?

ปล.ถ้าตัวTEST DRIVE มีให้ลอง LOAD น้ำหนักสัก 1-2ตันน่าจะเห็นชัดก่อนซื้อ (คงไม่มีใครทำ)
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:26:43
รถบรรทุกของสำคัญที่แรงบิท แรงบิทมากก็ลากจูงได้มาก
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: wut get real ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:51:10
ท่าน จขกท บอกรายละเอียดไม่ชัดเจนนะครับ ยี่ห้อ รุ่น ไหนอะไร  ::)
รุ่นมีแค๊ปก็บรรทุกเพื่อการพานิชย์ได้นะครับไม่แปลกนะ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: banch ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 12:56:06
ผมวิ่งตัวเปล่ายังไม่ประหยัดเลยครับ 2.2 DBL Hi AT ;D

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: BestHuafoo ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 13:03:49
ผมว่า จขกท. ต้องกลับมาตอบให้เคลียร์อีกครั้งครับ

เรื่องถังน้ำมัน วีโก้ 76 ลิตร ฟอร์ด 80 ลิตร เติมกลับคงไม่ต่างกันมาก

แต่ที่แน่ๆ สำหรับผมแล้ว น้ำหนักรถเปล่า วีโก้รุ่น2.5 Cab อยู่แถวๆ 1540-1560
ในขณะที่ BT กับ Ranger แคป น้ำหนักรถไม่เปิดเผยในเวป แตพอจำในโบชัวร์ได้ว่าแถวๆ
1600-1700 กิโล ซึ่งเดิมก็หนักอยู่แล้ว พอบรรทุกด้วยยิ่งเป็นภาระเข้าไปอีก

ผมเชื่อแบบนั้นนะ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: diefun ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 13:07:08
ขอบคุณ ที่เอาประสบการณ์ที่ใช้งานจริงมาเล่าให้ฟังครับ

จะเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 13:15:42
แล้วจะทำ 2.2 มาทำไมหนอ ไม่ทำ 2.5 กับ 3.0 เหมือนเดินหน่ะดีแล้ว
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Panda_GuY ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 13:27:49
เครื่อง 3.0 cc น่าจะดีกว่านะครับ แบกหนักขึ้นเขาบ่อยด้วย
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: boykung ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 13:37:34
ที่บริษัทมี isuzu dragon eye กับ isuzu super platinum

จับบรรทุกเท่ากัน ของที่ใช้บรรทุกภายในเหมือนกัน หนัก1.5ตัน ตัวรถตีตู้หลังคาเหล็กสูง วัดจากพื้นได้ระยะ 2.8เมตร ถูกต้องตามกฏหมาย

วิ่งระยะทางเดียวกัน เส้นทางเดียวกัน คนขับคนเดียวกันคือผม ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 90กิโล/ชั่วโมง

สรุปได้ว่า dragon eye ประหยัดกว่าที่ 14โล+/ลิตร
ส่วน super platinum ได้ที่10โลนิดๆๆ/ลิตร

ทำให้เกิดความสงสัยว่า รถรุ่นใหม่ โอเคใหญ่ขึ้น หนักขึ้น แต่เครื่องก็ดีขึ้น ใหม่ขึ้น ม้ามากขึ้น บิดมากขึ้น ตัวเลขความประหยัดน่าจะได้พอๆกับตัวเก่าที่ ตัวรถเบากว่า แต่เครื่องก็รุ่นเก่า แรงม้าก็น้อยยังกะecocar แรงบิดก็น้อย แต่บรรทุกหนักเท่ากัน ไม่น่าจะความประหยัดต่างกันขนาดนี้นะ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Nyquist ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 13:43:26
รถขนของเค้าก็ใช้เครื่อง 2.5 กันทั้งนั้นแหละ (3.0 มีน้อย)
ที่บ้านผมก็ใช้เครื่อง 2.5 ทุกของตันกว่าๆ
ถ้าไม่เชื่อ ว่างๆก็ลองไปเดินๆดูพวกรถกะบะที่ใช้ขนของดูคับ ไม่ค่อยมี 3.0 หรอก
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: massyy ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 15:09:12
ขอตอบรวมๆเลยล่ะกันน่ะคับ ปกติแถวเหนือใช้ตัวแคปบรรทุกน่ะคับ มีส่วนน้อยน่ะคับที่ไม่ใช่แคป เพราะอะไรมีโอกาสคุณลองไปถามดูน่ะคับ
ส่วนเรื่องถังน้ำมันที่ใหญกว่ากันน่ะคับ ถ้ามัรไฟโชวให้เติมตอนเติมมันจะพอๆกันส่วนมากผมใช้วิธีเติมเต็มทุกคั้งแล้วมาหารค่าใช้จ่าย
เน้นน่ะคับ คับผมเอามาบรรทุกน่ะคับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 15:11:01
ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร

คนที่เค้าซื้อมาใช้บรรทุก ใช่ว่าจะต้องซื้อตอนเดียวเสมอไป
เพราะพวกรถลาก-ส่งของแถวบ้านผมเป็น Cab ทั้งนั้นเลยครับ ;)
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: mavin36 ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 15:19:06
ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร
ตอนเดียวมีนานแล้วครับ ที่สัตหีบ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 15:49:51
รถกระบะที่ผมเคยใช้ สรุปความประหยัดคร่าวได้ดังนี้

อีผุ รุ่น มังกรทอง สุดยอดประหยัด แต่เสียงเครื่องยนต์จะดังไปไหน

โตต้า รุ่น ไมตี้เอ็กซ์ รุ่นสูบน้ำมัน (เกินกว่าซด) วิ่งเกิน 130 ท้ายปลิว มีเสียวตูด

โตต้า รุ่น เหาะข้ามรถไฟ 3.0 L ประหยัดลงหน่อย วิ่งเกิน 140 สบาย หนึบ

โตต้า รุ่น เหาะข้ามรถไฟ - common rail ประหยัดที่สุด ตั้งแต่เคยขับมาของโตต้า

หลังจากนั้นก็ ขับเก๋งอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 16:08:14
ภาษีถูกกว่าแน่ๆ  ;) ;) ;)
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 17:01:04
ขอตอบในส่วนของรถแคปนะครับ

แถวบ้านผมตอนนี้เทรน แคปขนของก็มากกว่าแต่ก่อนแล้วครับ

ทำกรงเหล็กไปไว้บนหัวเก๋ง และสามารถบรรทุกได้เท่าๆกับตอนเดียว (ประมาณ 3.5-5 ตันแล้วแต่ความบ้าของคนขับ)

ทำไมถึงเปลี่ยนมาเป็นแคป เพราะความสบายกว่าครับ ตอนนี้ก็อายุเริ่มจะเยอะพุงเริ่มออกมีเงินมากขึ้น ตอนเดียวมันอึดอัดครับ

แถวบ้านผม อันดับ1 ยังเป็น nissan ครับ vigo triton d-max เห็นอยางละคัน แต่ nissan เห็นเยอะหน่อย มีทั้งเก่าและนาวาร่า

ส่วนเรื่อง 2.2 กินน้ำมันมากกว่า ผมว่า เพราะ นนตัวรถครับ เป็นผมของมองเจ้าตลาดละครับถ้าขนแค่ 1.5 ตัน

เพราะ น้ำมัน1 ถังวิ่งได้ 1,000กม แน่ๆ เพราะตัว 3.0 v-cross 1 ถังมีเหยีบบางประหยัดบางยังวิ่งได้ 800 ปลายๆเลย

เชื่อว่าตัว 2.5 ได้เกิน 1,000 แน่ๆ กลับไปเล่นเจ้าตลาดน่าจะโอกว่าเยอะเลยครั บ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: z4kas ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 18:19:48
กระทู้มาตอนจะซื้อรุ่นนี้พอดีเลย - -*

เอาเรื่องคุณจิมมี่ก่อน
- ผมเห็นคุณจิมมี่เขาเตือนนะครับ และใส่รายละเอียดมาว่า มันวิ่งได้เท่านั้นเท่านี้
ก็ไม่เห็นมีประโยคไหนที่แย้งว่ามันประหยัดนะ ถ้าอ่านดี ๆ ก็คือ มันก็เปลืองนะแหละ - -"

- ส่วนเรื่องแคป ตามนั้นครับ
ขนของสมัยนี้ ไม่ได้มองแต่ตัวถูกตอนเดียวอย่างเดียวแล้ว
แบบแคปมันให้ประโยชน์ที่หลากหลาย และสบายกว่า ในธุรกิจขนาดเล็ก ค่อนไปกลาง
แต่ถ้าขนาดใหญ่ หรือต้องขนมาก ๆ บ่อย ๆ จริง ๆ ก็เห็นเป็นตอนเดียวหมดนะ

- ส่วนเรื่อง ซีซี น้อย เอาไปแบกของ ......ผมกำลังจะเป็นหนูรายต่อไป - -*

แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังครับ หลังจากได้รถ และบรรทุกแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: tg ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 20:09:25
ผมว่าเรื่องเครื่องยนต์ยังไงFordหรือมาสด้า ก็จะกินน้ำมันมากกว่าเจ้าตลาดอยู่แล้วถึงซีซีจะน้อยกว่าก็ตาม แต่ในเรื่องของความแรงของรถอาจจะได้รถที่แรงกว่าเจ้าตลาดก็เป็นได้
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 20:40:46
กระบะใหม่จากการสังเกตดู  ออกตัวเกียร์ 1 เท่านั้นด้วยครับ ;)
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: joeyote ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 21:01:16
ขอตอบในส่วนของรถแคปนะครับ

แถวบ้านผมตอนนี้เทรน แคปขนของก็มากกว่าแต่ก่อนแล้วครับ

ทำกรงเหล็กไปไว้บนหัวเก๋ง และสามารถบรรทุกได้เท่าๆกับตอนเดียว (ประมาณ 3.5-5 ตันแล้วแต่ความบ้าของคนขับ)

ทำไมถึงเปลี่ยนมาเป็นแคป เพราะความสบายกว่าครับ ตอนนี้ก็อายุเริ่มจะเยอะพุงเริ่มออกมีเงินมากขึ้น ตอนเดียวมันอึดอัดครับ

แถวบ้านผม อันดับ1 ยังเป็น nissan ครับ vigo triton d-max เห็นอยางละคัน แต่ nissan เห็นเยอะหน่อย มีทั้งเก่าและนาวาร่า

ส่วนเรื่อง 2.2 กินน้ำมันมากกว่า ผมว่า เพราะ นนตัวรถครับ เป็นผมของมองเจ้าตลาดละครับถ้าขนแค่ 1.5 ตัน

เพราะ น้ำมัน1 ถังวิ่งได้ 1,000กม แน่ๆ เพราะตัว 3.0 v-cross 1 ถังมีเหยีบบางประหยัดบางยังวิ่งได้ 800 ปลายๆเลย

เชื่อว่าตัว 2.5 ได้เกิน 1,000 แน่ๆ กลับไปเล่นเจ้าตลาดน่าจะโอกว่าเยอะเลยครั บ

คริคริ ใช้ 2.5 VGS HR 4Dr ถังนึง ทะลุ 1000 โลจริงๆครับบ ประมาณ  1100-1200 วิ่ง 110 สบายๆ
เห็นแบบนี้ ไล่บี้พวก รถตู้บ้าพลัง กระจุยกระจาย
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 21:45:38

เรื่องนี้ก็ไม่ค่อยต่างจาก Vigo น้าผมเท่าไหร่ครับ
คือแม่ผมขับไปคืนน้า ผมเลยวัดอัตราสิ้นเปลือง(รุ่นที่ใช้คือ 2.5E PS 102 แรงม้าครับ)

ได้ 8.33 กม/ลิตรครับ(ถึงจะคลาดเคลื่อนก็น่าจะอยู่แถวๆ 8-11 km/l ครับ)
อาจเพราะเครื่องเล็กเกินไปสำหรับน้ำหนักที่มันจะต้องขับเคลื่อน

ลองเทียบกับคนดูเลยครับ ระหว่างคนตัวโต กับตัวเล็ก ให้ลากอะไรก็ได้หนักๆ ไปสัก 100 เมตร
คนตัวเล็ก ก็เปรียบเหมือนเครื่องยนต์เล็กๆ คือก็ลากไปได้นะ แต่สูญเสียพลังงานเยอะกว่าคนตัวโต  จึงบริโภคกลับเข้าไปมาก :)
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: archian ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 22:14:14
ถ้ามันมากมาย ....   ขายเลยครับ!!!
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: MandM ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 22:43:28
ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ไม่เห็นจะเป็นการดิสเครดิตตรงไหน

เจ้าของกระทู้ เองได้ทดสอบแล้ว ว่าวิ่งตามกัน และ เปลี่ยนคนขับ แล้ว ฟอร์ดก็ยังกินน้ำมันมากกว่าซึ่งก็ชัดเจนแล้ว

การขับรถสองคันไปด้วยกัน คันนึงเติมมากกว่า ก็แสดงว่ากินกว่า ชัดเจนนะครับ

มันคนละกรณีกับขนาดถังน้ำมัน ที่เติม 70 ลิตร 80 ลิตร เด็กต้องโทรขอเติมเพิ่ม ส่วนต่างอันนั้นเข้าใจเป็นปกติ ถังใหญ่ขึ้นเติมมากขึ้น

ส่วนการขับ เจ้าของกระทู้ก็แจ้งแล้วว่า บรรทุกหนัก 1-1.5 ตัน ขึ้นเขาตลอด  เครื่องเล็กกว่าจะต้องเค้นมากกว่าเครื่องใหญ่ ผมว่ามันก็ปกติ

ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ  "การเอาประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังจากการใช้จริง โดยที่ไม่ตรงกับคุณจิมมี่ มันเป็นความผิดหรืออย่างไรครับ"

ก็เค้าใช้แล้วมัน ไ่ม่ประหยัด มันก็เท่านั้น คนอื่นจะใช้แล้วเป็นยังไง ก็ไม่แปลก เพราะการใช้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่ถ้ามี คนที่ใช้งานแบบเจ้าของกระทู้ เข้ามาคุยแบบนี้ อีกซัก 2-3 คน ว่าเครื่อง2.2 ไม่ประหยัดเวลาขนของ  จะเชื่อได้ไหมครับ

หรือจะบอกว่า ที่พูดมา 3-4 คน ขับรถผิด  ???



วิเคราะห์เจาะลึกอย่างมีเหตุผล
ตัวตอนเดียว ตัวแคบ ตัวยกสูง ตัว4ประตู การกินน้ำมันแตกต่างกันไปตามสเต็บ
นิทั่น จขกท. ทั่นเอาตัวไหนมาขนของให้ลูกน้องขับ คิดว่าตอนเดียวคงจะประหยัดที่สุด แต่ยังไมมีขายเลย
หรือทั่นจะเอาตัวแค็บ มาทำพานิชย์ ก็สมควรหละเตรียมเจ๊งเลย

แต่ถ้าทั่นใช้ส่วนตัวจะเชื่อ นี่ถึงกับมีลูกน้องไม่ใช่แล้ว ก็แค่นั้น

มีหลายบริษัทที่เขาใช้แค็บเชิงพานิชย์ นะครับบ

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Chris Evn ที่ กรกฎาคม 06, 2012, 23:12:01
ผมใช้รถเพื่อขนสินค้าการเกษตรส่งเส้นทาง น่าน - เชียงใหม่ เป็นภูเขาส่วนมาก
ที่ใช้วิ่งอยู่มี isuzu ปี 08 กับ 09 สองคันนี้กับ triton ตัว ล่าง 2.5 หมดทุกตัว
พอเห็นโฆษณารถรุ่นใหม่ เครื่องเล้ก2.2  แต่แีรงเยอะ เกียเยอะ ประหยัดน้ำมัน เลยถอยมา1คัน
เส้นทางประจำคือ ไปกลับ น่าน เชียงใหม่ ระยะทางไปกลับประมาน 600โล บรรทุกประมาน1-1.5ตัน
ขากลับเด็กโทรมาบอกขอเติมน้ำมันเพิ่มน่ะคับ ก็คิดว่ารถใหม่เด็กคงเหยียบเล่น
ทั้งๆที่ ตัวเก่าๆ เติมไปที่ล่ะ 1ุึึ700(ที่น่านนำ้มันแพงกว่า กทม)   แต่ตัว 2.2 ซัดไป2000ถึงจะพอ วันไหนบรรทุกมากหน่อยก็ไม่พอ
จนช่วงหลัง มีโอกาสก็ต้องวิ่งส่งทีสองคันเลยลองให้วิ่งไปพร้อมๆวิ่งไวเท่าๆกัน ก็ยังเหมือนเดิม ลองสลับคนขับก็ยังเหมือนเดิม
สรุปแล้ว เครื่อง 2.2 ไม่ประหยัดตาม cc ที่เล้กลงเลย
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาทันทีเลย T T ผิดหวังมาก
แล้วแบบนี้รถเก๋ง ecoboot จะเหมือนกันมั้ยคับเครื่องเล้กแรงแต่กินน้ำมัน 
แบบนี้ไม่ผลิดเครื่องใหญ่ๆไปเลยล่ะคับจะได้มีแรงบิดเยอะๆ ไม่ต้องหวังพึ่งเทอโบมากกลัวอีกหน่อยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากกว่าเดิมอีก

แน่ใจนะไม่มาดิสเคดิต Ford ตอนเดียวยังไม่มีขายเลย ทั่นเอามาขนของได้อย่างไร

ยังไม่เห็นคำว่า ตอนเดียว เลย คุณคิดไปเอง
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: นครอัญมณี ที่ กรกฎาคม 07, 2012, 00:28:33
ISUZU เครื่อง  3,000 ปี 08-09
มี 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ มีแรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที

Triton เครื่อง 2,500 ตัวล่าง (ตัวแรก) 
มี 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ มีแรงบิด 247 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที

Ford เครื่อง  2,200 ล่าสุด
มี 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบ มีแรงบิด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที

TATA เครื่อง 2,200 ล่าสุด
มี 140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ มีแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-2,700 รอบต่อนาที


ดูจาก สเป็คข้างบนแล้ว พอคาดเดาได้
จากการวิ่งในลักษณะ ตัวรถเปล่า ว่า...ใครจะออกตัว หรือ เร่งแซงดีกว่ากัน

แต่..
ก็ไม่เสมอไปทั้งหมด เพราะ ต้องดูด้วยว่า แรงบิด แรงม้า นั้น จะหมดไปที่รอบเท่าใด

อีกทั้ง
ต้องคำนวณ อีกหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักบรรทุกรวม , อัตราทดเกียร์ ,ฯลฯ ด้วย อย่าดูแต่ แรงม้า แรงบิดอย่างเดียว ว่าใครมากจะชนะเสมอไป

ไม่เช่นนั้น....
รถกระบะที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้ ไม่มีทางวิ่งชนะรถทัวร์ หรือ รถ 10 ล้อได้แน่ๆ
เพราะ รถบรรทุกเหล่านั้น มีแรงม้ามากมาย มีแรงบิดมหาศาล กว่ารถกระบะที่กล่าวมา ทั้งนั้น
ที่เขาวิ่งได้ช้า เพราะ น้ำหนักตัวเขาเยอะ เกียร์มีมากกว่า 10 เกียร์ อัตราทดสั้นๆทั้งนั้น


และที่สำคัญที่สุด
ทางโรงงาน เขาไม่เคยบอกว่า ขณะที่ใช้กำลังเครื่องสูงสุด (เหยียบคันเร่งมิดด้าม)
รถแต่ละคันนั้น จะซดกินน้ำมัน โฮกฮาก ในปริมาณเท่าใด ในขณะช่วงเหยียบคันเร่งมิดด้ามนั้นๆ
ส่วนมาก ก็แจ้งเฉพาะค่าเฉลี่ย ตอนวิ่งด้วยความเร็วคงที่ ไม่ได้บรรทุกสิ่งของอะไร แทบทั้งสิ้น

ดังนั้น
ถ้าต้องเหยียบคันเร่งเยอะๆ ตอนแบกของบรรทุก ขึ้นเขา ยาวๆ
จะไปยึดถือเอาตัวเลขการกินน้ำมัน ตอนวิ่งทางเรียบ ไม่ได้บรรทุกสิ่งของ มาเปรียบเทียบไม่ได้เลยสักกะนิด


คุณจะรู้ซึ้ง ก็ต่อเมื่อ ได้ใช้งานไปสักเดือน
หลังจากนั้น ก็จะบอกต่อ แนวปากต่อปาก คีย์บอร์ดต่อคีย์บอร์ด ให้เป็นชื่อเสียงของรถรุ่นนั้นต่อไป


หลักสัจธรรม ที่พระสอน
ค่อยๆพิจารณา ด้วยตนเอง จากลักษณะการใช้งานที่ตนเองปฏิบัติอยู่ อย่าเพียงแค่ฟังโฆษณา แล้วเชื่อเลย

ข้อสังเกตุ
ISUZU KB เครื่อง 2,200 รุ่น 20 กว่าปีที่แล้ว มี 73 แรงม้า ก็วิ่งกินน้ำมันก็ประมาณ 14 - 15 กม/ ลิตร มีความเร็วสูงสุด140-150 เหมือนกันนะ (ตอนเป็นรถใหม่)
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ กรกฎาคม 07, 2012, 00:55:15
ต้องเข้าใจ ตัวเลขที่ได้มาจาก เทอร์โบ และ มาจากเครื่องล้วนๆด้วยนะครับ
ขับขึ้นเขา หรือบรรทุกหนักๆ ยังไงๆเครื่องใหญ่ก็ทำได้ดีกว่าครับ เพราะเทอร์โบมันทำงานได้ไม่เต็มที่ *-*

เพราะงั้นผมเชื่อครับว่าเครื่อง 2.2 ตัวนี้ ถ้าโหลดหนักๆ ไม่ว่าจะขึ้นเขา หรือบรรทุกหนัก สู้เครื่องที่ใหญ่กว่ายากแน่นอนครับ ไว้รถเปล่าค่อยว่ากัน *-*
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Pat007 ที่ กรกฎาคม 07, 2012, 12:52:55
ขอออกความเห็นหน่อยครับ

ถ้าอยากให้ประหยัดก็แนะนำให้หาลูกมาพ่วง รถแรงบิดมาก ลากได้ จะประหยัดกว่ามากมาย  ;)
หรือ ให้กล่องจูน แนะนำลดม้าลง และการตอบสนองให้ช้าลง ก็คงประหยัด  ;D
*ทำรถแรงขึ้น แล้วขับแบบเดิม รถแรงก็กินกว่าอยู่แล้ว

คิดง่ายๆ เลี้ยงม้ามาก ต้องกินเยอะ 150 ตัว กับ 116 ตัว จะให้กินเท่ากันเป็นไปไม่ได้ 
ถ้าแบบเก่าทำใด้ดีอยู่ แล้วและไม่คิดจะพ่วง การเปลี่ยนรถที่มีแรงม้าเพิ่ม และ แรงบิดที่มากว่าก็กินกว่าครับ

 ::)ม้ามากแรงบิดมากจะให้ขับแบบเดิมคงทำได้อยาก ถ้าไม่ใช่เจ้าของขับเอง

 :oประหยัดมากมาย CNG  ครับ แต่อาจจอดมากกว่าวิ่ง ทำรอบไม่ดี เสียเวลาเติ่มgas.
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ กรกฎาคม 07, 2012, 14:36:48
ขอออกความเห็นหน่อยครับ

ถ้าอยากให้ประหยัดก็แนะนำให้หาลูกมาพ่วง รถแรงบิดมาก ลากได้ จะประหยัดกว่ามากมาย  ;)
หรือ ให้กล่องจูน แนะนำลดม้าลง และการตอบสนองให้ช้าลง ก็คงประหยัด  ;D
*ทำรถแรงขึ้น แล้วขับแบบเดิม รถแรงก็กินกว่าอยู่แล้ว

คิดง่ายๆ เลี้ยงม้ามาก ต้องกินเยอะ 150 ตัว กับ 116 ตัว จะให้กินเท่ากันเป็นไปไม่ได้ 
ถ้าแบบเก่าทำใด้ดีอยู่ แล้วและไม่คิดจะพ่วง การเปลี่ยนรถที่มีแรงม้าเพิ่ม และ แรงบิดที่มากว่าก็กินกว่าครับ

 ::)ม้ามากแรงบิดมากจะให้ขับแบบเดิมคงทำได้อยาก ถ้าไม่ใช่เจ้าของขับเอง

 :oประหยัดมากมาย CNG  ครับ แต่อาจจอดมากกว่าวิ่ง ทำรอบไม่ดี เสียเวลาเติ่มgas.


ตอบดีครับ ;D เข้าใจง่ายดี ;D
ใช่ครับมีม้าหลายตัวย่อมกินเยอะกว่าม้าน้อยตัว อันนี้เรื่องจริง
รถที่มีแรงม้ามากแรงบิทมาก มันทำได้รถขับสนุกขึ้น นี่ไงคือสาเหตุหนึงทำให้เราต้องเร่งแซงเบรคบ่อย
ส่วนที่มีแรงบิทแรงม้าน้อย ทำให้ความสนุกมันลดลง จะแซงซ้ายทีขวาทีลำบาก ต้องขับแบบระมัดระวัง

มันเป็นธรรมชาติคนขับรถต้องปรับตัวกับรถที่ว่ามาโดยอัตโนมัติ

หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: SiGSaG ที่ กรกฎาคม 07, 2012, 15:06:54
ผมไม่ได้ เยินยอ อะไรนะครับ

แต่รถเพื่อการพานิชเนี่ยย  ยังไง ก็ Isuzu ครับ

ทนกว่า ประหยัดกว่า
เห็นด้วย
คุ้มจริงๆ ยืนยันเชิงพาณิชย์ isuzu ถึงจะมีบางจุดที่ด้วยกว่ายี่ห้ออื่น  แต่ภาพรวมๆแล้วก็ยังเหนือกว่าศูนย์บริการ อะไหล่ ความประหยัด ความทนทาน ราคาขายต่อคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการพาณิชย์มากที่สุดจริงๆ ถึงมีชื่อเสียงมาได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นหลักประกันได้ถึงความคุ้มค่า ...
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ กรกฎาคม 08, 2012, 12:13:31
บางท่านอ่านไม่เคลียร์ไปต่อว่าเค้าดิสเครดิต
ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร
ไม่คิดจะขอโทษหน่อยหรอครับ
ไปบอกเค้าว่าถ้าใช้แค็ปเพื่อการพาณิชย์เตรียมเจ๊งได้เลยอีก
มันไม่มากไปหน่อยหรอครับ
 
สังคม HLM รู้สึกว่าจะเปลี่ยนไปตั้งแต่มีการมานั่งจับผิดกัน
โดยที่ไม่ได้อ่านให้ละเอียด ลองพิจารณาปัจจัยอื่นๆ
ตั้งแง่กันไว้ก่อน ตั้งแง่กันไว้ก่อนไม่ผิดหรอกครับ
แต่ความสงสัยที่จะพิมพ์ลงไปที่จะทำให้คนอื่นเคลือบแคลงใจ
เบาๆกันบ้างก็ได้นะครับ เดี๋ยวจะทำให้สังคมไม่น่าอยู่กันไปเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: siwanat ที่ กรกฎาคม 08, 2012, 12:38:31
เล่นเครื่อง เล็ก 2.2 ไปแบก ของหนักก็กินเยอะสิครับ ก็เหมื่อนเด็ก ไปยกของหนัก กว่าจะยกได้ เหงือก็แตกหลังพัง

ถ้าจะเล่นจริงๆ ดูให้มันสมดุลกันสิครับ เครื่องใหญ่ กำลังเยอะ ไปใช้บรรทุกของเยอะๆ ก็สบาย  ประหยัดกว่าด้วย แนะนำ แรงดี วีโก้ครับแรงไม่ตก เค้าพันธ์ข่้าวเหนียวจริงๆ
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: ronin ที่ กรกฎาคม 08, 2012, 13:41:25
อย่าว่าแต่เครื่อง ดีเซลเลยครับ เครื่องเบนซินรถเล็กๆ b segmnt , ecocar เกือบทุกยี่ห้อ บรรทุกหนักยังเปลืองกว่า d segment อีกครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้กำลังโยง brand กับ ความจุ cc ผิดประเด็นไปครับ

จริงๆแล้วต้องใช้งานให้ถูกลักษณะด้วยครับ ถึงเครื่องใหม่จะแรงขึ้น ตัวถึงก็ใหญ่ขึ้นตามเพราะฉนั้น ก็คงไม่ต่างกันกับรุ่นเก่าๆเท่าไร
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: kukonba ที่ กรกฎาคม 08, 2012, 15:07:27
ลองดูวีโก้แชมป์ 2.7 Cng ติดตั้งระบบก๊าซออกจากโรงงานประกอบเลยน๊ะครับ แข็งแกร่ง อัตราเร่งดีเยี่ยม
กำลังไม่ตก ประหยัดสุดๆ ตอนนี้วินสองแถวโดยสารจองกันเพียบตัวตอนเดียว
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 08, 2012, 16:49:50
ตัวประหยัด 2.2 มันต้องตัว 125 แรงม้า
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 10:19:15
บางท่านอ่านไม่เคลียร์ไปต่อว่าเค้าดิสเครดิต
ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร
ไม่คิดจะขอโทษหน่อยหรอครับ
ไปบอกเค้าว่าถ้าใช้แค็ปเพื่อการพาณิชย์เตรียมเจ๊งได้เลยอีก
มันไม่มากไปหน่อยหรอครับ
 
สังคม HLM รู้สึกว่าจะเปลี่ยนไปตั้งแต่มีการมานั่งจับผิดกัน
โดยที่ไม่ได้อ่านให้ละเอียด ลองพิจารณาปัจจัยอื่นๆ
ตั้งแง่กันไว้ก่อน ตั้งแง่กันไว้ก่อนไม่ผิดหรอกครับ
แต่ความสงสัยที่จะพิมพ์ลงไปที่จะทำให้คนอื่นเคลือบแคลงใจ
เบาๆกันบ้างก็ได้นะครับ เดี๋ยวจะทำให้สังคมไม่น่าอยู่กันไปเปล่าๆ

เอาอีกแล้วคนหนึง
การตั้งกระทู้กำกวมแบบนี้การตั้งกระทู้ล้อเป้า จากที่เขาเล่ามาไม่มีมูลความจริงด้วยซ้ำ ถ้าคนใช้จริงจะไม่พูดอย่างนี้
ส่วนรถเพื่อธุรกิจขนส่ง ถ้าออกแค๊บมาใช้ให้ลูกน้องขับด้วยแล้ว ไม่มีเจ้าของธุรกิจที่ไหนบ้าทำอย่างนั้นหรอกครับ
ผมวนเวียนอยู่หลายคลับผมเจอเยอะกระทู้แบบนี้ สิ่งไหนจริงก็ควรสนับสนุนแต่สิ่งไหนเทจก็ควรเบรคกันบ้าง ไม่งั้งสัมคมหรือคนที่ยังขาดความรู้ขาดประสบการณ์ก็หลงเชื่อกันไปหมด
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: massyy ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 13:06:16
บางท่านอ่านไม่เคลียร์ไปต่อว่าเค้าดิสเครดิต
ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร
ไม่คิดจะขอโทษหน่อยหรอครับ
ไปบอกเค้าว่าถ้าใช้แค็ปเพื่อการพาณิชย์เตรียมเจ๊งได้เลยอีก
มันไม่มากไปหน่อยหรอครับ
 
สังคม HLM รู้สึกว่าจะเปลี่ยนไปตั้งแต่มีการมานั่งจับผิดกัน
โดยที่ไม่ได้อ่านให้ละเอียด ลองพิจารณาปัจจัยอื่นๆ
ตั้งแง่กันไว้ก่อน ตั้งแง่กันไว้ก่อนไม่ผิดหรอกครับ
แต่ความสงสัยที่จะพิมพ์ลงไปที่จะทำให้คนอื่นเคลือบแคลงใจ
เบาๆกันบ้างก็ได้นะครับ เดี๋ยวจะทำให้สังคมไม่น่าอยู่กันไปเปล่าๆ

เอาอีกแล้วคนหนึง
การตั้งกระทู้กำกวมแบบนี้การตั้งกระทู้ล้อเป้า จากที่เขาเล่ามาไม่มีมูลความจริงด้วยซ้ำ ถ้าคนใช้จริงจะไม่พูดอย่างนี้
ส่วนรถเพื่อธุรกิจขนส่ง ถ้าออกแค๊บมาใช้ให้ลูกน้องขับด้วยแล้ว ไม่มีเจ้าของธุรกิจที่ไหนบ้าทำอย่างนั้นหรอกครับ
ผมวนเวียนอยู่หลายคลับผมเจอเยอะกระทู้แบบนี้ สิ่งไหนจริงก็ควรสนับสนุนแต่สิ่งไหนเทจก็ควรเบรคกันบ้าง ไม่งั้งสัมคมหรือคนที่ยังขาดความรู้ขาดประสบการณ์ก็หลงเชื่อกันไปหมด
คุณนั่งคิด แต่คุณไม่ปฏิบัติ คุณจะรู้มั้ยสิ่งที่คุณคิดถูก100เปอร์หรือป่าว  วนเวียนอยู่หลายคลับก็เป็นแค่นักเลงคีบอร์ด แต่ไม่อยู่กับโลกความจริง  ผมถึงได้บอกไงถ้างงเรื่องแค๊ปก็ลองถามคนที่ขับรถขนของสิเพราะอะไรถึงใช้แค๊ป
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 14:01:02
บางท่านอ่านไม่เคลียร์ไปต่อว่าเค้าดิสเครดิต
ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร
ไม่คิดจะขอโทษหน่อยหรอครับ
ไปบอกเค้าว่าถ้าใช้แค็ปเพื่อการพาณิชย์เตรียมเจ๊งได้เลยอีก
มันไม่มากไปหน่อยหรอครับ
 
สังคม HLM รู้สึกว่าจะเปลี่ยนไปตั้งแต่มีการมานั่งจับผิดกัน
โดยที่ไม่ได้อ่านให้ละเอียด ลองพิจารณาปัจจัยอื่นๆ
ตั้งแง่กันไว้ก่อน ตั้งแง่กันไว้ก่อนไม่ผิดหรอกครับ
แต่ความสงสัยที่จะพิมพ์ลงไปที่จะทำให้คนอื่นเคลือบแคลงใจ
เบาๆกันบ้างก็ได้นะครับ เดี๋ยวจะทำให้สังคมไม่น่าอยู่กันไปเปล่าๆ

เอาอีกแล้วคนหนึง
การตั้งกระทู้กำกวมแบบนี้การตั้งกระทู้ล้อเป้า จากที่เขาเล่ามาไม่มีมูลความจริงด้วยซ้ำ ถ้าคนใช้จริงจะไม่พูดอย่างนี้
ส่วนรถเพื่อธุรกิจขนส่ง ถ้าออกแค๊บมาใช้ให้ลูกน้องขับด้วยแล้ว ไม่มีเจ้าของธุรกิจที่ไหนบ้าทำอย่างนั้นหรอกครับ
ผมวนเวียนอยู่หลายคลับผมเจอเยอะกระทู้แบบนี้ สิ่งไหนจริงก็ควรสนับสนุนแต่สิ่งไหนเทจก็ควรเบรคกันบ้าง ไม่งั้งสัมคมหรือคนที่ยังขาดความรู้ขาดประสบการณ์ก็หลงเชื่อกันไปหมด
คุณนั่งคิด แต่คุณไม่ปฏิบัติ คุณจะรู้มั้ยสิ่งที่คุณคิดถูก100เปอร์หรือป่าว  วนเวียนอยู่หลายคลับก็เป็นแค่นักเลงคีบอร์ด แต่ไม่อยู่กับโลกความจริง  ผมถึงได้บอกไงถ้างงเรื่องแค๊ปก็ลองถามคนที่ขับรถขนของสิเพราะอะไรถึงใช้แค๊ป
จริงอยู่คนที่ใช้แค็บมาขนส่ง แน่นั่นหมายถึงเจ้าของขับซื้อมาเพื่อใช้เอนกประสงค์ทั่วไปคือมีรถคันเดียวหรือสองคันก้ว่าไป แต่นิทั่นเป็นเจ้าของกิจการขนส่งเสียเอง แค่นี้ก็รู้แล้วกำลังปั้นน้ำเป้นตัว
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 14:12:24
เครื่องเล็กจริงครับ แต่น้ำหนักที่ตัวเครื่องต้องรับภาระไม่ได้น้อยเลย ทั้งฟอร์ดและมาสด้า ตัว T6 Project
 :D :D
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Pat007 ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 00:01:13
นอกเรื่องครับ 8)

รถเดิมแรงม้าต่อน้ำหนักใช้ได้ดีอยู่
ไม่เห็นต้องหารถที่มีแรงม้าเพิ่มเลย
การที่จะขับรุ่นใหม่ให้ได้ประหยัดกว่าก็อาจทำได้
1.อบรมเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการใช้รถรุ่นใหม่...บ้าไปหรือเปล่า(ก็คิดเอา)
2.สร้างแรงจูงใจในการขับขี่แบบประหยัด...ง่ายไหม.เสียเวลา..
3.ติดระบบติดตามแบบreal time ก็ใครสนใจลองหาดู จะรู้อะไรดีๆขึ้นเยอะ ....เปลืองตังค์โดยใช่ที่หรือเปล่า

***ถ้าเอา VW มาใช้ผมว่าต้องประหยัดแน่น่อน ใครจะเถียง555. ;D


หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 21:27:59
ผมไม่ได้ เยินยอ อะไรนะครับ

แต่รถเพื่อการพานิชเนี่ยย  ยังไง ก็ Isuzu ครับ

ทนกว่า ประหยัดกว่า
เห็นด้วย
คุ้มจริงๆ ยืนยันเชิงพาณิชย์ isuzu ถึงจะมีบางจุดที่ด้วยกว่ายี่ห้ออื่น  แต่ภาพรวมๆแล้วก็ยังเหนือกว่าศูนย์บริการ อะไหล่ ความประหยัด ความทนทาน ราคาขายต่อคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการพาณิชย์มากที่สุดจริงๆ ถึงมีชื่อเสียงมาได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นหลักประกันได้ถึงความคุ้มค่า ...

เห็นด้วยกับทั้ง 2 เลยครับ
 :D
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Action ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 21:46:29
การออกกระบะ smart cab มาบรรทุกของ ผมก็เห็นมาแต่ชาติปางไหนแล้วครับ
สังเกต ณ ปัจจุบันสิ ออกจะเกลื่อนกว่าการออก single cab เสียอีก เพราะอะไรก็ต้องไปถามคนขับแล้วล่ะ

ส่วนเรื่องที่บอกว่า 2.2 กินกว่า 2.5 หรือ 3.0 อันนี้ต้องกลับไปนั่งดูน้ำหนักตัวรถและแรงบิตที่เค้นออกมาได้ครับ
อย่าง T6 น้ำหนักมันเยอะกว่าชาวบ้าน ม้าเยอะกว่า แต่ไปตายตรงเครื่องเล็กกว่า ก็เหมือนเด็กพยายามแบกของหนัก
สามารถทำได้ แต่ต้องออกแรงมากกว่า เหนื่อยกว่า และพอกินก็ต้องกินเยอะกว่า เนื่องจากออกแรงมากเกินกำลังของตัวเอง ;D

ถ้าอยากประหยัด vigo , d-max , navara รถพวกนี้ออกแบบมาเพื่อขนของ ลองกลับศึกษาดูครับว่าทำไมเป็นเช่นนั้น

ปล.การออกความเห็นมันก็มีถูกผิดอยู่แล้ว ไม่ต้องมานั่งเถียงกันครับ คุยด้วยเหตุผลดีกว่า อย่าใช้อารมของตนเองเป็นหลักเลย
รู้จักไหมครับคำว่า " สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง "
หัวข้อ: Re: รถดีเซลเครื่อง 2.2 ผมให้โอกาสคุณแล้ว ทำไมทำให้ผมเสียใจอีก
เริ่มหัวข้อโดย: siwanat ที่ กรกฎาคม 16, 2012, 01:09:25
ซื้อใหม่ครับ 2.2 มันเล็กไปแล้วครับ จะดีเซล จะเบนซิน บรรทุกของเล่น เครื่องใหญ่ๆหน่อยจะดีกว่า ตัวใหญ่แรงเยอะ ตัวเล็กแรงน้อยบรรทุกหนักก็เหนื่อยเสียน้ำเยอะ อิอิอิอิอิ