Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Valkilrey ที่ กรกฎาคม 12, 2012, 10:43:22
-
อยากลงไว้เป็นข้อมูลให้กับคนที่สนใจครับ
จากตาราง ทำให้ผมได้อัตราสิ้นเปลืองแบบคร่าวๆของตัวเองในการใช้งานจริง คือในเมืองที่รถติดๆนี่ น่าจะเห็นตัวเลข 11.xx - 12.xx เท่านั้น ส่วนถ้าวิ่งไกลๆยาวๆ คาดหวังกับตัวเลข 15.xx - 17.xx ได้ ซึ่งทั้งหมดนี่ น่าจะใกล้เคียงกับอัตราสิ้นเปลืองรถ subcompact 1400-1600 ทั่วๆไปในตลาดตอนนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น TDCi ก็ยังสู้พวกรถ Ecocar ไม่ได้ เพราะพวกนั้นในเมืองน่าจะมี 13.xx - 15.xx ให้เห็นได้ไม่ยาก ส่วนทางไกลนี่ คงพุ่งไป 18.xx - 21.xx เลย แต่ถ้าพูดถึงความประหยัดจริงๆ ก็คงกิน Prius ไม่ลง ที่กินน้ำมันน้อยทั้งในและนอกเมือง (เท่าที่เคยสำรวจมา ได้ตัวเลขทั้งในเมืองและนอกเมือง 20 ต้นๆ)
หมายเหตุ: วิธีอ่านตาราง (บางอันก็ตรงตัว แต่บางอันผมก็ย่อๆไว้เข้าใจเอง)
Mileage = เลขไมล์ ณ รถจอดสนิทที่ปั้มน้ำมัน
Range = ระยะทาง (กม.) ที่วิ่งได้ในถังนั้นๆ
Avgขับ/day = ระยะทางขับต่อวันในถังนั้นๆ (ไม่สำคัญนัก แค่อยากรู้เฉยๆครับ)
Litre = จำนวนลิตรที่เติมจนเต็มถัง
บาท/ลิตร = ราคาน้ำมัน ณ วันที่เติม
BahtPaid = ราคาน้ำมันที่จ่ายไป ณ วันที่เติม
Km/ลิตร = อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยของถังนั้นๆ (เป็นตัวเลขที่ผมอยากรู้มากที่สุดถึงได้ทำตารางนี้ขึ้นมา)
Baht/Km = ค่าใช้จ่ายบาทต่อกิโลเมตร ของถังนั้นๆ
TotalLitre = จำนวนลิตรน้ำมันที่เติมสะสมนับตั้งแต่ถังแรกจนถึงถังล่าสุด
TotalBaht = จำนวนเงินบาทสะสมที่จ่ายไปนับตั้งแต่ถังแรกจนถึงถังล่าสุด
AvgB/Km = ค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายบาทต่อกิโลเมตรนับตั้งแต่ถังแรกที่เติม
1ถังวิ่งได้ = ระยะทางที่วิ่งได้ทั้งหมดเมื่อน้ำมันเหลืออีก 5 ลิตร (คำนวณโดย 48 x Km/ลิตร)
AvKm/ลิตร = ค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนับตั้งแต่ถังแรกที่เติม
Avขับ/Mo = ระยะทางขับเฉลี่ยต่อเดือนในแต่ละถังที่เติม
AvgB/Mo = ค่าใช้จ่ายบาทเฉลี่ยต่อเดือน (คำนวณโดย Avขับ/Mo x AvgB/Km)
(http://image.free.in.th/z/iv/8n0h1.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=498d3ee707aca9ca7819c23767fa01ab)
Thanks: ฝากรูป (http://www.myuppic.com)
-
ผมว่าในเมืองได้เท่านี้ดีมากแล้วครับ
อย่าลืมว่าตัวดีเซล น้ำหนักมากกว่าเบนซินเยอะ ออกตัวบ่อยๆ จะเปลืองกว่า เหมือนกัน
ถามเพื่อนๆที่ใช้ ECO CAR แล้วแต่สถานที่ทำงานด้วยครับ บางคนตก 9 ก็ยังเห็นมาแล้ว (มาร์ช)
-
ทั้งแรงและประหยัดเลยครับ
-
ประหยัดกว่า 320d E90 LCI ของที่บ้านสะอีก
320d ในเมืองรถติดๆยังมี 9.xxkm/l โผล่มาบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเกิน 11km/l
-
ผมขอแชร์ด้วย Swift ECO จากการใช้งานจริง เืผื่อเอาไว้ compare กับ จขกท.
น้ำมันที่ใช้ บางจาก ครับ
(http://image.free.in.th/z/ix/img_0412_resize.png) (http://pic.free.in.th/id/b304fec7d7487c21bc4448e5aab350f6)
-
จุดธูปบูชารถของท่านโล้ดครับ ;D
-
TDCi ของพ่อผม วิ่งในเมืองเพชรบูรณ์
ล่าสุดที่ำคำนวณ ได้ 15.87 Km/L ครับผม ;D ;D ;D
-
อยากได้มากๆ แต่ไม่รู้ต้องรอถึงเมื่อไหร่ >.<
-
ตัวเลข 11.xx-12.xx ได้มาเนื่องจากผมใช้วิธีเติมเต็มถังแล้ววัดค่าเอา จึงเป็นตัวเลขโดยเฉลี่ยของถังนั้นๆ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ช่วงที่โดนรถติดมากๆก็คำนวณได้ 8-9 เหมือนกันครับ ส่วนตัวเลขทางไกล 15.xx-17.xx นั้น ก็มีช่วงที่จราจรหนาแน่นเช่นกัน เพราะเคยเติมเต็มถังครั้งนึงแล้ววิ่งยาวๆระยะทาง 70-80 กม. แช่ที่ 90-100 km/h. ได้ตัวเลข 20.xx km/l โผล่มาให้เห็นบ้าง
ปล. เห็นตัวเลขของคุณ FyGI แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Ecocar จึงขายดีมากๆ
-
น่าสนใจตรง บาท/กิโล มากเลย พอๆกับอีโคคาร์นั่นแหละครับแต่แรง+มันส์กว่ากันเยอะ
-
น่าสนใจตรง บาท/กิโล มากเลย พอๆกับอีโคคาร์นั่นแหละครับแต่แรง+มันส์กว่ากันเยอะ
เห็นด้วยครับ
ลองเทียบกับรถเครื่องซัก 2400-2500 ติดgas ผมว่าน่าจะไม่ต่างมากนัก ดังนั้น ใครคิดว่าซื้อรถมาติดgas ลองมองรถเครื่องดีเซลบ้างนะครับ
อาจจะจ่ายค่าเชื้อเพลิงแพงกว่าแก้สนิดหน่อย แต่ ขับสนุกกว่ามากครับ
-
ถึงจะประหยัดสู้พรีอุสไม่ได้แต่ด้วยค่าตัวที่ต่างกัน ผมว่าโฟกัสดีเซลก็ยังน่าสนใจอยู่ดีครับ
-
ชาบู ๆ ประหยัดมากมายครับ
-
เก่งแล้วครับ ที่ขับ " ในเมือง " รถติดๆ
ได้เกือบ 14 กม./ลิตร คิดเป็นค่าใช้จ่าย ประมาณ 2 บาทนิดๆ ต่อ กิโลเมตร
-
ตกกิโลละ 2 บาทนิดๆ
ประหยัดพอกะ Eco car กะ รถใช้แก๊สเลยครับ น่าใช้จริงๆ
-
^____^
So proud...