Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Ker999 ที่ สิงหาคม 09, 2012, 14:11:42
-
จากที่คุยกับ sales BMW เขาบอกว่า
320d ราคา 2.89M รับรถธันวาคม 2012
320i ราคา 2.69- 2.75M รับรถกุมภาพันธ์ 2013
ใช่รถวันล่ะ 30-40 KM
Spec 320i
Cylinders: Inline 4
Displacement: 1997 cm3
Power: 135(181)/5000 KW(hp)/RPM
Torque: 199/1250-4800 lb-ft/RPM OR 270/1250-4800 Nm/RPM
Fuel System: BMW TwinPower Turbo technology with twin-scroll turbocharger, High Precision Injection, VALVETRONIC fully variable valve control and Double-VANOS variable camshaft control
Top Speed: 146 mph OR 235 km/h
Acceleration 0-62 Mph (0-100 kph): 7.3 s
Fuel Consumption
City
31 mpg OR 7.6 L/100Km
Highway
49 mpg OR 4.8 L/100Km
Combined
40 mpg OR 5.9 L/100Km
Spec 320d
Cylinders: Inline 4
Displacement: 1995 cm3
Power: 135(184)/4000 KW(hp)/RPM
Torque: 280.25/1750-2750 lb-ft/RPM OR 380/1750-2750 Nm/RPM
Fuel System: Common rail direct injection, turbocharger with variable intake geometry
Top Speed: 146 mph OR 235 km/h
Acceleration 0-62 Mph (0-100 kph): 7.5 s
Fuel Consumption
City
40.55 mpg OR 5.8 L/100Km
Highway
61.9 mpg OR 3.8 L/100Km
Combined
52.27 mpg OR 4.5 L/100Km
credit: autorevolution.com
หรือจะรอX1 minor-change
ป.ล. ไม่รีบใช้รถน่ะคับรอได้
-
ใช้รถวันละ 30-40 กิโลถือเป็นเรื่องปกติของคนเมืองครับ
ถ้าชอบความแรง ความมันส์ และไม่ซีเรียสหากต้องมีเสียงเขกของ
ดีเซลบ้างเวลาอยู่นอกรถ 320D เลยครับ
แต่ถ้ารู้สึกว่า การขับรถยุโรปราคาเป็นล้านแล้วรู้สึกว่าเครื่องดีเซล
มันดังเกินไปแม้จะทำมาได้เงียบในระดับหนึ่ง
ไม่รู้สึกถึงความสง่างาม เมื่อเทียบกับเบนซิน ไป 320i
และถ้าเจอกระทู้กลุ่มผู้ใช้ 320D อวดโชว์ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองกัน
อย่าได้กดเข้าไปดูเป็นอันขาดครับ ::)
-
40กิโลเมตร/วัน ปีนึง 15,000กิโลเองนะครับ จัดว่าวิ่งน้อยมากๆ ไปใช้เบนซินก็ได้นะครับเครื่องสั่นน้อยกว่า แต่เรื่องน้ำมันก็ต้องทำใจครับ ::)
-
320i ไม่เคยลอง
แต่ติดใจเครื่องของ 320d มากๆ
เคยลองใน X1 ของเพื่อน มันดึงดีจริงๆ ดึงได้เรื่อยๆ เผลอแป็ปเดียวถึง 180 km/h โดยไม่รู้ตัว
ถ้าผมซื้อ X1, Series 3, หรือ Series 5 ผมก็จะเอาเครื่องตัวนี้แหละ (ยกเว้นอาจโดดไป 525d)
-
ค่าตัวต่างกันแสนห้าถึงสองแสน
วิ่งปีละ หมื่นห้าถึงสองหมื่นกิโล
เมื่อคำนวณค่าน้ำมันที่ถูกลงกับค่าตัวที่แพงขึ้นแล้ว ถ้าใช้ถึง 10 ปีถึงจะคุ้มครับ
เกิน 10 ปีไป ก็กำไรแล้ว
ว่าแต่จะใช้ถึง 10 ปีรึเปล่า
-
ดีเซลโลดดดดด
-
เห็นหัวข้อ กำลังจะเข้ามาบอก 320d
มาเห็นว่าใช้วันละ 30-40 กม. เห็น spec 320i
โอ้โห หวั่นไหวเลย อิอิ
เป็นผม ไป 320i ครับ ใช้น้อย ค่าน้ำมันกว่าจะคุ้มส่วนต่าง อีกนาน
ได้เสียงเงียบกว่า แรงดึงอาจน้อยหน่อย แต่ 270 nm มันก็เยอะกว่ารถ C-segment อื่นแล้ว (รึเปล่า)
ถ้าได้ออปชั่นเท่ากันเด๊ะๆ ราคาต่างกัน 150000 ผมเอา 320i ครับ
แต่ถ้าใน SUV ผมว่า เครื่องดีเซลน่าจะให้เรี่ยวแรงดีกว่า ดึงได้ดีกว่า เทียบกับน้ำหนักครับ (เดาเอา)
-
ถ้าราคาต่างกัน 3 แสนอัพ ผมถึงจะมองเบนซินครับ
ราคาห่างกันแสนกว่าบาท ไปดีเซลดีกว่า
ความประหยัด + ความแรง มาคู่กันเลย
และส่วนตัวผมเชื่อว่า BMW ดีเซล ราคาตอนปล่อยออกดีกว่าเบนซินแน่ และน่าจะปล่อยได้ง่ายกว่าอีกต่างหาก
-
แสนห้าน้อยไปครับ ผลต่างแค่นี้ ผมเลือก ดีเซลครับ ได้สมรรถนะเยอะกว่าเยอะ
-
ขออนุญาต จขกท ครับ
ผู้รู้ช่วยไขข้อของใจผมทีครับ series3 อัตราเร่งมันจี๊ดกว่า series 5 .ใช่มั้ยครับ แล้วเดี่ยวนี้ เครื่องบีเอม เครื่องเบนซิน2.0 มันแรงเกือบเท่า หรือดีกว่า ดีเซล 2.0 ไปแล้วใช่มั้ยครับ ผมว่ามันแรงกว่าspec E90 กะ E 60 ไปเยอะเลยครับ
-
เชียร์ 320d ครับ เพราะจองไปแล้ว หาเพื่อน 555
-
2.0 เบนซิน กับ ดีเซลล มันประมาณ 7 วิ บวกลบนิดหน่อยเหมือนกัน ทั้งคู่ไม่ใช่หรอครับ
( ดูจากเวปนอกอะครับ )
-
หึๆๆๆ ;D ถ้าใครยังไม่เคยลองตัวเบนซินตัวใหม่ ไปลองซะ หึหึๆ เพราะวันนี้เพิ่งได้ขับ Z4 ตัว 2.0i ขอบอกว่าดึงพอสมควรนะครับแล้วลากยาวสนุกมากๆ ผมว่า ถ้ามีเครื่องgenนี้ แล้วใครไม่ซีเรียสเรื่องอัตราบริโภคน้ำมันล่ะก็น่าเล่นมากๆครับ เพราะมันไม่ได้กินเท่าไหร่เลย ถ้าแลกกับความสนุกที่ได้ คุ้มครับ
-
ถ้าตัวF30 เอามาขายเป็นเบนซินเทอร์โบ ขับสนุกว่า ดีเซลเยอะครับ อัตรากินน้ำมันไม่ต่างกันมากเครื่องยุคใหม่แล้ว
-
ค่าตัวต่างกันแสนห้าถึงสองแสน
วิ่งปีละ หมื่นห้าถึงสองหมื่นกิโล
เมื่อคำนวณค่าน้ำมันที่ถูกลงกับค่าตัวที่แพงขึ้นแล้ว ถ้าใช้ถึง 10 ปีถึงจะคุ้มครับ
เกิน 10 ปีไป ก็กำไรแล้ว
ว่าแต่จะใช้ถึง 10 ปีรึเปล่า
เรื่องค่าน้ำมันผมว่าไม่ควรมองแต่ตัวเลขระยะทาง ต้องเปรียบเทียบเส้นทางหรือระยะเวลาที่ใช้เดินทางด้วยนะ
40km ต่างจังหวัดVSในเมือง ค่าเชื้อเพลิงเบนซิลVSดีเซลก็คงต่างกันมากขึ้น
-
320d F30 ดีกว่าครับ การซื้อรถที่ตกรุ่นแล้ว พอรุ่นใหม่มาเหมือนเอาเงินเกือบล้านไปทิ้ง เพราะราคาในตลาดมือสองจะลดฮวบทันที สู้ใช้รุ่นใหม่ดีกว่า
-
320d F30 ดีกว่าครับ การซื้อรถที่ตกรุ่นแล้ว พอรุ่นใหม่มาเหมือนเอาเงินเกือบล้านไปทิ้ง เพราะราคาในตลาดมือสองจะลดฮวบทันที สู้ใช้รุ่นใหม่ดีกว่า
320i ก็ F30 นะครับ ไม่ใช่ E90 -*- ;D เข้าใจว่าเป็นตัวไม่มีเทอร์โบ ช่ายม้ายล่ะ
-
เห็นเค้าบอกจะมี 325i เข้ามาด้วยนะคับ กลางปีหน้ารึเปล่า เหนถามที่พาราก้อน
320i เครื่องเดียวกับ z4 เลยนะคับ ตัวนี้ไม่อืดหรอก แต่ยังไงก็แพ้ 320d
เสียง 320d ก็ไม่ได้ดังมากนะคับ ข้างใน แต่ถ้าข้างนอกนี่พี่ผมขับมาเหมือนมีวีโก้มาบ้านหุหุ
แต่อย่าให้ตามตูด เหนื่อยมาก teana 2.5 ยังเหนื่อยเลยคับ ต้องกดเต็มถึงจะพอไหว เจอ 320d ไปช่วงล่างเฟิรม์กว่า
ไปเข้าใหญ่ พี่เล่นมุดไปมุดมา ผมตามเหนื่อยเลย
-
แรงพอกันทั้งคู่ครับ ต่างกันที่ ลิตรละ 38.60 กับ 29.99 บาท แค่นั้น :P
-
หากรับได้กับเสียงเครื่องดีเซลไป 320d ดีกว่าครับ ยกเว้นราคาห่างกันเกินสามแสนค่อยน่าสนตัวเบนซิน
-
เคยลองเครื่่องเบนซิน 2.0 เทอร์โบตัวนี้ แต่เป็นรถ 520i อัตราเร่งถือว่าพอใช้ได้ แต่ต้องลากยาวนิดนึง ส่วน 320d ตัว F30 ไป test drive มานี่ เรื่องสมรรถนะ และความประหยัดนี่ดีเลยครับ
แบบว่า แรงดี ประหยัดด้วย
เครื่องดีเซล 2.0 ของ BMW เจเนอเรชั่นนี้ อัตราเร่งที่ 80-120 กม./ชม. ที่เกียร์ 4 เกียร์ 5 นี่ ตามสเปค จะช้ากว่าตัว 328i 245แรงม้า แค่ 0.5 วินาทีเท่านั้น
เรียกว่า ฟัดกับ 328i (245 แรงม้า) พอได้เลยทีเดียว
ส่วนต่าง 1.5 แสน ขยับขึ้นมาเป็นตัว 320d ผมว่าน่าสนใจกว่าตัว 320i ครับ ได้เรื่องสมรรถนะและความประหยัดเลยครับ
ส่วนตัวผมเองก็รอดูตัว 328i ต้นปีหน้าอยู่ ถ้าราคาสูง หรือถูกตอนม้าลง ผมก็คงจะเลือกตัว 320d เหมือนกันครับ
-
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกคนนะครับ
คิดว่าคงจบที่ 320d sure !!! ;D
-
Spec ตัว 320i น่าสนใจมากๆ
ดีกว่า 320i ใน E90 เยอะเลย
แต่ถ้าให้เลือก ต่างกัน 150,000 ไป Diesel ดีกว่าครับ
-
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกคนนะครับ
คิดว่าคงจบที่ 320d sure !!! ;D
ยินดีด้วยครับพี่ ;D