Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Tonaka ที่ สิงหาคม 10, 2012, 18:20:39
-
สวัสดีครับ พอดีผมอยู่ที่่ฟุกุโอกะมานานสักพักแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสได้เช่ารถจาก Toyota Rental Car มาสักที เหตุที่เช่ามาก็ไม่ใช่เพราะออกไปเที่ยวไหนหรอกครับ
แต่ว่าเช่ามาเพื่อขนของย้ายหอนี่เอง ฮ่าๆๆๆ ตอนแรกก็กะว่าจะเช่ารถตู้ Kei-car อย่าง Mitsubishi Minicab ซึ่งราคาค่าเช่าถูกกว่าประมาณ 1,000 เยน แต่เมื่อมองในเงื่อนไขส่วนตัวแล้ว...
1. ของที่จะขนก็ไม่เยอะ ถ้าขนไม่พอก็วิ่งอีกเที่ยวก็ได้
2. Toyota Rental Car อยู่ใกล้สุด แค่นั่งรถเมล์ไปก็ถึง แต่ถ้าเจ้าอื่นต้องต่อรถไฟไปอีกสามสถานี ซึ่งค่ารถไฟไปกลับก็พันนึงแล้ว
3. ในโบชัวร์ของ Toyota Rental Car รถที่มองๆไว้คือประเภท P1 ซึ่งมีรถอยู่สองรุ่นคือ Vitz (New Yaris) และ Passo ซึ่งความอยากที่จะขับ Vitz ก็เกิดขึ้นครับ ก็เลยจอง P1 ไป แต่เพราะเราไม่ได้เจาะจงว่าจะเลือก Vitz ประกอบกับเราได้ผ่านร้านสาขานี้บ่อย ก็มักจะเห็นแต่ Vitz ก็เลยไม่ได้เอะใจ และคิดแต่ว่าจะได้ขับ Vitz ชัวร์ๆ ฮ่าๆๆๆ
แต่แล้วพอจะไปรับรถก็เห็นทั้งสองคันจอดคู่กันอยู่ในร้าน แต่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า Vitz มีคนเค้าแจ้งความประสงค์ไว้ก่อนแล้ว แต่เราไม่ได้แจ้งก็เลยอดครับ
แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ได้เอามารีวิวกันขำๆ ครับ :)
สำหรับเจ้า PASSO ตัวนี้เป็นโฉมปัจจุบัน ซึ่งรุ่นนี้จะมีเครื่องยนต์สองแบบให้เลือกคือ 1.0 ลิตร และ 1.3 ลิตร ครับ ซึ่งสำหรับคันนี้รุ่น 1.3 G ซึ่งจะว่าง่ายๆ ก็เป็นรุ่น 1.3 ออฟชั่นล่าง ก็หล่ะกันนะครับ ราละเอียดก็ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ หลายๆ ท่านคงอ่านภาษาญุี่ปุ่นไม่ออก ก็ไม่เป็นไร คลิ๊กมั่วๆ แล้วดูรูปเอานะครับ ส่วนตัวผมก็อ่านแทบไม่ออกเหมือนกันครับ ตึ่ง!!!!
http://toyota.jp/passo/002_p_005/concept/grade/index.html (http://toyota.jp/passo/002_p_005/concept/grade/index.html)
-
ดูเผินๆ มันก็ออกกลมๆ เรียบง่ายๆ นะครับ ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ค่อยจะเด่นอะไรมาก (หรือว่าที่นี่มีแต่รถแนวนี้ ก็เลยรู้สึกเฉยๆ ฮ่าๆ)
-
ก่อนจะเปิดเข้าไปดูข้างในกัน ก็คงที่จะเริ่มจะเป็นธรรมเนียมกันแล้วมั้งครับ ที่จะโชว์หน้าตาของกุญแจรถ ซึ่งหลังๆ มันเริ่มที่จะกลายเป็นเครื่องประดับกันไปซะแล้ว
สำหรับเจ้า PASSO 1.3G คันนี้ ใช้กุญแจ Keyless ครับ หน้าตากุญแจมันไม่ค่อยจะเหมือนของโตโยต้าทั่วไป ที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดี กล่าวคือ ถึงแม้จะเป็นพลาสติกสีดำธรรมดาๆ แต่ดูที่ลวดลายแล้ว ก็ถือว่าดูดีอยู่นะครับ ผมให้ผ่านครับ!!! *// ขณะที่กำลังเขียนรีวิวกุญแจของเจ้าเนี่ย ไอ่เราก็นึกขึ้นได้ว่า... PASSO มันเป็นฝาแฝดกับ Daihatsu BOON นี่หว่า... งั้นแสดงว่า มันคงเป็นกุญแจจาก Daihatsu แหงๆ กร๊ากกกกกกกก มันดูดีกว่ากุญแจ Lexus อีกนะเนี่ยยยยยยยยย //*
-
พอเปิดประดูก็พอความสวยงาม เรียบง่าย จากการเล่นสีสรร ของภายในครับ
คอนโซลก็เป็นพลาสติกรีไซเคิล สีครีม ตัดกับสีน้ำตาล ซึ่งดูสวยดีครับ มองสบายตาดีนะ ส่วนเบาะก็เป็นผ้าลายสาก แต่ก็นุ่มพอสมควรครับ
เบาะคู่หน้าสำหรับรุ่น 1.3 G ก็จะเป็นเบาะแยก และพนักพิงศีรษะ ก็จะเป็นชิ้นเดียวกับเบาะ ส่วนรุ่นที่เป็นชุดแต่ง Hana ก็จะใช้เบาะอีกแบบคือ เบาะที่มีส่วนรองนั่งและพนักพิงหลังยาวติดกันครับ แต่เบาะก็ยังพับหรือปรับแยกกันได้อยู่ครับ และพนักพิงในรุ่นนั้นก็จะปรับสูงต่ำได้ครับ แต่ส่วนเบาะหลังของรุ่นชุดแต่งธรรมดา และ Hana ก็จะเหมือนกันครับ จะต่างกันแค่สีที่ใช้ตกแต่งครับ
ส่วนการเข้าออกทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็ทำได้ดีครับ หัวไม่โขกง่ายๆ
-
ส่วนเรื่องเครื่องประดับบนคอนโซลนั้นก็มีออฟชั่นให้มาดังนี้
1. GPS ซึ่งน่าจะไม่ได้ติดมากับรถจากโรงงาน ครับ
2. แอร์อัตโนมัติ
3. เรือนไมล์ ที่มีไม่เข็มวัดรอบ!! ซึ่งเริ่มเห็นหลายรุ่น แล้วเดี๋ยวนี้ บางรุ่นก็จะมีเฉพาะรุ่นบนๆ ครับ อย่างเช่น Nissan March, Mazda Demio (2)
4. เกียร์อยู่ที่คอลโซลครับ
-
ส่วนบริเวณใต้สวิทแอร์ก็จะมีอุโมงค์ช่องเก็บของที่ค่อยข้างใหญ่ ยาวไปถึงบริเวณช่องเก๊ะด้านซ้าย ซึ่งไม่มีฝาปิดครับ
สำหรับช่องเก็บของใต้สวิทซ์แอร์นั้น มีขนาดใหญ่พอดี จนผมเริ่มที่จะชอบมันขึ้นมาครับ เพราะผมมักจะเอาโทรศัพท์ หรือ พาสปอท หรือ ของจุกจิกต่างๆ โยนเข้าไป
ขนาดแค่ยืมมาวันเดียว ช่องนั้นก็รกซะแล้ว กร๊ากกกกก
พอใต้ลงไปอีกก็จะมีลิ้นชัก เหมือนที่ที่เก็บเหรียญ ซึ่งเมื่อเราดึงออกมา มันจะมีลิ้นอีกชั้นให้ดึง เพื่อเป็นหน้ากากช่องสำหรับวางแก้วครับ แต่ถ้าเราไม่ดึงออกมา มันก็จะกลายเป็นช่องเก็บเหรียญที่ใส่ได้เยอะและโกยเหรียญได้ง่าย แต่พอดึงหน้ากากแล้ว เพื่อวางแก้วเมื่อไหร่ การเอามือล้วงเข้าไปหยิบเหรียญ ก็คงต้องใช้ความพยายามอย่างสูงหน่อยนะครับ คงต้องเลือกเอาว่าใช้ลิ้นชักนี้เพื่อทำไรระหว่างใส่เหรียญหรือวางแก้ว ซึ่งจุดนี้ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ
-
ต่อเนื่องจากช่องเก็บของใต้สวิทซ์แอร์ครับ
ทางด้านขวาของช่องนี้ก็จะมีปลั๊กไฟ 12V ให้ครับ
และทางด้านขวาก็จะมีที่แขวนของซ่อนอยู่ ซึ่งต้องเอานิ้วไปหมุน พลิกมันขึ้นมา ครับ สามารถแขวนของได้สูงสุด 3kg ครับ ณ จุดนี้ผมคิดว่ามันดูดีนะครับ แต่ผมว่ามันดูเปลืองๆ ไปหน่อย ซึ่งน่าจะเอาความฟุ่มเฟือยของการออกแบบแบบนี้ ไปใช้กับที่วางแก้ว และช่องเก็บเหรียญน่าจะดีกว่าเน้ออออออ
-
ส่วนช่องกลางระหว่างเบอะคู่หน้าสำหรับรุ่นนี้ ก็จะมีถาดพลาสติก สำหรับวางของ ซึ่งวางกระเป๋าโน๊ตบุคได้สบายๆ ไม่เกะกะครับ แถมมีที่วางแก้วสำหรับผู้โดยสารด้านหลังสองที่ครับ
ส่วนแผงบังแดดหน้า ก็จะมีกระจกแต่งหน้า พร้อมฝาเลื่อนเปิด-ปิด ให้ทั้งสองข้างครับ
ส่วนไฟส่องห้องโดยสารก็แยกไฟอ่านแผนที่ให้ครับ แต่มีติดตั้งอยู่แค่ส่วนหน้าของรถเท่านั้นครับ
-
พื้นที่ด้านหลังนั่งง่าย พอสบายตัวครับ พื้นที่เหนือหัวก็เหลือเยอะอยู่นะครับ ส่วนเข่าก็ยังพอดีๆ อยู่ครับ
-
แต่ประตูท้ายแอบเห็นเนื้อเหล็กนะครับ ฮ่าๆ
-
พื้นที่เก็บของท้ายรถก็เยอะพอตัวครับ
-
เบาะหลังก็พับได้เรียบครับ แต่ว่า... ถึงแม้ส่วนรองนั่งจะเอาลองมาในแบบ 40/60 ได้ แต่เจ้าพนักพิงนี่สิ ต้องเอาลงมาเต็ม 100% อย่างเดียวเลยครับ
-
และเมื่อเอาของใส่เข้าไปก็เป็นอย่างงี้ครับ
-
ส่วนสองภาพข้างล่างนี้ก็คือส่วนของยางอะไหล่ที่ให้มา และ ก็ในส่วนของห้องเครื่องครับ ซึ่งเป็นเครื่อง 1,300 cc, 95 แรงม้า (ตราPS) แรงบิด 121N.m@4,000 rpm อัตราการกินน้ำมันที่ระบุมาตามมาตรฐานญี่ปุ่น ระบุไว้ที่ 19 km/L แต่เอาเข้าจริงผมจัดไป 13.xx km/L (หรือว่าตีนคนไทย กะ คนญี่ปุ่นจะไม่เหมือนกัน **ผมไม่ได้ขับเร็วเลยนะครับ วิ่งแค่ 50-60 km/h)
-
ขออนุญาติรวบรัดตัดความนะครับ
ในเรื่องแง่การขับขี่ ผมว่าพวงมาลัยเซตมาไม่หนักไม่เบา แม่นพอดี วงเลี้ยวแคบดีครับ
ช่วงล่างนุ่มไปหน่อย เวลาเทโค้งก็จะออกโยนๆ ไม่เหมาะกับการขับเร็วเท่าไหร่ (ก็แหงแหล่ะ ประเทศนี้เค้าก็ไม่ค่อยจะขับเร็วเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่ไฮเวย์)
เบรคดี แต่ผมไม่ได้ลองเบรคแรงนะครับ เดี๋ยวจะโดนเสยเอา ฮ่าๆ
อัตราเร่ง ก็เรื่อยๆ ไม่เอื่อยแบบ 0-100 จะต้องใช้เวลาจิบกาแฟแก้วนึง แต่ก็ไม่ฟุ่งเหมือนหลาวครับ ถ้าเทียบกับ Vios บ้านเราแล้ว ขอบอกได้เลยครับว่าเจ้า Passo นี่อืด.... ตึ่ง!!!! สรุปง่ายๆ คืออารมณ์คล้ายๆ CR-V ตอนออกตัวเลยครับ กร๊ากกกกก
สรุปค่าใช้จ่ายครับ
รถคันนี้เช่ามาในระยะเวลาภายใน 24 ชั่วโมง ในราคา 5,000 เยน + 1050 เยน (ค่าประกันครับ) และค่าน้ำมันอีกประมาณ 1,200 เยน สำหรับระยะทางที่ทั้งขับขนของ และขับเล่นก็ประมาณ 122 กิโลเมตรครับ
แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี่ หารสอง กับเพื่อนนะครับ และขนของของเพื่อนประมาณ 3 เที่ยว แต่ของของเราเที่ยวเดียวครับ
จะถามว่าคุ้มไหม?
เทียบเอางี้หล่ะกันครับ
ถ้านั่งแท็กซี่ก็จะเสียประมาณ 2,000 เยนต่อเที่ยว ไม่รวมขากลับ (ประมาณ5 กิโลเมตรครับ)
ผมขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ ;D
-
รุ่นนี้น่ารักเลยทีเดียวครับ
-อยากให้ตัวธรรมดามีเบาะแบบยาวจังเลย
-วิทยุพื้นฐานนั้นจะเป็นแบบ CD AUX แต่แต่งให้รีโทรหน่อย
-เหมือนจะมาแทน Vitz ในด้านกลุ่มเป้าหมายแล้วแหะ
-
เอามาเป็น Eco car ในเมืองไทยได้เลยนะ :D
-
รถน่ารักดีครับ :D
-
น่าประกอบเป็น ECO CAR บ้านเรา ยังไงโตต้าก็ขายได้
-
ชอบตรงที่มีที่แขวนถุงโอเลี้ยงให้ด้วย แขวนได้แต่ห้ามถุงใหญ่หนักเกินสามโล 5555555555555