Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: honoiuiu ที่ สิงหาคม 23, 2012, 20:06:26
-
ช่วงนี้ยุ่งๆเลยยังไม่ได้ไปคุยให้ได้ข้อสรุปซะทีคิดว่า90%ไม่น่ามีปัญหาสำหรับมาสด้าแต่ผมไม่สบายใจอยู่เรื่องเดียวคือน้ำมันอ่ะ
ครับเลยมีคำถามแบบนี้นะฮะ
-อยากรู้ว่าถ้าต้องขับวันละ100โลจันทร์-ศุกร์เนี่ยงบน้ำมัน6พันไหวมั๊ยครับสำหรับทั้ง2ตัว?
-แล้วทั้ง2ตัวนี้มันจะตกเดือนละกี่บาทสำหรับ100โลอ่ะครับ(ถามเผื่อเอาเงินไปทำอย่างอื่น555)
ที่ต้องบอกว่าคนเคยเล่นมาตอบเพราะเคยตั้งกระทู้แล้วมีแต่คนบอกว่าไม่ถึงแต่ทีนี้พี่ผมคนนึงเขาขับ3 2.0วันละ60โลเขาบอกว่า"พี่ว่าอยู่นะ" อ่ะครับ :-\
ถามว่าแคร์เรื่องน้ำมันมั๊ย?ไม่แคร์ถ้ามันไม่เกิน6พันอ่ะครับ
-
ต่อให้ไหว มันก็ไหวแบบจวนเจียนๆ สำหรับซิตี้ ต้องเป็นคนตีนไม่หนัก ขับที่รถไม่ติดอีก
ไหนจะใช้วันเสาร์อาทิตย์ ยังไงก็ตังไม่เหลือหรอกครับ อยากเหลือไปติดแก๊สเถอะ *-*
-
city น้องชาย ขับเท้านิ่ง ๆ ทางไกล 120 คงที่ ได้ประมาณ 13 โล/ลิตร
m3 ญาติกัน แต่เป็น 2.0 ตัวเก่านะ ที่ไม่ใช่ all new นะ ขับทางไกล เท้านิ่ง ๆ ก็ 10-11 โล/ลิตร
ถ้าอยากประหยัด เพื่อนร่วมทางเยอะ ไม่ชอบเครื่องอืด ๆ ก็ไป city
แต่ถ้าอยากได้ช่วงล่าง พวงมาลัย และความสวยงาม ไป m3 5dr.
แต่ถ้าเป็นผมน่ะ ทำไมต้องจ่ายแพง ขับวันละ 100 โล แค่ city ก้เอาอยู่แล้วครับ
ไม่ก็เอาไปลงแก๊ส คราวนี้จะเลือกคันไหนก็แล้วแต่ชอบเลย จบ !
-
ผมขับวันละ 50 โลเส้นรถติดๆนะเติมน้ำมัน 1000 บาทวิ่งได้ประมาณ 250-270 โล โดยเฉลี่ยในเมือง 9-11 โลลิตร นอกเมือง 14-16 โลลิตร
แต่บางคนซดเยอะกว่านี้อีก ขึ้นอยู่กับเท้าหนักเท้าเบา พยายามเปลี่ยนเกียร์ในช่วง 3000 ไม่ให้มากไปกว่านี้น่าจะประหยัดได้อีกนิด
ปล ลืมบอกไปใช้ all new mz3 นะครับ
-
ผมใช้ mz3 2.0 ปี 2009 ส่วนรถคุณแม่เป็น city 2010 ซึ่งสลับขับบ่อยมาก
city ขับ 100-120 ตัวเลขหน้าจออยู่แถวๆ 15-17 โล/ลิตร
ส่วนมาสด้า 3 ก็อยู่ประมาณ 12-14 โล/ลิตร ครับ
ส่วนค่าน้ำมัน Mz3 เติม 95 โซฮอล์ มันเฉลี่ยแล้วตก 3 บาทกว่าๆ/กิโลเมตร แล้วแต่ราคาน้ำมันครับ
ส่วน City e20 บ้าง 91โซฮอล์บ้าง ประมาณ 2 บาท/กิโลครับ
หากแคร์ราคาน้ำมัน ไป City ดีกว่าครับ ประหยัดกว่าเยอะ
พอดีขับอยู่ต่างจังหวัดน่ะครับ ถนนโล่ง ขับสบาย แทบไม่ต้องเบลคเลย
ถ้าขับในเมือง หรือเมืองใหญ่ๆ ต่อให้ใช้ความเร็วสูงก็น่าจะเบลคบ่อยๆอยู่ดี
ส่วนฟีลลิ่งการขับ Mz3 ดีกว่าเยอะครับ จนบางทีถ้าไปธุระด้วยกัน
ผมเอารถผมไปเองทุกที ขับสนุกกว่า และเกาะมากกว่าครับ
(ปล. รถผมติดแก๊สแล้ว เลยออกบ่อย)
-
m3 ได้เปรียบเรื่องแก๊ส city ก็ได้เปรียบเรื่องแก๊ส เหมือนกันเครื่องมันออกมานานมากแล้ว คนทำทะลุวิชาแล้วครับ ^^ เห็นแค่ต้องระวังตอนเจาะ ไอดีของ m3 ที่จะมีลิ้นอะไรไม่รู้ถ้าอู่ไม่ถอดมาเจาะให้นี้งานอาจจะเข้าได้ ถ้าเป็นผมไม่เลือก city ครับ ขับ110 ผมว่ายังไงก็เอาอยู่ เป็น m3 นี้เพิ่มเงินอีกเพียบเลย ผมขับรถที่ว่าแย่สุดในกลุ่ม C-seg ยังสบายๆเลยฮะถ้าเราไม่ได้ซิ่ง เบรค มุด จ่อท้าย แบบรถซิ่ง เราไม่ประมาทขับรถที่ว่าแย่ อุบัติเหตุไม่เกิดหรอกครับ ;)
-
เอา City ผมเป็นที่ตั้งนะครับ
ตอนที่ต้องขับรถมาทำงานทุกวันนะครับ เส้นทาง
นนทบุรี พระรามห้า ราชพฤกษ์ สาทร
ซึ่งหลายๆคนที่ใช่เส้นทางเดียวกับผมจะรู้ว่า รถติดโหดดดดดดดระดับโลกแค่ไหน
ผมขับรถ วันละ 60 กม ไป กลับ
น้ำมัน 1000 บาท(E20 = 35B/L)
ขับไปกลับได้ 7 วัน พอดี 7x60 = 420 กม (กรณีนี้ ห้ามแวะเส้นทางอื่นเลยนะครับ)
ถือว่าประหยัดในระดับ รับได้ครับ และผมขับแบบนี้มาปีนึง ค่าน้ำมันเฉลี่ย 5000-6000 บาท ต่อเดือน
สิ่งที่ ซิตี้ ทำได้ดีกว่า 3 แน่ๆ คงเรื่องประหยัดน้ำมันกว่าแน่ๆครับ ทุกกรณี ทุกสภาพการขับขี่
อัตราเร่ง ช่วงต้น ถึง กลาง ซิตี้ทำได้ ดีมากกกก จนถึงปลายก็ไม่ได้ถดถอย
ผมว่าเรื่องอัตราเร่งอาจจะ สูสีกับรถเครื่องใหญ๋กว่าของค่ายอื่นครับ
แต่ฟิลลิ่งพวงมาลัย ช่วงล่าง คุณภาพการขับขี่ต่างๆ ต้องยกให้มาสด้า ชนะขาดครับ
รายนี้เค้าเน้น สิ่งเหล่านี้ มากกว่าจะมาประหยัด
ช่วงล่าง ซิตี้ ไม่ได้แย่ครับ อยู่ในระดับโอเค ไว้ใจได้ แต่อาจจะมีอาการตึงตัง แข็งที่ความเร็วต่ำ ย้วยที่ความเร็วสูง
เป็นเรื่องปกติ ของยี่ห้อนี้ครับ
-
m3 ได้เปรียบเรื่องแก๊ส city ก็ได้เปรียบเรื่องแก๊ส เหมือนกันเครื่องมันออกมานานมากแล้ว คนทำทะลุวิชาแล้วครับ ^^ เห็นแค่ต้องระวังตอนเจาะ ไอดีของ m3 ที่จะมีลิ้นอะไรไม่รู้ถ้าอู่ไม่ถอดมาเจาะให้นี้งานอาจจะเข้าได้ ถ้าเป็นผมไม่เลือก city ครับ ขับ110 ผมว่ายังไงก็เอาอยู่ เป็น m3 นี้เพิ่มเงินอีกเพียบเลย ผมขับรถที่ว่าแย่สุดในกลุ่ม C-seg ยังสบายๆเลยฮะถ้าเราไม่ได้ซิ่ง เบรค มุด จ่อท้าย แบบรถซิ่ง เราไม่ประมาทขับรถที่ว่าแย่ อุบัติเหตุไม่เกิดหรอกครับ ;)
ทำไมผมอ่านแล้วงงๆอ่ะครับ - -
-
City ขับไประยอง 18 กม.ลิตร
100 / ชม เกร็งจนปวดข้อเท้า 5555+
ปล. ทริปนั้นทริปเดียวแล้วผมไม่เคยทำอีกเลย ปกติเท้าหนัก
มาทำอีกทีกะแจส ได้แค่17.5. เอง
-
อยุ่แบบจวนเจียน +-นิดหน่อย ครับ
-
อยุ่แบบจวนเจียน +-นิดหน่อย ครับ
หมายถึงมาสด้า3 2.0ใช่มั๊ยครับ?ถ้าไม่ตอบเด๋วผมPMนะ5555
-
Cityพึ่งมีประสบการณ์มาโดยตรงนะครับ
วิ่งไปเชียงราย ตีนหนักได้ประมาณ 13 กม./ล. แต่ที่ผมตกใจที่สุดคือ
ขากลับจากเชียงราย-เชียงใหม่ วิ่งเส้นดอยสะเก็ด เหยียบแซงตบเกียร์2 D3 เป็นระยะ
ตัวเลขเติมนำ้มันกับไปด้ที่ 15.92 กม./ล. ประหยัดมากๆครับ ยังงงๆกับตัวเลขอยู่เลยครับ
(ทั้งทริป ใช้โซฮอลล์95) แต่อยากจะบอกว่า เทียบกับความสนุกในการขับขี่รวมถึงภาพรวมของตัวรถแล้ว
ผมถือว่าCityทำได้ดีมากๆครับ
-
ของผมใช้ Jazz แต่เครื่องกับเกียร์ น่าจะตัวเดียวกับ City น้ำมัน E20 1000 บาท วิ่งได้ 440 โล ครับการจราจรแบบทั่วไปครับ ติดบ้างโล่งบ้าง
-
อยุ่แบบจวนเจียน +-นิดหน่อย ครับ
หมายถึงมาสด้า3 2.0ใช่มั๊ยครับ?ถ้าไม่ตอบเด๋วผมPMนะ5555
ใช่ครับ :D
-
ลองคิดดูแล้วไปเปลี่ยนตัวเลขเอาเองครับ
ขับวันละ 100 กิโลเมตร
อัตราบริโภคน้ำมัน 15 กิโลเมตร/ลิตร
ราคาน้ำมัน 38 บาท/ลิตร
1 เดือนใช้รถ 22 วัน (ตาม จขกท. บอกใช้รถเฉพาะจันทร์-ศุกร์)
เงินค่าน้ำมันต่อเดือน (100/15)*38*22= 5573 บาท/เดือน
-
สมมติ:
" ถ้า " M3 KM @ 3 บาท / CITY KM @ 2 บาท ( ภาวนาราคาน้ำมันไม่ขึ้นนะ + ภาวนาไม่ให้เจอรถติดสาหัสด้วย @_@ ! )
M3 KM @ 3 บาท----->ใช้วันละ 100 KM ----->จ่ายวันละ 300 บาท ------ถ้ามี 6,000 บาท อยู่ได้ = 20 วัน (ก็ใกล้เคียงกับวันทำงานใน 1 เดือนพอดิบพอดี)
CITY KM @ 2 บาท----->ใช้วันละ 100 KM ----->จ่ายวันละ 200 บาท ------ถ้ามี 6,000 บาท อยู่ได้ = 30 วัน (ก็ใช้ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์)
เอางี้
เลือกรถที่เหมาะกับฟิลลิ่งและการใช้งานของเราเข้าไว้อันดับแรก
เพราะวิ่งไกลๆกินกลางๆ ถึงเกินก็เกินไม่มาก ไป M3
แต่ถ้าคำนึงประหยัดเชื้อเพลิงมาก่อนไป CITY เลยครับประหยัดกว่า เหลือกว่าครับ
-
m3 ได้เปรียบเรื่องแก๊ส city ก็ได้เปรียบเรื่องแก๊ส เหมือนกันเครื่องมันออกมานานมากแล้ว คนทำทะลุวิชาแล้วครับ ^^ เห็นแค่ต้องระวังตอนเจาะ ไอดีของ m3 ที่จะมีลิ้นอะไรไม่รู้ถ้าอู่ไม่ถอดมาเจาะให้นี้งานอาจจะเข้าได้ ถ้าเป็นผมไม่เลือก city ครับ ขับ110 ผมว่ายังไงก็เอาอยู่ เป็น m3 นี้เพิ่มเงินอีกเพียบเลย ผมขับรถที่ว่าแย่สุดในกลุ่ม C-seg ยังสบายๆเลยฮะถ้าเราไม่ได้ซิ่ง เบรค มุด จ่อท้าย แบบรถซิ่ง เราไม่ประมาทขับรถที่ว่าแย่ อุบัติเหตุไม่เกิดหรอกครับ ;)
ทำไมผมอ่านแล้วงงๆอ่ะครับ - -
แบบตัดกระชับ จะยกตัวอย่างให้โดยรถผมหนะครับ ผมใช้ altis ที่ว่าช่วงล่างห่วยบรม ผมก็ขับ110-140 สบายๆ พอมาเป็นโจทย์ของคุณ city กับ mazda3 ผมแค่อยากจะบอกว่า เราสมควรเพิ่มเงินตรงนั้นเพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น city ก็เพียงพอแล้วถึงแม้ว่าช่วงล่าง จะด้อยกว่า mazda3 ก็ตามที รถห่วยแค่ไหนเราไม่ประมาทขับเกิน Limit รถมันก็ปลอดภัย ขับขี่ดีทุกคันครับ และเรื่องแก๊ส แค่แนะนำครับ ว่าทั้ง2ตัวนั้น สามารถติดแก๊สได้สบายๆ เครื่องมันออกมานานมากแล้ว อู่ทำจนชินมือแล้ว แต่แค่เครื่องมาสด้า ฝั่งไอดีมันจะมีลิ้นอะไรนี้ละถ้าเจาะโดนเข้าจะพัง จะติดอู่ไหนขอแค่เขาถอดไอดีมาเจาะก็พอ จะ งงอีกมั้ยว้า ;D พอดีออกไปธุระเลยรีบพิมพ์ ^^ ที่แนะนำแก๊สเห็นวิ่งวันละ 100โล ติดแก๊ส แปปเดียวคุ้มทุน
-
ถ้ามีเงินจัด Mazda 3 2.0 ได้ไม่ลองดูพวกไฮบริดหละครับ ในเมืองอัตราสิ้นเปลืองดีใช้ได้เลย อย่างตอนนี้ก็มีน้องแจ๊ซออกมาแล้วด้วย น่าสนใจใช่เล่น :)
พรีอุสแฟนผมขับอยู่แต่ในเมืองโซนรถติดจัดๆไม่ได้ไปไหนเท่าไหร่ น้ำมันเติมไปพันนึงจะวิ่งได้ประมาณ 500-600 โล แล้วแต่ราคาน้ำมันอะครับ แต่ถ้าผมขับบ่อยๆในเดือนนั้นจะเหลือแค่ 400 ปลายๆ 500 ต้นๆต่อ 1 พันบาทนะ แอบเท้าหนัก 555555
ที่ถามดูเพราะว่าพรีอุสตัวถูกสุดก็ไม่ห่างจาก MZ3 มากนักน่ะครับ แต่ถ้าไม่ชอบจริงๆ ผมว่าไปเอาพวก Eco Car เลยดีมั้ย? ถ้ากังวลเรื่องความประหยัดจริงจังนะครับ อาจจะเป็นทางออกที่ดี ;)
-
m3 ได้เปรียบเรื่องแก๊ส city ก็ได้เปรียบเรื่องแก๊ส เหมือนกันเครื่องมันออกมานานมากแล้ว คนทำทะลุวิชาแล้วครับ ^^ เห็นแค่ต้องระวังตอนเจาะ ไอดีของ m3 ที่จะมีลิ้นอะไรไม่รู้ถ้าอู่ไม่ถอดมาเจาะให้นี้งานอาจจะเข้าได้ ถ้าเป็นผมไม่เลือก city ครับ ขับ110 ผมว่ายังไงก็เอาอยู่ เป็น m3 นี้เพิ่มเงินอีกเพียบเลย ผมขับรถที่ว่าแย่สุดในกลุ่ม C-seg ยังสบายๆเลยฮะถ้าเราไม่ได้ซิ่ง เบรค มุด จ่อท้าย แบบรถซิ่ง เราไม่ประมาทขับรถที่ว่าแย่ อุบัติเหตุไม่เกิดหรอกครับ ;)
ทำไมผมอ่านแล้วงงๆอ่ะครับ - -
แบบตัดกระชับ จะยกตัวอย่างให้โดยรถผมหนะครับ ผมใช้ altis ที่ว่าช่วงล่างห่วยบรม ผมก็ขับ110-140 สบายๆ พอมาเป็นโจทย์ของคุณ city กับ mazda3 ผมแค่อยากจะบอกว่า เราสมควรเพิ่มเงินตรงนั้นเพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น city ก็เพียงพอแล้วถึงแม้ว่าช่วงล่าง จะด้อยกว่า mazda3 ก็ตามที รถห่วยแค่ไหนเราไม่ประมาทขับเกิน Limit รถมันก็ปลอดภัย ขับขี่ดีทุกคันครับ และเรื่องแก๊ส แค่แนะนำครับ ว่าทั้ง2ตัวนั้น สามารถติดแก๊สได้สบายๆ เครื่องมันออกมานานมากแล้ว อู่ทำจนชินมือแล้ว แต่แค่เครื่องมาสด้า ฝั่งไอดีมันจะมีลิ้นอะไรนี้ละถ้าเจาะโดนเข้าจะพัง จะติดอู่ไหนขอแค่เขาถอดไอดีมาเจาะก็พอ จะ งงอีกมั้ยว้า ;D พอดีออกไปธุระเลยรีบพิมพ์ ^^ ที่แนะนำแก๊สเห็นวิ่งวันละ 100โล ติดแก๊ส แปปเดียวคุ้มทุน
ไอ้หลักๆอ่ะพอเข้าใจนะครับแต่คือติดตรงที่"เราสมควรเพิ่มเงินตรงนั้นเพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น"ซึ่งCityแม่งถูกสุดแล้วนะใน3ตัวที่อยู่ในการสนทนา มาสด้า อัลทิส ซิตี้ แต่คุณแนะนำให้เอ่City(ใช่มะครับ?)ผมเลยงง 55555 - -"
-
ถ้ามีเงินจัด Mazda 3 2.0 ได้ไม่ลองดูพวกไฮบริดหละครับ ในเมืองอัตราสิ้นเปลืองดีใช้ได้เลย อย่างตอนนี้ก็มีน้องแจ๊ซออกมาแล้วด้วย น่าสนใจใช่เล่น :)
พรีอุสแฟนผมขับอยู่แต่ในเมืองโซนรถติดจัดๆไม่ได้ไปไหนเท่าไหร่ น้ำมันเติมไปพันนึงจะวิ่งได้ประมาณ 500-600 โล แล้วแต่ราคาน้ำมันอะครับ แต่ถ้าผมขับบ่อยๆในเดือนนั้นจะเหลือแค่ 400 ปลายๆ 500 ต้นๆต่อ 1 พันบาทนะ แอบเท้าหนัก 555555
ที่ถามดูเพราะว่าพรีอุสตัวถูกสุดก็ไม่ห่างจาก MZ3 มากนักน่ะครับ แต่ถ้าไม่ชอบจริงๆ ผมว่าไปเอาพวก Eco Car เลยดีมั้ย? ถ้ากังวลเรื่องความประหยัดจริงจังนะครับ อาจจะเป็นทางออกที่ดี ;)
คืออีโคคาร์ยังไงก็ไม่เอาอ่ะครับ(ถ้าให้ผมเลยนะ)ส่วนแจ๊สหรือรถสไตล์นี้ไม่โดนใจเลยพรีอุสก็ไม่สวยสำหรับผมเรื่องประหยัดไม่ซิเรียสมากมายหรอกครับคือถ้าต้องจ่ายจริงๆก็ไหวแต่ผมไม่อยากให้เกิน6พันเท่านั้นแหละซึ่งดูจากที่หลายๆท่านตอบมาผมคิดว่าคงไหวแหละครับ
ปล.แต่มันก็คงอีกสักพักแหละกว่าผมจะไปคุยอีกรอบคิดว่าคงมาถามนู่นนี่อีกสัก2-3กระทู้แหละครับ
-
ใช้งานยังไงล่ะครับ ถ้าทางไกล ไฮเวย์โล่งๆ แนะนำว่ารถใหญ่ดีกว่าครับ
-
บอกเป็นอีกตัวเลือกบ้าง
รถผมcity ติด LPG 380 -400 KM ต่อหนึ่งถัง 42 ลิตร เติมจริงๆเต็มถังได้ 32 ลิตร เนื่องจากเติมได้ประมาน 70 % ของความจุถังเป็นความจุสูงสุด
ราคาค่าเติมเต็มถัง 388 บาท วิ่งได้ 380 -400 km ตกกิโลละ 1 บาทครับ ( อันนี้ขับในเมืองนะครับ)
เอาไว้เป็นข้อมูลเผื่อเป็นอีก 1 ตัวเลือกครับผม
-
ผมใช้ city ปี 2009 อยู่นะครับ เกียร์ออโต้
วันก่อนไปต่างจังหวัดมา นั่งกลับแม่สองคนนะครับ น้ำหนักรวมสองคนประมาณ 115 kg
พร้อมสัมภาระด้านหลัง นน.ประมาณ 50 kg เปิดแอร์เบอร์ 1 และ 2 สลับกันครับ
ขับเฉลี่ย 110-120 km/h คิกเดาว์ตลอดเลย ถนนสองเลนครับ แซงแต่ละทีลำบาก
ระยะทาง 530 km พอดีเป๊ะเลย กลับเติมน้ำมันหัวเดิมด้วยครับ ปตท.
ใช้โซลฮอล์ 91 นะครับ ลิตรละ 36.16 บาท (ขอนแก่น)
รวมแล้วกลับมาเติมเต็มถังเหมือนเดิม หัวจ่ายเดิมและ ให้หัวจ่ายตัดเอง
เติมกลับเข้าไปอีกประมาณ 35.12 ลิตรนะครับ 1270 บาท มั้ง
คำนวนแล้ว มันกินน้ำมันไป 14.78 km/l ประหยัด ??
(หน้าจอโชว์ 16-17 km/l เชื่อมากไม่ได้หรอกครับ เพราะมันเอาระยะทางมาสะสมและคำนวนเรื่อยๆ)
ขับในเมืองเคยลองมาแล้วครับ ตอนนั้นคำนวนได้ประมาณ 10-11 km/l นะครับ ประหยัด ??
ลองหาคำตอบสำหรับคัวคุณดูนะครับ
-
สนใจ แจ๊สไฮบริดมั๊ยหล่ะครับ ใช้รถเยอะอย่างนี้น่าจะคุ้มถ้าไม่คิดจะติดแก๊ส
-
วิ่งวันละ 100 กม. จ.-ศ. แสดงว่าสัปดาห์ละ 500 กม.
แล้วเสาร์อาทิตย์ไม่วิ่งหรือ? (ล้อเล่นนะครับ คริคริ)
สรุปว่าสัปดาห์ละ 600 กม. เติมน้ำมันสองหนแน่นอนสำหรับมาสด้า 3 2.0
ถ้าเติมโซฮอล์ 95 และคำนวณอัตราสิ้นเปลืองในเมืองระดับ 8 กม./ลิตร
ไม่มีทางพอครับ 6,000 บาท ส่วนถ้าใช้ E20 ก็คงจวนเจียน
ถ้าซีเรียสเรื่องค่าน้ำมัน ผมว่าหันไปมองฮอนด้าน่าจะดีกว่านะ
-
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ได้ขับรถ Honda City ของพี่
จากกาญจนบุรี-เชียงใหม่
แล้วลองจับอัตราสิ้นเปลืองดู
ในจอเวอร์มากครับ โชว์มา 17.5 km/L
แต่วัดจริงๆ กลับทำได้แค่ 14.06 km/L
ปล. นับระยะทางจากที่พักริมแม่น้ำแคว-ปั๊มบางจากหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่
ความเร็วถ้าวิ่งนอกเมือง ผมวิ่ง 120-130 km/hr เกือบตลอดทางครับ
ปล.2 ไมล์ของ City มันอ่อนรึเปล่าครับ เพราะเทียบกับโฟกัสของผม
ไมล์รถ 120 เท่ากัน แต่ทำไมโฟกัสของผมมันรู้สึกว่าช้ากว่าพอควรเลย
-
เอาเป็นข้อมูลเสริมละกันนะครับ (new city ของผม mazda2 sedan ของแฟน)
ถ้าขับเดินทางช่วง 110-120 km/h ทั้ง city และ mazda2 จะกินเท่าๆกันที่ประมาณ 14-15 km/l
ถ้าขับช่วง 130 up new city จะกินน้อยกว่า 2 นิดนึง แต่ข้อมูลไม่แน่นนะเพราะความเร็วย่านนี้ผมไม่ได้ใช้บ่อย คนข้างๆเขากลัวความเร็ว
ผมว่า mazda รุ่นใหม่ๆ เรื่องความประหยัดทำได้เทียบเท่า หรือใกล้เคียง เจ้าตลาดมากแล้ว แต่ความจี๊ดจ๊าดด้านอัตราเร่ง อะไรเทือกนั้นยังตามๆเขาอยู่ แต่ที่แพ้ขาดคือแรงเชียร์ ถ้าคุณแฟนไม่อาจหาญซื้อ mazda2 มาใช้ ผมก็คงยังคิดว่ารถดีๆยังไงก็ โต กับ ฮอน ;D
mazda 3 ผมไม่ทราบ แต่ city ก็เป็นรถกลางๆ ใช้ได้เรื่อยๆ ถ้าเทียบ 2 คันนี้ city คงดีกว่าเด่นๆ คือ กินน้ำมันน้อยกว่านิดนึง และราคาถูกกว่า
แต่นอกเหนือจากนั้น mazda 3 2.0 เอาไปกินหมด โดยเฉพาะรูปลักษณ์โดยรวม หาร้านติดแก้สเซียนๆ น่าจะช่วยได้มากในด้านค่าเชื้อเพลิง
ปล ผมชอบเครื่องยนต์กลไกของฮอนด้า แต่ผมชอบทุกอย่างที่เป็น mazda ยกเว้นเครื่องยนต์ ถ้าจับมันโขลกใส่กันได้คงดี ;D
-
ค่าน้ำมัน ผมว่าไม่น่าห่วง
แต่ค่าตัวรถเนี่ย ต่างกัน 3 แสนนะครับ อันนี้น่าห่วงกว่า
-
ค่าน้ำมัน ผมว่าไม่น่าห่วง
แต่ค่าตัวรถเนี่ย ต่างกัน 3 แสนนะครับ อันนี้น่าห่วงกว่า
โดนใจจริงๆ :D
ส่วนต่างค่าตัวรถนี้เอาไปเติมน้ำมันได้สามสี่ปีเลยทีเดียว ถ้าเอาไปคำนวณเฉพาะแค่ส่วนต่างค่าน้ำมันของ city/mazda3 นี้อาจจะเติมได้จนรถเลิกใช้น้ำมันกันเลยทีเดียว ฮาๆๆ จริงๆถ้าอยากได้รถราคาล้านนึง ซื้อไหวแค่ส่วนต่างค่าน้ำมันเดือนละพันสองพันนี้คงไม่เป็นอุปสรรคมากเกินไปมั้งครับ แต่ถ้ายังกังวลเรื่องรายจ่าย city น่าจะดีกว่านะครับ
-
ผม 2.0 ตัว sedan ปี 2008
ไปกลับ โชคชัย โคราช 15 km/L ครับ แต่รถโล่งเท้านิ่ง ไม่มีแซง วิ่ง 90-110 คับ
-
นั้นละ โหวตให้ city ฮะ ถ้าติด L ด้วย สบายไปเลย เติมน้ำมันจ่ายแบงค์พัน ยังไม่มีทอน เติมแก๊ส แบงค์พัน1ใบ ทอนพรึบ ^^
-
civic 1.8 ลงตัวกว่ามั้ย
-
ถ้าแคร์เรื่องค่าน้ำมัน ไม่ลองดู City CNG ละครับ (ถ้าแถวบ้านเติมแก็สได้ ไม่รอนาน)
-
สำหรับ City นี่ผมไม่แน่ใจนะครับว่าจะได้เท่าไหร่
ปกติขับ Civic FD E AT 2009 ครับ วิ่งไปทำงาน บางใหญ่-วังน้อย ทุกวัน จ-ศ ไปกลับประมาณวันละ 130 Km. ครับ
เติมน้ำมันเต็มถึง วิ่งจนไฟขึ้น และ วิ่งต่อจนหมดเม็ดสุดท้าย ประมาณ 550-600 Km. ครับ ขับประมาณ 90-130 ครับ ขับเกิด 130+ สำหรับวันที่ตื่นสาย อย่างมากก็ 2 วันครับ แต่ก็เหยียบประมาร 5 นาทีเท่านั้นครับ ไม่ได้เหยียบเต็มตลอดทาง เพราะว่า รถบรรทุกเยอะครับ
เสาร์อาทิตย์ขับไปเรียน พระจอมฯ ตรงพระราม 7 ไปกลับประมาณ 30 Km. = 60 Km.
ผมเติมน้ำมัน เต็มถังสัปดาห์ละ 1 ถังประมาณ 38-40 Lite ครับ ใช้ Gasohal 91 ( Esso ) บางครั้งก็ไม่ถึงสัปดาห์ก็ต้องเติมอีก ค่าน้ำมันตก อยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 บาท/เดือน ผมคาดเดาว่า Mazda 3 2.0 ยังงัยก็ไม่หนีไปจากนี้มากครับ อาจจะไม่พอด้วยซ้ำสำหรับ Mazda 3 2.0 ครับ
แต่ City น่าจะประหยัดกว่ามากครับ