Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: J!MMY ที่ สิงหาคม 30, 2012, 00:16:14
-
รีวิวแรกในเมืองไทย เสร็จจนได้ด้วยดี
โล่งอก!
เชิญอ่านได้ที่นี่ครับ
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4286 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4286)
แสดงความเห็นได้ตามอัธยาศัย
-
คนแรก ;D
-
คนที่2 ;D
-
คนที่ 3 ครับ
รถสวยมาก ;D
-
คนที่ 4 ;D
ขอบคุณครับ พักผ่อนบ้างนะคุณจิมมี่ :)
-
"ลูก มึง แดกผักซะ" 555+
ดูแล้วน่าใช้กว่ารถยนต์ Hybrid ครับ ถ้ามั่นใจได้ในความทนทานและศูนย์บริการ
-
รวดเร็วมาก ขอบคุณค้าบ
-
ราคาจะสูงไหมน้า
-
คุณจิมมี่เสนอประเด็นน่าสนใจในรถได้ดีครับ ;D ;D ;D
ปล.จะคนแรกคนสองกันทำไมครับ มีอะไรจะคุยจะเสนอก็พูดมา ไม่งั้นอ่านเฉยๆก็ได้ครับ
-
ชารตไฟ45บาท วิ่งได้สูงสุดประมาณ60-80km !!!
พอไฟฟ้าหมดก็ใช้น้ำมันติดเครื่อง ปั่นไฟ หมุนเวียนทั้งน้ำมันและไฟฟ้าสลับไปเรื่อยๆ รวม 570km
ผมเข้าใจผิดรึเปล่าคับเนี่ย -o-
-
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณครับ
ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เคยเห็นแล้วใน Hammerhead Eagle i-Thrust กับ Fisker Karma ;D
ด้านหน้าเจ้า Volt นี่ดูเผินๆนึกถึง Nascar เลยแฮะ
ต่อไปรอซิลฟี่
-
ขอบคุณครับผม ;D
-
ท่านจิม,,, เหนือชั้นจริงๆ (http://www.soccersuck.com/soccer/images/smiles/d5f02ecd.gif)
-
อ่านแล้วเกิดกิเลส สวย ล้ำ น่าใช้มากๆ
-
กำลังจะนอนเลย แต่แอบคิดในใจ อาจมีบุรุษชุดดำมาเซอร์ไพ้
ขอบคุณค๊าบ
-
ล้ำดีครับ กว่าจะได้ใช้จริงๆ คงต้องรอทุกๆ ค่ายหันมาทำรถไฟฟ้ากันหมด คงจะถูกลงเป็นกอง เหมือนโทรทัศน์จอแบน LCD LED LED3D Smart TV บลาๆๆๆๆ
จนตอนนี้ไม่รู้แล้วว่า TV มันทำไรได้มั่งเพราะตูเปิดแต่ช่อง 3 5 7 9 ฟังมันพูดผ่านๆ พอเป็นพิธีไม่ให้ห้องเงียบจนเกินไป เพราะมันไม่รู้จะดูอะไร
-
ผมว่าอีกนานแน่เลยคับกว่าจะมา แล้วมาก็น่าจะ2ล้าน+ รัฐบาลจะหาเหตุผลมาเก็บภาษีให้ได้ :D
-
ก่อนนอน อ่านซะหน่อย
-
อ่านสนุกไปขำไปครับดึกเลย ตอนหลังๆมุขเพียบเลยครับคุณจิมมี่ คิดว่าในอนาคตไม่เกิน15ปี ต้องลองใช้รถไฟฟ้าให้ได้ครับเมื่อเทคโนโลยีและความพร้อมทางสังคมมาถึง :D :D :D :D
-
น่าเสียดายกับปัญหาไฟฟ้าเหมือนกัน
เพราะทุกวันนี้ การใช้พลังงานไฟฟ้าในไทย ก็เต็มเพดานแล้ว
จนมีคนบางกลุ่มเรียกร้องให้เก็บภาษีแอร์ด้วยซ้ำไป
หากรถไฟฟ้าเต็ม บ้านเมืองจะเอา การไฟฟ้าจะเอาไฟฟ้าที่ไหนมาจ่ายไฟให้
จริงอยู่ที่อาจจะลดการนำเข้าน้ำมัน
แต่หากพลังงานไฟฟ้าไม่พอ โรงไฟฟ้าก็ต้องนำน้ำมันนั่นแหละมาปั่นไฟ
เหมือนงูกินหางยังไงไม่รู้ แม้จะกินไม่เต็มปากก็ตาม ....
-
ขอบคุณคุณจิมมี่มากครับ
ได้แง่คิดดีครับเกี่ยวกับพรังงานไฟฟ้าในประเทศของเราด้วย อยากให้ภาครัฐและเอกชน+ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
เล็งเห็นและวางแผนถึงปัญหาเรื่องพลังงานไฟฟ้าด้วย เพราะยังไงต้องเปลี่ยนจากน้ำมันมาเป็นไฟฟ้าแน่ๆใน10-20ปีข้างหน้า
(รถหน้าใช้มาก...ครับผม) ;)
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
ผมว่าในไทย การใช้รถไฟฟ้ายังยาก
ถ้ารถที่ใช้ไฟฟ้าแพร่หลาย คนเติมน้ำมันน้อยลง ปตท.หดแน่ๆ ฮ่าๆ
เผลอๆ มันจะมีแนวคิดแปรรูปการไฟฟ้าเข้ามาอีก
คิดแล้วเครียด
-
เห็น นน. 1.7 ตันแล้วตกใจเลยครับ
-
::)แล้วถ้ามาขายจริงจะคิดภาษียังไงล่ะ ราคา ค่าบำรุงรักษา....??? แต่มันก็น่าใช้นะครับ เติมน้ำมันได้ทั้ง E10 E20 E85
ไฟฟ้าหมดรถยังมี เครื่องยนต์วิ่งไปต่อได้ แล้วการชาร์ตไฟฟ้าก็ไม่นานเท่าไหร่ แต่จะให้ดีก็อย่างที่คุณจิมมี่พูดไว้ คงต้องรอทางภาครัฐ
สนุบสนุน สถานีชาร์ตไฟฟ้าให้มันครอบคลุมคงอีกนานโขเหมือนกันครับ ประเดนนี้
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆ พรุ่งนี้ รอกด F5 ต่อ เรื่อยๆครับ
-
ขอบคุณครับ ;D
-
อ่านเเล้วชอบมากเรื่องความง่ายของการเสียบชาร์ตไฟบ้าน
วิ่งในเมืองได้สบาย
ถ้าวิ่งทางไกล ก็มีน้ำมันสำรองใช้เสร็จสรรพ
รถคันต่อไปขอเป็นเเนวนี้เลย แต่...แพง แหง๊มๆ
-
ราคาขายที่เมกาพอๆ กับ prius ตัว top ถ้าเอาเข้าบ้านเราแล้วยังได้ราคาประมาณนี้ ก็คงราวๆ 1.2 - 1.5 ล้านหละครับ
แต่อย่างว่า บ้านเขา prius แพงกว่า camry 3.5 เสียอีก แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ยังไม่แพงเท่าบ้านเรา เอ๊ะ ไล่ไปไล่มา งง ฮ่าๆๆ
-
น่าใช้ดี ดีไซด์ดูล้ำมากๆ ขอบคุณครับ ;)
-
เครื่องยนต์ 1.4ลิตร เข้าเมืองไทย ภาษีคงไม่เยอะมากล่ะมั้งครับ
ต้องขึ้นอยู่กับ GM แล้วว่า จะช่วยราคาได้มากแค่ไหน
เสียดายที่ด้านหลังได้แค่ 4 ที่นั่ง แต่ก็น่าสนใจมาก
ปล. ตัวนี้เป็นตัวที่เซอร์ไพรส์สุดๆของที่คุณจิมมี่ใช่ไหมครับ ^^
แล้วตัวไหนที่ผู้การเช็งบอกว่าคุณจิมมี่อยากจะควักเงินซื้อครับ??
-
ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก เน้นขับสวยงามในเมือง
ไฟหมดเครื่องยนต์ช่วยปั่น นี่มันรถแก็สชัดๆ แค่เมนทาเน้นท์สูงกว่า ;D
ก็น่าสนอยู่นะครับ
แต่อย่างว่า การจะทำให้ชาติตะวันตกยอมรับเครื่องไฮบริดนั้นยากมาก
คอมเม้นต์ตามยูทูป มักจะดูถูกว่าไฮบริดเป็นรถสำหรับป้าแก่ๆ วัยเกษียณ
คุณแม่บ้านที่ขับรถเต่าคลาน ขับไม่เก่งชนนั่นเสยนี่
รถเพื่อชาวเก้ง กวาง บ่าง ชะนี บลาๆๆๆๆ
คนอเมริกัน ยังคงชอบรถเครื่องใหญ่ รถมินิแวน รถ SUV ไว้วิ่งข้ามรัฐกันอยู่
ยุโรปเองก็ไม่ต่างกัน แต่ดีหน่อยที่รู้จักพลิกแพลง
เอาเครื่องมาหดขนาดเพื่อให้ประหยัด แล้วยัดหอยแทน
ความสนุกในการขับขี่เลยเสียไปไม่มาก
-
รถอะไรสวยจัง ภายในหยั่งกับยานอวกาศ ;)
-
ขอบคุณครับ
เซอร์ไพร์มาก :o
-
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
เจ๋ง มาก อ่ะ ;D
-
สิ่งที่สำคัญถ้านำเข้ามาขายก็คือราคา ว่าจะเท่าไหร่ และถ้าเติมน้ำมันเต็มถังวิ่งร่วมกับไฟฟ้า โดยใช้การทดสอบของคุณจิมมี่ จะใช้น้ำมันเท่าไหร่หนอ อยากรู้จัง 8) 8)
-
คุณ J!MMY คิดเหมือนผมเลยครับผม
ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายยุคสมัยจากเชื้อเพลิงน้ำมันไปสู่พลังงานไฟฟ้า
แล้วภายใน 20 ปีคนจะใช้รถไฟฟ้ากันทั้งเมือง
...โหห ตอนนั้นผม 53~!! >__<
-
ตอนนี้กฟฝ.ไม่ได้พึ่งพิงการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเตาแล้วนะครับ เพราะว่าน้ำมันเตาก่อมลพิษสูงครับ จะคงมีไว้สำรองในกรณีฉุกเฉินจริงๆเท่านั้นครับ ทุกวันนี้ทั้งตัวกฟฝ.เองและเอกชนที่ได้รับสัมปทาน จะใช้ ก๊าซธรรมชาติกันทั้งนั้นครับ เพราะสะอาดกว่ามาก และเครื่อง Gas turbine มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากแล้วครับ ยิ่งเป็นระบบ combine cycle จะยิ่งดีขึ้นไปอีกครับ ในตอนนี้โรงไฟฟ้ากำลังพุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องไฟฟ้าเท่าไหร่ครับ ไฟฟ้าพอใช้แน่นอน แต่นานเท่าใดนั่นคือคำถามที่ควรคิดครับ
-
ผมชอบรถยนต์ไฟฟ้าครับ ระบบไหนก็ได้ ขอแค่
ชาร์จไฟด่วนไม่ควรเกิน 10 นาที และ วิ่งได้สัก 200 km ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซื้อขนม เข้าห้องน้ำ เสร็จพอดี
อนาคตก็ชาร์จไฟที่ปั๊มน้ำมันนั่นแหละครับ
-
คำถามอาจนอกเรื่องไปนิดน่ะครับ อยากทราบว่า plug-in prius จะมีแววได้เอามาเปรียบเทียบกับ volt ไหมครับ
ทราบว่าโอกาสที่ volt เข้ามาจำหน่ายบ้านเราน้อยมาก แค่นี้ก็ดีใจที่คนไทยมีตัวแทนได้สัมผัสและนำเสนอรายงานให้ประชาชนทั่ว ๆ ไปทราบแค่นี้ผมว่าได้รับโอกาสที่ดีแล้วครับ ต้องขอบคุณด้วยครับ
แล้วรถไฟฟ้าประเภท DIY นี่บ้านเราจะมีโอกาสเกิดบ้างไหมหนอ เมื่อนโยบายภาครัฐไม่ยอมสนับสนุนภูมิปัญญาชาวบ้าน อย่างไรก็เจริญช้าครับ ความรู้ส่วนใหญ่เกิดจากการลอกเลียนแบบและปรับปรุง มีเป็นตัวอย่างอยู่รอบตัว อยากเห็นคนไทยเก่งกว่าทุกวันนี้ครับ
-
ขอบคุณครับ ถึงว่า 2-3 วันก่อนเห็นรถคลุมผ้าซะมิดเลยที่ลานจอดของ GM เจ้านี่นี่เอง
-
ขอบคุณครับพี่ JiMMY
ปล.สรุปยาวมากๆ ฮาๆ ::)
-
น่าเสียดายกับปัญหาไฟฟ้าเหมือนกัน
เพราะทุกวันนี้ การใช้พลังงานไฟฟ้าในไทย ก็เต็มเพดานแล้ว
จนมีคนบางกลุ่มเรียกร้องให้เก็บภาษีแอร์ด้วยซ้ำไป
หากรถไฟฟ้าเต็ม บ้านเมืองจะเอา การไฟฟ้าจะเอาไฟฟ้าที่ไหนมาจ่ายไฟให้
จริงอยู่ที่อาจจะลดการนำเข้าน้ำมัน
แต่หากพลังงานไฟฟ้าไม่พอ โรงไฟฟ้าก็ต้องนำน้ำมันนั่นแหละมาปั่นไฟ
เหมือนงูกินหางยังไงไม่รู้ แม้จะกินไม่เต็มปากก็ตาม ....
คิดมากเกินไปหรือป่าวครับ เค้าบอกอยู่ว่า กินไฟ น้อยกว่า ตู้เย็นอีกครับ เหอๆ
-
ผมว่ารถคันนี้มันไกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด เพราะตราบใดที่ภาครัฐยังไม่ส่งเสริมอย่างจริงจัง มันคงไม่มีสถานีให้เสียบปลั๊กหรอก...แต่หากจำหน่ายจริงรุ่นนี้น่าสนที่สุด ประหยัดน้ำมันสุด...ราคาคิดไว้เลยว่าล้านขึ้นแน่นอน แพงกว่าพรีอุสชัวร์
-
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆครับพี่จิม ผมชอบตอนที่พี่สรุปตอนท้ายมากมองเห็นภาพเลย หวังว่าอนาคตอีกไม่นานนี้เราจะพร้อมสำหรับรถแบบนี้นะครับ
-
เรื่องดีไซน์นี่ ล้ำยุดทั้งภายในและภายนอก สวยงามมว๊ากกกกกก
ชนะขาด พรีอุสไฟฟ้า
น่าใช้จัง
-
ขอบคุณสำหรับ review ดีๆที่มีมาเรื่อยๆครับ
ผมชอบตรงเนี่ย --> "ลูก มึง แดกผักซะ" hahaha ;D
-
เอามาตรฐานทดสอบการชนมาฝากครับ
หาของ volt ไม่เจอ เอาแฝดไปดูก่อนนะครับ น่าจะเหมือนกัน ต่างกันที่หน้าตา
http://www.youtube.com/watch?v=m5Aj_UodcaY
-
MUST HAVE ครับ
-
น่าใช้โคตรๆ ภายในเท่มาก
-
น้ำมัน 35.2 ลิตร กับ Full Battery วิ่งได้ 570 km
แปลว่า ถ้าขับทางไกล 570 km จะกินน้ำมันอยู่ที่ 16.19 km/l โดยที่ 70 km แรก วิ่่งโดย ไม่ใช้น้ำมัน
แต่หลังจาก 70 km แรกแล้ว เมื่อ แบตหมด 1.4L จะทำงาน และ จะวิ่งได้อีก ประมาณ 500 km โดยที่ 500 km หลัง จะกินน้ำมัน เฉลี่ย = 500(Km)/35.2(ลิตร) = 14.2 km/l
* ความเห็นส่วนตัว ผมว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Prius Plug-in Hybrid ที่มีความ Flexible มากกว่า ทั้ง ขับในเมืองและทางไกล
ที่นอกจากแบตที่ สามารถ ถูกชาร์จ ได้เอง จากการขับขี่แล้ว แบตยัง สามารถ เสียบ ชาร์จ ได้ได้ตรงจากไฟบ้านเช่นกัน แถม อัตราสิ้นเปลือง เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมัน ยังทำได้ดีกว่ามาก
-
สวยบาดใจมาก
-
ภายในทำออกมาหน้าตาดูดีแฮะ
-
เคยเจอเจ้านี่ขับอยู่ในซอยแถวบ้าน เห็นไฟท้ายสวยดี ตัวจริงดูเหมือนจะใหญ่กว่าดูในรูป
เห็นแล้วอยากได้ ไฟท้ายสวย แต่ที่บ้านมี เชฟ อยู่คัน เซ็งช่างมากๆ
รอดู plug in brand อื่น
-
บั้นท้ายดินระเบิด เห็นแล้วก็อดนึกถึง GT-R ไมไ่ด้
สวยครับ
(http://www.motortrivia.com/section-global-news-02/239-chevrolet-volt/gallery/chevrolet-volt-2011-08.jpg)
(http://www.ausmotive.com/images/Nissan-GTR-01.jpg)
-
ไม่รู้คนที่เท่าไหร่
แต่
แล้วถ้าเติมน้ำมันปกติละ ใช้น้ำมันอะไรได้บ้าง?
อะไรก็ตามที่เป็นเบนซิน ครับ ตั้งแต่ เบนซิน 95 ขึ้นไป แก็สโซฮอลล์ 95 E10 E20 เติมได้สูงสุดถึง E85
กันเลยทีเดียว แต่ ใครอย่าได้ผ่าไปเติม Diesel หมุนเร็ว หรือหมุนช้า หรือหมุนไปตามเรื่องตามราวตาม
ราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์เชียวละ..แล่นออกจากปั้มได้ ไม่กี่อึดใจ สะดุดกึก ล้างถังชัวร์ๆ
ฮาสถานเดียวครับ
-
ขอบคุณสำหรับ รีวิว ดีดี ครับ ;D
-
หน้าตาสวยงาม ระบบโอเค
ผมว่าถ้าไทยจะเริ่มมีรถเสียบปลั๊ก ก็ควรเริ่มจากเจ้านี่แหละครับ
แต่ผมว่าถ้าขับทางไกล มันก็เหมือนรถแก๊สดีๆนี่เอง ดูจากการใช้น้ำมัน ถ้าวิ่งเกิน 250 กิโล กลายเป็นรถแก๊สถูกกว่าแล้วนี่สิ เหมาะไว้วิ่งในเมืองเป็นหลักจริงๆ *-*
-
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิว
-
Corp คอนโซลกลางมาซะนึกว่า PC ตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ที่สุดในโลก!!!!
สวยสุดยอดจริงๆ
-
ดูเหมือนว่าจะประหยัดแค่ 70 กม.แรกเท่านั้นนะครับ หลังจากนั้นพอต้องอาศัยเครื่องยนต์ปั่นไฟเข้าแบตเพื่อขับเคลื่อนตัวถังหนักๆกลายเป็นว่าไม่ได้ประหยัดมาก แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในยุคนี้เพราะไม่ได้มีสถานีชาร์จไฟอย่างแพร่หลาย หากขับทางไกลจะได้ไม่ต้องกินข้าวลิง :D อนาคตอาจจะมีระบบอัดอากาศเข้ามาช่วย หรืออาจจะใช้แก๊ส CNG แทนจะได้ประหยัดแต่รถคงหนักทะลุ 2 ตันแน่เลย
เรื่องการใช้ไฟฟ้า ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลสามารถดำเนินโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้จะทำให้ประเทศเรามีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอและราคาถูก การเดินทางด้วยรถ EV ก็จะมีค่าใช้จ่ายน้อยลงและแพร่หลายมากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้อีกมหาศาลเลยครับ ติดอยู่แต่เรื่องการประท้วงของพวกเอ็นจีโอนั่นแหละ ???
-
เป็นอีกตัวที่ผมสนใจมากกว่า Nissan Leaf ครับ หน้าตาถูกจริตเสียจริง ;D
แต่ตอนนี้ขอเป็นกำลังเล็กๆช่วยลดพลังงานครับ เพราะเปลี่ยนมาขับ Prius แล้ว รู้สึกดีขึ้นครับเวลารถติดแล้วเครื่องดับ แต่ยังมีไฟ มีแอร์ใช้ โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น
กว่าเข้า Volt จะพร้อม ตอนนั้นผมคงเปลี่ยนรถพอดี ถ้า Prius Plugin ไม่มาซะก่อนนะ
ขอบคุณมากสำหรับเซอร์ไพรส์ครับ ;)
-
อ่านรีวิว แล้วอยากเดิน เข้าโชว์รูมไปซื้อทันทีเลยครับ ;D
-
แต่ถ้าคิดว่า วิ่งไปทำงาน ไปกลับวันละ 40โล กลับถึงบ้านก็ชาร์ตแบต
ก็เท่าากับ เราไม่ต้องเติมน้ำมัน ทั้งเดือนเลยนะครับ
-
มันจะมาเมีอไรคับผมก็อยากได้หละคับผม
-
ผมว่าภายในcruze ltzสวยกว่านะ
ส่วนที่วิ่งได้70กม.ต่อการชาร์จ1ครั้งก้เพียงพอต่อการวิ่ง1วัน แต่จะให้ดีอยากให้ไปได้ไกลกว่านี้ซักหน่อย
-
น้ำมัน 35.2 ลิตร กับ Full Battery วิ่งได้ 570 km
แปลว่า ถ้าขับทางไกล 570 km จะกินน้ำมันอยู่ที่ 16.19 km/l โดยที่ 70 km แรก วิ่่งโดย ไม่ใช้น้ำมัน
แต่หลังจาก 70 km แรกแล้ว เมื่อ แบตหมด 1.4L จะทำงาน และ จะวิ่งได้อีก ประมาณ 500 km โดยที่ 500 km หลัง จะกินน้ำมัน เฉลี่ย = 500(Km)/35.2(ลิตร) = 14.2 km/l
* ความเห็นส่วนตัว ผมว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Prius Plug-in Hybrid ที่มีความ Flexible มากกว่า ทั้ง ขับในเมืองและทางไกล
ที่นอกจากแบตที่ สามารถ ถูกชาร์จ ได้เอง จากการขับขี่แล้ว แบตยัง สามารถ เสียบ ชาร์จ ได้ได้ตรงจากไฟบ้านเช่นกัน แถม อัตราสิ้นเปลือง เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมัน ยังทำได้ดีกว่ามาก
ความรู้สึกเหมือนโดนหลอก ถ้าจะมาเทียบกันเรื่องความประหยัด พรีอุส อีโคคาร์ทุกรุ่น bและd เซกเมนต์บ้างตัวก็กินขาดสิครับ
ทั้งๆที่ volt เองก็ออกแบบมาแนวรักโลกทั้งเทคโนโลยีก็มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก แต่ทำไมตัวเลขที่ออกมาไม่รักโลกเลย
แบบนี้คงเหมาะกับชับในเมืองระยะ 70-80 กิโลเมตร เสียบปลั๊กชาร์ทอย่างเดียว พอออก ตจว อัตตราการซดก็ไม่ต่างจากรถธรรมดาสักเท่าไหร่ สรุปว่ามีดีแค่ สวย แรง แล้วก็ปล่อยมลพิษน้อย เท่านั้นเอง
-
แต่ถ้าคิดว่า วิ่งไปทำงาน ไปกลับวันละ 40โล กลับถึงบ้านก็ชาร์ตแบต
ก็เท่าากับ เราไม่ต้องเติมน้ำมัน ทั้งเดือนเลยนะครับ
ผมสนใจ ถ้าตามนี้เป็นจริงครับ เพราะทุกวันนี้ไป กลับประมาณ 75Km
ถ้าเสียบปลั๊กอย่างเดียวเสียแค่ 45 บาท < คุ้มมากครับ
-
แต่ถ้าคิดว่า วิ่งไปทำงาน ไปกลับวันละ 40โล กลับถึงบ้านก็ชาร์ตแบต
ก็เท่าากับ เราไม่ต้องเติมน้ำมัน ทั้งเดือนเลยนะครับ
ผมสนใจ ถ้าตามนี้เป็นจริงครับ เพราะทุกวันนี้ไป กลับประมาณ 75Km
ถ้าเสียบปลั๊กอย่างเดียวเสียแค่ 45 บาท < คุ้มมากครับ
แต่ผมว่าถ้าตามนี้ leaf ตอบโจทย์มากกว่าครับ
ถ้าให้เลือกระหว่าง2ตัวนี้ผมเลือกleafครับ
-
น้ำมัน 35.2 ลิตร กับ Full Battery วิ่งได้ 570 km
แปลว่า ถ้าขับทางไกล 570 km จะกินน้ำมันอยู่ที่ 16.19 km/l โดยที่ 70 km แรก วิ่่งโดย ไม่ใช้น้ำมัน
แต่หลังจาก 70 km แรกแล้ว เมื่อ แบตหมด 1.4L จะทำงาน และ จะวิ่งได้อีก ประมาณ 500 km โดยที่ 500 km หลัง จะกินน้ำมัน เฉลี่ย = 500(Km)/35.2(ลิตร) = 14.2 km/l
* ความเห็นส่วนตัว ผมว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Prius Plug-in Hybrid ที่มีความ Flexible มากกว่า ทั้ง ขับในเมืองและทางไกล
ที่นอกจากแบตที่ สามารถ ถูกชาร์จ ได้เอง จากการขับขี่แล้ว แบตยัง สามารถ เสียบ ชาร์จ ได้ได้ตรงจากไฟบ้านเช่นกัน แถม อัตราสิ้นเปลือง เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมัน ยังทำได้ดีกว่ามาก
ความรู้สึกเหมือนโดนหลอก ถ้าจะมาเทียบกันเรื่องความประหยัด พรีอุส อีโคคาร์ทุกรุ่น bและd เซกเมนต์บ้างตัวก็กินขาดสิครับ
ทั้งๆที่ volt เองก็ออกแบบมาแนวรักโลกทั้งเทคโนโลยีก็มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก แต่ทำไมตัวเลขที่ออกมาไม่รักโลกเลย
แบบนี้คงเหมาะกับชับในเมืองระยะ 70-80 กิโลเมตร เสียบปลั๊กชาร์ทอย่างเดียว พอออก ตจว อัตตราการซดก็ไม่ต่างจากรถธรรมดาสักเท่าไหร่ สรุปว่ามีดีแค่ สวย แรง แล้วก็ปล่อยมลพิษน้อย เท่านั้นเอง
ผมดูว่าถ้าระยะทางแค่ 70 โลแรกยังไงก็เหนือกว่าพรีอุสปลั๊กอินไฮบริดแน่ๆครับ แต่เมื่อดูจากข้อเท็จจริงจากวิกิพีเดียดังนี้
The Prius plug-in total all-electric range in blended mode is 11 mi (18 km) as rated by the U.S. Environmental Protection Agency (EPA), has an expected total range of 540 miles (870 km), and a maximum electric-only speed of 62 mph (100 km/h).[3] The lithium-ion battery pack can be charged in 180 minutes at 120 volts or in 90 minutes at 240 volts.[7] According to Toyota the Prius plug-in is expected to be rated in Europe at 112 mpg-US (2.10 L/100 km; 135 mpg-imp) equivalent, with CO2 emissions of 49 g/km.[1][8] The EPA fuel economy rating is 95 miles per gallon gasoline equivalent (MPG-e) (2.5 L/100 km; 114 mpg-imp) in all-electric mode and a combined city/highway rating of 50 mpg-US (4.7 L/100 km; 60 mpg-imp) in hybrid mode, the same as the conventional Prius liftback.[3]
ความจุถังน้ำมันรุ่นปลั๊กอินจะเท่ากับรุ่นสแตนดาร์ดที่ 40 ลิตร (ข้อมูลจากเว็บที่อเมริกาบอกว่า 10.6 แกลลอน) ถ้าวิ่งได้ 870 กม.จริงๆตามวิกิพีเดีย ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองทั้งถังอยู่ที่ 21.75 กม/ลิตร ซึ่งก็ไม่ต่างจากพรีอุสปกติมากมายอย่างที่คิด ที่ใช้อยู่ในเมืองก็ได้ 600 โล ออกนอกเมืองก็ได้ 790-800 ต้นๆอยู่แล้ว ตีเฉลี่ยว่าถังนึงวิ่งได้ 700-800 ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองของรุ่นปกติอยู๋ที่ประมาณ 17.5 - 20 กม/ลิตร)
สำหรับ Volt
According to General Motors the Volt's all-electric range with fully charged batteries varies from 25 to 50 miles (40 to 80 km) depending on terrain, driving technique, and temperature.[16][76] The Environmental Protection Agency (EPA) official all-electric range is 35 miles (56 km) with an energy consumption of 36 kWh per 100 miles (810 kJ/km). This range is based on the agency's five-cycle tests using varying driving conditions and climate controls. The total range with a full tank of gasoline and a fully charged battery is 379 miles (609.9 km) according to EPA tests.[77][78]
The Volt's fuel tank capacity is 9.3 US gallons (35 l; 7.7 imp gal) and once the car runs out of fuel, the gasoline-powered generator shuts down, and the Volt taps into the battery for extra power. The reserve battery power is designed to provide an extra 3 to 4 mi (4.8 to 6.4 km) of range once the gasoline tank is depleted. When the reserve battery power is low, the Volt slows to a stop.[79]
เอามาจาก Wiki เช่นกัน เอา 609.9กม หารด้วย 35 ลิตร จะได้ 17.43 กม/ลิตร
หากนำมาเทียบกันแล้ว เมื่อคิดด้วยระยะทางต่อถังสูงสุดที่วิ่งได้แบบนี้ ผมว่า Prius ที่วิ่งกันอยู่ทุกวันนี้ก็ดูจะประหยัดกว่าทันที ยกเว้นแต่คุณจะเอา Volt มาวิ่งในระยะทางไปกลับบ้าน-ที่ทำงานแค่ระยะทางสั้นๆ น้ำมันยังไม่ทันได้ใช้ แบบนั้นจะได้เปรียบและเหนือกว่าพรีอุสแน่นอน
งานนี้ผมว่าสูสี อยู่ที่ราคาแล้วหละ ;D
-
เพิ่มเติม นำมาให้ดูเทียบกัน (พรีอุสชาร์จไฟเต็ม 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น!!! เพราะแบตลูกเล็กด้วยแหละครับ) เมื่อวิ่งน้ำมันล้วน พรีอุสทำได้ถึง 50 mpg (21.26km/l)
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/6/64/Toyota_Prius_Plug-in_EPA_label.png)
อันนี้ของ Volt แม้ว่าจะประหยัดเงินน้อยกว่าพรีอุสปลั๊กอิน แต่ค่าน้ำมันต่อปีก็ถูกกว่ากัน 50 ดอลล่า วิ่งด้วยน้ำมันล้วนทำได้เพียง 15.73 km/l เท่านั้นเอง (37mpg)
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/d0/2013_Chevrolet_Volt_EPA_sticker.png)
ดูๆไปดูๆมา ผมว่าเราไปคิดว่ามันเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งได้ 500km+ เลยดูว่ามันเทพมากๆ แต่พอเทียบกับ plug in hybrid ที่มันควรจะเป็นแล้ว มันก็ไม่ได้เหนือไปกว่ากันเลย ต้องชมเชยคุณ werawit ที่คำนวนออกมาทำให้ผมและหลายๆคนฉุกคิดว่า เออ พอคำนวนออกมาจริงๆมันไม่ได้ประหยัดเทพขนาดนั้นนี่หว่า แต่ยังไงเสียก็ยังจัดเป็นรถที่น่าสนใจและเป็นความหวังแห่งยุคหน้าอย่างแท้จริงแหละครับ อยากให้เข้าไทยมา และโตโยต้านำพรีอุสปลั๊กอินเข้ามาขายด้วย น่าจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดรถแบบนี้โตมากขึ้นแน่นอนครับ
ปล. วิเคราะห์ผิดถูกขออภัย แต่ถ้าไม่ถูกใจรบกวนช่วยใช้เหตุผลติชมครับ :)
-
สวยว๊าวๆๆ
-
น้ำมัน 35.2 ลิตร กับ Full Battery วิ่งได้ 570 km
แปลว่า ถ้าขับทางไกล 570 km จะกินน้ำมันอยู่ที่ 16.19 km/l โดยที่ 70 km แรก วิ่่งโดย ไม่ใช้น้ำมัน
แต่หลังจาก 70 km แรกแล้ว เมื่อ แบตหมด 1.4L จะทำงาน และ จะวิ่งได้อีก ประมาณ 500 km โดยที่ 500 km หลัง จะกินน้ำมัน เฉลี่ย = 500(Km)/35.2(ลิตร) = 14.2 km/l
* ความเห็นส่วนตัว ผมว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Prius Plug-in Hybrid ที่มีความ Flexible มากกว่า ทั้ง ขับในเมืองและทางไกล
ที่นอกจากแบตที่ สามารถ ถูกชาร์จ ได้เอง จากการขับขี่แล้ว แบตยัง สามารถ เสียบ ชาร์จ ได้ได้ตรงจากไฟบ้านเช่นกัน แถม อัตราสิ้นเปลือง เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมัน ยังทำได้ดีกว่ามาก
ความรู้สึกเหมือนโดนหลอก ถ้าจะมาเทียบกันเรื่องความประหยัด พรีอุส อีโคคาร์ทุกรุ่น bและd เซกเมนต์บ้างตัวก็กินขาดสิครับ
ทั้งๆที่ volt เองก็ออกแบบมาแนวรักโลกทั้งเทคโนโลยีก็มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก แต่ทำไมตัวเลขที่ออกมาไม่รักโลกเลย
แบบนี้คงเหมาะกับชับในเมืองระยะ 70-80 กิโลเมตร เสียบปลั๊กชาร์ทอย่างเดียว พอออก ตจว อัตตราการซดก็ไม่ต่างจากรถธรรมดาสักเท่าไหร่ สรุปว่ามีดีแค่ สวย แรง แล้วก็ปล่อยมลพิษน้อย เท่านั้นเอง
ผมดูว่าถ้าระยะทางแค่ 70 โลแรกยังไงก็เหนือกว่าพรีอุสปลั๊กอินไฮบริดแน่ๆครับ แต่เมื่อดูจากข้อเท็จจริงจากวิกิพีเดียดังนี้
The Prius plug-in total all-electric range in blended mode is 11 mi (18 km) as rated by the U.S. Environmental Protection Agency (EPA), has an expected total range of 540 miles (870 km), and a maximum electric-only speed of 62 mph (100 km/h).[3] The lithium-ion battery pack can be charged in 180 minutes at 120 volts or in 90 minutes at 240 volts.[7] According to Toyota the Prius plug-in is expected to be rated in Europe at 112 mpg-US (2.10 L/100 km; 135 mpg-imp) equivalent, with CO2 emissions of 49 g/km.[1][8] The EPA fuel economy rating is 95 miles per gallon gasoline equivalent (MPG-e) (2.5 L/100 km; 114 mpg-imp) in all-electric mode and a combined city/highway rating of 50 mpg-US (4.7 L/100 km; 60 mpg-imp) in hybrid mode, the same as the conventional Prius liftback.[3]
ความจุถังน้ำมันรุ่นปลั๊กอินจะเท่ากับรุ่นสแตนดาร์ดที่ 40 ลิตร (ข้อมูลจากเว็บที่อเมริกาบอกว่า 10.6 แกลลอน) ถ้าวิ่งได้ 870 กม.จริงๆตามวิกิพีเดีย ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองทั้งถังอยู่ที่ 21.75 กม/ลิตร ซึ่งก็ไม่ต่างจากพรีอุสปกติมากมายอย่างที่คิด ที่ใช้อยู่ในเมืองก็ได้ 600 โล ออกนอกเมืองก็ได้ 790-800 ต้นๆอยู่แล้ว ตีเฉลี่ยว่าถังนึงวิ่งได้ 700-800 ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองของรุ่นปกติอยู๋ที่ประมาณ 17.5 - 20 กม/ลิตร)
สำหรับ Volt
According to General Motors the Volt's all-electric range with fully charged batteries varies from 25 to 50 miles (40 to 80 km) depending on terrain, driving technique, and temperature.[16][76] The Environmental Protection Agency (EPA) official all-electric range is 35 miles (56 km) with an energy consumption of 36 kWh per 100 miles (810 kJ/km). This range is based on the agency's five-cycle tests using varying driving conditions and climate controls. The total range with a full tank of gasoline and a fully charged battery is 379 miles (609.9 km) according to EPA tests.[77][78]
The Volt's fuel tank capacity is 9.3 US gallons (35 l; 7.7 imp gal) and once the car runs out of fuel, the gasoline-powered generator shuts down, and the Volt taps into the battery for extra power. The reserve battery power is designed to provide an extra 3 to 4 mi (4.8 to 6.4 km) of range once the gasoline tank is depleted. When the reserve battery power is low, the Volt slows to a stop.[79]
เอามาจาก Wiki เช่นกัน เอา 609.9กม หารด้วย 35 ลิตร จะได้ 17.43 กม/ลิตร
หากนำมาเทียบกันแล้ว เมื่อคิดด้วยระยะทางต่อถังสูงสุดที่วิ่งได้แบบนี้ ผมว่า Prius ที่วิ่งกันอยู่ทุกวันนี้ก็ดูจะประหยัดกว่าทันที ยกเว้นแต่คุณจะเอา Volt มาวิ่งในระยะทางไปกลับบ้าน-ที่ทำงานแค่ระยะทางสั้นๆ น้ำมันยังไม่ทันได้ใช้ แบบนั้นจะได้เปรียบและเหนือกว่าพรีอุสแน่นอน
งานนี้ผมว่าสูสี อยู่ที่ราคาแล้วหละ ;D
ผมว่าเอามาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ เพราะโดยหลักการแล้วถึงแม้รถทั้งสองจะเป็นplug-in hybridเหมือนๆกัน แต่prius plug-inวิ่งโดยใช้แบตอย่างเดียวได้แค่18km แปลว่ายังไงๆโตโยต้าก็คิดให้เครื่องยนต์hybridเป็นพระเอกในการขับเคลื่อน ส่วนplug-inเป็นแค่พระรองช่วยเสริมความประหยัดเท่านั้น
ส่วนvoltวิ่งได้มากสุดถึง80km แปลว่ามันสามารถวิ่งโดยใช้ไฟฟ้าเพียวๆได้เพียงพอในการเดินทาง1วัน เหมือนกับใช้ไฟฟ้าเป็นพระเอกในการขับเคลื่อน แล้วใช้ระบบserial hybridเป็นพระรองคอยเสริมแค่นั้น ดังนั้น คู่แข่งของvoltน่าจะเป็นรถไฟฟ้าอย่างleafมากกว่า
ทีนี้ลองคิดถึงรถที่วิ่งได้ด้วยไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ถ้าฉุกเฉินจริงๆคุณก็สามารถใช้น้ำมันวิ่งได้ เพียงเพื่อไปหาสถานที่ชาร์จเท่านั้น voltเป็นแบบนั้นแหละครับ
ไม่ต้องไปคิดถึงอัตราสิ้นเปลืองตอนใช้น้ำมันหรอกครับ ลองคิดถึงรถบ้านติดแก๊สcngดูถ้าแก๊สหมดคุณก็ยังสามารถใช้น้ำมันวิ่งต่อไปจนกว่าจะหาแก๊สเติมได้ แต่คงไม่มีใครบ้าวิ่งโดยใช้น้ำมันไปเรื่อยๆจริงไหม ดังนั้น ในเรื่องความประหยัด ผมเชื่อว่ายังไงๆvoltก็เหนือกว่าprius plug-in ครับ
-
สำหรับผมแล้วคิดว่า ปีนึงจะมีสักกี่วันกันเชียวที่วิ่งเกิน 80 โล (ถ้าเป็นคนใช้รถ 200-300โลทุกวันก็แล้วไป ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเค้าอยู่แล้ว)
ถึงวันไหนวิ่งเกินเล็กน้อยเอามาถัวเฉลี่ยกับ 80 โลแรกก็โคตรถูกอยู่ดี
แต่ยังเผื่อว่าถ้าต้องวิ่งทางไกลก็ไปได้โดยอาจไม่ได้ประหยัดกว่ารถนำ้มันธรรมดาเลยนั่นแหละ (จะวิ่งเดือนละกี่วันเชียว)
ถ้าเป็นไฟฟ้า 100% ก็จะวิ่งไกลไม่ได้ หรือต้องพึ่งรัฐให้วางจุดชาร์จเพียงพอเสียก่อน ซึ่งลำบากมาก
ต้องดูจุดประสงค์ของรถและการใช้งานจริงให้ออก เอาระยะทางไกลๆมานั่งหารอัตรากินนำ้มัน ไม่แฟร์หรอกครับ
มันก็เหมือนกับถ้าเอา prius กับ eco car มานับตัวเลขกันเฉพาะทางไกลอย่างเดียวนั่นแหละ(เทียบตาม review คุณจิมมี่) คุ้มซื้อ prius รึเปล่าหละ
แต่การใช้งานจริง prius คงกระเดือกนำ้มันน้อยกว่ามาก เพราะยังไงรถก็ต้องหยุด ต้องใช้ความเร็วต่ำ ต้องมีรถติด มากกว่าการวิ่งยาวๆนักแล
นั่นคือข้อสรุปของผม และคิดว่าเป็นจุดประสงค์การใช้งานหลักของเจ้า volt ด้วย
-
ถ้ามาจะราคาสูงป่ะน๊า ??? ??? ???
-
อ่านจากที่หลายๆคนวิเคราะห์แล้ว ถ้าราคาออกมาอยู่ที่ 0.9-1.2M ผมว่าน่าจะขายดีอยู่นะครับ ทีนี้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นๆแล้วครับ ราคาอะไหล่เอย, ความชำนาญของช่างศูนย์เอย ผมหล่ะคนนึงถ้าออกมาเร็วๆนี้แล้ว ราคาอยู่ประมาณนี้จะยอมเป็นหนูให้เอง ;D
-
เรื่องราคานี้ผมไม่รู้ แต่ยังไงก้ต้องแพงกว่าleafครับ เพราะมัยคือleaf+เครืองปั่นไฟ ;D
-
อยากลองขับมั้งจัง ;D ;D ;D
-
จริงๆแล้ว เหตุผลที่ทำให้ Volt วิ่งได้ในระยะทางที่มากกว่า เป็นเพราะแบตเตอรี่ควาจุสูงมาก ถึง 16 กิโลวัตต์
โดยผมอิงจากเว็บไซต์ http://www.siamev.com/index.php?mo=10&art=633158 (http://www.siamev.com/index.php?mo=10&art=633158) นี้
ที่มีการทนำเข้าแบตเตอรี่พรีอุส เข้ามาขายและทำการดัดแปลงเป็น prius plug-in
โดยแบตเตอรี่ เพียง 8 กิโลวัตต์ สามารถขับเคลื่อนพรีอุสไปได้ไกลถึง 70 กิโลเมตร ที่ความเร็วประมาณ 60 กม/ชม
จากจุดที่สามารถบอกได้ว่ามอเตอร์ไฟฟ้าของพรีอุสมีการกินกระแสน้อยกว่า และหากใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุเท่ากัน จะทำให้พรีอุสวิ่งได้ไกลกว่าอย่างแน่นอน
-
Tesla Roadster รถไฟฟ้า100% เข้าไทยรวมภาษีแล้ว ขายอยู่8,500,000 บาท แล้วVolt รถไฟฟ้า70% จะโดนภาษาเท่าไหร่หว่า - -*
มันสามารถชาร์จไฟกลางฝนได้มั้ยครับเนี่ย? รถน่าใช้แต่ถ้าเอาเทคโนโลยีขนาดนี้มาประกอบในไทยก็คงต้องขอตัวลา เพราะแค่เครื่องสันดาปปกติ บางคันยังเจอปัญหาจากการประกอบอยู่เลย :-X :-X :-X