Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kritsnutty ที่ ตุลาคม 26, 2012, 22:06:17
-
ตอนนี้เหลือรถตัวเลือกคือ all new dmax กับ ranger 2.2 จนกระทั่งได้มีโอกาสขับทั้ง 2 รุ่น คือ t6 2.2 กับ all new 2.5 zp a/t
ปรากฎว่า t6 สอบผ่านฉลุยในเรื่องความประทับใจในการขับ ปรูดปราด สะใจ กดเป็นมา คันเกียร์ระยะชักสั้น เร่งแซงได้ดั่งใจมากๆ
แต่ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยประทับใจใน new dmax 2.5 Zprestige(at) HR double cab มันออกจะเชื่อยชาไปซักนิด รอรอบจนถึง 2000 ถึงจะมา ทำให้ความสนุกในการขับขี่ หายไปพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบอุปกรณ์ในรุ่น Zprestige และการจัดวางห้องโดยสารของเจ้า all new มากกว่า จึงทำให้คิดว่าต้องไปลอง 3.0 m/t ให้ได้ และถ้าขับไม่สนุกก็จะ บอกลา all new
จนมีโอกาสได้ลอง 3.0 Zprestige(MT) HR double cab ก็ได้คำตอบสำหรับการเลือกรถคู่ใจในครั้งนี้
เมื่อก้าวแรกที่เข้าไปนั่ง ก็เกิดความแตกต่างจากเจ้า 2.5 ZP(at) อย่างชัดเจนอย่างแรกคือ เบาะหนังสีน้ำตาลเข้ม สวยกว่าเบาะผ้าในรุ่น 2.5 ZP(at) มากเลยทีเดียว จากนั้นผมก็ต้องปรับตำแหน่งนั่งคนขับ ปรากฏว่าเป็นการปรับแบบไฟฟ้า ตอนแรกก็งงๆ แต่มันก็ใช้ง่ายเกินคาด กดหน้า หลัง บน ล่าง ขึ้น ลง แค่เนี้ย มันให้ความแม่นยำมากกว่าการกดปรับเบาะนั่งแบบกลไก ที่ดูมันจะปรับเป็นล๊อกๆ แต่แบบไฟฟ้าจะเป็นแบบราบลื่น ไม่ได้เป็นช่วงๆ จากนั้นก็มาเจอกับเกียร์กระปุก คันเกียร์ไม่สั้น ไม่ยาว ส่วนที่เหลือเหมือนกับ 2.5 ZP(at) ไม่ว่าจะเป็น แอร์ิิออโต้ เครื่องเสียงkenwood ลำโพง8ตัว navi กล้องมองหลัง ESC TCS ซึ่งผมก็ไม่รู้จักมันหลอก
ลองขับ
เข้าเกียร์1 ออกรถ ไม่มีอาการอุ้ยอ้ายแบบ 2.5 ZP(at) มันหายไปเลย แม้จะไม่ปรูดปราดแบบt6ก็เหอะ ผลน่าจะมาจากการที่เป็นเกียร์กระปุกและเครื่อง3.0 บวกกับม้า 177 ตัว ถ้าเข้าเกียร์ต่อเนื่องถูกจังหวะ รถคันนี้ก็ตอบสนองได้แบบเหลือๆ แม้พวงมาลัยจะไม่กระฉับกระเฉงแบบ t6 แต่พอรถออกตัวแล้วมันก็เป็นพวงมาลัยที่เหมาะสมกับการขับขี่เลยทีเดียว
การเร่งแซงที่ความเร็ว 60,80,100 km/h ถือว่ามันมากๆ แตกต่างกันแบบหน้ามือหลังมือเลย กับ2.5 ZP(at) ที่มีม้า 136 ตัว
จากนั้นลองออกรถที่เกียร์ 2 ปรากฎว่าออกได้สบายๆในขณะที่มีคนนั่ง4คน บนรถ และที่ความเร็ว 140 km/h รถยังมีความกระฉับกระเฉงแสดงว่ายังมีพลังอีกเยอะ ความสบายในการโดยสารเหนือกว่าT6พอสมควร นุ่มกว่ามาก อุปกรณ์ใช้สอยดีกว่าสะดวกกว่า เหมาะกับการโดยสารมากกว่าผมคาดว่าขับทางไกลสบายมากๆ แต่ก็เอาแค่นี้ก่อนเกรงใจเจ้าของรถ
สรุปหลังขับ
ความมันช่วงต้นถือว่ามีพอสมควร(อาจไม่เท่าt6 และพวงมาลัยที่หนืดไปนิดตอนความเร็วต่ำ และt6เข้าเกียร์สนุก) แต่พอรถออกตัวแล้วถือว่าแรงสะใจทีเดียว ม้า 177 ตัวมาไวและอยู่นาน การนั่งโดยสารสะดวก สบาย กว้างพอสมควรเลยหล่ะ
ขอเล่าเฉพาะเรื่องการขับขี่นะครับ เรื่องเสียงลม(ตอนขับเปิดเพลง) ช่วงล่าง เบรก และอื่นๆ ผมไม่ได้ลองเพราะเกรงใจเจ้าของรถนะครับ..
** ปล. ความมันของแต่ละคนไม่เท่ากัน และคำว่าแรงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
-
ขอมาเล่าสู่กันฟังด้วยคนครับ ;) ;)
- ผมก็ไปลอง dmax 3.0 mt v-cross 4drs มาเหมือนกัน รู้สึกออกตัวเหมือนจะอืดๆหน่อย แต่พอเลย 2000 rpm แรงก็ดึงมาเลย พร้อมกับเสียงคำรามตามมาทันใด(แต่ก็ดังน้อยกว่ารุ่นเก่าเยอะแล้ว) ;D ;D ;D
ช่วงล่างผมว่ามีแอบโยนๆหน่อย เน้นขับนิ่มๆนั่งสบาย และอาจเป็นเพราะรถยกสูงด้วย แต่มีระบบควบคุมการทรงตัวชดเชยมาให้ เมื่อเทียบกับ vigo ตัวเตี้ย ปี2005 ที่บ้านผมเคยใช้ ก็ดีกว่า vigo เยอะครับ ;) ;)
- อีกคันที่ผมได้ลองคือ BT-50 Pro 2.2 mt ยกสูง 4drs คันนี้ตอนแรกนึกว่าเครื่องเล็กๆบอดี้รถใหญ่แล้วจะไม่ค่อยแรง แต่กลับกันเลยครับ แรงดึงนี่ไหลมาเทมาเลยครับ ช่วงล่างผมว่านิ่ง ขับแล้วรู้สึกมั่นใจกว่า dmax หลายขุมครับ รอยต่อของถนนผมว่าตัวนี้ขับผ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ครับ ถือว่ารถดีเลยหล่ะครับ >:( >:(
คันที่ผมลองมีระบบแจ้งเตือนให้ shift เกียร์ด้วยครับ พอขับได้รอบมันก็จะแจ้งเตือนมาว่าให้เปลี่ยน แต่ผมว่าระบบมันไม่ค่อยแน่นอน ผมลองกดลากรอบไปสูงๆ บางทีมันก็ไม่แจ้งให้ shift แต่พอผ่อนคันเร่ง รอบตกลงมา มันดันขึ้นให้ shift เกียร์ ซะงั้น ส่วนตัวผมว่าไม่มีจะดีกว่า เพราะเวลาขับมันทำให้ผมมัวแต่ก้มมอง เจ้าระบบสุดไฮเทคว่าเมื่อไหร่มันจะขึ้นมาให้ผมเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งบางครั้งอาจรบกวนสมาธิในการขับรถได้ครับ จริงๆแล้วมีมันก็ดี แต่ฟังก์ชั่นนี้มันไม่จำเป็นสำหรับผมเลย (มีแต่ให้ shift เกียร์สูงขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ ไม่มีแจ้งให้ shift ลงเกียร์ต่ำ)
-
ฉะนั้น จขกท. คงต้องจบกับ 3.0 M/T นี้แน่ๆเลยครับ
ลองขับเพื่อเลือกรถที่ตัวเองถูกใจแบบนี้น่ะถูกต้องแล้ว
Ford น่ะรถดีนะ แต่อย่างอื่น...
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแชร์ครับ :D
-
นี่จะทำให้ผมต้องอดทนรอ MU7 โฉมใหม่กันต่อไป
-
มีความคิดเห็น อยู่อย่างเดียว คือ ** ความมันของแต่ละคนไม่เท่ากัน และคำว่าแรงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ** อันนี้จริง
140 ผมก็ว่านรกมันติดหลังแล้ว ขณะเพื่อนเรา 160 -180 -200 มันบอกว่า ปกติ ฝนตกขับลง แอ่งน้ำ น้ำตีขึ้นกระจก มองก็ไม่เห็นทาง
ถนนสายเอเชียร์ ผมนั่งหลัง กุมมือกับแฟน รอดคราวนี้ (ชาตินี้) .. ตู.....จะไม่ขอนั่งกับ....อีกแล้ว สาธุ เพราะชีวิต ไม่เคยขับแช่นาน เกิน
160 เมื่อเห็น ตัวเลข จะ ผ่อนลงเหลือ 120 ทันที ครับคำว่าแรงของผม เร่งเร็วเหยียบมาทันเท้า และทันใจสั่ง ไม่ต้องทะลุ 200 เอาที่ 120
- 140 ให้มีแรงไหลว่องไวก็โอเคแล้วครับ จะบ้าพลังไปไหน พี่ วีโก้ ฟอร์จูนเนอร์ จ่อตูดนี่ผมเครียดทุกครั้งครับ วันนี้ก็โดนมาอยากจะบ่นให้
ฟังครับ มันจะรีบไปไหนกัน
ครับ ......
-
พวกนี้ไม่เคยเจ็บไม่สำนึก วินาทีชีวิต มันพลิกชีวิตไปได้เลยนะ
:)มีความคิดเห็น อยู่อย่างเดียว คือ ** ความมันของแต่ละคนไม่เท่ากัน และคำว่าแรงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ** อันนี้จริง
140 ผมก็ว่านรกมันติดหลังแล้ว ขณะเพื่อนเรา 160 -180 -200 มันบอกว่า ปกติ ฝนตกขับลง แอ่งน้ำ น้ำตีขึ้นกระจก มองก็ไม่เห็นทาง
ถนนสายเอเชียร์ ผมนั่งหลัง กุมมือกับแฟน รอดคราวนี้ (ชาตินี้) .. ตู.....จะไม่ขอนั่งกับ....อีกแล้ว สาธุ เพราะชีวิต ไม่เคยขับแช่นาน เกิน
160 เมื่อเห็น ตัวเลข จะ ผ่อนลงเหลือ 120 ทันที ครับคำว่าแรงของผม เร่งเร็วเหยียบมาทันเท้า และทันใจสั่ง ไม่ต้องทะลุ 200 เอาที่ 120
- 140 ให้มีแรงไหลว่องไวก็โอเคแล้วครับ จะบ้าพลังไปไหน พี่ วีโก้ ฟอร์จูนเนอร์ จ่อตูดนี่ผมเครียดทุกครั้งครับ วันนี้ก็โดนมาอยากจะบ่นให้
ฟังครับ มันจะรีบไปไหนกัน
ครับ ......
-
รถเราเอง อย่าฟังเสียงคนอื่นที่ไม่ได้ช่วยจ่ายตัง
-
เพิ่งได้ลองขับ 3.0 VGS ขับสี่ สี่ประตูมาเหมือนกันครับ
เห็นด้วยเลยครับ เรื่องออกตัวที่ผมว่ามันไม่ค่อยปรู๊ดปร๊าดเท่าไร ขับเครื่อง 2.2 ของคู่แข่งยังดึงดีกว่าด้วยซ้ำ แต่ไมล์ก็ขึ้นเร็วพอใช้ได้เลย
ผมชอบพวงมาลัยมันที่สุดในบรรดากระบะทั้งหมดแล้วครับ วงเล็ก ควงง่ายดี ฟิลน้ำหนักพวงมาลัยก็คล้ายๆดีแม็กรุ่นก่อน แต่ตัวนี้ไวขึ้น แม่นขึ้น
ช่วงล่างก็กล้าฟันธงอีกว่านุ่มนวลสุดในบรรดากระบะที่ออกขายช่วงนี้เลย รูดหลุม รูดฝาท่อสบายเลย แต่ก็โยนตัวหน่อยๆเหมือนกัน
ส่วนเรื่องเก็บเสียง ยังสู้ Ranger กับ BT50 ไม่ได้ครับ สองรุ่นนั้นเก็บเสียงยาง เสียงเครื่อง เสียงลมดีกว่า
ผมชอบเรื่องระบบรถหลายส่วนมันเป็นภาษาไทย ใช้งานง่ายด้วย ผมไปลองขับกับพ่อมา พ่อผมอายุ 60 ไม่เก่งเทคโนโลยี ยังพอเล่นได้เลย
-
พวกนี้ไม่เคยเจ็บไม่สำนึก วินาทีชีวิต มันพลิกชีวิตไปได้เลยนะ
:)มีความคิดเห็น อยู่อย่างเดียว คือ ** ความมันของแต่ละคนไม่เท่ากัน และคำว่าแรงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ** อันนี้จริง
140 ผมก็ว่านรกมันติดหลังแล้ว ขณะเพื่อนเรา 160 -180 -200 มันบอกว่า ปกติ ฝนตกขับลง แอ่งน้ำ น้ำตีขึ้นกระจก มองก็ไม่เห็นทาง
ถนนสายเอเชียร์ ผมนั่งหลัง กุมมือกับแฟน รอดคราวนี้ (ชาตินี้) .. ตู.....จะไม่ขอนั่งกับ....อีกแล้ว สาธุ เพราะชีวิต ไม่เคยขับแช่นาน เกิน
160 เมื่อเห็น ตัวเลข จะ ผ่อนลงเหลือ 120 ทันที ครับคำว่าแรงของผม เร่งเร็วเหยียบมาทันเท้า และทันใจสั่ง ไม่ต้องทะลุ 200 เอาที่ 120
- 140 ให้มีแรงไหลว่องไวก็โอเคแล้วครับ จะบ้าพลังไปไหน พี่ วีโก้ ฟอร์จูนเนอร์ จ่อตูดนี่ผมเครียดทุกครั้งครับ วันนี้ก็โดนมาอยากจะบ่นให้
ฟังครับ มันจะรีบไปไหนกัน
ครับ ......
พวกนี้เขาคึกคะนองครับ ประมาทคิดว่ารถดีฝีมือเยี่ยมแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน และส่วนใหญ่ที่คิดแบบนี้ไม่เคยเจ็บตัวหรอกครับ เหยียบ200 เกิดไรขึ้นคงตายอย่างเดียว
-
เล่าให้ฟังบ้าง
ดีแม๊กซ์ แต่ไหนแต่ไรมา เป็นรถปลายไหลครับ
ติดที่ตีนต้นจริงๆ แต่พอลอยลำแล้ววิ่งฉิ่วเลยครับ
เกียรออโต้ พอตัดเข้าเกียร 2-3 เริ่มสนุกล่ะครับ
น่าแปลกที่ออโต้ปลายไหลกว่า MT และตีนปลายเร่งได้ดีกว่า คงเพราะอัตราทด
ผมเคยวิ่ง 180 ที่สายเอเชีย ช่วงอุทัยฯ เจอดีแม๊กซ์สีดำโฉมก่อนไล่
พอหลบซ้ายปล่อยให้เค้าแซงตามดูท้ายเห็นโลโก้ 3.0VGS ก็เข้าใจ
ดีแม๊กซ์เครื่องแรงครับ แต่รถเดิมๆ แถมยกสูงอีก เห็นแล้วเสียวแทนครับ ท้ายรถเด้งไปเด้งมา
รถผมลงทุนทำช่วงล่าง ยางสปอร์ต ทำเบรคไปเยอะครับ วิ่ง 160-170 ก็ยังนิ่งๆ
ิเจ้า 2.5 VGS AT เพื่อนผมใช้อยู่ น่าจะ 2 หมื่นโลแล้ว
เมื่อก่อนมันขับอัลติส 1.6 มันบอกว่า 2.5 VGS ตีนต้นไม่จี๊ดเท่าไหร่ แต่ลอยลำแล้วก็แรงดี
ที่แน่ๆอัตราสิ้นเปลือง เห็นมันโพสในเฟสประจำ ทำได้ 12-14 โลลิตร ขับแถวภายเหนือ พะเยา แพร น่าน เชียงราย
-
ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่มาเล่า พอดีกำลังอยากรู้เกี่ยว การใช้งานระบบ VGS ของ Dmax ;D
-
ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่มาเล่า พอดีกำลังอยากรู้เกี่ยว การใช้งานระบบ VGS ของ Dmax ;D
VGS คือเทอร์โบแปรผันครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าเทียบแค่ 2500 ด้วยครับ เครื่องของวีโก้ 144 จะมีช่วงกำลังที่ยาวกว่านิดนึงครับ
ขอวีโก้ที่เคยขับ 1600 รอบ แรงบิดเริ่มมาแล้ว ของอีสุต้องรอ 2000 จริงๆ ทั้งๆที่โบแปรผันเหมือนกัน
-
สรุปแล้วเลือกคันไหนเอ่ย
-
D-Max ต้องตัว3.0นั้นแหละครับ ถ้า2.5สู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้
ส่วนตัวเลือก BT50Pro 2.2 ยกสูงตัวท๊อป
-
ศูนย์บริการที่ดีที่สุดนี่ผมว่าให้ ISUZU อันดับ 1 เลยน่ะครับ รถก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่งต่อก็ง่าย ซ่อมง่าย
แต่ผมขับ Ford Ranger น่ะครับ เพราะลองเทียบกับความคุ้มค่าแล้ว อันดับ 1 ณ ตอนนี้
รถขนาดนี้ราคา 779,900 สำหรับผมถือว่าคุ้มมาก ได้ภาษีคืนอีก 81,100
ราคานี้กับความปลอดภัยก็ถือว่าประมาณ 4 ดาวครับ
เรื่องบรรทุกนี้ดีกว่า Nissan อีกครับ คันเก่าขับ Nissan
เหมาะกับขับต่างจังหวัดมากครับ ยิ่งขึ้นเขาลงเขานี่ต้องยกให้
ส่วนเรื่องศูนย์บริการนี่แล้วแต่ศูนย์ครับ แต่ถ้า FORD ใหญ่ไม่เคยสนใจ
ปัญหาน้ำเข้าหัวฉีด ในคลับยัง DIY กันเองเลยครับ
โช้ครั่วก็ยังขับได้ รอเคลม 2 เดือน
จอดรถทิ้งไว้นานเกินแบตหมดก็ชาร์จแบตใหม่ครับ จบ
เพราะชีวิตผมคิดว่าส่วนใหญ่อยู่บนถนน ฉนั้นจึงคิดว่าอะไรที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
เพราะชีวิตผมไม่ชอบเข้าศูนย์บริการครับ ต่อให้บริการดีแค่ไหน