Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NONT4477 ที่ ตุลาคม 27, 2012, 19:40:09
-
ปัญหามีประมาณนี้ครับ
ป้าผมแกซื้อรถมือ 2 มาคันหนึ่งรถจดทะเบียนปี 2003 แต่แกซื้อมาเมื่อปี 2008 เป็นรถที่ตั้งขายข้างทาง
ไปดูและลองขับก็โอเค วิ่งมาแล้ว 8x,xxxกม. ขับแล้วไม่มีอะไรติดใจก็เลยซื้อมา
ซื้อมาก็เช็คศูนย์บริการของทางบริษัทรถยี่ห้อนี้อยู่ตลอด 4 ปี เช็คระยะหรือมีอะไรเสียก็เข้าศูนย์ตลอด
ตลอดที่รถอยู่ในมือแก แกเก็บหลักฐานการซ่อมบำรุงทุกระยะ (ใบเสร็จ) ผมจำได้ว่าแกซื้อมาวันแรกก็วิ่งเข้าศูนย์เลย
จนเดือนที่แล้วอยากได้รถใหม่ เลยฝากให้ผมประกาศขายในอินเตอร์เน็ต
อาทิตย์ที่แล้วมีคนสนใจแกก็ให้ลองขับ และเล่าประวัติให้ฟังคร่าวๆ ว่าแกซื้อต่อมาอีกทีนะ ไม่ใช่รถมือเดียว แต่แกก็ดูแลอย่างดี เข้าศูนย์ตลอด
คนที่เค้ามาดูมาลองขับแล้วชอบใจก็ซื้อไป (ไมล์ตอนขายแสนนิดๆ)
ทีนี้เกิดเรื่อง คนที่ซื้อไปโทรมาโวย ว่ารถกลับไมล์มา (คนซื้อมีญาติเป็นช่างยี่ห้อนี้) ไมล์จริง 2แสนกว่าโลแล้ว
โทรมาบีบว่ากลับไมล์มาใช่มั๊ยๆๆๆๆๆ เอารถไปอาบน้ำที่ไหนมา (ภาษาพวกเต๊นท์รถมือ2 แปลว่า ปรับสภาพรถ ผมก็เพิ่งจะรู้นี่แหละ)
แต่แกไม่รู้เรื่องซื้อมาเข้าศูนย์แล้วขับอย่างเดียว
ทีนี้จะเอาอย่างไรดีครับ ถ้าคนซื้อเค้าจะหาว่าป้าผมหลอกลวงแต่ป้าผมเค้าไม่รู้เรื่องถ้าโดนหลอกก็ถูกหลอกเหมือนกันหมด
ถ้าเกิดเป็นคดีถึงขึ้นโรงขึ้นศาลจะทำอย่างไร
หลักฐานที่ป้าผมมีก็คือ ใบเสร็จซ่อมรถกับศูนย์(จะระบุเลขไมล์ที่เข้าทุกครั้ง) และก็ใบสัญญาซื้อขายสมัยตอนที่แกซื้อมาซึ่งจะมีชื่อผู้ขายอยู่
ป้าก็บอกว่าให้ลองไปเช็คกับศูนย์ที่ป้าเข้าทุกครั้งดู ที่นั่นน่าจะมีประวัติเก็บไว้ (คนซื้อเค้าคงรอวันจันทร์แหละ พรุ่งนี้ศูนย์ปิด)
เซ็งตรงที่ว่าไม่ได้ซื้อมาจากเต๊นท์มีหลักแหล่งนี่ล่ะครับ
ส่วนคนซื้อนี่ก็แปลก ทำไมเขาไม่เช็คก่อนซื้อ ป้าผมไม่เคยปิดโอกาสที่จะมาลองรถ จะขูดเลขตัวถังไปเช็คก็ไม่มีใครว่า ตอนนี้จ่ายเงินมาแล้ว โอนรถก็โอนไปแล้ว
เป็นอุทาหรณ์สำหรับรถมือ2ครับ
ใครรู้กฎหมายหรือพอมีวิธีแก้ขอคำแนะนำด้วยครับ ทีแรกคิดว่าคนซื้อเค้าจะ Happy ตอนนี้กังวลเป็นอย่างมาก
-
สงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ เวลาไปเข้าศูนย์หากรถถูกกรอไมค์จริง ทำไมศูนย์ไม่ท้วงติงมาละ ผมเข้าใจว่ารถหมดประกันแล้ว แต่ถ้าเราเอาไปเข้าศูนย์ตลอด มันก็มีประวัติการเข้าใช้บริการ ไม่ว่าจะเข้าศูนย์ด้วยเหตุอะไร ส่วนมากเขาก็เขียนระบุเลขไมค์ในการเข้าซ่อมแต่ละครั้งไม่ใช่หรอครับ ผมเองก็สงสัยตรงนี้ล่ะ เอ..หรือว่าเขาจะจดเลขไมค์เฉพาะตอนรถยังไม่หมดประกันเท่านั้นหว่า รอคนมีความรู้มาชี้แจงดีกว่า ผมแค่ติดใจตรงนี้อ่ะครับ
-
สงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ เวลาไปเข้าศูนย์หากรถถูกกรอไมค์จริง ทำไมศูนย์ไม่ท้วงติงมาละ ผมเข้าใจว่ารถหมดประกันแล้ว แต่ถ้าเราเอาไปเข้าศูนย์ตลอด มันก็มีประวัติการเข้าใช้บริการ ไม่ว่าจะเข้าศูนย์ด้วยเหตุอะไร ส่วนมากเขาก็เขียนระบุเลขไมค์ในการเข้าซ่อมแต่ละครั้งไม่ใช่หรอครับ ผมเองก็สงสัยตรงนี้ล่ะ เอ..หรือว่าเขาจะจดเลขไมค์เฉพาะตอนรถยังไม่หมดประกันเท่านั้นหว่า รอคนมีความรู้มาชี้แจงดีกว่า ผมแค่ติดใจตรงนี้อ่ะครับ
นั่นล่ะครับ ในใบเสร็จก็บอกไมล์เท่าที่ปรากฎบนจอ
และตลอดเวลาที่ใช้ก็ไม่มีการท้วงอะไรจากช่างหรือ พนง.ที่รับรถเลยครับ ป้าผมบอกมา
ส่วนก่อนหน้าที่ป้าผมจะซื้อ เจ้าของเก่าเค้าไปเช็คที่ไหน นี่ไม่ทราบเลยครับ
แต่ถ้ามีคนไปสืบมาได้ว่าวิ่ง 2แสน คงมีการเข้าศูนย์บ้างละมั้งครับ
-
คุณNONT4477ครับ ที่เชียงใหม่กำลังระบาด(ที่จริงก็พักใหญ่ๆละครับ)เรื่องรีเซ็ทหรือปรับไมล์ ตอนนี้ใครที่กำลังหาดูรถมือสองคงต้องเช็คประวัติกับทางศูนย์เอาล่ะครับ ยังไงก็ขอให้ปัญหาผ่านพ้นไปด้วยดีนะครับ
-
สงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ เวลาไปเข้าศูนย์หากรถถูกกรอไมค์จริง ทำไมศูนย์ไม่ท้วงติงมาละ ผมเข้าใจว่ารถหมดประกันแล้ว แต่ถ้าเราเอาไปเข้าศูนย์ตลอด มันก็มีประวัติการเข้าใช้บริการ ไม่ว่าจะเข้าศูนย์ด้วยเหตุอะไร ส่วนมากเขาก็เขียนระบุเลขไมค์ในการเข้าซ่อมแต่ละครั้งไม่ใช่หรอครับ ผมเองก็สงสัยตรงนี้ล่ะ เอ..หรือว่าเขาจะจดเลขไมค์เฉพาะตอนรถยังไม่หมดประกันเท่านั้นหว่า รอคนมีความรู้มาชี้แจงดีกว่า ผมแค่ติดใจตรงนี้อ่ะครับ
นั่นล่ะครับ ในใบเสร็จก็บอกไมล์เท่าที่ปรากฎบนจอ
และตลอดเวลาที่ใช้ก็ไม่มีการท้วงอะไรจากช่างหรือ พนง.ที่รับรถเลยครับ ป้าผมบอกมา
ส่วนก่อนหน้าที่ป้าผมจะซื้อ เจ้าของเก่าเค้าไปเช็คที่ไหน นี่ไม่ทราบเลยครับ
แต่ถ้ามีคนไปสืบมาได้ว่าวิ่ง 2แสน คงมีการเข้าศูนย์บ้างละมั้งครับ
จะเข้าศูนย์ไหนก็ไม่เห็นแปลกเลยครับ เพราะสมัยนี้มัน online หมดแล้ว หากว่าไมค์เรากรอมาจริง ทางศูนย์ก็ต้องมีการท้วงติงมาบ้างล่ะครับ
ส่วนตัวผมคิดแบบนี้ครับ
1. ถ้ารถคันนี้มีการกรอไมค์มาจริง แล้วทางเราไม่ทราบและศูนย์ไม่ได้ท้วงติงอะไรตอนที่เอาไปตรวจสภาพ งานนี้ก็ต้องสืบประวัติรถและดำเนินเรื่องกับเจ้าของรถคันเก่าครับ เพราะเราเองก็เป็นผู้เดือดร้อนและถูกเอาเปรียบครับ แต่เราต้องอธิบายและนำสำเนาหลักฐานการเข้าตรวจที่ศูนย์บริการให้กับทางเจ้าของรถที่ซื้อต่อเราไปด้วย
2. ถ้ารถคันนี้ไม่ได้ถูกกรอไมค์มาจริง แสดงว่าเจอพวกหัวหมอแล้วละครับ อันนี้ก็ต้องดำเนินเรื่องตามกฎหมาย เพราะเรามีหลักฐานครบทุกอย่าง และขอการยืนยันจากศูนย์บริการด้วยว่ารถเรามีเลขไมค์เท่านี้จริง ดังนั้นเราสามารถฟ้องกลับได้ครับในฐานฉ้อโกง เนื่องจากรถเราไม่มีประวัติที่เสียหายแต่กลับมาบอกว่ารถเราถูกกรอไมค์มาแล้วจะพยายามเอาเงินที่ซื้อไปแล้วคืน
เรื่องพวกนี้มันพูดยากครับ ผมเองก็ไม่อยากจะชี้แจงอะไรเยอะ เนื่องจากมันค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ทางที่ดีที่สุดนะครับ ขอให้ทางคุณทำการตรวจเช็คประวัติรถคันดังกล่าวอีกรอบ ว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง จะได้ดำเนินการได้ถูกต้องและตรงประเด็นครับ
-
ความเห็นส่วนตัวนะ
รถ5ปีไมล์ 80,000โดนกลับไมล์แน่นอนครับ แต่ซื้อมาปี2008 ผมว่าตอนนั้นระบบของศูนย์ยังไม่ได้onlineหรอกครับ และที่ซื้อมาก็เข้าศูนย์เลยแต่ไม่ได้แจ้งให้เขาเช็คว่าไมล์โดนกลับมาไหมเขาก็จะไม่ได้เช็คให้หรอกครับ เขาก็จดตามหน้าปัดแหละครับนอกจากว่าจะไปเข้าที่ศูนย์เดิมที่เจ้าของเก่าออกรถมาถึงจะมีประวัติครับ จะซื้อรถมือ2ไปที่ศูนย์บอกให้เขาดูให้เขาดูใต้ท้องรถก็พอทราบแล้วละครับ ว่าช้ำพอกะไมล์รถไหม ขนาดพี่โตยังพึ่งonlineศูนย์ไม่กี่ปีเองครับ
ส่วนเรื่องคดีไม่มีปัญหาหรอกครับ เราขายรถด้วยความสุจริตมีหลักฐานตั้งแต่ซื้อรถมา ไมล์เท่าไร ขึ้นศาลไหนก็หลุดหมดแหละครับ
นี่ยังดีเป็นคนอื่น ตัวผมเวลาขายรถจะไม่ขายคนกันเองเลย ตัดปัญหาขายรถแล้วยังต้องคอยกังวลว่าถ้ารถมีปัญหาจะต้องโดนต่อว่าอีกไหม
ใครจะไปรู้ว่ารถมันจะเสียตอนไหนละ
ถ้าใครจะซื้อรถมือ2นะครับเอาไปถามศูนย์เลย ผมเคยครั้งนึงจะซื้อ teanaมือ2 ไปที่ศูนย์nissan บอกช่างว่าช่วยดูให้หน่อยรถโอเคไหม
เขาดูให้เสร็จเขาบอกเลยไมล์กับตัวรถสภาพไม่ตรงกันครับ ไมล์80,xxx แต่ช่วงล่างน่าจะเกือบ200,xxxครับ แล้วก็มีรายการของที่หมดสภาพมาให้หมดเลยว่าอะไรต้องเปลื่ยนบ้าง เหมือนเวลาเราไปเช็คระยะเลยครับ ค่าบริการไม่กี่บาท
สุดท้ายจบที่ camryมือ1 ปลอดภัยไปอีก4-5ปีไม่ต้องห่วงเรื่องซ่อม
-
เรื่องศูนย์บริการ ผมก็ขอบอกนิดนะครับ เขาก็ทำงานไปวันๆๆเหมือนกันแหละครับ ถ้าเรามีปัญหาอะไรเราต้องแจ้งให้เขาทราบด้วย เช่นมีปัญหาตรงนี้นะ ดูให้ด้วยนะต้องลงในใบเลยนะครับ บอกปากเปล่าไม่ได้ สังเกตจาก เวลาแฟนเอารถไปเช็คระยะ ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีที่4 จะไม่เคยมีการเช็คน้ำกลันในแบตให้เลย ผมต้องคอยเติมให้แฟนเองตลอด
อะหลัยทั้งหมดจะไม่มีการซ่อม เบิกใหม่หมด แต่เขาจะถามเราก่อนซ่อมอยู่แล้วเราต้องเป็นคนตัดสินใจเอง แต่เขาก็รับประกันอะไหลให้ก็ต้องเลือกเอาครับ
การซ่อมสีที่ศูนย์ก็ไม่ต่างอะไรกับข้างนอก แค่มีรับประกันเหมือนเดิม เราตัดสินใจเองอีกตามเคย
อีกนิด โตชัวร์ ชัวร์ครับแน่นอนมันไม่ขาดทุนแน่นอน เราชัวร์ครับแบนติดดิน ผมเคยเอาcityไปเทรนออก vigo ชัวร์ให้ราคาต่ำกว่าเตนท์ข้างนอก40-50k ผมด่าเซลล์กระจาย
ตูไม่ใช่ควาย พอดีสนิดกันซื้อรถเขามาหลายคันนะ
-
ความเห็นส่วนตัวนะ
รถ5ปีไมล์ 80,000โดนกลับไมล์แน่นอนครับ
ไม่จริงเสมอไปนะคับ
รถวิ่งน้อยมีจริง
ตัวอย่างรถบ้านผมเอง
230E 13 ปี วิ่งไป 7x,xxx กม.คับ และไม่เคยทำสีสักชิ้น เดิมๆ ทั้งคัน
เลข กม. จริงตอนขาย คนซื้อก็งง และปลาบปลื้ม
อีกคัน ปัจจุบันกำลังจะขาย รถกระบะ 10 ปีแล้ว ไม่เคยทำสี สักชิ้น วิ่ง 18x,xxx กม.
อีกคัน S280 ปี 2003 ปีนี้ครบ 9 ขวบ แล้ว วิ่ง 7x,xxx กม. เดิมๆ ทั้งคัน
-
ลืมตอบคำถามเลย
ถ้ามีหลักฐาน ตั้งแต่ซื้อมา
ก็แสดงให้คนซื้อดู ก็จะได้สบายใจไม่มีปัญหา ทั้ง 2 ฝ่าย
อย่าลืมทำสำเนาไว้ด้วยนะคับ
-
เข้ามายืนยันอีกคน อย่างผมปกติใช้รถประมาณปีละ 6,000 ถ้าห้าปีก็แค่ 30,000 ห่างจากตัวเลข 80,000 หลายเท่าตัวยิ่งนักปกตินั่งรถบ.ไปทำงานใช้แค่วันหยุด
อาจเจอพวกหัวหมอเข้าแล้วหล่ะ เดี๋ยวเจอข่มขู่ว่าจะฟ้องแล้วเรียกค่าเสียหาย ไม่ต้องไปกลัวถ้ามั่นใจก็บอกให้ฟ้องไปเลยขู่กลับไปว่าถ้าไม่จริงเจอฟ้องกลับนะ ถ้าเค้าซีเรียสเรื่องนี้ควรตรวจสอบก่อนซื้อด้วยซ้ำไป ซื้อขายกันเองกฎหมายเอาผิดยากแต่ถ้าซื้อขายผ่านเต้นท์เอาผิดได้ ดังนั้นการซื้อขายผ่านเต้นท์จะสะดวกในเรื่องอย่างนี้กว่า (เอาเฉพาะแบบตรงๆไม่นับเส้นสาย)
-
เป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเจอได้ครับ
เพราะเราก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้า รถคันนั้นได้พบเจออะไรมาบ้าง
คันไหนถ้าผมไม่มั่นใจในสภาพจริงๆ
ผมขายเต๊นท์ครับ
แต่รถไมล์น้อยจริงๆ มีอยู่นะ คนใกล้ตัวด้วย
กระบะ Vigo ตอนเดียวส่งของ ปี 2005 ขายไปเมื่อต้นปี 2012 ไมล์ 40,XXX กม. อาแป๊ะมาซื้อยิ้มแก้มปริเลย
เก๋ง Camry ปี 2005 ปัจจุบัน ไมล์ 6,XXX กม. ล่าสุดลากเข้าศูนย์ไปแล้ว เพราะวิ่งไม่ได้ จอดจนเน่า
-
ความเห็นส่วนตัวนะ
รถ5ปีไมล์ 80,000โดนกลับไมล์แน่นอนครับ
ไม่จริงเสมอไปนะคับ
รถวิ่งน้อยมีจริง
ตัวอย่างรถบ้านผมเอง
230E 13 ปี วิ่งไป 7x,xxx กม.คับ และไม่เคยทำสีสักชิ้น เดิมๆ ทั้งคัน
เลข กม. จริงตอนขาย คนซื้อก็งง และปลาบปลื้ม
อีกคัน ปัจจุบันกำลังจะขาย รถกระบะ 10 ปีแล้ว ไม่เคยทำสี สักชิ้น วิ่ง 18x,xxx กม.
อีกคัน S280 ปี 2003 ปีนี้ครบ 9 ขวบ แล้ว วิ่ง 7x,xxx กม. เดิมๆ ทั้งคัน
เรื่องกลับไมล์ผมไม่ได้หมายถึงทุกคันนะครับ ผมดูจากที่เขาบอกว่าคนซื้อไปเช็คมาแล้ว
และรถก็ซื้อต่อมาอีกทีไม่ใช่รถเจ้าของกระทู้มือแรกนะครับ
เรื่องไมล์น้อยนี่เข้าใจครับ ผมcamryไมล์ 160,xxx vigo 30,xxx ซื้อพร้อมๆกัน vigoใช้เวลาไปซื้อของกะขนของครับ
ส่วนเรื่องซื้อรถถ้าคนรู้จักถามผม ผมจะบอกให้ซื้อรถใหม่ในราคาที่เราไหวพอ รถที่เราอยากได้แต่ทุนยังไม่ถึงให้รอเป็นคันต่อไป
-
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ
-
เรามีหลักฐานเข้า 0 อยู่
อย่าไปกลัวครับ
-
ความเห็นส่วนตัวนะ
รถ5ปีไมล์ 80,000โดนกลับไมล์แน่นอนครับ
ไม่จริงเสมอไปนะคับ
รถวิ่งน้อยมีจริง
ตัวอย่างรถบ้านผมเอง
230E 13 ปี วิ่งไป 7x,xxx กม.คับ และไม่เคยทำสีสักชิ้น เดิมๆ ทั้งคัน
เลข กม. จริงตอนขาย คนซื้อก็งง และปลาบปลื้ม
อีกคัน ปัจจุบันกำลังจะขาย รถกระบะ 10 ปีแล้ว ไม่เคยทำสี สักชิ้น วิ่ง 18x,xxx กม.
อีกคัน S280 ปี 2003 ปีนี้ครบ 9 ขวบ แล้ว วิ่ง 7x,xxx กม. เดิมๆ ทั้งคัน
+1
รถบ้านผม 1 คัน 2ปีแล้ว วิ่งไม่ถึง 15,000 โลเลย
;D ;D ;D
-
ขื้อขายรถมือสอง ต้องยอมรับสภาพอยู่แล้วเบื้องต้น ตาดีได้ตาร้ายเสีย ดังนั้นเรามีหลักฐานเข้า0 อยู่ด้วยไม่ต้องกลัว แต่คิดว่าผู้ซื้อไม่ฟ้องให้เสียเวลาครับ
-
สงสัยต่อไปต้องให้ขนส่งออกกฏมาบังคับว่า
ในสัญญาซื้อขาย ต้องระบุเลขไมล์ทุกครั้ง มิเช่นนั้น สัญญาไม่สมบูรณ์
ซึ่งน่าจะพอช่วยให้การซื้อขายรถมือสอง ไม่ทำให้ผู้ซื้อที่ไม่รู้อิโหน่ิอิเหน่ เดือดร้อนโดนหลอก หรือต้องมาเจอกรณีแบบที่ท่าน จขกท. ว่ามาแบบนี้
เต๊นท์ดีก็มีครับ ไม่แย่ไปซะหมด
-
ขอบคุณทุกความเห็นอีกทีครับ
เดี๋ยวถ้าคนซื้อเค้าติดต่อมาค่อยไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเขาอีกที
แต่ถ้าไอ้ที่เค้าเช็คมามันมั่วแล้วยังจะโวยอยู่ คงต้องใช้ไม้แข็งแล้วล่ะ
เพราะผมนับอายุรถคันนี้ดูตามระยะวิ่งของผู้ผลิต
ออกแบบไว้ปีละ 20,000โล 10ปีก็ 200,000โล พอดี
อย่างรถผม2ปีครึ่ง วิ่ง 20,000กว่า เข้าไปเช็ค เค้ายังระบุว่าเป็นการเข้าเช็คที่ 50,000โลเลย
ถ้าไปหาช่างกากๆซึ่งมั่วมาแบบไร้ความคิดแล้วโวยละก็ ผมสวนเจ็บแน่ๆ