Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: J!MMY ที่ พฤศจิกายน 09, 2012, 11:07:13
-
คันนี้ เป็นคิวแทรก กระทันหัน ตั้งใจอยากลองขับ
แต่ไม่คิดว่า Toyota Motor Thailand จะโทรมาให้ไปรับรถ เร็วแบบไม่ทันตั้งตัว
ต้องเปลี่ยนแผน เปลี่ยนตารางการทำงานในสัปดาห์นี้ "ทั้งหมด" เล่นเอายุ่งเหยิงพอควร
แค้ก็คุ้มค่า กับรถที่รอคอยอยากขับ 1 ใน 3 คัน ของปีนี้
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.57 กม./ลิตร (วิ่ง 110 เปิดแอร์ นั่ง 2 คนตามเคย)
ทำได้ในตอน 4 ทุ่ม ครับ ไม่ต้องถึงกับ ตี 3 ตี 4 หรอกครับ
สมรรถนะ ที่จับเวลากับเจ้ากล้วย BnN มา มีดังนี้
0-100 ได้ 9.17 / 9.28 / 9.35 และ 9.35 วินาที
ออกตัวอืดไปหน่อย แต่เพราะเปนเครื่องที่ทำออกมากะจะให้แรงสนุกในรอบปลายๆ
80-120 ได้ 6.31 / 6.41 / 6.54 และ 6.54 วินาที ชอบช่วงเร่งแซงมากๆ ไว
และใกล้เคียงกับ BMW 320d ใหม่ F30 ซึ่งมี Turbo ช่วย เลยละ!
Top Speed 210 กม./ชม. ที่ 5,200 รอบ/นาที ณ เกียร์ 5
เครื่อง จริงๆแล้ว แรง ถ้าเทียบกับรถบ้านเครื่อง 2.0 ลิตร เกียรฺ์ อัตโนมัติ
แต่ ถ้าคุณคาดหวังว่ามันจะแรงสะใจละก็ บอกเลยว่า ยังครับ ยังไม่พอ ต้องพึ่ง Turbo
ช่วงล่าง ดิบ กระด้าง พอกันกับ BMW 320d E90 แต่อยู้ในโค้ง นี่ ถ้าพื้นเรียบๆ รถจะเข้าโค้งได้คมกริบ
เหมือนโดนขอบกระดาษ A4 บาดนิ้ว
แต่ถ้าคิดจะขับให้ท้ายออก ก็ทำได้ ไม่ยาก ปลด แทร็กชัน คอนโทรล เติมคันเร่งเข้าไปนิดหน่อย แค่นี้ สนุกได้แล้ว
Sport VSC ทำงานได้ดีครับ ลองสั้นๆ แป๊บนึง ใช้ได้ๆ
พวงมาลัย แร็คแอนด์พีเนียน หนืด หนัก สำหรับคนทั่วไป แต่อยู่ในเกณฑ์รับได้ ไม่หนักเกินเหตุ สำหรับคนที่ชอบขับรถสปอร์ต
เบรก แป้นตื้น คล้าย Lexus GS ตัวก่อน แต่เบรกทำงานดีขึ้นกว่ากันเยอะมาก เหยีบบไม่ต้อมาก รถชะลอเร็วดังใจ
และถ้าอยู่ใน Sport Mode หากเบรกกระทันหัน เกียร์ จะช่วย ทำ Engine Brake ให้เองด้วย เพื่อรอให้เราเหยียบคันเร่ง
ส่งรถพุ่งต่อออกไปได้เลย ชอบจริงๆ ขอแนะนำว่า ควรขับแบบ Sport Mode จะได้อรรถรสมากๆ
มีการค้างรอบเครื่องยนต์รอไว้ให้เหยียบกันต่อหลังจากผ่านช่วงชะลอรถยามจำเป็นไปแล้ว
เซ็ต Shift Light ไฟเตือน แจ้งเปลี่ยนเกียร์ ได้ แต่รถ AT แบบนี้ แทบไม่จำเป็น เพราะมันจะ
เปลี่ยนเกียร์ให้เองที่ 7,200 รอบ/นาที (กด Sport Mode จะเปลี่ยนให้ที่ 7,400 รอบ/นาที)
เหมือนเป็น Mazda MX-5 ในแบบที่ควรจะเป็น คือ แรงขึ้น ดิบกำลังดี ขับสนุกมาก
แถมมาพร้อมเกียร์ที่ฉลาดมากๆ และทำงานได้ตามใจสั่งเป็นที่สุด คันเร่งกับเกียร์ ทำงานได้ไวถวายชีวิตกันเลยทีเดียว!
รายละเอียด รอ Full Revew ครับ พยายามให้เสร็จก่อนสิ้นปี สำหรับคันนี้ ต้องมีคนมาช่วยเขียนละ ไม่งั้นผมแย่แน่ ดีเทลเยอะมาก
ภาพถ่ายชุดนี้ ส่วนหนึ่ง คุณ Tee Abuser มาช่วยถ่ายทำให้ครับ สวยเลยละ!
-
:o รถสวยสุดๆ อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆ :o
-
รถก็สวย ถ่ายภาพก็สวย เป็น Full Preview ที่น่าติดตามชมที่สุดใรอบปีนี้สำหรับผมเลยแหละ ;D
-
ถ้าโตโยต้าบ้าจี้ มี MT มาเป็นเดโม ด้วยนี่ คงมันพะย่ะค่ะ น่าดู
-
0-100 น่าจะต้องพึ่ง turbo น่ะนี้
-
Sport Mode ขับได้ใจจริงๆ ลองแล้วจะรู้ จะตั้งใจรอรีวิวฉบับเต็มทุกเวลาครับ
-
ภาพ พรีวิว หล่อเลย
-
รูปรถอย่างงามเลยครับ :D
-
แค่ preview ก็ฟินแล้ว :D
-
อยากดู อยากอ่านมากครับ รูปสวยมากครับ
-
0-100. ต้องการเกียร์ manualครับ เครื่องบล็อคเล็กต้องเล่นรอบ
ดูจากอัตราเร่งแซงได้ว่าพละกำลังเยอะ แต่ออกมาตอนรถลอยตัวแล้ว
อ่านแล้วก็ใกล้เคียงกับที่คิดพอควร. ทำให้คิดว่าดีแล้วที่ไม่ซื้อ
Scirocco. ทรงพลัง และขับได่นุ่มนวลกว่า ว่างๆจะเขียนให้อ่านกันครับ
รอ 86 คุณจิมมี่ออกก่อนแล้วกัน
-
ผิดหวัง 0-100
Altis 1.8cvt - 10.28
Altis 2.0cvt - 9.56
86 - 9.35
-
ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยครับ ตอนไหน BRZ จะเข้ามาน้อ...
-
คงตัดสินใจได้เร็วขึ้นนะเรา ;D
-
0-100 ผมว่าไม่สำคัญมากนะ ถ้าตัวรถมันกระฉับกระเฉง ก็น่าสนใจแล้วละครับ
คงต้องไป Modify กันอีกพอสมควรเลย ถึงจะซะใจคนชอบซิ่งทั้งหลาย
แต่ผมกลับชอบแฝดมันอะครับ BRZ มันดู Subaru มันดู Rare item กว่า Toyota ยังไงไม่รู้สิ ^^"
-
ผิดหวัง 0-100
Altis 1.8cvt - 10.28
Altis 2.0cvt - 9.56
86 - 9.35
เหมือน Camry 2.5 จะแรงกว่าหรือเปล่านะครับ
จำได้ว่า 8 ปลายๆ แรงพอๆกับ V6 3.0 สมัยก่อนเลย
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?action=post;msg=405696;topic=25892.0;sesc=0258fb91703edbe3adeabec7d23a959d (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?action=post;msg=405696;topic=25892.0;sesc=0258fb91703edbe3adeabec7d23a959d)
-
ออกตัวดูเหมือนจะอืดจริงๆนะครับ ถ้าได้เกียร์ธรรมดามาคงช่วยให้สนุกกว่านี้
-
อืดอยู่ครับผมงงตรงความเร็วสูงสุดนี่หล่ะทำไมได้แค่นั้น ดูสเปกเมืองนอกมันได้235แต่ของไทยทำไมเหลือ210 ยังงี้แคมรี่แรงกว่าอีกนะเนี่ย
-
ชุด kit turbo คงหาใส่ได้ไม่ยาก
-
ผิดหวัง 0-100 จังครับ camry hv ยัง9 เลยนิครับ
-
โดย position ของ product ผมคิดว่า คงไม่มีใคร ซื้อมาขับ แตนๆ เป็นแน่สำหรับ 86
ความสนุกในการขับขี่ ก็ไม่ได้วัดกันที่ตัวเลข 0-100
อ่าน สำนวน preview แล้วคิดว่า น่าจะเป็นรถที่คุณ Jimmy ชอบพอสมควรเลย
รออ่าน full review อย่างเป็นที่สุดครับ ;D
-
ทำไมรถแพงๆสปอร์ตๆสมัยนี้ อัตราเร่งโดนรถล้าน-2ล้าน กินหมดเลยคับงงมาก ตั้งแต่บีเอม ยังมาเจอ 86อีก ทั้งที่รถยังไงก็ต้องเอาไว้แรงอยู่แล้วในงบขนาดนั้น อุ่ส่าแชร์กับซูบารุทั้งทีน่าจะจัดเต็มกว่านี้
-
Toyota ไม่มีเกียร์ธรรมดาให้ลอง สงสัยต้องไปง้อ Subaru ซะแล้ว หวังว่ามี MT ให้ลองก่อนนะครับ
ที่สำคัญ ลุ้นราคา BRZ 6MT ด้วย หวังว่าคงมีส่วนต่างกับ Toyota 86 6MT ที่ 2.49 ล. ซักหน่อย ไม่อย่างนั้นท่าจะขายยาก โดยเฉพาะพวกพาร์ทที่แตกต่างกัน
-
อืดอยู่ครับผมงงตรงความเร็วสูงสุดนี่หล่ะทำไมได้แค่นั้น ดูสเปกเมืองนอกมันได้235แต่ของไทยทำไมเหลือ210 ยังงี้แคมรี่แรงกว่าอีกนะเนี่ย
235 น่าจะต้องเป็น MT มังครับ
-
ตัวเลขไม่สำคัญเท่าไหร่ ขอแค่ขับแล้วสนุกก็พอ
รวมๆตัวรถดูสวยซิ่งดี แต่แอบตะหงิดกับปีกหลังจะสูงไปไหน กับลายล้อเหมือนล้อไต้หวันราคาถูกๆไงไม่รู้
-
ทำไมคิดกันได้ว่า 86. ไม่แรง. มันแรงมากครับ แค่0-100 อืดเพราะเกียร์ออโต้มันไม่ได้เค้นรอบให้สุดเฉยๆ
ว่าแต่ 9 วิ อืดที่ไหนกันครับ ดึงกันอมยิ้มเลยแหละ. ว่าแต่เอามาขับจริง. ใครกด. 0-100 กัน. ทำตอนไหนออกไฟแดงเหรอ
อัตราเร่งก็เห็นอยู่ว่า สวน 320 d สบายเลย. ยกเว้นตีนปลายนะ. สมรรถนะมันโอเคเลย. ดีมากครับ
-
ขอบคุณครับ ชอบ 86 มากๆ
รอติดตามริวิวตัวเต็มครับ :D
-
ตัวเลขผมว่าโอเคนะไม่ขี้เหล่ ผมว่าเขาsetรถออกมาให้ขับสนุกมากกว่า
-
อีกเสียงครับ เป็นการรอ full review ที่ตั้งตารอมากที่สุดในปีนี้เลย
อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องกระทู้ซักเท่าไหร่
แต่ต่อไปที่แน่ๆคือ หากมีเงินซักก้อนไว้ผลาญกับรถsport
ผมคงไปกับรถยุ่นแน่ๆๆๆๆๆ ไม่รู้ทำไมในชีวิตไม่เคยจะอยากได้รถsportจากฝั่งยุโรปเลย ไม่มีเลยในหัวแม้แต่นิดเดียว ;D
-
ขอบคุณครับ
รอ Full Review จ้า
;D ;D ;D
-
Daily-Use Sport Car :P :P
-
สีดำสวยอ่ะ เคยเจอแต่สีขาวและแดง
พ่วงซุปสักชุด แหล่มเลย ;D
-
Toyota 86 นี่ทั้ง สัดส่วน รูปทรง พื้นผิว ลวดลาย เส้นสาย ลายละเอียด งามจริงๆเล้ยยย :D
-
พี่จิมมี่ครับตัวนี้ขอเป็น clip review ด้วยได้มั๊ยครับ อยากฟังเสียงเครื่องและอยากทราบความคิดเห็นพี่แพนตอนขับว่าอึ้ง สนุกสนานแค่ไหนครับ อีกอย่างคือ รูปที่ถ่ายๆ สถานที่ไหนเหรอครับ ผมชอบบรรยากาศทุ่งกญ้าแบบนี้มากๆ ขอบคุณครับ
-
รออ่านเช่นกันครับ
ปล เห็นสื่อ ตปท ทดสอบ 0-96 ตัวเกียร์ธรรมดาเร็วกว่าออโต้ 1.7 วินาทีเพราะเลี้ยงคลัชท์ได้ตอนออกตัว
-
0-100 ได้ 9วินาที
มีสิทธิ์โดน Civic 1.8 MT ได้เลยนะครับนั่น
9วิ ไม่อืดหรอกครับ แต่ใครซื้อรถแบบนี้เนี่ยรับรอง เหยียบแหลกแน่
แล้วจะต้องมาโดน Civic ตอนออกจากไฟแดงเนี่ยนะ
ผมคิดว่ามันน่าจะมาจากเกียร์เนี่ยแล่ะ
หากเล่น MT ล่ะก็หายห่วง แต่หากจะเอาเกียร์ออโต ก็ต้องทำใจ
-
หลังจากลองขับแล้วมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี
แม้ภาพรวมจะออกมาถือว่าเหนือกว่าคาด แต่ผมก็ยังติเรื่องอัตราเร่งอยู่ดี
ไม่ต้อง 0-100 หรอก เอามัน 0-20,0-30 เอาเป็นช่วงเร่งแบบเปลี่ยนเลนออก
แล้วกดหนีให้ทันรถคันหลังนี่ล่ะ
ปัญหามันไม่ใช่เกียร์ เกียร์น่ะทดมาดี และพยายามทำงานของมันดีที่สุดแล้ว
ผมไม่เคยเจอเกียร์ออโต้ที่รักหน้าที่เต็มใจกับการงาน มีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อน
ในรถญี่ปุ่นราคาต่ำกว่าสามล้าน ถ้ามันจะมีดีแบบนี้ มันก็เป็น 370Z คันละเท่าไหร่ล่ะนั่น
ปัญหามันอยู่ที่แรงบิดรอบต่ำซึ่งวิ่งยังกะรถพันหกไร้แค็มแปรผันยุค 90 ต่างหาก
กดไปแล้วมาแต่เสียง เข็มไม่กวาดเร็วอย่างใจนึก ต้องรอถึง 4,500 รอบต่อนาที
กว่าที่ความหนืดจะกลายเป็นความเร็วและแรงดึงพร้อมเสียงที่เป็น 4 สูบ NA
ที่เพราะมาก ไม่โหดเหมือน Integra Type R แต่นุ่มลงมาหน่อย น่าขย้ำชะมัด
9.3 วิน่ะมันไปเสียเวลาตอนออกตัว ถ้ารถถีบจาก 1 ไป 4 พันรอบได้เร็วแค่เท่า
Mini Cooper S Turbo เวลา 0-100 ของมันอาจลดลงเหลือ 8.3-8.2 วิก็ได้
รถเกียร์ธรรมดาสร้างอัตราเร่งได้เร็วกว่า เพราะคุณสามารถสปินล้อออก
เลี้ยงรอบให้อยู่เหนือ 4,000 ตอนออกตัวได้ เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบที่มันถนัดตลอด
แรงบิดสูงสุด 205Nm.. ก็มากกว่ารถ 2.0 ลิตรบ้านๆหน่อยนึงและมาถึงที่ 6,500 รอบต่อนาที
จากนั้นลากไปได้แค่ 700 รอบต่อนาที เกียร์ก็เปลี่ยน ต่อให้คุณเล่นเกียร์เองลากรอบให้ตาย
มันก็จะตัดหัวทิ่มที่ 7,400 รอบต่อนาที
มันเป็นรถที่สนุกนะ แน่นอน มันสนุกกว่า Camry Hybrid มากตอนกระทืบคันเร่งลากไปเป็นกิโลๆ
ปลายไหลไป 200 ได้เร็วสมกับแรงม้าที่มีแหละ แต่เวลาก็คือเวลา นาฬิกาก็คือนาฬิกา
นาฬิกากับความสนุก ทดแทนกันไม่ได้ มันคนละเรื่อง
ผมถึงรู้สึกว่าผมชอบเสียงของเครื่องยนต์ ชอบความใจถึงของเกียร์ เกียร์ที่ดีมาก
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ลงเซอร์กิตบ่อยๆอย่างผม ผมต้องการแรงบิดจากเครื่องยนต์บล็อคนี้
มากกว่านี้โดยเฉพาะช่วงก่อน 4,000
- - - - -
ส่วนถ้าไม่นับเรื่องเครื่องยนต์ อย่างอื่นผมถือว่าเข้าตา และใจจริงกลับเริ่มรักมันมากขึ้นด้วยซ้ำ
พวงมาลัยไม่ได้ไวแบบบ้าคลั่ง สักแต่ไวแต่ทำอย่างอื่นไม่เป็น แต่มันไวแบบพอดี สื่ออาการพอเหมาะ
มีน้ำหนักโหลดที่เป็นธรรมชาติ ผมไม่ขอแก้ไขอะไรแม้แต่นิดเดียว
นี่คือพวงมาลัยที่ให้ฟีลดีเทียบเท่ารถยุโรปและปรับมาได้ดีที่สุดเท่าที่ Toyota เคยทำมา
แต่ถ้าคุณมองว่ามันเป็นซูบารุ ก็อาจจะดีกว่าปกตินิดหน่อยตรงที่เวลากระแทกเลี้ยวหนักๆ
พวงมาลัยจะไม่มีแรงกระชากของเพลาขับหน้ามากวน พวงมาลัยจะ "พูดจากับมือคุณชัดเจนกว่า"
ตำแหน่งพวงมาลัย ตำแหน่งเบาะ ตำแหน่งเกียร์ เบรกมือ แผงประตูและทุกอย่าง
ผมไม่ขอแก้ ผมเพิ่งอ่านหนังสือสอนขับรถแข่งของ Ross Bentley มา และปรับตำแหน่งทุกอย่าง
ตามที่หนังสือนั้นสอน วางเท้าตามที่หนังสือนั้นสอน ผมถึงกับงง เห้ย..นี่ทีมวิศวกรกับผม
อ่านหนังสือเล่มเดียวกันหรือเปล่า อะไรมันจะเป๊ะขนาดนั้น
แต่ต้องแยกให้ออกระหว่างความสบาย กับ ความมันส์ ขึ้นรถแบบนี้คุณต้องให้ความมันส์ 70%
ความสบาย 30 % หรืออย่างมากก็ 60/40 และในจุดนี้ล่ะ มันเพอร์เฟ็คท์มาก
ช่วงล่าง ขับแล้วรู้สึกเกือบจะเท่ารถแต่งซิ่ง มีตึงตังให้รู้สึก แต่ความต่างระหว่างรถคันนี้
กับ 320d E90 คือ 320d จะตึงตังในจังหวะยุบแรก แต่ระยะยุบยืดของโช้คจริงๆนั้นยาวนะ
ส่วน 86 มันหนึบเท่ากันไปตลอดและระยะการยืดของช่วงล่างนั้นถือว่าสั้น สั้นแบบรถเซอร์กิต
และแน่นอน เวลาโยนหนักๆ 86 ก็ยวบน้อยกว่า
- - - -
ผมคงไม่วิจารณ์อะไรเรื่องภายในและเรื่องวัสดุ เพราะถ้าคุณสนเรื่องพวกนี้
ก็คงไปเล่น VW ตั้งแต่แรกแล้ว
และถ้าไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนขับรถแข่งจนเคยชิน แค่ได้ลองอัด 86 ไปสักพักตอนกลางคืน
คุณจะเริ่มลืมความไม่เพอร์เฟ็คท์ของดีไซน์และวัสดุบางจุดไปทีละน้อยทีละน้อย
ดังนั้น..ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิม
ถ้าคุณจะโฟกัสไปที่ความแรง ความสนุกของคุณคือแรงดึง คุณชอบความรู้สึกหนักๆแน่นๆ
คุณไม่ได้ชอบดริฟท์ ไม่ได้พิเศษอะไรกับรถขับหลัง -> VW เลย
แต่ถ้าคุณชอบความสนุกจากการเข้าโค้ง บาลานซ์แบบมาสด้า MX5 แต่เครื่องแรงกว่า
เกียร์ใจถึงกว่า ..86
ถ้าอยากได้ทุกอย่างเป็น 86 แต่แรงกว่า..รอชุดแต่งเทอร์โบมา
-
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณท่านผู้การมากครับ เข้าใจ 86 มากขึ้นอีกเยอะๆ
-
สีดำดุมากครับขับตอนกลางคืนใช่เลย 8)
-
หลังจากลองขับแล้วมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี
แม้ภาพรวมจะออกมาถือว่าเหนือกว่าคาด แต่ผมก็ยังติเรื่องอัตราเร่งอยู่ดี
ไม่ต้อง 0-100 หรอก เอามัน 0-20,0-30 เอาเป็นช่วงเร่งแบบเปลี่ยนเลนออก
แล้วกดหนีให้ทันรถคันหลังนี่ล่ะ
ปัญหามันไม่ใช่เกียร์ เกียร์น่ะทดมาดี และพยายามทำงานของมันดีที่สุดแล้ว
ผมไม่เคยเจอเกียร์ออโต้ที่รักหน้าที่เต็มใจกับการงาน มีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อน
ในรถญี่ปุ่นราคาต่ำกว่าสามล้าน ถ้ามันจะมีดีแบบนี้ มันก็เป็น 370Z คันละเท่าไหร่ล่ะนั่น
ปัญหามันอยู่ที่แรงบิดรอบต่ำซึ่งวิ่งยังกะรถพันหกไร้แค็มแปรผันยุค 90 ต่างหาก
กดไปแล้วมาแต่เสียง เข็มไม่กวาดเร็วอย่างใจนึก ต้องรอถึง 4,500 รอบต่อนาที
กว่าที่ความหนืดจะกลายเป็นความเร็วและแรงดึงพร้อมเสียงที่เป็น 4 สูบ NA
ที่เพราะมาก ไม่โหดเหมือน Integra Type R แต่นุ่มลงมาหน่อย น่าขย้ำชะมัด
9.3 วิน่ะมันไปเสียเวลาตอนออกตัว ถ้ารถถีบจาก 1 ไป 4 พันรอบได้เร็วแค่เท่า
Mini Cooper S Turbo เวลา 0-100 ของมันอาจลดลงเหลือ 8.3-8.2 วิก็ได้
รถเกียร์ธรรมดาสร้างอัตราเร่งได้เร็วกว่า เพราะคุณสามารถสปินล้อออก
เลี้ยงรอบให้อยู่เหนือ 4,000 ตอนออกตัวได้ เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบที่มันถนัดตลอด
แรงบิดสูงสุด 205Nm.. ก็มากกว่ารถ 2.0 ลิตรบ้านๆหน่อยนึงและมาถึงที่ 6,500 รอบต่อนาที
จากนั้นลากไปได้แค่ 700 รอบต่อนาที เกียร์ก็เปลี่ยน ต่อให้คุณเล่นเกียร์เองลากรอบให้ตาย
มันก็จะตัดหัวทิ่มที่ 7,400 รอบต่อนาที
มันเป็นรถที่สนุกนะ แน่นอน มันสนุกกว่า Camry Hybrid มากตอนกระทืบคันเร่งลากไปเป็นกิโลๆ
ปลายไหลไป 200 ได้เร็วสมกับแรงม้าที่มีแหละ แต่เวลาก็คือเวลา นาฬิกาก็คือนาฬิกา
นาฬิกากับความสนุก ทดแทนกันไม่ได้ มันคนละเรื่อง
ผมถึงรู้สึกว่าผมชอบเสียงของเครื่องยนต์ ชอบความใจถึงของเกียร์ เกียร์ที่ดีมาก
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ลงเซอร์กิตบ่อยๆอย่างผม ผมต้องการแรงบิดจากเครื่องยนต์บล็อคนี้
มากกว่านี้โดยเฉพาะช่วงก่อน 4,000
- - - - -
ส่วนถ้าไม่นับเรื่องเครื่องยนต์ อย่างอื่นผมถือว่าเข้าตา และใจจริงกลับเริ่มรักมันมากขึ้นด้วยซ้ำ
พวงมาลัยไม่ได้ไวแบบบ้าคลั่ง สักแต่ไวแต่ทำอย่างอื่นไม่เป็น แต่มันไวแบบพอดี สื่ออาการพอเหมาะ
มีน้ำหนักโหลดที่เป็นธรรมชาติ ผมไม่ขอแก้ไขอะไรแม้แต่นิดเดียว
นี่คือพวงมาลัยที่ให้ฟีลดีเทียบเท่ารถยุโรปและปรับมาได้ดีที่สุดเท่าที่ Toyota เคยทำมา
แต่ถ้าคุณมองว่ามันเป็นซูบารุ ก็อาจจะดีกว่าปกตินิดหน่อยตรงที่เวลากระแทกเลี้ยวหนักๆ
พวงมาลัยจะไม่มีแรงกระชากของเพลาขับหน้ามากวน พวงมาลัยจะ "พูดจากับมือคุณชัดเจนกว่า"
ตำแหน่งพวงมาลัย ตำแหน่งเบาะ ตำแหน่งเกียร์ เบรกมือ แผงประตูและทุกอย่าง
ผมไม่ขอแก้ ผมเพิ่งอ่านหนังสือสอนขับรถแข่งของ Ross Bentley มา และปรับตำแหน่งทุกอย่าง
ตามที่หนังสือนั้นสอน วางเท้าตามที่หนังสือนั้นสอน ผมถึงกับงง เห้ย..นี่ทีมวิศวกรกับผม
อ่านหนังสือเล่มเดียวกันหรือเปล่า อะไรมันจะเป๊ะขนาดนั้น
แต่ต้องแยกให้ออกระหว่างความสบาย กับ ความมันส์ ขึ้นรถแบบนี้คุณต้องให้ความมันส์ 70%
ความสบาย 30 % หรืออย่างมากก็ 60/40 และในจุดนี้ล่ะ มันเพอร์เฟ็คท์มาก
ช่วงล่าง ขับแล้วรู้สึกเกือบจะเท่ารถแต่งซิ่ง มีตึงตังให้รู้สึก แต่ความต่างระหว่างรถคันนี้
กับ 320d E90 คือ 320d จะตึงตังในจังหวะยุบแรก แต่ระยะยุบยืดของโช้คจริงๆนั้นยาวนะ
ส่วน 86 มันหนึบเท่ากันไปตลอดและระยะการยืดของช่วงล่างนั้นถือว่าสั้น สั้นแบบรถเซอร์กิต
และแน่นอน เวลาโยนหนักๆ 86 ก็ยวบน้อยกว่า
- - - -
ผมคงไม่วิจารณ์อะไรเรื่องภายในและเรื่องวัสดุ เพราะถ้าคุณสนเรื่องพวกนี้
ก็คงไปเล่น VW ตั้งแต่แรกแล้ว
และถ้าไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนขับรถแข่งจนเคยชิน แค่ได้ลองอัด 86 ไปสักพักตอนกลางคืน
คุณจะเริ่มลืมความไม่เพอร์เฟ็คท์ของดีไซน์และวัสดุบางจุดไปทีละน้อยทีละน้อย
ดังนั้น..ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิม
ถ้าคุณจะโฟกัสไปที่ความแรง ความสนุกของคุณคือแรงดึง คุณชอบความรู้สึกหนักๆแน่นๆ
คุณไม่ได้ชอบดริฟท์ ไม่ได้พิเศษอะไรกับรถขับหลัง -> VW เลย
แต่ถ้าคุณชอบความสนุกจากการเข้าโค้ง บาลานซ์แบบมาสด้า MX5 แต่เครื่องแรงกว่า
เกียร์ใจถึงกว่า ..86
ถ้าอยากได้ทุกอย่างเป็น 86 แต่แรงกว่า..รอชุดแต่งเทอร์โบมา
ชัดเจน ตรงประเด็นครับ นี่ล่ะจุดที่แตกต่าง ว่าคุณจะเลือกแบบไหน และ..... ทำให้ผมเลือก 86 ไม่ลง ชอบนะ ให้ขับก็เอา แต่ให้ซื้อ ไม่ซื้ออะถึงมันจะดีมากก็เหอะ ;D ;D ;D
ปล. ตั้งแต่ CRZ มาจน 86 ละ รู้สึกเลยว่า "สปอร์ตญี่ปุ่นมันทำไม่สุดจากโรงงาน ดีเด่นเด้งในบางด้าน ที่เหลือ ต้องมาทำเอา ส่วนยุโรปชอบทำมาแบบ ได้ทุกอย่าง วิ่งทำงาน ดูหรูหรา ยันลงสนาม"
เอ้าไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ผมเดาว่า คุณ แพนชอบ 86 มากกว่า สีหน้าดูพอใจมากเลย เดาถูกไม๊เนี่ย ;D ;D ;D
ขออีกนิดนานๆจะมีรีวิวรถตรงแนว สีดำสวยจัง แต่ยังชอบ FT-86 คันต้นแบบมากกว่าอยู่ดี :P :P :P
-
ขอถามคุณแพน
ว่าเทียบกับ K20A ฝาแดงของ EP3 หรือ DC5 แล้ว ต่างกันมากไหมครับ
เห็นความพยายามในการเอา Boxer มาลง ไม่รู้ว่าได้ Benefit อะไรมาบ้าง
เป็นรถที่เห็นแล้วชอบเลยนะครับ
รถญี่ปุ่นขับหลังน้ำหนักเบา มีม้า 200 ตัว นึกๆไปว่าเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
-
อืมส์ สวยแต่ไม่แรง ถ้ามีรุ่นเพิ่มเทอโบ ไม่ก็ยัดเครื่องใหญ่กว่านี้ถึงจะน่าสนใจครับ ;D
-
หลังจากลองขับแล้วมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี
แม้ภาพรวมจะออกมาถือว่าเหนือกว่าคาด แต่ผมก็ยังติเรื่องอัตราเร่งอยู่ดี
ไม่ต้อง 0-100 หรอก เอามัน 0-20,0-30 เอาเป็นช่วงเร่งแบบเปลี่ยนเลนออก
แล้วกดหนีให้ทันรถคันหลังนี่ล่ะ
ปัญหามันไม่ใช่เกียร์ เกียร์น่ะทดมาดี และพยายามทำงานของมันดีที่สุดแล้ว
ผมไม่เคยเจอเกียร์ออโต้ที่รักหน้าที่เต็มใจกับการงาน มีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อน
ในรถญี่ปุ่นราคาต่ำกว่าสามล้าน ถ้ามันจะมีดีแบบนี้ มันก็เป็น 370Z คันละเท่าไหร่ล่ะนั่น
ปัญหามันอยู่ที่แรงบิดรอบต่ำซึ่งวิ่งยังกะรถพันหกไร้แค็มแปรผันยุค 90 ต่างหาก
กดไปแล้วมาแต่เสียง เข็มไม่กวาดเร็วอย่างใจนึก ต้องรอถึง 4,500 รอบต่อนาที
กว่าที่ความหนืดจะกลายเป็นความเร็วและแรงดึงพร้อมเสียงที่เป็น 4 สูบ NA
ที่เพราะมาก ไม่โหดเหมือน Integra Type R แต่นุ่มลงมาหน่อย น่าขย้ำชะมัด
9.3 วิน่ะมันไปเสียเวลาตอนออกตัว ถ้ารถถีบจาก 1 ไป 4 พันรอบได้เร็วแค่เท่า
Mini Cooper S Turbo เวลา 0-100 ของมันอาจลดลงเหลือ 8.3-8.2 วิก็ได้
รถเกียร์ธรรมดาสร้างอัตราเร่งได้เร็วกว่า เพราะคุณสามารถสปินล้อออก
เลี้ยงรอบให้อยู่เหนือ 4,000 ตอนออกตัวได้ เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบที่มันถนัดตลอด
แรงบิดสูงสุด 205Nm.. ก็มากกว่ารถ 2.0 ลิตรบ้านๆหน่อยนึงและมาถึงที่ 6,500 รอบต่อนาที
จากนั้นลากไปได้แค่ 700 รอบต่อนาที เกียร์ก็เปลี่ยน ต่อให้คุณเล่นเกียร์เองลากรอบให้ตาย
มันก็จะตัดหัวทิ่มที่ 7,400 รอบต่อนาที
มันเป็นรถที่สนุกนะ แน่นอน มันสนุกกว่า Camry Hybrid มากตอนกระทืบคันเร่งลากไปเป็นกิโลๆ
ปลายไหลไป 200 ได้เร็วสมกับแรงม้าที่มีแหละ แต่เวลาก็คือเวลา นาฬิกาก็คือนาฬิกา
นาฬิกากับความสนุก ทดแทนกันไม่ได้ มันคนละเรื่อง
ผมถึงรู้สึกว่าผมชอบเสียงของเครื่องยนต์ ชอบความใจถึงของเกียร์ เกียร์ที่ดีมาก
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ลงเซอร์กิตบ่อยๆอย่างผม ผมต้องการแรงบิดจากเครื่องยนต์บล็อคนี้
มากกว่านี้โดยเฉพาะช่วงก่อน 4,000
- - - - -
ส่วนถ้าไม่นับเรื่องเครื่องยนต์ อย่างอื่นผมถือว่าเข้าตา และใจจริงกลับเริ่มรักมันมากขึ้นด้วยซ้ำ
พวงมาลัยไม่ได้ไวแบบบ้าคลั่ง สักแต่ไวแต่ทำอย่างอื่นไม่เป็น แต่มันไวแบบพอดี สื่ออาการพอเหมาะ
มีน้ำหนักโหลดที่เป็นธรรมชาติ ผมไม่ขอแก้ไขอะไรแม้แต่นิดเดียว
นี่คือพวงมาลัยที่ให้ฟีลดีเทียบเท่ารถยุโรปและปรับมาได้ดีที่สุดเท่าที่ Toyota เคยทำมา
แต่ถ้าคุณมองว่ามันเป็นซูบารุ ก็อาจจะดีกว่าปกตินิดหน่อยตรงที่เวลากระแทกเลี้ยวหนักๆ
พวงมาลัยจะไม่มีแรงกระชากของเพลาขับหน้ามากวน พวงมาลัยจะ "พูดจากับมือคุณชัดเจนกว่า"
ตำแหน่งพวงมาลัย ตำแหน่งเบาะ ตำแหน่งเกียร์ เบรกมือ แผงประตูและทุกอย่าง
ผมไม่ขอแก้ ผมเพิ่งอ่านหนังสือสอนขับรถแข่งของ Ross Bentley มา และปรับตำแหน่งทุกอย่าง
ตามที่หนังสือนั้นสอน วางเท้าตามที่หนังสือนั้นสอน ผมถึงกับงง เห้ย..นี่ทีมวิศวกรกับผม
อ่านหนังสือเล่มเดียวกันหรือเปล่า อะไรมันจะเป๊ะขนาดนั้น
แต่ต้องแยกให้ออกระหว่างความสบาย กับ ความมันส์ ขึ้นรถแบบนี้คุณต้องให้ความมันส์ 70%
ความสบาย 30 % หรืออย่างมากก็ 60/40 และในจุดนี้ล่ะ มันเพอร์เฟ็คท์มาก
ช่วงล่าง ขับแล้วรู้สึกเกือบจะเท่ารถแต่งซิ่ง มีตึงตังให้รู้สึก แต่ความต่างระหว่างรถคันนี้
กับ 320d E90 คือ 320d จะตึงตังในจังหวะยุบแรก แต่ระยะยุบยืดของโช้คจริงๆนั้นยาวนะ
ส่วน 86 มันหนึบเท่ากันไปตลอดและระยะการยืดของช่วงล่างนั้นถือว่าสั้น สั้นแบบรถเซอร์กิต
และแน่นอน เวลาโยนหนักๆ 86 ก็ยวบน้อยกว่า
- - - -
ผมคงไม่วิจารณ์อะไรเรื่องภายในและเรื่องวัสดุ เพราะถ้าคุณสนเรื่องพวกนี้
ก็คงไปเล่น VW ตั้งแต่แรกแล้ว
และถ้าไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนขับรถแข่งจนเคยชิน แค่ได้ลองอัด 86 ไปสักพักตอนกลางคืน
คุณจะเริ่มลืมความไม่เพอร์เฟ็คท์ของดีไซน์และวัสดุบางจุดไปทีละน้อยทีละน้อย
ดังนั้น..ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิม
ถ้าคุณจะโฟกัสไปที่ความแรง ความสนุกของคุณคือแรงดึง คุณชอบความรู้สึกหนักๆแน่นๆ
คุณไม่ได้ชอบดริฟท์ ไม่ได้พิเศษอะไรกับรถขับหลัง -> VW เลย
แต่ถ้าคุณชอบความสนุกจากการเข้าโค้ง บาลานซ์แบบมาสด้า MX5 แต่เครื่องแรงกว่า
เกียร์ใจถึงกว่า ..86
ถ้าอยากได้ทุกอย่างเป็น 86 แต่แรงกว่า..รอชุดแต่งเทอร์โบมา
แล้วถ้าอยากได้ความแรงแบบโฟลค์+ความสวยสปอร์ตแบบ86 แต่งบมีไม่เยอะ คงต้องกลายเป็นจบที่ Fabia RS แล้วจูน MTM อีก 80,000 กว่าบาท เอาน่าจะตรงโจทย์ได้อยู่ใช่มั้ยครับ เพราะหลังๆเจอกะบะซ่าๆเยอะเลย ไม่อยากดมควันมัน
-
1. คันนี้ กับ Scirocco/GTi ผมบอกตรงๆว่าให้เลือกผมก็เลือกไม่ถูกครับ ดีกันคนละด้าน
เครื่องกับราคา ผมชอบ VW แต่บอดี้ภายนอกกับเกียร์ผมชอบ 86 ครับ
2. เทียบกับ DC5 พูดยากครับ DC5 R ไม่มีเกียร์ออโต้ แล้วไอ้เจ้านี่มันเกียร์ออโต้
แต่ต่อให้เป็นเกียร์ธรรมดา DC5 ก็ยังเร็วกว่าครับ ความไวก็พอๆกัน แต่ DC5 นั้น
ผมไม่ได้อัดโค้งเล่น อัดทางตรงบอกอะไรไม่ได้นอกจากเครื่องแรงดีกว่ามาก
3. งบน้อย อยากสวย และแรง เป็นสปอร์ต ลอง MX-5+Turbo ดูไหมครับ
-
สีดำดุ สวยมาก ;D
-
สวยครับ แต่กลัวcivic fd2.0 สวนเอา ;D ;D ;D ล้อเล่นน่า
-
ชอบมากเลยครับ ถ้าราคาลงอีกนิดน่าจะขายดีสุดนะผมว่า
ความฝันวัยรุ่นก็ต้องรถสปอร์ตนี่แหละ
-
รุ่นนี้ผมชอบตรงอัดโค้งได้เร็วกว่าคนอื่น ท่าทางจะสวนS2000ของผมในโค้งเลย แต่จากที่ดู subaru มี BRZ STi มาช่วยเรื่องความแรงที่โดนบ่น. ตัว86ผมไม่รู้
-
รอรีวิวครับ ชอบมาก
-
86 รอใส่ซุป หุหุ
ปล รอคลิปครับ และแอบหวังว่าจะมีรีวิว mt ตามมา
-
1 ใน Super Review ของปีนี้ รออ่านครับ
-
ภาพถ่ายตอนกลางคืนสีดำ สวยมากก :o
ขอบคุณคับ
-
รอ full review เเบบตาเหลือก ฮ่าๆๆๆๆ
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกก!
อยากได้ๆ
-
เป็นรถที่แสดงความสามารถตอนอยู่ในโค้ง ตามแบบฉบับรถส่งเต้าหู้ ตามที่พระเอกขับ ae 86 + impreza gc coupe = GT 86
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ รอ Full รีวิวครับ
คุณแพนครับผมชอบตรงนี้จริงๆครับ สุดยอด
1. คันนี้ กับ Scirocco/GTi ผมบอกตรงๆว่าให้เลือกผมก็เลือกไม่ถูกครับ ดีกันคนละด้าน
เครื่องกับราคา ผมชอบ VW แต่บอดี้ภายนอกกับเกียร์ผมชอบ 86 ครับ
ในความคิดของผมคิดว่าราคาแรงแต่รถไม่แรงสมราคาจะผิดมากใหมครับ 5555 ถ้าเปิดมาแค่ 2.1-2.2 จริงๆ คงจะทำให้ใครหลายๆคนตัดสินใจได้ไม่ยากครับ
ในความเป็นจริงถ้าขับ 86 จะต้องมีคนมาขอเล่นด้วยแน่นอนครับ หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ รูปร่างมันเย้ายวนมากครับ ใครๆก็มอง
ถ้าเทียบกับ GTI มันก็เลือกยากตามที่คุณแพนกล่าวไว้แหละครับ ถ้าต้องการใช้ยาวๆแต่งไปเรื่อยๆ ยังไง 86 ก็ไปได้อีกมาก รวมถึงเวลาที่จะหาคนมาดูแลต่อ
ไม่ปวดหัวแน่นอน ถ้าอัตราเร่ง ความแรง เท่ากับ GTI มันจะเป็นรถที่สมบูณร์มากๆครับ ต่อให้ราคา 2 ปลายก็ตาม ต้องดูกันล่ะครับว่า เครื่องตัวนี้หลังจากนี้จะ
โมได้เท่าใหร่
86 หน้าตาสวนกับความแรง GTI ความแรงสวนกับหน้าตา
สรุป รอโบดีกว่า
-
ขอถามแบบเกรียนนิดๆแต่ถามจริงๆนะ
เจอกระบะดันรางควันไหลใส่ล้อทองปลิ้น บนบูรพาวิถี
ทางตรงจะหนีพ้นมั้ยครับ
พักนี้เจอเยอะ
-
รถในแน่อนาคต ตอนนี้ขับ2zz g7ไปก่อน อิ อิ
-
ขับสนุกก็จบ
-
ความแรงที่สุด... แต่อาจไม่เร็วที่สุด
ความแพงที่สุด...แต่อาจไม่ถูกใจที่สุด
ชีวิตไม่จำเป็นต้องที่สุด..ก็สุขได้
86 ขับสนุก มากๆ รูปร่างหน้าตารถ เปรียบเหมื่อนสาวแรกแย้ม ใสๆ เปรี้ยวเล็กน้อย มีเสน่าชวนมอง
แรงแค่นี้ก็ สะใจแล้ว วันไหนอยากสะใจแบบดิบหน่อยก็ ขับคันนี้ครับ 3ร้อยกว่าม้า แต่ขับไกลแล้วเหนื่อยครับ
-
ในความคิดเห็นผมว่า ถ้าเทียบ 86กับvw
ถ้าจะแต่งให้ 86แรงกว่าคงทำได้อยากต่อให้ลงturboก็ไม่รู้ว่าจะได้กี่ม้าโดยเครื่องไม่ไปก่อน
แต่vw 211 จูนอย่างเดียว ได้ 245-250
แล้วอัตราเร่ง 0-100 ผมมองว่าจำเป็นมาก มันไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะต้องกดมิด 0-100 ตอนออกตัว แต่มันคือหน่วยวัดที่แสดงว่ารถคันนั้นวิ่งมากน้อยเท่าไหร่ ต่างแค่0.5ดูตัวเลขเหมือนไม่เยอะแต่ขับจริงรู้สึกแน่นอนครับ
ซึ่ง 0-100 เป็นช่วงความเร็วที่ใช้ตลอดทุกวันที่ขับ และใช้บ่อยที่สุดผมว่า 80% ของการขับในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้
ไม่เหมือน topspeed แทบไม่เคยใช้เลยด้วยซ้ำไป
-
สีนี้ก็สวยดีครับ
-
อย่างนี้สินะ ที่โตโยต้าจะมีซุปมาให้แต่งเพิ่ม
ขอถามแบบเกรียนนิดๆแต่ถามจริงๆนะ
เจอกระบะดันรางควันไหลใส่ล้อทองปลิ้น บนบูรพาวิถี
ทางตรงจะหนีพ้นมั้ยครับ
พักนี้เจอเยอะ
ถ้าจะสวนกระบะคงเป็นทางโค้งแหละครับที่จะสวนได้ทางตรงกระบะคงนำ
-
ในความคิดเห็นผมว่า ถ้าเทียบ 86กับvw
ถ้าจะแต่งให้ 86แรงกว่าคงทำได้อยากต่อให้ลงturboก็ไม่รู้ว่าจะได้กี่ม้าโดยเครื่องไม่ไปก่อน
แต่vw 211 จูนอย่างเดียว ได้ 245-250
แล้วอัตราเร่ง 0-100 ผมมองว่าจำเป็นมาก มันไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะต้องกดมิด 0-100 ตอนออกตัว แต่มันคือหน่วยวัดที่แสดงว่ารถคันนั้นวิ่งมากน้อยเท่าไหร่ ต่างแค่0.5ดูตัวเลขเหมือนไม่เยอะแต่ขับจริงรู้สึกแน่นอนครับ
ซึ่ง 0-100 เป็นช่วงความเร็วที่ใช้ตลอดทุกวันที่ขับ และใช้บ่อยที่สุดผมว่า 80% ของการขับในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้
ไม่เหมือน topspeed แทบไม่เคยใช้เลยด้วยซ้ำไป
ขับทั่วไปรถไม่ติดมาก ก็ 60-100
ติดในเมืองตลอด ก็ 20-40
โล่งๆ 80-120
ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหน ในเมืองหรือนอกเมือง แล้วการวิ่งในเมือง รถก็ติดวิ่งไหลตามกัน
กด 0-100 ยังไง รถอะไรก็ิวิ่งได้ครับ ดูแท๊กซี่ รถตู้นั่น มันอยู่ที่จังหวะ ไม่ใช่ความแรง รถแรงมากๆลองกด แล้วพุ่งแล้วเป็นไงครับ เหยียบเบรคหนักกันหน้าหงาย
แล้วอยู่นอกเมืองชานเมือง ก็วิ่ง 60+ ถึง100+ อยู่แล้ว นี่ต่างหากที่ใช้จริงและใช้บ่อย ไม่ใช่ 0-100
เป้าหมายของ 86 ก็ทำมาเพื่อ ฟีลลิ่งการขับสนุกอยู่แล้ว ไม่ได้จะทำมาอัดแข่งเวลากับใครซักหน่อย ขับดี ยิ้มได้เวลาขับ นั่นละ Fin
ไม่ใช่การอัดแข่งกันบนถนนอวดว่ากรูแรง อันนั้น........หาคำด่ากันเองแล้วกันครับ
-
จะว่าแรงมันก็แรงอยู่นะครับ แต่มองจากรูปทรงและประเภทรถแล้วเราคาดหวังว่าอยากให้มันแรงกว่านั้น
ผมเคยขับซูปร้าเครื่อง2เจไม่โบของลูกค้า ขับกลับมาจากกทม.ขึ้นบนทางด่วนบูรพาวิถีจนถึงพัทยา
บนทางด่วนก็เจอปอร์เช่จ่อท้าย เข้าเมืองชลก็เจอเซฟิโร่อินเตอร์ใหญ่เบิ้ลใส่
ผมก็ได้แต่โบกมือว่าไม่เล่นด้วย....ทำได้แค่นั้นล่ะ :P
-
ในความคิดเห็นผมว่า ถ้าเทียบ 86กับvw
ถ้าจะแต่งให้ 86แรงกว่าคงทำได้อยากต่อให้ลงturboก็ไม่รู้ว่าจะได้กี่ม้าโดยเครื่องไม่ไปก่อน
แต่vw 211 จูนอย่างเดียว ได้ 245-250
แล้วอัตราเร่ง 0-100 ผมมองว่าจำเป็นมาก มันไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะต้องกดมิด 0-100 ตอนออกตัว แต่มันคือหน่วยวัดที่แสดงว่ารถคันนั้นวิ่งมากน้อยเท่าไหร่ ต่างแค่0.5ดูตัวเลขเหมือนไม่เยอะแต่ขับจริงรู้สึกแน่นอนครับ
ซึ่ง 0-100 เป็นช่วงความเร็วที่ใช้ตลอดทุกวันที่ขับ และใช้บ่อยที่สุดผมว่า 80% ของการขับในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้
ไม่เหมือน topspeed แทบไม่เคยใช้เลยด้วยซ้ำไป
เห็นด้วยมากๆครับเรื่อง 0-100 :)
-
ถนนหลวงไม่ใช่สนามเเข่ง ขอรถขับสนุกก็พอเพียง จะไปบี้ใครทำไมกัน
จริงป่าวครับ
-
ขอถามแบบเกรียนนิดๆแต่ถามจริงๆนะ
เจอกระบะดันรางควันไหลใส่ล้อทองปลิ้น บนบูรพาวิถี
ทางตรงจะหนีพ้นมั้ยครับ
พักนี้เจอเยอะ
เจอใส่ล้อทองปลิ้นๆ สวน ยังไม่เจ็บใจครับ
เจอล้อกะทะ คอกสูง 3 เมตร ตูดโด่งๆ สวนหาย เจ็บหนักกว่าอีกครับ
-
รอดูอยู่ครับ
-
แค่ราคาก็โดนแล้ววววครับ
:)
-
ขอถามแบบเกรียนนิดๆแต่ถามจริงๆนะ
เจอกระบะดันรางควันไหลใส่ล้อทองปลิ้น บนบูรพาวิถี
ทางตรงจะหนีพ้นมั้ยครับ
พักนี้เจอเยอะ
เจอใส่ล้อทองปลิ้นๆ สวน ยังไม่เจ็บใจครับ
เจอล้อกะทะ คอกสูง 3 เมตร ตูดโด่งๆ สวนหาย เจ็บหนักกว่าอีกครับ
เพิ่งเจอ วีโก้Cng. สามมิตร หน้าทิ่มท้ายโด่ง ตะบี้ตะบันมุดหายไปแถวเส้นเลี่ยงเมืองชล
พวกล้อทองยังไม่ขนาดนี้เพราะเปลืองนำ้มัน แต่พวกใช้น้ำมันเถ้าแก่นี่ขับได้ล้างผลาญมาก
-
ชอบลงแทร็ก บ้าแต่งรถ มันเวลาเลี้ยว 86
ไม่ลงแทร็ก อย่างมากทำแค่กล่องท่อกรอง สนุกเวลาเร่งแซง rocco
ไม่ลงแทร็ก สำอาง ใส่หัวเข็มขัดH ถอยรถไม่เก่ง C Coupe
-
1. คันนี้ กับ Scirocco/GTi ผมบอกตรงๆว่าให้เลือกผมก็เลือกไม่ถูกครับ ดีกันคนละด้าน
เครื่องกับราคา ผมชอบ VW แต่บอดี้ภายนอกกับเกียร์ผมชอบ 86 ครับ
2. เทียบกับ DC5 พูดยากครับ DC5 R ไม่มีเกียร์ออโต้ แล้วไอ้เจ้านี่มันเกียร์ออโต้
แต่ต่อให้เป็นเกียร์ธรรมดา DC5 ก็ยังเร็วกว่าครับ ความไวก็พอๆกัน แต่ DC5 นั้น
ผมไม่ได้อัดโค้งเล่น อัดทางตรงบอกอะไรไม่ได้นอกจากเครื่องแรงดีกว่ามาก
3. งบน้อย อยากสวย และแรง เป็นสปอร์ต ลอง MX-5+Turbo ดูไหมครับ
เกียร์ดีกว่า DSG ของ Scirocco/ Golf อีกหรอครับ
ในส่วนของเกียร์มันแต่งต่างกันยังไงบ้างหรอครับ
-
ผมว่าหน้าตา 86 มองไกลเหมือน Celica Gt4 นะ เฉยๆครับ
แต่ Rocco มองไกลๆ เหมือน civic 3 door นู้นเลยอ่ะ
ราคาพอๆกัน แต่ระยะยาว 86 กินครับ
ไม่รู้สิ ผมชอบทรง GTI มากกว่า อัตราเร่ง 60-120 สำคัญมากสำหรับคนทั่วไป แต่ผมไม่ชอบเร่งเยอะ เน้นขับเร็ว 120 แต่ไม่แตะเบรกเอาครับ ประหยัดน้ำมันกว่าเยอะ ตอนนี้ก็ไม่ขับหมดไมล์ ตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ รถมันเยอะ ไม่เน้น top speed ไม่ได้ใช้
-
เครื่องเบนซิน 2.0 NA เกียร์ออโต้ วิ่งได้ขนาดนี้ถือว่าดีเยี่ยมแล้วครับ ;)
การจะเทียบอัตราเร่งของรถยนตร์รุ่นนั้นๆ ต้องให้อยู่ในพิกัดเดียวกันหรือใกล้ๆเคียงกันมากที่สุดครับ
และที่สำคัญคืออย่าเอาราคามาเกี่ยวข้อง เพราะจะทำให้หลงประเด็นครับ
อยากจะบอกว่าถ้านำรถ Sport มาเทียบกับรถบ้าน (เดิมๆ) ในพิกัดเดียวกัน ในสภาวะการใช้งานทั่วไป
รถ Sport ได้เปรียบกว่ารถบ้าน ที่อัตราเร่งแซงและระยะเบรคที่สั้นลง(อาจได้เปรียบไม่มากด้วย) แค่นั้นเองครับ
แต่มันจะเห็นผลเพิ่มมากขึ้น ต่อเมื่อสภาพถนนเริ่มไม่เอื้ออำนวย เช่น ฝนตก,ฝนตกหนัก,ฝนตกหนักมาก,เส้นทางคดเคี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
รถจะแสดงประสิทธิ์ภาพของมันออกมาเอง และเมื่อได้คนที่มีทักษะมาควบคุมรถนั้นๆ จะทำให้ดึงความสามารถของรถออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่
ยกตัวอย่างนะครับ นำรถ 2 คันมา Battle กัน
คันที่ 1 รถ Sport FT 86 เกียร์ออโต้ ผู้ขับคือ พี่จิมมี่ อายุ ? น้ำหนัก ? ทักษะ ? (ขออนุญาตินะครับพี่จิมมี่)
คันที่ 2 รถบ้านๆ civic FB 2.0 เกียร์ออโต้ ผู้ขับคือ น้องๆแถวบ้าน อายุ 18 น้ำหนัก 55 กก. ทักษะ พึ่งได้ใบขับขี่มาหมาดๆ
Battle แรก เส้นทาง กรุงเทพ - พัทยา (มอเตอร์เวย์)
น้ำมันเชื้อเพลิงเติมยี่ห้อเหมือนกัน เต็มถัง ปล่อยตัวพร้อมกัน คุณคิดว่าผลออกมาแบบไหนครับ
Battle สอง เส้นทาง เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน
น้ำมันเชื้อเพลิงเติมยี่ห้อเหมือนกัน เต็มถัง ปล่อยตัวพร้อมกัน คุณคิดว่าผลออกมาแบบไหนครับ
ข้อมูลต่างๆล้วนมีความสำคัญครับ มันจะปรากฎผลลัพท์ ออกมาเอง ;)
-
เป็นรถที่น่าจับตา แต่มันแรงน้อยไปหน่อย
หรือ TOP SPEED มันก็น้อยไปอีก
แต่การที่เป็นรถที่ขับสนุก เป็นทุน
การโมดิฟายต่อยอด คงได้รถที่ขับมันส์
สมกับเป็น 86 ที่รอคอย..
-
ไปดูมาแล้ว สวยสมคำร่ำรือจริงๆ